ความคิดเห็นที่ 1 ดูเผินๆ ก็ไม่ค่อยมีอะไร เพราะเราเห็นภาพที่ Over Saturate กันจนคุ้น ชินตาแล้ว สงสัยเป็นรสนิยมของคนไทย ภาพเป็นไงไม่รู้ เหมาะรึเปล่าไม่รู้แหละ กุเร่งสีไว้ก่อน ไปดูได้ กระทู้หน้ารวม สุ่มจิ้มกระทู้โพสภาพมาห้ากระทู้ ถ้าไม่เจอรูปที่เร่งสีจนล้น มาเหยียบผมได้ แต่ภาพเร่งสีแบบนี้ มันจะทำให้เสียมิติภาพไป แทนที่จะไล่โทน ไล่เฉดสี ก็กลายเป็นสีแบนๆไปเสีย จากภาพถ่ายก็จะกลายเป็นภาพการ์ตูนไป บางทีก็จะทำให้สมดุลย์สีเสีย สีจะชิฟท์ บางทีก็เกิดสีเพี้ยนแทรกขึ้นมา แบบนี้ แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 53 22:27:44 จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 20:36:43

ความคิดเห็นที่ 2 ทั้งที่ภาพต้นฉบับจากกล้องมีแค่นี้ จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 20:38:46

ความคิดเห็นที่ 3 ที่จริงแค่นี้มันก็สีเข้มใกล้เคียงของจริงแล้วแหละ ขาดไปแต่ความสดใส ถ้าใช้โอลิมปัส แค่ Clean Up ให้สีสดใสขึ้นสักหน่อยก็พอ ไม่ต้องเพิ่ม Saturate ให้ล้นเกินไป ผมเปิดภาพก่อน จาก RAW สีมันจะจืดๆ แค่นี้ เพราะใช้ Adobe Camera Raw ไม่ได้ใช้ Olympus Studio ถ้าใช้โปรแกรมโอลิมปัสเอง จะเข้มดุเดือดกว่านี้อีกเยอะ จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 20:43:25

ความคิดเห็นที่ 4 ที่ต้องปรับในโฟโต้ชอปคือ ใช้ Selective Color ในการปรับสีแทนการเพิ่ม Sat พื้นฐานทางทฤษฎีสีคือ สีทั้งหมดในภาพ จะมาจากสีหลัก 3 สี 2 ชุด รวมทั้งหมด 6 สี คือ Red, Green, Blue, Cyan, Magenta, Yellow เพราะโฟโต้ชอปมีพื้นฐานมาจากงานพิมพ์ เลยใช้ระบบ CYMK เป็นเบื้องหลัง Selective Color จึงปรับโดยมองว่า 6 สีนี้ มีส่วนประกอบจากสีพื้นฐาน 3 สี (C, Y, M) และระดับความสว่าง (K) สีแดงนั้น สร้างขึ้นจาก M และ Y โดยไม่มี C อยู่เลย Cyan ที่ปนอยู่จะทำให้แชแนลสีแดงไม่สดใส ดังนั้นเราจะกำจัดออกโดยเลื่อนสไลด์เอา C ออก ทิ้งที่เหลือไว้เหมือนเดิม แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 53 21:17:12 จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 20:57:49

ความคิดเห็นที่ 5 สีที่เหลือก็ทำอย่างเดียวกันคือ Green เอา Magenta ออก -100% Blue เอา Yellow ออก Cyan, Magenta, Yellow ง่ายมาก เอาตัวเองไว้ แล้วปรับเอาสีอื่นออกให้หมด โดยเราจะไม่ไปยุ่งกับระดับความสว่าง Black จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 21:01:20

ความคิดเห็นที่ 6 ทำแค่นี้ สีที่ได้ก็จะ Clean สว่างสดใสขึ้นแล้ว โดยไม่ต้องเพิ่ม Saturate ให้ปวดตา หากมันสดใสเกินไป ไม่เหมาะกับภาพบางแนว ก็ปรับ Opacity ของชั้นนี้ตามความเหมาะสม หรืออย่างภาพนี้ควรจะ Mask บริเวณสีเหลืองสักเล็กน้อย เพราะมีดีเทลบางส่วนที่จะหายไปเมื่อ Clean Up เมื่อคลีนเรียบร้อย ก็แต่งภาพเพิ่มคอนทราสท์สักหน่อย ก็จะได้ภาพนี้ จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 21:08:28

