ความคิดเห็นที่ 1 คำถาม : "ทำไมต้องมีการชดเชยแสงด้วย?" ตอบ : เพราะในบางสถานการณ์กล้องมันไม่สามารถบันทึกภาพให้เหมือน หรือใกล้เคียงกับที่ตาเรามองเห็นได้ แม้ว่าเราก็วัดแสงแล้วก็ตาม รูปที่ได้มานั้นอาจมืดหรือสว่างไป เลยต้องปรับแก้ด้วยการ "ชดเชยแสง" เช่นในสถานกาณ์แบบนี้ ซึ่งคนเล่นกล้องทุกคนต้องเคยเจอมาแน่ๆ เมื่อดูภาพหลังจากถ่าย แล้วเกิดคำถามว่า "ทำไมสีมันไม่ดำเหมือนของจริง" หรือ "ทำไมสีมันไม่ขาวเหมือนของจริง" ทั้งที่เราก็วัดแสงให้มันพอดีแล้ว... อย่างรูปนี้ วัดแสงพอดีที่กล้องแล้ว แต่รูปที่ได้ ตัวกล้องกลับไม่ดำเหมือนของจริง กลับดูเหมือนกล้องมีสี "ดำอมเทา" ซึ่งของจริงมันต้องดำกว่านี้ จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:06:28

ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อเราเห็นผลลัพธ์ดังนั้นเราก็ "ชดเชยแสงไปฝั่งลบ" เพื่อให้ได้รูปที่ใกล้เคียงกับกับของจริงมากที่สุด วิธีการชดเชยทำอย่างไร เดี๋ยวค่อยว่ากันครับ ใจเย็นๆ ไปทีละสเต็ป มาถึงตรงนี้ ออกตัวไว้ก่อนเลยว่า ผมก็ไม่ได้เก่งถึงกับขนาดที่เห็นรูป ก็รู้เลยว่า "มันต้องชดเชยไปทางนั้น ด้วยค่าเท่านี้" มีในบางกรณีเท่านั้นที่รู้ว่าต้องชดเชยแน่ แต่ชดเชยเท่าไหร่นั้น ส่วนมากก็ต้องลองครับ ลองไปเรื่อยๆ แล้วประสบการณ์มันจะสอนเอง ว่าในกรณีไหนควรชดเชยเท่าไหร่ หรือเรียกง่ายๆ ว่า "เดาได้แม่นยำขึ้น" เท่านั้นเอง เช่น ตอนเล่นกล้องใหม่ๆ นั้น อย่าว่าแต่เดาเรื่องชดเชยเท่าไหร่เลย แค่เดาว่าชดเชยไปฝั่งบวกหรือลบ "ก็งงแล้ว" เล่นไปซักพักจะเริ่มจับทางได้เองครับว่า "ต้องชดเชยไปฝั่งไหน" และเมื่อมีประสบการณ์มากขึ้นอีก ก็จะสามารถเดาได้แม่นยำขึ้นว่า "น่าจะชดเชยซักเท่าไหร่" บางทีเดาครั้งเดียวถูกเลย บางครั้งก็ Error นิดหน่อย ชดเชยเพิ่มไปทีสองทีก็เอาอยู่ "หลังจากวัดและชดเชยแสงเป็นแล้ว" สิ่งเดียวที่จะแต่ต่างระหว่างมือใหม่กับมือเก่าก็คือ "เวลาในการถ่ายรูปนั้นๆ" มือเก่าประสบการณ์สูงอาจเลือกจุดวัดแสงได้แม่นยำกว่า หรือถ้าต้องชดเชยแสง ก็ชดเชยไม่มาก มือใหม่อาจเลือกจุดวัดแสงไม่แม่น ต้องชดเชยแล้วถ่ายใหม่ บางครั้งต้องชดเชยถึง 2-3 ครั้งว่าจะได้รูปอย่างมือเก่า แต่ถ้าเราเข้าใจหลักการของมัน "เราได้รูปเหมือนมือเก่าแน่นอน" อาจใช้เวลามากกว่าไปซัก 1 นาที ซึ่งผมก็ถือว่าไม่เสียหายอะไร ปล. อย่าเพิ่งมองเรื่องช๊อตเด็ดที่เราอาจพลาดโอกาสนะครับ ให้มองภาพรวมก่อน เดี๋ยวขาโจ๋จะหยิบยกเอามาถกกันอีก ผมตามอธิบายทุกเรื่องไม่ไหว... จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:08:08

ความคิดเห็นที่ 3 คนที่เล่นกล้องทุกคนต้องเคยได้ยินคำว่า "Stop" แน่นอน Stop คือหน่วยวัดของกล้องที่ใช้ในการเพิ่มหรือลดค่าต่างๆ ของกล้อง ครั้งละ 1 เท่าตัว เช่น "เพิ่ม Shutter Speed ขึ้น 1 Stop" หมายถึง "เพิ่ม Shutter Speed ขึ้น 1 เท่าตัว" ทีนี้เราลองมาดูตัวอย่างคร่าวๆ กันบ้าง สมมติว่าผมตั้ง Shutter Speed อยู่ที่ 1/10Sec หากเพิ่ม Shutter Speed ขึ้นครั้งละ 1 Stop เป็นจำนวน 3 ครั้ง จะได้ Shutter Speed ที่เท่าไหร่ - ตั้งต้นที่ 1/10Sec, Stop แรก Shutter Speed ก็ไปอยู่ที่ 1/20Sec ----> เพิ่มขึ้น 1 Stop - ตั้งต้นที่ 1/20Sec, Stop ที่สอง Shutter Speed ก็ไปอยู่ที่ 1/40Sec ----> เพิ่มขึ้น 2 Stop - ตั้งต้นที่ 1/40Sec, Stop ที่สาม Shutter Speed ก็ไปอยู่ที่ 1/80Sec ----> เพิ่มขึ้น 3 Stop หลังจากเพิ่ม Shutter Speed ขึ้น 3 Stop ก็จะได้ Shutter Speed ที่ 1/80Sec นั่นเอง แต่ๆ... การเพิ่มขึ้นครั้งละ 1 Stop นั้น ช่วงมันกว้างมาก ใน 1 Stop จึงแบ่งออกเป็น 3 ช่วงอีกที นั่นหมายความว่า "ซอย 1 Stop" ออกเป็น 3 ช่วง จะได้ช่วงล่ะ "0.333 Stop" ช่วงที่ 1 มีค่า 0.333 หรือประมาณ 0.3 Stop ช่วงที่ 2 มีค่า 0.666 หรือประมาณ 0.7 Stop ช่วงที่ 3 มีค่า 0.999 หรือประมาณ 1.0 Stop สำหรับมือใหม่ คุ้นๆ ตัวเลขพวกนี้บ้างไหมครับ คงจะเคยเห็นกันบ้างหละนะ ตัวเลข 0.3, 0.7, 1.0 Stop นี้ เป็นค่าที่ใช้ในการชดเชยระบบต่างๆ ของกล้อง ไม่ว่าจะเป็น "การเพิ่ม/ลด ขนาดรูรับแสง, Shutter Speed และ ISO" เป็นต้น ปล. คำว่า Stop มักจะใช้เป็นหน่วยของ รูรับแสง, Shutter Speed กับ ISO ส่วน EV เป็นหน่วยของการชดเชยแสง แต่ตากล้องส่วนมากมักจะเรียกรวมๆ เป็น "Stop" ทั้งหมด ก็ไม่เป็นไรครับ เรื่องแบบนี้ไม่ต้องไปใส่ใจมาก แค่รู้ว่ามันหมายถึงอะไรก็พอ อย่าไปบ้าจี้ ตามพวก "บ้าทฤษฎี" อะไรๆ ก็ไม่ได้ "ดูที่เนื้องานกันดีกว่าครับ" จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:09:10

ความคิดเห็นที่ 4 ต่อจากข้างบน มาดูตัวอย่างกันอีกที เอาให้เคลียร์ อย่ามองข้ามนะครับ!! สมมติว่าเราตั้ง Shutter Speed ไว้ที่ 1/10Sec (ดูรูปด้านบนประกอบ) แล้ว... ชดเชยแสง -0.3 EV ---> Shutter Speed ใหม่ที่ได้คือ 1/13Sec ชดเชยแสง -0.7 EV ---> Shutter Speed ใหม่ที่ได้คือ 1/15Sec ชดเชยแสง -1.0 EV ---> Shutter Speed ใหม่ที่ได้คือ 1/20Sec ปล. ชดเชยไปฝั่งลบ Shutter Speed ก็ต้อง "เร็วขึ้น" ชดเชยไปฝั่งบวก Shutter Speed ก็ต้อง "ช้าลง" อย่าสับสนน่ะครับ ดูอีกตัวอย่างน่ะครับ(ตาราง S) หาก... เพิ่ม Shutter Speed ขึ้น 1 Stop ของ 1/10Sec  ---> Shutter Speed ใหม่ที่ได้คือ 1/20Sec เพิ่ม Shutter Speed ขึ้น 2 Stop ของ 1/25Sec  ---> Shutter Speed ใหม่ที่ได้คือ 1/100Sec ลด Shutter Speed ลง 1 Stop ของ 1/320Sec  ---> Shutter Speed ใหม่ที่ได้คือ 1/160Sec มาถึงคำถาม หากเพิ่ม Shutter Speed จาก 1/10Sec ขึ้นไปถึง 1/320Sec จะวัดได้กี่ Stop? จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:09:52

