 |
#######ของขวัญวันปีใหม่แด่น้าๆ ป้าๆ ทุกท่านครับ: 25 ข้อคิดจากประสบการณ์หมุนเลนส์ที่นิวซีแลนด์ #######
|
 |
สวัสดี ครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้าๆ ทุกคน วันนี้ขอตั้งกระทู้รับขวัญวันปีใหม่ ด้วยการนำของฝากเล็กน้อยคือ "เกร็ดเล็กน้อย 25 คำแนะนำในการถ่ายรูปที่นิวซีแลนด์" ซึ่งถือว่าเป็นตะกอนของประสบการณ์ที่ได้ไปตลุยที่นั่นมาเกือบ 3 สัปดาห์ครับ การเดินทางไปเที่ยวถ่ายรูปในครั้งนี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน แล้วเสร็จกลับถึง Sydney วันที่ 19 ธันวาคม เป็นทริปที่นาน เหนื่อย เมาเครื่อง ตัวดำ และคันจากยุงป่าเอามากๆ แต่โดยรวมก็คุ้มค่าจริงๆ เพราะได้ประสบการณ์ดีๆ มาเต็มกระเป๋า แทนที่เงินที่หายไปเกือบหมดกระเป๋า 555
ทริปนี้ผมจองรถบ้าน (Campervan) เพื่อใช้เดินทาง กะว่าค่ำไหนนอนนั่น เดินทางเฉพาะเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ครับ โดยอุปกรณ์ติดตัวไปตามนี้เลยครับ 1. Nikon D700 (ประกบ 21mm. หรือ 35mm.) และ Canon 5D (ประกบ 85mm.) 2. ชุดฟิลเตอร์ของ Lee ได้แก่ 0.6, 0.9 Soft; 0.9 Hard; Big Stopper, Nd4 Stop; B+W Polarize 3. ขาตั้งกล้อง + กระเป๋าเป้ และสะพายข้าง
ข้อคิดข้างล่างนี้ ผมเขียนที่นิวซีแลนด์ โดยใช้เวลาสั้นๆ ก่อนนอนในแต่ละวันทบทวนว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง พลาดอะไร เรียนรู้อะไร ฯลฯ และสรุปได้เป็น 25 คำแนะนำในการสะพายกล้องส่องโลก (นำไปใช้เวลาเดินทางท่องเที่ยวได้ครับ) เพื่อเก็บไว้เป็นข้อเตือนใจ และนำมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับน้าๆ ป้าๆ ครับ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์และช่วยให้การเดินทางท่องเที่ยวเพื่อถ่ายรูปสะดวกมากขึ้นนะครับ
ผมแบ่งข้อคิดออกเป็นหมวดหมู่สั้นๆ ตามนี้เลยครับ
สถานที่ถ่ายรูป 1. การถ่ายภาพในป่า น้ำตก ริมทางที่มีทางเดินเท้าเข้าไป เช่น Blue pool หรือ Lake Mirror ควรใส่กางเกงยีนส์ เสื้อแขนยาว (แม้จะร้อน) หมวก+เสื้อ+กางเกงควรเป็นสีสว่าง และควรมียาฉีดกันยุง ฉีดตามตัว เท้า แขน ข้อมือ มือ หลังคอ และลูบตามใบหน้า เรียกว่าทุกส่วนเลย แมลงตัวเล็กๆ ที่เรียกว่า Sand Fly กัดเจ็บ เป็นตุ่มคันไปหลายสัปดาห์ 2. เวลาเดินทาง พยายามช่วยคนขับมองหาป้าย Look Out นะ เพราะส่วนใหญ่ มักมีวิวสวยๆ ให้ชม 3. หากป้ายบอกทาง บอกว่า เส้นทางนี้ ไม่เหมาะกับ Campervan หรือ Motor Home เค้าหมายถึงอย่างนั้นจริงๆ นะ ถึงแม้จะเป็นจุดชมวิวที่สวยมากๆ เช่น Fox Glacier View Point ก็อย่าขับเข้าไป เส้นทางแคบ ชัน แถมเป็นหินลูกรังอีก ลำบากมากมาย 4. อย่าเสี่ยงออกไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก โดยไม่ได้ไปสำรวจสถานที่ก่อน เช่น วันแรกที่ Hokitika ถามคนท้องที่เรื่องถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้น เค้าแนะนำให้ไปเก็บภาพที่ Lake Kaniere ห่างจากที่พักไปราว 20km. ทางขับง่าย ปลอดภัย (เค้าว่างั้น) แต่เอาเข้าจริง เป็น 20km. ที่เหมือนหนัง Blair Witch Project เลย ตี 4.30 ในป่า ไม่สนุกนะ สยองมากๆ พอไปถึง Lake สวยจริง แต่ไม่กล้าลง ต้องขับรถกลับมาที่ Camp แถมไข้ขึ้นไปวันนึงเต็มๆ เพราะเครียดตั้งแต่เช้า!!!
