ความคิดเห็นที่ 1 สวนรถไฟ ผมเคยได้โทรคุยกับเจ้าหน้าที่ของสวนรถไฟมาแล้ว ได้รับคำยืนยันหนักแน่นว่า "สวนรถไฟไม่ต่อต้านกิจกรรมการถ่ายรูปแต่อย่างใด แต่ขอให้อยู่ในความเหมาะสมกับสถานที่และไม่รบกวนผู้ใช้สวนรถไฟคนอื่นๆ" เช่น การแต่งกายของนางแบบไม่ควรดูโป๊ในเชิงยั่วยุ ตอนโทรได้รับคำบ่นว่าก่อนผมโทรมาอาทิตย์ก่อนมีกลุ่มถ่ายภาพพานางแบบที่แต่งตัวคล้ายเสื้อซีทรู ผ้าบางมากจนเห็นชุดชั้นในข้างใน การถ่ายภาพจะต้องไม่ไปกีดขวางผู้อื่น  เช่นทางเดิน โดยเฉพาะสนามเด็กเล่น ซึ่งผู้ถ่ายภาพทุกท่านต้องใส่ใจว่าผู้มาใช้บริการในสวนรถไฟมีหลายประเภท กลุ่มครอบครัวและเด็กเล็กก็เยอะมาก  ดังนั้นการทำกิจกรรมถ่ายภาพใดๆในสวนรถไฟจะต้องคำนึงถึงความเหมาะสมในเรื่องนี้ด้วย การขออนุญาต ถ้าเป็นหมู่คณะ  ให้ทำหนังสือพร้อมสำเนาบัตรประชาชนของตัวแทนชมรม  แจ้งบอกจุดประสงค์ของการมาทำกิจกรรม จะมากี่่คน และมาวันไหน    โดยต้องแจ้งล่วงหน้าไม่ต่ำกว่า 4 วันทำการครับ จากคุณ : นายผจญภัก เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 53 20:47:28

ความคิดเห็นที่ 2 วัดวาอารามสถานที่สำคัญทางศาสนา  ถ้าเค้าห้ามอย่าไปบ่นเลย เพราะเป็นสถานที่เพื่อประกอบกิจกรรมทางศาสนาไม่ใช่ที่เที่ยวถ่ายรูป วัดดังแถบธิเบต ญี่ปุ่น เค้าก็ห้ามแม้แต่เอากล้องเข้าไปด้วยซ้ำต้องฝากไว้ข้างนอก จากคุณ : นายผจญภัก เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 53 20:49:49

ความคิดเห็นที่ 3 กรณีสถานที่เอกชน  เช่นรีสอร์ตร้านอาหารสวย หลายที่แรกๆไม่ห้ามครับ แต่ที่มาเริ่มห้าม  เพราะพฤติกรรมที่ไม่เกรงใจคนรอบข้างของคนถ่ายภาพ เช่นคุยเฮฮาเสียงดังเกินควร  ใช้แสงแฟลชซึ่งเป็นการรบกวนการมาพักผ่อนของคนอื่นๆ   อีกข้อที่ได้ยินมาคือมากันหลายคนมากและนั่งแช่คุยกันหรือลองอุปกรณ์กันนานมาก  แต่สั่งน้ำแก้วเดียว   จริงๆมันไม่ใช่ข้อบังคับหรือกฏหมายแต่อย่างใด แต่น่าจะเรียกว่ามารยาทในการใช้สถานที่ของผู้อื่นมากกว่า  มาสิบคนอย่างน้อยน้ำคนละแก้วก็ยังช่วยอุดหนุนร้านเค้าได้  เชื่อเถอะถอยเลนแพงๆกันได้ น้ำแก้วนึงเฉลี่ยน่าจะร้อยนึงช่วยๆเค้าหน่อย  ถ้าบ่นว่าน้ำอะไรแพงก็ไปร้านที่น้ำถูกกว่าได้ ร้านสวยๆไม่ได้เสกมาจากอากาศได้ ทางร้านเค้าต้องลงทุนพอสมควรครับ ทั้งการตกแต่งก็หลายตังอยู่ แอร์เย็นๆที่เปิดให้มานั่งมีตติ้งกันร้านก็ต้องจ่ายค่าไฟ และสำคัญที่สุดการสำรวมสนุกให้อยู่ในขอบเขตเมื่อคุณต้องแชร์สถานที่ในร้านร่วมกับแขกที่มากินอาหารในร้านคนอื่นๆ ยกเว้นคุณเหมาสถานที่แล้วก็ว่ากันไปตามเรื่อง จากคุณ : นายผจญภัก เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 53 20:58:11

ความคิดเห็นที่ 4 แม้แต่สถานที่สาธารณะทั้งหลายใช่ว่าบ้านเมืองอื่นจะไม่มีการห้าม เมื่อมีการถ่ายที่ดูจริงจังมากเค้าก็ห้ามเหมือนกันครับ ผมอ่านหนังสือของ Joe Mcnally  The moment it click ในหนังสือพูดบ่อยมากเรื่องการทำเรื่องขออนุญาตถ่ายภาพในสถานที่ต่างๆ จากคุณ : นายผจญภัก เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 53 21:01:27

ความคิดเห็นที่ 5 จริงๆหลายๆสถานที่ในไทยเค้าก็เปิดช่องให้เราทำเรื่องขออนุญาตให้ถูกต้องได้ครับ แต่ปัญหาจริงๆที่เห็นส่วนมากคือคนไทยมักไม่ค่อยทำตามขั้นตอน เค้ายินดีให้ขออนุญาตเป็นเรื่องเป็นราวได้ก็ไม่ขอ  พอเค้าเจอและห้ามก็มาโพสต์ด่าในเนต จากคุณ : นายผจญภัก เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 53 21:04:08

ความคิดเห็นที่ 6 แน่นอนบางสถานที่ที่ผู้ดูแลงี่เง่าไร้เหตุผลก็มี ซึ่งควรแก้ปัญหาเป็นกรณีๆไป แต่อย่าตีขลุม อาจจะมีคนบอกฟ้องหน่วยงานไปก็เปล่าประโยชน์ไ่ม่ได้ดำเนินการอะไรเลย ผมมองแบบนี้นั่นแสดงว่าปัญหาคือนิสัยแบบไทยๆ  ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง   ที่มันแย่กันมาถึงขนาดนี้ต้องบอกตรงๆเพราะคนไทยทุกๆคนครับ เราบอกเมื่อใหร่คนไทยจะมีวินัยแต่ถ้าเรายังเป็นอีกคนที่ละเมิดวินัยอยู่ แล้วเมื่อใหร่ล่ะที่คนไทยจะมีวินัย ? จากคุณ : นายผจญภัก เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 53 21:07:54

ความคิดเห็นที่ 7 เห็นด้วยกับ จขกท. มากมายครับ จากคุณ : tiny worm เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 53 21:14:57

ความคิดเห็นที่ 8 ใช่คับ.... ที่ผ่านมาที่เคยทำเรื่องขอเข้าไปทำกิจกรรมถ่ายรูป เป็นหมู่คณะ 20-30++ คน ได้รับการอนุญาตมาโดยตลอด ที่มีทำเรื่องไปก่อน... U-camera (10/5/2008) Central World  (14/8/2008) การแข่งขันรถยนต์/จักรยานยนต์ Super car Thailand (6 ครั้ง 2008-2009) ไปแล้วค่อยทำเรื่องขอ.... สวนรถไฟ (26/9/2009...เข้าไปทำเรื่องขอพร้อมกับเพื่อน) สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ (6/4/2009...เข้าทำเรื่องขอพร้อมกับเพื่อน) ทั้งหมดนี่ตัวเองเป็นคนทำเรื่องขอ ยังไม่เคยมีที่ไหนที่ทำเรื่องขอไปแล้วไม่ให้คับ มีอีกหลายที่หลายกิจกรรมที่ไม่ใช่ตัวเองเป็นคนทำเรื่องขอ แต่ได้ไปร่วมกิจกรรม ผู้จัดก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด คนเราบางทีก็ชอบเลือกทำสิ่งที่ถูกใจแต่...ไม่ถูกต้อง เพราะมันง่าย ถ้าลองปรับมุมมองเปลี่ยนมาทำสิ่งที่ ถูกต้อง แต่...ไม่ถูกใจ บ้างก็ดีนะ [^_________________^] ปล. จัดระยะบรรทัดคับ แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 53 21:26:03 จากคุณ : DeE dEe เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 53 21:24:29

ความคิดเห็นที่ 9 คุณ DeE dEd รบกวนตอบให้หน่อยครับว่า ตอนขอที่ Central world นั้นทำอย่างไร เผื่อตอนที่กลับมาเปิดอีกรอบ จะได้ไปลองถ่ายบ้าง แต่ก่อนถ่ายแต่ไม่เคยขอเลย ผมไม่ทราบว่าจะไปขอกับส่วนไหนของห้างดี หรือว่าจะเดินทางไปพบกับเจ้าหน้าที่ได้ที่ไหนน่ะครับ จากคุณ : Specie เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 53 21:53:32

ความคิดเห็นที่ 10 สรุปโดยรวมก็แล้วแต่สถานที่ เป็นกรณีไป อย่าตีขลุมตามที่น้าบอก ผมว่าเรื่องมันมาจากข้อสงสัยว่า "ทำไมต้องห้าม" กับบางที่ที่ไม่น่าห้าม...ไม่ใช่ถ้าห้าม ฉันก็จะผิดวินัย เอาแต่ใจ ถ่ายให้ได้ จากคุณ : GoE Online เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 53 22:14:06

ความคิดเห็นที่ 11 Specie...ติดต่อไปที่นี่คับ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด /บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ออฟฟิศจะอยู่ข้างบนสุด ไปตรง tops ขึ้นบันไดเลื่อนไปอีก อยู่ด้านซ้ายมือ อันนี้ชักลืม ๆ ขึ้นไปติดต่อเป็นปีแล้ว...ลองถาม รปภ.ดูแล้วกัน ถ้าบอกผิด[^^"] ปรกติไปเดินอยู่แถว Zen ...Atrium กะ Isetan มากกว่า ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่อง รปภ.ดุ อันนี้จริง แต่ถือว่าเขาดูแลพื้่นที่ตามหน้าที่ได้ดีมาก ขนาดขออนุญาตแล้ว ถ้าย้ายโซนปั๊บ รปภ.ที่คุมโซนนั้น เห็นจะมาถามหาเอกสารขออนุญาต และมายืนคุมทันที ืมันก็เพื่อป้องกันการรบกวนลูกค้าท่านอื่น ๆ ด้วยไง โดยเฉพาะ Zone CTW square นี่ทางเขาขอเลยว่า ห้ามถ่ายโดยมีร้านอาหารเป็นฉากหลัง และถ้าจะถ่ายในร้านอาหาร ให้ติดต่อขออนุญาตกับทางร้านอาหารเองโดยตรง ถ้าอยากได้ตัวอย่างจดหมาย หลังไมค์อีเมล์มาจะส่งไฟล์ให้ ยังมีเก็บไว้อยู่ [^^] ...... ปล. ปรกติถ้าเป็นนักท่องเที่ยว ลูกค้าใช้บริการ กล้องตัวเดียว ถ่ายเพื่อนถ่ายแฟนเหมือนจะไม่มีปัญหานะคับ เพราะไปกินข้าว ปาร์ตี้ กับเพื่อนผู้หญิง ใช้ Dslr ถ่าย รปภ.ก็จะมายืนคุมเหมือนกันแต่ไม่ได้ห้าม เพราะเห็นว่า เป็นลูกค้ามาเที่ยวใช้บริการ แต่ที่ำทำเรื่องขอไปเพราะไปกันเยอะเกิน 20 แน่ ๆ มีนางแบบอีก ใช้กล้อง DSLR หมดทุกคนด้วย ก็ทำเรื่องขอเข้าไปก่อน วันนั้นที่มีทติ้งกัน ลูกค้ายังมามุง เงยหน้าขึ้นไปทุกชั้นจะมีคนยืนมองลงมา แล้วก็มีคนเข้ามาถามว่า ถ่ายโฆษณาอะไรกันเหรอด้วย แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 53 22:32:07 จากคุณ : DeE dEe เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 53 22:24:31

ความคิดเห็นที่ 12 มายืนยันอีกเสียงว่าเซนทรัลใจดี CTW ตะก่อน ในตัวห้างอาจจะห้าม แต่ตรงระเบียงแก้ว ถ่ายได้ไม่มีปัญหาใดๆ ไปพอเทรทมาหลายรอบ เคยโดนยามมาสะกิดเตือนครั้งนึง เพราะ....แหะๆๆ ลงไปนอนถ่าย เอ๊กไซ๊จัด จากคุณ : Papercut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 53 22:52:15

