ความคิดเห็นที่ 1 วิธีการใช้ก็ไม่ยุ่งยากอะไรเลย เพียงแค่พิมพ์คำที่ต้องการลงไป ถ้าหากพิมพ์ได้ถูกต้อง ความหมายของคำนั้นๆ ก็จะปรากฏขึ้นมา และเรายังสามารถใช้ * ต่อท้ายคำที่พิมพ์ไปบางส่วน ในกรณีที่ไม่แน่ใจ โปรแกรมก็จะปรากฏคำที่อยู่ในหมวดนั้นๆ ขึ้นมาให้โดยอัตโนมัติ จากคุณ : MeKaPoLiDiS เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 19:02:25

ความคิดเห็นที่ 2 ต้องบอกกันก่อนว่า พจนานุกรมนี้ ไม่ได้บรรจุคำศัพท์ทุกคำไว้ เนื่องจากเป็นพจนานุกรมหลักในปี ๒๕๔๒ คำบางคำก็จะเป็นคำศัพท์เทคนิค ที่ถูกบรรจุอยู่ใน "พจนานุกรมคำศัพท์เฉพาะ" ของราชบัณฑิตยสถาน ซึ่งจะแยกตามวงการอีก แต่ผมเชื่อว่าในพจนานุกรมนี้ เพียงพอต่อการค้นหา และนำไปใช้อ้างอิงการ พิมพ์ หรือ เขียน ภาษาไทยให้ถูกต้องอย่างแน่นอน หากน้าๆ ท่านใดไม่แน่ใจ หรือค้นหาแล้วไม่เจอจริงๆ ก็สามารถสอบถามไปทางราชบัณฑิตยสถานได้โดยตรง เว็บไซต์ http://www.royin.go.th ติดต่อ ราชบัณฑิตยสถาน สนามเสือป่า เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300 โทรศัพท์ 0 2356 0466-70 , 0 2356 0477 อีเมล ripub@royin.go.th หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ :) จากคุณ : MeKaPoLiDiS เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 19:03:44

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณมากครับ (เห่อของใหม่เลยผม)     จากคุณ : 9george (ge-or-ge) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 19:08:44

ความคิดเห็นที่ 4 สำหรับใครที่ใช้ Google Chrome หรือ Web Browser อื่นๆ หากเข้าเว็บไซต์ไปแล้ว ขึ้นข้อความดังภาพข้างล่างนี้ ให้ติ๊กถูกแล้ว "ดำเนินการต่อ" ได้เลยนะครับ ไม่มีไวรัส หรืออันตรายใดๆ แนะนำให้ใช้ IE จะแสดงผลได้สมบูรณ์และถูกต้องมากที่สุด จากคุณ : MeKaPoLiDiS เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 19:10:19

ความคิดเห็นที่ 5 เจอเหมือนกัน จากคุณ : leetaesok เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 19:24:15

ความคิดเห็นที่ 6 เข้าได้เลยครับ ไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน จากคุณ : MeKaPoLiDiS เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 19:47:19

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณมากครับ เป็นประโยชน์มากที่เดียว  บางทีผมก็สะกดคำบางคำไม่ค่อยจะถูกเหมือนกันครับ   จากคุณ : ตากล้องหนุ่ม เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 20:29:43

ความคิดเห็นที่ 8 อีกหน่อยคงมีคนมาแย้งว่า ภาษามันดิ้นได้บ้างล่ะ ภาษาต้องวิวัฒนาการบ้างล่ะ อันนี้ผมไม่เถียง แต่ถ้ามันดิ้นลงหรือวิวัฒนาการต่ำลง ผมก็ไม่ยอมรับเหมือนกัน   แต่สำหรับคนที่เขียนไม่ถูก พิมพ์ผิด หรือสะกดผิดเพราะไม่รู้ ผมก็ไม่ได้ติดใจอะไรนะครับ มันก็มีบ้างที่ไม่รู้ ดังนั้น ผมสนับสนุน จขกท ครับ^^ จากคุณ : Johnnie Walked เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 20:39:04

ความคิดเห็นที่ 9 ยอมรับครับว่ายังอ่อนภาษา เขียนไม่ถูกบ่อย . . จากคุณ : Ananda_F11 เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 21:08:58

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณครับ จากคุณ : raksapondet เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 22:55:30

ความคิดเห็นที่ 13 ________________________________________________ แบบไหนเรียกว่า “ภาษาไทยที่ถูกต้อง” ? ภาษาที่ไม่กระดิกกระเดี้ย เขาเรียกว่า ภาษาที่ตายแล้ว สำนวนที่ใช้ ภาษาที่ใช้วันนี้ กลิ่นอายมีเนยปนอยู่ ใช้กันมาหลายปีจนเคยชิน เช่น “ขอต้อนรับด้วยความอบอุ่น” . รากศัพท์ที่เรียกภาษาไทยจริงๆ ก็มาจากภาษาแขก ลากลึกยาวโน่น มาจากภาษาพวกฟินิเชียน เป็นต้นตระกูลของภาษา ที่จริง สำนวนภาษาเปลี่ยนไปเรื่อยๆ มาตลอด เอาแค่เมื่อไม่นานมานี้ภาษาและสำนวนของ ป.อินทรปาลิต คนวันนี้ยังฟังแล้วตลก ย้อนหลังไปอีก ภาษายุคกรุงศรีอยุธยายิ่งไม่เหมือนวันนี้ เอาแค่ว่า เมื่อจะทำหนังสือโต้ตอบกันแบบเป็นทางการ เอาจริงเอาจัง ค่อยมาว่ากันเรื่องกฎเกณฑ์ (ซึ่งแน่ละว่าต้องเปลี่ยนไปในวันข้างหน้า ....แหงมแต่ว !! ) ส่วนภาษาที่ใช้พูดใช้เขียนกันทั่วไป อย่ามาซีเรียสกันนักเลย ภาษาไม่วิบัติหรอก ’รงค์ วงค์สวรรค์ คนนี้รู้จักกันไหม ? ปี 2510-12 ’รงค์ วงค์สวรรค์  โดนประดาครูบาอาจารย์ภาษาไทยทั่วประเทศ (ระดับอาจารย์ผู้แก่กล้าหลักภาษาทั้งหลาย ยึดมั่น ยึดติดเป็นสรณะ) ต่างรุมประนาม สาปแช่ง กล่าวหาว่า ’รงค์ วงค์สวรรค์  เป็นตัวกาลี ทำให้ภาษาไทยวิบัติ มีการขายความคิดนี้ผ่านในชั้นเรียน ในบทความ และตามที่ต่างๆ มันน่าหัวร่อ ........... 55555555555555555 คริคริ หึ หึ อีกสามสิบปีต่อมา ’รงค์ วงค์สวรรค์ เป็นศิลปินแห่งชาติ ในสาขาเกี่ยวกับการใช้ภาษาขีดๆ เขียนๆ แ่านความเห็็นนี้แล้ว เปง ยาง งาย ย ย ย ย ย ย ? อ้อ ! รู้จักไหม คำว่า “แหงมแต่ว” นี้เป็นคำอะไร มาจากไหน ? เฉลยให้ว่าเป็นสำนวน สแลง เมื่อสี่สิบปีก่อน แปลว่า “ใช่เลย ---แหงแซะ” สงสัยอีกไหมล่ะว่า “แหงแซะ” แปลว่าอะไร เอานี่ เดี๋ยวจะว่าเสนอความเห็นแล้ว ใช้ภาษาเป็นรึป่าว ? ลองอ่านนี่ดู แต่งเอาไว้เมื่อเพิ่งย่าง 17 ขวบปี สัมฤทธิ์ประสิทธิ์เสพ กามเทพอุปถัมป์ ลีลาและลำนำ ระเริงดำฤษณา เนื้อแนบแอบอิงเนื้อ ผจงเอื้อผ่อนลีลา ร้อนร่านกระหื่นหา ประคองท่าประเคียงทาง กอดก่ายกระหวัดเกี้ยว กระสันเสียวคละคราญคราง ตฤณสิบอบบาง ประดุจร่างจะรานร้าว ร่านร้อนพะเนียงหนุ่ม สิกลับสุมฟืนฟอนสาว ลุกฮือกระพือราว- จะมอดไหม้ไปเป้นจุณ ราเชื้อก็เหลือเถ้า สิ้นกระเส่ารสเมถุน เสียดายแรกดรุณ สิหมกมุ่นกามารมณ์ ---- ลงในชาวกรุงนานมาแล้ว----- (สองบาทสุดท้ายปรับเปลี่ยนจากของเก่า แต่งใหม่สดๆ เดี๋ยวนี้เอง) แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 53 02:29:14 แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 53 02:28:36 แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 53 23:41:10 จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 23:37:39

