ความคิดเห็นที่ 1 จริงๆ ถือว่าเราผิด ที่แอบเอารูปเขามาใช้ครับ.... แต่... ถึงอย่างไร ก็น่าเห็นใจตั้ง สี่แสนกว่า ขาดอีกนิดหน่อย ได้รถเก๋งคันนึง เลยนะ ยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับกฏหมายระหว่างชาติ.... คิดว่ามันจะตามมั๊ย..... ผมว่ามันไม่ตามมานะ..... จากคุณ : Leoman (น้าลีโอ) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 10:47:30

ความคิดเห็นที่ 2 น้าลีโอนี่พูดแล้ว ผมฟังกลับท้อแท้ขึ้นอีก "ขาดอีกนิดหน่อย ได้รถเก๋งคันนึง เลยนะ " ...... T_T ขอแสดงความเห็นใจเพื่อนน้าUrban_Parkด้วยก็แล้วกันครับ เดี๋ยวคงมีเพื่อนๆที่พอจะมีความรู้ด้านนี้เข้ามาช่วยแนะนำครับ จากคุณ : 9george (ge-or-ge) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 10:51:21

ความคิดเห็นที่ 3 ของจริงรึเปล่าครับ ระวังเป็นมิจฉาชีพนะครับ จากคุณ : ที่จุดหมาย ยังมีสายรุ้ง เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 10:57:29

ความคิดเห็นที่ 4 แล้วทำไมไม่เล่าความรู้สึกตอนที่ไปเอารูปคนอื่นมาใช้งานล่ะครับ เออง่ายดีแฮะ หารูปสวยๆมันยากตรงไหน พิมพ์ค้นหา 2 ที คลิ๊กขวาแล้ว save ทำไมต้องเปลืองทุนไปถ่ายให้โง่ ตอนนั้นสงสารเจ้าของภาพกันบ้างมั้ย ? ย้อนไป 3 ปีก่อน office ที่ผมทำงานอยุ่ต้องการใช้รูปตึกในเมืองสวยๆ ก็ให้เด็กหาจาก net แล้วมานั่งลบลายน้ำออก พอผมถามทักท้วงว่า เฮ้ย!! รูปมีลิขสิทธิ์นะ ก็ลอยหน้าลอยตาตอบว่า รู้ เนี่ยนั่งลบลายน้ำอยู่ เจ้าของมันโง่เองเอามาลง Internet เสร็จเรา ผมว่าในเมืองไทยยังมีเรื่องแนวๆนี้อีกเยอะครับ และต้องใช้เวลาอีกนานโคตรๆ ปลูกจิตสำนึกเรื่องภาพถ่าย ทำอะไรไว้ ก็ได้อย่างนั้นครับ ปลงๆไว้บ้าง อ้อ ที่มันแพงน่าจะมาจากการคำนวนด้วยระยะเวลา 3 ปีน่ะครับ แต่ก่อนจ่ายตัง ตรวจสอบหน่อยก็ดีว่าไม่ใช่ 18 มงกุด แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 54 11:01:27 จากคุณ : DSkong เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 10:57:51

ความคิดเห็นที่ 5 จริงๆแล้วถ้าเราลงเคดิตถูกต้องก็ไม่น่าจะเป็นไรนี่นา ไม่ได้เอามาใช้ประโยชน์อย่างอื่นไม่ใช่หรอ 4แสน สำหรับเราคงเยอะมาก แต่เมืองนอกคงไม่เยอะเท่าไหร่อ่ะครับ คงต้องสงจดหมายขอโทษไปหลายๆครั้งมั้ง ถ้ามันไม่ฟังก็ปิดเว็ปหนีแมร่งเลย แล้วบอกว่า จะหนีไปเขมรแล้วเฟ้ย จากคุณ : siwarut เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 11:00:53

ความคิดเห็นที่ 6 ความคิดเห็นที่ 3     ของจริงรึเปล่าครับ ระวังเป็นมิจฉาชีพนะครับ จากคุณ : ที่จุดหมาย ยังมีสายรุ้ง   ============================================ ผมกลับเห็นด้วย กับ คห. ที่ 3 นะครับ พิจารณาดีๆ ผมว่าเจ้าของรูป จริงๆ คงจะไม่มาทวงเงินค่าปรับง่ายๆ ขนาดนั้นครับ.. ตามหลักความจริง มันจะต้องมีขบวนการผ่านชั้นศาล ผมว่า อย่างน้อย เจ้าของรูปที่แท้จริง จะต้องแจ้งเตือนมาก่อน ถ้าเราไม่ยอมถอดภาพออก คงมีขั้นที่สอง ใครเคยได้รับจดหมาย (จดหมายจริงๆนะครับ ไม่ใช่อีเมล) จากเมืองนอกมั๊ย ผมได้รับบ่อย ว่าถูกล็อตเตอร์รี่บ้าง ได้รับ กรีนการ์ดบ้าง ได้รางวัลบ้าง ผมว่า จดหมายทวงหนี้ ก็คงเหมือนกัน ฟันธง จดหมายทวงหนี้ FAKE ชัวร์ แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 54 11:11:20 จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 11:08:14

ความคิดเห็นที่ 7 สิ่งที่ผมว่า น่าทำได้คือ ติดต่อกับตัวแทนในไทยของเขา เพื่อรอมชอม แต่ ต้อง ไม่เซ็นเอกสารใดๆทั้งสิ้น ยกเว้นรอมชอมที่ราคาโอเคกันได้ และขอให้แน่ใจว่า ตัวแทน คือ ตัวแทนที่ได้รับอำนาจเต็ม ไม่ใช่ตัวแทน "ทำเนียนๆ" ว่าเป็นตัวแทน เอาเงินจากเรา แล้วเก็บเข้ากระเป่าตัวเอง จ่ายให้ getty แค่เศษเสี้ยว โดยอ้างว่า รอมชอบกับเราได้ ในราคาแค่นี้ๆ .. ถ้าเขาไม่ยอม คงต้องรอให้เขาฟ้องครับ ... เพราะคดีเกิดขึ้นในไทย ศาลจะยึดหลักการตัดสินของไทย ไม่ใช่ของ getty .. มันไม่ถูกต้อง แต่ .. ถ้าจะทำ ก็คงต้องทำอย่างนี้ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 11:12:09

ความคิดเห็นที่ 8 จขกท ก็ไม่ได้เขียนนิครับว่าลงเครดิตไว้ แต่ถึงลงก็ไม่น่ารอด Getty Image เค้าเป็นเว็บขายภาพครับ ถ้าลงเครดิตแล้วเอาไปใช้ได้ฟรีเค้าจะขายยังไง จากคุณ : วาดฟ้า เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 11:12:39

ความคิดเห็นที่ 9 "ทีนี้วันดีคืนดีก็มีจดหมายมาจากทีมกฎหมายของ Getty Image" ขอดูจดหมาย........ เพื่อพิจารณาว่าเป็นของจริงหรือกรรโชก ถึงหากเป็นของจริง ก็ไม่แน่นักว่าเราจะต้องรับผิดชอบ. จากคุณ : ปรานยิ่งดี เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 11:12:41