ความคิดเห็นที่ 5 ทีนี้มาดูการเพิ่ม/ลด ขนาดรูรับแสงกันบ้าง 1 Stop ของรูรับแสงนั้น หมายถึง "พื้นที่วงกลมที่เพิ่มขึ้น/ลดลง 1 เท่าตัว" แต่ตัวเลขของรูรับแสงที่เราเห็นนั้น "เป็นรัศมีของวงกลม" ครับ ฉะนั้น!! ตัวเลขของรูรับแสง "จะไม่เพิ่มขึ้น/ลดลง ครั้งล่ะเท่าตัวเหมือน Speed Shutter กับ ISO" น่ะครับ ปล. จริงๆ ผมเขียนวิธีคำนวณ "การหาค่ารูรับแสง" ไว้แล้ว แต่ไม่โพสต์ดีกว่า เพราะดูท่าจะปวดหัว แต่ถ้ามีใครออยากรู้ ก็โพสต์ไว้นะครับ เดี๋ยวจะ Copy มาวางไว้ให้ แต่บอกก่อนว่า ไม่ค่อยมีประโยชน์อะไรหรอก... มาดูตัวอย่างกันดีกว่า(ดูรูปจากตาราง F ด้านบน) สมมติว่าผมตั้งรูรับแสงไว้ที่ F3.5 แล้ว... ลดขนาดรูรับแสงลง 0.3 Stop ---> ค่าใหม่ที่ได้ก็จะเป็น F4 ลดขนาดรูรับแสงลง 0.7 Stop ---> ค่าใหม่ที่ได้ก็จะเป็น F4.5 ลดขนาดรูรับแสงลง 1.0 Stop ---> ค่าใหม่ที่ได้ก็จะเป็น F5 ปล. 1 Stop ของรูรับแสงนั้น ก็แบ่งออกเป็น 3 ช่วงเช่นกัน จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:10:26

ความคิดเห็นที่ 6 โดยปกติแล้ว "1 Stop จะแบ่งออกเป็น 3 ช่วง" แต่กล้องบางรุ่นมันสามารถเซ็ตให้เป็น 2 ช่วงก็ได้ แต่แนะนำว่าตั้งเป็น "3 ช่วง" น่าจะใช้งานได้ดีที่สุดครับ หากเขียนเป็นช่วงให้เห็นชัดๆ ก็สามารถเขียนได้เป็นแบบนี้ครับ ..., -2.0, -1.7, -1.3, -1.0, -0.7, -0.3, 0.0, 0.3, 0.7, 1.0, 1.3, 1.7, 2.0, ... สมมติให้เห็นกันอีกที(ดูตารางด้านบนในการเปรียบเทียบ) ถ้าเราตั้งรูรับแสงไว้ที่ F9 แล้ว... ลดขนาดรูรับแสงลง 0.3 Stop ---> ค่าใหม่ที่ได้ก็จะเป็น F10 ลดขนาดรูรับแสงลง 0.7 Stop ---> ค่าใหม่ที่ได้ก็จะเป็น F11 ลดขนาดรูรับแสงลง 1.0 Stop ---> ค่าใหม่ที่ได้ก็จะเป็น F13 ในทางกลับกัน (ตั้งรูรับแสงไว้ที่ 9 เหมือนเดิม) แล้ว... เพิ่มขนาดรูรับแสงขึ้น 0.3 Stop ---> ค่าใหม่ที่ได้ก็จะเป็น F8 เพิ่มขนาดรูรับแสงขึ้น 0.7 Stop ---> ค่าใหม่ที่ได้ก็จะเป็น F7.1 เพิ่มขนาดรูรับแสงขึ้น 1.0 Stop ---> ค่าใหม่ที่ได้ก็จะเป็น F6.3 มาถึงตรงนี้คงพอจะเข้าใจเรื่อง "Stop" กันพอสมควรแล้วน่ะครับ จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:10:50

ความคิดเห็นที่ 7 มาดูวิธีการชดเชยแสงกันบ้าง ในกรณีที่ใช้โหมด A กับ S หลังจากล็อคค่าแสงแล้วก็ 1. กดปุ่มชดเชยแสง(ปุ่มที่มีเครื่องหมาย +/-) ค้างไว้ 2. หมุนวงแหวนเพื่อเลือกค่าการชดเชยแสง แต่ชดไปทางไหน เท่าไหร่นั้น ต้องดูเอาเองครับ ไม่มีใครสามารถบอกได้ ส่วนโหมด M "ชดเชยด้วยปุ่มชดเชยแสงไม่ได้นะ" ต้องชดเชยด้วยการปรับ "รูรับแสงกับ Shutter Speed" ครับ ปล1. โหมดอื่นๆ ผมไม่พูดถึงนะ เอาโหมดหลัก 3 โหมดนี่ก็พอ ปล2. รูปนี้ของค่าย Nikon นะครับ ส่วนค่ายอื่นๆ ก็ดูเอาจากคู่มือเลย จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:11:37

ความคิดเห็นที่ 8 มาดูตัวอย่างการชดเชยแสงกันบ้างดีกว่า เช่น สมมติว่า ผมใช้โหมด A ตั้งค่ารูรับแสงไว้ที่ 3.5 ถ่ายวิวรูปนึง หลังจากวัดและล็อคค่าแสงแล้วกล้องมันเลือก Shutter Speed ให้ที่ 1/100Sec แต่ปรากฏว่ารูปมืดไป(Under) ก็แก้ด้วยการชดเชยแสงเพิ่มขึ้น - ชดเชยแสงครั้งแรก +0.3 Stop กล้องมันก็จะไปเปลี่ยน Shutter Speed เป็น 1/80Sec ---> หากรูปยังสว่างไม่พอก็ - ชดเชยแสงครั้งที่สอง +0.7 Stop กล้องมันก็จะไปเปลี่ยน Shutter Speed เป็น 1/60Sec ---> หากรูปยังสว่างไม่พอก็ - ชดเชยแสงครั้งที่สาม +1.0 Stop กล้องมันก็จะไปเปลี่ยน Shutter Speed เป็น 1/50Sec ---> (สมมติว่า แสงพอดีแล้ว) ในทางกลับกัน หากผมใช้โหมด S ตั้ง Shutter Speed ไว้ที่ 1/50Sec ถ่ายวิวรูปนึง หลังจากวัดและล็อคค่าแสงแล้วกล้องมันเลือก ขนาดรูรับแสงให้ที่ F6.3 แต่ปรากฏว่ารูปสว่างไป(Over) ก็แก้ด้วยการชดเชยแสงลดลง - ชดเชยแสงครั้งแรก -0.3 Stop กล้องมันก็จะไปเปลี่ยน ขนาดรูรับแสงเป็น F7.1 ---> หากรูปยังสว่างเกินไปก็ - ชดเชยแสงครั้งที่สอง -0.7 Stop กล้องมันก็จะไปเปลี่ยน ขนาดรูรับแสงเป็น F8 ---> หากรูปยังสว่างเกินไปก็ - ชดเชยแสงครั้งที่สาม -1.0 Stop กล้องมันก็จะไปเปลี่ยน ขนาดรูรับแสงเป็น F9 --->(สมมติว่า แสงพอดีแล้ว) ปล. จริงๆ แล้วเมื่อถ่ายเล่นไปซักระยะหนึ่ง ก็จะสามารถประเมินได้ว่ารูปนั้นๆ ควรชดเชยเท่าไหร่ ไม่จำเป็นต้องชดเชยครั้งล่ะ 0.3 เหมือนอย่างที่ผมเขียนไว้น่ะครับ ผมแค่เขียนให้เห็นภาพชัดๆ เท่านั้นเอง ไม่งั้นชดเชยกันตาย!! จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:12:11