ความคิดเห็นที่ 15 ไปหานวนิยาย หนังสือพิมพ์ เมื่อสักห้าสิบปีที่ผ่านมาอ่านๆ ดู ทุกคนในที่นี้นั่นแแหละ คงจะรู้สึกว่า เรานี่แย่ ไม่รักษาภาษาที่คนรุ่นก่อนใช้กันเลย อย่างเช่น “ชิ้น” รู้ไหม ชิ้น แปลว่าอะไร ? แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 53 23:43:57 จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 23:43:40

ความคิดเห็นที่ 16 อะไรที่มันดี มันควรใช้ “สังคมคนส่วนใหญ่” จะเลือกเก็บเอาไว้เอง หากหนังสือเมื่อสี่ห้าสิบปี สำนวนยังไม่ซึ้งพอ ลองไปอ่านหนังสือเก่าๆ สำนวนเก่าๆ ในโองการต่างๆ ดูบ้าง แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 53 02:31:20 จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 23:46:15

ความคิดเห็นที่ 17 อย่างอ่านและเขียนทับศัพท์ภาษาอังกฤษ ไปหาอ่านดูนะ พระราชนิพนธ์ไกลบ้าน ร.5 ทับศัพท์กันตรงๆ เยอะแยะ จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 23:48:39

ความคิดเห็นที่ 18 คำบางคำ ขำกลิ้ง ในพจนานุกรม คำศัพท์ถ่ายภาพนี่แหละ Exposure ท่านราชบัณฑิต แปลเอาไว้ว่า “การเผยแสง” มันก็อีหรอบเดียวกับ “หมากตีน” รู้จักไหม “หมากตีน” มันเป็นไง บัญญัติขึ้นมาแล้วทำไมคนไม่ใช้ ? จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 23:50:31

ความคิดเห็นที่ 19 ไปละ.............น๊า า า า า าา าา า า ....... ฟิ้ว ว ว ว ว ว ว ........ ว ว ว วว  ............... จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 23:58:58

ความคิดเห็นที่ 20 เมื่อเดือนที่แล้วผมเขียนรายงานการวิจัย ต้องเขียนชื่อคนที่เป็นภาษาต่างประเทศในชื่อไทย เช่น Henry Edmond Cross ต้องเขียนเป็นภาษาไทย แล้วจะเขียนอย่างไร เฮนรี่ เอดมอนด์ ครอส ครอสส์, กรอสส์ ฯลฯ แต่คำตอบง่ายๆ คือไปเปิดพจนานุกรมที่เกี่ยวข้อง นั่นก็คือพจนานุกรมศิลปะ คำตอบก็คือ อองรี เอดมง กรอส ทุกอย่างจบ ผมทำมาหากินทางการเขียนมานานพอสมควร ถ้านึกไม่ออกว่าจะเขียนคำไหนอย่างไร ผมเปิดพจนานุกรมและเขียนตามนั้น ไม่ว่ามันจะตลกและดูไม่เข้าท่า ยกเว้นบางคำที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคย เช่น ชัทเตอร์ ผมใช้ ชัตเตอร์ ฯลฯ แต่เวลาผมเขียนใน Face ก้อจาปรามาน ไอ้ก้อบมรึงจากวินเหรอ เหออๆๆๆ แปลออกไหมครับ แต่ประโยคข้างบน คนในแวดวงของผมแปลได้หมด ผมว่า ความเหมาะสมอยู่ที่เวลาและสถานที่ที่ใช้ภาษาครับ ปล. เห็นเฮียใน คห. 12 สงสัยต้องเดินไปต้มน้ำ อิอิ แก้ไขเป็นเฮียใน คห 13.... แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 53 00:21:10 จากคุณ : ว.วีระ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 00:14:48

ความคิดเห็นที่ 21 คุณ : ว.วีระ ถูกต้อง พี่ก็ทำอย่างคุณนี่แหละ เรา “เป็นนายของภาษา” ไม่ใช่ให้ ภาษามาเป็นนายของเรา ครู คนเก่าๆ คนรุ่นพ่อรุ่นแม่สอนผมมาอย่างนี้ จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 00:20:36