ความคิดเห็นที่ 10 ปัญหาคือ มันเป็นความอาญาด้วย ไม่งั้นจะยุให้รอทางผู้เสียหายฟ้องศาลแล้วค่อยสู้ลดค่าเสียหาย เพราะเชื่อว่า ศาลจะไม่ให้ค่าเสียหายถึงสี่แสนหรอก มันมากไป (หลักการคำนวณค่าเสียหายของศาลจะมองจากความร้ายแรงของการละเมิดและผลประโยชน์ที่เสียไปจริง) แต่ปัญหามันคือ มันมีโทษอาญาฐานละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย (ทั้งจำทั้งปรับ) ซึ่งมันไม่ดูความเสียหายอ้ะดิ (แน่นอนว่า พฤติการณ์ไม่อุกอาจ โทษเบาหน่อย แต่ยังไงมันก็เป็น "โทษอาญา") จะอ้าง Fair use ก็ไม่ได้อีก เพราะดันเป็นเวบที่เป็นไปเพื่อธุรกิจ(ถ้าเวบบล็อกส่วนตัวเขียนเล่นในพันทิปอาจจะพอสู้ได้บ้าง) ถือเป็นบทเรียนแล้วกันนะครับ ลองติดต่อกลับไปยังเจ้าของจดหมาย ขอดูใบแต่งตั้งให้เป็นผู้มีอำนาจฟ้อง (เช่น ใบแต่งตั้งทนาย ใบแต่งตั้งให้จัดการลิขสิทธิ์ ในประเทศไทย ฯลฯ)ถ้ามันเงียบเราก็เงียบ แปลว่าลักไก่ แต่ถ้ามีตอบมา ก็เอาไปตรวจสอบ กับเวบต้นเรื่อง หรือลองปรึกษากรมทรัพย์สิน แล้วติดต่อขอลดค่าเสียหายให้พอที่จะรับได้ครับ เรื่องนี้มันก้ำกึ่งกับเรื่อง แก๊งค์ปล้นด้วย กม.ลิขสิทธิ์ กับผู้เสียหายจริง แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 54 11:18:04 จากคุณ : Players เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 11:14:46

ความคิดเห็นที่ 11 อีกนิด ที่ห่วงเรื่องโทษอาญา เพราะถ้าเขาฟ้องจริง เราทำเรื่องประกันตัวอะไรไม่ทัน (เหมือนกระทู้ดังห้องศาลาฯ) มันได้นอนคุกจริง หรือเข้าเรือนจำกันจริงๆเหมือนกันนะครับ โดยมากถ้าแกล้งกันเขาจะฟ้องศุกร์เย็น หรือช่วงติดวันหยุดยาว จากคุณ : Players เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 11:24:43

ความคิดเห็นที่ 12 เป็นค่าปรับที่เวบเรียกครับ จะเรียกค่าปรับเป็นล้าน หรือ ร้อยล้านยังได้ แต่เราจะจ่ายเท่าไหร่ให้เค้าพอใจ มันอีกเรื่องหนึ่งครับ เจรจาและต่อรอง ครับ ปล.ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่โดนหลอกด้วยนะครับ จากคุณ : เดอะไรท์ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 11:29:05

ความคิดเห็นที่ 13 พลาดไปซะแล้ว ใจเขาใจเราครับ ไหนๆก็ผิดไปแล้วต้องยอมรับทุกกรณี จะได้ผ่อนเบาแล้วก็ทำอย่างที่น้าแมวบอกไว้นั่นแหละครับ จากคุณ : สะบายดีบางกอก เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 11:30:03

ความคิดเห็นที่ 14 น่าเห็นใจครับ.. กรณีแบบนี้คิดว่าหลาย ๆ คนอาจทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่ารูปบนอินเตอร์เน็ทบางรูปมีลิขสิทธิ์ ยังไงก็เอาใจช่วยนะครับ.. จากคุณ : จรวด (Jaruad) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 11:32:48

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่เกี่ยวกับการลงเครดิตเลยครับ นี่เป็นความเข้าใจผิด ผิด ผิด ผิด อย่างมหาศาลของคนหลาย ๆ คน ตราบใดที่เจ้าของไม่รู้ก่อน ไม่ว่าเราเอารูปมาทำอะไร (การกุศลด้วยเอ้า) ก็ถือว่าละเมิด เจ้าของทราบเมื่อไรก็แล้วแต่เขาว่าจะทำอย่างไร รูปที่เอามาใช้ได้โดยไม่ต้องติดต่อกับเจ้าของคือ รูป creative commons ซึ่งมีเงื่อนไขด้วยว่า จะใช้รูปต้องใช้แบบใด ลงเครดิตอย่างไร getty image โอกาสจริงมีสูงครับ เพราะมีตัวแทนในไทย บางรายเขาก็ติดต่อมา เผื่อให้เราจ่ายเงินซื้อย้อนหลัง และหรือ สมัครสมาชิกเพื่อซื้อรูปจากเขาต่อไป + + ถ้าใครจะใช้รูปโดยหาจากเน็ต เลือกแหล่งภาพจาก wiki ครับ.... รูปจะเป็น cc เกือบหมด บางรูปไม่ฟรี เขาก็ขึ้น copy right ชัดเจน บางรูปก็ ไม่มี copy right ชัดเจน จากคุณ : proofman เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 11:41:34

ความคิดเห็นที่ 16 ในกรณีกลับกัน ถ้าคนในนี้โดนขโมยรูปไปใช้ั คงไม่มีใครบอกว่าแพงไป ถ้าจะให้แนะนำ เฉยๆไว้ครับ รอหมาย (อาจไม่เสียตัง) แต่สิ่งที่ควรทำคือไปเจรจาต่อรองแล้วจ่ายเค้าซะ จากคุณ : battler2009 เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 11:44:57

ความคิดเห็นที่ 17 อืม.. มีบริษัทนึงเอารูปผมที่ยังติดลายน้ำ ไปใส่ในโบรชัวร์ด้วยล่ะ ฟ้องดีไม๊เนี่ยะ ได้ตั้งสี่แสนเลยเหรอ (เผื่อจะได้ D3x ครบชุดซักที ) จากคุณ : Piggie MM เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 12:06:12

ความคิดเห็นที่ 18 มาเป็นกำลังใจครับ ไม่มีความรู้ทางด้านกฎหมายเลยครับ ยังไงลองไปตั้งห้อง ศาลาประชาคม น่าจะมีคนช่วยเหลือเยอะนะครับ หวังว่าจะคลี่คลายได้ด้วยดีนะครับ จากคุณ : เด็กน้อยด้อยปัญญา เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 12:10:10

