ความคิดเห็นที่ 1 เคยได้ยินเรื่อง อันนึง   มึคนดำน้ำ ถ่่ายรูป ตั้งแต่สมัยยังไม่มีกล้องดิจิตอล เค้าต้องไปดำที่เดิมหลายๆๆครั้งเพื่อที่จะได้รูปถูกใจ แต่พอมาสมัยกล้องดิจิตอล เค้าดำน้ำแทบ ไม่ซ้ำ ที่เดิม เลย เพราะกล้องดิจิตอลสามารถดูรูปได้ทันที และสามารถแก้ไขได้ทันที่ แต่กล้องฟิลม์ ไม่สามารถดูและแก้ไขได้ต้องมาดูหลังจากขึ้ันบกแล้วเท่านั้น ลองตอบว่าอันไหนถ่ายยากกว่ากัน จากคุณ : diguall เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 00:57:41

ความคิดเห็นที่ 2 *1 คุณ diguall  ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาแชร์  คห. คือเราเองก็เป็นคนที่คาบเกี่ยวระหว่างเทคโนโลยีเก่าและใหม่ เราเสียดายมากๆ  ถ้ากล้องฟิล์มจะกลายเป็นของที่ล้าสมัยและตกยุคไป อ่านจากที่คุณเล่า  เราคิดว่า  แบบเดิมนั้นถ่ายยากกว่า  เพราะความที่มันยากกว่า  ความตั้งใจก็เลยต้องมากขึ้น  ดังนั้นอารมณ์ของภาพจึงชนะเลิศค่ะ กล้องฟิล์ม  ต้องเอาฟิล์มมาล้างก่อนถึงจะได้เห็นรูป  ไม่เหมือน Digital  ที่สามารถกลับมาดูรูปได้เลย  ไม่สวยก็ลบทิ้ง  ถ่ายใหม่... จริงๆ แล้วเมื่อก่อนเราเคยสนใจเรื่องการถ่ายภาพมากพอสมควร  เพราะตอนที่เรียน ปวช.  ที่สถาบันฯ ได้เปิดสอนแผนกถ่ายภาพ  ซึ่งโก้เก๋เลยทีเดียวสำหรับเมื่อเกือบ  20  ปีก่อน  เพื่อนเราก็เรียนแผนกนี้หลายคน  ส่วนตัวเราบังเอิญว่าชอบวาดรูปมากกว่าก็เลยเลือกเรียนศิลปะ จนถึงทุกวันนี้เราก็ยังถ่ายรูปไม่เก่ง  แต่ก็ชอบดูภาพสวยๆ ที่คนอื่นถ่ายค่ะ  แค่แอบคิดถึงความคลาสสิค  กับความยากลำบากของคนที่เล่นกล้องสมัยก่อนนิดหน่อยค่ะ จากคุณ : อยากให้เมืองไทยมีหิมะตก เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 01:08:26

ความคิดเห็นที่ 3 อะ ป้าหิมะมาเยือนห้องกล้องด้วย ผมก็ขอมาตอบในฐานะ คนที่เคยใช้ slr กับ dslr ........................... ผมเริ่มต้นถ่ายมาจาก slr ( ฟิล์ม ) ซึ่งตอนนั้นซื้อมาใช้เรียน กล้อง dslr ก็มีแล้วนะครับ แต่ราคาแพงมากกกกกกก เวลาถ่ายกล้องฟิล์มเนี่ย เป็นอะไรที่ลุ้นกันปัสสวะเหนียวกันเลยทีเดียว เพราะทุกครั้งที่กดชัตเตอร์ลงไป แชะ แชะ แต่ บางครั้งอาจจะได้ยินเป็นว่า ตังค์ ตังค์ ก็ได้ เพราะมันไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ เวลาถ่าย ต้องตั้งใจสุดๆ คิดแล้วคิดอีก เล็งแล้วเล็งอีก เพื่อให้ภาพออกมา ดีที่สุด และเสียให้น้อยที่สุด ซึ่ง กล้อง slr เป็นอะไรที่ใช้ค่อนข้างยากครับ ปรับหลายอย่าง ถ้าใช้ไม่เป็นถ่ายไม่เป็ฯ รูปเสียกระจุย และเสน่ห์ ที่สำคัญของกล้องฟิล์ม คือ การรอครับ รอไปล้าง ไปอัด เวลาได้ดูรูปมันช่างมีความสุขที่สุดเลย ส่วน dslr นั้น ผมเพิ่งมาเล่นได้ไม่นาน ( เพิ่งมีเงินซื้อ ) มีพื้นฐานจากกล้องตัวเก่้ามาเลยถ่ายเริ่มต้นได้ง่ายขึ้น ผมยอมรับว่า ต้านกระแสไม่ไหวครับ เพราะทนกับการตามหาซื้อฟิล์ม และก็ตามหาร้านล้าง ไม่ไหว กล้องดิจิตอลช่วยได้เยอะ ทั้งประหยัดเงิน และประหยัดเวลา สะดวกมากมาย อยากจะถ่ายก็ถ่าย ไม่ต้องเกร็งอะไรมาก ซึ่งใครๆก็สามารถถ่ายสวยได้ ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่พัฒนาไปมาก ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นช่างภาพมืออาชีพก็ถ่ายได้ แต่ถ้าถามผม ผมชอบสีจากฟิล์มมากกว่า ดูมันเป็นธรรมชาติกว่า แล้วถ้าใช้ฟิล์มขาวดำด้วยแล้ว เป็นอะไรที่สุดยอดมากครับ ตอนนี้กล้องฟิล์มผม ผมเก็บไว้ถ่ายขวาดำ อย่างเดียว นี่เป็นความคิดเห็นส่วนนึงของผมนะครับ ยังไง ให้น้าๆท่านอื่นมาช่วยแชร์ เพิ่มเติมละกันครับ ปล. หวังว่าป้าหิมะจะหายข้องใจ แล้วอย่าหลงหนุ่มๆห้องนี้ซะจนไม่กลับไปห้องสยามหละครับ ^^ แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 53 01:19:25 จากคุณ : สงสัยใช้แก๊สโซฮอลล์ เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 01:12:31