ความคิดเห็นที่ 22 เราจบเอกภาษาไทยทั้ง ป.ตรี และป.โท เป็นครูภาษาไทยด้วย เข้าใจความรู้สึก และความตั้งใจดีของเจ้าของกระทู้ดี... ตอนทำงานแรกๆด้วยวุฒิ ป.ตรีเครียดมากที่เห็นเด็กๆเขียนภาษา แบบภาษา Chat ภาษาสมัยใหม่มาในงาน...หลังจากไปเรียนโท ความคิดเปลี่ยน จากคิดแบบ "หลักไวยากรณ์" ต้องแม่นแป๊ะ เปลี่ยนเป็นความเข้าใจทาง "ภาษาศาสตร์" ได้เห็นและยอมรับ การเปลี่ยนแปลงที่มันก็เปลี่ยนมาตลอดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เห็นคำหลายคำที่เขียนได้ ๒ แบบในพจนานุกรม เพราะกระแสนิยม...... แต่ในฐานะครูเวลาสอนศิษย์ก็สอนแบบที่ถูกต้องให้ ผิดมาก็แก้ไป แนะนำไปให้นึกถึงกาลเทศะ และแยกแยะระหว่างภาษาพูด ภาษาเขียนเป็นหลัก แต่ไม่เอาเป็นเอาตายเหมือนแต่ก่อน... เพราะยอมรับความจริง และกฎของการเปลี่ยนแปลง ...อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่ละเว้นแม้แต่สิ่งที่เราเห็นว่าเป็น "วัฒนธรรม" จากคุณ : มือใหม่แกะเฝือก (Modern_Bear) เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 00:23:24

ความคิดเห็นที่ 23 คุณ : ว.วีระ ถามหน่อย หรือช่วยสืบค้นหน่อย คำว่า ราชปะแตน นี่ไม่ใช่คำไทยเดิมๆ แน่ๆ พี่คาดว่า น่าจะมาจาก ราช = แพทเทิร์น เออ แล้ว แพทเทิร์น กับ แพทเทอร์น ยังไง ที่เขาว่าถูก ? ไหมายเหต ไม่รู้ละ พี่ใช้ อินเตอร์เน็ต บ้าง อินเทอร์เน็ต บ้าง ก็เห็นเข้าใจกันได้ดี จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 00:25:04

ความคิดเห็นที่ 24 กล้าพนันได้เลย หากว่าใครในนี้ มีใครสักคนใช้ภาษา ศัพท์ สำนวน ตรงเปรี๊ยะๆ เหมือนคนสมัยสงครามโลก “ยอมให้เตะก้นผมรอบสนามหลวง สิบรอบ” จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 00:31:09

ความคิดเห็นที่ 25 แหงแซะ? น่าจะแปลว่า แน่นอน ใช่แหงๆ คำนี้คุ้นๆ ตอนเด็ก ชิ้น? สงสัยตรงกับ กิ๊ก นะ น่าจะเป็นภาษาสมัย พล นิกร กิมหงวน ราชปะแตน อันนี้ไกลเกินจินตนาการ หรือเป็น Royal+Pattern ไม่ชอบคำว่า การเผยแสง เช่นกันครับ ไม่เคยใช้เลย ผมจะใช้ การเปิดรับแสง ส่วน internet น่าจะ เป็น อินเตอร์เนต ใช่ไหม? รบกวนผู้รู้ด้วย จากคุณ : ว.วีระ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 00:41:11

ความคิดเห็นที่ 26 ถูกจริงๆคือ อินเทอร์เน็ต ครับ คิดอีกแง่หนึ่ง ที่เราไม่ได้ใช้ภาษาสมัยสงครามโลก อาจจะเป็นเพราะคนยุคนั้นไม่อนุรักษ์ภาษาขณะนั้นย่อมเป็นได้ ถ้ายังคิดอยู่แบบนี้ ต่อไป ภาษาไทยก็คงต้องเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ในอนาคต อาจจะได้ยินประเภท "เจร๊ดดดดโด้ววว ทามมายมานแจ่มจ๊อดแบบนี้เว้" จนชินหูก็ได้ ปล.การที่ภาษาเปลี่ยนมันอาจจะมีจากหลายปัจจัย อาจจะมาจากพฤติกรรมของมนุษย์ที่ต้องการสิ่งใหม่ๆ เบื่อความซ้ำซากจำเจ ก็เป็นได้ สำหรับผมแล้ว ตอนนี้ภาษาที่ใช้ก็ดีที่สุดแล้ว ไม่อยากให้มันเปลี่ยน แต่ก็บังคับใครไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องของเขา ใครใคร่ใช้แบบดั้งเดิมก็ใช้ ใครใคร่เปลี่ยนให้มันดิ้นเป็นฮิปฮอปก็ตามแต่ แต่ผมคงใช้แบบปัจจุบันนี่แหละครับ... แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 53 01:24:46 จากคุณ : Johnnie Walked เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 01:24:11

ความคิดเห็นที่ 27 Internet ใช้ อินเทอร์เน็ต ตาม คห. ๒๖ ส่วน ราชปะแตน มาจากคำว่า Rajpattern เป็นคำประสม บาลี กับ อังกฤษ จากคุณ : มือใหม่แกะเฝือก (Modern_Bear) เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 01:32:00

ความคิดเห็นที่ 28 คุณ : Johnnie Walked เราว่าของเราดี ของรุ่นเราดี ไปอีกยุค คนรุ่นใหม่ว่าของรุ่นเขาดีกว่า ผมมีหลักคิดส่วนตัวอย่างหนึ่ง คือ “ทฤษฎีการเลือกสิ่งที่ดีเอาไว้” ของ ไวส์แมน ซึ่งเอามาใช้ได้กับพฤติกรรมมนุษย์ในการเลือกสิ่งที่ดีเอาไว้ สิ่งไม่เหมาะสมจะถูกคัดออก แบบ “หาง” ไงครับ คนเราไม่ต้องใช้หาง จึงเหลือแต่กระดูกก้นกบ แต่ลิงบางชนิดยังต้องใช้หาง จึงมีหางในเผ่าพันธุ์ของมัน จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 02:01:18

ความคิดเห็นที่ 29 ตกลงโรงเรียนนานาชาติ จะเขียนว่าไง “โรงเรียนอินเทอร์” ? เห็นเรียกกัน “โรงเรียนอินเตอร์” กันทั้งบ้านทั้งเมือง คำศัพท์บ้างผมก็ใช้ตามที่ราชบัณฑิตบอก จะได้ไม่ขวางโลกมากนัก แต่คำศัพท์บางคำผมไม่เชื่อราชบัณฑิต เพราะ สองมาตรฐานแบบไม่มีเหตุผล อย่างคำว่า inter-อินเตอร์ -อินเทอร์ คำอย่างนี้ ผมใช้ตามความพอใจของผม เพราะคนทั่วไปก็ใช้กันและเข้าใจ อีกอย่างเช่น เบอร์โทรศัพท์ ผมจะเขียน xx-xxx-xxxx ไม่บ้าจี้ตามคนใหญ่โตของโทรศัพท์ที่ออกมากำหนดให้เขียน xxx-xx-xxxx ซึ่งท่านนายกสมัครเขียนเล่าเอาไว้ในทำนองว่าคนคิด งี่เง่า แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 53 02:17:26 จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 02:06:44

