ความคิดเห็นที่ 1 M42 แบบไม่มีชิ้นเลนส์  ยิ่ง อินฟินิตี้ ไม่ได้ครับ จากคุณ : EITHER เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 22:05:00

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณครับ คุณEITHER จากคุณ : e20 เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 22:06:53

ความคิดเห็นที่ 3 เลนส์ตัวที่ได้มาแล้วไม่เคยใช้เลยครับ จากคุณ : e20 เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 22:07:46

ความคิดเห็นที่ 4 นี่คือตัวแปลงครับ จากคุณ : e20 เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 22:08:15

ความคิดเห็นที่ 5 ส่วนเจ้านี่ คือตัวที่อยากนำมาใช้ครับ แต่ปรับระยะชัดได้แค่ 2เมตรกว่าๆเองครับ (ดูจากสเกลที่เลนส์ กับรูรับแสงF22) จากคุณ : e20 เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 22:09:53

ความคิดเห็นที่ 6 ตามน้า  EITHER ว่าครับ ใส่กับ adapter มีชิ้นแก้วก็ไม่ได้  เพราะท้ายเลนส์ ลงมาไม่สุด เพราะชนกับชิ้นแก้ว   พอใส่กับ  adapter แบบไม่มีิชิ้นแก้ว  มันก็โฟกัสไม่ infinity  อีกอ่ะครับ ลองอีกทาง คือ ใช้ adapter  แบบมีชิ้นแก้วนั่นหละครับ หมุนไกลสุดเท่าที่จะทำได้  แล้วก็ปรับไป  f11  ถ้าโชคดี depth  ก็ยังคลุมได้ครบทุกช่วงครับ แต่ถ้ายังไม่ได้ ก็ขายให้คนอื่นที่ใช้  Body  Canon Pentax  OLY  เหอะครับ แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 54 22:40:03 จากคุณ : tamrong เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 22:34:46

ความคิดเห็นที่ 7 เลนส์ไหน จะใช้ได้กับกล้องอะไร ดูที่ "ระยะท้ายเลนส์" (flange focal distance (FFD); flange-to-film distance, flange focal depth, flange back distance (FBD), flange focal length (FEL), หรือ back register) เลนส์แต่ละตัว ต้องการระยะห่างจาก sensor เพื่อให้แสงมันลงไปโฟกัสพอดี ถ้าเอาเลนส์ต้องการระยะห่างนี้มาก ไปใส่กล้องที่มีระยะห่างน้อย .. แสงมันไม่ทันโฟกัส ก็ชน .. ภาพก็ไม่ชัด ในทำนองเดียวกัน ถ้าเอาเลนส์ต้องการระยะห่างนี้น้อย ไปใส่กล้องที่มีระยะห่างมาก .. แสงมันโฟกัสแล้วก็บานออก .. ภาพก็ไม่ชัด แต่ ในกรณีแรก .. เราสามารถแก้ไขได้ง่ายๆ โดยเอาเลนส์วางห่างออกไป พออยู่ห่าง ... แสงจากเลนส์ก็จะโฟกัสลงพอดี เอาเลนส์วางห่างไป .. มันง่าย เพราะแค่หาอะไรมาเสริมท้ายเลนส์ .. แค่นี้มันก็ห่างไปแล้ว แต่ในกรณีหลัง มันไม่ง่ายอะดิ เพราะแสงมันโฟกัสก่อนไปถึงเซนเซอร์ จะเอาท้ายเลนส์ ยัดเข้าไปในกล้อง เพื่อให้มันใกล้เข้าไป ก็ทำไม่ได้ เพราะเดี๋ยวไปชนอะไรในกล้องวุ่นวาย ิวิธีแก้คือ หาเลนส์เว้ามาวางขวางทางแสง เลนส์เว้ามันกระจายแสง .. ทำให้แสงแทนที่จะโฟกัสที่ใกล้ๆ ก็ไปโฟกัสที่ไกลออกไป .. คือที่เซนเซอร์พอดี แต่ เลนส์เว้าดีๆ .. มันไม่มี ที่มีขาย .. ก็แค่ "พอใช้ได้เท่านั้น" ฉนั้น .. เลนส์ดีๆ ที่จะเอามาใช้ พอเจอเลนส์เว้ากระจายแสงเข้าไป ภาพออกมา .. เละเทะ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 22:52:00

