ความคิดเห็นที่ 1 ทั้งแฟชั่น  และความทรงจำ  อยู่รวมกันได้ครับ ไม่จำเป็นต้องแบ่งแยก แต่บัณฑิต  และช่างภาพ  ก็ควรแยกแยะ  ระหว่างสิ่งที่ควร  และไม่ควรด้วย จากคุณ : แฉลบยอดหญ้า เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 18:38:39

ความคิดเห็นที่ 2 สมัยผม(ราชภัฎ)ที่ชุดครุยปักเข็มตราสัญลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อาจารย์ประกาศว่าให้นักศึกษาที่เอามงกุฏดอกไม้ที่ใส่อยู่ออกด้วยเพราะไม่เหมาะ นั่นแค่มงกุฏดอกไม้นะครับ แต่เดี๋ยวนี้ถึงขั้นที่ จขกท. บอก ผมว่ามันเกินไป แค่ผมเห็นใส่ชุดครุยกระโดดผมก็หดหู่แล้วครับ ระเบียบ วินัย ความขลัง หายไปไหนหมด จากคุณ : mama_shinbi เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 19:25:54

ความคิดเห็นที่ 3 เราก็คิดเหมือน จขกท.ค่ะ แบบไม่ต้องถึงขั้นชุดครุยนะคะ เคยเห็นในห้องนี้แหละ ที่ให้น้องนักศึกษาถ่ายแบบแนวเซ็กซี่ เปิดช่วงหน้าท้องให้เห็นรอยสัก (ทั้งๆ ที่เห็นกระดุมสถาบันอยู่ด้วย) ให้นางแบบชุดนักศึกษาถือชุดชั้นใน ไม่เข้าใจว่าต้องการสื่ออะไร แต่ภาพที่ออกมามันไม่ได้ดูเซ็กซี่เลยค่ะ ช่างภาพควรให้เกียรติทั้งตัวน้อง และสถาบันด้วย หากเราไม่ช่วยกันดูแล สังคมจะดีได้อย่างไร จากคุณ : A little dark girl เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 19:30:45

ความคิดเห็นที่ 4 ไปเจอมาเซทนึง นศแถวบางนาถ่ายที่สถาบันตัวเองพร้อมกับปีนไปยืนถ่ายรุปกับรูปปั้นพระสันตปาปา พูดไม่ออก --' จขกท ก็คิดว่ามันไม่ค่อยเหมาะสมสักเท่าไหร่ถ้ายังใส่ชุดครุยหรือชุดนศแบบนั้นอยู่ แต่ก็ไม่รู้จะพูดจะเตือนยังไง ของแบบนี้คงอยู่ที่จิตสำนึกอ่ะมั้ง เพิ่มข้อความ แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 53 19:43:48 จากคุณ : ผุ๋งผิ๋ง เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 19:36:36

ความคิดเห็นที่ 5 เราก็หลังไมค์ไปเตือนเขานะคะ แล้วเขาก็ยินดีรับฟังอย่างดี แสดงว่ายังมีจิตสำนึกที่ดีอยู่ แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 53 19:39:07 จากคุณ : A little dark girl เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 19:37:53

ความคิดเห็นที่ 6 ผมก็เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้เลยครับ   ประเภทถ่ายรูปรับปริญญาแบบขัดใจแม่หรือญาติผู้ใหญ่นี่  จะเล่นถ่ายรูปอะไรก็เอาแต่พอหอมปากหอมคอกันนะครับ ต้องไม่ลืมเรื่องกาละเทศะด้วย ชุดรับปริญญาเป็นชุดที่มีเกียร์ติเป็นอย่างยิ่ง  สมควรไหมไปนอนถ่ายรูปบนถนนบ้าง ทำท่ากระโดดถีบกันบ้าง ยิ่งทำท่าเซ็กซี่นี่ยิ่งไปกันใหญ่เลยไม่เข้าท่าจริงๆ   เพื่อนผมคนนึงมันถ่ายรูปอาร์ตมากๆชนิดอาร์ตตัวพ่อเลย รูปต้องไม่ธรรมดา รูปออกมาตัวบัญฑิตไม่มีปัญหา แต่โดนพ่อบัญฑิตเรียกไปด่าเลยล่ะครับว่าถ่ายรูปบ้อบออะไรแบบนี้  แล้วนี่ชั้นจะเอารูปดีๆที่ไหนไปอัดขยายได้บ้างล่ะนี่  เคสนี้เลยเป็นเคสอุทรหรณ์สอนใจในกลุ่มตากล้องของผมได้เป็นอย่างดีเลยว่า เล่นได้แต่พองาม เอาพอเป็นน้ำจิ้ม ไม่ใช้ถ่ายแบบนี้มาทั้งอัลบั้ม อย่าลืมว่าไม่ใช้บัญฑิตดูรูปคนเดียวนะ พ่อแม่ญาติผู้ใหญ่เค้าก็ดูด้วยครับ......... จากคุณ : ตากล้องหนุ่ม เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 19:47:13

ความคิดเห็นที่ 7 คนไม่มีความคิด ก้อแสดงออกอย่างไม่มีความคิดนั่นละครับ  เรื่องธรรมดา จากคุณ : ARMS STRONG เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 19:55:14

ความคิดเห็นที่ 8 แค่ยืนถ่ายตรงๆ ถือใบปริญญาบัตรกับผู้ปกครอง ผมว่าเป็นอะไรดูดีที่สุดแล้วล่ะครับ จากคุณ : nuimg เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 20:06:10

ความคิดเห็นที่ 9   อย่างน้อยควรเคารพ ให้เกียรติกับชุดที่สวมใส่หรือเหมาะสมกับคำว่าบัณฑิตที่ได้รับบ้างก็ดีนะคะ คิดว่าเป็นความทรงจำที่น่าประทับใจ และจะน่าประทับใจยิ่งขึ้นหากผู้สวมใส่รู้จักกาลเทศะ ยุคสมัยเปลี่ยนไปก็จริง ... แต่คนไทยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนไปซะทุกอย่างนี่นา บางทีเห็นพฤติกรรมเด็กๆ วัยรุ่น (เรายังไม่ 30 นะ) ... รู้สึกหดหู่ชะมัดเลย .. เหมือนคนไม่มีความคิดอ่ะ หรือเราจะหัวโบราณ!! ... มันเป็นเพราะอะไรกัน บุคคลที่สามารถใช้คำว่าบัณฑิต แยกแยะไม่ออกเชียวหรือ กับคำว่า.. กล้าแสดงออก กับสิ่งที่ควรทำให้เหมาะสมกับกาลเทศะ .. อนาถจิตปีที่แล้วทรงผมทรงโมฮ็อก ใช่ไรคิดเนี่ย!! ประเทศชาติ จากคุณ : ผ้าใบเปื้อนฝุ่น เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 20:51:27 A:118.172.226.76 X: TicketID:154227

ความคิดเห็นที่ 10   ผมคิดว่า ท่ากระโดดยอดนิยม เพื่อแสดงความดีใจในความสำเร็จ หากท่าทางสะท้อนความยินดี ก็น่ารักดี เอาไว้ดูกันเอง ในกลุ่มเพื่อนๆ  และครอบครัว ที่มีความสุขกันถ้วนหน้า แต่หากถ้าทางกระโดดนั้น มันผาดโผนเกินเลย จนทำให้บัณฑิตอื่นๆ รู้สึกเป็นการดูหมิ่นสถาบันและครุยของเขาด้วย ก็ต้องรู้จักกาละเทศะกันบ้าง มุกขี้เล่น มุกตลก เล็ก ๆ น้อย ๆ เอาไว้ดูให้มันชื่นมื่นหัวใจกันเฉพาะกลุ่ม คงไม่เป็นไร แต่ตอนที่ถ่ายอยู่ ในที่สาธารณะ ควรให้พอเหมาะพอควร เรื่องปีนป่ายต่าง ๆ ควรงดเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นรูปปั้น ต้นไม้ หรืออื่นๆ อย่าลืมว่า ในวันแห่งความสำเร็จนี้ นอกจากจะสะท้อนึถงความสุข ความสมหวังแล้ว ยังเป็นวันที่สะท้อนถึงวุฒิภาวะ และศักดิ์ศรี เช่นกัน จากคุณ : Blowfish เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 21:20:05

ความคิดเห็นที่ 11 ทั้งหมดอยู่ที่ความพอเหมาะ พอควร รู้จักกาละเทศะครับ ทั้งแฟชั่น หรือ ความทรงจำในชุดรับปริญญาผมว่าไปกันได้ครับ จากคุณ : ริมธารา เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 22:04:52

ความคิดเห็นที่ 12 เดี๋ยวนี้ ค่ากดชัตเตอร์มันถูกมากๆๆๆๆๆ แต่ก่อน แช๊ะละ 5 บาทเป็นอย่างต่ำ กดปุ๊บ เสียเงินปั๊บ จะถ่ายรูปอะไร ก็ต้องระมัดระวัง รูปกระโดด หรือ ท่าพิสดาร ทำไม่ได้หรอก เพราะนอกจากจะไม่สมควรแล้ว มันยังเช็คภาพหลังกล้องไม่ได้ .. ภาพอาจออกมาเละ หัวขาดหางกุด หรือ เบลอไปเลย ยิ่งกว่านั้น .. ถ่ายฟิล์ม 10 ม้วน ได้ 360 รูป เท่านั้น ทำให้มันเล่นท่าพิสดารมากไม่ได้ แต่พอมาสมัยนี้ .. mem 8 GB ถ่ายได้ไม่น้อยกว่า 1,000 รูป เอาแบบเป็นพิธีรีตรองซัก 20% ก็ไม่น้อยกว่า 200 รูปแล้ว ที่เหลือ 800 รูป มันจึงถ่ายแบบยิงทิ้งยิงขว้าง เฮฮาไร้สาระ หรือ ไม่สมควร โดยไม่มีปัญหากับรูปที่จะไว้"แสดงให้ชาวบ้านดู" ------------------------------------ และถ้าจะว่าไป ... เรื่องของเรื่อง ก็จะไม่เป็นปัญหาหรอก ถ้าหากบัณฑิต มีสมองของบัณฑิตอยู่ระหว่างหูสองข้าง ถ้าหากตากล้อง มีสมองของตากล้องอยู่ระหว่างหูสองข้าง เอารูปที่สมควรเท่านั้น ขึ้นแสดงต่อสาธารณชน รูปที่เกินเลย ออฟไซด์ เอาไว้ดูกันเล่นๆระหว่างเพื่อนฝูง แต่นี่ .. ไม่ใช่ เรื่องมันเลยเป็นเรื่อง จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 22:07:48

ความคิดเห็นที่ 13 ผมถือว่า "ชุดครุยคือชุดที่ได้รับพระราชทานเพื่อใส่เข้าเฝ้า" ครับ จากคุณ : NungS เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 22:48:36

ความคิดเห็นที่ 14 จิตสำนึก+สามัญสำนึก จากคุณ : raksapondet เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 23:03:58

ความคิดเห็นที่ 15 มาถึงห้องนี้เลยนะครับพี่สาว จากคุณ : ทาสเทคโนโลยี เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 23:21:28

ความคิดเห็นที่ 16 พูดตรงๆ อยากให้ตากล้อง และบัณฑิต ดูภาพรับปริญญา ที่น้าอาร์ตถ่าย ไม่เห็นต้องกระโดด ไม่เห็นต้องทำลิงทำค่าง ทำตัวเป็นแย้โดนน้ำร้อนราด ยืนนิ่งๆ แต่จัดท่าทาง จัดหน้าตาฯลฯ ให้เท่ห์ ให้ดูดี มีสง่า มีราศรี สมกับเป็น "คนมีความรู้ (บัณฑิต)" ที่ "แท้จริง" ... ไม่ใช่ตลกคาเฟ่ ที่ถูกจ้างค่าแรงถูกๆ ให้มาฉีกแขน ถ่างขา ... รูปก็ออกมาดูสวย ดูดี น่าเก็บ น่าเอามาดูใหม่ น่าแจกจ่ายให้คนรู้จัก น่าเผยแพร่ให้สังคมรู้ ว่าฉันเรียนจบแล้วนะ มีความรู้ มีหลักประกันความรู้ มีสติสัมปชัญญะ เชื่อถือได้ ... เฮ้อ กลายเป็นคนแก่ขี้บ่นเลยเรา จขกท.ไม่น่าตั้งกระทู้แบบนี้ ให้ผมไฟธาตุแตกเลย จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 23:23:14

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณที่มาแชร์ความคิดเห็นกันค่ะ จขกท ยังมาอ่านเรื่อยๆนะคะ จากคุณ : ผุ๋งผิ๋ง เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 23:27:36

ความคิดเห็นที่ 18 เห็นด้วยกับน้ารักษ์อย่างยิ่งครับ จิตสำนึก+สามัญสำนึกของบัณฑิต เครื่องแบบสถาบัน ครุยเพื่อรับพระราชทานปริญญาบัตร บัณฑิต คืออะไร น่าลองหาให้เจอก่อนเลย จากคุณ : gs33dv เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 23:29:57

ความคิดเห็นที่ 19 ฮ่าๆๆๆ ใจเย็นครับน้าแมวฯ เดือนหน้าที่จะถึงนี้ผมมีคิวถ่ายรับปริญญาพอดีจะเอาไปปรับใช้นะครับ นี่ถือว่า เป็นการถ่ายรูปรับปริญญางานแรก ครั้งแรกเลย ดีครับที่ออกมาเตือน ทีแรกผมนึกอยู่ว่าจะจัดท่านางแบบอย่างไร พออ่านความเห็นน้าแมวฯแล้วนึกได้เลยครับ จากคุณ : pix_maker เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 53 23:41:07

ความคิดเห็นที่ 20 น้า pix_maker อย่าบอกนะว่า 4-5 ก ค นี้ ฮ่าๆ ครั้งแรกเหมือนผมเลย จะพยามเอาที่น้าแมวบอกไปประกอบการถ่ายรูปครับ  ปล . รูปน้าอาร์ตเป็นแรงบันดาลใจได้ดีจริงๆ จากคุณ : priwhan เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 00:04:34

ความคิดเห็นที่ 21 เห็นด้วยกับน้าแมวครับ ผมว่าชุดครุยเป็นชุดศักดิ์สิทธิ์สำหรับทุกสถาบัน ควรจะสำรวมครับ เปรียบเหมือนกับจีวรพระ ถึงแม้จะไม่สำรวมมากเท่าก็ตาม แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 53 00:30:29 จากคุณ : Photo by ObEy เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 00:28:40

ความคิดเห็นที่ 22 ช่างภาพหลายคน คงติดแนวการถ่ายมาจากตอนออกทริปถ่ายสาวๆ นะครับ พอมาถ่ายรูปรับปริญญา เลยออกแนวแฟชั่นไปบ้าง คาดว่าพวกเค้าคงไม่ได้ทันคิดแบบ จขกท ละมั้งครับ ยังไงก็ขอบคุณที่ช่วยเตือนสติครับ จากคุณ : วิญญาณไม่ขายใคร เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 00:33:17