ความคิดเห็นที่ 4 *3 กร๊ากกกกกกกกกกกกก ยังมีคนรู้จักตามมาเม้นอีกวุ้ย  ขอบคุณมากที่แวะมาแชร์  คห.  และขอบอกว่าเป็น คห. ที่ประทับใจมากๆ เลยค่ะ กิ๊ฟสุดท้ายของเดือนนี้ยกให้ไปเลยค่ะ   จากคุณ : อยากให้เมืองไทยมีหิมะตก เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 01:21:04

ความคิดเห็นที่ 5 อ่านแล้ว.... อยากจะพูดอะไรเยอะแยะเลยครับ แต่มันอยู่ในใจ เอ่ยเป็นคำพูดคำจามันลำบากครับ ความคลาสิกมันต่างกันเยอะเลยครับ นึกถึงสมัยใช้กล้องฟิล์มของคุณพ่อเมื่อสัก 20 ปีก่อนแล้วใจหายเลยทีเดียวครับ เทคโนโลยีอาจทำให้โลกทันสมัยขึ้น แต่เรื่องของความสวยงาม บางทีเทคโนโลยีมากไปก็ทำลายความเป็นเอกลักษณ์บางอย่างในแง่ความเป็นธรรมชาติ ครับ จากคุณ : StarExplorer เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 01:29:27

ความคิดเห็นที่ 6 ทุกครั้งที่ยกกล้องขึ้นมามอง จะคิดว่า ฟิล์ม... -แชะละสิบบาท -ถ่ายเน่า ปีหน้ามาใหม่ -เข้ากล้องกันครบหรือยัง ตั้งเวลาเผื่อที่ไว้ด้วย มากันสิบคน ต้องถ่ายให้ครบสิบคนในรูปเดียว หลายรูปเปลือง -36รูป อยู่ได้เป็นเดือน -มองทีไร สบายตาขึ้นเยอะ ช่องมองภาพใหญ่ ดิจิตอล -กดไปสิ ซื้อมาไว้กด ไม่ได้ไว้ยกส่อง เล็งเฉยๆ -ถ่ายเน่า ก็ลบ ถ่ายใหม่สิ -ตัวเอง มุมนี้สวย เดี๋ยวถ่ายไปเยอะๆเลย เอาไปเลือกเผื่อเน่า -เมม 2G อยู่ได้เป็นเดือน @ 4mpx -ช่องมองภาพจะเล็กไปไหน -ถ่านหมดเทอ! -รูปละ 5 บาท *เพิ่มเติม กล้องฟิล์ม -รูปไหนไม่ถูกใจ คุณเทอเล่นดึงภาพที่อัดจากอัลบั้มแล้วหายไปเลย เหลือฟิล์มเนกาตีฟไว้ดูต่างหน้าพอชื่นใจ กล้องดิจิตอล -ไม่ถูกใจ ลบเหี้ยน ไม่เหลือให้กู้คืน -*- (อุตสาห์ lock ไว้แล้ว ยังอุตสาห์แกะเมมไปลบในคอม) แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 53 02:20:07 จากคุณ : ขนมจีนน้ำปลาร้า เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 02:16:26

ความคิดเห็นที่ 7 ทั้งสองตัวมีเสน่ห์ต่างกัน จากคุณ : ชนินทร์ธร เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 02:28:04

ความคิดเห็นที่ 8 ผมยังไม่เห็นว่า โดยภาพรวมแล้วระบบฟิล์มจะมีข้อดีอะไรเหนือไปกว่าระบบดิจิตอล นอกจากงานประเภทพิเศษบางอย่างเท่านั้น จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 04:46:44

ความคิดเห็นที่ 9 จุดที่ฟิล์มเหนือกว่า digital .. ต้องดูที่ DNA ครับ ภาพที่เกิดบนฟิล์ม มันเป็นการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีระดับโมเลกุล ที่แต่ละหน่วยรับภาพ มีขนาดเล็กมากๆ และไม่เท่ากัน ความละเอียดของฟิล์ม ถ้าวัดแบบดิจิตอล ก็จะมีความละเอียดประมาณ 30 ล้านพิกเซล แต่ละ pixel นั้น .. รับแสงตรงๆ สร้างภาพตรงๆ แต่ละ pixel .. มีขนาดไม่เท่ากัน แต่ละ pixel .. ที่อยู่ในขอบเขตเดียวกัน ขอบเขตหนึ่ง ถ้าได้รับแสงสีเดียวกัน จะให้สีที่ไม่เท่ากัน 100.000% แต่ก็ไม่ได้แตกต่างกันจน "เห็นได้" สิ่งที่ต่างกัน คือ โทนสี หรือ เฉดสี หรือ ความสว่างของสีนั้นๆ เพราะภาพที่เห็น เกิดจากการสะท้อนแสงกลับ (หรือปล่อยแสงผ่าน) สะท้อน(หรือปล่อยผ่าน) .. ที่ระดับ(ผลึก)โมเลกุลที่ขนาดไม่เท่ากัน มันจึงความเนียนละเอียดกว่าดิจิตอลมาก กล้องดิจิตอล ... แต่ละจุดภาพ ไม่ว่ากี่ล้านจุดภาพ มีขนาดเท่าเทียมกันหมดเสมอ แต่ละจุดภาพ .. ไม่ใช่ภาพที่เกิดจากแสงมากระทบโดยตรง แต่เกิดจากการคำนวน ทั้งการคำนวนค่าความสว่าง และการคำนวนว่า จุดภาพนั้นๆ ควรมีสีอะไร สี, เฉดสี และความสว่างที่เกิดขึ้น .. จึงเป็นสี, เฉดสี และความสว่าง ที่ "น่าจะ" ใกล้เคียงกับความเป็นจริงที่สุด ไอ้คำว่า "น่าจะ" นี่แหละ ที่วัดความสามารถของบริษัทกล้อง รวมทั้งการแบ่งค่ายอย่าง "ค่อนข้างชัดเจน" เพราะตากล้อง และคนดูรูป ต้องตีความว่า ค่ายไหน "น่าจะ" ใกล้เคียงกับความเป็นจริงที่ตัวเองชอบที่สุด จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 06:00:18