ความคิดเห็นที่ 7 จากภาพสีหม่นๆ ก็จะสดใสมากขึ้น โดยไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับความเข้มสีเลย หรืออยากจะเพิ่มความเข้มขึ้นอีกสักเล็กน้อยก็ทำได้ในภายหลัง ลองดูภาพที่ได้เทียบกับภาพในความคิดเห็นที่ 3 ทั้งหมดที่ทำคือ Clean Up กับเพิ่มคอนทราสขึ้น 10% เท่านั้น ซึ่งถ้าเป็นโอลิมปัสแล้ว แค่นี้ก็เข้มเพียงพอ โดยที่แทบไม่ต้องปรับเพิ่ม Saturation อีกเลย . แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 53 21:21:53 จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 21:14:55

ความคิดเห็นที่ 8 ความรู้ดีๆ ขอบคุณมากนะครับ จากคุณ : Mc k เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 21:33:24

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : Fujitsu เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 21:48:17

ความคิดเห็นที่ 10 เยี่ยมครับ จากคุณ : Exacerbation เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 21:51:28

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณมากครับ ปล. ไม่ชอบภาพสีล้นๆเข้มเกินพอดีเหมือนกันครับ  แต่รู้สึกจะเป็นแนวนิยมไปซะแล้ว จากคุณ : ข้าวเหนียวไก่ทอด เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 22:02:07

ความคิดเห็นที่ 12 ""สุ่มจิ้มกระทู้โพสภาพมาห้ากระทู้ ถ้าไม่เจอรูปที่เร่งสีจนล้น มาเหยียบผมได้"" ขอตั๋วเครื่องบินด้วยน้านิค เผื่อผมไปสุ่มหาไม่เจอ ฮา ฮา ฮา ก๊า กกกกกกกกกกกกกกก จากคุณ : shark_bkk เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 22:02:47

ความคิดเห็นที่ 13 เยี่ยมเลยครับน้า จากคุณ : PJ (J. Puritat) เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 22:05:29

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณครับ จากคุณ : ตั่วมัก เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 22:07:42

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณมากครับน้าเป็นความรู้ที่ดีมากๆเลยครับ ผมเคยลองเอา Adobe Camera Raw กับ Oly Viewer2 มาแปลงเป็น jpg แล้วเทียบกันสีสรรต่างกันมากเลยครับ Oly Viewer2 สวยกว่าเยอะมาก สีสดกว่า Contrast ดีกว่า ตอนนี้เลยแปลง RAW กับ Oly Viewer2 ตลอด ตั่งแต่นั้นมาก็เลิกเร่ง Sat แล้ว ภาพเปรียบเทียบ ซ้าย Adobe Camera Raw ขวา  Oly Viewer2 ต้นฉบับแตกต่างชัดเจนมากเลย แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 53 22:14:52 จากคุณ : ovanpanda เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 22:11:59

ความคิดเห็นที่ 16 ความรู้ดีครับ ผมชอบกินจืดครับ แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 53 22:29:53 จากคุณ : LIVE 4 LIVE เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 22:22:32

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณสำหรับความรู้ดีดีคร๊าบบบ น้านิค จากคุณ : Think Optimistically ! เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 22:25:26

ความคิดเห็นที่ 18 ข้อแตกต่างอีกอย่างระหว่าง Adobe Camera Raw ขวา  Oly Viewer 2 คือการจัดการ Noise ครับ ACR เหมือนไม่ได้เกลี่ย Noise ให้เลย จากคุณ : Dont Be Serious เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 22:29:07

ความคิดเห็นที่ 19 ส่วนมากผมก็จะอัดคอนทราสครับเพื่อให้สีมันดูเข้มขึ้น แต่ถ้าเร่งสีแล้วเอารูปไปอัดมานี่ ภาพมันฟ้องเลย เละจนดูแทบไม่ได้ จากคุณ : PONDX เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 22:29:39

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ อย่างนี้ต้อง save เก็บไว้ จากคุณ : Chandaiam เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 22:41:23