ความคิดเห็นที่ 23   ขออนุญาต ดูเป็นข้อๆเลยนะครับ ตามความคิดเห็นส่วนตัวของผม ตามที่เจ้าของกระทู้เป็นกังวลและบอกว่าไม่เหมาะสม มันสมควรไหม เช่น ใส่ชุดครุยใส่แว่นดำ . . . ใส่แว่นดำกับชุดครุยมันไม่สมควรตรงไหนหรือครับ ผมนึกไม่ออกจริงๆ แว่นดำมันขัดกับความเรียบร้อยตรงไหน แว่นดำมันเสื่อมเสียตรงไหน ช่วยบอกหน่อย ถือปืน(บีบี) เพื่อนใส่ชุดครุยทำเป็นนอนตาย . . . อันนี้ผมเห็นด้วยว่าไม่ควรครับ ใส่ชุดครุยใส่หน้า . . . เห็นด้วยว่าไม่ควรเหมือนกัน ทำท่า ไอ้มดแดง มดเอ๊กซ์ . . . ไม่เห็นเป็นไรเลย ดูสดใส น่ารักดีออก คนกำลังยินดี ก็ต้องทำท่าอะไรที่มันสนุกๆสิ ทำท่าทำทางออกแนวเซกซี่แบบว่าชุดนศ ข้างในสั้นมาก นั่งไขว่ห้างถ่ายพร้อมชุดครุยเห็นขาอ่อน --' . . . อันนี้เห็นด้วยว่าทุเรศมาก จากคุณ : Newspaper of Tomorrow เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 00:36:52

ความคิดเห็นที่ 24 เห็นด้วยทุกประการค่ะ  จริงๆในห้องกล้องเคยมีกระทู้แนะนำเรื่องมารยาทในวันรับปริญญามาแล้วนะคะ แต่หาลิ้งไม่เจอค่ะ  ไม่งั้นจะเอามาลงอีกซักที  เผื่อได้ช่วยชี้ทางให้กับผู้อื่นได้บ้าง บางทีเห็นแค่รูปกระโดด  ปีนป่ายนู่นนี่  หนูเองก็รู้สึกแย้งๆในใจแล้วค่ะ  มันสมควรแล้วเหรอ? แต่ก็อย่างว่าอ่ะค่ะ ร้อยพ่อพันแม่ต่างจิตต่างใจห้ามกันไม่ได้ คงต้องปล่อยให้สามัญสำนึก เตือนสติกันเอง ชุดครุยเป็นชุดที่ศักดิ์สิทธิ์นะคะ  สำหรับหนูก็คือ ชุดที่ใส่เข้าเฝ้าต่อหน้าพระพักตร์ และที่สำคัญ ชุดนี้ศักดิ์สิทธิ์ในความรู้สึกของหนูมากกกก ไม่ใช่ว่าใครจะใส่ก็ได้  แต่คุณต้องผ่านอะไรมาบ้าง ตั้งแต่เด็ก จนจบปริญญาตรี  กว่าคุณจะได้ใส่ชุดนี้แบบเต็มภาคภูมิ จริงๆอยากให้กระทู้นี้เป็นสื่อไปถึงทุกๆคนเลยค่ะ  ขอโหวตๆๆๆๆๆค่ะ ของหนูเองจะได้รับปีหน้า  ยังเคยบอกกับตัวเองทุกครั้งเวลาเห็นรูปคนอื่นปีนป่ายแหวกแข้งแหวกขา หรือกระโดด  ว่าจะไม่มีรูปตัวเองทำท่าทางแบบนี้ในชุดครุยแน่ๆ สัญญาด้วยเกียรติของว่าที่บัณฑิตเลยค่ะ  ^__^ จากคุณ : ชาหวาน_กะ_โซดาเย็น เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 00:56:17

ความคิดเห็นที่ 25 ผมเองก็ไม่ถ่ายหวือหวา และไม่ชอบให้นักศึกษาที่จบมาทำท่าทางแปลกๆหรือสวมมงกุฎดอกไม้เหมือนกัน (แต่บางทีก็ห้ามไม่ได้ เค้าจะสวม หรือผู้ปกครองซื้อมาและให้สวมน่ะ) ก็ไม่รู้จะบอกแบบไหนเหมือนกัน...แต่ของราชภัฎเจ๋งดี วันซ้อมรับปริญญาเค้าประกาศเสียงตามสายบ่อยๆเลยว่า พวกช่อดอกไม้ไม่ให้นำมาสวมหัว เพราะชุดครุยมีศักดิ์และสิทธิ์พออยู่แล้ว ไม่ต้องนำเครื่องประดับหรือดอกไม้อะไรมาแต่งเติมอีก...ชอบใจที่สุด วันก่อนไปถ่ายงานรับปริญญาก็ยังเจอท่ายอดนิยมในยุคนึง คือบัณฑิตกลุ่มนึงหยิบเอากรวยกั้นถนนสีส้มๆ ยกมาทำท่าเป่า ทำท่าตะโกนเป่าใส่หูอีกคนบ้าง ก็เลยบ่นกับเพื่อนที่มาด้วยทำนอง ดูมันทำ มีเวลาตั้งสี่ปี เสื้อผ้าที่ใส่มีออกเยอะ แต่วันใส่ชุดครุยดันเอาที่กั้นถนนมาทำท่าเป่าเล่นซะงั้น...วันอื่นมีเวลาก็ไม่ทำ....ก็ได้แต่บ่นกันไป จากคุณ : 13 ลัคกี้นัมเบอร์ เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 01:00:14

ความคิดเห็นที่ 26 อ๊า.. น้าเหมียวพาดพิงน้องแย้ขวัญใจผมได้ไง น้องเค้าน่ารักออกน่ะ ถ้าแย้โดนน้ำร้อนลวก สงสัยหนุ่มห้องกล้องรีบหายาไปทาให้กันเพียบ จากคุณ : Piggie MM เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 03:10:53

ความคิดเห็นที่ 27 ใจจริงผมอยากจะถ่ายแบบที่คุณแมวเหมียวพูดไว้เลยครับ แต่ผมก็คงขัดใจลูกค้าไม่ได้ครับ ยกเว้นแต่จะเห็นอันไหนไม่สมควรจริงๆ ส่วนเรื่องท่ากระโดดดีใจ ผมไม่คิดว่ามันไม่สมควรตรงไหน (ถ้าเป็นผมก็คงไม่กระโดด อย่างมากก็ยกมือเฮ ^ ^) ยังไงเรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ทัศนคติของคนด้วยครับ เค้าอาจจะไม่มีกาลเทศะในเรื่องนี้แต่ก็ไม่ใช่ว่าเค้าจะไม่มีสมอง ช่างภาพ ถ้าเป็นคนชี้นำเองนี่สมควรต่อว่ามากๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเค้าไม่มีสมองอยู่ดี จากคุณ : Iamgrey เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 04:23:43

ความคิดเห็นที่ 28 ยอมรับว่า้ใช้คำพูดแรง แต่ ชุดครุย ของประเทศเรา ไม่เหมือนของต่างประเทศอย่าง ของ ตปท. เขาเป็นแค่ชุดที่ใส่เพื่อพิธีการ ของประเทศเรา เป็นชุดที่ใส่ เพื่อเข้าเฝ้าในหลวง และรับพระราชทานใบประกาศ รับรองความรู้ สมัยโบราณจริงๆ .. สมัยที่ราชประเพณี ยังเป็นราชประเพณี .. ยังเป็นการเข้าเฝ้าในหลวง ชุดพวกนี้ เขาต้องใส่พาน และมีคนถือตาม ไม่มีการใส่เดินไปเดินมาด้วยซ้ำ ใส่เมื่อเข้าเฝ้า กลับออกจากการเข้าเฝ้า ก็ถอดออก พับเก็บเรียบร้อย ก่อนอัญเชิญขึ้นพาน แต่มาสมัยนี้ ประเพณีอะไรๆมันถูกดูแคลนว่า ล้าสมัย โบราณ เชย ฯลฯ แม้กระทั่ง ราชประเพณี แถมชุดก็'เช่ามา' ไม่ได้มีเป็นของตัวเอง เรื่องมันเลยเป็นเรื่องอย่างนี้แล ถ้าเปลี่ยนจากการรับพระราชทานปริญญา เป็นการบวช แล้วนึกถึงว่า คนที่โกนหัวแล้ว ใส่ชุดขาวแล้ว กระโดดโลดเต้นเต็มเหวี่ยง เพื่อแสดงความดีอกดีใจ หรือลงไปกลิ้งกับพื้นทั้งชุดขาว เพื่อเก็บภาพประทับใจ แหม .. มันดูไม่จืดจริงๆ ก็บ่นไป ตามประสาคนเริ่มมีอายุ ที่เคยเจอประเพณี และวัฒนธรรมเก่าๆ ที่ทรงคุณค่าน่าจดจำครับ ... เจ็บใจบราซิลด้วย มันล่อซะ 3-0 ไม่ยอมพลิกล็อคซักนิด! จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 06:44:35

ความคิดเห็นที่ 29 เข้ามาอ่านและจะนำไปคิดครับ จากคุณ : Enemyangel เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 06:59:03

ความคิดเห็นที่ 30 ....ถ้าจะถ่ายแบบที่ว่า ก็น่าจะถอดชุดครุยออก. จากคุณ : dih (dih2552) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 07:39:47

ความคิดเห็นที่ 31 คห 23   จขกทไม่ได้บอกว่าใส่แว่นดำแล้วจะบ่งบอกถึงความเสื่อมเสียนะคะ แต่จขกท รู้สึกว่าไม่เหมาะสมเอามาใช้ในงานรับปริญญามากกว่า งดใส่แว่นดำวันนึงก็ไม่น่าจะเสียหายอะไรนี่นา ไม่เก๋ ไม่อินเทรนสักวัน ให้ความเคารพ ให้เกียรติกับตัวเองกับชุดสถาบันที่สวมใส่ มันดูน่ารักเรียบร้อยกว่าเป็นไหนๆ อย่างรูปนี้ ที่จขกทเอามาจากในกูเกิ้ล น้องเค้ายิ้มน่ารักๆแบบนี้ แล้วลองคิดภาพอีกภาพที่มีแว่นดำอยู่ด้วย จขกท ว่าความน่ารักใสๆหายไปเลยล่ะ เห็นแบบนี้ดูชื่นใจ แล้วก็เห็นแววตา ความรู้สึกมันต่างกันเยอะนะ ที่ผ่านตามาบางเซท มีใส่แว่นเกือบทั้งเซท แว่นดำบ้าง แว่นกรอบสีบ้างสลับกันไป เหมือนขายแว่นตาแฟชั่น จขกท เลยรู้สึกว่ามันดูแล้วแปลกๆยังไงไม่รู้ เปลี่้ยนชุดใส่ไปรเวทมาถ่ายเป็นแฟชั่นทั้งเซทยังดูน่ารักกว่าอีก ส่วนจะหลุดมา 3-4 ภาพ จขกท เฉยๆนะคะไม่ได้แอนตี้อะไร เพราะเข้าใจว่าแดดมันร้อน จขกท รับได้ ฮ่าๆๆ เรื่องกระโดดถ่ายรูปด้วยความยินดี โยนหมวก โยนมงกุฏดอกไม้ จขกทก็ว่าน่ารักดีค่ะ แต่ที่เห็นหลายๆงาน กระโดดทำท่าปล่อยพลังแสง หรือทำท่ากระโดดเป็นรูปตัวอักษร L o v e อะไรประมาณนี้ ==' ปล จขกท เข้าใจช่างภาพหลายๆคนที่ขัดใจลูกค้าไม่ได้นะคะ แต่ก็มีช่างภาพบางคนเอาพร๊อบไปใหลูกค้าเล่นเองด้วย --' เพิ่มข้อความ ปรับข้อความให้ซอฟลงค่ะ แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 53 08:05:41 จากคุณ : ผุ๋งผิ๋ง เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 07:48:31

ความคิดเห็นที่ 32 ส่วนใหญ่ ผมจะรับงานของมหาวิทยาลัยของเอกชนซะมากกว่า เลยไม่ได้คำนึงถึงเรื่องพวกนี้เท่าใดนัก ยอมรับว่าผิดพลาดและจะนำไปปรับปรุงครับ แต่รูปที่ผมต้องมีแน่ๆ คือการที่ให้บัณฑิต ไปกอดหรือหอมแก้มพ่อกับแม่ ไม่ว่าถ่ายครั้งไหน ผมต้องมีทุกครั้งครับ จากคุณ : ALTuS เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 07:50:36

ความคิดเห็นที่ 33   เห็นด้วยกับ จขกท และทุกๆ ท่านค่ะ สมัยเรารับปริญญา ดอกไม้บนศีรษะ อจารย์ก็ห้ามสวมใส่ค่ะ ดอกไม้กลัดหน้าอก ก็ห้าม เพราะมิใช่เครื่องแบบที่จะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร สมัยนี้เลยเถิดไปหน่อย ไม่มีใครสะกิดเตือนน้องๆ ด้วยกระมังคะ ขอให้กระทู้นี้เป็นสิ่งที่จะกระตุ้นเตือนน้องๆ รุ่นใหม่ทุกท่านค่ะ จากคุณ : winky2 เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 08:01:00

ความคิดเห็นที่ 34 เอาให้เหมาะสมละกัน จากคุณ : ect1 เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 08:08:15

ความคิดเห็นที่ 35 เหมาะสมอยู่ตรงไหน เรียนจนจบเป็นบัณฑิต น่าจะมีความคิด คิดได้แล้วนะครับ จากคุณ : หมากลมกลม เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 08:24:06

ความคิดเห็นที่ 36 ผมเคยไปถ่ายงานรับปริญญาสองครั้ง ผมพวกอนุรักษณ์นิยมครับ ถ่ายตามแบบฉบับๆ เป๊ะๆ ไม่มีอะไรพิศดาล รูปออกมา ปู่ย่า ตายาย พ่อแม่พี่ป้านาอาลุง ดูแล้วสบายตาครับ ฮาๆ บัณฑิต ชอบไหมอันนี้ไม่แน่ใจ ไปถ่ายให้ฟรี เจ้าตัวคงไม่บ่นมาก ฮาๆ ผมว่ารูปงานพิธีพวกนี้ เอาแค่พอดีๆ อย่าให้มันหวือหวามากนัก พ่อ-แม่ ผมเคยดูรูปปริญญาของหลานๆ อ่ะ ท่านบ่นอุบเลย พวกถ่ายอะไรกันมาไม่รู้กาลเทศะเลย แล้วก็พาลไปบ่นช่างภาพ บอกไม่ได้เรื่องไม่รู้อะไรควรไม่ควร ตรงนี้คงแล้วแต่มุมมองของคนอ่ะครับ บางครอาจจะชอบแบบแนวๆ บางคนอาจจะชอบ แบบตามพิธี โดยส่วนตัว ผมว่าวันซ้อมที่ไม่มีญาติผู้ใหญ่ไป อ่ะถ่ายเล่นๆ พอขำๆ น่าจะได้ แต่วันที่มีญาติผู้ใหญ่ไป ควรจะให้เกียตริท่านนิดนึง ทำอะไรให้คิดถึงญาติผู้ใหญ่ไว้หน่อยครับ ท่านไม่พูดไม่ได้หมายความว่าท่านไม่คิดน่ะครับ เพิ่มเติม รูปถ่ายรับปริญญาของตัวผมเอง ที่ทางบ้านเอามาใส่กรอบ มีแค่รูปตอนรับพระราชธานปริญญาบัตริจากสมเด็จพระเทพฯ  และรูปถ่ายหน้าตรง ตอนถือปริญญาบัตรขนาบซ้ายขวาด้วยพ่อแม่ที่ใส่ชุดครุยของท่านเหมือนกัน  โดยเฉพาะรูปหลังนี่ ที่บ้านบอกว่า สวยที่สุด ผมอยากให้ช่างกล้องและบัณฑิตเวลาถ่ายรูป นึกถึงพ่อแม่ให้มากๆ ครับ  พยายามถ่ายรูปกับท่านเยอะ ท่านคือคงส่งเสียเงินให้เราเรียนน่ะครับ แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 53 09:21:56 จากคุณ : kanoomtan เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 09:11:10

