Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
[สำหรับมือใหม่ครับ]ก่อนจะเลือกกล้องสักตัวเข้ามาอ่านในนี้ก่อนครับ  

ผมไม่ใช่โปรนะครับ พอดีกำลังหากล้องใหม่(มือใหม่เหมือนกันครับ)ไปเจอบทความที่น่าสนใจเข้าเลยเอามาให้ดูกันครับ

ถ้าซ้ำขออภภัยนะครับ ยาวหน่อยแต่ได้ความรู้ดีครับ


1. ซื้อกล้องดิจิตอลอะไรดี ?
การเลือกซื้อกล้อง ก่อนอื่นต้องดูงบประมาณที่คุณมีก่อน เป็นอันดับแรก จากนั้นให้ดูรูปแบบสำคัญที่สุด ที่คุณอยากได้ เช่น พกพาสะดวก หรือ เอาซูมได้เยอะๆ หรือเอาพิกเซลมากๆ ให้ตั้งเงื่อนไขสำคัญไว้เพียง 1-2 ข้อเท่านั้น จากนั้นให้เลือกตามเงื่อนไขสำคัญนั้นเป็นหลัก อย่าสับสนกับลูกเล่นกระจุกกระจิกบางอย่าง ที่คุณอาจจะไม่ได้ใช้เลยก็ได้ และจะทำให้พลาดประเด็นสำคัญไป หรือสับสนจนเลือกไม่ถูก


2. ซื้อกล้องดิจิตอลคอมแพ็ค หรือ DSLR ดีกว่ากัน ?
ถ้าสิ่งต่อไปนี้ คือสิ่งสำคัญที่คุณต้องการในอันดับต้นๆ คือ คุณภาพของภาพ ต้องการฝึกหัดการถ่ายภาพอย่างจริงจัง ต้องการกล้องที่ควบคุมได้ดังใจ และทันใจ พร้อมถ่ายได้ทันที ตอบสนองการถ่ายภาพแบบปุ๊บปั๊บได้ หรือต้องการกล้องที่ทนทานใช้งานได้นาน ไม่ได้ต้องการกล้องที่พกติดตัวตลอด 24 ชม. ถ้าสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่คุณต้องการ DSLR คือคำตอบสุดท้ายของคุณ


3. ถ้ากล้อง DSLR ดีกว่ากล้องคอมแพ็ค ทำไมคนถึงยังซื้อกล้องคอมแพ็คกัน ?
เพราะข้อดีของกล้องคอมแพ็ค คือ พกพาง่าย ใช้งานง่าย ราคา(โดยส่วนใหญ่)่ ไม่สูงนัก และบางคนไม่ได้ต้องการคุณภาพอะไรมาก ขอแค่กล้องที่ถ่ายบันทึกเรื่องราว ในชีวิตประจำวัน หรือตอนไปท่องเที่ยวเท่านั้น กล้องคอมแพ็คคือคำตอบสุดท้ายสำหรับเขาเหล่านั้น


4. ทำไมถึงว่ากล้องคอมแพ็ค คุณภาพของภาพสู้กล้อง DSLR ไม่ได้ ?
จุดสำคัญที่ทำให้กล้อง DSLR ดีกว่ากล้องคอมแพ็คในแง่คุณภาพ คือ ขนาดของตัวรับภาพของกล้อง DSLR มีขนาดใหญ่กว่ากล้องคอมแพ็คมากๆ เมื่อตัวรับภาพมีขนาดใหญ่ จึงทำให้สามารถบันทึกภาพได้ดีกว่า โดยเฉพาะปัญหาเรื่อง noise หรือจุดรบกวนในภาพจากกล้อง DSLR จะมีน้อยกว่าภาพจากกล้องคอมแพ็คมาก หรือ การเก็บรายละเอียด การไล่น้ำหนักของสีสันในภาพ จะทำได้ดีกว่ากล้องคอมแพ็ค