ความคิดเห็นที่ 21 จะลองดูครับน้า ตอนนี้ CS4 หวัดลงคอ  ใครมียาแก้ไอบ้าง โค้ก ยากันยุง ใบกระท่อม มีแล้ว จากคุณ : เสือต้าน เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 23:24:58

ความคิดเห็นที่ 22 ขออนุญาต นะครับ ผมเอา คห 3    มา ทำ สี ด้วยคำสั่งเดียว    ซ้ำกัน 4 ครั้ง  ได้แบบนี้ ผมว่าตรงส่วนสีเหลืองมันมีดีเทลมากกว่านะครับ...   แหะๆ อาจจะไม่สวยที่สุด  แต่ผมชอบแบบนี้นะ ง่ายดี... จากคุณ : Photio เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 23:37:57

ความคิดเห็นที่ 23 แต่จริง ๆ ชอบแบบนี้อ่ะครับ contrast นิด ๆ ด้วย curve :) ดูจอนี้พอดี   แต่จออื่นไม่รู้   555+ จอผมเพี้ยนครับ ^^" จากคุณ : Photio เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 23:48:06

ความคิดเห็นที่ 24 ยังไม่ค่อยเข้าใจนิดหน่อยครับ สมมุติถ้าสีแดงเอาสี Cyan ออกเพื่อให้สีสดใสขึ้น จะไม่ทำให้เสียค่า คอนทราสของสีแดงเหรอครับ เพราะสี Cyan จะมาช่วยเบรคสีไม่ให้แดงมันดีดขึ้นจนเกินพอดี หรือว่ามันไม่มีผลกับภาพรวมของน้ำหนักสีจริงๆ *เป็นกระทู้ที่ดีมากจริงๆ ผมเห็นด้วยทุกประการกับพี่นิคครับ การเร่งสีบางทีก็ทำให้ภาพเสียมากกว่าดีครับ จากคุณ : ahced เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 00:44:30

ความคิดเห็นที่ 25 เรื่องสีสดๆคอนทราสจัดๆนี่ ผมว่ามาจากแนวทางของเวบถ่ายรูปเวบหนึ่ง ซึ่งจะเห็นไฟล์ภาพแนวๆนี้แต่รุ่นใหญ่เค้าปรับพอดีไม่ได้โอเวอร์มาก แต่พวกเด็กหรือที่มาใหม่ ทำตามบ้าง แต่ว่า อัดมาเต็มๆ เรื่องปรับไล่สีที่ Selective Color เป็นความรู้ใหม่ ขอบคุณครับ จากคุณ : อั้งเสาะ เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 00:49:33

ความคิดเห็นที่ 26 อยากพูดอย่างคุณอะธีลาสเหมือนกัน แต่ความรู้ด้านกล้องและแต่งภาพยังด้อย เร่งศึกษา -*- แล้วก็ไม่กล้าพูดด้วย เดี๋ยวโดนยำ หัวข้อนี้ไปโพสต์นอกห้องโอลี่ไม่ได้จริงๆล่ะครับ ^ ^" ไหนๆก็โพสต์ในห้องนี้แล้ว เลยอยากบอกว่า ... 1. เบื่อกระทู้ Nikon เร่งสีหาอาม่า แล้วบอกว่า "เชิญชมสีสดๆของ Nikon" ส่วนตัวผม เท่าที่มอง กล้อง Nikon รุ่นหลังๆสีไม่เกินจริงแล้วนะครับ ทำออกมาเข้มๆกำลังดีทีเดียว แต่คนยังชอบเอาภาพของ Nikon ไปเร่งจนเลอะเทอะ แล้วก็บอกว่าสีสด ... แล้วคนเข้ากระทู้ก็อวยว่า "สดสุดยอด!!" -*- 2. เบื่อกระทู้ Canon เร่งสีหาอาแปะ แล้วบอกว่า "หนอนก็สดได้ ไม่แพ้นิค" ... นี่ก็เหมือนกัน สี Canon เดิมๆก็ดีมีเอกลักษณ์อยู่แล้ว ... แข่งดีแข่งเด่นไม่แข่ง ไปแข่งเรื่องไม่ดีกับนิคซะงั้น -*- ... เกิดมาสวยหล่ออยู่แล้ว โลภมากอยากทำศัลยกรรม กลายเป็นหน้าเละเลย ว่าแต่จะมีคนห้องอื่นเค้ามาอ่านไหมเนี่ย 555+ ปล. ดันชอบภาพคห.2 มากที่สุดอ่า~~ ^ ^" (สรุปจากกล้องลุ่นๆเวิร์คสุดสำหรับผมสินะ -*-) จากคุณ : TalkyWalky เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 02:00:11