ความคิดเห็นที่ 19 สงสัยพวกมงกุฎทั้ง 18 จะเปลี่ยนแนวหากิน เล่นเรื่องลิขสิทธิ์แล้ว ... มุข Call Center มันแป๊ก ... เลยต้องหากินกันใหม่ เรื่องการแอบเอารูป หรือสั้น ๆ ได้ใจความคือ "ขโมย" รูปเขามาใช้ โดยหลักก็ผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ บ้านเราอยู่แล้ว (ต่างประเทศที่เจริญแล้ว หรือที่กำลังพัฒนา (ไม่ใช่บ้านป่าเมืองเถื่อน) เขาก็ใช้แนวเดียวกัน) มีเรื่องอนุสัญญาเรื่องลิขสิทธิ์ระหว่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้อง หลักการคือ มุ่งให้ความคุ้มครองงานลิขสิทธิ์แก่คนในประเทศสมาชิก คือ คนสมาชิกประเทศใดขโมยงานของคนในสมาชิกอีกประเทศหนึ่งมาใช้ ก็ถือว่า "งาน" ที่ขโมยเขามาใช้นั้นเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ของประเทศที่คนที่ขโมยเขามาใช้ ด้วย คือ หลักการว่าไงว่า ตามกัน ......(สั้น ๆ อีกครั้ง) คือ ประเทศสมาชิก ก็จะต้องออกกฎหมายในแนวทางเดียวกัน ดีไม่ดี อาจก๊อปกฎหมายเรื่องนั้น ๆ (ต้นฉบับ) มาปรับปรุงเป็นกฎหมายภายในของสมาชิก ฉะนั้น ตัวอย่างเช่น หากการกระทำเป็นความผิดกฎหมายอเมริกา ก็ย่อมจะผิดกฎหมายไทยด้วย (ตัวอย่างชัด ๆ คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เมื่อก่อนยังไม่ชัดเจนว่า ลิขสิทธิ์หรือไม่ คือ ไม่มีนิยามขึ้นมาโดยเฉพาะ ... แต่ในตอนหลังมีการแก้ไขกฎหมายลิขสิทธิ์พร้อมทั้งเพิ่มนิยามในเรื่องนี้ว่ากันโดยเฉพาะเลย) ย้อนกลับเรื่องการเรียกร้องค่าเสียหายบ้าง โดยหลักการเจ้าของลิขสิทธิ์เขามีสิทธิเรียกร้องต่อผู้ขโมยงานเขา ที่นี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า จะตกลงกันได้มั๊ย ?? จะเชื่อได้ไงว่า คนที่เรียกร้องเป็นเจ้าของจริง ๆ ... ต้องมีกระบวนการพิสูจน์ หากของเก๊ .. ก็ว่ากันไป หากของจริง ... งานนี้ต้องจ่าย .. จ่ายมากจ่ายน้อยขึ้นอยู่กับการเจรจา ถ้าไม่จ่ายเขาก็ฟ้องศาลทรัพย์สินทางปัญญา ... โดยมากเจ้าของลิขสิทธิ์จะชนะแบบนอนมาอยู่แล้ว ... งานนี้ ก็ต้องจ่าย ตามคำพิพากษา ... ถ้าไม่มีก็ยึดทรัพย์บังคับคดี .. ก็ว่ากันไป จนกว่าจะหมดเวรหมดกรรม เพิ่มเติมอีกนิด ... โทษในคดีละเมิดลิขสิทธิ์ นอกจากเจ้าของงานเขาจะเรียกค่าเสียหายได้แล้ว  ในทางกฎหมายที่แผ่นดินจะมอบให้แก่ผู้ขโมย งาน เขามาใช้ ก็จะมีค่าปรับ และโทษจำคุก ตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป ฉะนั้น พวกที่คิดว่า ช่างแมร่ง เสรือก โง่ โพสรูปไว้ตามเน็ตเอง งั้นขอเอามาใช้ก่อนแล้ว กัน ... วันใดที่ท่านได้นอนในตะรางแล้วจะสำนึกครับ ครับ รายละเอียดเท่าที่พอรู้แบบงู ๆ ปลา ๆ ก็มีแค่นี้ ...พิจารณาเอาเองนะครับ หากท่านใดที่เชี่ยวชาญ ชำนาญก็ช่วยให้ความเห็นเพื่อให้น้า ๆ ได้รับทราบกันโดยทั่วกันครับ แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 54 12:26:46 แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 54 12:25:36 แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 54 12:15:41 จากคุณ : hing-hoy เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 12:10:20

ความคิดเห็นที่ 20 อย่างที่ 1 ผิดแน่นอน ฐานเอาภาพเค้ามาใช้ อย่างที่ 2 ภาพที่นำมาใช้ คือนำมาตั้งแต่เมื่อไหร่ อย่างที่ 3 กฏหมายไทยเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พึ่งจะเริ่ม น่าจะไม่มีผลย้อนหลัง อย่างที่ 4 ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ก็ใช้ชีวิตปกติ ลบภาพออก ไม่ต้องปิดเวป อย่างที่ 5 ถ้าเอกสารเป็นความจริง ตจ้องดูว่าเค้าฟ้องร้องเรื่องอะไร เจอเมื่อไหร่ รายละเอียดมีอะไรบ้าง อย่างที่ 6 แทนที่จะเอาเอกสาร copy หน้าเวปมาให้ทุกท่านช่วยดู เราจะได้ออกความเห็นกันว่า มันมีอะไร แค่ไหน อย่างไร ของแท้ของปลอม ทำไมต้องรีบตีต้นไปก่อนไข้ด้วยละ อย่างที่ 7 ยังไม่มีใครบอกอะไรได้ 18 มงกุฏ หรือเปล่า หรือของจริง ถ้าของจริง คุณอาจจะเป็นคนไทยคนแรกที่โดนฟ้องแบบนี้ และถ้าจริงมากๆๆ อีกสัก 5 ปี คงได้ชดใช้ และขอเวลาศาลอีก 10 ปี ผ่อนเงินค่าสินไหมทดแทน อย่างที่ 8 ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป จากคุณ : sinvorapat เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 12:10:48

ความคิดเห็นที่ 21 ขอดูจดหมายจากทีมกฎหมาย........ จากคุณ : ปรานยิ่งดี เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 12:18:32

ความคิดเห็นที่ 22 ความคิดเห็นที่ 17 อืม.. มีบริษัทนึงเอารูปผมที่ยังติดลายน้ำ ไปใส่ในโบรชัวร์ด้วยล่ะ ฟ้องดีไม๊เนี่ยะ ได้ตั้งสี่แสนเลยเหรอ (เผื่อจะได้ D3x ครบชุดซักที ) จากคุณ : Piggie MM ============================================= เอาเลยน้าหมู..... ได้ D3x เมื่อไหร่ ขอ D700 ให้ผมนะน้า แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 54 12:22:26 จากคุณ : Leoman (น้าลีโอ) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 12:21:35

ความคิดเห็นที่ 23 ผมเคยปรึกษากับน้าแมวตอนก่อนปีใหม่ว่าจะซื้อรูปจากเพื่อนๆในเว็บนี้แหละทำปฎิทินสักชุดช่วยเหลือกันเงินทองไม่รั่วใหลให้ฝรั่ง ในที่สุดฝรั่งก็ได้เงินไปจริงๆเพราะคิดไปคิดมาแล้วผมไม่เสี่ยงกับรูปที่ตีพิมพ์แล้วโดนฟ้องภายหลัง ภาพนิ่งบางตัว footage บางชิ้นซื้อมาแล้วใช้จนลืมวันดีคืนดีก็มีจดหมายมาว่าเกินเวลาแล้วถ้าจ่ายเพิ่มคิดเท่าไรได้เวลาอีกเท่าไร ผมคิดว่าเก็ตตี้ไม่มั่วหรอกครับ บางครั้งซื้อมาเป็น Local แต่พอใช้งานนานๆจนลืมเอาไปใช้เป็น Regional เก็ตตี้เขาก็เตือนมาแล้วก็จ่ายเงินเพิ่มเท่านั้นเองไม่แพงอย่างที่เข้าใจ ผมคิดว่าสี่แสนนี่คงแค่ขู่ให้กลัว เอาจริงๆจ่ายไม่มากหรอกครับ คนเคยใช้เก็ตตี้คงรู้ราคากันดีว่าราคาของเก็ตตี้มันไม่แพงเลยขอให้เข้าตามตรอกออกทางประตูเท่านั้น จากคุณ : คนธนฯ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 12:23:07