5. ประกันศูนย์ กับ ประกันร้าน ต่างกันอย่างไร ?
ประกันศูนย์ คือประกันที่ ผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เป็นผู้ให้การรับประกันกล้องหรืออุปกรณ์นั้นๆ ส่วนประกันร้าน คือ ร้านค้าปลีกที่ขายกล้องให้คุณ เป็นคนให้การรับประกันเอง จะมีบางร้านบอกว่า เสียซ่อมศูนย์ อันนั้นก็อย่าสับสนว่าเป็นประกันศูนย์ ยังคงเป็นประกันร้านอยู่ เพราะเฮียเจ้าของร้านเป็นคนบอกว่าจะซ่อม หรือไม่ซ่อมกล้องของคุณ ไม่ใช่ช่างที่ศูนย์ ดังนั้นอย่าสับสน


6. ซื้อกล้องจากเมืองนอกหรือเมืองไทยดี ?
ถ้าเป็นเมื่อ 10-20 ปีที่แล้ว จะบอกว่าให้ไปซื้อที่เมืองนอก แต่มา พ.ศ.2549 แล้ว กล้องบางยี่ห้อยังผลิตในเมืองไทยเลย แล้วคุณจะไปซื้อจากเมืองนอกกันทำไมให้เมื่อยตุ้ม ภาษีนำเข้ากล้องก็ 0% ศูนย์บริการเมืองไทยก็มี แล้วจะไปซื้อต่างประเทศ ให้เสี่ยงโดยหลอกทำไม โดยเฉพาะเผลอๆจะโดนต้มโดนฟัน ขายกล้องย้อมแมวให้อีก จะบินกลับไปต่อว่าคนขายก็คุยกันคนละภาษา ฟันธงเลยว่าซื้อเมืองไทย สบายใจกว่าเยอะครับ


7. กล้องยี่ห้ออะไรดีที่สุด ?
ซื้อกล้องยี่ห้อที่คุณชอบ เป็นคำตอบสุดท้ายครับ ไม่ได้กวน แต่มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ คนเราต่างจิตต่างใจ ใครชอบยี่ห้ออะไร ซื้อยี่ห้อนั้นครับ แต่ควรดูเรื่องศูนย์บริการ และบริการหลังการขายด้วยครับ


8. ซื้อที่ร้านไหนดี ?
ร้านแต่ละร้านมักจะมีจุดเด่นคนละแบบ บางร้านเน้นบริการดี แต่อาจจะราคาสูงกว่าหน่อย ก็เหมาะกับคนที่ต้องการความสบายใจ บางร้านเน้นราคาถูกอย่างเดียว ก็ดูเรื่องรับประกันด้วยเพื่อความสบายใจในภายหลัง บางร้านก็เน้นอยู่ในห้างใหญ่ บางร้านเน้นขายทาง internet แต่เอาเป็นว่า ถ้าในกรุงเทพ มีแหล่งซื้ออยู่คร่าวๆดังนี้ ย่านหน้าเซ็นทรัลลาดพร้าว, ย่านสามย่านมาบุญครอง, ย่านพลับพลาไชย, ย่านบางรัก, ฟอร์จูนทาว์น, พันธ์ทิพย์


9. ซื้อกล้องกี่ล้านพิกเซลดี ?
อยู่ที่ว่าเอาภาพไปใช้งานอะไร ถ้าถ่ายทั่วๆไปไว้ดูในครอบครัว อัดขยายแค่ 4x6 นิ้ว(ภาพจัมโบ้ปกติ) หรืออย่างมากก็แค่ขนาด A4 ก็ซื้อแค่ 5-6 ล้านก็เหลือเฟือ ถ้าเอาภาพไปใช้งานสิ่งพิมพ์ หรือขยายใหญ่กว่า A4 ก็ควรใช้ราวๆ 6-8 ล้าน หรือมากกว่านั้น



10. จะหาคู่มือภาษาไทยได้ที่ไหน ?
ลองสอบถามจากทางตัวแทนจำหน่ายดูครับ เดี๋ยวนี้เขาค่อนข้างใจดี อาจจะหยิบยืมถ่ายเอกสารได้ครับ