ความคิดเห็นที่ 9 ตามตัวอย่างนี้ ผมวัดแสงให้พอดีที่รูปหมายเลข 5(ตรงกลาง) และชดเชยแสงครั้งละ 0.3EV จนถึง 1.3EV ทั้งฝั่งบวกและลบ แล้วเอารูปมาเรียงต่อกัน เพื่อให้เห็นภาพการไล่ระดับความสว่างของภาพ ทีนี้ ในขณะที่เราถ่ายรูปจริงนั้น สมมติว่ารูปอันเดอร์มาก ถ้าเทียบความมืดแล้วก็น่าจะพอๆ กับรูปหมายเลข 1 ก็ชดเชยแสงไปทางด้าน "บวก" แต่จะเพิ่มครั้งล่ะ 0.3EV ก็ดูจะช้าไปสำหรับรูปที่มืดมาก การชดเชยครั้งแรก อาจชดเชยไป "+1.0EV" เลย แล้วดูผลลัพธ์ว่า ได้อย่างที่ต้องการแล้วหรือยัง หากยังไม่ได้รูปที่ชอบ ก็ชดเชยไปอีกครั้ง ก็น่าจะได้รูปที่พอดีครับ --------------------------------------------------- จากรูปตัวอย่างนั้น รูปที่ 5 นั้นถือว่าเป็นจุดที่สภาพแสงพอดีที่สุด (0.0EV) ส่วนรูปที่ 1-4 รูปจะ Under ลงรูปล่ะ -0.3EV ตามลำดับ และรูปที่ 6-9 รูปจะ Over ขึ้นรูปล่ะ +0.3EV ตามลำดับ หลังจากคุณวัดและชดเชยแสงแล้ว หากได้รูปที่มีความสว่างเท่ากับรูปหมายเลข "5" ก็ถือว่าเป็นรูปที่แสงถูกต้อง แต่ถ้าความสว่างของรูป ไปตกที่หมายเลข 4 กับ 6 นั้น "ถือว่ารับได้ครับ" แม้ว่ารูปหมายเลข 4 จะ Under ไปนิดและรูปหมายเลข 6 จะ Over ไปนิด แต่ก็ไม่มีปัญหาครับ ถือว่าเกิด Error บ้างเล็กน้อย แก้ไขไม่ยาก ปรับแต่งในโปรแกรมแต่งรูป 2-3 คลิ๊กก็ได้รูปที่ "แสงพอดี" แต่หากรูปที่ได้มานั้น ความสว่างตกอยู่ในรูปที่ 1, 2, 3, 7, 8, 9 นั้นผมแนะนำว่าให้ถ่ายใหม่ เพราะถึงแม้ว่ารูปเหล่านั้นจะสามารถปรับแต่งได้ แต่หากเราได้รูปต้นฉบับที่มืดหรือว่างเกินไป(Error สูง) เมื่อนำมาปรับด้วยโปรแกรมแต่งรูป คุณภาพของไฟล์จะลดลงครับ เช่น มี Noise มากขึ้น และยังต้องมาเสียเวลามากในการแต่งอีกด้วย ฉะนั้น!! ผมแนะนำว่า "ถ่ายใหม่เลยครับ" จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:12:56

ความคิดเห็นที่ 10 มาถึงจุดสำคัญของเรื่องการชดเชยแสง นั่นก็คือ "เราจะต้องชดเชยแสงเมื่อไหร่" ตอบ : ต้องชดเชยแสง เมื่อไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่ต้องการ ผมแบ่งสาเหตุที่ต้องชดเชยแสงไว้ 3 กรณีคือ 1. ชดเชยแสงเพราะ "สี" 2. ชดเชยแสงเพราะ "แสง" 3. ชดเชยแสงเพราะ "ความชอบ" ปล. สำหรับประเภทที่ผมแบ่งไว้ ผมไม่ได้จำหรือไปอ่านมาจากไหน แต่ผมเขียนขึ้นด้วยประสบกาณ์ของผมเอง ถ้ามีอะไรผิดพลาด ก็ชี้แนะได้ครับ นอมรับทุกความเห็น จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:13:34

ความคิดเห็นที่ 11 มาดูตัวอย่างเป็นข้อๆ ไป... 1. ชดเชยแสงเพราะ "สี" สีที่ต่างกัน ส่วนมากจะมีความเข้มสีที่ต่างกันด้วย ความเข้มสีที่ต่างกัน ก็สะท้อนแสงได้ไม่เท่ากัน กล้องมันทำงานด้วยการรับแสง แสงที่ต่างกันก็ย่อมจะได้รูปที่ไม่เหมือนกัน ทำให้เราต้องเข้าใจสิ่งสำคัญอีกเรื่อง นั่นก็คือ "การชดเชยแสงของสีต่างๆ" ใครที่เคยศึกษาเรื่องการชดเชยแสงมาบ้างก็ต้องเคยเห็นตารางนี้แน่นอน หลักๆ นั้นเค้าสื่อว่า "ถ่ายรูปสีนั้น" ก็ควรจะชดเชยแสงกลับไป "เท่านี้" เพื่อให้ได้รูปอย่างที่ตาเห็น เช่น - หากถ่ายรูปอะไรที่มีสีขาวมาก ก็ควรชดเชยแสง "+2.0EV" - หากถ่ายรูปอะไรที่มีสีดำมาก ก็ควรชดเชยแสง "- 2.0EV" - ส่วนสีอื่นๆ ก็ดูจากตารางครับ แต่ๆ... ผมแนะนำว่า "ไม่ต้องไปจำสีและค่าการชดเชยแสง" ของมันหรอกครับ เพราะ 1. ใครจะไปจำได้ว่าสีนั้น(มีความเข้มสีเท่านี้ด้วย) ต้องชดเชยแสงเท่าไหร่ 2. สีเดียวกัน ในสภาพแสงที่ต่างกัน มันก็สะท้อนแสงได้ไม่เท่ากัน เช่นมีลูกบอลสีดำลูกนึง แต่เอาแสงแรงๆ มาส่อง สีที่เรามองเห็นนั้น อาจไม่เห็นเป็นสีดำแล้วครับ อาจถึงขั้นเห็นเป็นสีขาวเลย หรือสมมติอีกทีว่าเรามีลูกบอลสีขาวลูกนึง แต่เอาไปไว้ในห้องที่มืดมากๆ แล้วให้เราไปดู เราก็ไม่รู้หรอกครับว่า "ลูกบอลนั้นสีขาว" เราอาจมองเห็นเป็นสีเทาหรือสีดำเลยด้วยซ้ำ 3. ค่าการชดเชยแสงต่างๆ ที่ให้มานั้น อาจไม่สัมพันธ์กับกล้องสมัยนี้ แต่ๆ... แต่อีกแล้ว... ตารางนี้มันก็มีประโยชน์มากครับ ประโยชน์ที่ว่าคือ ทำให้เรารู้ว่า "ถ่ายสีอะไร แล้วควรชดเชยไปทางไหน ประมาณเท่าไหร่" เช่น - หากถ่ายสีเหลือง ก็ควรชดเชยไปทางบวก "มากหน่อย" - หากถ่ายสีฟ้าหรือสีชมพู ก็ควรชดเชยไปทางบวก "นิดนึง" หรือ - หากถ่ายสีเทาเข้มหรือน้ำตาลเข้ม ก็ควรชดเชยไปทางลบ "มากหน่อย" - หากถ่ายสีน้ำเงินหรือเขียวเข้ม ก็ควรชดเชยไปทางลบ "นิดนึง" แล้วไอ้ "นิดนึง" นี่มันเท่าไหร่ หรือไอ้ "มากหน่อย" นี่มันเท่าไหร่ นั้น!! ขึ้นอยู่กับประสบการณ์แล้วครับ ใครก็บอกค่าที่แน่นอนไม่ได้ *** หากรู้ทิศทางของการชดเชย และสามารถคาดเดาคร่าวๆ ได้ว่าควรชดเชยเท่าไหร่ ก็ถือว่า "ชดเชยแสงเป็นแล้ว" จะเกิดความผิดพลาดบ้างก็ไม่เป็นไร ชดเชยแสงแล้วถ่ายซ้ำไปอีกที ก็เอาอยู่ ปล. อยากจะให้เครดิตคนที่คิดตารางนี้ขึ้นมา แต่ไม่รู้จะให้ใครจริงๆ ครับ หาเจ้าตัวไม่เจอ เขียนไปก็กลัวจะให้ผิดคน เดี๋ยวไปกันใหญ่ เอาเป็นว่า "ขอขอบคุณ" คนที่คิดตารางนี้ขึ้นมาก็แล้วกันครับ จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:14:25

ความคิดเห็นที่ 12 เคยอ่านเจอมาว่า ถ้าถ่าย "สีขาว" มันจะได้ "สีเทา" และ ถ้าถ่าย "สีดำ" มันก็จะได้ "สีเทา" ซึ่งถ้าดูตามประสบการณ์ของผม เวลาถ่ายสีขาว มันก็ยัง "รับรู้" ได้ว่านั่นคือ "สีขาว" แต่ไม่ขาวเหมือนของจริง ดูเหมือนสี "ขาวอมเทา" เวลาถ่ายสีดำ มันก็ยัง "รับรู้" ได้ว่านั่นคือ "สีดำ" แต่ไม่ดำเหมือนของจริง ดูเหมือนสี "ดำอมเทา" เวลาชดเชยแสง จึงไม่ต้องชดเชยมาก อย่างที่เห็นในตารางด้านบน หลายครั้งที่ผมถ่ายสีขาว ผมชดเชย "+1EV" ก็เพียงพอแล้วครับ ไม่จำเป็นต้องชดเชยถึง "+2EV" ในทางกลับกันสีดำก็เหมือนกัน อาจไม่ต้องชดเชยถึง "-2EV" ชดเชยแค่ "-1EV" ก็เพียงพอแล้ว ถ้าให้ผมแบ่งตารางนี้ใหม่ ผมก็แบ่งตามรูปด้านล่างเลยครับ ซึ่งโดยส่วนตัวผมว่า ใกล้เคียงกว่ามาก จะสังเกตเห็นว่าช่วงของการชดเชยแสง ตั้งแต่ดำถึงขาวนั้น "แคบมาก" ประมาณ "-1EV ถึง +1EV" เท่านั้น หรือถ้าจะ Error ไปบ้างอย่างมากก็ -1.3EV ถึง +1.3EV ทีนี้ การชดเชยแสงเพราะ "สี" ก็เป็นเรื่องง่ายเลย เพราะสามารถเดาได้ง่าย เช่น สมมติว่าเราไปถ่ายรูปที่มีสีเดียวทั้งรูป จะสีอะไรก็ได้ เราประเมินแล้วว่าสีมันเข้มกว่าเทากลางแน่ แต่ไม่ถึงดำ ก็ชดเชยรอไว้เลย -0.3EV หรือ -0.7EV แล้วแต่การประเมินครับ หรือในทางกลับกัน หากเราประเมินแล้วว่า สีมันอ่อนกว่าเทากลางแน่ แต่ไม่ถึงกับสีขาว ก็ชดเชยรอไว้เลย +0.3EV หรือ +0.7EV แล้วแต่การประเมินเช่นกัน ปล. มิได้อวดอ้างฤทธีจะสร้างทฤษฎีใหม่ แต่เขียนมาจากประสบการณ์ของผมและอีกหลายคนที่มีความเห็นตรงกันในเรื่องนี้ อย่าเชื่อจนกว่าจะได้ทดลองเอง ลงสนามบ่อยๆ ปล่อยให้ประสบการณ์มันสอน แล้วค่อยมาดูว่า มันตรงกับที่ผมพูดไหม... จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:15:15