ความคิดเห็นที่ 30 เรื่องการเขียนเบอร์โทร เป็นไปดังนี้ การเขียนเลขหมายโทรศัพท์ที่เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ประเทศไทยได้ใช้แนวทางการเขียนเลขหมายโทรศัพท์ตามมาตรฐานของสหภาพโทรคมนาคม ระหว่างประเทศหรือ ITU เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลกดังนี้ 1. การเขียนเลขหมายโทรศัพท์ในประเทศ โทรศัพท์ (Tel) 0 xxxx xxxx ต่อ xxx โทรสาร (Fax) 0 xxxx xxxxx โทรศัพท์เคลื่อนที่ 08 xxxx xxxx 2. การเขียนเลขหมายโทรศัพท์ระหว่างประเทศ Tel. +66 (0) xxxx xxxx Ext. xxx Fax. +66 (0) xxxx xxxx Mobile +66 (0)8 xxxx xxxx อ้างจาก http://www.tot.co.th/index.php?option=com_linkcontent&Itemid=87&categoryid=147&task=detail&detail_id=746&lang=th ส่วนท่านสมัคร ผมชอบท่านตรงความขวางโลกนี่แหละ ท่านทำให้ผมเกิดอารมณ์ขันอยู่เรื่อย (กล่าวด้วยความเคารพ ในแง่มุมความคิดหลายๆ แง่ของท่าน เช่นเรื่องการเลี้ยงแมว หรือเรื่องชิมไปบ่นไป ไม่เกี่ยวการเมือง) จากคุณ : ว.วีระ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 02:30:01

ความคิดเห็นที่ 31 คุณ : ว.วีระ อ่านและเขียนเบอร์โทร แบบฝรั่ง มันติดๆขัดๆ เหมือนร้องเพลงตะกุกตะกัก กับอีกอย่างหนึ่ง ท่านนายกสมัครเขียนเอาไว้ถุกทีเดียวเชียวแหละ (เล่นสำนวนซะหน่อย) 01 02 0xx เขียนและอ่านแบบ xx-xxx-xxxx นี้ ในเมืองไทย มันสื่อได้ว่าเป็นโทรศัพท์มือถือ หรือเบอร์บ้าน เบอร์ตจว. จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 02:36:29

ความคิดเห็นที่ 32 เห็นตาม 31 ตั้งแต่มีเลข 8 เพิ่มเข้าไปในโทรศัพท์ แล้วมีวิธีการเขียนแบบใหม่ ผมไม่ถนัดและไม่ค่อยชอบ แต่มันเป็นมาตรฐานการเขียน ก็ต้องใช้กันไป แต่เวลาอ่าน ไม่ชอบเลย และที่สำคัญ เลขเบอร์โทรสวยๆ ก็เลยไม่สวย เช่น (สมมุติ) เลขเดิม 01 305 3035 ต้องเปลี่ยนเป็น 0 8305 3035 (แต่เบอร์ที่มีเลข 8 อาจจะเลขสวยขึ้นได้) ทุกวันนี้ก็ไม่ชินที่จะอ่านพูดตามหลักมาตรฐาน เช่นเดียวกับไม่ชินและไม่ชอบเวลาใครบอกเลขโทรศัพท์ทำนองนี้ "ศูนย์แปด สองสามตัว สี่สองสี่สอง" เป็นต้น จากคุณ : ว.วีระ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 02:47:00

ความคิดเห็นที่ 33 คุณ : ว.วีระ เรื่องเลี้ยงแมวของท่านนายกสมัคร เกี่ยวกับการเมืองตรงๆ ถ้าจะให้เกี่ยว เหมือนกับเรื่อง “ต่อยไข่” จะต่อยทางแหลม หรือจะต่อยทางป้าน ความขัดแย้งในเรื่องนี้มีเล่าในนิทานทำให้สองเมืองยกทัพมารบกัน จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 02:54:34

ความคิดเห็นที่ 34 อ้อ ! ข้างบน(ตั้งใจแกล้ง)เขียนให้กำกวม(เล่น) หมายถึง “ต่อยไข่ลวก” (ไข่ไก่ แบบลวกกินตอนเช้าๆ) . ข้อสังเกต---การแยกคำในวงเล็บ เจอเยอะ แยกคำใส่วงเล็บกันไม่ค่อย(จะ)ตรงความหมายที่ต้องการ ทำให้ความหมายเพี้ยนไป หรืออ่านแล้ว กระดักกระเดิด --->>> กระดักกระเดิด แปลว่าอะไร ? แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 53 02:58:25 จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 02:57:59

ความคิดเห็นที่ 35 เอาแบบนี้แล้วกันนะครับคุณมังกรดำ ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา ผมเพียงต้องการแค่รณรงค์ให้ใช้ (เขียน+สะกด) ภาษาไทยให้ถูกต้องเท่านั้น ไม่ได้ต้องการให้ไปคิดอะไรมากมาย หรือไปมองเจาะลึกอะไรแบบที่คุณมังกรดำร่ายมาซะยาวเหยียด ผมเองก็เป็นคนไทยคนนึงที่รับรู้ และทราบดีถึงการเปลี่ยนแปลงของภาษา เราไม่มีทางไปเหนี่ยวรั้ง หรือบังคับไม่ให้ภาษาเปลี่ยนแปลงได้หรอกครับ แต่เราสามารถใช้ให้ถูกต้อง หรือเหมาะสมกับช่วงเวลา ณ ปัจจุบันได้ เวลาผม chat กับเพื่อน หรือคนรู้จัก ผมก็ใช้ภาษาวิบัติเหมือนกันแหละครับ แต่ว่าพอเวลามาพิมพ์ลงในเว็บบอร์ดสาธารณะ ผมก็อยากจะเขียนให้ถูกต้อง เพราะเวลาใครมาอ่าน (โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน) ก็อาจจะจำเอาไปใช้ผิดๆ ได้ ถ้าคิดว่า จะใช้ภาษาไทยยังไงก็ได้ อีกหน่อยอนาคตผมมีลูก มีหลาน ก็ไม่มีความจำเป็นต้องส่งไปเรียนหนังสือหรอกครับ เพราะคิดแค่ว่า อยากใช้อะไรก็ใช้ไปเถอะ สื่อสารรู้เรื่องเป็นพอ อย่างเช่นที่เห็นอยู่ในห้องกล้องนี้ การสะกดคำยังมีความลักลั่นกันอยู่ค่อนข้างมาก เลนส์ - เลนซ์ - เลนท์ สีสัน - สีสรร - สีสรรค์ อะไรทำนองนี้ ซึ่งยังมีอีกมากมายหลายคำที่ไม่ได้ระบุไว้ ต้องขออภัยด้วยครับ ซึ่งถ้าเกิดเราไม่ทราบว่า มีวิธีการอย่้างไรที่จะเขียน หรือสะกดคำนั้นให้ถูก มันก็คงเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่นอน ส่วนใครที่ตั้งใจหรืออยากจะเขียนภาษาไทยให้ผิดเพี้ยน ลักลั่น วิบัติ หรืออะไรก็แล้วแต่ อันนั้นก็ตามสะดวกเถิดครับ ผมคงไม่มีสิทธิ์ไปว่าอะไร มันอาจจะเป็นเรื่องเล็กน้อยในสายตาใครบางคน แต่ืถ้าช่วยกันทำให้มันถูกต้อง และ ดี ได้ ก็น่าจะดีกว่า ปล่อยให้แย่ และ เสื่อมลงไปก่อนเวลาอันควร ผมเชื่อว่าคนที่รักภาษาไทยคงทราบและเข้าใจเจตนาของกระทู้นี้ดี และก็อยากให้หลายๆ คนเข้าใจเจตนาที่แท้จริงในการตั้งกระทู้นี้ด้วย แต่ถ้าหากไปเหยียบใครเข้าล่ะก็ ผมต้องขออภัยและโหวตลบได้เลยครับ ไม่ว่ากัน อยากให้ใช้วิจารณญาณของแต่ละคนนะครับ สิ่งไหนดีก็รับเอาไว้ สิ่งไหนไม่ดีก็ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับผมก็ได้ ด้วยจิตเป็นกุศลครับ ปล.แค่มาชี้แจงให้เข้าใจกันนะครับ ไม่นิยมดราม่า :) จากคุณ : MeKaPoLiDiS เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 03:14:53