อุปกรณ์ถ่ายรูป 5. ฟิลเตอร์ชนิดแผ่นที่ใช้มากสุดในทริป จะเป็นแบบ Soft Grad (เพราะใช้กับเลนส์ Wide) ช่วงเช้า ฟ้าจะค่อนข้างสว่างกว่าพื้นดินใช้ 0.9 ช่วงเที่ยง แสงส่วนใหญ่ค่อนข้างเสมอกันใช้ 0.6 ส่วนพระอาทิตย์ขึ้น-ตก บางจังหวะใช้ 0.9 Rev. ส่วน Hard Grad นั้น เหมาะกับเลนส์ Tele (หากมีงบ จัดแบบ 0.6 Hard Grad อีกสักแผ่น ติดกระเป๋าไว้ รับรองได้ใช้) 6. แบตเตอรี่กล้องถ่ายรูปก้อนเดียว ยิงได้ทั้งวัน แต่ให้ดีซื้อเพิ่มอีกก้อนอุ่นใจกว่า โดยเฉพาะเวลาเดินทางไปที่หนาวๆ แบตเตอรี่จะหมดไวกว่าปกติ (ให้ซุกไว้ในกระเป๋ากางเกง พันผ้าไว้ จะช่วยได้มาก) 7. ถ้ามีเลนส์หลายตัว (เช่น 21, 35, 85) แนะนำให้ซื้อ Adapter ring สำหรับ Lee Filter ไว้สัก 2 อัน จะได้สะดวกเวลาเปลี่ยน Lee Holder สำหรับผม ได้ซื้อ Stepup ring เพื่อเปลี่ยนหน้าฟิลเตอร์ของเลนส์ทุกตัวเป็น 82mm. จึงสามารถใช้ Adapter ring 82 WA ของ Lee ได้ทุกเลนส์ สะดวกขึ้นมาก 8. ฟิลเตอร์ที่ห้ามขาดเลยคือ Polarize ใช้ยิงผ่านกระจกในรถ ตัดแสงสะท้อนของผิวน้ำ และทำให้สีอิ่มขึ้น ดังนั้น กระจกต้องสะอาดหมั่นเช็ดหน่อย แต่...หากใช้เลนส์มุมกว้าง ให้เลือกใช้เฉพาะวันที่เมฆมากๆ ไม่งั้น..สีท้องฟ้าจะไม่สม่ำเสมอ และหากจะถ่าย Panorama ให้ถอดฟิลเตอร์ Polarize ทิ้งซะ!! 9. ขาตั้งกล้อง อย่าเลือกที่ถูก คุณภาพต้องมาก่อน แนะนำของ Manfrotto หรือยี่ห้ออื่นๆ ที่คุณภาพและราคาใกล้เคียง หากมีงบ จัดไปแบบ Carbon 3 หรือ 4 ท่อนก็ได้ รับรองไม่ผิดหวัง เพราะเดินไกลหากต้องแบกขาตั้งกล้องหนักๆ รับรองหมดอารมณ์แน่ๆ 10. เลนส์ที่ใช้บ่อยสุดสำหรับผมคือ ช่วง 35mm. ถ้าให้เลือกซื้อเลนส์เพื่อท่องเที่ยวที่ NZ แนะนำ 24-70 ตัวเดียวเหลือเฟือ (AF) แต่ถ้างบไม่ถึง ก็แนะนำ 24-105 นะครับ (สำหรับ Canon) ส่วน 16-35 ได้ใช้เหมือนกันแต่น้อยกว่า จะใช้ตอนต้องการเน้นๆ จริง แต่ถ้าจะพกตัวเดียว 24-70 นั่นหล่ะดีสุด 11. เข็มทิศและไฟฉายสำคัญเสมอสำหรับถ่ายภาพไม่ว่าเช้าหรือเย็น 12. ควรนำ Ext. HDD และ Notebook ติดตัวไปด้วย เพื่อใช้ Backup ประจำวัน และควรหาเวลาอย่างน้อยสักวันละ 1 ชม. ทำภาพที่ชอบมากที่สุด เอาความรู้สึกดิบๆ ใส่เข้าไปตอน Process ไม่อย่างนั้นหากดองไว้ วันหลังกับมาทำอารมณ์ทำภาพก็ไม่สดแล้ว