ความคิดเห็นที่ 13 ดูตัวอย่างเล็กๆ สำหรับการชดเชยแสงเพราะสี กันซักรูปนึง โชคดีที่มีเจ้า "รูบิค" ของพี่ชายอยู่ มันเป็นตัวอย่างที่ดีมากๆ ครับ รูปนี้ผมตั้งโหมด A ใช้ระบบวัดแสงเป็น Spot เพื่อให้แน่ใจว่าผมวัดแสงตรงพื้นที่สีนั้นๆ จริงๆ โดยไม่มีสีอื่นมาเกี่ยวข้อง จากรูปนี้ "ผมถ่ายสีขาว" ก็ชี้จุดโฟกัสวัดแสงที่สีขาวเลย หลังจากวัดและล็อคค่าแสงแล้ว ก็ถ่ายเลย ได้รูปอย่างที่เห็นครับ คือเรารับรู้ได้ว่านั่นคือสีขาว แต่จริงๆ แล้วมันเป็นสีขาวอมเทา ซึ่งไม่เหมือนกับที่ตาเห็น Device : Nikon D90 Lens : 18-105mm VR F/3.5-5.6G Focal Length : 66 mm Aperture : F/5.3 Shutter Speed : 1/13s Exposure Compensation : 0EV ISO 400 จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:16:00

ความคิดเห็นที่ 14 รูปนี้ผมเลยชดเชยแสงไป +1.0EV ได้รูปที่ถือว่าใกล้เคียงกับของจริงที่สุดแล้ว รูปด้านบน วัดแสงแล้วถ่ายเลย กล้องเลือก Shutter Speed ที่ 1/13Sec หลังจากที่ชดเชยแสงไป +1EV กล้องมันจะปรับ Shutter Speed ให้ช้าลง เพื่อให้แสงเข้าได้มากขึ้น ได้ Shutter Speed ใหม่เป็น 1/6Sec แทน อย่าลืมนะครับว่า "ระบบวัดแสง การวัดแสง และการชดเชยแสง" มันก็เหมือนกันคือ... ใช้ในการหาค่า "Shutter Speed กับ รูรับแสง" ที่เหมาะสมนั่นเอง อย่างอื่นไม่เกี่ยว ปล. ดูกันแค่ตัวอย่างเดียวก็พอครับ คิดว่าคงเข้าใจกันโดยไม่ต้องใช้หลายตัวอย่าง Device : Nikon D90 Lens : 18-105mm VR F/3.5-5.6G Focal Length : 66 mm Aperture : F/5.3 Shutter Speed : 1/6s Exposure Compensation : +1.0EV ISO 400 จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:16:49

ความคิดเห็นที่ 15 2. ชดเชยแสงเพราะ "แสง" ในบางครั้งที่เราถ่ายรูป ตัวแสงเองนั่นแหละที่เป็นปัญหา อาจเป็นเพราะมีแสงน้อยไปบ้าง หรือแสงมากไปบ้าง ผมยกให้เห็นซักตัวอย่างก็แล้วกัน เป็นสถานการณ์ที่คิดว่าคนเล่นกล้องทุกคนต้องเคยเจอมาแล้ว นั่นก็คือ "การถ่ายย้อนแสง" นั่นเอง ปัญหาหลักของการถ่ายย้อนแสงคือ "ได้รูปอันเดอร์" เคยไหมที่ถ่ายคนแบบย้อนแสง แล้วตัวแบบดำปี๋ นั่นเป็นเพราะมีแสงเข้ากล้องมากเกินไป กล้องมันจะพยายามลดแสงลงด้วยการ "เพิ่ม Shutter Speed หรือลดขนาดรูรับแสงลง" ทำให้ ไม่มีแสงเพียงพอที่ตัวแบบ แบบเลยดำปี๋ เป็นเรื่องธรรมดา ปัญหานี้แก้ได้ด้วยการชดเชยแสงครับ ผมจำลองตัวอย่างการถ่ายรูปย้อนแสง มาให้ดูกัน โดยวางสีไม้ไว้ด้านหน้า แล้ววางไฟที่สว่างมากไว้ด้านหลัง ดังรูป จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:17:51

ความคิดเห็นที่ 16 ใช้โหมด A วัดแสงพอดีที่สีไม้แล้วถ่าย ปรากฏว่า... ได้รูป "อันเดอร์" ทั้งที่วัดแสงเรียบร้อยแล้ว Device : Nikon D90 Lens : 18-105mm VR F/3.5-5.6G Focal Length : 90 mm Aperture : F/11 Shutter Speed : 1/25s Exposure Compensation : 0EV ISO 200 จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:18:26

ความคิดเห็นที่ 17 รูปลักษณะนี้ไม่แปลกครับ เพราะมีแสงเข้ามาจากทางด้านหลังมาก กล้องมันก็จะเพิ่ม Shutter Speed เพื่อรักษารายละเอียดของทั้งภาพเอาไว้ แสงโดยรวมของทั้งรูป "ถือว่าโอเค" แต่แสงที่สีไม้ "อันเดอร์ไป" ผมตั้งใจจะเก็บรายละเอียดที่สีไม้ ก็ชดเชยแสงไปทางบวก แน่นอนว่ารายละเอียดที่ สีไม้ดีขึ้น แต่ก็ต้องแลกกับการเสียรายละเอียดด้านหลังไป สำหรับ "การชดเชยแสงเพราะแสง" นั้น จะเดาการชดเชย EV ได้ยากกว่า "การชดเชยแสงเพราะสี" เพราะความเข้มแสง มีหลายระดับมาก ยกตัวอย่าง "แสงจากดวงอาทิตย์" ก็แล้วกัน แสงจากดวงอาทิตย์ในบางเวลาจะเข้มมาก มองด้วยตาเปล่าไม่ได้เลย ในบางเวลาก็จะอ่อนมาก สามารถมองด้วยตาเปล่าได้สบาย ช่วงที่แสงเข้มกับแสงอ่อน ถ้าวัดเป็น Stop ได้ ก็คงมากจนนับกันไม่ไหวทีเดียว ฉะนั้น!! ตอนที่เราถ่ายรูปก็อาจเกิด Error(มืดหรือสว่างไป) ได้สูงเช่นกัน แม้จะวัดแสงอย่างดีแล้ว ก็อาจต้องชดเชย 2-3 Stop กันเลยทีเดียว การชดเชยแสงลักษณะนี้ ผมเองก็ยอมรับครับว่า บางครั้งต้องกดไปตั้ง 3-4 รูปกว่าจะเอาอยู่ Device : Nikon D90 Lens : 18-105mm VR F/3.5-5.6G Focal Length : 90 mm Aperture : F/11 Shutter Speed : 1/13s Exposure Compensation : +1.0EV ISO 200 จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:19:13

ความคิดเห็นที่ 18 3. ชดเชยแสงเพราะ "ความชอบ" การชดเชยลักษณะนี้ โดยส่วนมากกล้องจะวัดแสงให้ถูกต้องอยู่แล้ว แต่ผู้ถ่ายอาจอยากได้ - รูปที่สว่างอีกนิด เพื่อเปิดรายละเอียดตรงนั้น หรือ - รูปที่มืดอีกหน่อย เพื่อขับให้จุดเด่น ให้เห็นชัดยิ่งขึ้น เป็นต้น เรียกว่าชดเชยเพราะจริตส่วนบุคคลแล้วครับ จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:19:48

ความคิดเห็นที่ 19 เช่นเคยครับ มาดูตัวอย่างชัดๆ เป็นกรณีๆ ไปดีกว่า(10 รูปเหมือนเดิม) "วัดร่องขุ่น" ตัวโบสถ์เป็นสีขาวทั้งหมด ในขณะนั้นผมใช้ระบบวัดแสงแบบ Center-Weighted วัดแสงที่ตัวโบสถ์เลย สำหรับคนที่เข้าใจเรื่องการวัดแสง มาเจอรูปลักษณะนี้ ก็คงเดาออกกันทุกคน ว่ามีชดเชยบวกแน่นอน ก่อนถ่ายผมก็บวกรอไว้ 0.7EV เลย ได้รูปนี้มา ซึ่งถือว่า สภาพแสงพอดีครับ ปล1. มีอีกรูปที่ผมลองชดเชย +1.0EV ปรากฏว่ารูปโอเวอร์เกินไป บางจุดขาวเป็นปื้น ไม่เห็นรายละเอียดเลย สรุปว่ารูปนี้ ชดเชย +0.7EV ก็พอครับ ปล2. ถ้าจะจำแนกว่ารูปลักษณะนี้ต้องชดเชยเพราะอะไร ก็คงต้องจำแนกไว้ในประเภท "ชดเชยแสงเพราะสี" ครับ Device : Nikon D90 Lens : 18-105mm VR F/3.5-5.6G Focal Length : 25 mm Aperture : F/5 Shutter Speed : 1/400s Exposure Compensation : +0.7EV ISO 200 จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:20:21