ความคิดเห็นที่ 27 อิอิ  น้านิคอธิบายเีสียเห็นภาพเลย  เพราะก็เห็นว่ามีกระทู้ฟ้าเหลืองมาให้ดูเกือบทุกวัน 555+ ท้องฟ้าธรรมดา ก็โออยู่แล้ว  แต่พอไปเร่งสีสิ่งก่อสร้างในภาพวิวกันเยอะ ... ท้องฟ้าในภาพที่โดนเร่ง ภาพก็ดัน ไม่ขุด Blue เดิม ๆ ออกมาเท่าไหร่   แต่ดันไปขุด undertone เหลือง  , undertone แดง  ออกมาเยอะด้วย (ขออนุญาตใช้ศัพท์ทาง "อุตสาหกรรมสี" เพราะไม่ค่อยรู้จักภาษา digital พวก RGB)   แล้วก็มานั่งภูมิใจกัน  กับ "ฟ้าเหลือง" ๆ  กัน ที่พิมพ์มาเนี่ย ถ้าเป็นห้องรวม ผมไม่กล้าโพสต์นะเนี่ย... กลัวโดนรุม teen จากคุณ : mixz เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 04:22:39

ความคิดเห็นที่ 28 เวลาปรับสีวิธีนี้ ถ้าทำ Channel เดียว สีมันจะเสียสมดุลย์ครับ แต่เราทำทุกแชแนล มันจะหักล้างกันไป เช่นแชแนล R ที่ไม่ถูกเบรกด้วย C จะถูกบาล้านซ์ด้วยแชแนล C ที่ไม่ถูกเบรกด้วย M+Y (ที่มีค่าเท่ากับ R) ซึ่งเป็นคู่ตรงข้ามกันในวงจรสี เรื่องนี้อยู่ในทฤษฎีสีครับ ถ้าแม่นวงจรสี จะนึกตามได้ง่าย มีข้อที่ต้องคำนึงในการปรับอยู่นะครับว่าจะปรับไปทิศทางไหน ไปไกลมากน้อยแค่ไหน ไม่เฉพาะเรื่องสี แต่อีกหลายเรื่องในการแต่งภาพ ปรับตามใจชอบ อาจจะเป็นวิธีที่ผิดก็ได้ ถ้าเทียบกับภาพดีๆ ได้มาตรฐานทางศิลปะ ภาพที่ดีในวันนี้ อีกหลายปีในวันหน้า ก็ยังเป็นภาพที่ดีอยู่ ภาพที่ชอบในวันนี้ วันพรุ่งนี้เราอาจจะไม่ชอบแล้วก็ได้ แต่ถ้าเรายังไม่เคยเห็นภาพดีๆ ก็ย่อมจะไม่รู้ว่าปรับไปทางไหนถึงจะดี ต้องดูภาพเยอะๆ ครับ ไม่มีทางแก้อื่น จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 05:39:23

