ความคิดเห็นที่ 1 แม้่ว่าจะมีข้อสงสัยว่าภาพถ่ายภาพแรกน่าจะมีมาก่อนหน้านั้นนานแล้ว อย่างเช่น ในหนังสือของนักสัญญะวิทยา (Semiologist) Roland Barthes ที่ตีพิมพ์ในสเปน ชื่อหนังสือ "La chambre claire", "La cámara lúcida" (Paidós, Barcelona,1989) มีภาพชื่อ "Table ready" ที่อ้างว่าบันทึกในปี 1822 เป็นภาพมัวๆ ของโต๊ะรับประทานอาหารที่จัดสำรับไว้พร้อมแล้ว แต่ว่าในปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานใด ที่สามารถยืนยันที่มาที่แท้จริงของภาพนี้ได้ ตามประวัติศาสตร์การถ่ายภาพ เราอาจจะเคยรู้มาว่าภาพถ่ายบานแรกของโลกคือ ภาพ "View From The Window At Le Gras” ของ Joseph Nicéphore Niépce ที่บันทึกไว้เมื่อปี 1826 แต่แท้จริงแล้ว ภาพที่เกิดจากการบันทึกภาพ (Photography) ครั้งแรกของโลกที่ยังหลงเหลืออยู่ และมีหลักฐานอ้างอิงได้ชัดเจน คือภาพ "Boy Leading His Horse" ที่ Joseph Nicéphore Niépce ได้บันทึกไว้ ก่อน "View From The Window At Le Gras” เกือบปี  คือในปี 1825 นับได้ 185 ปีมาแล้ว ซึ่งตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาเจษฏาบดินทร์ฯ พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น เหตุการณ์สำคัญในกรุงสยามปีนั้นคือ เจ้าอนุวงศ์ยกทัพจะเข้ากรุงเทพฯ และยึดโคราชได้ คุณหญิงโม และพระยาปลัดเมืองนครราชสีมา พร้อมกับชาวเมืองที่ถูกเทครัวจะไปเวียงจันทร์ ต่อสู้ตีทัพลาวแตกที่ทุ่งสัมฤทธิ์ ยุคนั้นเป็นยุคทองของศิลปะวัฒธรรมกรุงสยาม และของโลกด้วย ทั่วโลก เทคโนโลยี และความก้าวหน้าทางศิลปะมากมายได้ถูกคิดค้น ประดิษฐ์ขึ้น เช่นในญี่ปุ่น การจัดดอกไม้-Ikebana ก็พัฒนาจนมีความซับซ้อนสูงสุดในยุคนี้ ส่วนอเมริกายังเป็นแผ่นดินใหม่ด้อยพัฒนาอยู่ และในจีนก็เป็นช่วงกลางราชวงชิง แห่งแมนจู ซึ่งเป็นยุคอดอยากของแผ่นดิน ทำให้ไม่มีการคิดค้นงานศิลปะ หรือวิทยาการใหม่ๆ ออกมา ในยุโรปที่ถือว่าเป็นแดนศิวิไลซ์ เป็นครั้งแรกที่มีการคิดค้นการถ่ายภาพเกิดขึ้นในยุคนี้ ภาพ "View From The Window At Le Gras” แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 53 15:46:51 จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 15:25:24