ความคิดเห็นที่ 13 เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ค่ะ แต่ประสบการณ์ที่เคยเจอ มันก็อดไม่ได้กับวิจารณญาณของ ยามหรือผู้ดูแลสถานที่ ขออนุญาตเอ่ยเผื่อมีข้อแก้ต่างนะคะ เมื่อ 1-2 ปีที่แล้วตอนซื้อน้อง 450D ใหม่ๆ ได้ 3 วัน ติดกล้องไว้ในรถตลอด บังเอิญ ออกไปซื้ออาหารกระต่ายที่สนามหลวง 2 แต่่งตัวอยู่บ้านสุดฤทธิ์ แว่นตาหนาเตอะ ชุดอยู่บ้านมอๆ รองเท้าแตะ หน้าโทรมๆ อารมณ์เดี๋ยวก็กลับ บังเอิญเป็นวันธรรมดา ตอนบ่ายๆ คนน้อยมากๆ และวันนั้นอากาศดี (ดีที่นี้คือไม่ค่อยมีแดดน่ะค่ะ ไม่ค่อยชอบแดดเปรี้ยง) หลังซื้ออาหารกระต่ายเสร็จ ก็เลยอยากลองเล่นกล้องซะหน่อย เดินชิลๆ ไปในสวนสาธารณะ เดินเล่น ออกกำลังกายที่เครื่องเล่นที่วางในสวนไปเรื่อย และสะพายกระเป๋ากล้องสี่เหลี่ยมก็ไซส์เล็กๆ ทั่วๆไป  พอตอนหยิบกล้องมาถ่ายไปสัก 10 นาที มียาม 2 คน เข้ามาบอกไม่ให้ถ่ายรูป เราก็เลยเก็บ อย่างงง เอ สงสัยไม่เห็นป้ายว่าห้ามถ่ายรูป ไม่ถ่ายก็ไม่ถ่าย แต่ปรากฏว่า มองปราดไปก็เห็นมีคนถ่ายรูปกัน  2-3 กลุ่ม เป็นกลุ่ม พ่อ แม่ ลูก  บ้างก็นักเรียนด้วยกล้องมือถือบ้าง กล้องคอมแพคบ้าง   ด้วยความสงสัยอย่างมาก ว่าต้องจ่ายเงินค่าถ่ายรูปหรือเปล่าถึงถ่ายได้ เลยไปถามยามคนเดิม ว่าทำไมคนพวกนั้นถึงถ่ายได้ คำตอบ"อ้อ พวกนั้น เขาถ่ายเล่นๆ แต่คุณน่ะ มาถ่ายเชิงพาณิชย์ เพราะกล้องคุณน่ะกล้องมือโปร" เรา"??" ทุกวันนี้ไม่กล้าไปถ่ายรูปที่  "สวนสาธารณะ"   ใดๆๆอีกต่อไปเลยค่ะ จากคุณ : taekwondo (taekwondo) เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 53 23:33:44

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณครับ ปกติไปหลืบๆตรงด้านหลัง ร้านซักอย่างที่ขายของไทยๆ สุดทางเดินที่เชื่อมต่อจาก Skywalk จะมีหนักงานหรือยามมานั่งหลบพักเหนื่อยบ่อยๆ ปกติไม่มีคน แต่ช่วงหลังๆ ยามเริ่มมาตรวจมากขึ้น เลยอยากจะขอให้เป็นถูกต้องไปเลย จากคุณ : Specie เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 53 23:45:42

ความคิดเห็นที่ 16 เรียนคุณ อะมี การสัญญาของคุณ การผูกใจเจ็บ การเถรตรง เป็นเอกสิทธิ์ส่วนบุคคลของแต่ละคนอยู่แล้ว   ยินดีด้วยที่เลือกทางนั้น และหวังว่าจะมีความสุขดีในสิ่งที่เลือกครับ จากคุณ : ทะเลลงตับ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 01:54:09

ความคิดเห็นที่ 17 ความเห็นที่ 15 ในที่สุดก็โผล่มาจนได้ น่าเบื่อนะครับ มั่นใจ ไร้สติ สนใจคำว่าถูกต้อง เป็นบ้างไหมครับ เพราะคนแบบนี้ ทำให้เกิดการห้าม เพราะไม่มีความเกรงใจในกมลสันดาน นอกจากต้องเคารพกฎหมายแล้วสังคมยังมี จรรยาบรรณ ค่านิยม และมารยาท ซึ่งแม้ไม่ได้มีการเขียนไว้ชัดเจน แต่ผู้มีการศึกษาและมีสามัญสำนึกแห่งการอยู่ร่วมในสังคมควรพึงมี แล้วคนคนเดียวก็กำลังจำทำให้คนอีกมากมายต้องเดือดร้อน เพราะถ้ามีใครมาอ่านแล้วต้องคอยระวังคนคนเดียวอย่างคุณ มันจะเกิดผลกระทบกับคนอื่นอีกเท่าไหร่ ถ้าบริษัทใดๆตัดสินว่าคนถ่ายรูปจะเป็นอย่างคุณหรือเพื่อป้องกันคนถ่ายรูปที่จะเป็นอย่างคุณจนไม่ให้โอกาสคนอื่น คุณรับผิดชอบได้หรือเปล่า เบื่อครับ ขอถ่ายห้องนอนคุณแก้เซ็งหน่อยได้ไหมครับ? ห้ามเหรอ? ทำให้ถูกมันยากนักเหรอครับ อย่าเห็นเป็นความผิดเล็กน้อย แล้วจึงกระทำ อย่าเห็นเป็นความดีเล็กน้อย แล้วจึงไม่กระทำ แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 03:23:35 จากคุณ : grit (solely) เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 03:20:13

ความคิดเห็นที่ 18   อ่าน คห 15 แล้วฮาดี ถ้าไม่คิดอะไรมากนะ มุสาวาทา เวรมนี สิขาปะทัง สะมาธิยามิ (ละเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ) จากคุณ : DSkong เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 03:30:32

ความคิดเห็นที่ 19 สังคมคนหมู่มากมันก็ต้องตามก็ต้องตามกฎกันไป เราก็ไปมาเยอะ พิพิธภัณฑ์เนี่ย ทั้งยุโรปอเมริกา มีทั้งถ่ายรูปได้และไม่ได้ บ้างก็ห้ามบางโซน บ้างก็ถ่ายได้แต่ห้ามโพสทเพราะมีเรื่องลิขสิทธ์ ที่ไหนห้ามถ่ายเราก็ไม่ถ่ายก็เท่านั้น เรื่องที่บอกว่าใครเปิดแฟลชแล้วค่อยมาปรับเนี่นเราไม่เห็นด้วยนะ เพราะค่าปรับมันทดแทนศิลปวัตถุที่มันเสียหายไปแล้วไม่ได้ จากคุณ : Toom-bs เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 07:19:02

ความคิดเห็นที่ 20 ..เกิดอะไรขึ้นกับ #15 อ่ะครับ ผมมาไม่ทัน จากคุณ : สายลมอิสาน เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 07:23:09

ความคิดเห็นที่ 21 ต่างคนก็ต่างมีเหตุผลของตนเอง คนที่บอกว่า ห้ามทำไม ก็มีเหตุผลของเค้า เค้ามาช่วยโฆษณานะ ไม่ดีหรอ? คนทีบอกว่า ห้ามดีแล้ว ก็มีเหตุผลของเค้า คนไทยทำลุมล่ามไว้เยอะ ห้ามดีแล้ว อยากถ่ายก็มาทำเรื่องขอสิ?   คนนึงก็โอ๊ยวุ่นวาย เอาไรนักหนา แค่ถ่ายรูป คนนึงก็ อยากถ่ายก็ทำเรื่องขอมาสิ เค้าก็ให้ถ่าย สรุป ใครกันแน่ที่ผิด  คำตอบ คือ คนไทยผิด จากคุณ : Porbeckham07 เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 08:14:45

ความคิดเห็นที่ 22 [o_O"] .... มีอะไรกันหว่า ?  มาไม่ทันเหมือนกัน จากคุณ : ชิดขาวแบบงง ๆ (DeE dEe) เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 08:32:21

ความคิดเห็นที่ 23 อ้าวสิบห้าหาย มาไม่ทัน 555 จากคุณ : raksapondet เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 08:37:39

ความคิดเห็นที่ 24 เยี่ยมเลยครับ จขกท สนับสนุนให้คนไทยทำอะไรให้ถูกต้อง จะได้ไม่ต้องไปโวยวายแบบไม่รู้ประสาภายหลัง จากคุณ : nanokacha เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 08:47:50

ความคิดเห็นที่ 25 กฏมีไว้ให้ปฎิบัติไม่ได้มีไว้ให้ "แหก" ในสถานที่ๆไม่อนุญาตให้ถ่ายก็ควรปฎิบัติตามกฎ คือ งดถ่าย ส่วนที่ไหนอนุญาตก็ถ่ายกันไป แต่ อย่าลืมกฏข้อห้าม ไม่ใช่ตะบี้ตะบันถ่ายจนสถานที่นั้นต้องออกกฏใหม่ว่า "ห้ามถ่ายภาพในบริเวณนี้โดยเด็ดขาด" แล้วก็พากันออกมาร้องว่า "จะหวงไปถึงไหน" ปล. สิบห้า เขาว่าไงอ่ะ มาไม่ทัน จากคุณ : tiny worm เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 09:45:35

ความคิดเห็นที่ 26 มีเรื่องจะเล่าให้ฟังครับ  ล่าสุดผมไปเดินถ่ายเล่นๆที่คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ รามอินทรา ไม่ได้ถ่ายแบบอะไร เพราะไป 2คน ถ่ายกันเล่นๆ ผลัดกันถ่าย กล้องแค่ D80+70-200 จู่ๆ พี่ รปภ. เดินมาบอกว่าห้ามถ่ายครับ ถ้าจะถ่ายให้ไปขออนุญาตก่อน  เค้าให้ถ่ายได้แต่ภาพนิ่ง  เลยมีบทสนทนานิดหน่อย พี่ รปภ. -  ถ่ายไม่ได้นะครับ ห้ามถ่าย ถ้าจะถ่ายไปขออนุญาตในตึกก่อน เค้าให้ถ่ายได้แต่ภาพนิ่ง (แล้วก็มองกล้องผมอย่างสงสัย) ผม -  เอ่อ ก็ถ่ายภาพนิ่งนี่ไงครับ นี่กล้องถ่ายรูป ถ่ายกันเล่นๆ ไม่ได้เอาไปทำอะไร พี่จะดูไหมล่ะ พี่รปภ. -  นิ่งไป 3วิ ก็ถ่ายไม่ได้ครับ ถ่ายไม่ได้ แล้วเดินไปเลย ผม - ยืนงง นึกในใจ แล้วตรูไม่ได้ถ่ายภาพนิ่งหรอไงฟร่ะ ตอนนั้นอยากจะถามกลับว่า ถ้าผมเอากล้องมือถือมาถ่ายรูปเนี่ย ยังจะห้ามไหม แต่พี่เค้าเดินไปซะไกลแล้ว **แก้คำผิด แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 10:03:12 จากคุณ : แอบอยู่ในเงามืด เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 10:01:58

ความคิดเห็นที่ 27 ห้างใจดีที่สุด ทีให้ถ่ายรูป คือ CTW ไม่เคยมียามไล่ ไม่เคย มีคนมากีดกัน เหมือนห้าง ใกล้ๆ ฝั่ง รถไฟฟ้า "เราเลยรัก CTW" จากคุณ : น้าวัชร-จัดให้ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 10:10:49

ความคิดเห็นที่ 28 เมื่อวันเสาร์ อาทิตย์ 7-8 ส.ค. มีงานสืบชะตาแม่น้ำโขง ที่เชียงคาน เลยแวะไปหน่อย มีก๊วนถ่ายรูปกลุ่มหนึ่ง ยืนแอ็คชั่นถ่ายรูปบ้านไม้กันกลางถนนเลียบแม่น้ำโขง ถนนเป็นวันเวย์ วันงานรถเยอะ รถต้องหยุดรอให้พวกถ่ายจนกว่าจะเสร็จกันหกคัน  ถ่ายเสร็จพวกก็หันมามองรถที่จอดรอแล้วทำหน้าเฉยเมย ไม่สนใจว่าคนอื่นจะเสียเวลาอย่างไร ดูจากหน้าตาก็น่าจะสามสิบกว่ากันแล้ว ถ้าเป็นผม ผมจะรอจังหวะว่างๆจริงๆ  แล้วชิงจังหวะแค่ไม่กี่วินาที ให้ได้ภาพ จะไม่ไปกั้นขวางใคร เพราะผมไม่ได้เป็นเจ้าของสถานที่ และไม่ได้อยู่ในโลกนี้คนเดียว  การถ่ายภาพทำให้ผมใจเย็น พิถีพิถันมากขึ้น รอ รอ แล้ว รอ จนกว่าจะได้จังหวะจริงๆ ระหว่างนั้นหัวก็จะคิดโจทย์ไปเรื่อยๆ มุมมองอื่นๆเริ่มจะเข้ามา และถ้าผมเห็นคนอื่นหยุดรอให้ผมถ่ายภาพเสร็จ ผมก็จะขอบคุณเขา ยิ้มให้เขา และเชิญให้เขาไปก่อน ผมยังรอได้  แค่ได้ภาพถ่ายที่ดีเพียงใบเดียว ผมก็พอใจแล้ว หรือว่าวัฒนธรรมการถ่ายภาพเปลี่ยนไปสำหรับบางกลุ่ม ข้ามีกล้อง ข้าใหญ่  แล้วทำให้คนอื่นที่มีกล้องก็เลยโดนหางเลขไปด้วย หรือไม่ผมก็คงจะแก่ไปเสียแล้ว แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 11:14:08 จากคุณ : NetStar เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 11:11:41