เมื่ออ่านข้างบนจบคุณก็เข้าใจกล้องไปบ้าง บางส่วนแล้ว ถ้าจะให้ชัวลองอ่านเคล็ดลับการเลือกซื้อกล้องดิจิตอลอีกซักรอบรับลองคุณเลือกกล้องเอ
งเป็นแล้ว


กำหนดงบประมาณ
ก็เหมือนกับการเลือกซื้อของทุกอย่าง ที่คุณจะต้องรู้ก่อนว่าคุณมีงบกี่บาท เพราะการที่คุณไปยืนเลือกซื้อแน่นอนว่าจะต้องมีกล้องตัวที่ดีกว่า สวยกว่า และอาจจะแพงกว่า ถ้าคุณไม่อยากกระเป๋าฉีกก็กำหนดไว้เลยว่ามีงบเท่าไร สำหรับผู้เริ่มต้น ผมแนะนำให้มองหากล้องราคาถูก ที่มีฟังก์ชั่นมากพอ, น้ำหนักเบา, จับถนัดมือ เมื่อคุณใช้ได้คล่องแล้ว ผมคาดว่ามันก็จะเก่าพอดี แล้วคุณค่อยไปหาซื้อตัวใหม่ที่ดีกว่าตัวเดิม


อย่าหลงเชื่อ ดิจิตอล ซูม
อย่าไปเชื่อคนขายเกี่ยวกับเรื่องของดิจิตอลซูม พูดให้เข้าใจง่ายๆ ดิจิตอลซูมก็คือการซูมสมมุติที่ระบบดิจิตอลทำให้ ไม่ใช่ความสามารถของเลนส์ ความแตกต่างก็คือ ดิจิตอลซูม จะเป็นการซูมที่ทำให้ภาพไม่คมชัด และอาจจะมีเม็ดสีขึ้นเต็มภาพ เพราะฉะนั้นให้เลือกดูที่ออฟติคอลซูมที่สูงที่สุดเท่าที่งบอำนวยดีกว่า (ยิ่งซูมได้มาก คุณก็สามารถดึงภาพเข้ามาได้ใก้ลมากขึ้น, สามารถยืนได้ห่างจะสิ่งที่ต้องการจะถ่ายได้มากขึ้น)


2 อย่างที่ต้องพิจารณาก่อนซื้อ
นั่นก็คือ การ์ดความจุ หรือที่เรียกว่าเมม กับแบตเตอรี่ คุณคงไม่อยากจะซื้อกล้องที่ใช้การ์ดเมมที่ชาวบ้านเขาไม่นิยมใช้กันใช่มั้ย เพราะนอกจากซื้อกล้องแล้วคุณยังจะต้องลงทุนซื้อตัวอ่านการ์ดที่ดูดข้อมูล เก็บเข้าคอมพ์อีกต่างหาก เอาเป็นว่าผมแนะนำให้หากล้องที่ใช้ CF การ์ด ส่วนเมมโมรี่ ก็เช่นเดียวกัน คุณคงไม่อยากจะมีที่ชาร์ตแบตแบบหลากชนิดเต็มบ้านไปหมด 2 สิ่งนี้ผมแนะนำให้ใช้แบบที่ส่วนใหญ่เขาใช้กันเพราะอนาคตถ้าคุณจะซื้อกล้อง ตัวใหม่ คุณก็จะสามารถนำ 2 อย่างนี้ไปใช้ต่อได้


อย่าดูที่ขนาดของกล้องเพียงอย่างเดียว
ต้องบอกว่ากล้องดิจิตอลสมัยนี้ จิ๋วแต่แจ๋ว แม้จะเครื่องเล็กแต่คุณสมบัติไม่แพ้กล้องระดับมืออาชีพ แต่ก็นั่นแหละ สาระสำคัญคือ ต้องดูว่ามันเหมาะมือคุณหรือเปล่า น้ำหนักสิ่งมีผลต่อการพกพา คุณอาจจะไม่ต้องการกล้องที่เล็กที่สุด แต่คุณต้องการกล้องที่เหมาะมือต่างหาก