ความคิดเห็นที่ 2 แม้ว่าภาพ "Boy Leading His Horse" จะไม่ใช่ภาพถ่ายที่เกิดขึ้นจากการถ่ายภาพด้วยกล้องถ่ายภาพแบบกล่องมืด (camera obscura) เป็นแค่การ Direct Printing จากภาพเขียน แต่ว่าโดยเทคนิคที่ใช้แล้วเป็นเทคนิคการสร้างภาพด้วยแสง ถูกต้องตรงนิยามของ Photo (แสง) - Graphy (วาด/เขียน) ทุกประการ   เทคนิคที่ใช้ในการสร้างภาพนี้คือ Heliography ซึ่ง Helios หมายถึงพระอาทิตย์ หรือแสงอาทิตย์ ถอดความคำว่าเฮลิโอกราฟฟีได้ว่าเป็นการวาด หรือเขียนด้วยแสงอาทิตย์ Joseph Nicéphore Niépce เรียกเทคนิคการถ่ายภาพของเขาทุกประเภท ทั้งแบบใช้กล่องมืด และไม่ใช้กล่องมืดว่าเป็น Heliography แต่สมัยนี้ถ้าพูดถึง Heliography เราจะหมายถึงเทคนิคการสร้างภาพโดยไม่ใช้ Camera Obscura หรือกล่องมืด (หรือกล้องถ่ายภาพ) เช่นเดียวกับภาพ Boy Leading His Horse นี้เท่านั้น ส่วนวิธีการสร้างภาพอื่นๆ ของ Joseph Nicéphore Niépce ที่ใช้กล่องมืด เราจะเรียกว่า Photography ภาพ Boy Leading His Horse ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะเมื่อปี 2002 ภาพนี้เป็นภาพขนาด 4x6 นิ้ว ที่ถูกเก็บไว้กับเอกสารอื่น และถูกกล่าวถึงในจดหมายของ Niépces ที่เขียนถึง Isidore ผู้เป็นบุตรชาย นักสะสมชาวปารีส และผู้ขายหนังสือเก่า Andre Jammes ครอบครองภาพ จดหมาย และเอกสารชุดนี้มาตั้งแต่ทศวรรษ 1950 จนกระทั่งถูกนำออกประมูลโดยบริษัทนักประมูลอย่าง Sotheby หอสมุดแห่งชาติฝรั่งเศส (Bibliotheque Nationale - French National Library) เป็นผู้ประมูลได้ไป ในราคา 392,000 เหรียญสหรัฐอเมริกา กระบวนการทำ Heliograpy ยังเป็นความลับอยู่ แต่เชื่อกันว่าเอกสาร และจดหมายอื่นๆ ที่ถูกประมูลไปพร้อมกับภาพ และยังไม่เปิดเผยสู่สาธารณชน น่าจะมีกระบวนการทำ Heliography อธิบายไว้โดยละเอียดด้วย ภาพจดหมายของ Joseph Nicéphore Niépce ถึง Royal Society เพื่อขอนำเสนอ Heliography ในปี 1827 แต่เนื่องด้วยในภายหลังเขาไม่ต้องการเปิดเผยเทคนิค จึงยกเลิกการนำเสนอนี้ไป แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 53 15:55:54 แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 53 15:53:42 แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 53 15:48:30 จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 15:26:40

ความคิดเห็นที่ 3 คาดกันว่ากระบวนการโดยคร่าวๆ ของเทคนิคนี้ จะทำโดย เคลือบน้ำมันดินแบบไวแสงชนิดหนึ่งที่ชื่อ Bitumen of Judea ที่เป็นอนุพันธุ์ของ White Petrolium ลงบนแผ่นทองแดง แล้วทับด้วยภาพ Negative ที่วาดด้วยปากกาและหมึก เมื่อวางไว้ให้ถูกแสงอาทิตย์ ส่วนที่ถูกแสงก็จะแข็งตัวด้วยกระบวนการ Polymerization ทำให้เกิดภาพ Positive ชั่วคราวขึ้นบนแผ่นทองแดง จากนั้นก็เอาไปสร้างภาพถาวรด้วยการใช้น้ำมันลาเวนเดอร์ และ white petroleum (White Petrolatum, Petrolium Jelly หรือวาสลีนที่เรารู้จักนั่นแหละ) เคลือบส่วนอื่นไว้ และชะเอา Polymer ที่เกิดขึ้นออก เพื่อให้เกิดภาพ Negative แล้วแผ่นทองแดงจะถูกกัดด้วยกรดอีกครั้งตรงส่วนที่ไม่ถูกเคลือบ ได้เป็นภาพ Positive ที่ถาวรบนแผ่นทองแดง ในคำอธิบายภาพของซอเธบี อธิบายภาพนี้ไว้ว่า "The earliest recorded image created by photographic means." "This image and it's accompanying correspondence oblige us to rewrite those crucial first stages of the history of photography." ภาพ "Boy Leading His Horse" แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 53 15:49:37 จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 15:27:42

ความคิดเห็นที่ 4 หลังจากนั้นหนึ่งปี "View From The Window At Le Gras” ภาพถ่ายอย่างแท้จริงบานแรก ที่บันทึกด้วยกล้องถ่ายภาพ ก็ถูกบันทึกขึ้น จากวันนั้นมา ภาพที่มนุษย์ก็มองเห็นโลกผ่านสื่อ ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป -------------------------------------------------- บทความนี้ ค้นคว้าอ้างอิงจากหลายแหล่ง ไม่ได้ลงอ้างอิงไว้ ขี้เกียจน่ะ แต่สามารถค้นคว้าเพิ่มเติมได้จากคีย์เวิร์ดในบทความครับ ลิ๊งค์แรกๆ แหละ ไม่ต้องขุดลึก หรือถ้าหาไม่เจอจะหลังไมค์มาถามก็ได้ เฉพาะงานเขียน และการเรียบเรียง (ไม่รวมภาพ) เป็นลิขสิทธิ์ของผม อนุญาตให้จำหน่าย จ่ายแจก ทำสำเนา อ้างอิง ส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมด เพื่อการค้า เพื่อการศึกษา กิจส่วนตัว หรือสาธารณประโยชน์ โดยไม่ต้องขออนุญาต ตามสัญญาอนุญาตใช้งาน Creative Commons - Attribution (เวอร์ชั่น 3.0 ภาษาไทย) ------------------------------------------------- ตอนหน้าตอน 2 เจาะลึก ภาพถ่ายที่แท้จริงที่บันทึกได้จากกล้อง บานแรกของโลก In depth of "View From The Window At Le Gras” . แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 53 15:50:23 จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 15:36:29