ความคิดเห็นที่ 29 ---------------------------------- การทำเรเื่องขออนุญาตนั้น รู้อยู่แล้ว” ---------------------------------- ที่ตั้งกระทู้นั้น บอกแล้วว่าผมไม่มีปัญหา ที่ตั้งประเด็น สำหรับ“คนทั่วๆ ไป” “ชาวบ้านๆ” กรณีพิพิธภัณฑ์ หรือสถานที่บางแห่ง ชาวบ้านเขาไปเที่ยว ไปชม ต้องเตรียมตัวทำเรื่องขออนุญาตผู้รับผิดชอบต้นสังกัดเลยหรือ และชางบ้านที่ไม่มีสังกัด สถานัน ทั่วๆ ไปเขาจะอนุมัติไหม ? เอาง่ายๆ แค่หน้าประตูทางเข้า เก็บบัตรผ่านประตู เสียค่าธรรมเนียมกันตรงนั้น พร้อมๆ กับมีป้ายประกาศข้อห้าม ระเบียบให้ดู จะได้ไหม ? แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 11:47:32 จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 11:31:46

ความคิดเห็นที่ 30   มันเป็นเพียงกฏระเบียบ-มิใช่กฏหมาย ดังนั้นอำนาจสูงสุดที่สถานที่แห่งนั้นมีคือการขับไล่บุคคลออกจากสถานที่แห่งนั้น เท่านั้น แต่จะขอยกตัวอย่างของการเอาชนะกฏหมายขึ้นมา มหาตมะ คานธี ผู้นำการเคลื่อนไหวดื้อแพ่ง เพื่อต่อต้านอังกฤษในประเทศอินเดีย เรียกแนวทางของตนว่า "สัตยาเคราะห์" (Satyagraha) หมายถึง การต่อสู้บนรากฐานของความจริงหรือสัจจะ ในสมัยนั้นในประเทศอินเดียมีกฎหมายบังคับให้การผลิตและขายเกลือกระทำได้ โดยรัฐบาลอังกฤษเท่านั้น การผูกขาดเกลือเป็นรายได้ที่สำคัญ ถึงแม้ว่าคนอินเดียที่อาศัยอยู่ชายฝั่งทะเลจะสามารถผลิตเกลือเพื่อบริโภคเอง ได้ ก็จำเป็นต้องซื้อจากอังกฤษ หากผู้ใดฝ่าฝืนก็มีโทษถึงจำคุกทีเดียว เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 1930 มหาตมะ คานธี พร้อมกับผู้ร่วมเดินทางจำนวน 78 คน เริ่มเดินเท้าจากเมือง Sabarmati ไปยังเมือง Dansi เมืองชายฝั่งทะเลที่อยู่ห่างออกไป 240 ไมล์ เมื่อขบวนเดินผ่านเมืองใดก็จะมีชาวเมืองนับพันเข้ามาร่วมเดิน จนขบวนยาวหลายไมล์ มหาตมะ คานธี เดินเท้าใช้เวลา 23 วันก็ถึงที่หมาย เมื่อถึงแล้วก็เริ่มการกระทำ "ดื้อแพ่ง" โดยขุดดินที่เต็มไปด้วยเกลือ ต้มในน้ำทะเลเพื่อผลิตเกลือ บรรดาผู้ร่วมเดินทางก็ทำตาม ช่วยกันผลิตเกลือท้าทายกฎหมาย การกระทำของคานธีกลายเป็นข่าวไปทั่วโลก ในขณะที่ชาวอินเดียพากันเลียนแบบ ผลิตและขายเกลือกันอย่างไม่กลัวกฎหมาย ในที่สุดมหาตมะคานธีก็ถูกจับพร้อมกับประชาชนนับหมื่นคน มหาตมะ คานธี ให้การต่อศาลว่า ".. การที่ข้าพเจ้ามิได้ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่นั้น มิใช่เพราะข้าพเจ้าไม่เคารพกฎหมายบ้านเมือง แต่เป็นเพราะข้าพเจ้าต้องการปฏิบัติตามคำสั่งที่สูงยิ่งไปกว่านั้น นั่นคือคำสั่งแห่งความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของข้าพเจ้าเอง..." และเนื่องด้วยจากที่ทางการอังกฤษ ได้ดันทุรังจับกุมคานธีและประชาชนนับแสนคนในวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 1930 ทำให้จำนวนแรงงานอาชีพในอินเดียหายไปเป็นจำนวนมาก ทำให้ระบบเศรษฐกิจและระบบบริหารงานของรัฐบาลอังกฤษเกิดความปั่นป่วนอย่างใหญ่หลวง รวมทั้งการประณามการะกระทำอังกฤษต่อประเทศต่างๆ ทำให้อังกฤษต้องยอมในที่สุด จากคุณ : นักต่อสู้เพื่อชาวห้องกล้อง เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 11:32:17 A:118.174.100.72 X: TicketID:279170

ความคิดเห็นที่ 31 กติกาสังคม เพื่อความเรียบร้อย กฎไม่ได้มีไว้แหก แต่กฎก็เอาไว้ เพื่อปรับปรุงแก้ไขด้วย สมัยออกกฎห้ามกินหมาก กฎก็ยังถูกแก้ไขยกเลิกได้ มองอะไรมองให้รอบด้าน จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 11:34:40

ความคิดเห็นที่ 32 กรณีสวนรถไฟนั้น หลายปีที่ผ่านมา ที่ห้ามถ่ายภาพ “โดย รปภ. และ ผู้มีอำนาจบางคน เป็นแบบไม่มีเหตุผล ไม่ว่ากล้องอะไรเข้าไป ไม่ว่าจะเข้าไปคนเดียวหรือหลายคน ไม่ว่าจะมีนางแบบหรือไม่มี ไม่ว่าจะเดินท่อมๆ ไม่เกะกะใครก็ตาม ถูกขับไล่ทุกคน จนกระทั่งมีการร้องถามเสียงดังๆ ทั้งในบอร์ดนี้ ทั้งในที่อื่นๆ จนในที่สุด ก็มาถึงวันนี้ ดังนั้นการที่จะมาบอกว่า อย่าให้นางแบบแต่งตัวยั่วยุนั้น มันเป็นเรื่องข้ออ้างกร่อยๆ เพราะเมื่อก่อนไม่ว่าใครเข้าไปถ่ายภาพแม้เพียงคนเดียว ถ่ายดอกไม้ใบหญ้า ก็ถูกไล่ แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 11:43:44 จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 11:42:37

ความคิดเห็นที่ 33 และแน่นอนอยู่แล้วว่า หลายสถานที่ไม่ยกกล้องถ่ายภาพเลย เช่นในห้างสรรพสินค้า เพราะนั่นเป็นสถานที่เอกชน ยกเว้น วันที่เขาจัดกิจกรรมให้ถ่ายภาพได้ จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 11:44:47

ความคิดเห็นที่ 34 --- แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 11:46:53 จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 11:46:38

ความคิดเห็นที่ 35 เหอๆ "เกรียนดอกเลา" โฮะ ๆ ๆ "นักต่อสู้เพื่อชาวห้องกล้อง" HA-HA เกินคำบรรยาย... *ขออภัย จขกท. นะครับที่นอกประเด็น  แต่มันอดไม่ได้จริงๆ จากคุณ : ดินกลางด่าน เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 11:56:02

ความคิดเห็นที่ 36 ที่ คุณ: นักต่อสู้เพื่อชาวห้องกล้อง ยกมานั้น เป็นการยกตัวอย่างเปรียบเทียบ เพื่อโยงให้เห็นภาพรวมๆ การจะตีความอะไรอย่างหนึ่ง หากมองคอนเซ็ปท์ออก ด้วยการเทียบเคียงกับสิ่งอื่นๆ จะทำให้มองเห็นภาพชัดเจนขึ้น จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 12:08:38

ความคิดเห็นที่ 37 แล้ว คอนเซปของพิพิธภัณฑ์ คืออะไร คอนเซปของตากล้อง คืออะไร คอนเซปของชาวบ้านที่มีกล้องแล้วมาถ่ายรูปในพิพิธภัณฑ์ คืออะไร คอนเซปของผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ คืออะไร แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 12:24:34 จากคุณ : taraytai เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 12:21:43

ความคิดเห็นที่ 38 ตอบ คห.31 ทุกคนมองรอบด้านหมดแหละครับ ว่ามีสาเหตุอีกมากมายที่ยังทำไม่ได้ขณะนี้ มีแต่น้าที่มองด้านเดียวนี่แหละ ว่าต้องถ่ายให้ได้ ไม่ได้ต้องแก้ไขให้ถ่ายได้ ไม่สนใจว่าพร้อมหรือไม่ ตอบ คห.32 2-3 ปีที่ผ่านมา มีคนไปถ่ายรูปที่สวนรถไฟมากมาย ผมก็ถ่าย และไม่เคยโดนห้ามเลย น้าอย่าเว่อร์ อ้างว่าทุกคนเลยครับ และเสียงจากพันทิพ ก็ไม่ได้ดังนักหนาหรอก แต่เดิมเขาก็ให้อยู่แล้ว จนมีพวกรุ่มร่ามนั่นแหละ(อาจจะจากพันทิพ นี่แหละ)เขาถึงห้าม แต่พอเขามีความพร้อม เจ้าหน้าที่เข้าใจมากขึ้น ก็ให้ถ่ายได้ ก็แค่นั้น ตอบ คห.36 แล้วคอนเซ็ปของน้าคืออะไรหรือครับ  ความคิดและเหตุผลของคนอื่น น้าคิดตามคอนเซปของเขาทันหรือยัง หรือไม่คิดตาม จากคุณ : ทะเลลงตับ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 13:02:29

ความคิดเห็นที่ 39 เอ...ผมยังสงสัยอยู่เลยว่า สวนรถไฟนี่ห้ามถ่ายรูปหรือเปล่า หรือจะถ่ายต้องทำเรื่องขออนุญาตก่อน ( หมายถึงถ่ายเล่นๆนะครับ ไม่ได้มีนางแบบ ) จนบัดนี้ ยังไม่เคยเข้าสวนรถไฟเลยสักครั้ง 555 จากคุณ : ray daddy เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 13:06:17

ความคิดเห็นที่ 40 นั่นสิครับเกิดอะไรในความเห็นสิบห้าเหรอครับผมมาไม่ทัน ในกรณีที่คุณมังกรดำบอกมาผมเองก็มั่นใจว่าคุณรู้แน่นอนว่าขอทำเรื่องอนุญาตได้ เพียงแต่ผมช่วยสรุปให้เพื่อนๆคนรักการถ่ายภาพเข้าใจมากขึ้นครับว่า ในความจริงเราสามารถทำเรื่องขอได้  ซึ่งทางคุณ DEE DEE ก็ช่วยมาให้ข้อมูลเพิ่เติมแล้วว่าประสบการณ์ในการทำเรื่องขอจากสถานที่ต่างๆต้องทำอย่างไร และไม่ได้ยากอย่างที่คิดครับ จากคุณ : นายผจญภัก เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 13:14:23

ความคิดเห็นที่ 41 คุณ ray daddy ถ่ายได้ครับ เค้าไม่ได้ห้าม แต่แนะนำว่าลองขี่จักรยานไปบอกที่ทำการสวนรถไฟ เปิดประตูไปยิ้มให้เค้าแล้วบอกผมมาขออนุญาตถ่ายภาพครับ   จริงๆเค้าให้อยู่แล้ว อาจจะมองจะต้องไปทักทายทำไม แต่เป็นทริกของผมที่รักษามารยาทและขนบวัฒนธรรมของไทยครับ  คือไปมาลาใหว้  ถ้ามันไม่ได้ยุ่งยากอะไรที่เราจะไปทักทายผู้ดูแลสถานที่  การไปทักทายเค้าบอกกล่าวด้วยความสุภาพ มันช่วยให้เค้ารู้สึกดีกับเราครับ ซึ่งผมกล้ายืนยันว่าเจ้าหน้าที่สวนรถไฟไม่ได้ใจร้ายอะไร  จากการได้ลองโทรไปพูดคุยเค้าคุยดีมากครับ  และหลายหนผมถ่ายๆรูปเจอเจ้าหน้าที่ผมก็ยิ้มให้ เค้าก็ยิ้มตอบและผมก็ไม่เคยเจอปัญหาอะไรเลย ซึ่งทริกแบบนี้มันไม่มีในตำราถ่ายภาพแต่จำไปใช้เถอะครับรับรองดีแน่นอน การเป็นคนสุภาพมีมารยาทและให้เกียรติ์คนอื่นเสมอไม่ว่าที่ไหนและกับใคร มันช่วยให้การถ่ายภาพเราราบรื่นมีความสุขแน่นอน จากคุณ : นายผจญภัก เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 13:23:43