ความคิดเห็นที่ 10 ว่าทางเทคนิคไปซะยาว ในแง่ของการใช้งาน กล้องฟิล์ม ใช้ยุ่ง ยาก และต้องการความละเอียดประณีต เพราะมันไม่เห็นภาพเลยทันที ความยุ่ง ยาก ละเอียด ประณีต ฯลฯ นี้ ไม่ใช่แค่ที่ตัวกล้อง หรือ การถ่าย แต่เริ่มตั้งแต่การเลือกฟิล์ม(ควบคุมไม่ได้), การใส่ฟิล์ม, การกดชัตเตอร์, การล้าง(ควบคุมไม่ได้), การอัด(ควบคุมไม่ได้) สิ่งที่ได้คืนมา ... หากได้คืนมา คือ ภาพที่ไ้ด้รับความทุ่มเท ใส่ใจ ในกระบวนการถ่ายภาพ แทบทุกขั้นตอน และ ภาพที่เนียน ละเอียดที่ไล่เลียงเนียนตา โทนสีไล่เลียงได้จำนวนนับไม่ถ้วน มันดีกว่าขนาดนั้น ทำไมถึงตกอับ เพราะนอกจากความ"ช้า" ในการได้ผลลัพธ์, ความ"เสี่ยง"ที่จะไม่ได้รูปที่ต้องการจากปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ มีมาตั้งแต่สมัยที่มันยังรุ่งเรือง ปัจจัยที่ทำให้ฟิล์มตกอับขนาดนี้ ก็คือ ความหน้ามืดในกาม เอ๊ย .. ไม่ใช่ ปัจจัยที่ทำให้ฟิล์มตกอับ ก็คือ ลูกค้าไม่ได้ต้องการความละเอียดประณีต ที่ได้จากฟิล์ม ลูกค้าส่วนใหญ่ ต้องการแค่รูป ที่ พอใช้งานได้ เท่านั้น และส่วนใหญ่ ต้องการรูปไวๆ แก้ไขได้ง่ายๆ ข้อดีของฟิล์ม ก็คือข้อเสียของมันนั่นเอง จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 06:10:03

ความคิดเห็นที่ 11 ตามน้าแมว แต่กล้องฟิล์ม นี่ เขาว่านิสัยดี แต่ขี้เล่น นะ จากคุณ : แสบสันต์ หมายเลข 8 เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 06:30:09

ความคิดเห็นที่ 12 ในภาคการใช้งาน ผมว่าความละเอียดประณีตมันอยู่ที่คนนี่น้า ไม่ได้อยู่ที่กล้อง ข้อดีคือ กล้องดิจิตอลทำให้คนที่ละเอียดอยู่แล้ว มีโอกาสควบคุมอะไรได้มากขึ้น ง่ายขึ้น ได้ดั่งใจมากขึ้น และใช้เวลาน้อยลง ในทุกขึ้นตอนที่ไม่เคยทำได้มาก่อน และไม่จำเป็นต้องทำในส่วนที่ไม่สำคัญ เพียงแต่กล้องฟิล์มมันทำให้คนที่ไม่ละเอียด จำเป็นต้องละเอียดในบางขั้นตอน แต่ว่า ผมไม่แน่ใจว่าตรงนั้นมันคือหัวใจของการถ่ายภาพจริงหรือเปล่า คิดว่าไม่ใช่ ความละเอียดประณีตที่ว่ามา น่าจะเป็นกระพี้ มากกว่าแก่น จุดสำคัญน่าจะอยู่ตรงการสื่อสาร อารมณ์ และความงามในภาพที่ได้มามากกว่า จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 07:05:55

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่ว่าฟิล์ม หรือดิจิตอล มันก็จะมาตายตอนจบตรง Output นี่แหละครับ จอภาพ 10 บิทเพิ่งมาในระดับมืออาชีพ เครื่องแสกน เครื่องพิมพ์ และซอฟท์แวร์ยังมีเพดานการใช้งานจริงอยู่ที่บิทสี 16 บิท เครื่องอัดภาพอนาล็อกแทบไม่เหลือแล้ว ฟิล์มก็จะกลายเป็นดิจิตอลก่อนพิมพ์อยู่ดี ไม่ว่าฟิล์มต้นฉบับจะเนียนแค่ไหน พอถูกจัดการ หรือออกสื่อแล้ว ก็อยู่บนพื้นฐานเดียวกับดิจิตอล ข้อได้เปรียบของฟิล์มไม่สามารถเอาออกมาใช้ได้ และด้านอื่นก็เป็นรองทุกประตู อย่างเนวินว่า "มันจบแล้วครับนาย" จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 07:14:59

ความคิดเห็นที่ 14 โลกมันเป็นไดนามิก(พลวัต) ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับยุคสมัย ก็จะอยู่ได้อย่างกลมกลืนมีความสุข ผมใช้กล้องมาตั้งแต่กล้องฟิล์ม จนปัจจุบันเป็นกล้องดิจิตอล ก็ใช้ได้อย่างมีความสุขดี อย่าไปยึดติดกับอะไรมากเกินไปจะเป็นทุกข์เสียเปล่า ๆ (นี่เป็นกระทู้ยอดฮิตตอนตั้งห้องกล้องใหม่ ๆเลยนะ ถึงกับจะแยกเป็นห้องกล้องฟิล์มกับห้องกล้องดิจิติลเลย) จากคุณ : raksapondet เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 07:27:50