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณทุกความเห็นที่เข้ามาช่วยแชร์นะครับ เดี๋ยวจะส่งให้พี่เขาอ่าน เมื่อวานเขาโทรมาปรึกษาผมเมื่อคืน ว่าพอมีความรู้ด้านนี้ไหม เพราะเรื่องเว็บผมก็ช่วยเขาดูแลให้อยู่ เห็นพี่เขาบอกว่า เนื้อหาใน จม.บอกว่า เคยแจ้งเตือนมาแล้ว พี่เขายังเงียบหาย เลยแจ้งเป็นฉบับที่ 2 ให้ไปจ่ายทันที มิฉะนั้นจะให้ทีม กม. เขาดำเนินการ (ฉบับแรกพี่เขายังไม่เคยเห็นด้วยซ้ำ) ตอนนี้ภาพที่เอามาจากอินเตอร์เน็ตที่ไม่ใช่ภาพพี่เขา เขาลบเกลี้ยงละ ในส่วนของภาพที่เอามา ทั้งตัวพี่เขาเอง และผมเพิ่งรู้จริงๆ นะครับ ว่ามีเรื่องลิขสิทธิ์แบบนี้ด้วย หลังจากที่ได้รับจดหมายทวงหนี้ค่าละเมิดลิขสิทธิ์ (พี่เขาโทรมาถามผมว่ารู้มั๊ย ผมบอกไม่รู้มีด้วยเหรอ - -") เข้าใจว่าผิดจริงๆ หล่ะครับ แต่ 4 แสนกว่าๆ มันเยอะไปไหมครับ? ถ้าหลักพันยังพอว่า เพราะถึงจะเอาไปหารายได้ แต่ก็เป็นรายได้เสริมเท่านั้น (พี่เขารับเป็นอาจารย์สอน) ภาพในเว็บส่วนใหญ่เป็นภาพพี่เขานี่หล่ะ เคยถามๆ เขาบอกว่าถ้าไม่ว่างก็ไม่ได้รับงานด้วยซ้ำ (งานประจำบางทีเยอะจนขนกลับมาทำที่บ้าน) ส่วนตอนมีงานเข้ารายได้พิเศษอย่างมากก็ไม่เกิน 2 หมื่นบาทต่อเดือน เท่าที่ถามตอนนี้พี่เขาเอาภาพออกไปแล้วครับ โดยภาพเจ้าปัญหาที่ผมเห็นเป็นภาพขนาด 200x200 พิกเซลได้มั้ง เอามาไง ก็ใช้อย่างนั้น ไม่ได้ปรับแต่งภาพใส่ลายน้ำใดๆ ให้เข้าใจผิดว่าเป็นต้นฉบับของตนเอง ที่สำคัญเขานั่งมองหาๆ ผ่านทาง Google เอามาจากเว็บไหนก็ไม่ได้แล้ว ปล. มีพี่คนนึงส่งหน้า Blog นี้มาให้อ่าน http://www.blog72.net/index.php/being72/blog72-14-gettyimages/ โดนกันเยอะเลยครับ เห็นว่าทาง Getty Image มีหน่วยงานที่วันๆ นั่งเข้าเว็บเพื่อหาว่าใครละเมิดลิขสิทธิ์โดยเฉพาะ แล้วส่งจม. ให้มาจ่ายค่าปรับกันบานเลย แต่ละคนเป็นแสนๆ ทั้งนั้น ปล. 1 ปกติถ้าเว็บเขาไม่อนุญาตให้ใช้ภาพ หรือเนื้อหา มักจะเขียนโค้ดป้องกันไม่ใช่เหรอครับ เห็นบางเว็บพอเราคลิกขวา มันจะมีหน้าต่างแจ้งเตือนประมาณไม่ให้ Save นี่นา หรือถ้าซื้อ-ขายก็ต้องชำระเงินก่อน ถึงได้รับรหัสผ่านเข้าไปดาวโหลดได้ แต่นี่ไม่มีอะไรป้องกันเลย เหมือนจงใจให้โหลดแล้วมานั่งจับลิขสิทธิ์เรียกเงินจำนวนสูงๆ กันแน่ครับ? แก้ไขเพิ่มข้อความ >> เพิ่มอีกนิดนะครับ เมื่อวานตอนพี่เขาโทรมาถามผมว่า รู้จัก Getty Image มั๊ย มันมีตัวตนจริงหรือเปล่า เนี่ยเขาส่งจม.มาทวงค่าลิขสิทธิ์อ่ะ ว่าไปเอารูปเขามาใช้ หรือจะเป็นพวกมิจฉาชีพ 18 มงกุฎมาแอบอ้างทวงเงิน ผมบอกไปว่า ผมไม่รู้จักครับ ขอถาม goole ก่อน (พอค้นหาไปๆ มาๆ ก็เลยเจอหลายเคสเหมือนกันนะครับ ที่เจอจับจาก Getty Image) เรื่องภาพอย่างที่บอกไว้นะครับ Save จากเว็บอื่นมานานแล้ว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเอามาจากเว็บไหน จะใช่ Getty Image หรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะภาพบางภาพ ยังไปเจอภาพซ้ำกันเลย แต่เป็นคนละเว็บที่เอาไปใช้งาน แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 54 13:04:01 จากคุณ : Urban_Park เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 12:47:59

ความคิดเห็นที่ 25 ถึง คคห. 4 ผมตอบส่วนตัวนะครับ เพราะเวลาทำ Presentation ส่วนใหญ่ก็หาจากทางเน็ต ซึ่งรูปที่ผมใช้ก็คือ สวยแล้วเข้าคอนเซปของงานพอดี ถามว่ารู้มั๊ยเรื่องลิขสิทธิ์ ก่อนหน้านั้นผมไม่รู้เลย จนพี่เขามาเจอนี่หล่ะ ถึงรู้ว่ามีด้วยเหรอ? เข้าใจว่าในมุมมองของคนถ่ายภาพซึ่งเป็นเจ้าของภาพก็รู้สึกไม่ดี ที่มีคนเอาภาพไปใช้โดยไม่ได้ขออนุญาตนะครับ แต่ในมุมของคนเอาไปใช้ไม่ได้คิดถึง และมีเจตนาไม่ดีจริงๆ นะครับ อย่างของผม รูปไหนติดลายน้ำผมไม่ลบครับ ก็ไม่เอารูปนั้น หารูปอื่นมาแทนก็ได้ แต่ถ้าเข้าคอนเซปของงาน ผมก็เอามาทั้งลายน้ำนั่นหล่ะ เพราะแค่เอามาประกอบในงาน เลยไม่มีความจำเป็นต้องมานั่งลบ จากคุณ : Urban_Park เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 12:56:45

ความคิดเห็นที่ 26 คุณ Players ครับ เท่าที่ผมอ่านๆ ดู เจ้าของภาพไม่ได้ฟ้องนะครับ แต่เป็น Getty Image ที่ฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์เขามาอ่ะครับ จากคุณ : Urban_Park เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 13:05:22

ความคิดเห็นที่ 27 ขั้นตอนการดำเนินคดี “ละเมิดลิขสิทธิ์” ยังมีข้อยุ่งยาก และเส้นทางอีกยาวไกล ส่วนมากผู้เสียหายจะไม่ฟ้องคดีด้วยตนเอง เนื่องจากพิสูจน์ความผิดยากมาก ๆ แต่จะใช้วิธีแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน (ตำรวจ) เพื่อให้รวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินคดีแทน คดีเช่นนี้ “เป็นความผิดอันยอมความได้” คือจะประนีประนอมยอมความกันเมื่อไรก็ย่อมได้ ขั้นตอนนี้เรื่องยังจิ๊บ ๆ หากท่านใดโดนเข้าให้แล้ว ต้องจำไว้ว่า “ฉันไม่รู้ ไม่เกี่ยว ไม่กลัว ไม่หนี ไม่เจรจา และไม่จ่าย” จากคุณ : ปรานยิ่งดี เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 13:14:32