ความคิดเห็นที่ 42 คุณ : นายผจญภัก ที่คุณว่ามานั้น คือหลังจากที่สวนรถไฟโดนต่อว่ามามาก และมีคนร้องเรียนไปมาก จนเห็นๆ กันในวันนี้ “ย้อนหลังไปเมื่อหลายปีก่อน ไม่ได้โดยเด็ดขาดครับ” และนี่ละ คือผลที่ได้จากการ “ร้องถาม” จนมาถึงระดับการปรับปรุงยอมให้เข้าไปถ่ายภาพได้ จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 13:33:06

ความคิดเห็นที่ 43 วันก่อนโน้น ก็ทำนองเดียวกัน เมื่อมีคนร้องถามสวนรถไฟ ทำไมห้ามถ่ายภาพ ก็มีคนจำนวนมากออกมาตอบโต้ ในทำนอง “ระบียบต้องเป็นระเบียบ” “เขาห้าม ก็คือห้าม” “ทำไมต้องเรื่องมาก ที่อื่นไม่มีให้ถ่ายภาพหรืออย่างไร” “พวกทำกร่าง ขาใหญ่” “พวกไม่เคารพกฎระเบียบ” ฯลฯ เพิ่งผ่านมาไม่กี่ปี ลืมกันไปแล้วหรือครับ ? . แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 13:41:26 แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 13:40:54 แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 13:40:31 จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 13:39:24

ความคิดเห็นที่ 44 ถ้าวันนั้น ไม่มีคนกลุ่มหนึ่ง “ไม่ยอมจำนน” และออกมาร้องถาม เป็นไปได้ว่า วันนี้ สวนรถไฟ ก็ยังคงห้ามถ่ายรูปเหมือนก่อนนั้นละครับ จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 13:43:49

ความคิดเห็นที่ 45 คุณมังกรดำครับ จริงๆช่วงปีที่มีข่าวห้าม ผมเองก็เป็นคนนึงที่ประฌามตากล้องที่พานางแบบไปลุยยืนถ่ายกลางดงดอกไม้เอง   ซึ่งลองค้นจาก topicstock ได้ครับยังมีเห็นอยู่เลย แต่ในขณะเดียวกันช่วงนั้นผมก็มีไปถ่ายรูปหย่อนใจในสวนรถไฟคนเดียวหลายๆที  ทั้งที่มีข่าวว่าเค้าห้าม  ซึ่งผมไปถึงเช่าจักรยานเจอยามผมก็ถามเค้าก่อนว่า ผม : พี่ครับตอนนี้ที่นี่ห้ามถ่ายรูปเหรอครับ ยามด้านหน้าก็ถามมาถ่ายอะไรเหรอ   ผมก็ตอบไปถ่ายต้นไม้ดอกไม้ครับพี่   ยามถามมีนางแบบมั้ย ไม่มีครับพี่ งั้นไม่เป็นไรหรอกถ่ายได้แต่น้องอย่าไปเกะกะคนอื่นๆเค้าก็พอ จากคุณ : นายผจญภัก เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 13:44:39

ความคิดเห็นที่ 46 บ้านผมอยู่แถวนั้น ----- เขาห้ามตั้งแต่เริ่มแรกเมื่อปรับเป็นสวนรถไฟแล้วครับ------ ตอนนั้น คนทั่วไปยังไม่ค่อนรู้จัก ยังไม่ไปถ่ายภาพกันที่นั่น จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 13:47:47

ความคิดเห็นที่ 47 คุณ : นายผจญภัก ที่คุณเล่ามาน่าจะช่วงกลางๆ ของระยะเวลาที่มีปัยหาแล้วละครับ ผมจำได้ ว่าห้ามตั้งแต่ช่วงแรกๆ ผมอยู่แถวๆ นั้นครับ จำได้ว่า สมัยนั้น “ไม่มีใครไปถ่ายรูปที่นั่นแบบที่กลุ่มถ่าภาพชวนๆ พาๆ กันไป เพราะยังไม่รู้จัก ผมและเพื่อนๆ ไปสมัยที่ยังแทบไม่มีอะไร โดนไล่ออกมา วันหลังถามเพื่อน ก็โดนเหมือนกัน แต่พวกผมเฉยๆ ไม่ถาม เพราะไม่เห็นว่าจะสวยสะอะไร จนกระทั่งมีกลุ่มที่พากันไปถ่ายภาพเยอะมากขึ้น แล้วมีเรื่องมาโพสต์ในกระทู้ของบอร์ดนี้เมื่อหลายปี ========================= ที่จำได้เพราะเข้าไป เทสต์ฟิล์มสีตัวหนึ่งทำหน้า AD ลงหนังสือ แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 13:53:36 แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 13:52:29 แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 13:52:01 จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 13:49:24

ความคิดเห็นที่ 48 ... ขอโทษนะครับที่ต้องลบ เพราะเกรงว่าจะดูก้าวร้าวไปนิด แต่ผมก็แม่นข้อมูลพอควร สวนรถไฟตั้งมาตั้งแต่ก่อนที่ผมจะหัดถ่ายรูปก็จริง แต่แรกๆที่เปิดผมก็ยังไปปั่นจักรยานเล่น ดูคนถ่ายนก ซึ่งถ้าไม่แก่เกินไป ก็น่าจะจำได้ว่า สวนรถไฟเคยเป็นแหล่งดูนกกลางกรุงที่หนึ่ง ถัดจากสวนลุม กล้องที่เห็นถ่ายกันอิ๊อ๊ะในครอบครัวก็คอมแพคฟิล์ม ก็ไม่เห็นจะมียามมาห้ามแป๊ะอะไรเลยครับ อ่อ สมัยนั้น คนที่มีกล้องใหญ่ขนาดF4 F5 เค้าก็ถ่ายกันก็เงียบๆเบาๆ ถ่ายนกถ่ายแมลงถ่ายดอกไม้ไปเรื่อย ไม่เหมือนเดี๋ยวนี้ อยู่ตรงข้ามฝั่งถนนยังได้ยินเลยว่า ใช้เลนส์อะไร บอดี้อะไร จะมาโฉ่งฉ่างก็อีตอนมีพวกถ่ายโฆษณามาใช้ที่ ตามมาด้วยเวดดิ้งทั้งหลายแหล่ จนลามมาถึงกลุ่มถ่ายนางแบบ เค้าถึงได้ออกระเบียบมาเป็นเรื่องเป็นราวมาเป็นลำดับ //ก้าวร้าวอีกจนได้ -  -" แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 14:45:32 แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 14:41:30 แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 14:01:35 จากคุณ : espucino-ccj เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 13:57:28

ความคิดเห็นที่ 49 คุณ : espucino-ccj ผมมีความจำในบางเรื่องดี บ้านผมอยู่แถวนั้น และมีความจำเป็นต้องผ่านสวนรถไฟ เพื่อไปรับลูกกลับจากโรงเรียน . และนี่คืออีกภาพที่ผมจำได้ไม่ลืม วันนั้น ฝนตกพรำๆ ไปเดินถ่ายภาพดอกบัวที่สวนสิริกิต์ โดนหัวหน้าสวนไล่ ห้ามถ่ายภาพ ทั้งๆ ที่ไม่ได้รบกวนใคร  เพราะฝนตกพรำ ไม่มีคนไปเที่ยว ไปคนเดียวไม่มีนางแบบ และตอนนั้น ยังไม่มีป้ายห้ามถ่ายภาพติดหน้าประตูสวน (ภาพสแกน จากฟิล์มสไลด์) แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 14:04:49 จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 14:03:22

ความคิดเห็นที่ 50 ผมว่าเรากำลังพยายามเถียงในสิ่งที่หาหลักฐานชัดเจนไม่ได้ เช่นผมบอกว่าช่วงนั้นที่ปัญหาคนโพสต์ว่าสวนรถไฟห้ามถ่ายภาพ ซึ่งผมเองก็ไปถ่ายรูปสวนรถไฟในช่วงนั้นเหมือนกันแต่ผมไม่โดนห้าม แต่คุณกลับย้ายช่วงเวลาให้ผมเสร็จสรรพว่าที่ผมบอกช่วงพ้นปัญหาแล้ว โอละพ่อกันเลย http://topicstock.pantip.com/camera/topicstock/O3849360/O3849360.html เอาว่าก่อนหน้าช่วงเวลาของกระทู้นี้เค้าห้ามหรือไม่ห้าม คงไม่ใช่ประเด็น  แต่ช่วงเวลาที่ผมบอกคือปี 2548 ครับ และช่วงเวลานั้นผมก็ยังไปพักผ่อนที่นั่น  ทั้งขี่จักรยาน ถ่ายภาพ และนอนอ่านหนังสือประจำ   หลายหนที่ผมถ่ายภาพก็ไม่โดนยามห้ามนะครับ และในปัจจุบันเค้าก็ไม่ได้ห้ามแต่ต้องให้อยู่ในความเหมาะสม ผมไปค้นเบอร์มาให้ครับใครที่อยากจัดกิจกรรมในสวนรถไฟโทรไปสอบถามได้ครับ  ตอนผมโทรไปพี่ผู้หญิงที่รับสายคุยดีมาก 02-5379221   เบอร์นี้ครับ ขอแก้คำผิดครับ แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 14:05:13 จากคุณ : นายผจญภัก เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 14:03:54

ความคิดเห็นที่ 51 เฮ้อ! จากคุณ : น้าอ๊าด เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 14:04:47

ความคิดเห็นที่ 52 คุณ : นายผจญภัก ของผม ก่อน 2548 แน่นอนครับ เพราะ 2548 ผมใช้ดิจิตอลแล้ว ตอนนั้นผมยังใช้กล้องฟิล์มอยู่ครับ อีกอย่าง ที่คุณไม่โดน ผมโดน เป็นไปได้ว่า “มาตรฐานของเขา ยังไม่แน่นอน แล้วแต่ว่าวันนั้นใครเป็น รปภ. และ ได้รับคำสั่งมาบ้าง ไม่ได้รับคำสั่งมาบ้าง” เอาอย่างที่สวนสิริกิต์ ทีแรก รปภ. ห้าม ผมถามว่าทำไม รปภ. บอก สวนสิริกิต์ (ข้างจตุจักร) “เป็นเขตพระราชฐาน” ตอบอย่างนี้จริงๆ ถามว่าทำไมบอกว่าเป็นเขตพระราชฐาน คำตอบคือ ให้ดูที่ชื่อสวน และมีคุณหญิงคุณนายมาประชุมกันที่นี้บ่อยๆ ถามไปถามมา อ้างว่าเป็นคำสั่งของ “เปรม” คาดคั้นไปมา ถึงได้อ้อมแอ้ม ยอมรับว่า “แค่ฟังเขาสั่งๆ มา” แต่ไม่รู้ใครสั่ง พอมีเรื่องถึงคนดูแลสวนสิริกิต์ เขาบอกว่า สวนยังไม่เสร็จ ห้ามถ่ายรูป (ทั้งๆที่สวนเปิดให้คนเที่ยวแล้ว) คุณดูมาตรฐานก้แล้วกัน แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 14:21:17 แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 14:11:52 จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 14:10:38

ความคิดเห็นที่ 53 สงสัยกระทู้ผมจะเริ่มมีมาม่าให้กินแล้วสิเนี่ยขอรสหมูสับนะครับชอบ ;) เอาว่าเรื่องสวนรถไฟผมสรุปให้แล้วนะครับด้วยเบอร์โทรของที่ทำการ ซึ่งไม่มีใครตอบเรื่องนี้ได้ดีที่สุดมากไปกว่าเจ้าหน้าที่เอง อาจจะจริงที่เคยห้ามผมก็ได้ยินข่าว แต่ห้ามเพราะอะไร เพราะบางทีตากล้องทำตัวเกะกะและกร่างเกินไปกันรึเปล่า   มีนะครับเห็นกับตาผมเองก็หลายอยู่ แต่เมื่อเค้าหาวิธีบริหารจัดการได้ดีขึ้น เค้าก็ผ่อนปรนกฏให้ สำคัญคือเราพูดกันด้วยความเข้าใจปัญหามันถึงจะคลี่คลาย ไม่ใช่เอะอะตั้งป้อมแกถูกชั้นผิดแบบนี้ปัญหาไม่มีวันจบแน่นอนครับ จากคุณ : นายผจญภัก เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 14:12:11