ความคิดเห็นที่ 36 คุณ : MeKaPoLiDiS ผมก็ไม่นิยมดราม่ามากนัก ถ้าจะเซ็ทแบบถ่ายภาพชอบให้เป็นแบบเรียลๆ อย่าซีเครียด ที่จริงขอบคุณที่กรุณานำลิ้งค์มาให้ ผมเพียงเอาความเห็นมาเสริม แตกรายละเอียด เพื่อให้เห็นว่า ความกังวลเรื่องภาษานั้น ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย(ตามที่อธิบายไว้ในคห.ข้างบน) อีกทั้งคำศัพท์ทั้งหลายที่ราชบัณฑิตตราเอาไว้ บอกแล้วว่า จะใช้ตามถ้าจำเป็น แต่ไม่เชื่อทั้งหมด ซึ่งได้ยกตัวอย่างแล้วเช่นคำว่า หมากตีน และคำว่าอินเทอร์ อินเตอร์ แต่อันที่จริง เป้าหมายของผมมุ่งไปที่ แง่มุมการใช้ภาษามากกว่า ขอโทษ ถ้าความเห็นขวางโลกของผมทำให้เป็นตะกอนในอารมณ์ แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 53 03:41:31 แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 53 03:40:26 จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 03:39:28

ความคิดเห็นที่ 37 คุณมังกรดำ... อย่าเข้าใจผิดครับ ไม่ได้เป็นตะกอนอะไรเลย เพียงแค่ชี้แจงในส่วนของเจตนาสำหรับกระทู้นี้เท่านั้น ยังไงก็ต้องขอขอบคุณแง่มุมของการใช้ภาษาในบางแง่มุม ที่ผมเองอาจจะลืมหรือไม่เคยนึกถึง คนเราทุกคนมีอิสระ และวิจารณญาณในความคิดอยู่แล้วครับ และทุกความคิดเห็นมีค่าในการพัฒนาองค์ความรู้ ขอบคุณจากใจจริงครับ จากคุณ : MeKaPoLiDiS เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 03:48:27

ความคิดเห็นที่ 38 คุณ : MeKaPoLiDiS เมื่อสักครู่ ผมชะแว้บไปอาบน้ำอาบก็อกสายบัวมา (ไม่ได้อาบที่ท่าน้ำ จึงไม่ใช้คำว่า อาบน้ำอาบท่า) ระหว่างขัดขี้ไคล ได้ตั้งสมาธิ ศีล ปัญญา ถึงปัญหาต่างๆซึ่งกำลัง ปุจฉา วิสัสชนา กันอยู่นี้ ขี้ไคลก้อนเท่าช้างซึ่งไหลลงไปสู่พื้นและหายไปในท่อน้ำ ทำให้เนื้อตัวเบาสบายขึ้น สติมาปัญญาเกิด เรื่องมันะดุดตาในหัวข้อกระทู้ที่คุณว่า “มาใช้ภาษาไทยของเราให้ถูกต้องกันเถอะ” ทำให้หัวใจผมสะดุดตอคะมำ อีตรงคำว่า มาใช้ภาษาไทย เมื่ออ่านทำให้ผมตีความมากกว่าลิ้งค์ที่คุณให้มา ภาษา(ไทย) ในความหมายของผม หมายถึงทั้งโครงสร้าง อันได้แก่ อักขระ การสะกดคำ เสียง  ความหมายของคำและความ รวมไปลักษณะถึงการเอามาผูกร้อยต่อกันเป็น คำ ความ ประโยค รวมไปถึงเครื่องประดับคำอันได้แก่ คุณศัพท์ วิเศษณ์ เป็นอาทิ คำสะกดนั้น เป็นเพียงส่วนเดียวของ“ภาษา” ดังนั้นเมื่อคุณบอกว่า “มาใช้ภาษา(ไทย)” ผมจึงมิได้มุ่งเน้นไปที่เฉพาะคำศัพท์ตามที่คุณให้ลิ้งค์มา เหตุด้วยประการฉะนี้ ผมจึงได้อรรถาธิบายขยายความออกไป หากว่า ในกระทู้ของคุณ ขึ้นด้วยความว่า “เรามาใช้ตัวสะกดตามภาษาไทยของเรา(ในยุคปัจจุบัน”ให้ตรงกับที่ราชบัณฑิตบัญญัติไว้เถิด ผมคงจะเน้นไปที่เรื่องนี้เพียงเรื่องเดียว เพราะบ่อยๆ ที่มีการเสนอความเห็นเรื่องการใช้ภาษาซึ่งถกๆ เถียงๆ กันอยู่เป็นกรณีวิวาทะนั้น เป็นเรื่องของสำนวนและข้อความในภาษา โดยส่วนตัวนั้น ใครพูดเรื่องมาใช้ภาษากันให้ถูกต้อง สติผมจึงมักจะวิบๆ รวมๆ ไปถึงเรื่องราวดังได้แสดงไว้ในความเห็นต่างๆ ข้างต้นนั้น ด้วยประการฉะนี้ สาธุ แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 53 04:45:45 แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 53 04:43:13 จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 04:42:48

ความคิดเห็นที่ 39 ตามแต่วิจารณญาณของท่านทั้งหลายเถิด สาธุ จากคุณ : MeKaPoLiDiS เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 04:53:32