ความคิดเห็นที่ 28 #26 ในที่นี้ผมมองว่า Getty เป็นเจ้าของภาพ (หรืออย่างน้อยก็เป็นผู้เสียหาย) นะครับ คือเป็นผู้ถือ "สิทธิ" ในการให้ใช้ภาพ ขอตอบบางประเด็นที่น่าสนใจ และยังเห็นว่าคลาดเคลื่อนอยู่ ก. การนำภาพในเน็ทมาใช้แต่อ้างอิงแหล่งที่มา จริงๆ นั้น มีกรณีที่ทำได้ "ทำได้" นะครับ ถ้าไม่ได้กระทำเพื่อการค้า ไม่ได้ทำให้เจ้าของลิขสิทธิ์เสียประโยชน์เกินสมควร หรือเพื่อการศึกษา ดู พรบ. ลิขสิทธิ์ 2537 มาตรา 32 "...การกระทำแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ของบุคคลอื่นตามพระราชบัญญัตินี้ หากไม่ขัดต่อการแสวงหาประโยชน์จากงานอันมีลิขสิทธิ์ตามปกติของเจ้าของ ลิขสิทธิ์และไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของเจ้าของลิขสิทธิ์เกินสมควร มิให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ภายใต้บังคับบทบัญญัติในวรรคหนึ่ง การกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ตามวรรคหนึ่ง มิให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้กระทำดังต่อไปนี้ (๑) วิจัยหรือศึกษางานนั้น อันมิใช่การกระทำเพื่อหากำไร (๒) ใช้เพื่อประโยชน์ของตนเอง หรือเพื่อประโยชน์ของตนเองและบุคคลอื่นในครอบครัวหรือญาติสนิท (๓) ติชม วิจารณ์ หรือแนะนำผลงานโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น (๔) เสนอรายงานข่าวทางสื่อสารมวลชนโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น (๕) ทำซ้ำ ดัดแปลง นำออกแสดง หรือทำให้ปรากฏ เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาของศาลหรือเจ้าพนักงานซึ่งมีอำนาจตามกฎหมาย หรือในการรายงานผลการพิจารณาดังกล่าว (๖) ทำซ้ำ ดัดแปลง นำออกแสดง หรือทำให้ปรากฏโดยผู้สอน เพื่อประโยชน์ในการสอนของตน อันมิใช่การกระทำเพื่อหากำไร (๗) ทำซ้ำ ดัดแปลงบางส่วนของงาน หรือตัดทอนหรือทำบทสรุปโดยผู้สอนหรือสถาบันศึกษา เพื่อแจกจ่ายหรือจำหน่ายแก่ผู้เรียนในชั้นเรียนหรือในสถาบันศึกษา ทั้งนี้ ต้องไม่เป็นการกระทำเพื่อหากำไร (๘) นำงานนั้นมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการถามและตอบในการสอบ อันนี้เป็นหลักของ Fair Use ครับ เป็นหลักกฎหมายลิขสิทธิ์สากลอย่างหนึ่ง แต่กรณีปัญหานี้ เป็นการใช้เพื่อการค้า เลยอ้างมาตรานี้ไม่ได้ คือถ้าเป็นเวบบล็อกส่วนบุคคล ไม่มีการหากำไรหรือไม่มีแม้แบนเนอร์สักอันนี่ หรือเอามาตอบกระทุ้ ฯลฯ อาจจะสุ้คดีได้ครับ ข. เจ้าของภาพต้อองหวงกันการใช้ภาพหรือไม่ ? เช่น การห้ามเซฟ ทำลายน้ำ เขียนห้ามละเมิดลิขสิทธิ์ไว้ในภาพหรือในเวบ อันนี้ไม่จำเป็นครับ กฎหมายไทยถือว่า การเผยแพร่ ถือเป็นการประกาศลิขสิทธิ์ในตัวแล้ว ส่วนกฎหมายอีกหลายระบบ เพียงเขาประกาศ (C) บนงาน นั่นถือว่าเขาหวงกันลิขสิทธิ์แล้วครับ ค. กฎหมายคอมพิวเตอร์เพิ่งประกาศใช้ไม่มีผลย้อนหลัง อันนั้นเป็นเรื่องความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ครับ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ในภาพถ่าย เป็นไปตาม พรบ. ลิขสิทธิ์ 2537 ซึ่งคุ้มครองงานภาพถ่าย ตามมารา 4(5) อยู่แล้ว สรุปว่า ถ้าทำเวบเพื่อการค้า มีโฆษณา หรือมีการรับประโยชน์แม้เพียงน้อย ถ้าภาพหรือข้อความนั้นเราไม่ได้สร้าง เขียน ถ่าย ขึ้นเอง ทุกงาน "ต้อง" ขอใช้ลิขสิทธิ์หมดครับ ส่วนงานไม่ใช่เพื่อการค้า หรือหาประโยชน์ ก็ต้องใช้แต่พอสมควร อ้างอิงให้ถูกต้อง (เหมือนเขียนรายงาน) แต่ก็ต้องไม่ถึงขนาดทำให้เจ้าของลิขสิทธิ์เสียหาย เช่น  แสกนการ์ตูนเขามาทั้งเล่มลงเวบ ถึงทำแจก ก็ผิดกฎหมายครับ จากคุณ : Players เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 13:32:46

ความคิดเห็นที่ 29 คือเรื่องลิขสิทธิ์นี้ ถ้าเอากันจริงๆ ไม่มีหลัก Fair Use นี่ เราจะแทบทำอะไรไม่ได้เลยนะครับ ภาพประกอบในกระทู้นี่ ถ้าไม่ได้ถ่ายเองวาดเอง แทบลงไม่ได้เลย (อย่างข่าวกล้องเปิดตัว หรือเอารูปจากช่างภาพระดับโลกมาลงเป็นตัวอย่าง มารีวิว ฯลฯ) แต่ถ้าเราใช้อย่าง Fair use (ไม่ใช้เพื่อการค้า ไม่ขัดต่อทางทำประโยชน์ของเจ้าของงาน) มันก็อยู่ในเกณฑ์ที่ทำได้ครับ จากคุณ : Players เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 13:36:59

ความคิดเห็นที่ 30 ยกตัวอย่าง.......... ฉันไม่รู้ ไม่เกี่ยว "ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป" กรณีนี้ PANTIP.COM แสดงชัดเจนว่า ไม่มีเจตนาละเมิดลิขสิทธิ์ หรือสิทธิใด ๆ หากมีรูปภาพหรือข้อความที่ไม่เหมาะสม (รวมถึงละเมิด) ทีมงานทราบแล้ว ก็จะดำเนินการต่อไป (เช่นเอาภาพออก หรือลบกระทู้ทันที) เมื่อไม่รู้ ไม่เกี่ยว ก็คือไม่เจตนา ย่อมไม่มีความผิด. จากคุณ : ปรานยิ่งดี เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 13:43:41

ความคิดเห็นที่ 31 #31 กรณีเวบแบบที่เวบมาสเตอร์หรือทีมงานเท่านั้นที่มีสิทธิอัพโหลดภาพขึ้นได้ มันจะยกข้อต่อสู้แบบนี้ไม่ได้น่ะสิครับ จากคุณ : Players เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 13:50:14

ความคิดเห็นที่ 32 ขอสรุปสุดท้ายส่วนตัวสำหรับคำตอบของผมนะครับ ผมว่า ตอนนี้ รุ่นพี่ของเจ้าของกระทู้ รีบสืบข่าวเลยว่า เป็น Getty หรือผู้ถือสิทธิ์ที่มีอำนาจฟ้องจริงหรือไม่ ถ้าใช่ รีบเจรจา เพราะสถานการณ์เป็นรอง ถ้าเขายังยืนยันว่าจะเรียกเท่านี้ หรือยังเรียกแพง ค่อยลุ้นให้ฟ้องเอาแล้วไปสู้ขอลดค่าเสียหายในชั้นศาล เชื่อว่า จากพฤติการณ์การใช้งาน ศาลไม่ให้ค่าเสียหายเป็นแสนหรอก แต่เราก็ผิดจริงแบบหาข้อต่อสู้ไม่ค่อยได้ครับ อย่าเชื่อคำแนะนำจากคนในเน็ท เชื่อว่าไม่มีใครเป็นทนาย หลายคำตอบก็มั่วและเดาเอา ไม่ได้เรียนกฎหมายลิขสิทธิ์มาด้วยซ้ำ (อาจจะรวมถึงของผมด้วยซ้ำนะ) ควรหาทนายความจริงจังที่มีประสบการณ์ว่าคดีลิขสิทธิ์ หรือลองขอคำแนะนำจากกรมทรัพย์สินทางปัญญาครับ แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 54 13:58:47 แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 54 13:56:29 จากคุณ : Players เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 13:53:52

ความคิดเห็นที่ 33 “ฉันไม่รู้ ไม่เกี่ยว ไม่กลัว ไม่หนี ไม่เจรจา และไม่จ่าย” หมายความว่า ฉันไม่รู้ ไม่เกี่ยว คือ ไม่มีเจตนากระทำความผิด และยังไม่ยอมรับว่าฉันทำผิด ไม่กลัว ไม่หนี ไม่เจรจา คือ คุณเป็นผู้เสียหายจริงหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ ฉันจะต้องกลัวทำไม มาทวงหนี้แบบปล้นกันเยี่ยงนี้ ฉันไม่ยอมเจรจาด้วยหรอก กลัวโดนหลอก ไม่จ่าย คือ รอหมายเรียกจากตำรวจก่อน ค่อยเจรจาก็ยังไม่สาย. จากคุณ : ปรานยิ่งดี เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 14:00:51