ความคิดเห็นที่ 29 วิธีคลีนอัพแบบนี้ จะกำจัด Undertone ออกได้เยอะครับ เลยเป็นข้อดีหนึ่ง เวลาปกติจะเห็นเป็นเงาสีหม่นๆ ปนอยู่ในภาพ พอเร่งสีขึ้น สีที่ซ่อนอยู่ก็จะแสดงตัวออกมา ในภาพที่สีค่อนข้างคลีนอยู่แล้วที่ผมยกมา ถ้าเร่งสีปกติจะไม่ค่อยเห็นครับ อย่างมากสีชะชิฟท์ ทำให้สีส้มกลายเป็นแดง สีฟ้าครามกลายเป็นน้ำเงิน ในส่วนสีเหลืองจะมีดีเทลที่เป็นเงาอยู่ เงานั้นเกิดจากแชแนลสีน้ำเงินที่ปนอยู่ในพื้นที่สีเหลือง ยิ่งเป็นภาพที่ G กับ Y เยอะๆ อย่างภาพนี้ สีหลักจะยิ่งเด่นมากขึ้นไปอีก การคลีนอัพจะทำให้เงานี้หายไป จึงต้องมีการ Mask เพื่อแก้ปัญหานี้ แต่เวลาเพิ่ม sat ปกติ สีน้ำเงินตรงนี้จะไม่ถูกกำจัดไป แต่จะถูกเร่งให้เด่นขึ้นมาแทน ภาพที่เพิ่ม sat แบบธรรมดาจึงมีดีเทลในสีเหลืองมากกว่า แต่สีอื่นจะชิฟท์เสียสมดุลย์ ซึ่งการแก้ดีเทลสีเหลือง ง่ายกว่าแก้สีที่ชิฟท์ครับ เพราะต้องเข้าไปแก้ด้วย Channel Mixer ทุกแชแนล เพื่อเรียกสมดุลย์สีเดิมคืนมา จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 06:01:07

ความคิดเห็นที่ 30 ความรู้ล้วนๆ ขอบคุณมากมายค่า จากคุณ : ป้าดา (aoomsinc) เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 06:13:06

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณมากครับ รอโพสตั้งแต่เมื่อคืนแต่เผลอหลับไปก่อน - -" จากคุณ : นมช็อคโกแล็ต เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 07:01:23

ความคิดเห็นที่ 32 แหร่มครับน้า จากคุณ : CurrentlyOly เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 08:05:17

ความคิดเห็นที่ 33 น้านิคครับ ขอนอกเรื่องมาเรื่อง undertone นิดนะครับ สำหรับผม undertone ที่มีค่าที่สุด คือ undertone น้ำเงินครับ ผงสีขาว หรือ ผงสีดำ เป็นผงสีที่มีการใช้มากที่สุด และทำให้มันจะไปปรากฎในภาพมากที่สุดด้วย เวลาทำสีแล้ว ...มันดำหรือขาว ไม่ต่างกันเลย แต่ตัวผลักดันให้มันโดดเด่นกว่าตัวอื่นคือ  undertone Blue เพราะมันทำให้เรารู้สึกว่า มันขาวกว่า  หรือ ดำเงากว่า... เป็นต้น   พวกนี้จะเห็นชัดในสีรถยนต์หรือสีพลาสติก(บนมือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า)ที่จะเน้นมาก ๆ ผมเลยสงสัยว่า  ในการแต่งภาพ(ที่ผมไม่รู้เรื่องเลย) ให้ความสำคัญกับ undertone blue แค่ไหนครับ จากคุณ : mixz เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 08:36:23