การดูแล-รักษาอุปกรณ์ 13. ที่เป่าลม ผ้าเช็ดเลนส์ ปากกาเช็ดเลนส์ พกใส่กระเป๋ากล้องทุกครั้ง และหากเราออกไปถ่ายจุดที่คลื่นลมแรง ให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำ (หรือสำลี) ใส่ไว้ในถุงซิบ เพื่อทำความสะอาดฟิลเตอร์เมื่อสกปรกหรือมีละอองน้ำทะเลเกาะหน้าฟิลเตอร์ ตามด้วยผ้าแห้งสะอาดเพื่อเช็ดคราบ 14. อย่าลืมทำความสะอาดอุปกรณ์ โดยทำความสะอาดทั่วไปทุกวัน และทำความสะอาดใหญ่ทุก 3-4 วัน (ด้วยการเป่าลม ไล่ฝุ่น เช็ดด้วยผ้าบิดหมาด ล้างฟิลเตอร์ ฯลฯ) 15. บางสถานที่ บนเนินเขา ฝุ่นเยอะมาก อย่าเปลี่ยนเลนส์เด็ดขาด ให้เข้าไปนั่งในรถแล้วค่อยเปลี่ยนเลนส์จะดีกว่า และควรพกถุงพลาสติกขนาดใหญ่เผื่อกรณีฉุกเฉินไว้เปลี่ยนเลนส์ หรือไว้ใส่กล้องกันฝุ่น 16. สำหรับคนที่ใช้ Filter Lee แนะนำว่า..อย่าสวม Holder และ Filter ชนิดแผ่นค้างไว้ขณะเดิน เพราะ Filter อาจหลุด ไหลกระแทกพื้น และหายได้นะ (ทริปนี้ฟิลเตอร์ Lee ชนิด 0.6 Soft Grad ของผมบิ่น แตก และตกหายครับ ..ยังดีที่เดินย้อนกลับไปเจอ ไม่งั้นเสียตังค์ซื้อใหม่แน่นอน)
เทคนิคการถ่ายรูป 17. เวลายิงภาพจากกระจกหน้ารถขณะรถวิ่ง ควรตั้ง Speed Shutter ต่ำสุดที่ 1/500s และหากต้องการยิงวิว ทิวทัศน์จากกระจกข้างรถ ควรตั้งไว้ที่ 1/1000s ไม่อย่างนั้น ใบไม้ ต้นไม้จะเบลอ ส่วนการยิงภาพผ่านกระจกเครื่องบิน ก็ใช้เทคนิคเดียวกัน แต่อย่าใส่ฟิลเตอร์ Polarize ค้างไว้ เพราะกระจกหน้าต่างเครื่องบินมี Polarize อยู่แล้วครับ (แต่ภาพที่ได้จะมี Contrast ค่อนข้างต่ำ เพราะยิงผ่านกระจกเครื่องบิน ค่อยมาปรับแก้ไขภาพในคอมพิวเตอร์อีกที) 18. เทคนิค Expose to the Right หรือการพยายามเก็บแสงในภาพให้มากที่สุด แต่อย่าให้แสงล้น ใช้ได้ดีครับ แต่ต้องนำภาพมา Process ในภายหลัง เสียเวลาพอควร ดังนั้น หากภาพไหนไม่เน้น ยิงเป็น JPEG ดีกว่า
ข้อแนะนำการเดินทางเพื่อถ่ายรูป 19. หมั่นดูหนังสือแนะนำการท่องเที่ยว โดยเฉพาะโบรชัวร์ ภาพต่างๆ จะคัดมาสวยๆ ทั้งนั้น ทำให้เราได้มุมมองการถ่ายรูปในพื้นที่ แต่ก็นะ...อย่าเชื่อมากนัก เพราะภาพสวย (จัด) ส่วนมาก ต้องเดินขึ้นเขาเพื่อเก็บภาพ นักท่องเที่ยวจะเก็บภาพ และแสงแบบในโบรชัวร์นี่ยากมาก 20. ควรพกกระติกน้ำ ขนม คุกกี้ ติดตัว เวลาเดินออกไปถ่ายรูปมากกว่า 1 ชม. 21. กระเป๋าเป้คล่องตัวเวลาเดินทาง ไม่เมื่อย แต่สำหรับผมตลอดทริปนิวซีแลนด์...กระเป๋าสะพายข้าง (ThinkTank) ใช้งานได้สุดยอดจริงๆ เปลี่ยน ถอดเลนส์ ใส่ฟิลเตอร์ได้สะดวก (เหมือนมีโต๊ะเล็กๆ ตรงเอว) หรือจะใช้ถ่วงขาตั้งกล้องก็ยังได้ สะดวกกว่าเป้มากครับ 22. ระหว่างขับรถตามภูเขาสูง อย่ายกกล้องขึ้นสูง จนบังกระจกข้างรถ (ด้านซ้าย) นะ คนขับจะมองทางลำบาก และถ้าวิวไม่สวยจริงๆ อย่าเสียแรงกด Shutter เลย ภาพแทบไม่ค่อยได้ใช้หรอก