ความคิดเห็นที่ 37 เห็นด้วยเลย ไม่รู้เหมือนกันไหม แต่ก่อนรับปริญญา จะมีอบรมและซ้อมรับ ผมจำได้ว่า อ.เขาก็เน้นย้ำเรื่องการใส่ชุดครุย ความเหมาะสมในกริยาต่างๆ การถือ การวาง เยอะมากๆ ท่านย้ำนัก ย้ำหนา เรื่องครุย จากคุณ : Mr.pokpak เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 09:20:16

ความคิดเห็นที่ 38 หนึ่งในสองคนนั้นที่ผมเคยไปถ่ายให้วันจริงนั้น วันรับพระราชฐานปริญญานั้น พ่อกับแม่ไม่ได้มางานรับปริญญา รูปเซตนั้นที่ถ่ายออกมาผมไม่ชอบเลยซักรูป เพราะงานวันรับปริญญา คนที่สำคัญที่สุดคือตัว บัณฑิตและพ่อแม่ของบัณฑิต นั้นเอง ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป งานรับปริญญานั้นก็ไม่มีความหมายแล้ว ผมยืนถ่ายรูปหันไปมองพ่อแม่บัณฑิตข้าง ถ่ายรูปกับลูกชายเค้า น้ำตานี่อาบแก้มเลย นี่ล่ะคือความทรงจำของงานรับปริญญา ความปลื้มปิติที่เห็นลูกประสบความสำเร็จ ได้รับพระราชธานปริญญาบัตร อารมรณ์แบบนี้ล่ะที่คนถ่ายภาพควรถ่ายเก็บไว้ ผมเองคงจะแก่แล้วล่ะ เลยไม่ค่อยเข้าใจวัยรุ่นเท่าไหร่ว่าจะถ่ายกันทำไมกันไอ้แนวเย้วๆ หรือท่าโดดๆ (ตรงนี้คงเอามาจากตะวันตกมากกว่า) ปล. เค้าว่าคนแก่ขี้บ่น ผมคงแก่จริงๆนั้นล่ะ จากคุณ : kanoomtan เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 09:27:16

ความคิดเห็นที่ 39 เคยเจอไหมครับว่า บัณฑิตอยากได้แบบนี้ (เพื่อนๆยุ เอามันส์ สนุก เฮฮา) แล้วช่างภาพบอกว่าไม่ work นะ แล้วบัณฑิตไม่ยอมหรือเพื่อนบัณฑิตกลุ่มใหญ่ บอกพี่แค่ถ่ายเท่านั้น ถ่ายๆไปเพอะพี่ ดังนั้นผมจะพยายามไม่ถ่ายบัณฑิตที่ชอบเที่ยว คุยกับเพื่อนแบบ แม่ม แม่ม กรู กรู เมิง เมิง เอี้ย เอี้ย แต่งตัว X X เพราะคนกลุ่มนี้เสี่ยงต่อการชอบ post ท่าแปลก ผมชอบเลือกคนธรรมดา สวยน้อยๆ คุยกันรู้เรื่อง แม้ว่าจะเอามาขึ้น port โชว์ผลงานไม่ได้ก็ตาม เรื่องนี้มันมี 2 ด้าน ด้านนึงมาจาก ช่างกล้ิอง และ นางแบบ รูปจากงาน ก็ต้องมีอย่างน้อย 3 แบบ 1. Formal (อันนี้ไม่ค่อยมีปัญหา) 2. Semi-Formal (อันนี้เป็นส่วนที่มีปัญหาเรื่องความเหมาะสม + นิสัยของแบบ) 3. Offshot (ถ่ายอิริยาบถ) จากคุณ : Post-er เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 09:40:28

ความคิดเห็นที่ 40 ให้เกียรติสถาบัน ให้เกียรติสถานที่ รูปถ่ายไม่จำเป็นต้องหวือหวาก็สวยได้ จากคุณ : ยุ่งจิง เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 09:41:38

ความคิดเห็นที่ 41 มันอยู่ที่ช่างภาพครับ  น้องเค้าก็แล้วแต่เราล่ะ เพราะโพรไฟล์ของเรา ก็เป็นส่วนนึง ที่ทำให้น้องเค้าเลือก ที่จะถ่ายแบบไหนครับ ^ ^ จากคุณ : espucino-ccj เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 10:15:35

ความคิดเห็นที่ 42 กว่าจะได้สวมชุดครุยอันทรงเกียรติ ต้องใช้ความพยายาม ตั้งใจ อุตสาหะในการเรียนมากแค่ไหน คนที่เป็นบัณฑิตแล้ว จึงรู้   อย่าให้ความสนุกสนาน คึกคะนอง มาทำให้คุณค่าแห่งความภาคภูมิใจ เหล่านั้นเสียไป อย่าทำให้คนอื่นคิดว่าได้ใบปริญญามาอย่างง่ายดาย จนไม่น่าชื่นชม เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ค่ะ จากคุณ : humble girl เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 10:30:21

ความคิดเห็นที่ 43 รู้จักกาลเทศะเป็นดีที่สุดครับ ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว คืนนี้เชียร์สเปน สู้ ๆ ครับ จากคุณ : Kun.POP เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 10:32:13

ความคิดเห็นที่ 44 ยืนข้างไม่เห็นด้วยกับการออกแอ๊คชั่นเกินเหตุ สำหรับเรื่อง ช่างภาพ - นักศึกษาโทษกันไปกันมาว่า  ลูกค้าอยากได้ หรือ ช่างภาพอาร์ตจัดนั้น ก็ขอให้ท่านที่เปช่างภาพ และมีจิตสำนึกก็จงกล้า ที่จะใส่ลงในโปรไฟล์ว่า "ไม่สนับสนุน ถ่ายภาพที่มีกิริยาไม่สำรวมเกินงาม" ก็ถ้าไม่กลัวไม่มีงาน และมั่นใจว่าท่าน มีจิตสำนึกตรงนี้จริงก็ต้องมีตรงนี้ แต่ถ้าปล่อยๆไปแล้ว ไปให้ลูกค้าสั่งทีหลัง แล้วบอกว่าเลยตามเลยช่วยไม่ได้อย่ามาโทษชั้นคนเดียว  ก็ถทอเสียว่าไม่ได้อ่านกระทู้นี้ และ คคห. นี้นะครับ ไม่ว่ากัน ส่วนน้องๆ นักศึกษา ก็เหมือนกัน ปรึกษาช่างภาพด้วย  ว่าถ่ายสำรวม เป็นมั๊ย หรือ ถ่ายได้แต่แนวเฮฮาปาร์ตี้ ตกลงกันครับ  เอาหัวข้อนี้รวมเข้าไปในสัญญการจ้างงานด้วย ก็แค่นั้น ไม่งั้น กระทู้นี้ก็เป็นแค่กระทู้ประจำปี แค่นั้นเอง ... แค่ใครจะตั้งขึ้น ก็เท่านั้น .. แต่ถ้าสังคมมันเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ หา นศ นิสิต หรือช่างภาพที่จะไม่ทำการไม่สำรวมแบบนี้ได้ อีกหน่อย คงมีการยกเลิก หรือ ถอนการใช้ชุดครุยละมัง แบบว่า พอเถอะ ทำกันแบบนี้  แล้วก็คงใช้ชุดครุยที่ทำกันเอง ... ถึงตอนนั้น จะสำนึกกันหรือเปล่า ว่า "เกียรติ" คืออะไรกันแน่? หรือจะพอใจ ให้แค่มีผ้าพันตัว ไว้ถ่ายรูป? อะไรเกินไป ขาดไปขออภัยครับ จากคุณ : HANDYHUNG เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 11:09:02

ความคิดเห็นที่ 45 เห็นด้วยกับ จขกท. ครับ ชุดครุยส์ ถือเป็นชุดพระราชทาน.... ใส่เพื่อพิธีการ เพื่อให้ดูศักดิ์สิทธิ์ คนที่ใส่ควรมีความเคารพ เพราะ ชุดที่กำลังสวมใส่ เป็นตัวแทนของสถาบัน ถ้าไม่เคารพชุดที่สวมใส่ เท่ากับไม่เคารพ สถาบัน และไม่เคารพตัวเอง คนที่มีเกียรติเท่านั้นที่สวมใส่ได้.. ไม่ใช่ว่ามีเงิน แล้วจะซื้อมาใส่ เล่นๆ.. ดูบทความข้างล่างครับ ว่าสวมใส่แล้ว มีเกียรติ ขนาดไหน .............................................................................. ครุยวิทยฐานะ นับว่าเป็นชุดพิธีการถือธรรมเนียมปฏิบัติมาจาก พิธีการสำเร็จการศึกษาของมหาวิทยาลัยในต่างประเทศตะวันตก ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยในประเทศไทยรับธรรมเนียมนี้มาประยุกต์ใช้ โดยได้กำหนดชุดครุยขึ้นเพื่อใช้ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร และจะใช้ครุยชนิดนี้ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร เพื่อแสดงถึงปริญญา วิทยฐานะทางการศึกษาตามที่ตนสำเร็จการศึกษา การที่มหาวิทยาลัยใดจะกำหนดชุดครุยเป็นเครื่องแสดงวิทยฐานะของมหาวิทยาลัยได้นั้น มหาวิทยาลัยจะต้องตราเป็นกฎหมาย พระราชกฤษฎีกา ว่าด้วย ครุยแสดงวิทยฐานะบัณฑิตขึ้นตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยนั้น ๆ ผู้ใดไม่ได้สำเร็จการศึกษาในปริญญานั้น หากมีการนำชุดครุยประเภทนี้มาใช้โดยไม่ได้รับการอนุมัติจากมหาวิทยาลัย ถือเป็นโทษทางอาญามีโทษสูงสุดถึงจำคุก ชุดครุยพระราชทานปริญญาบัตรที่ใช้ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรในยุคปัจจุบัน มีอยู่หลากหลายประเภท แถบสี ขนิดของเนื้อผ้า ตามแต่ละมหาวิทยาลัยจะกำหนดขึ้นมาเพื่อแสดงถึงวิทยฐานะทางการศึกษา ปริญญาของบัณฑิตที่จบการศึกษาในปริญญานั้น ๆ จากคุณ : ลิงหน้าหมู (ลิงหน้าหมู) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 11:12:28

ความคิดเห็นที่ 46   ผมคนหนึ่งครับที่คิดเหมือนเจ้าของกระทู้ ชุดครุยเป็นชุดพระราชทานนะครับของสถาบันที่ผมเรียนนะ ของสถาบัญอื่นก็ไม่แน่ใจ ทั้งคนถ่ายและคนเป็นแบบ คิดให้มากนิดหนึ่งครับ แปลกแหวกแนวได้ครับผมก็ชอบได้ภาพไม่เหมือนใคร แต่คิดนิดหนึ่งครับว่ามันเหมาะสมหรือป่าว จากคุณ : Mo_Modify เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 11:15:23

ความคิดเห็นที่ 47 ชุดครุยพระราชทาน... ก็แค่อาภรณ์ชิ้นหนึ่ง ธงชาติ... ก็แค่ผ้าผืนหนึ่งเช่นกัน แต่ความหมาย และสัญลักษณ์ ไม่ใช่แค่อาภรณ์ หรือ แค่ผ้าผืนหนึ่ง เราควรเคารพ จากคุณ : ลิงหน้าหมู เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 11:20:46

ความคิดเห็นที่ 48 ถ่ายรูป รับปริญญา มันควรเป็นภาพแห่งความภาคภูมิใจ ที่มี พ่อ แม่ ญาติ พี่น้อง มาร่วมกันถ่าย ยิ้ม หัวเราะกัน และก็ไม่เห็นด้วย กับ พวก ใส่ แว่นกันแดด ใส่พวงดอกไม้ กระโดด โลดเต้น จากคุณ : น้าวัชร-จัดให้ เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 11:39:33

ความคิดเห็นที่ 49 ชุดครุยเป็นชุดที่ศักดิ์สิทธิ์นะ เห็นบางคนถึงกับใส่ปีนต้นไม้กันเลย ในมหาลัยตัวเองแท้ๆ จากคุณ : ลูกหมูร้องจิ๊บ เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 12:17:50

ความคิดเห็นที่ 50   ขำ...เศร้า...เวทนา...คุณภาพบัณฑิต คุณภาพสังคม คุณภาพประเทศชาติ จากคุณ : สะบก เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 12:34:05

ความคิดเห็นที่ 51 บ่งบอกถึงคุณภาพนักศึกษา จากคุณ : watyong เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 13:28:19

ความคิดเห็นที่ 52 ถ้าครุยไม่ได้เป็นเครื่องแบบพระราชทาน ผมว่าไม่เป็นไร ก็เหมือนชุดนักเรียน จากคุณ : ตาแป๊ะหวานเย็น เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 14:55:11

ความคิดเห็นที่ 53 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 15:02:47

ความคิดเห็นที่ 54 อะแฮ่มๆๆ   แฮะๆๆ รบกวนใครมีแนวทางการถ่ายแบบเรียบๆ สวยๆ มุมมองดีๆ เป็นแนวทางให้ผมไป ถ่ายงานรับปริญญาเพื่อนบ้างครับ รบกวนหลังไมค์มาเยอะๆๆ ครับ แบบว่า อยากเห็นมุมมอง น้าๆ หลายๆ คน ขอบคุณครับ ปล. จะได้นำไปปรับใช้และบอกเพื่อนบัณฑิตผม > < จากคุณ : เจ้าอ้วน (WhiteOrca) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 15:10:31

ความคิดเห็นที่ 55   โอ๊ะ................. กระทู้นี้ "Mr. Fusion ...เข้ามาดู ด้วยนะครับ จากคุณ : Chrysocolla เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 15:19:41

ความคิดเห็นที่ 56 ที่เห็นบ่อยๆก็โยนครุย(บ่อยมาก)  เอาครุยกางบนพื้นแล้วนั่งข้างๆ  ตัวแบบก็ส่วนหนึ่งที่ควรรู้ว่าอะไรควรไม่ควร แต่ผมว่าส่วนใหญ่จะมีช่างภาพที่คิดไม่ถึงที่"สั่งให้ทำ"  เรื่องนี้เป็น คอมมอนเซ้นส์ ครับ จริงๆอยากจะตั้งกระทู้แบบนี้หลายทีแล้ว แต่กลัวว่าตั้งแล้วล่ม ผมว่างานรับปริญญา รูปถ่ายส่วนใหญ่ก็คงให้ผู้ใหญ่ดู และไม่น้อยก็ให้เพื่อนดู การทำท่าทางการถ่ายรูปที่เหมาะสม ดูสง่ามันไม่ยากครับ  แต่อะไรที่ไม่เหมาะสมเราก็หลบได้ไม่เห็นยากเหมือนกัน จากคุณ : zaskar27 เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 17:00:09