ความคิดเห็นที่ 20 รูปนี้ผมวัดแสงที่ต้นไทรด้านหน้า ซึ่งเป็นส่วนที่อยู่ในเงาเต็มๆ ถ้าวัดแสงแล้วถ่ายเลย เราจะเห็นรายละเอียดต้นไทรมากกว่านี้ แต่รายละเอียดด้านหลัง หายเรียบ...  Background สว่างโร่... เพื่อเก็บรายละเอียดด้านหลังด้วย ผมก็ชดเชยแสงลดลง ลดลงจนกว่าจะพอใจ ลองถ่ายรูปแรก -0.7EV ก็ยังไม่พอใจ -1.0EV ก็ยังไม่ถูกใจเท่าไหร่ ลบไปอีกทีที่ -1.3EV โอ้!! โดนๆ เอารูปนี้แหละ รูปลักษณะนี้เป็นการ "ชดเชยแสงเพราะความชอบ" ล้วนๆ ครับ Device : Nikon D90 Lens : 18-105mm VR F/3.5-5.6G Focal Length : 105 mm Aperture : F/5.6 Shutter Speed : 1/80s Exposure Compensation : -1.3EV ISO 1000 จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:21:01

ความคิดเห็นที่ 21 หลังๆ มานี่ผมจะใช้ Center-Weighted เป็นหลัก เรียกว่าเกือบ 100% กันเลย ไม่ค่อยเปลี่ยนระบบวัดแสงไปมา เหมือนตอน เล่นกล้องใหม่ๆ เพราะพอเข้าใจหลักการแล้ว "ไม่ว่าจะใช้ระบบวัดแสงแบบไหน เมื่อใช้ร่วมกับการชดเชยแสง ก็จะได้รูปที่เหมือนกันครับ" รูปนี้ผมใช้ Center-Weighted วัดแสงที่ฝูงชนเลย แน่นอนว่าได้รูปอันเดอร์แน่นอน พอจะเดาได้ไหมครับ ว่าทำไม? "เพราะแสงสว่างจากทางด้านหลังครับ" รูปลักษณะนี้ แม้ว่าเราจะถ่ายรูปในทิศทางตามแสงแล้ว แต่แสงบนท้องฟ้ากับแสงที่ด้านล่าง ก็ยังต่างกันมาก ผมใช้ Center-Weighted วัดแสง มันเลยเก็บแสงของท้องฟ้ามาคิดด้วย แสงบนท้องฟ้ามีมาก กล้องมันเลยปรับ Shutter Speed ให้สูงขึ้น รูปที่ได้มาก็ "อันเดอร์" เป็นธรรมดา เราก็ชดเชยกลับไปครับ รูปนี้ชดเชยบวกไป 0.7EV ก็ได้แสงพอดีอย่างที่เห็น รูปลักษณะนี้เป็นการ "ชดเชยแสงเพราะแสง" ครับ Device : Nikon D90 Lens : 18-105mm VR F/3.5-5.6G Focal Length : 25 mm Aperture : F/5.6 Shutter Speed : 1/160s Exposure Compensation : +0.7EV ISO 200 จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:21:32

ความคิดเห็นที่ 22 มีแสงอ่อนๆ ส่องมาที่หน้าเด็ก ในตอนเช้า ดูเหมือนน้อย แต่แสงลักษณะนี้ ในบางครั้งก็ไม่น้อยครับ ตาเราทำงานได้ดีกว่ากล้อง สามารถมองเห็นได้โดยไม่แสบตาอะไร แต่กล้องมันทำงานซับซ้อนอย่างตามนุษย์ไม่ได้ มันรับแสงแล้วประมวลผล สำหรับรูปนี้กล้องมันคิดว่าแสงเข้ามากไปนิดนึง ก็ได้รูปอันเดอร์มานิดนึง เราก็ชดเชยกลับไป เนื่องจากรูปนี้สภาพแสงไม่เข้มมากนัก ชดเชยไปซัก 0.3EV ก็เอาอยู่ครับ ปล. รูปนี้หากเลือกจุดวัดแสงใหม่ ที่ดีกว่า ก็อาจไม่ต้องชดเชยแสงเลย Device : Nikon D90 Lens : 18-105mm VR F/3.5-5.6G Focal Length : 105 mm Aperture : F/5.6 Shutter Speed : 1/160s Exposure Compensation : +0.3EV ISO 640 จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:22:03

ความคิดเห็นที่ 23 รูปที่มีเวลาเพียงพอ อย่ารีบครับ คิดซักนิดแล้วงานจะง่ายขึ้น เค้ามีอะไรมาให้ ก็แสดงว่ามีประโยชน์ ใช้ให้คุ้ม อย่างรูปนี้ ถ้าผมใช้ Center-Weighted เหมือนเดิม อาจถึงขั้นต้องชดเลยกันเกือบ 2 Stop เลยทีเดียวเพราะ 1. สีเหลืองทองด้านหลัง 2. วัตถุที่ถ่ายมีความแวววาว สะท้อนแสงได้ดี ขืนยังใช้ Center-Weighted อาจต้องลอง 2-3 รูปกว่าจะได้ ทำไมเราไม่จำกัดวง ให้แคบเข้ามาหล่ะครับ? ในที่นี้ก็คือ เปลี่ยนระบบวัดแแสงเป็น Spot จิ้มไปที่ใบหน้าของหนุมาน ใบหน้าของหนุมานสีน้ำเงินเข้ม ก็ชดเชยกลับไปซัก -0.3EV(ลองกลับไปดูตารางการชดเชยแสงใน Reply 12 นะครับ) รูปนี้กดมาครั้งเดียวอยู่เลย หรือถ้าผิดพลาดจริง ผมก็คิดว่าจบได้ ด้วยการถ่ายซ้ำอีกครั้งเดียวเท่านั้น Device : Nikon D90 Lens : 18-105mm VR F/3.5-5.6G Focal Length : 32 mm Aperture : F/4.2 Shutter Speed : 1/200s Exposure Compensation : -0.3EV ISO 200 จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:22:49

ความคิดเห็นที่ 24 สาเหตุ ที่ผมพูดบ่อยๆ ว่าต้อง "ชดเชยแสงเพราะอะไร" เพราะจะได้รู้ว่าสาเหตุมันคืออะไร แล้วเราต้องแก้ไขอย่างไร จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง ด้วยเวลาที่สั้นที่สุด มาดูกันอีกซักตัวอย่าง รูปนี้ต้องชดเชยแสงเพราะอะไร? ทราบไหมครับ!! รูปนี้ต้องชดเชยแสงเพราะ ในรูปมีพื้นที่สีดำมาก หากรูปนี้ไม่มีสีอื่นเลย มีแต่สีดำ ก็อาจต้องชดเชย "ลบ" มากหน่อย แต่รูปนี้มีสีเหลืองคอยถ่วงดุล ทำให้ไม่ต้องชดเชยมาก รูปนี้เลยชดเชย -0.3EV ก็ได้แสงที่พอดีครับ อย่าลืมที่ผมบอกนะครับ "คิดซักนิด แล้วงานจะง่ายขึ้น" Device : Nikon D90 Lens : 10-20mm F/4.5-6G Focal Length : 10 mm Aperture : F/5 Shutter Speed : 1/20s Exposure Compensation : -0.3EV ISO 800 จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:23:45

ความคิดเห็นที่ 25 รูปนี้ก็เป็นการชดเชยเพราะความชอบครับ ผมวัดแสงให้พอดีที่ตัวอาคาร แต่บริเวณหลังคา กับพื้นด้านล่างมันขาวไป รายละเอียดหายไปเยอะ ก็ชดเชยแสงลดลงหน่อย สีของตัวอาคารลดลงนิด แต่ก็ได้ฟ้าสีสวยๆ กับพื้นด้านล่างที่ไม่ขาวเว่อร์จนเกินไปมาแทน แถมแนวคิดเล็กๆ จากรูปนี้ เผื่อมีประโยชน์ ตอนถ่ายนั้นผมชำเลืองเห็นนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มเดินมาพอดี เข้าทางเลยครับ รอจังหวะนิดนึง แล้วก็กดมา การรอจังหวะเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญมาก บอกไม่ได้ว่าต้องรอตอนไหน มันอยู่ที่จินตนาการ หลายๆ ครั้งผมได้งานที่ดูดีขึ้นมาก ก็เนื่องมาจาก "การรอจังหวะ" นี่แหละครับ Device : Nikon D90 Lens : 10-20mm F/4.5-6G Focal Length : 10 mm Aperture : F/9 Shutter Speed : 1/60s Exposure Compensation : -0.7EV ISO 200 จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:24:20