ความคิดเห็นที่ 5 ความรู้ ๆๆๆๆ ขอบคุณครับ จากคุณ : Perfidious (Perfidious) เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 16:37:09

ความคิดเห็นที่ 6 กำลังนั่งท่องหนังสือเพื่อสอบวันอาทิตย์นี้อยู่ครับ เรื่องเกี่ยวกับ การกำเนิดกล้องออบสคูร่า การบวนการดาแกไรไทพ์,คาโลไทพ์ ฯลฯ อยากถามป๋าอะธีลาสว่า มีแรงบันดาลใจอะไร จึงได้ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ครับ ส่วนตัวกระผม แค่คิดเรื่องค่า F/S/ISO ก่อนกดชัทเตอร์ ก็มึนแล้วครับ **แต่ป๋าก็เป็นแรงบันดาลใจให้ผมเข้าสู่โลกDSLR เหมือนกัน ด้วยการแนะนำร้านให้เมื่อช่วงต้นปี ขอบคุณครับ** จากคุณ : ตาไก่ (เมืองจันท์) เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 16:42:16

ความคิดเห็นที่ 7 .. จากคุณ : raksapondet เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 16:48:12

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณน้านิค อีกครั้งที่เอาความรู้มาแจกจ่ายอีกครับ จากคุณ : kitazawa เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 17:31:56

ความคิดเห็นที่ 9 เรื่องแรงบันดาลใจมันมีอยู่สองส่วนครับ ส่วนแรก เรื่องการค้นคว้าเป็นเรื่องสำคัญของการศึกษา เพราะอดีตสร้างปัจจุบัน และกำหนดอนาคต   การถ่ายรูปวันนี้มันแค่ปลายยอดของต้นไม้ใหญ่เท่านั้น มันมีฐานมาจากหลายสาขาวิชาแต่โบราณ เป็นพันๆ ปี ดังนั้นอยากพัฒนาการถ่ายรูป ก็ต้องไปเริ่มศึกษาตั้งแต่รากฐาน จะได้รู้ว่าอะไรที่มีคนทำมาแล้ว อะไรยัง อะไรที่สำเร็จ และอันไหนที่ล้มเหลว กลเม็ดเคล็ดลับมันอยู่ตรงไหน จะได้ไม่ต้องไปลองผิดลองถูกเอง เอาความรู้ที่คนรุ่นก่อนคิดค้นไว้มาใช้ได้ทันที ถ้าฐานแน่น มันก็จะก้าวหน้าได้เร็วครับ ไม่ติดขัด หรือหาทางข้ามข้อจำกัด ขัดข้องของเราได้ บางทีก็ทำให้รู้ว่าหลายเรื่องไม่ใช่ข้อจำกัด เป็นแค่เรื่องไร้สาระ ปัญญา เอ้อ.. อ่อน โยน เช่น เราอาจจะคิดว่ากล้องเรา ความไวแสงแค่ไม่กี่พัน ไม่ถึงหมื่น ISO เหมือนกล้องโปร ทำให้เราไม่สามารถถ่ายภาพดีๆ ได้ แต่เราก็จะได้รู้ว่า Eugene Atget ถ่ายภาพแนว Street ด้วย Dry Plate ความไวแสงแค่ 1-2 ISO เอง แต่มีภาพที่เป็นตำนานนับร้อย เค้าเอาชนะข้อจำกัดได้อย่างไร แล้วเราจะเอาเทคนิคนั้นมาใช้ได้อย่างไรกับกล้องของเรา (ผมเขียนตอนนี้ค้างไว้สองเดือนแล้ว เดือนหน้าจะพยายามเขียนต่อให้จบ) หากเราเรียนรู้เรื่องการถ่ายภาพยุคแรก เราก็จะได้เห็นว่าข้อจำกัดมันมีอะไรบ้าง และนักถ่ายภาพยุคนั้นเอาชนะมันได้อย่างไร และก็จะได้ไอเดียว่า ข้อจำกัดในยุคนี้มีอะไร แล้วเราจะเอาชนะมันได้อย่างไร โดยมีรากฐานวิธีคิดจากอดีต ไม่ต้องรอให้คนอื่นคิดให้ก่อน แล้วมาบอกเรา และไม่ต้องลองผิดลองถูกเองอย่างไร้ทิศทาง ในห้องเรียน ผมถูกสอนให้ทำความเข้าใจกระทั่งภาพวาดผนังถ้ำสมัยหินโน่นแน่ะครับ เพื่อให้รู้ว่าทุกวันนี้ ศิลปิน หรือนักถ่ายภาพมืออาชีพเก่งๆ ก็ใช้ความรู้จากภาพในยุคหิน เพื่อสื่อสารกับจิตใต้สำนึกของคนดูภาพอยู่ Aldous Huxley บอกไว้ว่า The more you know, the more you see. ยิ่งรู้ ก็จะยิ่งเห็น ส่วนที่สอง ผมไปค้นคว้าเพราะจะเขียนบทความนี่แหละ ธรรมดาอาจจะแค่รู้คร่าวๆ พอ แต่ถ้าจะเขียน มันก็ต้องค้นคว้าเพิ่ม เป็นการทำให้ตัวเองได้รู้เพิ่มขึ้นอีกด้วย อย่างเช่นผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าการถ่ายภาพครั้งแรก เกิดขึ้นตรงกับสมัยย่าโม เพิ่งรู้ตอนค้นข้อมูลมาเขียนวันนี้เอง การเขียน จะเป็นการสรุปความรู้ ความเข้าใจ หากไม่รู้เรื่อง มันจะเขียนไม่ได้ เป็นการสอบทานความรู้ไปในตัวอีกทางหนึ่งด้วย ที่สำคัญผมชอบอ่าน ในเมื่อไม่มีใครเขียนสิ่งที่ผมชอบ หรืออยากอ่าน ผมเขียนเองก็ได้วะ เอาไว้อ่านเองในอนาคตก็ยังดี และอันที่จริงผมก็ชอบอ่านบทความที่ผมเขียนเองซะด้วย คนอื่นไม่ชอบไม่เป็นไร แฮ่ะๆ จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 18:05:40

