ความคิดเห็นที่ 1 ใจเย็นๆ และไม่ต้องทำไร เอาไดร์เป่าผม เป่าไล้ๆ ให้กล้องมันอุ่นๆ ซัก 5-10 นาที แล้วรอให้เย็น เอามาใช้ใหม่ ถ้าไม่มีควันขึ้น หลังจากยิงแฟลช 5-10 รูป ก็ใช้ต่อไป เรื่องปกติ แต่ถ้าใช้แล้ว ถ่ายใช้แฟลชได้แค่ 2-3 รูปก็ควันขึ้น ... ส่งซ่อม จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 17:02:51

ความคิดเห็นที่ 2 น้าแมวครับ อยากทราบว่าทำไมต้องเอาไดร์เป่าให้กล้องอุ่นๆ ด้วยครับ จากคุณ : chongkho เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 17:16:46

ความคิดเห็นที่ 3 สงสัยด้วยคนนะครับ รอน้าแมวมาตอบเเช่นกัน จากคุณ : มาม่าผัดขี้เมา เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 17:57:55

ความคิดเห็นที่ 4 หลอด แฟลช ให้แสงสว่างด้วยไฟฟ้าที่ แรงดันสูงมากๆ ไฟแบตรถยนต์ แรงดัน 12v ไฟบ้านแรงดัน 220v (สูงสุด 310v) ไฟที่อาร์คให้ "เกิด" แสงแฟลช แรงดัน 300-400v ไฟที่ "จุึด" ชนวนอาร์ค แรงดัน 2,000-3,000v ไฟพวกนี้ จะโดนวงจรภายใน "ตัวแฟลช" แปลงจาก 3-6v (ถ่านไฟฉาย) เป็น 3-400v รอท่าไว้ก่อนแล้ว และเก็บไว้ในตัวเก็บประจุ พอได้รับสัญญาณ .. จะแบ่งไฟส่วนหนึ่ง ไปแปลงให้มันสูงขึ้นเป็น 2,000 - 3,000v เพื่อจุดชนวน ถ้ามีความชื้นที่แถวๆวงจรจุดชนวน หรือ แถวๆตัวเก็บประจุ แทนที่พลังงานไฟฟ้า มันจะไปจุดแฟลชในหลอด มันดันไปอาร์คใส่พวกความชื้นพวกนี้แทน ควันก็ขึ้นอะดิครับ ผมเลยให้เอาไดร์เป่าผม ไปไล้อุ่นๆ เพื่อไล่ความชื้นพวกนี้ออก ถ้าออกหมด .. ก็จะหมดปัญหา แฟลชไม่เสีย แต่ถ้าตอนที่ไฟฟ้าแรงสูง มันไปอาร์คใส่ความชื้น และวงจรรอบๆ จนเกิดการไหม้ขึ้น รอยไหม้ จะกลายเป็นสื่อกระแสไฟฟ้าความต้านทานต่ำ ถ้าเป็นอย่างนี้ .. พอแรงดันไฟสูงขึ้นหน่อย มันก็จะอาร์คทันที ถึงตรงนี้ ต้องซ่อม ถ้าโชคดี แค่ปลาสติกแผงบอร์ดไหม้ .. ไม่กี่ตังค์ ถ้าโชคร้าย ตัวอุปกรณ์ไหม้ตามไปด้วย .. หลายตังค์ แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 53 18:15:38 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 18:14:19

ความคิดเห็นที่ 5 ภาพไดอะแกรม ของระบบแฟลช ... (เครดิค how stuff work) จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 18:18:25

ความคิดเห็นที่ 6 ภาพของจริง ... ทำใหญ่ๆ หยาบๆ ไม่เนียนละเอียดเหมือนที่อยู่ในกล้องหรอก แต่องค์ประกอบต่างๆเหมือนกัน (เครดิต: google) จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 18:20:00

ความคิดเห็นที่ 7 ดู #5 กับ #6 สลับไปๆมาๆนะ ใน #5 มันจะมี primary transformer .. หม้อแปลงไฟ จากถ่านหรือแบต ที่แรงดันแค่ 3-6v ให้แรงสูงขึ้นเป็น 3-400v ไปเก็บไว้ใน main capacitor (ขวาสุด) หรือ ตามที่เห็นในรูป #6 ที่เป็นหลอดดำๆใหญ่ๆนั่นแหละ ไฟในตัว main C นี่ แรงดันสูงกว่าไฟบ้าน และพลังงานที่สะสม .. บอกได้เลยว่า ไม่น้อย -------------- ดูภาพ #6 ดีๆ จะเห็นว่า มีตัวที่เรียกว่า inductor .. ซึ่ีงมันน่าจะเป็น secondary transformer ใน #5 .. แปลงแรงดันจาก 3-400v เป็น 2,000-3,000v ในรูป #5 จะเ้ห็นว่า ด้านขวาของ sec transformer จะมีวงจรโยงไปยังแผ่น "trigger plate" ซึ่งวางแนบตัวหลอดแฟลช ผมคิดว่า ในรูป #6 .. trigger plate นี้ คือที่เขาแปะป้าย "fire" ไว้ ลองดูมาตราส่วนใน #6 ดูดีๆ จะเห็นว่า อะไรต่อมิอะไรมันใกล้กันขนาดไหน การออกแบบและสร้าง จะป้องกันไม่ให้ไฟแรงดันสูงนี้ อาร์คก่อนเวลา หรือ อาร์คไปที่อื่นๆ แต่ถ้ามีความชื้นหนักๆ เข้าไป .. แน่นอนหละว่า ไฟอาร์คมันกระโดดไปได้ทุกที่ หน้านี้่ .. หน้่าฝน ไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ความชื้นจะัเข้ากล้องง จบจ้ะ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 18:28:36

ความคิดเห็นที่ 8 ผมจบอิเล็คทรอนิค มายังรู้เรื่องพวกนี้น้อยกว่าน้าแมวเยอะครับ ขอบคุณน้าแมวมากครับ ขออนุญาตถามต่อนะครับ ถ้าผมไปซื้อ เฟรช จากบ้านหม้อที่เป็นวงจรเอง มาดัดแปลง เพื่อใช้งานกลับกล้อง จะได้ใหมครับ น้า จากคุณ : ภาพสร้างฝัน เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 20:37:31

ความคิดเห็นที่ 9 ตอบ คห.8 .. ทำได้ครับ แต่ระวังอย่าง ที่ขาเสียบแฟลช ตรงขั้วกลาง กับขอบ hotshoe มันเป็น switch สมัยเก่า จะเป็นพวก magnetic reed switch ทนแรงดันได้สูง แต่เดี๋ยวนี้ จะเป็นพวก bipolor FET มากกว่า ทนแรงดันได้อย่างมากไม่เกิน 20v มีไฟรั่วจากแฟลชทำเองเข้ามา ... มันจะไหม้เอาดื้อๆ ถ้าจะทำเล่นเอง ให้แยกวงจร hot shoe interface กับ วงจรแฟลชออกจากกัน ใช้พวก optoisolator ก็ได้ (สำเร็จรูปมีขาย ราคาราวๆ $10) จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 53 22:19:20

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณน้าแมวมากๆเลยค่ะ เดี๋ยวจะลองทำดูเลยค่ะ ได้ความรู้เยอะเลย ^^ จากคุณ : Angel City เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 53 09:25:29