ความคิดเห็นที่ 34 เผื่อไม่ค่อยคุ้นกับ Color Wheel เอามาแปะหน่อย วงจรสีแบบพื้นฐานจะมีสามสีหลัก (ปฐมพรรณ, Primary Color) R, G, B สีผสมลำดับที่ 1 (ทุติยพรรณ, Secondary Color) 3 สี ที่เกิดจากการเอาสีหลักมาผสมกัน จะวางอยู่ระหว่างสีหลักคือ C, Y, M และสีผสมลำดับที่ 2 (ตติยพรรณ, Tertiary Color) อีก 6 สีเกิดจากเอาสีหลัก ผสมกับสีรองลำดับที่ 1 วางอยู่ระหว่างสีรอง และสีหลัก จากวงจรสีนี้ สีอะไรผสมกันได้สีอะไร พิจารณาแยกเป็นสองโหมดครับ ในโหมด additive หรือ RGB เราพิจารณาการรวมคลื่นแสงเข้าด้วยกัน สีฝั่งตรงข้ามในวงจร เช่นเอาคลื่นแสงสีเขียว ผสมแสงสีมาเจนต้า ก็จะได้คลื่นแสงครบทุกช่วง เห็นเป็นสีขาว สีฝั่งเดียวกันจะเสริมความเข้มกับสีในช่วงคลื่นใกล้เคียง เช่นผสมแสงสีเหลืองกับมาเจนต้า จะทำให้เห็นเป็นสีแดง ในโหมด subtractive หรือ CYM จะดูที่การดูดแสงของพิกเม้นท์ในหมึกพิมพ์ ไซอัน เกิดจากหมึกพิมพ์ดูดคลื่นแสงสีแดงไป ถ้าผสมกับ มาเจนต้า ที่เกิดจากพิกเม้นต์ดูดแสงสีเขียวไป รวมกันจะทำให้แสงสีเขียว กับแดงหายไป เหลือคลื่นแสงสีน้ำเงิน จึงเห็นหมึกสองสีนี้ผสมกันได้สีน้ำเงิน ถ้าเอาสีเหลือง (ที่เกิดจากพิกเม้นท์ที่ดูดสีน้ำเงิน) มาเติมเข้าไปอีก จะทำให้คลื่นแสงสีน้ำเงินหายไปด้วย จึงได้สารผสมเป็นสีดำ ในโฟโต้ชอป มันใช้กันวุ่นวายมาก บาง Tools ใช้โหมด additive อย่างการปรับเคิร์ฟ บางอันเป็น subtractive เช่น Selective Color บางอันเช่น Channel Mixer ใช้ผสมกันทั้งวงจรสีสองโหมดพร้อมๆ กันเลย แต่พื้นฐานเครื่องมือปรับสีทั้งหมดของโฟโต้ชอปจะอยู่ใน Color Wheel นี่แหละ ไม่ไปไหนหรอก การใช้โฟโต้ชอป และการถ่ายภาพ จึงไม่มีทางเลี่ยงที่จะต้องทำความคุ้นเคยกับวงจรสีให้ได้ แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 53 09:30:22 จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 09:11:16

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณครับน้านิคสำหรับกระทู้ดีดี^__^ จากคุณ : kortan เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 09:17:17

ความคิดเห็นที่ 36 Blue ในภาพถ่าย ส่วนมากแล้วจะเป็นที่อยู่ของ Shadow Detail ครับ ผมไม่แน่ใจว่าจะมีพฤติกรรมเหมือนกันหรือเปล่า ระหว่างพิกเม้นต์ กับค่าแสงของภาพ จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 09:27:45

ความคิดเห็นที่ 37 อืมม  ....  มันเป็นเช่้นนี้เอง  การปรับสี   Selective Color  ผมก็เลื่อนไปเลื่อนมาแบบ งงๆ มาตั้งนาน  ขอบคุณพี่นิคครับ จากคุณ : AODAOD29 เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 09:51:23

ความคิดเห็นที่ 38 ชอบใช้ selective color เหมือนกัน ปรับสีดีๆ ทำให้ภาพชัดเจนขึ้นได้ด้วย บางทีไม่ต้องอาศัย sharpen เลยค่ะ  อาจดูไม่ค่อยเกี่ยวกัน แต่มันทำได้จริงๆน้า  สงสัยเพราะภาพมันเคลียร์ขึ้นนั่นเอง สมัยก่อน ใช้แต่ level และ Sat ตอนหลังนี้เริ่มเน้นแต่ selective color จากคุณ : Sonia Project เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 10:48:15

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณครับน้านิค :) โลกที่น่าอยู่... สังคมที่ดี...   ไม่มีขาย อยากได้...   ต้องช่วยกันสร้าง โดยเริ่มจาก...   ตัวเราเอง...   เดี๋ยวนี้... จากคุณ : Phoenixนิลมังกร เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 10:57:15

ความคิดเห็นที่ 40 สุดยอดมากมายครับ เห็นขั้นตอนเข้าใจถึงการใช้ Selective Color ได้ดีขึ้นครับ โดยเฉพาะน้าแนะมาให้เข้ากับโอลี่แล้วด้วย ชอบมากๆครับ จากคุณ : tump เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 11:07:39

ความคิดเห็นที่ 41 เห็นใน lightroom รูสึกจะมีตัวเร่งสีที่ไม่ใช่ Saturation รูสึกว่าจะเป็น Vibrance จะดูเป็นธรรมชาติมากกว่าอ่ะครับ จากคุณ : อีกาตัวดำๆ เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 12:49:36