ความคิดเห็นที่ 57 เห็นด้วยว่าควรถ่ายภาพที่มีความเหมาะสมครับ จากคุณ : daae1234 เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 17:03:30

ความคิดเห็นที่ 58 ทุก ๆ อย่างก็แปรผันไปตามเวลา จากคุณ : sudej (sudej) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 18:04:15

ความคิดเห็นที่ 59 ผมว่ามันอยู่ที่จิตสำนึกของทั้งบัณฑิตและตากล้องเป็นหลักแหละครับ ว่าอะไรคือขอบเขตของความพอดีที่เหมาะสม เพราะอย่างที่รู้กันว่าสมัยนี้มันเป็นยุคดิจิตอล ถ่ายไปก่อน เลือกทีหลัง ทำให้บัณฑิตจะรู้สึกว่าต้องถ่ายให้ได้เยอะๆ ถึงจะคุ้มกับเงินที่จ่ายไป ทีนี้ตากล้องจะทำยังไงละครับ จะถ่ายแต่ท่าเรียบๆ จัดองค์ประกอบเต็มที่ไปทุกรูปเลยหรือ ผมว่ามันก็ไม่ไหว ตากล้องก็เบื่อเป็นเหมือนกัน ก็ต้องมีรูปเล่นๆ บ้าง แอ็คชั่นตลกๆ สนุกสนานบ้าง แต่ก็ต้องอยู่ในขอบเขตของความพอดี ไม่ให้คนอื่นดูแล้วรู้สึกติดลบ อย่างรูปใส่แว่นผมว่าก็ปกตินะ จะใส่แว่นดำ แว่นกรอบ หรืออะไรมันก็คงไม่เป็นไรหรอก เพราะคงไม่ใส่ตลอดอยู่แล้ว ก็มีใส่บ้างเพื่อลดความจำเจของภาพบ้าง บางคนก็มีกรอบแว่นตลกๆ ก็เอามาใส่เล่นถ่ายเป็นพักๆ ไม่ได้ใส่ตลอด ผมว่าก็ไม่เห็นเป็นไร ส่วนรูปกระโดดผมว่าก็มีบ้าง เพราะมันเหมือนการละลายพฤติกรรมระหว่างตากล้องกับบัณฑิตอย่างหนึ่ง เพราะก็คงไม่มีใครตะบี้ตะบันให้บัณฑิตกระโดดเป็นร้อยรูปหรอกครับ  อย่างเก่งก็ให้โดดกับเพื่อนๆ บ้างๆ เดี่ยวบ้างไม่กี่สิบรูปหรอก เทียบเป็นสัดส่วนแล้วก็เล็กๆ น้อยๆ ส่วนรูปพิธีการส่วนตัวผมก็จัดให้เป็นสัดส่วนหลัก ไม่ว่าจะโพสเรียบร้อย จัดเสื้อผ้าหน้าผมดีๆ ยืนถ่ายกับครอบครัว กับ Landmark ของสถาบันนั้นๆ หรือกับเพื่อน ญาติพี่น้อง  ก็ต้องมีถ่ายกันอยู่แล้ว  แต่จะให้ถ่ายแบบนี้ทั้งหมด มันก็ไม่ไหวครับ ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปพร้อมกับวิถีของดิจิตอลที่เข้ามา สำหรับโทนสีแนวๆ ผมว่าทำไว้บ้างก็ไม่เป็นไรหรอก ไม่ให้มันซ็ำซากจำเจ แต่ก็ต้องมีโทนปกติให้น้องเขาด้วย เผื่อว่าเขาจะต้องใช้ ก็ต้องดูกันไปตามความเหมาะสมครับ โลกหมุนไป เราต้องก้าวไปให้ทันมันครับ แต่ไม่ว่าโลกจะหมุนไปเท่าไหร่ เร็วแค่ไหน จิตสำนึกที่ดีก็ยังต้องเป็นจุดยืนสำคัญเสมอเช่นกัน จากคุณ : Mr. Forever เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 19:42:41

ความคิดเห็นที่ 60 จะแฟชั่นยังไง ก็อย่าลืมว่าเราคือคนไทยครับ เรามีวัฒนธรรมอันดีงาม มีในหลวงเป็นที่รัก และที่สำคัญการให้เกียรติสถาบันที่ศึกษา เราอยากให้ภาพที่คนมองเราออกมาแบบไหน อยู่ที่เราปฏิบัติตัว จากคุณ : AprilSnow เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 20:21:40

ความคิดเห็นที่ 61 อ่านแล้วเตือนสติได้มากเลย ขอบคุณที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาจริงๆ จากคุณ : คนหัวฟู เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 23:08:25

ความคิดเห็นที่ 62 ทำไมไม่ถ่าย แนว Life หรือ candid  บัีณฑิต เพื่อน พ่อ แม่ ญาติ ไม่ต้องโพส ตากล้องอยากถ่ายตอนไหนถ่าย (ในมุมที่เหมาะสม) ผมว่าจะได้ภาพที่มีความหมาย  ได้เห็นความยินดี รอยยิ้มที่มีคราบน้ำตา  และรอยยิ้มที่จากใจ ไม่ใช่ ยิ้มหน้ากล้อง  แล้วเสริมด้วยภาพหมู่ ในแบบ ที่ใช้การจัดวางองค์ประกอบ ไม่ใช้การโพสท่า พิลึกพิเลน จากคุณ : เดินไปส่องไป เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 23:49:39

ความคิดเห็นที่ 63   ส่วนตัวผมรู้สึกว่าเฉยๆครับ ที่รู้สึกจะไม่เหมาะสมจริงๆ คงจะเป็นท่าเซ็กซี่วาบหวาม อย่างอื่นเช่น กระโดด, ใส่แว่น ทำท่าขำๆบ้าง  ก็เป็นสีสันครับ ตัวผมเองก็ยอมรับว่ามีถ่ายมาแบบนี้บ้างเหมือนกัน จากคุณ : ปลาดุกหม่นหมอง เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 00:40:10

ความคิดเห็นที่ 64 ทีนี้ตากล้องจะทำยังไงละครับ จะถ่ายแต่ท่าเรียบๆ จัดองค์ประกอบเต็มที่ไปทุกรูปเลยหรือ ผมว่ามันก็ไม่ไหว ตากล้องก็เบื่อเป็นเหมือนกัน ก็ต้องมีรูปเล่นๆ บ้าง แอ็คชั่นตลกๆ สนุกสนานบ้าง แต่ก็ต้องอยู่ในขอบเขตของความพอดี ไม่ให้คนอื่นดูแล้วรู้สึกติดลบ เห็นด้วยครับ เห็นด้วย 100% แต่ ปัญหามันอยู่ตรงที่ว่า อะไรคือ "ขอบเขตของความพอดี" ตรงนี้แหละครับ ที่ทำให้เกิดกระทู้นี้ขึ้นมา และเมื่อได้อ่านกระทู้นี้ .. ความเห็นของลุงเปี้ยก http://www.pantip.com/cafe/camera/topic/O9419455/O9419455.html ก็เลยนึกออก ชุดครุย เป็นชุด ที่แต่งเข้าเพื่อพิธีการอันศักดิ์สิทธิ นั่นคืิอ ขอบเขตความพอดี ถึงจะเป็นมหาวิทยาลัยเอกชน ก็ตามที เขาก็มี "พิธี" รับปริญญา .. ทำไมถึงใช้คำว่า "พิธี" เพราะผู้ที่จัด"งาน" ผู้ที่มาร่วมงาน ผู้หลักผู้ใหญ่ พ่อแม่ญาติมิตร ฯลฯ เห็นว่า เป็น"พิธีการ" ไม่ใ่ช่ "งานแจกใบปริญญา" ถ้าเป็นอย่างนี้ จะกระโดดโลดเต้นในชุดครุย ก็ไม่มีใครว่า จะใส่รองเท้าแตะ มารับ "กระดาษแผ่นเดียว" ก็แทบไม่มีใครสนใจ แต่นี่มันเป็น "พิธีการ" ชุดที่ใส่ ก็คือ "ชุดเข้าพิธีการ" .. ไม่ว่าจะเป็นเอกชน หรือ งานหลวง ไม่ต่างจากจีวรพระ นึกถึงพระบวชใหม่ ได้เป็นนาคหลวงด้วย บวชเสร็จปั๊บ ใส่จีวรปั๊บ ญาติมิตร เพื่อนฝูง เข้ามาแสดงความยินดี ตบหลังตบไหล่ กอดคอถ่ายรูป เสร็จแล้ว พากันไปถ่ายรูปหน้าโบสถ์ กระโดดละลิ่ว จีวรปลิว ให้ช่างภาพ"ชักรูปเป็นที่ระลึก" ฯลฯ น่าดูพิก๊ล แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 53 08:34:00 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 08:33:33

ความคิดเห็นที่ 65 บัณฑิตก็คนครับ เรียนจบมีใบปริญญา ไม่ได้แปลว่าจะมีการศึกษาทุกคน ควรไม่ควร บางครั้งยุคสมัยก็เกี่ยว หลักๆ ก็วัดกันที่จิตสำนึก ใครทำอะไรไปผมว่าไม่เกี่ยวกับไม่ให้เกียรติสถาบัน หรือปริญญาหรอกครับ เป็นการไม่ให้เกียรติตัวเองมากกว่า ถ้าคิดว่าอะไรดีก็ทำครับ จากคุณ : อู๊ดซัง เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 11:16:47

ความคิดเห็นที่ 66   ดีครับ ช่วยๆกันห้ามปรามตักเตือน คนส่วนใหญ่เขาก็น่ารักดี มีพวกเกรียนนี่แหละ...ห้ามไม่ฟัง ดื้อเถียงว่ามันทำถูก ก็ต้องปล่อยไปตามกรรมของสัตว์โลก จากคุณ : - เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 12:17:47 A:61.19.52.106 X: TicketID:273458

ความคิดเห็นที่ 67 พวก นั้น จะเข้ามาอ่าน แล้วปฏิบัติตาม ด้วยจิตสำนึกบ้างรึเปล่าน้อ จากคุณ : โออ๊ะปะ เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 12:28:19

ความคิดเห็นที่ 68 กระัทู้นี้ก็ดีไปอย่าง ทำให้ ว่าที่บัณฑิต สามารถใช้เป็นข้อมูลพิจารณา "เลือก" ช่างภาพได้อีกประการ ช่างภาพคนไหน โชว์ภาพพิสดารเยอะ ภาพติสต์ตามใจช่างภาพ หรือ ตามใจบัณฑิตเยอะ .. ก็มีสิทธิเข้าข่าย "ตากล้องโหลๆ" ช่างภาพคนไหน มีเอกลักษณ์ของภาพตัวเอง ภาพไม่หวือหวา แต่ดูดี และโดดเด่น โดยไม่ต้องกระโดด .. ก็มีสิทธิเข้าข่าย "ตากล้องชั้นดี" บะหมี่สำเร็จรูป .. ต้มเองง่ายๆ แป๊บเดียวก็เสร็จ รสชาติมันจี๊ดจ๊าดสะใจ อาศัยกินแก้หิวได้ อิ่มท้องดีด้วยซ้ำ ถึงผงชูรสจะเยอะไปหน่อยก็เหอะ ถ้าจะให้เทียบกับข้าวหอมมะลิ หุงใหม่ๆ โป๊ะหน้าด้วยไข่เจียวฟูๆ เจียวร้อนๆ ข้างนอกกรอบ ข้างในนุ่มกำลังดีแต่ไม่แฉะ ราดซอสมะเขือเทศหน่อย และพริกน้ำปลามะนาวถ้วยเล็กๆ  .. เรียบๆ ง่ายๆ ไม่พิสดาร กว่าแม่จะหุงข้าวเสร็จ เจียวไข่เสร็จ รอกันเหงือกแห้ง ท้องกิ่ว อืมม์ ใครอยากกินข้าวไข่เจียว ฝีมือคุณแม่เราเอง ใครอยากกินบะหมี่สำเร็จรูป ฝีมือเพื่อนเืทน้ำ เทเครื่องปรุงใส่ให้ เลือกกันได้ตามสบาย จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 13:28:18

ความคิดเห็นที่ 69 ความคิดเห็นที่ 27 [ถูกใจ] [แจ้งลบ]   ผมชอบประโยคนี้มากครับท่านเจ้าของกระทู้ ***แต่อะไร ที่ดูมันเกินเลยจนเหมือนถ่ายแฟชั่นไปทั้งเซท ถอดครุยออกจะดีไหม เพราะมันเหมือนไม่ให้เกียรติกับชุดที่สวมอยู่ *** เจ้าของกระทู้ไม่ได้คิดมากเกินไปหรอกครับ ผมและอีกหลายๆคนก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน และได้แต่เฝ้ามอง เมื่อมีโอกาสก็ท้วงบ้างติงบ้างโดยไม่ได้ใช้คำรุนแรงอะไร บางท่านคิดว่ามันเป็นศิลป์อย่างหนึ่งผมไม่ได้เถียงอะไร ศิลปกับอนาจาร ศิลปกับความเกินเลย เส้นแบ่งมันเส้นเดียวกันแค่อยู่คนละด้านแล้วแต่ใครจะมองด้านไหน ช่างภาพเองแม้มีหลายท่านอ้างว่าขัดใจลูกค้าไม่ได้ก็ขอให้เพียงมีความพอดี การหาอะไรที่แตกต่างไม่ผิดและการที่อนุรักษ์ก็ไม่ผิดด้วย สมัยนี้เทคโนโลยีมันสูงทำให้การถ่ายภาพง่ายขึ้นทำให้ช่างภาพสามารถครีเอทผล งานได้ง่ายขึ้นและแทบจะไร้ขีดจำกัด  มันอยูที่ท่านจะจำกัดตัวท่านเองอย่างไรต่างหาก แก้ไขคำผิด+วรรคตอน แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 53 13:45:04 แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 53 13:41:59 จากคุณ : ลุงเปี๊ยก (kajohnwit) เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 13:40:16

ความคิดเห็นที่ 70 ขออนุญาตชมน้าแมวหน่อยกระทู้นี้ผมหมดกิ๊ฟท์ไปเยอะเลย ตอบได้ดีโดนใจผมมากเลยครับ ผมเป็นช่างภาพบ้านนอกเชยๆคนหนึ่งที่รักการถ่ายรูปถ่ายมานานพอที่จะรู้อะไรบ้าง เคยถ่ายรููปในงานราชพิธีมาหลายครั้งเพราะเมื่อสมัยหนึ่งเคยทำงานด้านสื่อ นสพ.ท้องถิ่นมาก่อน เห็นความศักสิทธิ์ของพิธีและราชพิธีมาเลยไม่สบายใจกับการนำเสนอที่ผม ย้ำว่าผมนะเห็นแล้วไม่สบายใจ แต่บางท่านอาจมองว่าคนแก่แล้วทำไม่ได้ถ่ายมาสู้เด็กไม่ได้แก่แล้วแก่เลย ก็ยอมรับส่วนหนึ่งแต่ก็ขอเข้ามาติงๆตามประสาแต่ทั้งหมดนี้ด้วยความเอ็นดูเท่านั้นเองไม่ได้อิจฉาแต่ประการใด จากคุณ : ลุงเปี๊ยก (kajohnwit) เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 14:00:37