ความคิดเห็นที่ 15 ยังไง Digital มันก็ดีกว่า ฟิล์ม  ถ้ามันไม่ได้ดีกว่า  คงไม่ได้ครองโลกแบบนี้ การถ่ายทอดอารมณ์ มันอยู่คนถ่าย  ไม่ได้อยู่ที่ระบบการบันทึก ช่างภาพ Nat Geo ก็ใช้กล้องดิจิตอลกันหมด ปล. ต้องไปดูว่า การ์ตูนนั้นเป็นยุคไหน  ถ้ายุคแรกๆ ของดิจิตอล สักประมาณปี 2000 ดิจิตอล ยังไม่ได้ดีเท่าไหร่  ช่างภาพหลายคนยังเลือกใช้กล้องฟิล์มอยู่ ต่างจากตอนนี้ เทคโนโลยีมันดีขึ้นมาก ถูกลงมาก จากคุณ : EITHER เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 08:20:21

ความคิดเห็นที่ 16 กล้องฟิล์ม                                      กล้องดิจิตอล -จะกดชัตเตอร์แต่ละทีต้องเอาแบบให้้    -กดไปก่อนเหอะ เอาไว้เผื่อเลือกรัวๆไป ชัวร์ๆคิดแล้วคิดอีกช๊อตนะ5บาทนะเฟ้ย    เลยก็ได้น่า -อัดมาภาพหายฟิล์มยังอยู่ อัดได้ใหม่    - ไฟล์หาย (ฮาร์ดดิสเจ๊ง DVDเสีย) จบกัน -เปลี่ยนISOไปมาไม่ได้ตามใจชอบ       - สบายมาก ช๊อตนี้จะเอา100  ช๊อตต่อไป  ฟิล์ม100ก็ต้องใช้แต่100เท่านั้น            เอา1600ไปเลย -ลุ้นระทึกไม่รู้ว่าภาพจะเป็นอย่างไร       - ไม่ต้องลุ้น เช็คภาพดูได้เลยเสียก็ถ่าย  จนกว่าจะกลับมาล้างดูแล้วถึงจะรู้           ใหม่ได้ จากคุณ : ตากล้องหนุ่ม เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 08:24:27

ความคิดเห็นที่ 17 ภาพจากฟิล์ม ได้มาจากปฎิกิริยาเคมี  ที่แสงเข้าไปกระทบสารเคมี ที่เคลือบอยู่บนแผ่นฟิล์มนะครับ ส่วน digital  ได้มาจาก เซ็นเซอร์รับภาพ  รับแสงแล้วมาประมวลผล ผลลัพท์เหมือนกัน แต่ว่า วิธีการนี่ คนละเรื่องเลย ปัจจุบัน  digital  ง่ายกว่าเยอครับ  ประมาณ  มาม่า  เปิดกระป๋อง เทน้ำร้อน กินได้เลย แต่ว่า ชายสี่ หมี่เกี๊ยวนี่ ต้องเดินออกไปปากซอย  กว่าจะทำเส้น  ลวกเส้น กว่าจะได้กิน  ขั้นตอนเยอะกว่า  ละเมียดละไมกว่า ที่ฟิล์มทำได้ แต่  digital ทำไม่ได้ตอนนี้ ก็ยังเหลือไม่กี่อย่างนะครับ ที่นึกออก ก็คือ เปิด  shutter  ข้ามคืน  ถ่ายดาวเป็นเส้นยาวๆ  นี่หละครับ   ถ้าใช้  digital ทำ  ท่าจะได้  hot pixel มาแทนดาว จากคุณ : tamrong เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 08:55:03

ความคิดเห็นที่ 18 รู้อย่างเดียวครับ คนใช้กล้องฟิมล์ มาดิจิตอล แรกๆจะ งง เป็นไก่ ตาแตก ถ่ายจะไม่สวย เหมือนใช้กล้องฟิมล์ เพราะระบบมันเยอะมาก ต่อไห้อ่านคู่มือยังไงก้ยังไม่เข้ามือ ต้อง ใช้เวลาอีกพักใหญ่ แล้วไม่รู้ว่า รู้สึกไปเองไหม ระบบวัดแสงของดิจิตอล สู้กล้องฟิมล์ไม่ได้ แต่นิดนึงนะครับ จากคุณ : kimji40d เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 08:56:43