ความคิดเห็นที่ 42 วิธีปรับแบบนี้ น่าจะเหมาะกับภาพพอเทรตน่ะครับ เพราะบางทีถ่ายมาแล้วสีหม่นๆ ไม่สดใส ใช้วิธีนี้ ไม่ต้องห่วงเรื่องจะเสียดีเทลบางส่วนไปด้วย ^^" แบบของน้าโฟก็แจ่มนะ เหมือนจะง่ายดี เวลาอยากได้สีสดๆ ทำไงอ่ะครับ ^^ จากคุณ : eMiLe เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 14:06:12

ความคิดเห็นที่ 43 เก็บๆๆ ขอบคุณคร๊าบ จากคุณ : อาร์ท รอนแรม เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 14:35:47

ความคิดเห็นที่ 44 ทุกรูปปรับเหมือนกันหมดเลยมั้ยครับ อย่างพวกรูป portrait  แล้วปกติผมใช้ OST2 แปลง raw แล้วค่อยมาแก้ต่อใน photoshop หรือว่าเอา raw มาแก้ได้เลย แล้วทำเป็น action เก็บไว้ใช้ได้มั้ยครับ ใช้วิธีไหนจะสวยกว่าครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : dex_pee_nalak เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 18:16:32

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณครับ ผมชอบจืด ไม่ชอบจัดจ้านเหมือนกัน เพื่อนหลายคนใช้หนอน ก็ปรับซะจัดเหมือนกันแต่ก็ได้แต่ดู เค้าคงชอบแบบนั้น จากคุณ : navinto เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 21:16:29

ความคิดเห็นที่ 46 คงไม่เหมือนกันล่ะครับ น้านิค สงสัยมันคงคนละโลกจริง ๆ  ระหว่าง LAB กับ RGB จากคุณ : mixz เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 23:14:12

ความคิดเห็นที่ 47 เข้ามาเก็บความรู้ ขอบคุณมาก ๆ ครับ จากคุณ : เพียงแค่ดินโคลน เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 53 00:01:52

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณครับ จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 53 11:46:05

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณครับ ทีนี้ก็รู้เรื่อง Selective Color กะเค้าซักที จากคุณ : ปะเลอะปะเต๋อ เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 13:28:41

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ แต่คงไปโพส ห้องรวมไม่ได้จริงๆนั่นแหละ ไม่รู้จะแจ๊ดเว่อร์ ไปถึงไหนกัน จากคุณ : ต้านชิง เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 53 02:04:29

ความคิดเห็นที่ 51 ผมมีกล้อง 4 ตัว มี D90 7D  E-1  E-420 D90 สีมันแรงจริงๆครับ คนที่เล่นนิคก็มีบางคนที่ปรับ แต่โดยมากไม่ได้ปรับหรอกครับ สีมันเป็นอย่างงั้นจริงๆ ไม่ต้องแต่งสีอะไรเลย 7D สีมันไม่เข้มเท่า nik แต่มันจะสีสดสว่างกว่า Oly ไม่ต้องแต่งสีอะไรเลย E-1 E-420 สีมันจะออกหม่นๆ อย่างที่น้า อะธีลาส เอามาลงครับ ตัว Oly ต้องได้แต่งเพิ่ม มันออกหม่น ผมลองมากับตัวเองได้คำตอบประมาณนี้แหล่ะครับ ผมตอบตามความรู้สึกที่เล่น  3 ยี่ห้อนี้ จากคุณ : santhan เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 53 23:57:28

ความคิดเห็นที่ 52 ที่ว่า ในส่วนสีเหลือง detail หายไป ควรจะใช้ mask นี่.... ทำไงอ่ะครับ จากคุณ : proofman เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 53 15:52:52

ความคิดเห็นที่ 53 ลองค้นๆ ดูวิธีการใช้ Layer Mask ครับ มันเป็น Tools พื้นฐานที่จำเป็นต้องใช้เวลาแต่งภาพ ตรงที่ต้องการให้การปรับ มีผล เอาสีขาวป้าย ตรงไหนต้องการบังไม่ให้ปรับ ก็เอาสีดำป้ายมาสก์ อย่างภาพนี้ผมก็ควรจะเอาสีดำป้ายบนมาสก์ เพื่อบังส่วนสีเหลืองเอาไว้ไม่ให้การ Clean Up มีผล จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 53 23:33:50