ระวังโปรโมชั่น
กล้องที่มาพร้อมกับโปรโมชั่น แถมนู่น นี่นั่น มีการ์ดให้ พร้อมขาตั้ง มีกระเป๋า สารพัด มันก็ดีอยู่หรอก แต่อย่าลืมมองที่คุณภาพของกล้อง ของภาพที่จะออกมาด้วย อย่าลืมว่าคุณจะซื้อกล้องไม่ได้ซื้อโปรโมชั่น


ตรวจสอบความสามารถในการซูมให้แน่ใจ
บางทีคุณอาจจะเคยเห็นโฆษณาบอกว่ากล้องนี้ซูมได้ 10x (10 เท่า) เห็นอย่างนี้แล้วคุณก็ต้องถามให้แน่ว่า 10x เนี่ยออพติคอลซูมกี่x และ ดิจิตอลซูมกี่x เพราะที่บอกว่า 10x เนี่ยมักจะเอาสองอย่างนี้มารวมกัน ฉะนั้นให้คุณสนใจที่ออพติคอลซูมเลือกที่มากที่สุดเท่าที่มีงบ ไม่ต้องไปสนใจที่ดิจิตอลซูม


ดูภาพตัวอย่างก่อนซื้อ จะทำให้เราทราบว่ากล้องตัวนี้ถ่ายภาพได้คมชัดแค่ไหน
ข้อดีของกล้องดิจิตอลก็คือมันสามารถพรีวิวภาพที่ถ่ายได้ในช่องมองภาพ LCD ตรงนี้ที่คุณต้องดูว่ามันใหญ่พอสำหรับคุณหรือเปล่า (ยิ่งใหญ่มากก็เปลืองแบต) และสามารถขยายภาพดูได้หรือเปล่า ขยายดูสัก 100% เพื่อจะได้เช็คได้ว่ากล้องถ่ายได้ชัดเท่าที่ต้องการหรือเปล่า


มีไมโครโฟนในตัวหรือเปล่า
อย่าทำหน้าสงสัยว่าจะเอาไปทำไม ก็ในเมื่อซื้อกล้องไปถ่ายภาพนิ่ง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่หลายคนมองข้ามถึงประโยชน์ของมัน 2 ประการ คือ คุณสามารถใช้กล้องบันทึกเสียงได้ และ สามารถบันทึกภาพวิดีโอสั้นๆ ได้


ปริมาณพิกเซลที่แท้จริง
ถ้ากล้องที่คุณสนใจบอกว่ามี 10 megapixel และใช้เทคโนโลยี Foveon x3 ให้เอา 3 หาร 10 นั่นแปลว่ากล้องตัวนั้นมีพิกเซลที่แท้จริงเพียง 3.3 megapixel เพราะ เทคโนโลยี Foveon x3 คือการจำลองพิกเซล

ความจุภาพ
เมื่อตัดสินใจซื้อกล้องแล้วก็เตรียมเงินซื้อการ์ดแมมไว้ด้วยเลย เพราะยังไงที่เขาแถมมาก็มักจะไม่ค่อยพอกับความต้องการอยู่แล้ว

มีโปรแกรมถ่ายภาพกลางคืน
มีกล้องเป็นของตัวเองแล้ว จะอย่างไรก็คงต้องมีโอกาสได้ถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย หรือถ่ายตอนกลางคืนแน่ๆ เพราะฉะนั้นก็ดูเลยว่ากล้องตัวที่สนใจมี ISO สูงสุดเท่าไร (สูงไว้ก่อนดี เพราะยิ่งมืดก็ยิ่งต้องใข ISO สูงๆ), มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวหรือเปล่า, มีโหมดถ่ายภาพกลางคืนให้มั้ย