ความคิดเห็นที่ 54 ถูกต้อง คุณ: นายผจญภัก สำคัญคือเราพูดกันด้วยความเข้าใจปัญหามันถึงจะคลี่คลาย สิ่งที่ผม“ร้องถาม” เพื่อหาคำตอบ และตอบโต้กันด้วยเหตุผล ถึงสิ่งที่ทำได้ ทำไม่ได้ หากอ่านๆ ผมยังไม่เคยบอกสักแอะ ว่า ที่คิดตรงข้าม “ผิดทั้งดุ้น” เพียงชี้ให้เห็นอีกมุมหนึ่ง ซึ่งมันควรจะเป็น . ผมยังยืนยันว่า ในปีนั้น ถ้าไม่มีการ“ร้องถาม” สวนรถไฟคงจะห้ามการถ่ายรูปจนถึงวันนี้ จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 14:19:41

ความคิดเห็นที่ 55 ตอบ คห.46 ถ้าข้อมูลของน้า เก่าขนาดนั้น ก็รับทราบครับว่าเป็นตามที่น้าบอกละกันครับ เพราะข้อมูลผมไม่นานมากนัก ส่วนเรื่องร้องถาม ผมก็เห็นด้วยว่ามันดี และสมควร (และผมไม่เคยบอกว่าห้ามร้องถาม ) แต่การจะได้รับสนองตอบแค่ไหน ก็ได้บอกแล้วว่าควรต้องเข้าใจในปัจจัยต่างๆของสถานที่นั้นๆด้วย  การโวยวาย เทียบโน่นเทียบนี่ ไม่ต่างอะไรกับการไม่ฟังเหตุผลเลยครับ จากคุณ : ทะเลลงตับ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 14:41:21

ความคิดเห็นที่ 56 อันนี้คงไม่เกี่ยวกับกระทู้ แต่เป็นเรื่องที่น่าเล่าสู่กันฟัง ขออนุญาต จขกท. นะ . . เมื่อก่อนนี้  ใครนึกอยากจะโอนเวนที่ใคร นึกแล้วก็ทำกัน วางโครงการก่อนเวนคืน แต่เอาไปแล้วไม่ได้ทำ ทิ้งๆ ขว้างๆ อย่างการรถไฟนี่ เที่ยวได้เวนคืนที่เขาทั่วไปทั้งประเทศ แล้วทิ้งร้างไว้เฉยๆ เซ็นทรัลลาดพร้าวนี่เป็นตัวอย่างที่ดี ที่เห็นชัด เมื่อก่อนเป็นป่ากก  และกอหญ้า เป็นที่เอกชน ก็ไปเวนคืนเขามา ว่าจะทำโรงรถไฟ ทิ้งไว้หลายสิบปี แต่ไม่ทำอะไร จนในที่สุดก้ให้เซ็นทรัลเช่า เจ้าของเก่าคงช้ำใจน่าดู ที่ก่อนจะมาเป็นสวนรถไฟนั้น ก็เอามาทำสนามกอล์ฟให้คนกลุ่มเดียวใช้ กว่า กทม. จะเอามาทำสวนได้ เหงื่อตก แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 14:47:01 จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 14:44:50

ความคิดเห็นที่ 57   บ้านเมืองเรามันไม่ใช่ Double Standard แล้วล่ะครับ มันแสนจะ Multi-Complex Standard สวนสาธารณะของกรุงเทพ บางแห่งถ่ายรูปได้ บางแห่งไม่ได้เลย กล้องเล็ก กล้องใหญ่ อะไรก็ไม่รู้ มั่วไปหมด สถานที่ท่องเที่ยว บางแห่งห้ามกล้อง Medium Format  บางแห่งก็ห้ามขาตั้ง บางแห่งก็ไม่ห้ามอะไร ผม คนไทย งง ครับ มันไม่มีมาตฐาน การตั้งกฏเกณฑ์อะไรเลยเหรอ อยากจะตั้งอะไรก็ตั้ง? จากคุณ : hisoman เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 15:17:55

ความคิดเห็นที่ 58 ผมว่าสมัยที่คุณมังกรดำว่า น่าจะเป็นสมัยที่ยังเป็นสนามกอล์ฟรึเปล่า เพราะผมก็จำไม่ค่อยแม่น แต่แน่ๆมีระยะนึงมีพวกรับจ้างถ่ายภาพอิสระ ไปรับจ้างถ่ายภาพในสวนจตุจักร แล้วอยู่มาวันนึงก็มีเหมือนกับว่าให้สัมปทานบริษัท เลยมีการไม่ยินยอมของกลุ่มช่างภาพอิสระมีการปะทะกัน อาจเป็นไปได้ที่มีการห้ามตั้งแต่สมัยนั้นเพื่อป้องกันเหตุรุนแรง จนเลยเถิด ไปถึงสวนสาธารณอื่นๆ จากคุณ : แพรมรกต เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 15:34:13

ความคิดเห็นที่ 59 คุณ : แพรมรกต ไม่ใช่ครับ เป็นสวนรถไฟแล้ว จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 15:37:03

ความคิดเห็นที่ 60 ที่ คุณ: แพรมรกต ว่ามาเรื่อง สัมปทานช่างภาพ กับช่างภาพอิสระ นั้นเป็นเหตุการณ์ที่ สวนสาธารณะจตุจักร พอดีรู้จักกับมินิแลบที่แบคอัพคนได้สัมปทาน (แต่ในใจผมเห็นใจช่างภาพอิิสระ ที่หากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ด้วยงานเล็กๆ วันละไม่กี่บาทเพื่อครอบครัว) แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 15:43:52 แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 15:40:19 จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 15:38:25

ความคิดเห็นที่ 61   โอ้วว..ยังอุส่าห์ลากมากระทู้นี้จนได้ ทานปงท่านเปรมอะไรนั่น เกี่ยวอะไรกับการถ่ายรูป, ถ้าอยากถ่ายจริงๆก็ทำเรื่องขออนุญาตเข้าไปถ่ายก็จบ -ที่บอกว่า แล้ว "ชาวบ้านๆ " ที่อยากถ่ายแล้วไม่มีมีต้นสังกัดเขาจะอนุมัตืมั้ย,อย่าไปเดือดร้อนแทนเขาเลย "ชาวบ้าน" คงไม่ได้กระเสือกระสนดื้นรนต้องถ่ายให้ได้แล้วส่งประกวด Turner Prize หรอก ผมก็ชาวบ้านธรรมดาคนนึงไม่มีต้นสังกัดแถมยังตกงานอยู่อีกต่างหาก หากอยากถ่ายเป็นจริงๆจัง ผมก็ทำเรื่องขออนุญาต ก็ไม่เห็นเขาว่าอะไร ปล.ในสังคมหมู่มาก ก็ต้องกฏระเบียบ กติกา มารยาท หากคิดว่ากติกาในสังคมไม่ถูกต้องก็ทำเรื่องเสนอผู้ออกกติกาซะ หรือลงสมัคร เล่นการเมืิองสว สส. หรืออะไรก็แล้วแต่เพื่อบังคับใช้กฎหมายในกติกาที่ตนเองคืดวว่าถูก จากคุณ : ขนมไหว้พระจันทร์ใส้ลูกบัว เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 15:50:39 A:94.195.185.201 X: TicketID:020037

ความคิดเห็นที่ 62 ผมเข้าใจคุณมังกรดำครับ แต่มีเด็กบางคนอยากจะปีนเกลียว (ซึ่งไม่ใช่ จขกท. และผู้ที่คุยด้วยเหตุและผลนะครับ) กรณีที่คุณมังกรดำต้องการจะบอกเรื่องนึง กรณีที่ต้องขออนุญาตเพื่อใช้สถานที่มันก็อีกเรื่องนึงครับ อย่างที่คุณ GoE Online ใน คห. 10 ได้กล่าวไว้ "ผมว่าเรื่องมันมาจากข้อสงสัยว่า "ทำไมต้องห้าม" กับบางที่ที่ไม่น่าห้าม...ไม่ใช่ถ้าห้าม ฉันก็จะผิดวินัย เอาแต่ใจ ถ่ายให้ได้" ผมว่าคุยกันไปก็ไม่จบซักที เพราะมันคุยกันแบบเส้นขนาน คือคุยไม่ตรงประเด็นกัน ผมว่าก็น่าจะพอดีกว่า จากคุณ : เล็ก มหึมา (^oio^) เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 16:09:10

ความคิดเห็นที่ 63 อ่านกระทู้นี้ไปเรื่อยๆ อ้าว นั่นมันเกาะฮาวายนี่หว่า ผมออกไปอยู่ในทะเลซะแล้ว จากคุณ : น้าอ๊าด เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 16:09:30

ความคิดเห็นที่ 64 คุณ : ขนมไหว้พระจันทร์ใส้ลูกบัว คุณนี่ตั้งใจอะไร ? เล่าให้ฟังถึงดีเทลว่า รปภ. ห้ามผมถ่ายรูปเพราะอะไร เที่ยวอ้างอะไรๆ อ้างใครๆ มั่วๆ เป็นเรื่องที่เล่าว่า บางที่ข้อห้ามนั้น มันไม่ใช่ของจริง มันมั่วมา เข้าใจไหม ? จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 16:10:43

ความคิดเห็นที่ 65   เห็นด้วยกับคุณเล็ก มหึมานะครับ มันเหมือนเอาเรื่องต่างช่วงเวลา ต่างกรรมต่างวาระมาคุยกัน มันก็ถูกทั้งคู่แหละครับ เพียงแต่ใครจะได้เห็นเรื่องจริงด้านไหน สถานที่ไม่อำนวยความสะดวกให้บ้าง ตากล้องทำผิดระเบียบสถานที่บ้าง ผมคิดว่าเราสามารถพูดคุยกันได้ครับ ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงอะไรอยากให้ทำตามกฎของแต่ละสถานที่ แล้วถ้าไม่เห็นด้วยก็พูดคุยกันได้ครับ ผมเชื่อว่าดีซะอีก ต่างฝ่ายต่างจะได้ความคิดอีกแง่มุมนึง จากมุมมองช่างภาพก็จะได้มุมมองสถานที่ จากมุมมองสถานที่ ก็จะได้มุมมองช่างภาพ แลกเปลี่ยนกันครับ ถ้ากฎมันไม่ดีจริงๆ ที่สุดแล้วมันจะถูกปรับเปลี่ยนเองแหละครับ อดีตเป็นรากฐานของปัจจุบัน ปัจจุบันเป็นรากฐานของอนาคตครับ ว่าแล้วก็พาออกทะเลบ้าง ปล. ชอบความเห็นน้าอ๊าดมาก อิอิ จากคุณ : 99degree เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 17:18:59 A:58.9.148.172 X: TicketID:282173

ความคิดเห็นที่ 66 เท่าที่จำได้ สวนรถไฟ กับสวนสิริกิติ์ จัดเป็นคนละสถานที่ค่ะ  ไม่แ่น่ใจว่ามีรั้วกั้นรึเปล่า สวนรถไฟถ่ายรูปได้  แต่สวนสิริกิติ์ถ่ายรูปไม่ได้ จากคุณ : lalabel เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 17:20:07

ความคิดเห็นที่ 67 ตามไปตามมา จากการช่วยกันแสดงความเห็นเพื่อปรับปรุง กลายเป็น....? ไปหรือยังเนี่ย เฮ้อ.......ไปอ่านกระทู้อื่นละ เหนื่อย จากคุณ : At Your Service เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 18:30:01

ความคิดเห็นที่ 68   อ่านข่าวนึงแล้วนึกถึงกระทู้นี้จัง ลัทธิ "อัตตานิสซึ่ม" (ตั้งขึ่นมาเอง55) " กลุ่มผู้ค้าหาดใหญ่ล้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ อ้างเป็นจุดขายการท่องเที่ยวหาดใหญ่" " หมดสัญญ่าเช่า ไม่ต่อสัญญา แม่ค้าโอดลูกยังเล็ก ต้องมีรายได้จุนเจือครอบครัว วอนรัฐช่วยเหลือ" ในขณะเดียวกัน "ช่างภาพถูกห้ามถ่ายภาพในที่ห้ามถ่าย โวยกฎไม่แฟร์ ต้องมีผ่อนปรน" ผมเคยถูกbus inspector จับเพราะไม่ได้stampบัตรรถเมล์สมัยมาเรียนใหม่ๆสองครั้ง ครั้งแรกเพราะลืม ครั้งที่สองเพราะตังหมด ไม่ได้top up, พยายามอธิบายเหตุผลล้านแปด ยกแมน้ำทั้งสิบสาย สุดท้ายโดนปรับไปรวมเกือบร้อยปอนด์พร้อมกับพี่มืดอีกคน โดยพี่มืดนั่นตั้งใจไม่stampบัตรเพราะลงอีกสองป้าย แต่เค้าก็โดนจับและจ่ายค่าปรับ พี่มืดพูดในประโยคที่ทำให้เรายินดีจ่ายคือ" ถ้ารักจะไม่ทำตามกฎ ต้องกล้ารับผิดชอบในผลที่จะตามมา" จากคุณ : ขนมไหว้พระจันทร์ใส้ลูกบัว เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 21:01:19 A:158.223.166.231 X: TicketID:020037