ความคิดเห็นที่ 71 ส่วนตัวผมเอง กระโดดผมก็ว่าไม่เหมาะแล้วครับ แว่นตาแฟชั่น หน้ากาก  ... อะไรต่างๆพวกนี้ก็ยิ่งไม่เหมาะ สวยได้ หล่อได้ น่ารักได้ ... แต่แฟชั่นเนี่ย ไม่เหมาะครับ ไม่เข้าใจ ทำไมไม่แข่งกันสวยแบบเรียบร้อยในวันนี้ -*- เคยเห็นคนในที่ทำงานเปิดภาพของตากล้องให้ดูคนนึง ถ่ายสวยมาก ซึ่งสาวๆในที่ทำงานจะแบบว่า "ดีจัง อยากได้ภาพแบบนี้บ้าง สวยจัง" ... แต่ผมเห็นแล้วแบบว่า ... นี่พวกหล่อนจะใส่ชุดครุยไปเที่ยวผับบาร์ตอนตี 1 หรือจะไปรับพระราชทานปริญญาบัตรกันแน่ ถึงได้ออกแอคชั่นพร้อมประดับประดากันขนาดนี้ ... แต่จะแสดงความเห็นไปก็เท่านั้น เดี๋ยวจะหาว่าเราหัวโบราณ -*- ได้แต่ยืนมองเงียบๆ -*- จากคุณ : TalkyWalky เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 15:16:58

ความคิดเห็นที่ 72 แค่แอคชั่นแปลกๆนี่ถึงกับ ไม่มีการศึกษา หรือไร้สมองเลยเหรอคะ เราว่ามันแล้วแต่การรู้จักแยกแยะมากกว่าค่ะ ภาพนี้ที่ถ่ายไปก็ไม่ใช่ว่าเอาไปโชว์หราให้คนที่สาธารณะเห็นนะคะ เค้าก็เก็บไว้ดูเองทั้งนั้น ที่สมัยก่อนเค้าไม่มีภาพแอคอย่างนี้เก็บไว้ก็เพราะมันยังไม่มีกล้องที่กดถ่ายๆๆๆกันง่ายแบบสมัยนี้ มีแต่พิธีการแค่เข้าพิธีการแล้วแสดงความยินดี ถ่ายภาพแบบกลัวภาพเสีย ก็จบแล้ว สมัยนี้มันเปลี่ยนไปค่ะ เราว่าถ่ายกันแค่พอดี ไม่น่าเกลียดจนเกินไปคงใช้ได้ มันอยู่ที่ความพอดีมากกว่าค่ะ ถ่ายมาพันรูปยืนแอคตัวแข็งที่ซัก600รูปก็เฉากันทั้งบัณฑิตและคนถ่ายภาพนั่นแหละค่ะ คงไม่ต้องถึงกับใส่แว่นดำไม่ได้หรอกมั้งคะ ไม่ได้ใส่แว่นดำเข้าเฝ้ารับพระราชทานนะคะ แค่ถ่ายรูป แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 53 15:56:53 จากคุณ : Animator's ART เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 15:52:48

ความคิดเห็นที่ 73 กระทู้โดนใจมาก ๆ โหวตค่ะ จากคุณ : The Best of Me เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 15:55:54

ความคิดเห็นที่ 74 รู้สึกเฉยๆกับการใส่แว่นดำ กระโดด ฯลฯ ค่ะ เพราะยังไงรูปพวกนี้คนที่ดูก็คงจะเป็นตัวบัณฑิตเองมากกว่า จากคุณ : MoaD เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 16:28:46

ความคิดเห็นที่ 75 เอาเถอะจร้าาา เรื่องแบบนี้มนุษย์ที่มีจิตสำนึกสามารถรู้สึกได้เองว่าเหมาะสมไม่เหมาะสม ความเหมาะสมภายใต้สังคมของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน การจะไปเอารูปคนนั้นคนนี้ที่ตัวเองเห็นแล้วขัดหูขัดตา มาวิพากย์วิจารณ์เราว่ามันก็เกินไปหน่อย ตัวเจ้าของรูปเองเค้าซีเรียสป่าวละ พ่อแม่ญาติพี่น้องเค้าซีเรียสมั้ย ถ้าใส่แว่นดำใส่กระโปรงสั้นชิคๆถ่ายรูปเกร๋ๆ แต่สังคมที่เค้าอยู่เค้าโอเคมันก็ไม่เห็นจะมีปัญหา   เค้าคงไม่ได้ไป สะบัดครุย ยื่นมือไปโพสท่า ข้างหน้าอธิการ ตอนรับปริญญาบัตรหรอกน่ะ เราว่าทุกคนก็ต้องมีรูปที่สุภาพเรียบร้อย เป็นทางการของตัวเองเก็บไว้ดูเมื่อ 20 ปีผ่านไปอยู่แล้วแหละ ตรงกันข้าม อย่างรูปวันซ้อมอะไรแบบนี้  บางคนอาจจะรู้สึกว่าอิพวกที่ยืนนิ่งทื่อๆ ถ่ายรูปก็ทำได้แค่ยิ้ม  มันดูธรรมดาไปสำหรับเค้าก็ได้   มันก็ต้องมีมั่งนะไอรูปที่โพสท่าเฮฮากะครอบครัว หรือทำท่าพิสดารบางอย่างกับเพื่อนฝูง ใส่แว่นดำเกร๋ๆ เริ่ดๆเชิ่ดๆ ก็ถ้ามันไม่ใช่บุคลิกของตัวเค้า ..คุณจะให้เค้าสวยนิ่งๆ ยืนถ่ายรูปริมต้นไม้รักษาภาพพจน์ไปตลอดงานหรอ  โอ๊ะแหมมมมมม จากคุณ : pla_taklom เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 16:54:06

ความคิดเห็นที่ 76 ประเด็นคือ คุณใส่ชุดที่เข้าเฝ้าครับ ถ้าอยากทำอย่างนั้น ถอดเถอะ จากคุณ : เดินไปส่องไป เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 18:00:16

ความคิดเห็นที่ 77   เห็นด้วยกับ จขกท. แต่ยุคสมัยมันก็เปลี่ยนไปจริงๆ ขอนอกประเด็นหน่อยเหอะ เด็ก จบ ป.ตรีสมัยนี้  จัดหน้าจดหมายใน MsWord ยังไม่เป็นก็มี จากคุณ : XRZ_Mazmello เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 18:13:48

ความคิดเห็นที่ 78 สมัยนี้มันเปลี่ยนไปค่ะ เราว่าถ่ายกันแค่พอดี ไม่น่าเกลียดจนเกินไปคงใช้ได้ มันอยู่ที่ความพอดีมากกว่าค่ะ เรื่องที่น้องว่ามานั่นแหละครับ หัวใจของกระทู้นี้เลย อะไรคือ "ความพอดี" เส้นไหน คือ เส้นแบ่งระหว่างความพอดี กับความไม่ีพอดี อะไรคือ ความน่าเกลียดที่มีมาก "จนเกินไป" จุดไหน ที่ความน่าเกลียดจึงเป็นความน่าเกลียด สมัยนี้มันเปลี่ยนไป ... เปลี่ยนไปในทางไหนหรือครับ ทางที่ดีขึ้น หรือ ทางที่แย่ลง ทางที่ทำอะไรเป็นระบบระเบียบ รู้ที่ควรที่ไม่ควร รู้ว่าพิธีหรือไม่พิธี หรือ ทางที่ทำอะไรได้ดั่งใจคือไทยแท้ ที่ควรรู้ฉันไม่สน ที่ไม่ควรทำฉัีนอยากทำเพื่อแหกกฏซักหน่อย ฯลฯ อยากรู้คำตอบเ้หมือนกัน ... ดาราคนนั้น ก็คงคิดเหมือนกัน ว่า หัวก็หัวฉัน ผมก็ผมฉัน ... ตัวฉันก็ดารา ที่ฉันทำหัว ทำผม มันก็พอดีๆ ไม่ได้น่าเกลียดซักหน่อย จะให้เหมือนพวกคนธรรมดาๆสามัญหัวโด่เด่เป็นพันๆคน ที่เข้ารับพระราชทานปริญญาพร้อมฉัน ถ่ายรูปมาพันรูป เห็นแต่หัวดำๆเรียบๆ ทั้งพันหัีวพันรูป มันก็น่าเบื่อ ... เฉาตายชัก ทำไมสังคมถึงไม่เข้าใจน้องดาวนะ น้องดาว เป็นดาวมหาวิทยาลัย! จะให้มาแต่งตัว แต่งหน้า ทำท่าเรียบร้อยเป็นยายชีเมื่อสองร้อยปีที่แล้ว เดินเหินไปไหนเหมือนสนมนางในเมื่อพันปีที่แล้ว ดาวรับไม่ด๊ายยยย จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 18:43:28

ความคิดเห็นที่ 79 อ่านแล้วเศร้าครับ ผมแทบไม่มีรูปถ่ายงานรับพระราชทานปริญญาเก็บไว้เลย มีโอกาสได้รับพระราชทาน 2 ครั้งด้วยชุดครุยผ้าโปร่งๆทั้ง 2 ครั้ง  แต่ครั้งที่ 2 ดีหน่อยตรงที่มีชุดขาวติดเครื่องราชพร้อมเครื่องหมายแสดงสังกัดอยู่ข้างใน  สำหรับผมเป็นความทรงจำที่ดีจริงๆครับ ได้แค่จำว่าเคยได้เข้าเฝ้าเพื่อรับพระาราชทานปริญญา ตอนนี้ผมมีแค่รูปตอนพระเทพฯทรงพระราชทานครั้งละรูปเองครับ พ่อแม่ญาติพี่น้องไม่มีใครไปร่วมงานด้วยเลย แค่ขอรูปทั้งหมดไปแปะฝาบ้านเฉยๆ เค้าก็ภูมิใจกันแล้ว ส่วนใบที่ 3 ยังไม่รู้ลุกผีลูกคนเลยครับ จากคุณ : นายกานต์ เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 19:12:50

ความคิดเห็นที่ 80 คห 72  และ  75 จขกท เข้าใจค่ะว่าโลกและยุคสมัยของเรามันได้เปลี่ยนไปแล้วค่ะ ถ้าพัฒนาในทางที่ดีขึ้นก็เห็นดีด้วยค่ะ ที่จขกทตั้งกระทู้นี้เพราะคิดถึงคำว่า "ความเหมาะสม กับ "ความไม่เหมาะสม" มากกว่าค่ะ แล้วส่วนมากจขกทได้ไปดูรูปก็มาจากมัลติพาย ค่ะถ้าไม่สาธารณะคงไม่ได้ดูหรอก แล้วถ้าอ่านให้ดีจะเห็นว่า จขกท ต้องการสื่ออะไรนะคะ "จขกทคิดว่าถ่ายเป็นแฟชั่นเล็กๆน้อยๆพองามพอเหมาะสม น่ารักๆ แต่อะไรที่ดูมันเกินเลยจนเหมือนถ่ายแฟชั่นไปทั้งเซท ถอดครุยออกจะดีไหม เพราะมันเหมือนไม่ให้เกียรติกับชุดที่สวมอยู่ " หรือสั้นๆง่ายๆคือ "อย่าเยอะ" ค่ะ จากคุณ : ผุ๋งผิ๋ง เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 19:58:25

ความคิดเห็นที่ 81 ถ้าคุณไม่ให้เกียรติตัวเอง แล้วจะหวังให้ใครมาให้เกียรติคุณครับ จากคุณ : กระต่ายน้อยเล่นโยคะ เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 20:20:49

ความคิดเห็นที่ 82 ต้องไม่เกินพอดีครับ ถ่ายสนุกได้..ในเขตที่พอควร แต่ในวันอย่างนั้นมีแต่อารมณ์ดีและเตลิดครับ ----------------------------------------- ถ่ายสนุก ไว้ดูสนุก ตามยุคสมัย ถ่ายเป็นทางการ เยอะหน่อย เพื่อเกียรติ และครอบครับ ----------------------------------------- ผมว่ามันเหมือนการถ่ายบิกินี่ ที่สมัยก่อนเห็นพุงนี่ก็สุดยอดแล้ว แต่สมัยนี้... - -* ไร้คำบรรยายแล้ว จากคุณ : thepthana เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 01:29:32

ความคิดเห็นที่ 83 multiply? เราว่ามันก็ไม่ได้สาธารณะอะไรมากมายนะคะ เอ้อ ถ้าลงหนังสือพิมพ์คอลั่มน์ลุงหนวด หรือมาแอคท่าพิสดารออกทีวี หรือเอาภาพมาติดไว้หน้าบ้าน อันนี้เราว่าสาธารณะค่ะ เราว่าเค้าก็ไม่ได้ไปร้องแร่แห่กระเชอเรียกคนให้เข้ามาดูนะคะ มันก็เป็นที่ในสิทธิ์ของเค้าเหมือนกัน คุณเปิดเข้าไปดูเอง แล้วเค้าก็มีไว้โชว์เพื่อนๆ เก็บไว้เป็นอัลบั้มดิจิตอล หรืออะไรแค่นั้นแหละค่ะ แต่ถ้าเค้าเลืือกรูปมาทั้งเซ็ทเป็นแบบนี้ลงมัลติพลายเพื่อทำเป็นพอร์ทโฟลิโอ เราว่ามันก็ไม่สมควร ตราบใดที่เรายังไม่รู้จุดมุ่งหมายของเขา ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าไปตีตราว่าเลวหรือแย่เลยค่ะ หรือถ้าคุณอดไม่ได้จริงๆ ก็คอมเม้นท์ลงไปเลยค่ะว่า "อย่าเยอะ" ป.ล. ความทรงจำของมนุษย์มีมากกว่าคำว่า แข็งทื่อ แน่นอนค่ะ และความประทับใจจะไม่มีทางเกิดได้ ถ้าไร้อารมณ์ แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 53 03:33:51 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 53 02:54:14 จากคุณ : Animator's ART เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 02:53:27