รอถึงจุดชมวิว แล้วยิงแบบเน้นๆ ดีกว่า 23. สิ่งที่ต้องเช็คทุกเช้าก่อนเดินทาง คือค่า ISO, WB, Output (Raw หรือ Jpeg), Battery และ Memory อย่าให้ขาดนะครับ ... มีอยู่วันนึง ด้วยความรีบออกไปเก็บแสงตอนเช้า ลืมไปว่าตั้งค่า ISO ตั้งแต่ตอนเย็นที่ 800 สรุปว่าภาพทั้งวัน มีเกรนสวยงามกระจายเต็มภาพไปหมด =_=' 24. ตอนจองเครื่องบินขาไปนิวซีแลนด์ให้เลือกฝั่งขวา ส่วนขากลับให้เลือกฝั่งซ้าย และให้เลือกนั่งท้ายๆ ลำ เวลาถ่ายภาพจะได้ไม่ติดปีกเครื่องบิน ส่วนเวลาไปที่ประเทศอื่นๆ ควรเช็คเส้นทาง แผนที่ และ Location สำคัญก่อน จะได้ตัดสินใจถูกว่าจะนั่งติดกระจกซ้าย หรือขวา 25. การขนอุปกรณ์ถ่ายภาพขึ้นเครื่อง ให้หากระเป๋าเป้ที่ใส่กล้อง + Notebook และนำขาตั้งกล้องใส่ไว้ในกระเป๋าขาตั้งกล้อง เพื่อสะพายขึ้นเครื่อง (ดังนั้น เราจะมีกระเป๋า 2 ใบแบกขึ้นเครื่องนะ) โดยระวังอย่าให้กระเป๋าเกิน 7 กก. นะครับ
หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์แก่น้าๆ ป้าๆ ทุกท่านครับ พร้อมกันนี้ขอแนบ ส.ค.ส. ปีใหม่ เป็นภาพที่ถ่ายจากนิวซีแลนด์ ไว้ ณ โอกาสนี้ครับ
=============================== ชื่อภาพ: Peaceful morning @ Lake Tekapo สถานที่: Lake Tekapo, New Zealand อุปกรณ์: Nikon D700 + Carl Zeiss 85mm., ZF แนวคิด/การถ่ายภาพ: ต้องการถ่ายทอดความสวยงามของ Mt. Cook เมื่อมองจากฝั่งของ Lake Tekapo โดยต้องการให้ทุกอย่างหยุดนิ่ง ขณะเดียวกันต้องการถ่ายทอดความพริ้วไหวของต้นหญ้าบริเวณฉากหน้า เริ่มแรกจึง Balance แสงในภาพด้วยฟิลเตอร์ Lee ครึ่งซีกขนาด 3 stop จากนั้นใช้ Big Stopper ลดแสงเข้าเลนส์ 10 Stop พร้อมกับใช้ Polarize Filter ให้สีอิ่มตัว พร้อมกับเน้นรูปร่างของเมฆมากยิ่งขึ้น
ข้อมูลถ่ายภาพ: Aperture f11.0; Shutter speed 30s.; iso 200 อุปกรณ์เสริม: Lee 0.9 Hard-Grand ND + Lee Big Stopper 10 Stop + Polarize Filter การแต่งภาพ: 1. แปลงภาพจาก RAW --> TIFF 16 Bit 2. เปิดภาพด้วย Photoshop เพื่อเปิดเงาและแก้ไขส่วนสว่างด้วย Shadows (10%) /Highlights (5%) 3. กด Shift + Ctrl+L เพื่อให้ Photoshop ปรับ Auto Tone . แล้วลด Opacity ลงเหลือ 50% 4. ปรับภาพให้สว่างขึ้น โดยเฉพาะบริเวณขอบภาพ 5. Variance 15 เพื่อให้สีโดยรวมสดขึ้น (แต่ไม่กระทบกับสีที่สดอยู่แล้ว) 6. ย่อ Sharpen และใส่ขอบขาว ด้วยคำสั่ง Edit/Stroke 7. Save for web (200k)
ไว้พบกันโอกาสหน้า สวัสดีปีใหม่ครับ
จากคุณ |
:
AtomicZen
|
เขียนเมื่อ |
:
4 ม.ค. 54 08:10:46
|
|
|
|  |