ความคิดเห็นที่ 69   อ่านข่าวนึงแล้วนึกถึงกระทู้นี้จัง ลัทธิ "อัตตานิสซึ่ม" (ตั้งขึ่นมาเอง55) " กลุ่มผู้ค้าหาดใหญ่ล้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ อ้างเป็นจุดขายการท่องเที่ยวหาดใหญ่" " หมดสัญญ่าเช่า ไม่ต่อสัญญา แม่ค้าโอดลูกยังเล็ก ต้องมีรายได้จุนเจือครอบครัว วอนรัฐช่วยเหลือ" ในขณะเดียวกัน "ช่างภาพถูกห้ามถ่ายภาพในที่ห้ามถ่าย โวยกฎไม่แฟร์ ต้องมีผ่อนปรน" ผมเคยถูกbus inspector จับเพราะไม่ได้stampบัตรรถเมล์สมัยมาเรียนใหม่ๆสองครั้ง ครั้งแรกเพราะลืม ครั้งที่สองเพราะตังหมด ไม่ได้top up, พยายามอธิบายเหตุผลล้านแปด ยกแมน้ำทั้งสิบสาย สุดท้ายโดนปรับไปรวมเกือบร้อยปอนด์พร้อมกับพี่มืดอีกคน โดยพี่มืดนั่นตั้งใจไม่stampบัตรเพราะลงอีกสองป้าย แต่เค้าก็โดนจับและจ่ายค่าปรับ พี่มืดพูดในประโยคที่ทำให้เรายินดีจ่ายคือ" ถ้ารักจะไม่ทำตามกฎ ต้องกล้ารับผิดชอบในผลที่จะตามมา" จากคุณ : ขนมไหว้พระจันทร์ใส้ลูกบัว เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 21:01:48 A:158.223.166.231 X: TicketID:020037

ความคิดเห็นที่ 70 ความคิดเห็นที่ 62     ผมเข้าใจคุณมังกรดำครับ แต่มีเด็กบางคนอยากจะปีนเกลียว (ซึ่งไม่ใช่ จขกท. และผู้ที่คุยด้วยเหตุและผลนะครับ) กรณีที่คุณมังกรดำต้องการจะบอกเรื่องนึง กรณีที่ต้องขออนุญาตเพื่อใช้สถานที่มันก็อีกเรื่องนึงครับ อย่างที่คุณ GoE Online ใน คห. 10 ได้กล่าวไว้ "ผมว่าเรื่องมันมาจากข้อสงสัยว่า "ทำไมต้องห้าม" กับบางที่ที่ไม่น่าห้าม...ไม่ใช่ถ้าห้าม ฉันก็จะผิดวินัย เอาแต่ใจ ถ่ายให้ได้" ผมว่าคุยกันไปก็ไม่จบซักที เพราะมันคุยกันแบบเส้นขนาน คือคุยไม่ตรงประเด็นกัน ผมว่าก็น่าจะพอดีกว่า จากคุณ : เล็ก มหึมา ^ ^ ^ สงสัยตรง "เด็กบางคนกำลังจะปีนเกลียว" คราวหลังก็จำกัดอายุคนตอบไปเลยดีกว่ามั้งครับ.. หรือไม่ก็ระบุไปเลยว่าอายุน้อยกว่าเท่าไหร่ไม่มีสิทธิเห็นต่าง แล้วถ้าคนตั้งกฏ "ห้ามถ่ายรูปในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ" มีอายุมากกว่าคุณมังกรดำ คุณมังกรดำก็จะโดนข้อหาปีนเกลียวเอานาครับท่าน.. (เอ.. แล้วตรูจะโดนข้อหาปีนเกลียวคุณเล็ก หมึมา รึป่าวเนี่ย ) .......................................................................................................................... เข้าแผ่นดินใหญ่ดีกว่าเพราะตอนนี้รู้สึกว่าจะอ้อมอ่าวตังเกี๋ยไปซะแล้ว.... ผมเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกเสียดายเหมือนกันเมื่อไปเที่ยวสถานที่บางที่แต่ถ่ายภาพไม่ได้ ไม่ได้มีความรู้สึกเลยว่า "จะหวงอะไรกันนักหนา" ห้ามถ่ายก็ไม่ถ่าย ตรูดูอย่างเดียวก็เป็นปลื้มแล้ว ไม่ใช่ว่าไม่พิจารณาหาเหตุผลถึงสาเหตุว่าทำไมเขาไม่ให้ถ่าย... แต่เพราะผมเป็นคนเข้าใจอะไรง่ายๆ มั้งครับ.. เข้าใจว่า.. "การจะออกกฏห้ามใดๆ นั้น เขาต้องพิจารณาเป็นอย่างดีแล้วว่าสิ่งใดเหมาะ สิ่งใดไม่เหมาะ" แค่นั้นแหละสั้นๆ... ถ้ามันถ่ายได้ไม่เสียหายเขาก็คงไม่ห้ามหรอก.. ขนาดพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ยังอนุญาตให้ถ่ายได้แต่ต้องมีลงทะเบียนกล้องเสียก่อนเลย.. และผมก็เข้าใจว่า คนเรามีทั้งที่เข้าใจอะไรง่ายๆ และบางคนก็เข้าใจอะไรแสนยาก จากคุณ : เสือหลุมหลิม เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 21:23:42

ความคิดเห็นที่ 71 กระทู้ก่อนคุณlunaticเปรียบเปรยบอกไม่เป็นตรรกกะ พอคราวนี้ตัวเองเปรียบเทียบ กับ "การกินหมาก" บอกว่าช่วยให้เห็นภาพชัดขึ้น โอ้ยยยยยย ตรรกก๊ะ ตรรกกะ ขำจนท้องแข็งไปหมด จากกระทู้ที่แล้วยังไม่ตอบผมเลยว่า หากอนุญาตให้ถ่าย กันแฟลชได้หรือไม่ได้ แต่ !!! มันต้องมีหลุดบ้างไม่มากก็น้อย วันละรอบสองรอบ เดือนนึงกี่รอบ ปีนึงกี่รอบคูณเข้าไป หรือใครกล้ารับประกันครับว่าจะไม่มีแฟลชเลยสักหนเดียว ยกมือหน่อย แล้วหากวัตถุชิ้นนั้น เสื่อมไป พิสูจน์ได้ว่ามาจากแสงแฟลช คุณมังกรดำจะทำอย่างไรครับ ตอบให้ผมชื่นใจสักทีซิครับ อ่อ เรียนถามอีกหน่อยว่า ที่ว่ากฎต้องแก้ไขได้ ต้องเชื่อฟังกฎอย่างโน้นอย่างนี้  ห้ามแก้ไขเหรอ ผมมีสิทธิ์นะ คุณคิดว่าไอ้การห้ามถ่ายรูปในพิพิธภัณฑ์เนี่ย เค้าตั้งมาเล่นๆอย่างนั้นเหรอ วันนี้อารมณ์ไม่ดีไม่ต้องถ่ายละกัน นึกอยากจะตั้งก็ตั้งตามอารมณ์อย่างนั้นเหรอ ไม่ศึกษาผลได้ผลเสียอย่างนั้นเหรอ แล้วเหตุผลที่หลายๆท่านได้ให้ไว้เนี่ย น้ำหนักมันไม่เพียงพออย่างนั้นหรอ ถึงได้พยายามจะบัญญัติกฎใหม่ให้ได้ เข้าใจครับว่ากฎมันแก้ไขได้ถ้ามันไม่เหมาะสม แต่เรื่องนี้มันไม่ใช่แค่กินหมากปากแดงนะเอ้อ แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 21:57:08 แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 21:48:21 จากคุณ : ยนพ (PoR311) เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 21:46:45

ความคิดเห็นที่ 72 ผู้ใหญ่บางคนก็นะ...... ให้เด็กได้เป็นกระจกสะท้อนตัวตนบ้างก็ดี สงสัยข้องใจว่าทำไมห้ามนักห้ามหนาขนาดนั้นก็แจ้งผู้ตรวจการแผ่นดินฯ ฟ้องศาลปกครองไปเลยครับ  สำหรับสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับข้าราชการ   น้องๆ ลูกๆ หลานๆ จะได้อานิสงค์ไปด้วย จากคุณ : ม่อน เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 22:33:55

ความคิดเห็นที่ 73 ความคิดเห็นที่ 31     กติกาสังคม เพื่อความเรียบร้อย กฎไม่ได้มีไว้แหก แต่กฎก็เอาไว้ เพื่อปรับปรุงแก้ไขด้วย สมัยออกกฎห้ามกินหมาก กฎก็ยังถูกแก้ไขยกเลิกได้ มองอะไรมองให้รอบด้าน จากคุณ : มังกรดำ     เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 11:34:40     ถูกต้องแล้วครับ ผมเห็นด้วยกับ คุณมังกรดำ ว่ากฎที่มันมีข้อบกพร่องก็สมควรแก้ไขเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ดีและพอใจกันทั้งสองฝ่าย แต่ไม่ใช่ออกมาตีโพยตีพายว่า   “ไม่รู้ว่า หวงอะไรหนักหนา-- ห้ามถ่ายรูปเด็ดขาด” แล้วไม่ใช่คำว่า  “ไม่รู้ว่า หวงอะไรหนักหนา”  หรอกเหรอที่ทำให้สัตว์ป่าหลายชนิดต้องสูญพันธุ์ไปเพราะถูกผู้ที่ได้ชื่อว่า "มนุษย์หรือสัตว์ประเสริฐ" บุกรุกป่าเพื่อหาผลประโยชน์ใส่ตัวจนลืมความสูญเสียที่จะตามมา จนสุดท้ายก็ต้องมาออก พรบ. ป่าสงวน เพื่อป้องกันการบุกรุก ล่าสัตว์ และตัดไม้ ปล. ผมเป็นคนมองรอบด้านเสมอมาครับ อีกทั้งยังมองสูงมองต่ำอีกด้วย แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 53 00:00:26 จากคุณ : tiny worm เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 23:54:28

ความคิดเห็นที่ 74   ถึงว่าทะ:-)ๆในห้องกล้อง แต่รู้สึกถึงกลิ่นการเมืองมาตั้งแต่กระทู้ที่แล้ว ลองsearchในgoogleที่แท้ก็ถึงบางอ้อ....... จากคุณ : ขนมไหว้พระจันทร์ใส้ลูกบัว เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 00:14:50 A:158.223.166.231 X: TicketID:020037

ความคิดเห็นที่ 75 อธิบายยาวๆ คงไม่มีคนอ่าน สั้นๆ แล้วกัน การถ่ายภาพ  ควรห้าม  ในบางสถานที่ ควรเปิดให้ขออนุญาตให้ถ่ายได้   ในบางสถานที่ ควรอนุญาตให้ถ่ายได้  ในบางสถานที่ แต่ว่า....  ที่ไหนบ้างล่ะ  ที่ควรอนุญาตให้ถ่ายได้ คิดกันไปเองแล้วกันครับ  ^^ ผมกล่าวมาก็เป็นประเด็นต่างๆ นาๆ กันไป แต่ผมเห็นว่า  "พิพิธภัณฑ์  ควรให้ถ่ายรูปได้"  ความเห็นส่วนตัวนะครับ  ย้ำอีกที จากคุณ : แฉลบยอดหญ้า เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 00:36:15

ความคิดเห็นที่ 76 [^^']  เข้ามาดูก่อนไปนอน .... จากฮาวาย ผ่านช่องแคบปานามา ไปถึงอังกฤษกันแล้วนี่หว่า นึกว่ากลับมาอ่าวไทยแล้วนะเนี่ยยยยยยยยยยย จากคุณ : ชิดขวานอกเืรื่อง ฮาาาา (DeE dEe) เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 00:46:47

ความคิดเห็นที่ 77 ถ้าเป็นแถวบ้าน เค้าจะบอกว่า "คนเฮานี่หนา หยังมาหลึก" จากคุณ : ราตรีที่จันทร์ยืนเศร้า เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 01:41:31

ความคิดเห็นที่ 78 ขอย้ำอีกที " พิพิธภัณฑ์  ควรให้ถ่ายรูปได้ โดยต้องดูความพร้อมและปัจจัยต่างๆ ประกอบกัน ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ควรฝืนสังขาร ควรใช้ความพอเพียงตามเหตุ และปัจจัยเป็นที่ตั้งครับ " แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 53 09:27:17 จากคุณ : ทะเลลงตับ เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 09:26:47

ความคิดเห็นที่ 79 ตามความเห็น 74 ถามพี่กู๋เนี่ยถึงบ้างอ้อ เลยครับ ฮา ฮา ฮา จากคุณ : civic_coupe เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 09:57:37