ความคิดเห็นที่ 84 ถึงคุณแมวเหมียวคะ อยากถามว่า พิธีการเนี่ย มันมีตลอดวันรึเปล่าคะ รับปริญญา ออกมาจากห้องประชุม ยังเรียกว่าพิธีการยังไม่สำเร็จรึเปล่าคะ ความพอดี ดีพอ ไม่น่าเกลียด มันขึ้นอยู่กับบุคคลมากกว่าค่ะ จากที่หาข้อมูลมานะคะ เราได้พบว่าไม่มีข้อกำหนดไหนเขียนขึ้นมาเพื่อบอกว่าบัณฑิตที่ถ่ายรูปเมื่อสวมครุยวิทยฐานะ เมื่อไม่ได้อยู่ในเวลากำหนดการแล้ว ต้องอยู่ในกิริยาที่สำรวม เราเห็นแค่ให้สำรวมเมื่ออยู่ในพิธี ส่วนนี่เผอิญหามาได้ค่ะ อาจจะใช้อ้างอิงถึงความสาธารณะของภาพถ่ายได้ว่า เมื่อภาพไปอยู่ในที่สาธารณะควรจะเป็นภาพแบบใด มาจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งนะคะ ขอนุญาตคัดลอกค่ะ 0000000000000000000000000000000000000000000000000000000000 อย่าลืม !!! ลงทะเบียนในหนังสืออนุสรณ์บัณฑิตครับ โดยจะเริ่มให้กรอกข้อมูลได้ จนถึง วันที่ 15 มิถุนายน 2550 นะครับ http://www.cp.eng.chula.ac.th/gccu/gccu49_data/web/index.php ส่วนหนึ่งน่าจะยังลงไม่ครบกัน esp. รูปถ่าย รูป "ชุดสุภาพ" ที่ใช้ในหนังสืออนุสรณ์บัณฑิต คืออะไร? ในการ upload รูปเพื่อใช้ลงในหนังสืออนุสรณ์บัณฑิต จะมีด้วยกันสองรูปคือ รูปชุดครุบ ซึ่งให้ upload รูปขึ้นไปบนเวบ และทำการวางหน้าของตนเองให้อยู่ในกรอบที่กำหนด รวมทั้งปรับขนาดที่เหมาะสม ตามขั้นตอนที่เขียนไ้ว้ รูปชุดสุภาพ จะเป็นรูปที่ไม่ได้ลงในหนังสือ์ แต่จะปรากฏอยู่ใน CD ที่อยู่ในหนังสืออนุสรณ์บัณฑิตแทน ซึ่งรูปนี้ เป็นรูปอะไรก็ได้ ของเพื่อนๆเอง ไม่ว่าจะเป็นรูปถ่ายเล่นๆกับเพื่อน ไปต่างจังหวัด หรือถ่ายสตูิดิโอก็ได้ แต่ขอให้ไม่ทำท่าทาง หรือมีกิริยา ที่ลากมก หยาบคาย หรือการแต่งตัวที่ไม่สุภาพ เช่น การถอดเสื้อ ถอดกางเกง หรือใส่เสื้อที่มีคำไม่เหมาะสมอยู่บนเสื้่อ ในกรณีที่รูปถ่ายไม่เหมาะสม ทางทีมงานผู้จัดทำหนังสือ ขออนุญาตในการแก้ไขปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รูปที่จะใช้นะครับ 00000000000000000000000000000000000000000000000000000000000 แล้วบัณฑิตที่คุณด่าเขาไปว่า ไร้สมอง ไม่มีการศึกษาเนี่ย เขาได้ทำกิริยาข้างต้นหรือไม่คะ ในการแสดงภาพถ่ายในที่สาธารณะ ป.ล. สังคมเปลี่ยนไปจากสิ่งเดิม ในกรณีอย่างนี้ เราคิดว่าไม่ได้แย่ค่ะ แต่เป็นความหลากหลายมากกว่า ซึ่งคุณจะเห็นเองว่า สิ่งที่ไม่สมควรมันไม่มีทางอยู่ได้ตลอดไปแน่นอนค่ะ อ้างอิง http://www.medchula.com/question.asp?class=57&gid=154 **แก้ไขให้อ่านง่ายขึ้นค่ะ แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 53 03:24:11 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 53 03:22:53 จากคุณ : Animator's ART เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 03:20:15

ความคิดเห็นที่ 85 กลายเป็นดราม่ากะผมจนได้ ถามคุณ animator ว่า พระ  เมื่อเข้าพิธีบวชเสร็จ ออกจากโบสถ์แล้ว เรียกว่า จบพิธีการ แล้วหรือยัง??? เมื่อเป็นพระแล้ว กระโดดโลดเต้นตามสบายได้หรือยัง? ดูเหมือนคุณ animator ยังไม่เข้าใจคำว่า "ที่สาธารณะ" ด้วยซ้ำ .. จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 06:01:07

ความคิดเห็นที่ 86 คห 83 ถ้าคุณคิดว่าภาพมาติดไว้หน้าบ้าน ถึงจะเรียกว่าสาธารณะ งั้นสมมุติว่ามัลติพลายเป็นบ้านแล้วกันนะคะ เจ้าของบ้านแปะภาพไว้หน้าบ้านให้ใครๆที่ผ่านมา หรือเพื่อนฝูงมาชมผลงานหรือให้ลูกค้ามาชมก่อนตกลงว่าจ้างดูเนี่ย มันสาธารณะไหมคะ  --' แล้วที่คุณยกมาเกี่ยวกับภาพที่จะลงในหนังสือหรือ cd อนุสรณ์บัณฑิตของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง "อาจจะใช้อ้างอิงถึงความสาธารณะของภาพถ่ายได้ว่า เมื่อภาพไปอยู่ในที่สาธารณะควรจะเป็นภาพแบบใด มาจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งนะคะ ขอนุญาตคัดลอกค่ะ" ไม่ได้กวนทีนนะคะแค่อยากรู้เลยถามดู บอกได้ไหม.. ลืมไปนึกว่าร้องเพลงอยู่   หนังสืออนุสรณ์บัณฑิตมันไม่ได้ลงหนังสือพิมพ์คอลั่มน์ลุงหนวด หรือมาแอคท่าพิสดารออกทีวี หรือเอาภาพมาติดไว้หน้าบ้าน เหมือนที่คุณว่าไว้ว่าแบบนี้เท่านั้นที่คุณจะเรียกว่าสาธารณะ แต่คุณบอกว่าหนังสืออนุสรณ์=สาธารณะ? ปล คงไม่ต้องคอมเม๊นหรอกค่ะ เค้ามาอ่านแล้วค่ะ ฮ่าๆๆ เพิ่มข้อความ แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 53 07:13:39 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 53 07:01:21 จากคุณ : ผุ๋งผิ๋ง เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 06:58:08

ความคิดเห็นที่ 87 เรื่องมารยาทกับกาลเทศะไม่เห็นมีกำหนดเป็นกฏหมายเหมือนกัน ก็เห็นเป็นเรื่องที่รับรู้กันเป็นปกตินะ จากคุณ : Jump.Jr เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 07:33:28

ความคิดเห็นที่ 88 มันมีกฏนะคะในเรื่องการใส่ชุดครุยรับปริญญา ตอนรับปริญญาจะมีอาจารย์แจงไว้แล้ว ส่วนmultiply ก็เหมือนกับก็เป็นที่เปิด กึ่งๆเป็นที่สาธารณะนะคะ ไม่งั้นก็เอารูปโป๊ตัวเองมาลงได้โดยบอกว่าเป็นที่ส่วนตัวดิ จากคุณ : la-la-bell เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 07:44:24

ความคิดเห็นที่ 89 Multiply โคตรจะสาธารณะเลยครับเว้นแต่ว่าคุณ set อัลบั้มให้ private แต่ทำงั้นไปคุณก็แสดงงานให้ลูกค้าดูไม่ได้ และอย่าลืมนะครับว่าคนที่เข้ามาดูนั้นถ้าเค้าไม่สมัครmultiply มันก็ไม่ Show history ให้เห็นหรอกเว้นแต่คุณหา Counter มาแปะครับ จไว้อย่าง อะไรก็ตามที่อยู่บน internet เป็นของสาธารณะหมด ตราบใดที่ Google bot ยังทำงาน จากคุณ : babu_radio เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 09:23:30

ความคิดเห็นที่ 90 พระ  เมื่อเข้าพิธีบวชเสร็จ ออกจากโบสถ์แล้ว เรียก ว่า จบพิธีการ แล้วหรือยัง??? เมื่อเป็นพระแล้ว กระโดดโลดเต้นตามสบายได้หรือยัง? .................................................................................. น้าแมวเอาพระมาเทียบกับบันฑิตนี่ก็แปลกอยู่นะครับ เราต่างรู้กันอยู่ว่าสถานะของทั้ง2แบบแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงครับ ไม่น่าเอามาเปรียบเทียบกันได้นะครับ.. ผมเองก็เป็นตากล้องที่รับงานถ่ายรับปริญญามาก็หลายปีแล้วครับ บัณฑิตนอนพื้น กระโดด เล่นกันเฮฮา ถ่ายมาหมดแล้วทั้งนั้นครับ อย่างปีนี้ก็มีถ่ายน้องกระโดดครับ มีซัก5-10รูปที่กระโดดเป็นกลุ่มๆครับ มาเข้าเรื่องดีกว่าถึงคำว่าความไม่เหมาะสมนะครับ ผมเห็นด้วยอย่างมากครับ หากให้บัณฑิตใส่หน้ากากหรือโพสแบบโป๊หรือsexyนี่มันจะหลุดกรอบของการถ่ายภาพรับปริญญามากเกินไปครับ เป็นสิ่งที่พี่ๆตากล้องต้องคอยระมัดระวังให้มากๆก่อนถ่ายรูปครับ เพราะมันจะดูไม่ดีมากๆเลยครับ แต่เรื่องที่กระโดดโลดเต้นหรือเฮฮากันในกลุ่มของเพื่อนๆนี่ผมว่ายังไงก็จำเป็นต้องมีบ้างล่ะครับ เพราะถ้าจะให้น้องๆยืนยิ้มเฉยๆถ่ายรูปหน้าตรงนิ่งๆมาทั้งหมดนี่ ปีต่อๆไปก็คงจะมีกระทู้อีกว่า ผมเป็นตากล้องชั้นดี แต่ไม่มีงานจะทำอย่างไรดีเกิดขึ้นมาอีกนะครับ.. เปิดใจให้กว้าง แล้วเปลี่ยนจากการที่จะมานั่งจับผิดว่าแบบนี้ไม่ดี แบบนั้นก็ไม่เหมาะ มาเป็นชื่นชมในอารมณ์ของภาพ มองความสดใสน่ารักและร่วมยินดีกับน้องๆบันฑิตกันดีกว่าครับ อย่าไปสนใจเพียงแค่เพียงแค่น้องๆใส่แว่นตาหรือกระโดดเลยครับ.. เพราะเท่าที่เจอมานี่หลายๆครั้งเลยด้วยที่คุณพ่อคุณแม่ของน้องๆเป็นคนขอเองเลยด้วยซ้ำครับว่าฉันอยากจะกระโดดบ้าง เพราะรูปนิ่งๆฉันมีเยอะแล้ว.... จากคุณ : Mr.PIE เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 10:02:51

ความคิดเห็นที่ 91 บัณฑิตทั้งหลายอยากเก็บภาพครั้งหนึ่งในชีวิตที่พ่อแม่ได้สมหวัง อยากให้พ่อแม่เห็นแบบไหนก็เลือกและคิดให้ดี เอาแค่นี้แหละ จากคุณ : หนึบหนับ เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 10:19:16

ความคิดเห็นที่ 92 พระ  เมื่อเข้าพิธีบวชเสร็จ ออกจากโบสถ์แล้ว เรียก ว่า จบพิธีการ แล้วหรือยัง??? เมื่อเป็นพระแล้ว กระโดดโลดเต้นตามสบายได้หรือยัง? .................................................................................. น้า แมวเอาพระมาเทียบกับบันฑิตนี่ก็แปลกอยู่นะครับ เราต่างรู้กันอยู่ว่าสถานะของทั้ง2แบบแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงครับ ไม่น่าเอามาเปรียบเทียบกันได้นะครับ.. ผมเองก็เป็นตากล้องที่รับงาน ถ่ายรับปริญญามาก็หลายปีแล้วครับ บัณฑิตนอนพื้น กระโดด เล่นกันเฮฮา ถ่ายมาหมดแล้วทั้งนั้นครับ อย่างปีนี้ก็มีถ่ายน้องกระโดดครับ มีซัก5-10รูปที่กระโดดเป็นกลุ่มๆครับ มาเข้าเรื่องดีกว่าถึงคำว่า ความไม่เหมาะสมนะครับ ผมเห็นด้วยอย่างมากครับ หากให้บัณฑิตใส่หน้ากากหรือโพสแบบโป๊หรือsexyนี่มันจะหลุดกรอบของการถ่ายภาพ รับปริญญามากเกินไปครับ เป็นสิ่งที่พี่ๆตากล้องต้องคอยระมัดระวังให้มากๆก่อนถ่ายรูปครับ เพราะมันจะดูไม่ดีมากๆเลยครับ แต่เรื่องที่กระโดดโลดเต้นหรือเฮฮากัน ในกลุ่มของเพื่อนๆนี่ผมว่ายังไงก็จำเป็นต้องมีบ้างล่ะครับ เพราะถ้าจะให้น้องๆยืนยิ้มเฉยๆถ่ายรูปหน้าตรงนิ่งๆมาทั้งหมดนี่ ปีต่อๆไปก็คงจะมีกระทู้อีกว่า ผมเป็นตากล้องชั้นดี แต่ไม่มีงานจะทำอย่างไรดีเกิดขึ้นมาอีกนะครับ.. เปิด ใจให้กว้าง แล้วเปลี่ยนจากการที่จะมานั่งจับผิดว่าแบบนี้ไม่ดี แบบนั้นก็ไม่เหมาะ มาเป็นชื่นชมในอารมณ์ของภาพ มองความสดใสน่ารักและร่วมยินดีกับน้องๆบันฑิตกันดีกว่าครับ อย่าไปสนใจเพียงแค่เพียงแค่น้องๆใส่แว่นตาหรือกระโดดเลยครับ.. เพราะ เท่าที่เจอมานี่หลายๆครั้งเลยด้วยที่คุณพ่อคุณแม่ของน้องๆเป็นคนขอเองเลย ด้วยซ้ำครับว่าฉันอยากจะกระโดดบ้าง เพราะรูปนิ่งๆฉันมีเยอะแล้ว.... จากคุณ : Mr.PIE เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 10:02:51 ================================================= ถ้าอย่างนั้นเมื่อเสร็จพิธีรับพระราชทานปริญญาบัตรแล้ว ให้ถอดชุดครุยออกก่อนก็ดีครับ จะได้กระโดดโลดเต้น นอนกลิ้ง นั่งบนโต๊ะ ได้ตามสบายครับ จากคุณ : NungS เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 10:19:31

ความคิดเห็นที่ 93 ก็เค้าจ้างมาให้ถ่ายก็เพราะอยู่ในชุดครุยนี่ครับ เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่าเค้าสำเร็จการศึกษาแล้ว แล้วไม่ต้องห่วงเรื่องพ่อแม่ไม่ได้รูปที่สมหวังหรอกครับ ไม่มีใครบ้าถ่ายกระโดดโลดเต้นมาทั้ง set หรอกครับ (หรือมันมีคนบ้าอย่างนั้นจริง) จากคุณ : Iamgrey เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 11:42:37