ความคิดเห็นที่ 19 กล้องฟิลม์ เป็น อนาล๊อก  ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องล้วนเป็นอนาล๊อก ตั้งแต่ต้นจนจบ คือ กระบวนการสร้างเนื้อฟิลม์ จนมาถึงตอนจบ คือการพริ้นรูปออกมาจากเครื่องอัดรูปอนาล๊อก *_* กล้องดิจิตอล ก็เป็น ดิจิตอล ทุกอย่าง ตั้งแต่ต้นจนจบเหมือนกัน ^_^ สิ่งที่ทำให้จิตวิญญาณของกล้องฟิลม์ลดน้อยลงไป คือ กระบวนการอัดรูปในปัจุบัน ซึ่งกลายเป็นระบบดิจิตอลไปหมดแล้ว -_-" ส่วนที่หลงเหลืออยู่คือ การอัดรูปในระบบอนาล๊อกที่ยังทำกันในคนกลุ่มเล็กๆ ในเมืองไทย ซึ่งมีจำนวนไม่มากนัก และก็ไม่ได้ทำในลักษณะของเชิงพาณิชย์กันทุกราย !!! ส่วนที่เหลือ ก็จำเป็นต้องไปพึ่งพาระบบดิจิตอล ตั้งแต่การสแกนฟิลม์ ไปถึงการอัดรูปในระบบปัจจุบัน คือระบบดิจิตอล ซึ่งเป็น "การเอาอนาล๊อกไปแปลงเป็นดิจิตอล" ซึ่งมันจะสูญเสียบางสิ่งบางอย่างหรือหลายอย่าง ในกระบวนการเปลี่ยนเนื้อฟิลม์ไปเป็นรูปในระบบดิจิตอล !!! แต่นั่นคือสิ่งที่จำเป็นต้องยอมรับความสูญเสียในระดับหนึ่ง >_< เพราะจิตวิญญาณของกล้องฟิลม์ ส่วนหนึ่งที่สำคัญ คือ "ความทรงจำ" ระหว่าง คนใช้ กับ กระบวนการทั้งหมดของการถ่ายรูป ตั้งแต่เริ่ม เลือกฟิลม์มาใช้งาน การถ่ายแต่ละซ๊อท การล้าง การอัดรูป จนได้มาซึ่ง รูปหนึ่งใบ ซึ่ง สวยมั่ง ไม่สวยมั่ง ก็ว่ากันไปตามจังหวะของชีวิต *_* และเสน่ห์ของมันที่ไม่อาจปฎิเสธได้ คือ "การรอคอย" !!! สิ่งต่างๆ เหล่านี้ คือ การก่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า "ความผูกพันธ์" ระหว่าง คนถ่ายรูป กับ รูปที่ออกมา ไม่ว่ารูปนั้นจะออกมายังไงก็ตาม ^_^ ส่วนกล้องดิจิตอล เป็นอีกโลกหนึ่งซึ่งต้องยอมรับ ไม่ว่าจะอยากยอมรับเอง หรือจำเป็นต้องยอมรับก็ตามที เพราะมันคือวิถีชีวิตในยุคดิจิตอลที่เร่งรีบใบแบบของวันนี้ และวันข้างหน้า *_* ผมไม่ได้ปฎิเสธว่าดิจิตอลไม่ดี แต่ตรงกันข้ามครับ ผมว่ากล้องดิจิตอลมันดีทีเดียว หรือเรียกว่ามันดีมากๆ ทีเดียว เพราะว่ามันเหมาะสมกับการดำรงชีวิตอยู่ในสังคมดิจิตอลแบบทุกวันนี้ ซึ่งทุกอย่างต้องแข่งกับเวลา !!! สำหรับเรื่องสี หรือ อารมณ์ที่ถ่ายทอด ออกมานั้น ผมว่าปัจจุบัน ขึ้นอยู่กับ ฝีมือของคนหลังคอมพิวเตอร์เป็นส่วนใหญ่แล้วละครับ ^_^ บางท่านใช้กล้องดิจิตอล ก็พยายามปรับแต่งรูปที่ออกมาให้ไปเหมือนกับรูปถ่ายยุคเก่าๆ ที่ถ่ายล้างอัดด้วยระบบอนาล๊อก !!! บางท่านก็ใช้กล้องฟิลม์ ก็พยายามปรับแต่งรูปให้ออกมาเหมือนกับรูปที่ถ่ายด้วยกล้องดิจิตอล !!! ทั้งสองแบบ ก็ไม่ได้ผิดอะไร มันขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของอยากจะได้ output ออกมาลักษณะไหนมากกว่ากัน ^_^ ทั้งกล้องฟิลม์ และกล้องดิจิตอล ต่างก็มีเสน่ห์ในตัวครับ แต่เป็นเสน่ห์คนละแบบกันเท่านั้นเอง ขึ้นอยู่กับว่า ท่านใด หลง เสน่ห์ แบบไหนมากกว่ากันเท่านั้นเองครับ ^_^ แต่สุดท้ายก็คือเปลืองตังค์พอๆ กัน หรือเปลืองมากกว่า ถ้าไปหลงเสน่ห์กล้องอนาล๊อกในยุคดิจิตอลนี้ 555 ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็ไม่ต่างกับ นาฬิกาข้อมมือที่เป็นดิจิตอล หรือ นาฬิกาไขลาน ซึ่งต่างก็บอกเวลาได้ตรงพอๆ กัน หลายท่านก็มีทั้งสองแบบ ก็แล้วแต่ว่าวันไหน หรือโอกาสใด จะหยิบใช้เรือนไหนเท่านั้นเอง ^_^ และสุดท้าย คือเราไม่อาจปฎิเสธในการดำรงชีวิตอยู่ในโลกยุดดิจิตอลได้ครับ ทุกอย่างต้องเปลี่ยนแปลงไปตามวิถีของการเวลา แต่เราก็ยังสามารถเลือกอนาล๊อกได้ ในบางจังหวะของชีวิต ที่ตอนนั้นไม่ต้องการความเร่งรีบมากมายนัก ^_^ ผมอยู่ในยุค RF แล้วก็เป็น SLR แล้วก็ดิจิรุ่นแรก จนมาถึง DSLR ซึ่งปัจจุบันผมก็ยังใช้สิ่งต่างๆ ที่มีอยู่ ตั้งแต่ RF , SLR , DSLR , m3/4 ที่ไม่ใช้ก็พวกดิจิรุ่นแรกๆ หรือรุ่นหลังๆ ที่มันตกยุคไปแล้ว (หรือผมโยนทิ้งไปหมดแล้ว) ที่ยังเก็บไว้อยู่ก็ไม่รู้ว่าจะใช้มันยังไงแล้ว เพราะไม่ว่าแบต หรือหน่วยความจำ เดี๋ยวนี้มันหมดสภาพหรือหาไม่ได้แล้ว !!! RF ที่เป็นกล้องหัดถ่ายรูปตัวแรก ทุกวันนี้ก็ยังสามารถหยิบมาใช้งานได้ (แม้ว่าจะได้กินฟิล์ปีละม้วนก็ตาม) กล้องฟิล์ที่มีอยู่ทีกวันนี้ ทั้ง SLR และ RF ก็พยายามใช้ทุกเดือน หมุนเวียนกันไป ส่วนดิจิตอล ทั้ง เล็กทั้งใหญ่ ก็ใช้งานตามปรกติขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน สำหรับผมแล้วกล้องฟิล์ กับกล้องดิจิตอล มันก็ต่างกันตรงนี้เท่านั้นเองครับ ^_^ แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 53 09:06:49 จากคุณ : SkyBox เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 09:03:43