ความคิดเห็นที่ 80 คุณมังกรดำ นี่ยังไงก็ไม่พ้น เปรม เขตพระราชฐาน การเมือง แม้กระทั่งการกินหมาก 555 ตอนที่คุณมังกรดำ ถ่ายรูปพวกพ้องที่ รปส มาให้ดูที่ รดน มีแต่ภาพที่สวยงามน่าทึ่ง แต่เราแค่นั่งรถเมย์ผ่าน จากสายตาจริงกับภาพที่ได้แตกต่างกันสิ้นเชิง เห้อ คนเข้าจับไต๋ได้หมดแล้วยังจะมากระทู้นี้อีกอ่ะ จากคุณ : สึนามิจัง เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 12:03:20

ความคิดเห็นที่ 81 คุณ : สึนามิจัง เรื่อง รปภ. อ้าง เปรม นี่ ผมจำได้ว่าเคยเล่ามาตั้งแต่ก่อน 2548 แล้ว รปภ. อ้างว่าเป็น เปรม จะให้ผมบอกว่า รปภ.อ้าง ชาติชายหรือไง แปลกแท้ๆ จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 13:50:56

ความคิดเห็นที่ 82 ไม่ได้หรอกครับ คนไทย ต้องง่ายไว้ก่อน จากคุณ : ตาแป๊ะหวานเย็น เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 14:27:43

ความคิดเห็นที่ 83 ขอบคุณสำหรับแนะนำครับ ดีมากเลยครับ จากคุณ : Boomer&Ben เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 14:55:31

ความคิดเห็นที่ 84 อ่าน คห 80 แล้วจึงเข้าใจว่า...ทำไมจึงรู้สึกแปลกๆตั้งแต่กระทู้ที่แล้ว ..... เข้าใจแล้วๆ หึหึ จากคุณ : Leopaul เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 14:59:04

ความคิดเห็นที่ 85 มังเกรียนดำ มาดริฟท์โชว์แล้ววะเฮ่ย !!! ตากล้องกร่าง เกรียน ผู้ไม่ยอมใคร กุจะถ่ายใครจะทำไม กุเป็นชาวบ้าน ขออนุญาตไม่เป็น แบบว่าจะถ่ายเอาไปทำโปสการ์ดขายน่ะ จากคุณ : Nickest of Bakane เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 16:19:56

ความคิดเห็นที่ 86 ต้นเรื่องมันเริ่มมาจากพิพิธภัณฑ์ไม่ใช่เหรอ น่าจะเข้าใจกันหมดแล้ว ดริ๊ฟท์ไปสวนรถไฟอีกละ สมัยก่อนถ่ายไม่ได้น่ะใช่ แต่นี่มัน พศ.ไหนแล้ว เอาเรื่องราวในอดีตมาต่อว่า แล้วตอนนี้ถ่ายได้รึเปล่าล่ะ โถ พอเค้าบอกว่าถ่ายได้ ก็ดริ๊ฟท์ไปว่า "ผมหมายถึงสมัยก่อน" แถเลือดซิบเลย จากคุณ : Nickest of Bakane เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 16:30:14

ความคิดเห็นที่ 87   คุณ : สึนามิจัง เรื่อง รปภ. อ้าง เปรม นี่ ผมจำได้ว่าเคยเล่ามาตั้งแต่ก่อน 2548 แล้ว รปภ. อ้างว่าเป็น เปรม จะให้ผมบอกว่า รปภ.อ้าง ชาติชายหรือไง แปลกแท้ๆ **เล่าก่อน 2548!! ปีนี้2553....ใครจะไปนั่งฟังละเฮ้อ และที่สำคัญ รปภจะอ้างใครก็แล้วแต่ แล้วมันเกี่ยวไรกับ ห้องกล้อง!! จากคุณ : ขนมไหว้พระจันทร์ใส้ลูกบัว เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 16:51:50 A:94.195.185.201 X: TicketID:020037

ความคิดเห็นที่ 88 ชอบจังคำว่า เกรียนดอกเลา 55 ภาพชัดมากทีเดียว จากคุณ : ขนอุย เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 19:32:53

ความคิดเห็นที่ 89   เกรียนราชดำเนินมาห้องนี้เพียบเลย :D จากคุณ : supererky เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 20:40:31

ความคิดเห็นที่ 90 เข้าเปิดฝาดูมาม่าในกระทู้ตัวเองครับ เส้นสุกได้ที่ยัง จากคุณ : นายผจญภัก เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 21:31:10

ความคิดเห็นที่ 91 กลายเป็นกระทู้เน่าเหม็นไปซะแล้ว เกรียนราชดำเนินมาให้รึ่ม ด่าเขาในห้องนั้นไม่ได้  ก็มาด่าห้องนี้  คิดว่าทำถูกแล้วรึ? จากคุณ : แฉลบยอดหญ้า เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 21:51:11

ความคิดเห็นที่ 92 ถ้าจะด่าจะว่า  ก็ตามประเด็น เห็นด้วย  ก็บอกว่าเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย  ก็บอกว่าไม่เห็นด้วย เหตุผลว่าเพราะอะไร  ก็ว่าไปตามนั้น คุณมังกรดำเค้าไป search หาชื่อพ่อใครจาก Google มาตอบกระทู้รึ จะแสดงความเห็น  ให้ดูว่าที่เขาคิด  มันผิดหรือถูก  ก็ว่าไปตามนั้น คุณเถียงได้ด้วยเหตุผล  ผมนับถือ  ใครที่อ่านไล่ลงมาเรื่อยๆ คงจะรู้  ว่าใครมีเหตุผล ใครเถียงไม่มีเหตุผล  ผมก็ไม่ให้นำหนักในความเห็นนั้น ส่วนใครที่คิดว่าตัวเองฉลาด  ไปหาว่าเขาเป็นใครใน Google หรือเข้ามาด่าเขา  แบบไม่ได้มีเหตุผลอะไร  เช่นคุณ "ดินกลางด่าน" ผมมองว่าคุณโง่มากๆ  คนที่ชื่นชอบอะไรแบบนั้น  ผมก็มองแบบนั้นเช่นกัน ความเห็นของคุณ จขกท. กับคุณมังกรดำ  ผมมองว่าไปด้วยกันได้ หากแต่อาจจะเกิดขึ้นในต่างช่วงเวลา  อันนี้ความเห็นในกระทู้ก็เป็นการแสดงความเห็น  ใครมีหน้าที่ทำอะไรก็ทำไป มา Discuss กัน  ก็ได้ประโยชน์กับทุกคน  แต่มาด่ากันแบบไม่มีเหตุผลเนี่ย ... เฮ้อ ... จากคุณ : แฉลบยอดหญ้า เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 22:02:23

ความคิดเห็นที่ 93 เอ่อ ... ขอโทษนะครับ ว่าจะไปถ่ายรูปต้นไม้ ใบหญ้าที่สวนรถไฟ ตั้งค่ากล้องยังไงดีครับ :-P จากคุณ : Gunz_za เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 22:18:09

ความคิดเห็นที่ 94 เห็นด้วยกับทั้งสองท่าน คือจขกท.และมังกรดำ ถ่ายรูป ไม่ยาก ถ้าขออนุญาต แต่บางครั้ง การขออนุญาต นั่นแหละ คือสิ่งที่ยาก !!! หลายท่านคงเคยต้องไปถ่ายรูปบางที่ แบบกระทันหัน จึงไม่ได้เตรียมขออนุญาตล่วงหน้า ซึ่งก็ได้รับอนุญาตบ้าง ไม่ได้บ้าง จึงเกิดปฏิกิริยาต่างกันไป แต่ถ้ามีเวลาเตรียมตัว ทำตามขั้นตอนต่างๆ ได้ ผมก็ว่าไม่น่าจะมีปัญหานะครับ ตัวผมเอง ก็เคยถูกห้ามเช่นกัน (ด้วยข้อหา เลนส์ใหญ่) ก็ได้แต่ยอมรับ และไม่ไปที่นั่นอีก แต่สถานที่สาธารณะที่ไม่เคยถูกห้ามเลย ก็ตามชายทะเลไงครับ (แล้วก็ในที่ทำงานผมเอง) จากคุณ : วิกรมาทิตย์ เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 23:32:42

ความคิดเห็นที่ 95 ชิดขวา... (นอกเรื่อง)คุยกับ น้าอาร์ม .... มาม่าหม้อนี้ต้มมันข้ามวันข้ามคืนยังไม่สุกสักทีเลยนะ จากคุณ : DeE dEe เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 23:43:03

ความคิดเห็นที่ 96 ปัญหา ผมว่ามันคือ มันไม่มีมาตรฐานของกฏที่ชัดเจน ในกรณีเป็นกลุ่ม  หรือแนว Commercial อันนี้เข้าใจ แต่ การขออนุญาต  ทุกคนที่มีกล้องต้องขอ  หรือไม่ เช่น ผมถือกล้อง DSLR ไปคนเดียว ถ่ายเล่นต้องขอหรือไม่ ผมถือกล้อง DSLR ไปกับเพื่อนที่เป็นแบบ เพื่อถ่ายฝึกเล่น ต้องขอหรือไม่ ผมถือกล้อง Compact ไปกับเพื่อนที่เป็นแบบ เพื่อถ่ายฝึกเล่น ต้องขอหรือไม่ ผมกับเพื่อน ถือกล้อง DSLR ไปกัน 2 คน เพื่อถ่ายเล่น ต้องขอหรือไม่ แล้วทางเข้าสวน  แต่ละแห่ง  ก็ไม่เขียนเขียนกฏพวกนี้ให้ชัดเจน ว่า ผู้มีกล้อง กรุณาทำเรื่องขออนุญาตก่อน มีแต่เดินๆ เข้าไปถ่าย  อยู่ ยาม ก็มาห้ามบ้าง มาเตือนบ้าง สงสัยผมต้องขาย DSLR แล้วไปใช้ Micro 4/3 มาใช้แล้วมั้ง จะได้เล็กๆ ไม่เป็นที่สนใจ   แถมคุณภาพเอาไปทำ commercial ได้เหมือนกัน สรุปคือ จะห้ามหรืออะไร ต้องมีกฏที่ชัดเจน  และต้องประกาศให้ทราบโดยทั่วกันด้วย จากคุณ : EITHER เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 53 10:30:29

ความคิดเห็นที่ 97 เข้ามาดู จากคุณ : LIVE 4 LIVE เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 53 12:07:46

ความคิดเห็นที่ 98 นั่นสิครับ ถ้าทุกคนเคารพสิทธิของคนอื่นอย่างมีจิตสำนึก คงไม่ต้องมีป้ายห้ามโน่นห้ามนี่หรอกครับ ผมว่าพี่ ๆ น้อง ๆ ในห้องนี้คงไม่มีนิสัยเกรียนตามสถานที่สาธารณะหรอกครับ ^^ บางทีก็รำคาณหัวใจนะครับที่ต้องไปบอกว่า . .. อย่าเปิดแฟลชถ่ายสัตว์นะครับ . . . . กรุณาต่อคิวถ่ายนะครับ แต่ที่แน่ ๆ เนี่ย มอเตอร์โชว์หรือมอเตอร์เอ็กซ์โปเนี่ยพวกสันดานแบบ คห.15 เยอะมากมาย . . . เข้าใจนะครับว่า กินนมเยอะ ๆ อ่ะดี ^^ จากคุณ : พี่หมี (meecom) เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 53 12:46:57

ความคิดเห็นที่ 99 รู้สึกกระทู้นี้จะกลืนกับกระทู้ห้ามถ่ายจนเกินไป ไปซะแล้ว -*- จริงๆแล้ว เรื่องแบบนี้มันแปรผันตามกันอย่างชัดเจนครับ 1. สถานที่ต่างๆห้ามถ่ายรูปอย่างไร้เหตุผล!! สาเหตุ คนใช้กล้องถ่ายรูปก่อกวนชาวบ้านคนอื่นในสถานที่นั้นๆ เป็นจำนวนมากจนห้ามไม่ไหว 2. สถานที่ต่างๆให้ถ่ายรูปได้ตามชอบใจ!! สาเหตุ คนใช้กล้องถ่ายรูปได้ถูกต้องตามสมควร ไม่ใช้แฟลชในที่ที่ควรใช้ ไม่ถ่ายรูปแล้วรบกวนคนอื่นๆ ................ ดังนั้น ถ้าจะบ่นว่าทำไมห้ามถ่ายอย่างไร้เหตุผล ก็ต้องมองตัวเอง ... ถ้าตัวเองดีแล้ว ก็มองผู้อื่น ... 1. ถ้าผู้อื่นดีแล้ว ไม่มีใครทำแย่ ก็แสดงว่าเจ้าของสถานที่ไร้ทัศนวิสัยที่ดี 2. ถ้าผู้อื่นไม่ดี ก็สมควรที่จะถูกห้ามอย่างไร้ซึ่งข้อแม้ ... ใครเจอแบบข้อ 1. มามาก ก็บ่นเจ้าของสถานที่ ใครเจอแบบข้อ 2. มาเยอะ ก็เข้าข้างเจ้าของสถานที่ ... เป็นเรื่องธรรมดาครับ ^ ^ จากคุณ : TalkyWalky เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 53 14:57:30