ความคิดเห็นที่ 40 เมื่อสองสามวันก่อน ยังนึกรำพึงกับลูกศิษย์กลุ่มหนึ่งว่า “ดูกร” กับ “ดูก่อน” ในวรรณกรรมร้อยแก้วนั้น เหตุใด มิใช่ “ดูกร” ซึ่งควรจะตรงกับ “กร-รหัสยะ” อันหมายถึง สัญญาณมือ ด้วยว่า การสื่อภาษาในชมพูทวีป ใช้เสียงประกอบท่าทาง อันได้แก่การเคลื่อนไหวของศีรษะและมือ ประกอบกัน คือพูดไปแสดงรหัสท่าทางไปพร้อมๆ กัน เช่น คนอินตระระเดีย เมื่อพูดว่า “ไม่เอา” จะพูดพร้อมๆ พยักหน้า เมื่อพูดว่า “เอา” จะพุดพร้อมๆ ส่ายหน้า เมื่อพระพุทธองค์จะเริ่มทรงตรัสกับพุทธสาวก อันได้แก่บริษัทสี่ (กับหมู่คนอื่นที่ไม่ใชพุทธสาวกด้วย) ท่านจะเริ่มจากแสดง รหัสพระกร (นึกไม่ออก ให้ดูพระพุทธรุปองค์ใหญ่ที่พระพุทธมณฑล หรือพระพุทธรุปปางห้ามญาติ ปางประทานพร) เพื่อเป็นสัญญาณเริ่มตรัส ทั้งยังเป็นการให้พรด้วย ด้วยเหตุนี้ จึงควรเป็น “ดูกร พระอานนท์......” ไม่ควรเป็นอย่างที่มีอยู่ในแบบเรียนทุกวันนี้ ซึ่งพิมพ์ว่า “ดูก่อนพระอานนท์.... ” บัณฑิต ราชบัณฑิต ผู้รู้มากๆ ของเรา ทำความเสียหายให้กับความหมายสิ่งต่างๆ ที่แท้จริงเอาไว้มาก เช่นลงความเห็น“อุตริ” แผลงจาก --บางอีเก้ง---- เป็น บางนางเกร็ง-- อยู่แถวๆ ทางไป สมุทรสาคร นั่นแหละ “คลองหัวตะเฆ่” เปลี่ยนไปเป็น “คลองศีรษะจรเข้” หลายๆ เรื่องดังยกมานี้ ผมจึงไม่เชื่อคำกำหนดของราชบัณฑิตไทยทุกอย่าง ทุกเรื่อง แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 53 05:17:01 แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 53 05:11:46 แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 53 05:10:25 จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 05:08:10

ความคิดเห็นที่ 41 เมื่อผมได้อ่านความเห็นทุกความเห็นแล้ว ก็เข้าใจได้ว่า การตีความของแต่ละท่านก็มีมากมาย หลายประเด็น ถ้าจะให้ตรงตามบัญญัติ ตรงตามมาตราต่างๆ ก็คงต้องเปิดเวทีอภิปรายกันไปมา คงขยับขยายไปได้อีกหลายกรณี ภาษาก็ย่อมเปลี่ยนไปตามยุคสมัย หลายๆ ท่านก็ยอมรับกับการที่ไม่ต้องพิมพ์คำให้ตรงตามพจนานุกรม (ไม่ได้เจตนา) ในบางคำผมก็เห็นด้วย การจะพิมพ์คำด้วยแป้นพิมพ์ภาษาไทย ให้อ่านแล้วออกเสียงเหมือนภาษาต่างประเทศก็คงยาก ในกรณีการพิมพ์ภาษาต่างประเทศก็คงพอจะอนุโลมได้กระมั้ง ถ้ามิใช่งานเขียนวิชาการ การพิมพ์ตก พิมพ์หล่น หรือใช้สำนวน ไม่ถูกต้องตามหลักภาษาไทย หรือวางโครงสร้างของประโยคไม่ถูกตามหลักภาษาไทย ก็อาจจะพอให้อภัยได้ แต่เจตนาที่จะพิมพ์ผิดหรือตั้งใจพิมพ์เผื่อง่ายหรือแปลงคำใหม่ อาทิเช่น คำว่า เดี๋ยว ก็พิมพ์ เดว คำว่า เขิน ก็พิมพ์ เขิล คำว่า สวัสดี ก็พิมพ์ หวาดดี หวัดดี คำว่า ให้ใจ ก็พิมพ์ หัยจัย คำว่า ครับ ก็พิมพ์ คับ คร้าบ ค๊าบ ฯลฯ แบบนี้ ผมว่าเกินไปไหมครับ ถ้าแบบคำอุทาน หรือ ภาษาพูด ที่ยังไม่เคยมีหรือเคยเรียนมาก่อน ถ้าจะให้เกิดการพัฒนาทางด้านภาษาก็น่ายินดีครับ อย่างเช่น ชิวๆ เบเบ ป๊อด นอยด์ เคอร์ฟิว....ฯลฯ แม้จะ้เป็นการลดรูปมาจากภาษาต่างประเทศ ก็พอยอมรับได้ครับ เจตนาของเจ้าของกระทู้นี้คงไม่ต้องให้ถูกต้องตามหลักและโครงสร้างทางภาษาไทยมาก มั้งครับ คำบางคำถ้าต้องการให้เขียนถูก ตามพจนานุกรมก็ควรจะเปิด ซึ่งถ้าไม่แน่ใจก็ควรเปิด อย่างน้อยก็จะได้ทำให้ตัวคนพิมพ์ได้พิมพ์ คำนั้นได้ถูกต้องด้วย อย่าง ใครจะพิมพ์ว่า มันเป็นเรื่องที่อัดสะจันมาก ...ใช่ครับทุกคนเข้าใจสิ่งที่ต้องการจะสื่อ..แต่ อัดสะจัน นี้ไม่ได้ทำให้ภาษาไทยพัฒนาเลยนะครับ ไม่ได้สร้างคำใหม่เลย ถ้าเป็นเช่นนี้ เปิดเถอะครับ... ถ้าขี้เกียจเปิดก็เลี่ยงใช้คำอื่นแทน เช่น มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เลย มันเป็นเรื่องที่แปลกมากๆ ขอบคุณครับ จากคุณ : HU_โตโต้ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 08:21:45

ความคิดเห็นที่ 42 แบบนี้ละครับ...ยอมรับได้ไหมครับ จากคุณ : HU_โตโต้ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 08:26:36

ความคิดเห็นที่ 43 บทที่ ๑ ครับ จากคุณ : HU_โตโต้ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 08:28:45

ความคิดเห็นที่ 44 รบกวนทำแบบฝึกหัดด้วยครับ จากคุณ : HU_โตโต้ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 08:29:39

ความคิดเห็นที่ 45 รูปสามรูปนี้ เอามาจากการใช้เครื่องมือในการค้นหาจากเว็บไซด์ที่ให้บริการค้นหาครับ โดยค้นจากคำสำคัญ (Key Word) ว่า "แบบเรียนภาษาไทย รูปแบบใหม่" จากคุณ : HU_โตโต้ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 08:32:44