ความคิดเห็นที่ 34 ตอบ 25 ในเมื่อตอนนี้รู้แล้วว่ารูปภาพทุกรูปมีเจ้าของก็อย่าทำเลยครับ โดยเฉพาะเอาไปใช้ในงาน หมายความว่าคุณเอาไปใช้ประโยชน์ในทางที่ก่อให้เกิดรายได้ การไม่ลบลายน้ำไม่ได้หมายความว่าคุณเอารูปไปใช้ได้ ขอให้ย้อนไปอ่านคห 15 ครับ แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 54 23:13:58 จากคุณ : DSkong เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 14:03:24

ความคิดเห็นที่ 35 ขออนุญาตคุณ #33 นะครับ อีรอหมายเรียกตำรวจนี่ผมกลัวมันเข้าสุ่กระบวนการของคดีอาญาไปแล้วน่ะสิ และทีนี้เขาจะถือไพ่เหนือกว่าสุดๆเลยน่ะสิครับ คือการเจรจาอะไรก็อยู่ในฐานะของการเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลย มันจะสายไปก็ตรงนี้ มันไม่ใช่ "คู่สัญญา" ที่อาจจะเจรจาได้เท่าเทียมกันแล้ว (จากที่หลายท่านให้ข้อมูลมาคือ เหมือนเขาขู่ให้ไปทำสัญญาใช้ภาพให้ถูกต้องมากกว่า) ถ้าอีกฝ่ายเลวร้ายมากๆ หรือซวย จับหรือสอบสวนกันบ่ายศุกร์ อาจจะได้นอนห้องกรงจริงนะครับ เพราะเท่ากับว่าเป็น "ฝ่ายเขา" ที่มีอำนาจในการ "ถอนฟ้อง" หรือ "ยอมความ" แล้ว ถ้าเขาไม่ยอม ก็ต้องประกันตัวสู้คดี ไม่สนุกนะครับ คดีอาญาด้วย (ลองอ่านกระทู้ดังๆ ห้องศาลา สักเดือนที่แล้วดูสิครับ อันนั้นคือ ถูกจับวันศุกร์ เสาร์อาทิตย์ศาลปิด ประกันตัวไม่ทัน ไปนอนลาดยาวสามคืนเลย) จากคุณ : Players เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 14:07:22

ความคิดเห็นที่ 36 ความเห็นที่ผมให้ไว้ เป็นการให้ความเห็นในลักษณะภาพรวม ถ้าได้ประโยชน์ก็นำไปใช้ ถ้าไม่ได้ประโยชน์ก็ทิ้งไว้ เดี๋ยวกระทู้นี้ก็ถูกลบตามกาลเวลา แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 54 14:21:44 แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 54 14:18:23 จากคุณ : hing-hoy เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 14:16:14

ความคิดเห็นที่ 37 #35 หมายเรียกนะ  ไม่ใช่หมายจับ ปกติแล้วคดีจิ๊บ ๆ อย่างนี้ ตำรวจจะออกหมายเรียกก่อนเสมอ ถ้าขอหมายจับทันที ศาลก็จะไม่ออกให้ แต่จะสั่งให้ออกหมายเรียกก่อน กลัวอะไรกับคดีอาญา เมื่อยอมความแล้ว ทุกอย่างก็จบ คดีเช่นนี้ “เป็นความผิดอันยอมความได้” คือจะประนีประนอมยอมความกันเมื่อไรก็ย่อมได้ จากคุณ : ปรานยิ่งดี เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 14:16:19

ความคิดเห็นที่ 38 กลัวมันเป็นอย่างกระทู้นี้น่ะสิครับ http://www.pantip.com/cafe/social/topic/U10009226/U10009226.html ไอ้ยอมความได้มันไม่น่ากลัวน่ะใช่ครับ แต่ถ้าเรื่องมันถึงตำรวจแล้ว คนจะยอมความ คือ เจ้าของลิขสิทธิ์ เท่ากับว่า การเจรจา "ต้อง" เป็นที่พอใจของเขา เขาถึงจะยอมความให้ แล้วสำคัญกว่านั้น, ก็เป็นเรื่องที่เคยได้ยินกันอยู่แล้ว ว่าตำรวจ "มัก" เข้าข้างหรือกระทำเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายเจ้าของลิขสิทธิ์เสียด้วย คดีลิขสิทธิ์ขี้หมาแบบนี้ มีเข้าห้องขังจริงรอประกันกันเหมือนกันนะครับ (จำข่าว คนขายหนังสือมีตัวซูปเปอร์แมน ถูกเจ้าของลิขสิทธิ์ซูปเปอร์แมน พาตำรวจมาจับไปที่ร้านกลางห้างได้ไหมครับ - นั่นไม่รอหมายเรียกเลยนะ) จากคุณ : Players เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 14:27:38

ความคิดเห็นที่ 39 ข่าวครับ http://www.internetcafe.in.th/archive/index.php/t-18721.html คือ คดีแสนจะไม่มีมูล (ถ้าไปเอารูปซูปเปอร์แมนพิมพ์ปกก็ว่าไปนะ) ยังเล่นกันได้เดือดร้อนขนาดนี้ ถ้าตำรวจกับเจ้าของลิขสิทธิ์ร่วมมือกันเพื่อผล "บางอย่าง" น่ะนะ ไม่รู้เหมือนกันนะครับ เรื่องแบบนี้แล้วคงแต่ประสบการณ์ แต่ถ้าเป็นตัวผม หรือญาติพี่น้องคนรู้จักผมโดน แล้วถ้าตรวจสอบจนแน่ใจว่า ไอ้ที่ส่งมา มันเป็นผู้มีสิทธิหรือถือสิทธิ์จริง ผมก็ไม่กล้ารออยู่เฉยๆฮะ สรุปว่า ก็แล้วแต่จะตัดสินใจกันก็แล้วกัน คือผมก็เห็นด้วยครึ่งๆนะว่า ไม่ต้องกลัวหรือลนลานเอาเงินสี่แสนไปจ่าย แต่ฟังๆแล้ว ก็รู้สึกว่าอยู่รอเฉยๆ ก็ไม่น่าได้เหมือนกัน ถ้าเขามีตัวแทนในประเทศไทยแล้ว และมีแนวทางให้ไปจ่ายหรือไปทำสัญญาแล้วยอมความได้ แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 54 14:41:40 แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 54 14:35:26 แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 54 14:30:37 จากคุณ : Players เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 14:30:06

ความคิดเห็นที่ 40 พี่เขาฝากถามว่า ถ้าปิดเว็บไปเลยหล่ะครับ เพราะมันไม่ได้จำเป็นหรือสร้างรายได้ ขนาดที่จะต้องเก็บไว้ใช้งานต่อไปหนะครับ แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 54 14:31:56 จากคุณ : Urban_Park เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 14:31:15

ความคิดเห็นที่ 41 หมายเรียก คือ หมายที่่พนักงานสอบสวนขอให้บุคคลใดมาที่พนักงานสอบสวน ตำรวจจะขังไม่ได้ เว้นแต่รวบรวมพยานหลักฐานมั่นคงแล้ว และมีเหตุสงสัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ต้องหา ที่มาตามหมายเรียกจะหลบหนี กรณีไม่ใช่ความผิดซึ่งหน้า ตำรวจจะจับโดยไม่มีหมายจับไม่ได้ การมาตามหมายเรียก ตำรวจต้องให้ประกันตัวเสมอ ถ้าฝ่าฝืนจะมีความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ขออนุญาตอยู่ในกระทู้ ไม่ขอแตกประเด็นไปกระทู้อื่น. แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 54 15:47:59 จากคุณ : ปรานยิ่งดี เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 14:53:28