ความคิดเห็นที่ 26 รูปนี้เป็นตัวอย่าง "2 เด้ง" ครับ 1. รูปโดยรวมทั้งหมดเป็นสีเหลืองทอง 2. รูปปั้นพระพุทธรูปมีความแวววาว สะท้อนแสงได้ดี เข้าข่ายต้องชดเชยแสงเพราะ "แสงและสี" เลย เจอรูปแบบนี้ชดเชยเผื่อไว้เลยอย่างน้อย 1.0EV รูปนี้ผมชดเชยไป 1.3EV ได้รูปอย่างที่ตัวเองชอบแล้ว แต่ถ้าบางคนชอบรูปสว่างๆ สำหรับรูปนี้ ชดเชยไป 1.7EV ก็ยังไหว ปล. Center-Weighted เหมือนเดิมครับ Device : Nikon D90 Lens : 18-105mm VR F/3.5-5.6G Focal Length : 40 mm Aperture : F/4.5 Shutter Speed : 1/20s Exposure Compensation : +1.3EV ISO 200 จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:25:03

ความคิดเห็นที่ 27 รูปนี้ก็เป็นตัวอย่างที่ดีมากอีกรูป ผมยืนถ่ายอยู่ที่ระเบียงนอกห้อง ในช่วงที่แสงแดดจ้า ในห้องมีสภาพแสงน้อยกว่า และด้านหลังห้องก็เป็นที่โล่ง เรียกว่ารับแสงไปพอๆ กับที่ระเบียงเลย ทีนี้ ถึงแม้ว่าจะวัดแสงพอดีที่ตัวแบบแล้ว แต่แสงจากด้านหน้าและด้านหลังนั้นก็ยังเข้ากล้องมากอยู่ดี ถึงแม้จะวัดแสงที่ตัวแบบแล้ว ก็ได้รูปอันเดอร์แน่นอน จึงต้องชดเชยแสงช่วย ยอมรับว่าถ่ายรูปแรก กดไปไม่คิดเลย วัดแสงแล้วถ่ายโลด นางแบบดำปี๋ ลบแทบไม่ทันเพราะกลัวโดนด่า 555 รูปที่สองชดเชยบวกไป +0.7EV ยังมืดไปนิดๆ ชดเชยไปอีกที เป็น 1.0EV จึงจะได้รูปที่ชอบ สรุปรูปนี้กดไป 3 ที เอิ๊ก... 555 Device : Nikon D90 Lens : 50mm F/1.8D Focal Length : 50 mm Aperture : F/3.5 Shutter Speed : 1/80s Exposure Compensation : +1.0EV ISO 200 จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:25:53

ความคิดเห็นที่ 28 Advance ขึ้นอีกนิด ยกตัวอย่างการชดเชยแสงร่วมกับการแฟลชซักรูป สำหรับกรณีนี้ มือใหม่อ่านแล้วงง ก็ไม่เป็นไรครับ แค่รู้เอาไว้ว่า มันทำแบบนี้ได้ด้วย เพราะวันนึงเมื่อเหตุกาณ์มาถึง คุณอาจจะเข้าใจและทำได้เองโดยอัตโนมัติ มาเข้าเรื่องกัน... จริงๆ รูปนี้จะวัดแสงให้พอดีที่หน้านางแบบแล้วถ่ายเลยก็โอเคครับ แต่ผมชดเชยลบนิดนึง เพื่อให้ฉากหลังมืดลงนิดๆ แล้วเอาแฟรชตบเบาๆ ไปที่ตัวแบบให้สว่างขึ้นมาหน่อย เป็นการแยกฉากหลังออกจากตัวแบบให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ที่ผมยกตัวอย่างนี้ขึ้นมา เพราะเมื่อเราเข้าใจการทำงานของการชดเชยแสงได้ดีในระดับนึงแล้ว มันสามารถนำมาใช้เป็นลูกเล่นในการถ่ายรูปได้ และมืออาชีพหลายคนก็ใช้การชดเชยแสงนี่แหละ เป็นเทคนิคหนึ่ง ในการสร้างงานสวยๆ ครับ Device : Nikon D90 Lens : 50mm F/1.8D Focal Length : 50 mm Aperture : F/2.8 Shutter Speed : 1/1000s Exposure Compensation : -0.3EV ISO 200 จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:26:42

ความคิดเห็นที่ 29 คำถามสุดท้ายก่อนจากกันไป "รูปนี้ต้องชดเชยแสงเพราะอะไร และชดเชยไปทางไหน" ชดเชยกี่ EV ไม่ต้อง... ถ้าตอบได้ก็ถือว่าเข้าใจเรื่องการชดเชยแสงไป 80% แล้ว สำหรับภาพรวมของการชดเชยแสงก็มีเท่านี้ครับ รายละเอียดยิบย่อย ไม่ต้องพูดถึง เพราะพูดกันให้ตายก็ไม่จบ ออกไปลองเอง ให้ประสบกาณ์มันสอนดีกว่า คนที่อ่านบทความนี้จนจบ "ก็ใช่ว่าจะทำเป็นทันที" และผมก็ไม่ได้คาดหวังถึงขนาดนั้น "แค่บทความนี้เป็นแนวทาง ให้ฝึกฝนไปในทิศที่ถูกต้อง" ผมก็ดีใจแล้วครับ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่ต้อง "งมผิด งมถูก" ให้เสียเวลาเหมือนผม และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า บทความนี้ จะมีประโยชน์ต่อผู้อ่านบ้าง สุดท้าย ขอให้สนุกกับการถ่ายรูปครับ สวัสดี... จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:27:17

ความคิดเห็นที่ 30 กระทู้ดีมีสาระ   เยี่ยมมาก  ขอบคุณมาก ๆครับ จากคุณ : raksapondet เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:35:01

ความคิดเห็นที่ 31 กระทู้นี้ได้เก็บความรู้มากเลยครับ จากคุณ : q_sun เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:41:48

ความคิดเห็นที่ 32 น้า auxin มาแบบสาระคับแก้วอีกแล้ว ขอบคุณครับ ได้ความรู้อีกเยอะเลย จากคุณ : DSkong เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:46:31

ความคิดเห็นที่ 33 ติดตามอ่านทุกตอน มีประโยชน์สำหรับมือใหม่มากๆเลย ขอบคุณครับ จากคุณ : SkyLinK เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:46:45

ความคิดเห็นที่ 34 . . . กระทู้ให้ความรู้ของ  auxin ทุกๆ อัน  อ่านแล้ว เข้าใจได้ง่าย บางเรื่อง .. บางหัวข้อ เป็นเรื่องที่เหมือนจะยาก  แต่พอได้เห็นภาพ และวิธีเรียบเรียง + การอธิบาย  ก็ทำให้เข้าใจได้โดยง่ายเช่นกัน บางเรื่องถึงจะเป็นเรื่องที่ผมพอมีความรู้ ความเข้าใจอยู่บ้างแล้ว แต่พอได้อ่าน  ก็รู้สึกว่า ได้ทำความเข้าใจ จริงๆ จังๆ  และละเอียดขึ้นมากๆ และที่สำคัญ .. รูป  ประกอบ   สวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แสดงให้เห็นถึุง ..  ความรู้ ความเข้าใจ  ความสามารถในการควบคุมกล้อง .. และรีดความสามารถ ของกล้องได้อย่างเต็มที่ ..   บวกกับมุมมองที่มี ด้วยแล้ว สุดยอด ..  ครับ ชื่นชมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ครับ ^^ . . จากคุณ : A r t F u l l Y เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:51:55

ความคิดเห็นที่ 35 เยี่ยมมากครับ จากคุณ : siambizkit (siambizkit) เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 23:58:01

ความคิดเห็นที่ 36 มือใหม่เข้ามาเรียนครับ ตอนเรียนมันดูง่ายๆ ตอนใช้จริงมันยากอ่ะน้า มึนตึบ.... จากคุณ : nucha62 เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 00:10:05

ความคิดเห็นที่ 37 กระทู้ดีมีสาระ ยอดเยี่ยมเลยครับ จากคุณ : nuimg เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 00:10:45

ความคิดเห็นที่ 38 จดๆๆ ครับ ความรู้ทั้งนั้น ครับ     จากคุณ : Mr.Gateway เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 00:16:17

ความคิดเห็นที่ 39  เข้ามาจด.. ขอบคุณสำหรับสาระดี ๆ ครับ  ^ ^ จากคุณ : Jaruad เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 00:17:20

ความคิดเห็นที่ 40 จากคุณ : PiGsPy เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 00:30:53

ความคิดเห็นที่ 41 ดีจังเลยค่ะ เข้าใจขึ้นเยอะเลย จไปลองฝึกดูค่ะ   หนูยังเป็นมือใหม่ยังงงอยู่ แต่พอได้อ่านแล้วก็เข้าใจมากขึ้นค่ะ  ขอบคุณนะค่ะ จากคุณ : ปลาดาวจอมซน เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 00:31:53

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณสำหรับสาระดี ๆ แบบนี้ค่ะ จากคุณ : เขียวจังตัวแสบ เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 01:06:02

ความคิดเห็นที่ 43 โหวตโลดดดดด จากคุณ : Papercut เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 01:41:17

ความคิดเห็นที่ 44 ไม่รู้ล่ะ โหวตไปแล้วด้วย จากคุณ : pix_maker เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 01:43:12

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณนะครับ ความรู้ดีๆ มีไว้ให้ศึกษา จากคุณ : ^^ (thisis_chan) เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 02:16:51

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณมากๆค่ะ กำลังสงสัยอยู่เลย จากคุณ : Creatrips เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 03:13:36