ความคิดเห็นที่ 46 ^-^ จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 10:14:50

ความคิดเห็นที่ 47 เห็นควรด้วยอาจารย์มังกรดำเรื่องเบอร์โทรศัพท์ เมื่อก่อนผมก็เขียน xx-xxx-xxxx ดีๆ ท่องง่าย จำง่าย อยู่ๆ เพิ่มเลขมาอีกหลัก แล้วให้ใครๆ เขียนเบอร์เป็น 0 xxxx xxxx หอกหัก ไม่เคยจำเบอร์ใครที่เขียนแบบนี้ได้เลย หรือเวลาจะต้องโทรกระทันหัน จะกดเบอร์ไม่ทันเลย โดนโทรศัพ์บ้านด่าก่อนทุกที เวลาบันทึกลงโทรศัพท์มือถือ จะบันทึกเป็น xxx-xxx-xxxx หรือเวลากรอกเอกสาร ก็จะเขียนแบบนี้เหมือนกัน จากคุณ : DoraeMew เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 11:23:31

ความคิดเห็นที่ 48 ส่วนเรื่องภาษาไทย ไม่รู้ ไม่สนใจ ใครใคร่ใช้อะไรก็ใช้ไป ขอใช้ภาษาอย่างคนเป็นนายภาษาก็พอ ยังไม่อยากเป็นทาสภาษา จากคุณ : DoraeMew เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 11:24:50

ความคิดเห็นที่ 49 อ่านมาตั้งนาน เพิ่งมีคห.ของท่าน HU_โตโต้ #41 นี่แหละ ที่เข้าใจว่าภาษาวิบัติคือะไร ตรงประเด็นที่สุด "มัลไม่เลียกว่าวิวัดธนากาลว์ธางพาศาย์หลอกน๊ะ มัลวิบัดส์ชัตชัต" จากคุณ : JoeRazz เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 12:17:34

ความคิดเห็นที่ 50 เห็นด้วยกับท่าน จขกท.(คำนี้เป็นคำนิยมดูแล้วไม่วิบัติ) ขอให้กำลังใจและทำงานติงเตือนเรื่องนี้กันต่อไปเพื่อภาษาไทยของเรา เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับท่าน HU_โตโต้ ขอให้มาช่วยเหลือกันทุกครั้งนะครับ ช่วยกันออกความเห็นแต่ไม่เถียงใคร เมื่อพวกเราเจอกับคนขวางโลกและของแรง(เพราะเขามีดีอวดได้) ซึ่งจะเจอประจำจะทำให้ท้อใจเห็นอะไรก็ปล่อยๆกันไป แต่สำหรับภาษาไทยอย่าท้อนะครับ ในหลวงท่านทรงกระตุ้นเตือนให้เรารักภาษาไทยมานานแล้ว จากคุณ : Jazzmania เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 17:08:23

ความคิดเห็นที่ 51 ปัญหาที่สำคัญมากในตอนนี้คือ เด็กไทยไม่รู้จักพจนานุกรมครับ ไม่รู้จักในที่นี้ หมายความว่า ไม่เคยคิดที่จะหยิบมาใช้เลย ถ้าดูข่าวเมื่อไม่นานมานี้ "เด็ก ป.3 อ่านภาษาไทยไม่ออก" ฟังดูแล้วน่าตกใจมั้ยครับ ? นั่นแหละครับ เป็นเพราะว่า เด็กไทยยุคใหม่ ถูกปลูกฝังให้มีค่านิยมในภาษาต่างประเทศจ๋า... ภาษาอังกฤษ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ฯลฯ อะไรอีกมากมาย ต่างๆ นานา จับใส่เข้าไปในหลักสูตรเถอะ ยิ่งเป็นโรงเรียน สอง สาม สี่ ภาษา ยิ่งชูเป็นจุดขายของโรงเรียนนั้นๆ แต่กลับลืมนึกถึงภาษาประจำชาติของเราไปอย่างน่าใจหาย... ถ้าเราไม่คิดจะทำอะไรซักอย่างในตอนนี้ให้ดีขึ้น อย่าว่าแต่เขียน หรือสะกดไม่เป็นกันเลยครับ มันอาจจะหายหรือถูกกลืนไปหมดเลยก็ได้... "เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นของผมนะครับ" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และก็ไม่จำเป็นต้องจับผิด หรือตีความในทุกตัวอักษรที่ผมพิมพ์ออกมา อ่านแล้ว คิด พิจารณา ด้วยวิจารณญาณของตัวท่านเองเช่นเดิม แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 53 17:35:39 จากคุณ : MeKaPoLiDiS เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 17:31:47

ความคิดเห็นที่ 52 "เด็ก ป.3 อ่านภาษาไทยไม่ออก" นี่มันคนละประเด็น ผมมีอาชีพเป็นครูมาตั้งแต่รุ่นๆ เคยไปสอนโรงเรียนห่างจากชายแดนพม่าแค่ไม่กี่สิบกิโลเมตร เด็กอ่านหนังสือไม่ออก ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ปัญหาการจัดการบริหารการศึกษาไทย มีมาก แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 53 18:22:23 จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 18:16:55

ความคิดเห็นที่ 53 ตราบใดที่ยังใช้ พยัญชนะ ก-ฮ และวรรณยุกต์ สระ แบบที่เห็น ไม่ต้องห่วง ว่าภาษาไทยจะสูญหายไปไหน ที่ห่วงๆ น่ะ นะครับ ไปดูในพจนาุกรม ภาษา เขมร ขอม ชวา พม่า จีน แขก ฝรั่ง เพียบ ความเคยชินนานมาหลายปี ก็ตู่ว่าเป็นภาษาคำศัพท์ของไทย ตัวอักขระนั้นรับได้ว่า ใช่ แต่คำศัพท์ไม่ใช่ทั้งหมด--- แน่นอน เขนย บรรทม เสด็จ แปลว่าอะไร เป็นภาษาอะไร เปิดดูพจนานุกรม ก็มี แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 53 18:24:10 แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 53 18:23:44 จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 18:20:52

ความคิดเห็นที่ 54 ผมเป็นคนขวางโลก แต่ไม่ขวางกติกา แต่จะให้ใจยอมรับทุกอย่างนั้น หาได้ไม่ ให้เขียนให้อ่าน ก็ทำตามแล้ว ในกติกา เมื่ออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ถูกกำหนดว่า ในสังคมนี้ให้ใช้แบบนี้ๆ แต่ในอีกโลกหนึ่ง ส่วนตัว อย่ามาบีบกันว่าห้ามและห้าม ไม่ดี อย่าใช้ มันหลายมาตรฐานเกินไป เช่น อยู่ดีๆ มากำหนดว่ารองเท้าแตะ ไม่สุภาพ ไม่ใส่เสื้อนอก ไม่สุภาพ เพราะคนในสังคมระดับหนึ่งเป็นคนขีดเส้นให้ คำว่า ก สระ อู นี่ก็เหมือนกัน อยากรู้นักว่า  ปราชญ์ราชบัณฑิตสมัยไหน ถึงได้กล้าบัญญัติคำที่พ่อขุนรามใช้ ว่าเป็นคำหยาบคาย ? จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 18:28:46