อย่าไปยึดติดกับเมก้าพิกเซล
ยิ่งเทคโนโลยีพัฒนาขึ้น กล้องก็โฆษณาว่ามีจำนวนเมก้าพิกเซลมากขึ้น ทั้งที่ในความเป็นจริงมีจำนวนเมก้าพิกเซลเยอะๆ ก็ใช่ว่าคุณจะได้ภาพที่ชัด และยิ่งถ้าคุณแค่จะถ่ายภาพแล้วอัดรูปแค่ไม่กี่นิ้ว ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องใช้เมก้าพิกเซลสูงๆ ลองพิจารณาสิ่งอื่นๆ ด้วยเช่น ความเร็วสูงสุด-ต่ำสุดของชัตเตอร์ (ถ่ายได้ฉับไว เช่น ถ่ายภาพคนวิ่ง), ระยะเวลาการเปิดกล้อง ใช้เวลานานเท่าไรถึงจะถ่ายได้,

เผื่อเงินไว้ด้วย เพราะบางทีอาจจะไม่ใช่แค่กล้องที่ต้องซื้อ
เมื่อมีกล้องก็ต้องมีเมมการ์ดไว้เก็บภาพ, ต้องมีการ์ดรีดเดอร์เอาไว้ดูดภาพจากกล้องเก็บเข้าคอมพ์, มีที่ชาร์ตแบตกล้อง, กระเป๋ากล้อง, ขาตั้ง บางทีอาจจะต้องเพิ่มฮาร์ดดิสก์คอมพ์ด้วยซ้ำ ยังไงถ้าต้องซื้อก็ซื้อพร้อมกันกับกล้องรวดเดียวเลย จะได้ต่อรองได้ราคาพิเศษ

ระวังของถูก
ใครๆ ก็อยากได้ของถูก นอกจากผมจะเตือนให้ระวังโปรโมชั่นล่อใจแล้ว แนะนำให้หาซื้อในร้านค้าที่เราไว้ใจ หรือคุ้นเคย เพราะจะได้ไม่ถูกหลอกย้อมแมวขายแล้ว ยังอุ่นใจเรื่องบริการหลังการขายได้อีกด้วย

โปรแกรมถ่ายอัตโนมัติ
โหมดถ่ายภาพอัตโนมัติ อาทิ ถ่ายกลางคืน, ถ่ายภาพบุคคล, ถ่ายภาพกีฬา, ถ่ายพลุ ฯลฯ เหล่านี้ต้องมี เพราะจะทำให้การถ่ายภาพของคุณสะดวก และสนุกขึ้น

มีแฟลชในตัวหรือเปล่า
มันเป็นอุปกรณ์พื้นฐาน เพราะฉะนั้นควรจะเลือกที่มีแฟลชในตัว ไม่งั้นจะถ่ายภาพกลางคืนได้ไง

กล้องเก่าอย่าทิ้ง
ได้ใหม่อย่าลืมเก่า ของเก่ามีประโยชน์ ลองเอาไปให้ พ่อแม่ญาติพี่น้องใช้, เก็บไว้ใช้ในกรณีที่ตัวใหม่มีปัญหา, เอาไปบริจาค(ได้บุญ) หรือไม่ก็เอาไปเทิร์นเปลี่ยนเป็นเมมการ์ด ฯลฯ

ออฟติคอล ซูมเท่าไรถึงจะพอ
สงสัยใช่มั้ยว่าตกลงจะเลือกซื้อกล้องที่มีจำนวน ออพติคอลซูมเท่าไรถึงจะพอ ผมมีข้อแนะนำ ถ้าคุณจะเอาไปใช้ถ่ายคนเป็นหลัก เช่น ถ่ายเพื่อนๆ ในงานปาร์ตี้ เลือกซื้อสัก 2x, 3x ก็พอ แต่ถ้าเน้นถ่าย outdoor ถ่ายวิว ถ่ายตึกก็ต้อง 5x ขึ้น แต่ถ้าต้องการใช้ถ่ายภาพที่เคลื่อนไหวที่ความเร็วสูง เช่น ถ่ายภาพคนวิ่ง รถแล่น สัตว์วิ่ง ก็ต้อง 7x ขึ้นไป อย่าลืมนะครับว่าต้องดูที่ ออพติคอลซูมเท่านั้น