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณครับ โหวตละ จากคุณ : genius koch เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 03:33:58

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณที่แบ่งปัน น้าขยันมากๆเลยครับ ^_^ โหวตแล้วครับ จากคุณ : 9george (ge-or-ge) เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 05:13:00

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณน้า Auxin มากครับ สำหรับบทความดีดีอีกกระทู้หนึ่ง จากคุณ : Son&Ning เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 07:31:53

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณสำหรับกระทู้ดี ดี ค่ะ ไม่รู้อีกนานเท่าไรจึงจะเข้าใจหมด จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เหร่ in uk เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 08:23:06

ความคิดเห็นที่ 51 โหวตตตตตตตต จากคุณ : ความทรงจำวันวาน เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 08:45:49

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณครับ โดยเฉพาะเรื่อง ชดเชยแสง ได้ความรู้เข้าใจง่ายดีครับ เพื่อนที่เล่นกล้อง ต้องคอยบอกตลอด ต่อแต่นี้ไปคงพอจะ ชดเชยเองได้บ้างหละ จากคุณ : สลัก ลูกสูบ (สลัก ลูกสูบ) เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 08:59:38

ความคิดเห็นที่ 53 ยอดเยี่ยมมากๆครับ ^^ จากคุณ : smith_speed เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 09:11:38

ความคิดเห็นที่ 54 ดีใจจังที่น้า auxin ใช้นิค จากคุณ : สะบายดีบางกอก เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 09:19:59

ความคิดเห็นที่ 55 เยี่ยมจริงครับ จากคุณ : ฟรีค่าแรงตลอด5หมื่นโล เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 09:24:17

ความคิดเห็นที่ 56 คราวนี้พวกเราคงถ่ายรูปสวยกันทุกคนแน่นอน ขอบคุณมากครับ จากคุณ : mama_shinbi เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 09:29:18

ความคิดเห็นที่ 57 ใช้กล้องรุ่นเดียวกันเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ ที่มีมาแจกจ่ายอยู่เป็นประจำ . . . อย่างนี้ต้องช่วยโหวต . . . จากคุณ : libra-cat เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 09:29:33

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณมากๆครับ จากคุณ : blacksatan เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 09:38:26

ความคิดเห็นที่ 59 ถูกใจตารางชดเชยแสงอันที่คุณ  auxin  บอกอันใหม่นั่นจริงๆ เห็นด้วยอย่าแรงเพราะเจอมากะตัว แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 53 09:39:25 จากคุณ : หนูเป็นเชื้อราบนขนมปัง เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 09:38:41

ความคิดเห็นที่ 60 - ทฤษฎีเชิงปฏิบัติการนี่สุดยอด   - อ่านอย่างเดียวอยากนักที่จะเห็นภาพ - มีภาพประกอบ  ไม่รู้ก็จะได้รู้ได้เห็น - ค่า EV นี่ยากนักที่จะเข้าใจ  ต้องลองปฏิบัติจริง ๆ  สอบตกกันมามากมาย - ขอบคุณ จขกท. ที่นำเสนอได้ดียิ่ง จากคุณ : c136 (c136) เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 09:54:34

ความคิดเห็นที่ 61 จากคุณ : ไททับฟ้า เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 09:56:24

ความคิดเห็นที่ 62 มาช่วยกดเข้าคลังอีก 1 กระทู้ ให้มันได้ยังงี้สิน้า..."ยอดเยี่ยม" ส่งท้ายปี จากคุณ : sapor เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 10:05:40

ความคิดเห็นที่ 63 โหวตตตตต จากคุณ : Lastchristmas_โอ๋ เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 10:17:40

ความคิดเห็นที่ 64 ขอขอบคุณด้วยความจริงใจครับ.........ขอให้ผลบุญครั้งนี้ส่งผลให้มีความสุขมากๆ ครับ......โหวต จากคุณ : ANTI - CLOCK WISE เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 10:24:29

ความคิดเห็นที่ 65 เยี่ยมๆๆๆ จากคุณ : กระจิบกลางทุ่ง เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 10:28:23

ความคิดเห็นที่ 66 รูปสุดท้าย ผู้ชาย2คนนั้นเค้าทำอะไรกันอะคับ - -" จากคุณ : arito เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 10:34:32

ความคิดเห็นที่ 67 ทุ่มหมดตัว 3 กีบเลยค่า ขอบคุณมากๆ ค่ะ จากคุณ : จุกแสบเหลือง เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 10:52:00

ความคิดเห็นที่ 68 ขอบคุณครับ กำลังหัดถ่ายอยู่เลย จากคุณ : k-michael เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 10:53:22

ความคิดเห็นที่ 69 ตอบ คำถามความเห็น 4 5 Stop ครับ จากคุณ : nuimg เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 11:10:58

ความคิดเห็นที่ 70 ถามน้า ถ้าเราเซ็ทปุ่มล็อกไว้เป็น Hold เราจะชดเชยแสงได้ไหม คือว่า กดปุ่มชดเชยแสง+เลื่อน Dial ถืเป็นการปลดล็อกไหมครับ จากคุณ : สงสัย เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 11:14:43 A:61.19.52.106 X: TicketID:232990

ความคิดเห็นที่ 71 กด Like 1 จึ๊ก จากคุณ : Gunz_za เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 11:25:25

ความคิดเห็นที่ 72 เยี่ยมครับ จากคุณ : ปืนเถื่อน เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 11:44:15

ความคิดเห็นที่ 73 เห็นชื่อ log in นี้แล้ว ไม่ผิดหวังเลย  ประโยชน์เต็มๆ........ ขอคุณมากครับที่แบ่งปันความรู้ จากคุณ : หนุ่มตักสิลา เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 11:53:41

ความคิดเห็นที่ 74 -ขออภัย  ข้อความซ้ำกับ คห.บน ครับ- แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 53 11:55:16 จากคุณ : หนุ่มตักสิลา เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 11:54:04

ความคิดเห็นที่ 75  สุดยอดครับ  จากคุณ : NuShine เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 12:13:30

ความคิดเห็นที่ 76 ขอบคุณน้า auxin ครับ จากคุณ : จันทร์สะท้อนเงา เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 12:28:01

ความคิดเห็นที่ 77 ไม่เห็นมีใครเฉลยคำถามเลยอ่า ผมเข้าใจว่าน่าจะชดเชยด้านบวกแต่ว่ามากน้อยนี้ตอบไม่ได้ จากคุณ : The ghost เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 12:35:59

ความคิดเห็นที่ 78 น้า auxin บทต่อไปสอนเรื่อง White Balance ได้มั้ยครับ เห็นมือใหม่สับสนเรื่องนี้เยอะเหมือนกัน เชียร์ให้เขียนจบซัก 15 บท แล้วรวมเล่มขายเลย ผมคนนึงล่ะที่ซื้อ ทฤษฎีแนวปฏิบัติ อ่านแล้วเข้าใจง่ายจริงๆ จากคุณ : หน้าม้ารับจ้าง เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 12:47:42

ความคิดเห็นที่ 79 ขอเซพตารางไปลองใช้น้าคร้า... ขอบคุณ..สำหรับความรู้ที่ถ่ายทอดได้เข้าใจง่ายขึ้นเยอะเลยคะ.. จากคุณ : wifehouse เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 12:51:14

ความคิดเห็นที่ 80 #70 ปกติแล้วกล้องนิคตั้งได้ว่าจะเอาแบบไหน กดค้างไว้ตลอด กับ กดแค่ครั้งเดียวมันล๊อคเลย(Hold)... ผมแนะนำว่าให้ตั้งเป็น Hold ทีนี้... หลังจากเราล๊อคค่าแสงแล้ว เราสามารถชดเชยแสงได้ตามปกติ ค่าแสงที่ล๊อคเอาไว้จะไม่หลุดไปจนกว่า เราจะกดปุ่ม AE-L อีกครั้งครับ จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 13:08:59

ความคิดเห็นที่ 81 บอกตรงนี้  ไม่รู้ว่าจะผิดที่ไหม แต่จะบอกว่า  ระบบการวัดแสง  ของนิค  กับหนอน  ไม่เหมือนกันนะ  ค่า A และ S ที่ได้มา  จะไม่เท่ากัน เวลาจะชดเชยแสง  บางครั้งจึงต้องชดเชยแตกต่างกัน แต่ก็นั่นแหละ  อย่างที่น้า auxin กล่าวไว้  ต้องออกไปลองครับ  ถึงจะรู้ ถ้าคิดว่าผิดที่  บอกได้ครับ  จะลบให้ จากคุณ : แฉลบยอดหญ้า เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 13:09:03