ความคิดเห็นที่ 55 เด็ก ป.3 อ่านหนังสือไม่ออก มันแสดงถึงอะไร? สมัยเราเด็กๆ อยู่เตรียมประถม หรืออนุบาลในปัจจุบัน ก็อ่าน ก.ไก่ ข.ไข่ หรือผสมคำได้บ้างแล้ว แต่ปัจจุบัน เรียนมาจนถึง ป.3 ยังอ่านภาษาไทยไม่ออก แต่อ่านภาษาอื่นได้ A-Z ท่องได้ ลองคิดดีๆ แล้วจะได้คำตอบ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร... แล้วมันก็คนละเรื่องกับวิวัฒนาการของภาษาเรื่องคำหยาบในสมัยก่อน กับปัจจุบัน ราชบัณฑิตไม่ได้เป็นคนกำหนดทุกอย่างหรอกนะครับ คนที่กำหนดคือ คนที่ใช้ภาษาในสังคมนั้นๆ ราชบัณฑิต ก็มีหน้าที่รวบรวม และกำหนดตัวภาษาให้ถูกต้องตามแต่ละยุคสมัย และตามหลักเกณฑ์ของภาษา ถ้าหากไปดูพจนานุกรมตั้งแต่ปี 2493 , 2525 จนถึง 2542 ในปัจจุบัน การกำหนดคำและความหมายก็มีการเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด ในปัจจุบัน ราชบัณฑิตยังมี "พจนานุกรมคำใหม่" ออกมาเลยครับ ไม่ทราบว่าเคยเห็นหรือเปล่า? มันแปลว่าอะไร มันแปลว่า ราชบัณฑิตก็ไม่ได้บ้าจี้ ปิดกั้น หรือไม่เปิดใจยอมรับคำที่เกิดขึ้นใหม่เลยซะทีเดียว แต่ถ้าไม่มีราชบัณฑิตกำหนดหลักเกณฑ์ที่เป็นมาตรฐานให้ใช้ภาษาไทยในประเทศ เวลาเขียนหนังสืออะไรก็ตาม ต่างคนต่างเขียน ต่างคนต่างใช้ ต่างคนต่างสะกด คงวุ่นวายดีพิลึกมั้งครับ ?? ปล.ยังไงก็อยากจะฝากไว้นิดนึงว่า ราชบัณฑิต คือ ปราชญ์หลวง ปราชญ์ของแผ่นดินนะครับ ราช+บัณฑิต = บัณฑิตของพระราชา คุณเองอ่านออกเขียนได้อยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะครูบาอาจารย์ที่สั่งสอนคุณมา จะใช้หรือไม่ใช้ จะเชื่อหรือไม่เชื่อ ก็อยู่ที่ตัวคุณเอง และผมเองก็ไม่ได้บอกให้คุณ หรือใครยึดถือ หรือปักใจเชื่อทั้งหมด เพียงแต่ต้องการให้มีมาตรฐานที่ถูกต้องในการใช้ภาษาไทยเท่านั้น ซึ่งยังไงก็ตามราชบัณฑิตก็เป็น "ปราชญ์หลวง" นะครับ ผมเห็นคุณพูดถึงราชบัณฑิตแล้ว ตะหงิดๆ ใจยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก และที่สำคัญลูกหลานของเราที่ถูกส่งเข้าไปเรียนในโรงเรียน ก็ถูกสั่งสอนให้เรียนภาษาไทย โดยยึดการเขียน การสะกดจาก ราชบัณฑิตยสถาน ไม่ใช่ยึดจากความรู้สึก หรือความคิดส่วนตัวของพ่อแม่นะครับ ปล.2 ไม่ได้เป็นตะกอนอะไรในใจอย่างที่คุณเคยบอกนะครับ แค่แสดงความคิดเห็น จากสิ่งที่คุณเขียนมา จากคุณ : MeKaPoLiDiS เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 19:16:42

ความคิดเห็นที่ 56 ตั้งแต่เริ่ม มาจนถึงตอนนี้ มีความรู้สึกเหมือนกับว่า คุณมังกรดำกับผมจะคุยกันคนละเรื่องซะแล้วสิ (เอ๊ะ! หรือเรื่องเดียวกัน) แล้วก็ยังนั่งสงสัยว่า เจตนาของผม แค่อยากให้ทุกคนมีตัวช่วยในการสะกดคำหรือใช้ให้ถูกต้อง ไหงกลายมาเป็นเรื่องวิวัฒนาการ การยอมรับ ไม่ยอมรับอะไรทั้งหลายแหล่ได้เนี่ย งงตัวเอง จากคุณ : MeKaPoLiDiS เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 19:25:44

ความคิดเห็นที่ 57 ขอซักนิด  จากคุณ : MeKaPoLiDiS เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 19:47:54

ความคิดเห็นที่ 58 คุณ : MeKaPoLiDiS ที่ยกตัวอย่างมาเร่องพ่อจูงลาไปขายในตลาด เป็นนิทานของฝรั่ง มีมานาน ผมจำได้ดี และใช้เนื้อหานี้สอนในชั้นเรียนเป็นหลัก “ให้ยึดถึงสิ่งที่ ตัวเองทำและเหมาะสมที่สุดที่ตัวเองคิดว่ามันใช่” ลิ้งค์ กับกระทู้ที่ตั้งไว้นั้น ---ผมเข้าใจ ตามที่ตอบเอาไว้ข้างบนๆ ความเห็นต่างๆของผมที่เสนอคือ “ส่วนขยาย” เพราะมองภาพของ “ภาษา” ไม่ใช่แค่คำสะกด ผมมอง แบบ Scope  ภาพรวมทั้งหมด มิได้หมายแค่เฉพาะส่วนคำสะกดเท่านั้น จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 21:12:20

ความคิดเห็นที่ 59 สำหหรับกรณีป .3 อ่านหนังสือไม่ได้นั้น ผมเจอยิ่งกว่าที่คุณพูดมาอีก เพราะผมเป็นครูบ้านนอกมาก่อนเปลี่ยนอาชีพ ปัญหาเด็กอ่านหนังสือไม่ได้ เกิดจากสาเหตุเยอะแยะ เอาไว้ให้ผมเป็น รมต.กระทรวงศึกษาก่อน จะฟันให้ราบเป็นหน้ากลอง จากคุณ : มังกรดำ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 21:15:01

ความคิดเห็นที่ 60 ยังตามมาอ่าน :) จากคุณ : ว.วีระ เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 10:07:33