ความคิดเห็นที่ 42 #40 หากความผิดคดีอาญาได้เกิดขึ้นแล้ว ถึงปิดเว็บหนี ความผิดก็ยังคงมีอยู่ และคดีอาญาไม่ระงับ. จากคุณ : ปรานยิ่งดี เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 14:55:17

ความคิดเห็นที่ 43 ก็แล้วแต่ฮะ ตามกฎหมายก็ตาม #41 ไม่เถียงเลย แต่ผมกลัวเรื่องอื่นน่ะสิ เอาว่า ถ้าเป็น "ตัวผมเอง" ในคดีที่มีโทษอาญา ถ้าทำได้ ผมขอเจรจาก่อนเจอตำรวจดีกว่าฮะ โดนหมายเรียกแม้จะรู้ว่ามัน "ไม่มีอะไร" แต่ไปขึ้นโรงพักแล้วอาจถูกแจ้งข้อหา ต้องหาเงินประกันตัว (ไม่ว่าจะชั้นไหน) มันก็ไม่ค่อยน่าสนุกอยู่ดี สมมติ เรามาตามหมายเรียกแล้ว แต่มันติดเย็นศุกร์หรือวันรุ่งขึ้นเป็นวันหยุดราชการ แล้วเขาบอกสอบสวนไม่เสร็จ หรือทำเรื่องประกันไม่ทัน ทำอย่างไร ฯลฯ คดีในกระทู้ดัง ก็น่าจะเป็นหมายเรียกเหมือนกัน เพราะมาโรงพักด้วยตัวเอง ไม่ได้ถูกจับมา ไม่รู้ละครับ ผมกลัว >< แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 54 15:10:29 จากคุณ : Players เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 15:08:28

ความคิดเห็นที่ 44 #43 การได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว (ประกันตัว) เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ ข้ออ้างว่า "สอบสวนไม่เสร็จ หรือทำเรื่องประกันไม่ทัน" มิใช่ข้ออ้างอันมีเหตุผลสมควร และฟังไม่ขึ้น ผู้ถูกละเมิดสิทธินั้น ควรร้องเรียนหรือฟ้องร้อง เพื่อรักษาสิทธิแห่งตน. จากคุณ : ปรานยิ่งดี เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 15:22:16

ความคิดเห็นที่ 45 เวลาเอเจนซี่จ้างนายแบบนางแบบมาถ่ายรูปโฆษณา ภาพนั้นก็มีสัญญาเรื่องระยะเวลา ถ้าใช้ภาพนั้นเลยสัญญาวันเดียว เราก็มีสิทธิ์โดนปรับอ้วกเหมือนกัน เรื่อง Font ก็เช่นกัน บางตัวก็ต้องเสียเงินซื้อมานะครับ บริษัทพวกนี้หูตากว้างมาก เพราะโอกาสโดนละเมิดมีสูง เพราะทำได้ง่ายๆ เค้าเลยต้องป้องกันตัวเอง อย่าคิดชุ่ยๆว่าคงไม่มีใครเห็นหรอก เค้าคงไม่รู้หรอก....คิดแบบนี้จัดว่าโง่ มักง่าย และเห็นแก่ตัวมากๆ ** เอเจนซี่ที่ผมเคยทำงานอยู่ เป็นเอเจนซี่เล็กๆ แต่ต้องจ่ายค่าสมาชิก Getty และ Shutter stock เป็นจำนวนเงินมหาศาลมากๆ เพื่อเอามาใช้ในการทำงาน คิดจะทำมาหากินมันต้องมีต้นทุนครับ ปล้นกันเอามาเฉยๆไม่ได้ ขโมยของใน7-11 เค้ายังปรับ 10 เท่ากันเลย จากคุณ : No Nothing เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 16:18:12

ความคิดเห็นที่ 46 นี่ก็โดน http://doglookplane.multiply.คอม/journal/item/76 แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 54 17:15:31 จากคุณ : Yongy เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 17:15:16

ความคิดเห็นที่ 47 คุณ No Nothing ครับ อ่านดีๆ ครับ ไม่ได้ปล้นนะครับ แต่พี่เขาไม่รู้จริงๆ ว่าภาพบนอินเตอร์เน็ตมันมีลิขสิทธิ์ พี่เขายังถามอยู่เลยว่า Getty Image คือะไร เขากลัวว่าเป็น 18 มงกุฏมาหลอกด้วยซ้ำ จากคุณ : Urban_Park เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 17:25:49

ความคิดเห็นที่ 48 คุยกันได้ครับมันไม่เลวร้ายถึงขนาดนั้นหรอก จากคุณ : F:A:B:R:E เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 17:33:34

ความคิดเห็นที่ 49 ถ้ามอบตัวชั้นตำรวจ ปกติสถานีตำรวจเขาทำงานกันทั้งวันทั้งคืน ร้อยเวรก็มีเข้าเวรตลอด 24 ชั่วโมง เรื่องประกันตัวทำไมจึงประกันตัวได้แต่เฉพาะช่วงวันเวลาราชการ คิดว่าแปลก ๆ แต่ถ้าสมมติว่าซวยไป ร้อยเวรไม่ให้ประกันตัว แต่ก็จะควบคุมตัวเราได้ไม่เกิน 48 ชั่วโมง (ควบคุมที่ สน.) แล้วต้องพาตัวเราไปฝากขังที่ศาล (ฝากขังในวันและเวลาราชการ หรือถ้าตรงกับวันหยุด จะฝากขังในช่วงครึ่งวันเช้าของวันหยุดซึ่งศาลจะเปิดทำการในกรณีรับฝากขังอย่างนี้เป็นพิเศษ) ถ้าไม่พาตัวเราไปฝากขัง เขาไม่มีอำนาจควบคุมตัวเรา ถ้ายังดื้อควบคุมตัวอยู่จะมีปัญหาถูกฟ้องร้องและถูกร้องเรียนทางวินัยได้ ตำรวจส่วนใหญ่ไม่เสี่ยงค่ะ พอมาฝากขังที่ศาล อำนาจการสั่งประกันอยู่ที่ศาลแล้ว (ถ้าในกทม. คือศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง) อย่างน้อยเวลาผ่านไปขนาดนั้นเราก็พอจะขยับขยายขอให้ญาติพี่น้องมาขอประกันได้ ยิ่งถ้าเป็นกรณีเข้ามอบตัวด้วยตัวเองก็ยิ่งเห็นว่าไม่น่าจะหลบหนี เป็นเหตุที่ศาลน่าจะเห็นใจมากขึ้น ถ้าเป็นกรณีถูกควบคุมตัวในชั้นฟ้อง ไม่ใช่ชั้นฝากขังล่ะ - ถ้าอัยการเป็นคนฟ้อง วันฟ้องเขาจะนัดคุณให้ไปพบ บางทีขณะนั้นคุณอาจจะประกันตัวกับตำรวจ/อัยการ หรือประกันตัวกับศาลไว้แล้ว แปลว่ามีหลักทรัพย์เตรียมทำเรื่องประกันต่อ และพอจะรู้ล่วงหน้าว่าจะทำเรื่องประกันอย่างไรดีแล้ว   - ถ้าโดนบริษัทผู้เสียหายฟ้องเอง ศาลต้องไต่สวนมูลฟ้องก่อน คุณจะได้รับหมายแจ้งวันนัดไต่สวนมูลฟ้อง ซึ่งคุณจะไปศาลหรือไม่ก็ได้ ให้ทนายไปศาลแทนก็ได้ (ยังไม่ต้องประกันตัวเพราะยังไม่ถือว่าคุณเป็นจำเลยจริง ๆ) แต่จำเลยหลายคนเลือกที่จะไม่ไปแล้วตั้งทนายความไปแทนซึ่งทนายความมักจะแนะนำว่าเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า หลังจากนั้นถ้าศาลเห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับรับฟ้อง ถ้าจำเลยไม่ไปศาลในวันที่ศาลสั่งประทับรับฟ้อง ศาลจะหมายเรียกคุณ (จำเลย)ไปสอบคำให้การ  ตอนนี้คุณจะต้องเตรียมประกันตัว แต่ก็จะทราบล่วงหน้าว่าจะต้องไปศาลวันไหน และปกติการส่งหมายจะส่งล่วงหน้า น่าจะมีเวลาเตรียมประกันตัวพอสมควร ก็เป็นข้อมูลเผื่อว่ากลัวจะต้องติดคุก หรือมีปัญหาไม่ได้ประกันตัวค่ะ ข้อมูลที่เอามาเล่า ก็ยำ ๆ จากที่ฟังเขามาบ้าง จากประสบการณ์บ้าง จากตัวบทกฎหมายบ้าง จะให้แจงเชิงอรรถอย่างละเอียดคงไม่ได้ หวังว่าคงจะเป็นข้อมูลเบื้องต้นก่อนจะไปขอคำแนะนำโดยตรงจากทนายความค่ะ ขอให้คุยกันสำเร็จค่ะ จากคุณ : มานะฯ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 20:55:47