ความคิดเห็นที่ 20 เป็นคนที่ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย จากคุณ : มาม่าผัดขี้เมา เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 09:06:37

ความคิดเห็นที่ 21 ท๊่พรรณากันมาส่วนใหญ่ถึงความละเอียดเนียนสวยของฟิล์ม และการถ่ายทอดสีสันอะไรสุดยอดกว่าอะไรก็ตามแต่อย่างที่บอกเล่ากันมา บอกตามตรง..."ตั้งแต่ถ่ายรูปมาผมไม่เคยเห็นความต่างอันนั้น" หรือถ้าผมอยากจะให้คนอื่นดูว่าผมเป็นคนถ่ายรูปเก่งและมีรสนิยมสูง จำเป็นต้องพยายามมองให้ออกว่าภาพจากฟิล์มมันสวยกว่าภาพดิจิตอลอย่างไร..?       แน่นอน..ตอนนี้ขณะนี้ภาพที่ถ่ายอาจจะมีพิคเซลไม่มากพอเทียบเท่ากับที่สามารถแสดงได้ในเนื้อฟิลม์ แต่ถามจริง...มีกี่คนที่เอาไปขยายนั่งส่องดู "หรือการดูภาพถ่ายเขาดูกันแบบนั้น" ความรู้สึกทั้งหมดที่มี....มันอยู่ที่การคิดเอาเองหรือเปล่า ภาพก็คือภาพหรือมีใครเอาไปขยายให้ภาพมันโตๆเพื่อดูเม็กพิกเซลล์มันเล่น.....มันช่างเหมือนกับยุคสมัยที่ผมทำอาร์ตเวิร์คด้วยระบบวาดเอาด้วยปากาเขียนแบบแล้วเอาตัดแปะเหลือเกิน...ทุกอย่างมันถูกแทนที่ด้วยดิจิตอลในเวลาอันสั้น ความสามารถที่สั่งสมมา...ทั้งการวาดกราฟฟิกและประดิษฐ์ตัวอักษร การทำงานเฉียบๆเนี้ยบๆผิดพลาดไม่ได้กลับมาแพ้สิ่งง่ายๆที่เรียกว่า Undo และเครื่องมือกราฟิกที่ไม่ว่าจะวาดอย่างไรหมึกก็ไม่เปื้อน หรือสุดท้ายมันก็เป็นเรื่องแค่ อาลัยอาวรณ์..ค่าประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนานและยากลำบากในยุคที่ตากล้องต้องใช้ฟิล์ม แล้ววันนี้กลับถูกเด็กเมื่อวานซืนยุคดิจิตอล..ถ่ายภาพได้ดีกว่าหรือเสมอตนเองในเวลาฝึกฝนอันแสนสั้น..... เอ๊ะ..ผมพิมพ์อะไรไปนี่? จากคุณ : Salt Cat เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 09:10:07

ความคิดเห็นที่ 22 อิคิงามิใช่มั๊ยครับ จากคุณ : น้ำค้างในยามเช้า เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 09:20:36

ความคิดเห็นที่ 23 มันเป็นแค่การ์ตูน แต่ของจริงมันต่างกัน มองโลกแห่งความเป็นจริงและปรับตัวเองให้เหมาะสมกับยุคสมัย เพื่อการดำรงค์ชีวิตที่ดีขึ้นดีกว่าครับ จากคุณ : the เด็ก เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 09:53:44

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณทุก  คห.  ที่เข้ามาแชร์ความคิดเห็นกันในกระทู้นี้นะคะ   รู้สึกประทับใจในทุกคำตอบ  ทุกมุมมอง  ทุกความรู้สึก  เสียดายกิ๊ฟหมด  ไม่งั้นคงแจกกระจาย  555 *22 คุณน้ำค้างในยามเช้า  ใช่ค่ะ  การ์ตูนเรื่อง "อิคิงามิ"  เล่มล่าสุด จริงๆ มันเป็นแค่การ์ตูน  แต่บางเนื้อเรื่อง  บางคำพูด  มันทำให้เรารู้สึกสะดุดใจ  และเอากลับมาคิด  และเอามาตั้งกระทู้ในห้องกล้องนี่แหละค่ะ **สำหรับท่านอื่นๆ  ที่บอกเราว่า "เป็นคนที่ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย"  หรือบอกให้เรามองโลกแห่งความเป็นจริงและปรับตัวเองให้เหมาะสมกับยุคสมัย  นั้นเราก็ขอบคุณมากนะคะ  อยากจะบอกว่าไม่ได้แตะกล้องฟิล์มมาชาติกว่าแล้วค่ะ  555 เพราะเห็นด้วยว่า Digital  ใช้ง่ายกว่าเยอะ  แต่เราเองไม่ใช่คนเล่นกล้อง  เราก็คงบอกไม่ได้ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร  นอกจากความสะดวกสบาย  ง่ายดาย  และประหยัดเงิน(ค่าฟิล์ม)  ใครๆ ก็ถ่ายได้  อะไรแบบนี้ แต่ถึงอย่างไรก็ขอบคุณทุกความคิดเห็นเลยนะคะ  ไม่ว่าเห็นด้วยกับเรา  หรือว่าคิดต่าง  ยังงัยก็ต้องขอบคุณเทคโนโลยีที่ทำให้ทุกอย่างง่ายดาย  และสะดวกสบายยิ่งขึ้น  แค่มันอาจจะขาดเสน่ห์  และดูฉาบฉวย  เร่งรีบไปบ้างเท่านั้นเอง จากคุณ : อยากให้เมืองไทยมีหิมะตก เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 10:51:57