ความคิดเห็นที่ 94 ดูเหมือนว่าช่องว่างของความเข้าใจจะต่างกันพอสมควรอยู่นะในกรณีนี้ ผมว่าประเด็นว่า "ขอบเขตของความพอดี" มันควรอยู่ตรงไหนนี่น่าสนใจ เพราะอย่าลืมว่าประเด็นนี้มันก็ไม่ได้มีกฎข้อบังคับอะไรออกมาที่ชัดเจน อยู่ที่จิตสำนึกเป็นหลัก ซึ่งตรงนี้แหละเป็นปัญหาเพราะว่า... ไม้บรรทัดของความพอดีของหลายๆ คนก็แตกต่างกัน บ่อยครั้งเราเอาไม้บรรทัดของเราไปวัดคนอื่นจนลืมไปว่า บางทีไม้บรรทัดนั้นมันอาจจะไม่ได้เป็นมาตรวัดที่เหมาะสมสำหรับคนอื่นๆ ก็เป็นไปได้ การเอาพิธีรับปริญญากับงานบวชมาเทียบกันผมว่ามันก็แปลกๆ อยู่นะ  เพราะงานบวช หลังบวชเสร็จแล้ว เณรหรือพระก็ยังต้องอยู่ในสถานะนั้น และต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้   แต่สำหรับบัณฑิตผมว่ามันต่างไปเยอะมาก หลังหรือก่อนเข้าหอประชุม ผมว่าก็ไม่เห็นจำเป็นต้องเคร่งเครียดอะไรมากมาย เพราะบรรยากาศในวันนั้นมันเป็นบรรยากาศของความสุข ควาบอบอุ่น ความยินดีที่บัณฑิตและคนในครอบครัว รวมไปถึงญาติสนิทมิตรสหายที่มาร่วมงานจะมาสื่อผ่านความยินดีนั้นถึงกัน มากบ้าง น้อยบ้างก็แล้วแต่พื้นฐานทางความคิด และปัจจัยชีวิตของแต่ละคน ตรงนี้แหละที่ทำให้ผมชอบถ่ายภาพงานรับปริญญา เพราะผมชอบบรรยากาศแห่งความสุขตรงนี้ ชอบเห็นคนยิ้มแย้มแจ่มใส พบปะกันด้วยรอยยิ้ม หรือกระทั่งหยดน้ำตาแห่งความสุขใจ ผมเลยเลิกที่จะมาถ่ายหากว่ามีเวลา เพราะมันเติมเต็มความสุขให้กับผมด้วยเช่นกัน จากนั้นช่างภาพคือคนที่ต้องใช้วิจารณญาณในการถ่ายภาพว่าอะไรเหมาะสมกับคนกลุ่มไหนบ้าง อย่างถ้าบัณฑิตเป็นคนเงียบๆ เรียบร้อย ไม่ค่อยเน้นถ่ายเฮฮาอะไรมากมาย การจะไปบังคับให้น้องกระโดด นอนกลิ้งไปกลิ้งมา มันก็ไม่สมควร เพราะทำให้น้องรู้สึกไม่สบายใจ ดังนั้นการถ่ายภาพก็ควรเป็นไปตามบุคลิกของแบบ เพื่อสื่อให้เห็นถึงตัวตนของน้องเขาในวันนั้น แต่ในขณะเดียวกันถ้าน้องเขาเป็นคนสนุกสนานเฮฮา อยากโพสท่าแบบที่ในวันข้างหน้าดูแล้วยิ้มได้ คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ในวันนั้นได้ และสำหรับผมแล้วมันดูไม่เกินพอดีในมาตรวัดของผม  ผมก็ถ่ายให้ได้  แต่อันไหนไม่เหมาะสม เช่นถอดครุยมานั่งทับ โพสท่าเซ็ตซี่ในชุดครุย หรืออะไรทำนองนี้เราก็ต้องเตือนว่ามันไม่เหมาะ เปลี่ยนท่าอื่นดีกว่านะ   แต่ถ้าน้องจะกระโดดกับเพื่อนๆ นอนล้อมกันเป็นวงกลมแล้วให้ถ่ายกดลงมา หรือใส่แว่นโพสท่าสนุกสนาน ผมว่ามันก็ไม่น่าจะผิดที่จะถ่าย ตราบใดที่ไม่ได้ไปทำอย่างนั้นระหว่างเข้าหอประชุม ส่วนตัวยอมรับว่าผมไม่เคยรับปริญญาที่ไทยไม่ว่าจะ ป.ตรีหรือป.โท อาจจะไม่ค่อยอินกับบรรยากาศเหมือนคนอื่นๆ ที่เข้ารับที่ไทย แต่ยังไงผมก็มองว่าพิธีการก็ส่วนของพิธีการ บรรยากาศนอกพิธีการก็อีกส่วนหนึ่ง ถ้าออกห้องประชุมมา แล้วผมว่ามันก็ไม่เสียหายที่จะถ่ายให้ได้บรรยากาศที่ครอบคลุมความรู้สึกของบัณฑิตในวันนั้น ภายใต้กรอบของความพอดีจากมาตรวัดไม้บรรทัดของผม พิธีการเป็นสิ่งที่ดี แต่ไม่ได้หมายความว่าวันนั้นทั้งวันบัณฑิตต้องเรียบร้อยตลอดเวลา สนุกสนานเฮฮากับเพื่อนๆ ไม่ได้หรอกมั้งครับ งานถ่ายภาพรับปริญญาในปัจจุบันมันก็อิงไปทางแนวแฟชั่น Portrait ไปพอสมควร ดังนั้นจะให้ยืนเรียบร้อย โพสเป๊ะๆ ทั้งพันรูป มันก็ไม่ได้หรอกครับ แต่ยังไงผมก็เชื่อว่าสัดส่วนรูปมันก็ต้องถูกแบ่งไว้อย่างเหมาะสม รูปพิธีการ จัดท่าทางให้เรียบร้อย ยังไงก็ต้องเป็นสัดส่วนที่เยอะที่สุด เพราะรูปส่วนนี้มักจะถูกอัดออกมาใส่อัลบั้มให้พ่อแม่ หรือญาติพี่น้องดูเป็นหลัก รูปบรรยากาศสนุกสนานเฮฮากับเพื่อนๆ ญาติพี่น้องมันก็ต้องมี อาจจะไม่เยอะมาก ซึ่งปกติภาพพวกนี้อาจจะไม่ได้ถูกอัดออกมาใส่อัลบั้มมากนัก แต่จะเน้นโพสกันในเน็ต ลงใน FB แล้ว tag ให้เพื่อนๆ ดูกันมากกว่า เอาไว้ดูเล่นสนุกสนานกัน รูปเฮฮาขั้นสุด อย่างกระโดด โพสท่าขำๆ หรือโพสท่าแฟชั่นฮิตๆ อย่างตอนนี้ถ่ยรูปหมู่บัณฑิตสาวก็ต้องมีท่า Nobody อะไรทำนองนี้  ผมว่ามันก็มีบ้าง แต่ยังไงสัดส่วนมันก็ต้องน้อยกว่าสองเซ็ตด้านบนอยู่ดี มันก็ไม่แปลก ภาพพวกนี้ส่วนใหญ่บัณฑิตก็เก็บไว้ดูเองในคอม ไม่ค่อยอัดออกมามากนักหรอก หรืออย่างมากก็โพสลง FB หรือส่งเมล์ให้เพื่อนๆ ดู  ซึ่งตรงนี้คงเป็นภาพที่กลายเป็นประเด็น ณ เวลานี้  ซึ่งผมว่าถ้าไม่ได้ถ่ายแบบนี้เป็นพันรูป จนไม่มีรูปดีๆ เรียบร้อยเลย มันก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา   แต่ถ้าตากล้องคนไหนเอาภาพแนวนี้เป็นสัดส่วนหลัก อันนี้ก็อีกกรณีหนึ่งครับ ส่วนตัวผมเชื่อว่าการถ่ายภาพงานรับปริญญามันค่อยๆ เปลี่ยนไปตามวีถี จะให้เหมือนสมัยสิบปีที่แล้วก็คงไม่ได้ มันก็พัฒนากันไปตามกระแสสังคม ส่วนช่างภาพก็ต้องคอยดูแลให้ทุกอย่างมันไม่ดูน่าเกลียดเกินไป เพราะถ้าช่างภาพคุมไม่ได้ บัณฑิตจะถ่ายอะไร ไม่เหมาะสมแค่ไหนก็ไม่แคร์กดชัตเตอร์อย่างเดียว มันก็จะทำให้ภาพลักษณ์ของเขาเสียไปเอง อย่างรูปกระโดดนี่บ่อยไปครับที่พ่อแม่ของบัณฑิตมายืนเข้าเฟรมด้วย อย่างให้ญาติๆ ยืนด้านหน้า แล้วน้องบัณฑิตกับเพื่อนๆ หรือญาติๆ ที่อายุไม่มากนัก คอยกระโดดอยู่ด้านหลัง พร้อมกับใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส และบ่อยครั้งไปที่ภาพแนวนี้ เมื่อเทียบกับภาพที่ให้ยืนเรียบร้อย โพสเป๊ะๆ ช็อตก่อนหน้า กลับถูกเลือกให้ผมเอาไปอัดขยายให้ เพราะน้องเขาบอกว่าที่บ้านชอบรูปนี้มากกว่า มันดูมีชีวิตชีวาดี ดังนั้นอย่าไปคิดว่าไม้บรรทัดเรื่องความพอดีของเราจะถูกต้อง หรือถูกใจคนอื่นๆ เสมอไปครับ ผมเชื่อว่าในกรณีภาพรับปริญญา ถ้าญาติพี่น้อง หรือครอบครัวน้องเขาไม่ตำหนิ และยิ้มแย้มแจ่มใสกับความสุขของบัณฑิตในวันนั้น น้องจะกระโดดบ้าง จะใส่แว่นบ้าง จะโพสท่าสนุกสนานบ้าง มันก็คงจะแปลกๆ ที่คนอื่นจะมาบอกว่าไม่เหมาะสม สุดท้ายผมเชื่อว่าทุกอย่างมันเป็นไปตามวิถีครับ คนที่ถ่ายภาพดี มีมาตรวัดส่วนตัวที่เหมาะสม ยังไงงานก็มาเรื่อยๆ ขอแค่มีความรับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองทำให้มาก จากนั้นสิ่งที่ตามมามันก็จะทดแทนคำตอบทุกอย่างได้ดีที่สุดครับ แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 53 12:17:26 จากคุณ : Mr. Forever เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 12:16:50

ความคิดเห็นที่ 95 เห็นด้วยทุกตัวอักษรกับพี่ Mr.PIE จากคุณ : Pollutor เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 12:46:32

ความคิดเห็นที่ 96 มันน่าจะเป็นเรื่องของยุคสมัย.....ไม่จำเป็นต้องเถียงกัน....รุ่นเก่าไปรุ่นใหม่มา ค่านิยมมันจะเปลี่ยนเอง จากคุณ : poltanapol (poltanapol) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 12:58:11

ความคิดเห็นที่ 97 ผมถ่ายรูปรับปริญญา (แบบหาเงิน) มาก่อนเรียนจบ ก่ิอนหน้านั้นอาจมีถ่ายหวือหวา  เล่นท่า เล่นมุม เล่นแฟลชมากมาย แต่พอผมรับปริญญาเรียบร้อยแล้ว  ช่างภาพที่ถ่ายผมก็เจ๋งมากๆด้วย  มุมมองสุดยอด มีรูปหวือหวาบ้างประปราย สุดท้ายรูปที่ผมดูบ่อยที่สุด คือ รูปตรงๆ คู่กับเพื่อนๆ  รูปบรรยากาศ รูปเดี่ยวก็ดู แต่ดูไม่มาก หลังจากนั้น ผมก็เปลี่ยนแนวถ่ายภาพไป คือไม่เน้นหวือหวามาก  คือมีเป็นน้ำจิ้ม ให้ความสำคัญกับ จังหวะ และอารมณ์ของภาำพมากกว่า เรื่องเอาซอฟท์บอกซ์ เอาแฟลช+ขาตั้ง ไปแยกแฟลช สามสี่ตัว ไม่มีวันเลยสำหรับผม  ไม่ได้บอกว่าไม่ดีนะครับ คือมันสวยแต่ว่า มันไม่ได้เก็บความทรงจำได้ดีเท่าไรในมุมมองภาพรับปริญญาครับ จากคุณ : GrooveRaiders เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 12:58:45

ความคิดเห็นที่ 98 เห็นด้วยกับ #90 Mr.PIE จากคุณ : [JO][JA] เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 13:33:57

ความคิดเห็นที่ 99   ลงชื่อเห็นด้วยกับคุณ Mr.PIE  และ Mr. Forever ครับ จากคุณ : ปลาดุกหม่นหมอง เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 14:04:19

ความคิดเห็นที่ 100 ผมคิดเหมือนคุณ NungS นะว่า การใส่ชุดครุยนอนกลิ้งไปกลิ้้งมาถ่ายภาพหรือทำท่าแผลงๆนั้นไม่ควรครับ แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 53 18:00:15 จากคุณ : babu_radio เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 14:17:09

ความคิดเห็นที่ 101 >> เราต่างรู้กันอยู่ว่าสถานะของทั้ง2แบบแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงครับ ไม่น่าเอามาเปรียบเทียบกันได้นะครับ.. ไม่ถึงกับสิ้นเชิงครับ ขอตอบทั้งคุณ Mr.Pie และ Mr.Fusion เอ๊ย คุณ Mr.Forever ... สิ่งที่พระบวชใหม่ กับ บัณฑิต ต่างกันอยู่อย่าง คือ ชุดที่สวมใส่ พระท่าน .. ใส่แล้วไม่ได้ถอดออก จีวร จึงเป็นหนึ่งในสิ่งที่บอก เตือน (และบังคับให้สังวรณ์ทุกขณะจิต) ว่า .. ท่านเป็นภิกษุในบวรพุทธศาสนา มิใช่เป็นเพียงนายนู่น นายนั่น นายนี่ ฉะนั้น การกระโดดโลดเต้นในชุดจีวร  มิใช่กิจอันภิกษุในธรรมวินัยนี้ พึงควรกระทำ (ถ้าทำ ต้องอาบัติด้วย) ชุดครุย .. ถึงไม่ได้"บังคับ" เช่นเดียวกับผ้ากาสาวพัตร์ แต่ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่บอก เตือนว่า .. พวกเธอไม่ใช่เด็กไร้เดียงสาแล้วนะ เป็นผู้ใหญ่ มีความรู้ (บัณฑิต) นอกจากบอกเตือนแล้ว ชุดครุย ไม่ใช่แค่ "เสื้อผ้าธรรมดา" ไม่อย่างนั้น คงไม่มีกฏหมายที่ออกมาโดยเฉพาะ เพื่อกำหนดรูป แบบ วิธีใช้ ฯลฯ อย่างนั้นหรอก ... จะเห็นได้ว่า จขกท. (ต้องอ้า่งถึง เพราะเขาเป็นคนตั้งกระทู้) และ คนอื่นๆ ส่วนใหญ่ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า .. จะทำอะไรที่มัน ไม่สำรวม ก็ ให้ถอดครุยออกเก็บให้เรียบร้อยเสียก่อน ท่านจึงควรพิจารณาเรื่องนี้ ให้ดีๆ .. ไม่อย่างนั้น จะหลงประเด็น จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 14:26:20

ความคิดเห็นที่ 102 อ้อ อีกประการ ที่ผมนำเรื่องพระบวชใหม่ มาเปรียบเทียบให้ดู เพราะเป็นอะไรที่เห็นชัดกว่า ตัวอย่างอื่นๆ แน่หละ ชุดครุย ไม่ได้ศักดิ์สิทธิ หรือ ทรงคุณค่าเท่ากาสาวพัตร์ แต่ มีอะไรอีก ที่เหนือกว่าชุดครุย และสามารถนำมาเป็นตัวอย่างเปรียบเทียบ โดยมี contrast ที่ชัดเจนเท่านี้ ... จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 14:29:09