ความคิดเห็นที่ 50 กระทู้นี้ มีประโยชย์ครับ... ช่วยกันโหวต ให้ติด กระทู้แนะนำ อาทิตย์หน้าได้มั๊ยครับ.... อยากให้ทุกๆ คนได้รับทราบถึงการละเมิดลิชสิทธิ์ ขอบคุณครับ จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 23:22:02

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณคุณมานะฯ คห. 49 ครับ จริงๆ เคยไปช่วยให้กำลังใจประกันตัวคนอยู่เหมือนกันครับ (ความผิดฐานอื่น) ตอนนั้นตำรวจก็ทำงานกันถึงสามสี่ทุ่้มเหมือนกัน คืนวันศุกร์ แล้วก็ให้ประกันตัวไป แต่อันนั้นที่กองปราบฯ และเพราะคนรู้ข่าวตามไปให้กำลังใจกันเยอะ มีทั้งอาจารย์สอนกฎหมาย (แต่เป็นอาจารย์สอนรัฐธรรมนูญกะปกครอง T_T) และคนอื่นๆ ที่พอรู้เรื่องกระบวนการนี้ แต่คนที่ผมไปให้กำลังใจ ก็ต้องเข้าห้องขังไปจริงๆ เหมือนกัน และตอนนั้นเหมือนๆ เราคุยกันว่า ยังไงต้องให้ได้ประกันคืนนี้ เดี๋ยวพี่เขาต้องนอนห้องขังกองปราบสองคืนแหง เลยไม่แน่ใจว่า ถ้าเป็นกรณีคนปกติ ในโรงพักปกติ ไม่มีเพื่อนไปด้วย มันจะได้อย่างนี้ไหม เพราะเรื่องสอบสวนไม่เสร็จติดเสาร์อาทิตย์ต้องนอนห้องขัง สน. ฟรี ก็มีจริงๆเหมือนกัน (อย่างน้อย สมาชิกพันทิปคนหนึ่ง เคยโดนไป คดี ตั๊ก บงกช) จากคุณ : Players เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 00:28:04

ความคิดเห็นที่ 52 ปีที่ฝ่านมา เวปของบริษัทผมก็โดนไปครับ คนที่รับจ้างทำเวปไปเอารูป Getty มาใช้ รูปเล็กๆ ขนาดประมาณ 1นิ้ว   2 รูป โดนเรียกมา 4xxxx เบื้องต้นก็สืบไปก่อนให้รู้ว่าเป็นตัวแทน Getty จริง แล้วก็ทำการเจรจาต่อรอง สุดท้ายก็จ่ายไปประมาณ 15xxx จากคุณ : มะพร้าวปั่น เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 09:26:15

ความคิดเห็นที่ 53 ลองเช็ค เรท ค่าสิทธิที่คนโดน Getty ไปจริง อีกสัก 2-3 คน ก็น่าจะรู้ว่า Bottom Line ที่ Getty ยอมรับได้โดยการเจรจา จะเป็นเท่าใด เท่าที่คำนวณคร่าว ๆ และจากการตรวจสอบราคาบอกผ่านจะอยู่ที่ 40 เปอร์เซ็น ของราคาตั้ง ฉะนั้น ถ้า เพื่อนรุ่นพี่ ของ จขกท. จ่ายเงิน 40 เปอร์เซ็นให้เขา ก็จบ แต่ถ้าจะรอให้จบศาล ต้องหาข้อมูลก่อนว่า ค่าทนายของเพื่อนรุ่นพี่ จขกท. เท่าไหร่ และยังไง ก็อย่าลืมว่า ฝ่ายเราแพ้คดีอยู่แล้ว ค่าจ้างทนายฝ่ายโจทก์ เราก็ต้องจ่ายด้วย เกิดเขาใช้ Law Firm ตปท. ค่าชั่วโมงแพง ๆ เข้าไปด้วย เข้าใจว่า ค่าทนายฝั่งเขาก็ไม่น่าต่ำกว่า 150,000 บาท ต้องเปรียบเทียบกัน ให้ดี ในทางธุรกิจเมื่อมีราคาเปรียบเทียบกัน .. เขาจะยอมเสียเงินที่ต่ำกว่า จำนวนเงินที่เขาจะต้องเสียเสมอ จากคุณ : hing-hoy เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 13:53:02

ความคิดเห็นที่ 54 ขอบคุณครับ ผมลองตั้ง Facebook สอบถามดูเหมือนกัน ก็มีเพื่อนในกลุ่มสมัยมหาวิทยาลัยผมเองนี่หล่ะเข้ามาตอบ บอกว่าเจอค่าปรับเป็นแสนเลย แต่ผมไม่แ่นใจว่าเป็นเว็บเกี่ยวกับอะไร ทีนี้มันก็เลยไปปรึกษาทนายความของบริษัทที่มันทำงานอยู่ ซึ่งคำตอบก็คือ ให้เงียบๆ ไว้ แล้วรอดูสถานะการณ์ ตอนนี้ผ่านมาได้ 2-3 เดือนแล้วครับ เพื่อนผมบอกว่ายังไม่เจอหมายเรียกหรืออะไรทั้งนั้นจากทาง Getty Image อีก และสุดท้ายครับ ราคาถึงจะ 1 หมื่น หรือ 4 หมื่น ถามแล้วพี่เขาเองก็เครียดอยู่ดีครับ เพราะมีทั้งค่าเทอมลูก ค่าเทอมตัวเอง (เรียนต่อป.เอก) ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ ค่าน้ำ ค่าไฟ เขาจ่ายเองหมด ถ้าเงินมันเหลือๆ เขา จะไปหารายได้เสริมทำไม เพราะไหนจะทำงาน ไหนจะเรียนอีก ก็นานาจิตตังครับ แต่ฟังแล้วเหนื่อยแทน.... จากคุณ : Urban_Park เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 17:44:50

ความคิดเห็นที่ 55 getty image เขามีตัวแทนในไทย  ช่างภาพไทยก็มี ลองโทรหาตามนิตยสาร เขามีเบอร์หมดแหละ เพราะเขามีเซลวิ่งขายภาพอยู่ พอดีว่าผมไม่มีเบอร์ ยังไม่เคยเจอตัว จากคุณ : ลุงหยก เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 20:58:14

ความคิดเห็นที่ 56 ผิดสิครับ ไม่เห็นแปลกเลย มันก็เหมือนขโมยของเขามาแหละครับ ยิ่งแล้วเว็บพี่คุณเป็นเว็บด้านบริการ ที่แสวงหาผลกำไรไปอีกเนี้ย ยังไงๆ มันก็ผิดครับ จากคุณ : -enosenz- เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 09:06:55