ความคิดเห็นที่ 25 ป้าอีฟยังอ่านการ์ตูนอีกหรอ คริๆ จากคุณ : JuAnCArloS เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 11:20:52

ความคิดเห็นที่ 26 เคยถ่ายฟิลม์ หลังจากปรับกล้องแล้ว ก่อนถ่ายจะจดเวลา สถานที่ สปีดชัตเตอร์ รูรับแสง ใช้ฟิลม์ ISO อะไร จดตัวเลขลงไปในสมุดด้วย เวลาเอาไปล้างจะได้รู้รายละเอียดตรงนี้ กดชัตเตอร์ทีนึงเสียเงินไปแล้วหลายบาท แล้วต้องมาลุ้นกันว่าล้างแล้วรูปจะเป็นยังไง ฟิลม์ทำให้เราเป็นคนละเอียด คิดอะไรมากขึ้น ถ้าถ่ายมั่วๆ เสียเงินฟรีแน่นอน คิดเอาเองนะ ว่าภาพจากฟิลม์(อัดกับเครื่องอัดสมัยก่อน) มันดูมีมิติของภาพมากกว่า ให้อารมณ์ของภาพมากกว่า ดิจิตอลมาแรกๆ ก็เห็นๆกันว่าภาพออกมาเป้นอย่างไร ห่วยมาก แต่ตอนนี้ดิจิตอลดีๆ ให้ภาพที่สวยไม่แพ้กันเลย อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำไป ดิจิตอลทำให้คนที่ถ่ายภาพไม่เก่ง ได้หัด ได้เรียนรู้การถ่ายภาพโดยที่ไม่สิ้นเปลืองมาก ถ่ายแล้วไม่สวยก็ลบไป แต่ก่อนจะถ่ายขอให้คิด คำนวนค่าต่างๆว่าสัมพันธ์กันมั้ย ถ่ายแล้วภาพจะออกมาแบบไหน สปีดเท่านี้ รูรับแสงเท่านี้ ระยะห่างของวัตถุ ระยะของสิ่งแวดล้อม ถ่ายแล้วภาพจะเป็นอย่างไร แต่บางคน มีดิจิตอลในมือ กดอย่างเดียว ไม่สวยก็ลบ ไม่ต้องคิดอะไรในหัวเลย ถ้าพูดถึงคนถ่ายรูปทั่วไป ดิจิตอลอาจทำให้บางคนเป็นคนฉาบฉวย ไม่คิดอะไร ถ่ายอย่างเดียว แต่ดิจิตอลก็ทำให้คนที่อยากเรียนรู้การถ่ายภาพ ได้ภาพที่ดีได้โดยไม่สิ้นเปลืองและเห็นผลเร็วขึ้น จากคุณ : รีบเก็บของ เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 11:26:41

ความคิดเห็นที่ 27 *25 กรำ  คนรู้จักผ่านมาแซวอีกแล้ว...T_T ชอบอ่านมากค่ะ  จริงๆ ก็อ่านหนังสือทุกประเภทแหละ เห็นประเด็นไหนน่าคิด  และน่าสนใจ  ก็เก็บเอามาตั้งกระทู้ถามบ้าง  อะไรบ้างค่ะ ^^ จากคุณ : อยากให้เมืองไทยมีหิมะตก เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 11:27:59

ความคิดเห็นที่ 28 *26 ขอบใจมากเพื่อน  ที่แวะมาแชร์  คห. กันนะ  จากคุณ : อยากให้เมืองไทยมีหิมะตก เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 11:32:05

ความคิดเห็นที่ 29 ได้อารมย์เหมือนได้ฟังคนคุยกันเรื่องระบบเสียงเลยครับ ทุกวันนี้ยังมีคนหลงไหลกับแอมป์หลอดและแผ่นไวนิล ผมคนหนึ่งล่ะที่ชอบเสียงในไตล์แบบนี้ในบางรูปแบบของเพลงในยามค่ำก่อนนอน แต่ผมไม่เอาแอมป์หลอดของผมมาฟังเพลงของเลดี้กาก้าหรอครับ มันต้องใช้เครื่องเสียงอีกชุดหนึ่งถึงสะใจ งานที่ใช้ทั้ง Digital back และฟิล์ม มันมีข้อดีข้อเสียต่างกัน แม้ว่าจะ process เป็นดิจิตอลในตอนจบแต่ก็ต้องเลือกไดนามิกของฟิล์มในบางงานและดิจิตอลตั้งแต่เกิดในบางงาน งาน HD และ 16mm-35mm ก็มีข้อดีข้อเสียต่างกัน ทั้งที่มีงานก่อนละหลังงาน Double head งอกออกมากินทั้งเงินและเวลา บางครั้งก็ยังต้องใช้ฟิล์มบางงานดิจิตอลตั้งแต่เกิดในบางงานได้เหมือนกัน เพราะไม่ต้องใช้ความเหนือกว่าในบางข้อของฟิล์ม ดีไม่ดี เหมาะไม่เหมาะ มันอยู่ที่ Output จะเป็นตัวเลือกระบบครับ ไม่ใช่ิดิจิตอลหรือฟิล์ม "ดีกว่า" หรือ "ไม่ดีกว่า" จากคุณ : คนธนฯ เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 13:06:10