ความคิดเห็นที่ 82 คุณ raksapondet, q_sun, DSkong, SkyLinK, siambizkit, nucha62, nuimg, Mr.Gateway, Jaruad, PiGsPy, ปลาดาวจอมซน, เขียวจังตัวแสบ, Papercut, pix_maker, thisis_chan, Creatrips, genius koch, Son&Ning, ลูกเป็ดขี้เหร่ in uk, ความทรงจำวันวาน, สลัก ลูกสูบ, smith_speed, ฟรีค่าแรงตลอด5หมื่นโล, mama_shinbi, libra-cat, blacksatan, หนูเป็นเชื้อราบนขนมปัง, ไททับฟ้า, sapor, Lastchristmas_โอ๋, ANTI - CLOCK WISE, กระจิบกลางทุ่ง, จุกแสบเหลือง, k-michael, Gunz_za, ปืนเถื่อน, หนุ่มตักสิลา, NuShine, จันทร์สะท้อนเงา, wifehouse ขอขอบคุณสำหรับ Comment กับกำลังใจที่ให้มาครับ พี่ A r t F u l l Y ขอบคุณมากครับ อ่าน คห. พี่แล้วใจชื้นดีจัง... คุณสะบายดีบางกอก สำหรับกล้อง ของเค้าดีจริง 555... คุณc136 ขอบคุณมากเช่นกันครับ คุณarito คิดมากไปเองหรือปล่าวครับ 555... คุณnuimg ถูกต้องครับ คุณThe ghost ถูกต้องครับ คุณหน้าม้ารับจ้าง เอ๊ะ!! รู้ได้ไงว่าเรื่องต่อไปเป็น White Balance ผมตั้งใจว่าเรื่องต่อไป จะเขียนเรื่องนี้จริงๆ นะ... ส่วนเรื่องเขียนหนังสือ ยังมิบังอาจครับ ความรู้+ประสบการณ์ยังไม่ถึง... แต่ก็ยอมรับว่าชีวิตนี้อยากมีหนังสือเป็นของตัวเองซักเล่ม อาจรอไปอีก 5 ปี เอิ๊ก... 555 จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 13:34:20

ความคิดเห็นที่ 83 คุณแฉลบยอดหญ้า #81 เรื่อง "ค่า A และ S ที่ได้มา จะไม่เท่ากัน" นั้น... เป็นเรื่องปกติครับ... อย่าว่าแต่ข้ามค่ายเลย... แค่เปลี่ยนเลนส์คนละตัว(ค่ายเดียวกัน) ค่า F กับ S ก็ไม่เท่ากันแล้ว... ถึงผมจะเคยจับ Canon ไม่กี่ครั้ง แต่หลักการโดยรวม ผมก็ว่ามันเหมือนกันนะ... ดูทฤษฎีโดยรวมดีกว่า ไม่ต่างกันหรอก... จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 13:50:43

ความคิดเห็นที่ 84 ขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆอีกครั้งครับ จะลองไปบวกๆ ลบๆดู ของอย่างนี้มันต้องลองถึงจะรู้จริง ถ้ามีคำถามค่อยกลับมาถามอีกที จากคุณ : เกาต์เอง เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 14:19:42

ความคิดเห็นที่ 85 โหวต...ครับ จากคุณ : itsball เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 14:21:10

ความคิดเห็นที่ 86 รูปสวย เข้าใจง่าย ไม่รู้ว่าจะมีพาร์ทต่อไปไหม แต่ขอรบกวนนิดนึงครับ ขอรบกวนใส่ลิ้งที่น้า auxin ได้จัดทำองค์ประกอบความรู้ที่มีคุณค่าเหล่านี้ไว้ท้ายหัวกระทู้ของครั้งถัดไป เห็นบางคนที่พึ่งเข้ามาเว็บนี้ใหม่ๆอาจยังไม่รู้ว่ามีสิ่งนึงที่อ่านเข้าใจง่ายกว่าหนังสือบางเล่มอยู่ ขอบคุณในความเสียสละตลอดมาครับ : ) จากคุณ : WiTSi เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 14:21:42

ความคิดเห็นที่ 87 สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดด จากคุณ : ประณมกร เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 14:25:26

ความคิดเห็นที่ 88 ผมว่ามีประโยชน์ไม่มาก ก็ มากมาย ครับ เพราะ จับกล้องมาก็นานแล้ว วัดแสงยังไม่เป็นเลย และ ก็ได้อ่านกระทู้ที่ผ่านๆมาของ จขกท และลองทดสอบ ก็เกิดความเข้าใจเพิ่มเติมจากสิ่งที่เรามีอยู่ นั่นคือการต่อยอดและปรับปรุง ส่วน เรื่องชดเชยแสงนั้น ผมก็ทำตามที่อ่านๆด้านบนเหมือนกันในกรณีที่วัดแสงผิด มึดไป สว่างไป ก็ +,- ตามสถานะการณ์นั้นๆไป แต่เมื่อมาอ่านแล้วก็เข้าใจถึงหลักการมองและคาดเดา จนกลายมาเป็นความคุ้นเคยและประสบการณ์ได้ ในเรื่องชดเชย กล้องค่ายไหนๆ จะเหมือนกันหรือไม่เหมือนในระบบวัดแสงหรือไงก็ตาม แตกต่างกันที่รุ่น คลาส และ คนถ่าย แต่โดยรวมผมว่า ทุกท่านสามารถเอาคำแนะนำและ Review นี้ นำไปใช้งานได้จริง เพราะนี่คือ การเรียนที่จับต้องได้ มิ ได้แค่ เชิงวิชาการหรือว่าแดก อะไรอย่างอื่น ว่ามายืดยาว...สุดท้ายขอบคุณ จขกท ที่เอาเรื่องที่ใครบางคนบอกว่าเอามะพร้าวฮ้าวๆ มาขายในสวน แต่ช่วงนี้ยอมครับ เพราะ...."มะพร้าว" มันแพง ด้วยความเคารพ จากคุณ : maxoutda เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 14:41:39

ความคิดเห็นที่ 89 จะลองไปใช้บนภูสอยดาวดูครับ ขอบคุณครับ เยี่ยมมาก ๆๆ ๆ จากคุณ : Clark Keng เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 15:20:10

ความคิดเห็นที่ 90 ขอบคุณครับน้า ความรู้เน้นๆ แน่นๆ มาเลยครับ ทำให้เรารู้ว่าเวลาถ่ายภาพอย่าเน้นปริมาณเน้นคุณภาพกันบ้าง ทุกภาพทุกช้อตอาจเกิดได้แค่ครั้งเดียว ว่าแล้วก็หยิบกล้องออกไปถ่ายภาพมาฝากเพื่อนๆ กันครับ จากคุณ : เนตร (ohhayo) เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 15:20:23

ความคิดเห็นที่ 91 ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันประสบการณ์งามๆ ครับ ติดตามผลงานครับ ^_^ จากคุณ : คนไทยหัวใจไอที เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 15:27:54

ความคิดเห็นที่ 92 ติดตามครบ 'ไตรภาค' แล้ว ต้องยอมรับครับว่า น้า Auxin สุดยอด ! นับถือใจแกจริงๆ . . . สละเวลาไม่รู้เท่าไหร่กว่าจะได้ '3 กระทู้ คุณภาพ' แบบนี้ ขอบคุณอีกครั้งครับน้า จากคุณ : หลังอาน เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 16:07:05

ความคิดเห็นที่ 93 อ่านแล้วลองคืดตามไปด้วย มีประโยชน์มากๆครับ จากคุณ : <<Jay Nuu>> เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 16:21:26

ความคิดเห็นที่ 94 ตอนแรกงงมากเกี่ยวกับการวัดแสง ตอนนี้พอเข้าใจขึ้นมาบ้าง คิดเหมือนกันว่าไปทาง+ แต่จะเท่าไหร่ รอฟังเฉลย ปล.แอบคิดในใจ +0.3EV ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ แต่จะให้ดีทำเป็นหนังสือ คิคิ จากคุณ : เรนนี่ (Rainy_ae) เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 16:51:39

ความคิดเห็นที่ 95 คุณ Rainy_ae แค่รู้ว่าต้องชดเชยไปทางบวกก็โอเคแล้วครับ เท่าไหร่นั้นช่างมัน แล้วแต่สถานการณ์... ปล. ทำไมอมยิ้มคุณ Rainy_ae หน้าตามันแปลกๆ... เท่ร์ดี ชอบๆ... 555 จากคุณ : auxin เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 16:57:37

ความคิดเห็นที่ 96 ขอบคุณสำหรับข้อมุลดีๆครับน้า...ผมอ่ะ บางครั้งถ่ายโดยไม่ได้สังเกตตัวเลขเท่าไร แต่ว่าหลังจากนี้จะลองใหม่นะครับ ผมรู้แค่ว่าดำเดอร์ ขาวเวอร์ แต่แดงม่วง น้ำเงิน เหลือง ไรนี้ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร ^^ จากคุณ : ระวังงูนะ เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 17:25:17

ความคิดเห็นที่ 97 เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณมากครับ แนะนำ ทำหนังสือขายเฉพาะเรื่องวัดแสงเลย อธิบายดีแบบนี้ จากคุณ : Mr>Robuk เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 17:25:31

ความคิดเห็นที่ 98 ยอดเยี่ยมเลยครับ อ่านง่าย เข้าใจง่ายจริง ๆ จากคุณ : iamgap เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 17:56:36

ความคิดเห็นที่ 99 เยี่ยมครับน้า จากคุณ : ราชาทีม เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 18:03:04

ความคิดเห็นที่ 100 ขอบคุณครับ ความรู้ตลอด จากคุณ : RadioHome เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 19:35:41

ความคิดเห็นที่ 101 มีความรู้แล้วแบ่งบันเป็นกุศลที่ยิ่งใหญ่ครับขอให้มีความสุขความเจริญครับ จากคุณ : hunch เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 21:40:54