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุึณบทความดีๆจากน้าอธีลาสครับ จากคุณ : evolutione99 เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 22:20:21

ความคิดเห็นที่ 11 แวะมาอ่านครับ จากคุณ : นายตัวเล็กจัง เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 22:31:07

ความคิดเห็นที่ 12 ชอบมากมายครับผม จากคุณ : vu.6 เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 22:44:53

ความคิดเห็นที่ 13 เจ๋งเลยจ้า จากคุณ : pipek (yukraider) เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 03:22:34

ความคิดเห็นที่ 14 แจ่มเลยครับน้า จากคุณ : THE CUT เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 08:28:00

ความคิดเห็นที่ 15 ไปต่อกันที่ภาค 2 ครับ "View from the Window at Le Gras" ภาพถ่ายจากกล้อง ภาพแรกของโลก (ตอนที่ 2) จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 11:38:38

ความคิดเห็นที่ 16 เยี่ยมมากๆครับ ได้แนวคิดดีๆ จากคุณ : bigwores เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 15:20:21

ความคิดเห็นที่ 17 จากคุณ : น้าวัชร-จัดให้ เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 23:00:38

ความคิดเห็นที่ 18 เอาหล่ะเราได้เห็นแล้วว่าภาพถ่ายจากกล้องโบราณภาพแรกของโลกหน้าตาเป็นอย่างไร แล้วภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอลภาพแรกของโลกหล่ะ จากคุณ : cham-bertin@sanook.com (sampannee01) เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 53 01:15:57

ความคิดเห็นที่ 19 ลงreferenceอ้างอิงแหล่งที่มาด้วยน่าจะดีนะครับ คนที่สนใจจะได้คนค้นคว้าต่อ จากคุณ : ขนมไหว้พระจันทร์ใส้ลูกบัว เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 53 06:59:33 A:92.25.4.162 X: TicketID:020037

ความคิดเห็นที่ 20 ผมไปเจอข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษที่นี่ครับ http://www.precinemahistory.net/1800.htm มีภาพประกอบด้วย แหะ แหะ อ่านไม่ค่อยออก จากคุณ : ตาบอดสี เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 53 17:01:39