มีช่องต่อขาตั้งกล้องหรือเปล่า
เผื่อว่าคุณจะต้องตั้งกล้องภ่ายภาพ เช่น ตั้งเวลาถ่าย, ตั้งถ่ายพลุ แต่คุณไม่ช่องสำหรับต่อขาตั้งกล้องแล้วจะทำอย่างไร

ลองเปรียบเทียบราคาในเนตดูก่อนซื้อ
เป็นอีกหนทางหนึ่งสำหรับคนฉลาดซื้อ ขยันเข้าอินเตอร์เนตเช็คราคาร้านนู้นร้านนี้ ก่อนจะตัดสินใจซื้อ หรือเดินเล่นดูหลายๆ ร้าน ถามราคาก่อนเลือกซื้อ

ลองอ่านรีวิว ที่เขาแนะนำดูด้วย
ทั้งในเนต และนิตยสารเกี่ยวกับกล้องทุกฉบับ มีการรีวิวทดสอบกล้องให้คุณได้เลือกอ่านอยู่แล้ว ลองอ่านดูเสียหน่อย แม้ว่าจะมีศัพท์เทคนิค ที่ไม่เห็นจะรู้เรื่อง แต่ก็เอาเถอะ เผื่อว่ามันจะมีข้อมูลที่คุณพอจะเข้าใช้แล้วนำไปใช้ในการตัดสินใจซื้อ

ยิ่งมีเมก้าพิกเซลเท่าไรก็ยิ่งดี?
ผมแนะนำไปว่าเมก้าพิกเซลไม่ใช่สิ่งสำคัญในการเลือกซื้อกล้อง มีมากไปก็ราคาแพง ซึ่งก็ไม่ได้ใช้ ถ้าคุณต้องการซื้อกล้องแล้วนำมา print รูปขนาด 8x10 ผมฟันธงเลยว่าคุณหากล้องสัก 5 megapixel ก็พอ มากกว่านี้ถือว่าไม่จำเป็น น้อยกว่านี้ก็จะได้คุณภาพรูปที่ไม่เพียงพอ

ยิ่งมีฟังก์ชั่นมากเท่าไรยิ่งดี?
สำหรับมือใหม่มากๆ ลองมองหากล้องที่มีฟังก์ชั่น full control หรือโหมดอัตโนมัติแบบที่คุณกดชัตเตอร์อย่างเดียว คำนวนทุกอย่างให้เสร็จสรรพ อย่าลืมหาที่ไวท์บาลานซ์และไอเอสโอเป็นออโต้ด้วย จะทำให้ถ่ายง่ายขึ้นอีกเยอะ

กันน้ำได้มั้ย
คงจะไม่ได้หมายถึงเอากล้องไปถ่ายใต้น้ำหรอก แต่เผื่อว่ามันจะหลุดมือพลัดตกน้ำ หรือตากฝน

มี iso ต่ำสุด สูงสุด เท่าไร
ไอเอสโอ สูงๆ ทำให้คุณถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยได้ดี แต่มันก็ทำให้ภาพเำิกิดน้อยซ์ noise คือภาพเป็นเม็ดสีเล็กๆๆๆ กลับกัน ไอเอสโอต่ำๆ ก็ใช่ว่าจะไม่มีประโยชน์ มันจะทำให้ภาพของคุณชัดใสมากขึ้น ลองมองหาไอเอสโอสัก 50 และใช้ถ่ายในที่แสงจัดๆ จะได้ภาพที่ชัดสวยมาก


อ่านหมดนี่คงเลือกซื้อกล้องที่ถูกใจได้เองแล้วครับ

จากคุณ : อยาก_จะ_กิน_น้ำแข็งใส
เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 53 10:32:24




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com