ความคิดเห็นที่ 100 อิ่มยัง จากคุณ : AODAOD29 เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 53 15:33:32

ความคิดเห็นที่ 101 http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V9568232/V9568232.html >>> เห็นอยู่ห้องใกล้ๆกัน ยังไงฝากคุณอามังกรดำไปจัดระเบียบหน่อยซิครับ ไปเรียกร้องหน่อยว่าทำไมรถธรรมดาวิ่งไม่ได้ ที่หลายๆท่านพูดกันป่าวๆๆ ปากจะฉีกถึงหู คิดว่าคนไทยไม่พร้อมก็เพราะไอ้คนประเภทนี้แหละครับ วิธีแก้ทำยังไงดีครับ ขนาดมีอิฐไปกั้นแล้ว พวกสิทธิสูงส่งยังเข้าไปวิ่งได้เลย ยังไงดีครับ กล้องก็คงติดเท่าที่จะติดได้แล้ว ปรับก็ปรับแล้ว เอาตำรวจไปยืนเฝ้ามันทุก 10 เมตรเลยใหมครับ จะได้ไม่ต้องไปตั้งด่าน ดีใหมครับคุณอา จากคุณ : por (PoR311) เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 53 19:51:18

ความคิดเห็นที่ 102 ซีทรูสวนรถไฟ ผมไม่เชื่อว่ามีคนกล้าไปถ่าย ถ้ามีจริง ต้องเอารูปมาให้ดูถึงจะเชื่อครับ จากคุณ : แตงโมสีรุ้ง เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 53 20:21:30

ความคิดเห็นที่ 103 #101 555   มีรถตำรวจต่อขบวน BRT ด้วยอะดิ  สันดานจริงๆ จากคุณ : ม่อน เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 53 21:17:55

ความคิดเห็นที่ 104 เข้ามาดูด้วยคน....( ^ _ ^ ) จากคุณ : ... (เป้ว_จีที) เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 53 21:30:17

ความคิดเห็นที่ 105 คือจิตสำนึกของการการอยู่ร่วมกันในสังคมครับ ต่างกรรมต่างวาระ -พิพิธภัณ์หลายๆที่ ห้ามถ่ายภาพ ก็ข้องใจแต่ก็ไม่ได้ถามเหตุผล อดเสียดายไม่ได้ที่คุณค่าดีๆควรจะได้ถูกเผยแผ่ไปได้มากกว่านี้ คนจะได้รู้จักตนเองมากขึ้นจากประวัติศาสตร์ พูดไปเดี๋ยวจะยาวไปถึงระบบการศึกษา ละไว้ก่อน -เพิ่งไปหอศิลป์มา ครั้งแรก..shot แรกเลย ยิง flash ตรงตุ๊กตา2สาวยักษ์ด้านใน พี่รปภเดินมาพูดอย่างสุภาพว่าห้ามใช้flash ก็รู้สึกตัวว่าทำผิดเลยตอบไปว่า "ขอบคุณที่เตือนครับ" จบไป -ชั้นบนคุณลุงคุณป้า ถือกล้อง compact ถ่ายภาพถ่ายโดยเปิดflashจ่อไปยังภาพเขียน อันนี้ไม่เหมาะสม แต่คิดว่าคงไม่มีเจตนาใดๆ และพี่รปภคงไม่ทันเห็น เลยตามเลย -ขึ้นไปชั้นบนสุดบริเวณจัดแสดงภาพถ่าย เจอช่างภาพกับ2นางแบบแต่งตัวสวยงาม โพสถ่ายกันอยู่อย่างเพลิดเพลิน คนส่วนใหญ่ที่มีมารยาทจะเดินเข้าไปดูภาพก็เดินไม่ได้ไม่กล้าเดินผ่าน เกรงว่าจะไปเป็นเสี้ยนview ต้องรอให้เค้าโพสถ่ายกันจนพอใจก่อน พฤติกรรมแบบนี้อีกหน่อยหอศิลป์เกิดเอือมระอาอาจจะห้ามนำเข้า Dslr ก็จะซ$ยกันอีก แอบถ่ายมา2-3ภาพอยากจะสรรเสริญพี่เค้าเหลือเกินแต่เผอิญเป็นคนดีไม่ละกัน -ที่สวนรามอินทรา ไม่ได้คิดอะไรเลย เดินถือกล้อง(E-420)เข้าไปถ่ายๆๆๆ พี่รปภ.แว่นดำหน้าตาขึงขังเดินพุ่งมาแต่ไกล "ห้ามถ่ายครับห้ามถ่าย !@#$@# ถ้าจะถ่ายต้องทำหนังสือขออนุญาต นู่นนี่ๆ แว๊บแรกก็ปรี๊สขึ้นทีเดียว ในใจที่มันข้องอยู่ก็เลยพุ่งไปที่สำนักงานเหมือนกันไปขอคุยกับผู้ดูแลถามถึงเหตุผล แต่หลังจากที่คุยกันแล้ว ทุกอย่างจบลงที่ความเข้าใจ ในเหตุในผล เข้าใจผู้ที่ต้องรับผิดชอบดูแลสถานที่ ผู้ที่เสียสละ"รักในสิ่งที่ทำ" ไม่ใช่เพียงเพื่อเงินเดือนน้อยนิด แต่ที่ทำไปเพื่อสถานที่ๆเค้ารัก ต้นไม้ที่เค้าปลูกและดูแลมาจนงอกงามขนาดนี้ ก็เพื่อพี่ๆน้องๆในชุมชนได้มาพักผ่อน "เห็นคนมาที่นี่แล้วมีความสุขพวกพี่ก็ชื่นใจแล้ว " (บางประโยคจากการสนทนา) เดินออกมาจากสำนักงานพร้อมกับ "ใบคำร้องขออนุญาตถ่ายภาพเพื่อการพักผ่อน" ด้วยความเข้าใจ ด้วยรอยยิ้มและยิ่งกว่านั้นคือ ได้มิตรภาพ เราไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรให้กับสถานที่แห่งนี้เลยแต่กับจะมาหงุดหงิดเอาแต่ใจเพราะเหตุผลอะไรๆของตัวเอง มันน่าตลกไหมล่ะเธอว์ -เดี๋ยวนี้คนถือกล้องตัวใหญ่ๆยั๊วเยี๊ยไปหมด ทุกครั้งที่ประทับกล้องเข้ากับตาเมื่อไหร่ หันกล้องเล็งไปทางไหนคนที่เดินมาก็มักจะชะงัก (มันจะถ่ายอะไรของมัน ถ่ายเสร็จยังฟะ) หยุดรอ รอให้ถ่ายเสร็จก่อน แล้วค่อยเดินต่อ เป็นมารยาทที่ดีที่พบเห็นกันเสมอ แต่ผมมักจะยิ้มแล้วหันไปพูดว่า เชิญตามสบายครับ เดินไปได้เลยไม่ต้องเกรงใจ ทำอะไรตามใจตัวเองได้เต็มที่แต่พยายามอย่าไปละเมิดสิทธิ์ผู้อื่นจนเกินไป คือจิตสำนึกของการการอยู่ร่วมกันในสังคมครับ ต่างกรรมต่างวาระ จากคุณ : อาร์ท รอนแรม เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 00:39:57

ความคิดเห็นที่ 106 ขอบคุณแต่ละความเห็นที่ทั้งค้าน และ เห็นด้วย ช่วงนี้ผมจะนานๆ เข้ามาที เว้นไปสักพัก เพราะงานสแกนสไลด์ พันกว่ารูป เสร็จแล้ว เหลือแต่งรอยสกปรกกับปรับสีอีกสองสามร้อยรูปก็จบ ก่อนหน้านี้ที่เข้ามาบ่อยอาศัยช่วงเครื่องกำลังสแกน เลยโพสต์ฆ่าเวลารอเครื่องสแกน และบางทีก็เป็นการพักงานไปด้วยในตัว ความเห็นที่ค้านหลายๆ ความเห็นเป็นเรื่องที่มีเหตุผล ให้เอาไปคิด ความเห็นที่เห็นด้วยหลายๆ ความเห็นเป็นเรื่องที่มีเหตุผลเช่นกัน ผมเสียดายแต่บางคน ที่มีอาเจนด้า พอเห็นชื่อว่าใครโพสต์ก็ค้านเอาไว้ก่อน เชื่อว่ากระทู้นี้และกระทู้โน้น คงเป็นอะไรให้เป็นข้อมูลเพื่อหาคำตอบกันต่อไป ขอบคุณมากครับ แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 53 01:39:22 จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 01:37:41

ความคิดเห็นที่ 107 จริงๆจุดประสงค์ของผมในกระทู้นี้คือบอกว่าถ้าเราเข้าไปแล้วขออนุญาตอย่างเป็นมิตรอะไรก็พอคุยกันได้ผมมองว่ามันไม่ได้ลำบากเท่าใหร่ถ้าเรายอมเสียเวลาสักนิดหน่อยติดต่อเจ้าหน้าที่นิดนึงบอกกล่าวให้เค้ารู้ว่าเราเข้าไปเพื่ออะไรและมีความเกรงใจผู้ดูแลบ้านนั้นนิดนึงปัญหาจะไม่บานปลายครับ มองใจเขาิใจเรา  สมมุติบ้านเราอยู่ๆเราเห็นมีคนมาเกาะรั้วบ้านดูบ้านเรานานสองนาน เราก็ต้องสงสัยระแวงอยู่แล้วว่ามาดีรึเปล่า  ถ้าอารมณ์ดีอาจจะเดินไปถามดีๆ ว่ามีธุระอะไรเหรอครับ  แต่ถ้าอารมณ์เสียอยู่อาจจะรำคาญและไล่ไปว่าอย่ามาดูบ้านชั้น ในทางกลับกันเช่นเราเข้าไปทักก่อนโทษนะครับ ผมเห็นว่านที่คุณปลูกได้สวยมากสอบถามได้มั้ยครับว่าพันธ์อะไร  อาการตอบสนองจากเจ้าของบ้านอาจจะดีกว่าที่คิดเพราะเค้าพอเข้าใจเราต้องการอะไรและอาจจะได้ข้อมูลอะไรดีๆกว่าที่คาดหวังไว้ตอนแรกก็ได้ ซึั่งจริงๆอันนี้ก็เป็นเทคนิคของคนที่จะเป็นช่างภาพด้วยโดยเฉพาะคนที่ชอบถ่ายแนว Landscape กับ Street Life ที่ควรมีคือความสามารถในการผูกมิตรกับผู้คนได้ง่าย แต่ถ้าเจ้าของบ้านอารมณ์ไม่ดีก็ดูอารมณ์เค้านิดนึงก่อน อันนี้ก็อีกเทคนิคของคนถ่ายภาพเหมือนกันที่ควรเก่งในการสังเกตุอารมณ์ของคน จากคุณ : นายผจญภัก เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 02:50:21

ความคิดเห็นที่ 108 ถ้าถามผมผมชอบแนวทางสร้างสรรมากกว่าตั้งป้อมค่ายตีกัน แล้วปักธงว่าแกถูกชั้นผิด  ไม่ว่ายังไงแกก็ผิดๆๆๆ  เชื่อผมเถอะว่าปัญหาไม่จบหรอกและบ้านเราคงจะพัฒนาได้ยากถ้าเรายอมรับในความแตกต่างทางความคิดกันไม่ได้ และมาม่าแบบนี้กินไม่อร่อยครับ ผมเข้าใจเหตุผลของทั้งสองฝ่ายครับ สิ่งที่เป็นความจริงมันเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาครับ สองร้อยกว่าปีก่อนคนเราเชื่อว่าโลกแบน หลังสองร้อยปีที่ผ่านมา เราเชื่อว่าโลกกลม ไม่กี่สิบปีที่ผ่านเราค้นพบว่าโลกเรามันไม่กลมดิ๊ก แอบป้านนิดๆ อั่นแน๊ หลังจากนั้นไม่นานยังพบว่าแกนโลกมันเอียงด้วย ถามผมผมไม่คิดคนในยุคมากกว่าสองร้อยปีก่อนที่เชื่อว่าโลกแบนเป็นคนโง่ แต่เพราะยังเจอการค้นพบใหม่แค่นั้น   สิ่งที่สำคัญคือเราสามารถยอมรับในการเปลี่ยนแปลงแห่งความจริงเมื่อมีการค้นพบใหม่ๆและปรับตัวได้ จากคุณ : นายผจญภัก เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 03:00:37

ความคิดเห็นที่ 109 ขอความกรุณาอย่าคิดเผื่อใครนะคะ เลิกอ้างซะที ว่าเรียกร้องเพื่อคนอื่น เพื่อประชาชน ปล.ส่วนตัวคงไม่ขออนุญาตหรอกค่ะ ขี้เกียจ ไม่ให้ถ่ายก็ไม่ถ่าย มีหลายอย่างที่เก็บไว้เป็นความทรงจำได้โดยไม่ต้องถ่ายรูป แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 53 10:24:35 จากคุณ : คนทั่วไปนี่แหละ (bookalive) เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 10:20:41