ความคิดเห็นที่ 103 .. ผมเห็นด้วยทั้งในส่วนของน้าพาย และน้าแมวเหมียว โดยส่วนตัว ผมถ่ายรูปรับปริญญาออกจะติดแนวโบราณนิดๆ ไม่หวือหวามาก  แต่ทั้งนี้หากไม่ทำอะไรที่ดูไม่เหมาะสม หรือเกินเลยมากไป ผมก็หยวนๆครับ จะกระโดดบ้าง ทำท่าตลกๆฮาๆบ้าง ถ้าไม่มากไปก็ถ่ายให้  เพราะผมก็เข้าใจอารมณ์บัณฑิต ว่าอยากสนุกสนานบ้าง อยากได้แอ็คชั่นแปลกๆใหม่ๆบ้าง แต่ถ้ามากไป ผมก็เตือนๆครับ ... ซึ่งส่วนใหญ่ก็ฟังล่ะ เพราะรู้จักกันอยู่แล้ว อิอิ ป.ล. ฝากข่าวสำหรับปีนี้ ฝากถ้าน้าๆทุกท่านที่กำลังจะไปถ่ายรูป บัณฑิตจุฬาฯ  หน่อยนะครับ ... พอดีไปเห็นว่า มีประกาศอย่างเป็นทางการจากมหาวิทยาลัยเลย  ดังนี้ครับ มหาวิทยาลัยขอให้งดเว้นการประดับดอกไม้บนเสื้อครุยโดยเด็ดขาด รวมทั้งการประดับดอกไม้บนศีรษะบัณฑิต เพราะเสื้อครุยจุฬาฯ เป็นเสื้อครุยพระราชทาน มีพระเกี้ยวศิราภรณ์ประดับบนพระมหาพิชัยมงกุฎประดับอยู่ การแต่งกายชุดครุยไม่ว่าอยู่ในอิริยาบถใดจึงควรกระทำด้วยความสุภาพ เผื่อใครไม่ทราบ แล้วไปประดับอะไรบนครุย สวมดอกไม้ หรืออุปกรณ์แฟชั่นอื่นๆให้บัณฑิต เดี๋ยวจะดูไม่เหมาะสมครับ **  ผมไปถ่ายวันซ้อม เพื่อนบัณฑิต ซื้อที่คาดผมหูกระต่ายมาให้ (-__-")  บัณฑิตก็สวม เพื่อนๆก็ปลื้ม  ครั้นจะไม่ถ่ายให้ก็ไม่ได้ ... แต่ยังโชคดีที่ เค้าซื้อมามอบให้กันในร้านอาหาร  ไม่ได้สวมหรือถ่ายในมหาวิทยาลัย (ที่สำคัญ ผมไม่โพสต์รูปในที่สาธารณะ) ก็ฝากน้าๆให้ทราบแล้วกันครับ .. จากคุณ : POGGHI เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 15:48:55

ความคิดเห็นที่ 104 ปลากรอบน้อยจัง จากคุณ : กลัวที่หนาย เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 16:57:05

ความคิดเห็นที่ 105 เพิ่งรู้ เดี๋ยวนี้ผมกลายเป็นพวกนิยมลัทธิแล้วเหรอเนี่ย ว่าแต่ผมอยู่ลัทธิกลุ่มไหน ถ้ามีชื่อบอกหน่อยก็ได้ ผมไม่รู้จริงๆ จากคุณ : Pollutor เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 17:39:25

ความคิดเห็นที่ 106 ถ้าตากล้องรับเองถ่ายเองบ้าง โยนให้น้องถ่ายบ้าง เรียกว่าความทรงจำดีกว่าครับ จากคุณ : nusserzx (NusseRzx) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 19:02:46

ความคิดเห็นที่ 107   งืมๆๆๆๆ จากคุณ : kortan เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 21:46:41

ความคิดเห็นที่ 108 อ่านยาวๆครับ ความเห็นของคนเหมือนไม้บรรทัดส่นตัวตัว มันไม่เหมือนกันเลย จากคุณ : nongran เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 53 00:33:00

ความคิดเห็นที่ 109 ตามที่น้าๆ หลายๆท่านกล่าวไว้ การทำสิ่งใดก็ตาม ควรอยู่ในกรอบ อยู่ในความเหมาะสมตามสมควร ตามความพอดีของแต่ละคน แล้วแต่ว่าใครจะคิดได้มากน้อยแค่ไหน แต่ละคนก็มักมีกรอบความคิด ความพอดีแตกต่างกันออกไป ตามประสบการณ์ชีวิตตน พอดีสำหรับเขา อาจไม่ใช่สำหรับเรา สิ่งที่พึงมีในตัวทุกๆคน คือการเฉลียวอยู่เสมอว่า สิ่งที่ตนทำนั้น ถูกต้อง เหมาะสมแล้ว จริงหรือ ? เราตอบคำถามนี้ได้อย่างเต็มปากเต็มคำรึเปล่า ว่าสิ่งที่เราคิดที่เราทำ ถูกต้องเหมาะสมแล้ว สิ่งที่เราคิดว่าถูก คิดว่าเหมาะ เราตัดสินอยู่บนพื้นฐานความรู้ มากน้อย เพียงพอหรือไม่ เราศึกษาแนวทาง กฎ ข้อบังคับ จารีตประเภณี และคำสอน จนสามารถนำมาคิด ตัดสิน ปฏิบัติใช้ ได้อย่างเหมาะสม หรือเปล่า บ้านเมือง สังคม เปลี่ยน ไม่ใช่ทุกอย่าง จะต้องเปลี่ยน เพราะทุกการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่สิ่งที่ดีเสมอไป ถ้าการเปลี่ยนแปลงนั้น ส่งผลให้เกิดผลเสีย หรือ "แย่ลง" เรายังคิดที่จะเปลี่ยน อยู่อีกหรือ ? บางที การอยู่เหมือนเดิม อาจจะดีเสียกว่า แต่อย่างที่บอก ว่าเมื่อวันเวลาผ่านไป สังคมเปลี่ยน ความคิดคนเปลี่ยน ความหลากหลายทางความคิด มีมากขึ้น การโอนอ่อน ผ่อนผัน ย่อมเกิดขึ้น ตามมาเสมอ แต่ ก็ต้องอยู่บน "ความเหมาะสม" เสมอๆ การถ่ายภาพ โพสท่าผิดจากปกติไปบ้าง ไม่ว่าจะเป็นหัวโต the dog, กระโดด กันสนุกสนาน หรือทำท่าเลียนแบบดารา เช่น nobody หากอยู่ในสถานที่ (ไม่ใช่หอประชุม) และช่วงเวลาที่เหมาะสม (ไม่ใช่ระหว่างพิธีการ) ก็พอที่จะอนุโลมกันได้ ทั้งหลายทั้งมวล อยู่ที่เรา (ตากล้อง) จะย้อนถามตัวเราเองอยู่มั้ย ว่าคำว่า "เหมาะสม" สำหรับเรา มัน "เหมาะสมจริงรึเปล่า" สิ่งที่เราคิดว่าถูก เอาเข้าจริง มันอาจจะผิดก็ได้ สำหรับกลุ่มอนุรักษ์นิยม อย่าให้มันเหมือน "คณะกรรมการตรวจพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ" ที่หัวแข็ง หัวโบราณ เสียจนเกินพอดี (ขอหน่อยเหอะ 55+) และกลุ่ม new generation ก็อย่าให้เกินเลยเสียจนเหมือนเด็กใจแตก ทำอะไร ก็โดนเค้าว่าเอา ว่าไม่รู้จักคิด ความพอดี มันมีครับ แต่เป็นหน้าที่เราทุกคนที่ต้องหามันให้เจอ และนำมาใช้ให้เหมาะสมครับ จากคุณ : Mashi_Naz เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 53 10:28:07

ความคิดเห็นที่ 110 Thailand Only :The land of holinised everything. we can. เราทำได้ แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 53 11:06:29 แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 53 11:03:33 จากคุณ : นักเรียน ม ปลาย เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 53 10:34:42

ความคิดเห็นที่ 111 นานๆ จะเข้ามาที คราวนี้เสวนาเรื่องรับปริญญา ก็ดีครับ มีหลายเรื่องก็น่าคิด น่าแลกเปลี่ยน ขอเสนอมุมมองของผมด้วยคนละครับ อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่า ความเห็น มุมมองของใครถูกที่สุด ผมกำลังมองโลกของการถ่ายภาพในปัจจุบัน ใกล้เคียงการขายสินค้าไปมาก อย่างเช่น เราได้มองเห็นรูปแบบการถ่ายภาพรับปริญญาเดิมๆ ที่เห็นจนตากันอยู่ อาทิ ยืนตรงๆ ถ่ายเต็มตัว ถ่ายยืนเรียงแถวหน้ากระดานแข็งๆ แบบทั่วไปๆ อย่างนี้ คนชมภาพบางท่าน ก็ต้องบอกว่า ธรรมดามากๆ ไปจ้างช่างที่ไหนมา ไม่รู้จักสร้างสรรค์เลย นี่...ดูอย่างฉันสิ เอียงอย่างนี้ มุมแบบนี้ ท่านี้ ขึ้นไปย่างนี้ เจ๋งกว่าเยอะ อย่างนี้ขึ้นอยู่กับผู้บริโภคแล้วครับว่า จะบริโภคอะไรเข้าไป แล้วทีนี้คนหมู่มาก ก็จะได้บริโภคด้วย คือได้เห็นตามมัลติพลายทั่วๆไป ซึ่งหากการมองดูภาพรวมๆเหล่านั้ หากเราดูว่าสวย มันก็ว่าสวย ถ่ายได้อย่างไรภาพนี้ กล้าว่ะ ... ทำได้ไงวะ อะไรทำนองนี้ แต่ในอีกห้วงความคิดที่ ที่ไม่แน่ใจว่าจะมีกันทุกคนหรือไม่ คือ มันสมควรหรือเปล่า ถ่ายแล้วจะดีหรือ อัดไปให้ใครดู ตอนถ่ายมีใครเห็นหรือไม่ ทีนี้มันก็เป็นปัญหาโลกแตกอีกว่า อะไรคือสมควร อะไรคือเกินเลย เป็นผมนะ ก็คงตอบแบบที่อยู่ในใจทุกคนเลยว่า เรียนจนจบปริญญาตรีแล้ว ยังไม่รู้อีกเหรอ ครับคนส่วนใหญ่จะมองภาพเพียงแค่แปลก สวยหรือไม่อีกเรื่องหนึ่ง แต่เบื้องหลังที่ทิ้งปม ก็คือ วิธีการ และผลกระทบ ไม่รู้สินะ เมื่อก่อนผมรับงานถ่ายรับปริญญา ก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากความถูกต้องเรื่องเทคนิคการถ่ายภาพแล้ว อาจจะมาดูแลเรื่องเล็กๆน้อยของบัณฑิต เช่น ท่ายืนที่สง่างาม ปริญญาบัตร ถือระดับนี้ดี หรือยังครับ แล้วก็ถ่ายกันไม่มากครับ อย่างเก่งสุดฟิล์ม 10 ม้วนนี่ไม่ได้ถือว่า ถ่ายมากนะครับ แต่จะถือว่าสิ้นเปลืองมากครับ สำหรับบัณฑิตจบใหม่ (มุมมองของผู้ปกครอง) อุปกรณ์ที่เอาไปก็กล้องฟิลม์ เลนส์นอร์มอล ตัวนึงก็พอ มาสมัยนี้ มันเปลี่ยนไป การถ่ายภาพมันมีอะไรมากขึ้น ขนอุปกรณ์มาทีไหล่แทบทรุด บทบาทของช่างภาพจะมากว่าการถ่ายภาพ จะกลายมาเป็นผู้กำกับไปก็มีครับ ตากล้องรุ่นเก่าๆอย่างพวกเราก็ต้องตามเขาเหมือนกัน  แต่บรรทัดฐานมันยังมีอยู่ครับ เคยมีเหมือนกันที่ก่อนรับงาน (หลาน)บัณฑิตถามว่า มีเลนส์ตัวนี้ไหม สามารถถ่ายแนวนี้ไหม ซึ่งเราก็ต้องตอบตามสมควรที่เราเป็นอยู่ครับ ผมเชื่อว่าบางครั้งเราอาจปฏิเสธลูกค้ายากนะ หากลูกค้าไปชื่นชอบงานของคนอื่น แล้วอยากให้เราคัดลอกตาม สำหรับผมหลายครั้งที่ไม่ได้ปฏิเสธไปทั้งหมด แต่เสนอวิธีการ หรือ รูปแบบที่ทดแทนกัน ให้แทน สำหรับผมแล้วการทำงานที่เซฟตัวเอง และลูกค้าน่าจะดีที่สุด ไม่อยากเสี่ยงโดยไม่จำเป็นครับ เคยไปเจอเรื่องช่างภาพอาวุโสท่านนึง ถ่ายด้วยกล้องฟิลม์ อุปกรณ์บางตัวก็ใช้แบบประยุกต์ คิดค้นเอง ท่านออกจะอายๆนิดกับอุปกรณ์ที่ใช้อยู่ แต่สำหรับผมแล้วก็ชื่นชอบครับ รวมทั้งตัวน้องบัณฑิตด้วยที่มีทัศนคติที่ดี อีกอย่าง ในมุมมองของผม สำหรับแนวการถ่ายภาพรับปริญญาสมัยนี้ ผมไม่ได้ต่อต้าน หรือมีมุมมองร้ายไปซะหมดนะครับ บางภาพผมว่าดูแล้วโอเคนะ ดูแล้วไม่น่าเบื่อ ดูแล้วดูได้นาน ดูแล้วอดยิ้มไม่ได้ ก็มีเยอะครับ ผมว่าการที่ช่างภาพ รวมทั้งบัณฑิต เลือกให้งานออกแบบแหวกแนวกึ่งๆพิศดาร เหตุผลนึงน่าจะมาจาก เบื่อรูปแบบเดิมๆ หรือว่าต้องการสร้างเอกลักษณ์ของตัวเอง  เลยเลือกให้น้ำหนักการสร้างเรื่องราว การเอาตัวแบบเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ มาเป็นอันดับหนึ่ง แต่จริงๆแล้ว น่าจะให้ความสำคัญของเทคนิคการสร้างสรรค์ผลงานมาเป็นเรื่องแรก ลองไปดูงานของต่างประเทศดูสิครับ (อันนี้ผมไม่ได้บอกว่าของฝรั่งจะดีกว่าของเราไม่ครับ แต่บางเรื่องเราก็น่าพิจารณา) ของต่างประเทศ เขาให้ความสำคัญของเทคนิคการถ่ายภาพมากกว่า หรือว่าของเรานางแบบเยอะก็ไม่รู้สิ อย่างนี้ช่างภาพคนไหน ได้บัณฑิตโพสท่าไม่เป็น หน้าตาไม่เด่น ก็ไม่รู้จะแก้ปัญหายังไง เลยถ่ายไปซะอย่างนั้นๆ ยังไง...ฝากให้ช่างภาพที่มีฝีมือดีๆ มีบรรทัดฐาน วิธีคิดที่ดีๆ เอาไว้ช่วยเหลือน้องๆบัณฑิตของเรา ให้มีผลงานออกมามีคุณภาพ ไปพร้อมกับแนวทางที่ดีๆด้วยครับ ขอบคุณ..ครับ จากคุณ : pixa เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 53 10:52:43