ความคิดเห็นที่ 30 ขอแสดงความเห็นแบบที่ตัวเองรู้สึกแล้วกันนะคะ ตั้งแต่สมัยตอนที่ใช้กล้องฟิล์ม ตอนนั้นแค่รู้สึกอยากมีกล้องซักตัวไว้เก็บความประทับใจลงบนแผ่นฟิล์ม เวลาจะกดชัตเตอร์แต่ละครั้ง จะคิดเสมอว่า มุมดีพอรึยัง เอียง หมุน ปรับองศามันอยู่นั่นแหละ... พอกดชัตเตอร์ไปแล้วก็มานั่งกังวลว่า มันจะสวยป่าวหว่า... 36 รูปเนี่ยจะดีซักกี่รูป ด้วยความที่เราไม่เคยเรียนถ่ายภาพ ได้แต่มองช่างภาพที่ทำงานร่วมกันก็เลยพอจะได้มุมมองที่ดีดี มาจากพี่คนนั้นคนนี้เสมอๆ แต่พอล่วงเลยมาถึงยุคดิจิตอล เราก็หันมาลองใช้ดูบ้าง และสนใจเรื่องการถ่ายภาพและการใช้กล้องมากยิ่งขึ้น หลังจากได้เรียนเรื่องการตั้งค่ากล้องด้วยโหมดแมนวล ก็เลยพยายามตั้งใจวัดแสง ปรับค่านั่นนี่ก่อนกดชัตเตอร์เหมือนกัน แต่ก็จะถ่ายเป็น 3 แบบคือ under ... แสงพอดี...over หรือไม่ก็ ถ่ายเสร็จ กด preview ไม่ชอบ ไม่สวย ก็กดใหม่ถ้ามีเวลา ส่วนตัวเราคิดว่า กล้องดิจิตอลสะดวกและคุ้มค่ามากกว่ากล้องฟิล์ม  ยังไงเราก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย แต่ก็ไม่ได้รังเกียจหรือทิ้งความคลาสสิคดั้งเดิมนะคะ เคยได้ยินพวกช่างภาพมืออาชีพเค้าบอกว่า กล้องฟิล์มถ่ายสวยกว่า ...อันนี้นานาจิตตังค่ะ เพราะส่วนตัวเราก็สามารถถ่ายภาพด้วยกล้องดิจิตอลออกมาได้สวย (บ้าง) ได้มากกว่าสมัยใช้กล้องฟิล์มค่ะ ^^ จากคุณ : A little dark girl เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 14:10:27

ความคิดเห็นที่ 31 - หลงรักดิจิตอล แต่ยังคิดถึงกล้องฟิล์ม - เขาตอบกันไปหมดแล้ว... จากคุณ : c136 (c136) เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 16:27:04

ความคิดเห็นที่ 32 ยังชอบทั้งสองแบบนะคะ พี่อีฟ โดยส่วนตัว กล้องฟิล์มนี่ลุ้นระทึกมากเวลาล้างแบบว่า สีจะสวยไหม ตามที่เราต้องการ เพราะแต่ละใบที่ล้างก็คือเงิน ^^' แต่ได้บรรยากาศในการฝึกฝีมือ วัดแสง กะอะไรเองหมดเลยนะคะ เวลาที่ต้องการถ่ายอะไรคลาสสิกๆ หวานชอบกล้องฟิล์มมากกว่าค่ะ ส่วนดิจิตัลนี่ ไว้เวลาที่ต้องการเก็บบรรยากาศอะไรแบบที่ไม่สามารถมาอ่อยอิ่งในการถ่ายได้ จะสะดวกกว่า อีกอย่างไม่ต้องพกฟิล์มให้หนักเล่น มีแค่เมม 4 กิ๊ก ลุยได้ไหนถึงไหนแล้ว  คิดว่า ยังไง ทั้งกล้องฟิล์ม และ กล้องดิจิตัล ก็มีข้อดีข้อเสียในตัวของมันเองแหล่ะค่ะ เพียงแค่อยู่ที่ใครจะชอบ หรือ ไม่ชอบอะไรตรงไหนเท่านั้นเอง  จากคุณ : มะนาวหวานซ่อนเปรี้ยว เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 17:00:34

ความคิดเห็นที่ 33 ตื่นเต้นครับ ตอนไปล้างรูป  แล้วที่สำคัญ  "ฟิล์มไม่มีวันตาย โดยเฉพาะ สไลด์ ผมมีความสุขทุกที ที่ได้กดชัตเตอร์ จากคุณ : takeaphotopop เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 17:54:32

ความคิดเห็นที่ 34 ... เห็นหัวข้อแล้วอยากตอบ แต่คิดๆ แล้วลำบากใจ เพราะตัวเองยังตอบตัวเองไม่เคลียร์เลย ส่ง ให้ จขกท.แล้วกัน ปล. ส่วนตัวเคยถ่ายสไลด์ หลงรักสไลด์ เพิ่งมาถ่ายดิจิตอลได้  2-3ปี ปลื้มไม่น้อย แต่ก็ยังแอบคิดถึงสไลด์อยู่เนืองๆ ถ้าอาการนี้อยู่ห้องสยามต้องตามด้วยเพลงทาทา ..ขาดเธอก็เหงา ขาดเขาก็คงเสียใจ ไม่อยากจะเลือกใคร อยากเก็บเธอเอาไว้ ทั้งสองคน.. จากคุณ : จิตรางคทา เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 23:54:58

ความคิดเห็นที่ 35 DSLR ช่วยให้การถ่ายรูปได้ "ภาพ" ง่ายขึ้นเยอะมาก แต่ SLR Film ทำให้ได้ "ถ่ายรูป" อย่างมีความสุข (แต่ก็มาบ่นทุกทีตอนดูรูปที่ล้างอัดออกมา) จากคุณ : Guyver หมายเลข 3 เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 15:02:37