ความคิดเห็นที่ 8 ระยะท้ายเลนส์ .. ที่มีคนรวบรวมไว้ เลนส์ (และกล้อง) M42 = 45.46mm ์Nikon = 46.50mm Pentax = 45.46mm Olympus OM = 46.00mm Olympus 4/3 = 38.67mm Olympus m4/3 = 20mm Sony NEX = 18mm จะเห็นว่า ถ้าเอาเลนส์ nik ซึ่งโฟกัสที่ระยะห่างไป 46.50mm ไปใส่กล้อง 4/3, m4/3 หรือ NEX  (ซึ่งใช้เลนส์ที่วางใกล้ๆ) มันต้องวางเลนส์ nik ไกลออกไปมาก เข้ากรณี #1 .. สมมุติว่าเป็นกล้อง m4/3 ก็แค่เอาท่อธรรมดาๆ ที่หนา 46.50 - 20.0 หรือ หนา 26.50mm มาต่อท้ายเลนส์ แค่นั้น ก็ทำให้กล้อง m4/3 ใช้เลนส์ nik สบายๆ แต่ในกรณีของ จขกท. m42 = 45.46 nik = 46.50 มันเอาท่อธรรมดาๆ มาใส่ไม่ได้ (45.46 - 46.50 = -1.04mm) เลยต้องมีชิ้นเลนส์เว้ามาช่วยเสริม Pentax takumar K mount = 45.46 .. ดูเผินๆ เหมือนกับใช้ท่อแปลงเสริมเลนส์ได้ แต่ เลนส์มุมกว้าง (17mm) จะออกแบบด้วยวิธีที่เรียกว่า reverse telephoto ยิ่งกว้างมาก ความเป็น "telephoto" ยิ่งรุนแรง ท้ายเลนส์ จะยื่นเลยระยะ back register เข้าไป สมัยกล้องฟิล์มยังโด่งดัง เลนส์มุมกว้างพวกนี้ บางยี่ห้อ บางรุ่น .. เวลาจะใช้ ต้องกระดกกระจกขึ้นไปล็อค เพื่อไม่ให้กระจกตีกับท้ายเลนส์ นี่คือ เหตุผลที่ว่า ทำไม "ท้ายเลนส์กระแทกกับเจ้าเลนส์ของเม้าท์แปลงซะงั้น" จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:01:33

ความคิดเห็นที่ 9 น้าแมว การออกแบบเลนส์แบบreverse telephoto มันใช้แก้ปัญหาท้ายระยะท้ายเลนส์ของ SLR อยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ http://www.camerarepair.com/Retrofocus-Design-Problems-A-Synopsis-T37.html จากคุณ : Tama2kun เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:27:39

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณทุกท่านที่เสียสละเวลามาตอบมากๆครับ ผมอาจจะทำตามน้าtamrongว่าไว้ครับ แต่เก็บเจ้า 135มม.ไว้ลองถ่ายดูสีสรรมันบ้าง เพราะไม่เคยใช้เลย ซื้อมาเพราะโดนบังคับขายพร้อมเจ้าอแดปเตอร์นี่แหล่ะครับ :-) จากคุณ : e20 เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:33:12

ความคิดเห็นที่ 11 น้า tama ครับ .. มันแก้ .. แต่ไม่ได้ทั้งหมด เลนส์ wide ถ้าใช้การออกแบบ แบบปกติ จะได้ต่ำสุดก็แค่ 28mm เท่านั้น พอเริ่ม 24mm .. ก็เริ่มแย่แล้ว กล้องฟิล์ม 135mm .. ขนาดฟิล์มคือ 24mm * 36mm ฉนั้น กระจกสะท้อนภาพ ก็ต้องมีขนาดไม่เล็กกว่านี้เช่นกัน จะว่าไป กระจกใหญ่กว่า 24 * 36 ด้วยซ้ำ เพราะไปขวางทางแสง ที่กำลังลู่เข้าหาจุดโฟกัส นั่นคือ ทำไมกล้องฟิล์ม SLR ถึงต้องมี"ระยะท้ายเลนส์"ร่วมๆ 40++ mm กันทั้งนั้น เลนส์ยุคแรกๆ "ตำแหน่งจุดเสมือนความเป็นเลนส์ชิ้นเดียว" มันอยู่ตรงกลางเลนส์ จะเห็นได้ว่า เลนส์ความยาวโฟกัส 400mm ยุคแรกๆ ถึงยาวเป็นบ้องไฟ และเลนส์มุมกว้าง .. กว้างสุดแค่ 35mm เท่านั้น --------------------------- แต่พอมายุคที่สอง แก้วถูกพัฒนาจนหักเหแสงได้มากกว่าเดิม และการออกแบบ .. ทำให้ ความยาวเลนส์ ต่อ ความยาวโฟกัสเลนส์ ลดลง .. แต่ไม่ใช่เหลือศูนย์ เลนส์ tokina 400mm เป็นเลนส์ tele ที่สั้นสุด .. ยาวแค่ 200mm เท่านั้น  (ratio = 0.5) เลนส์ที่เกิน 400mm .. มันออกแบบยากมาก เพราะพวกชิ้นแก้วพิเศษ ซึ่งมีพลังการหักเหแสง (refractive index) สูงมาก .. โดยเฉพาะชิ้นหน้าสุด .. มันใหญ่ หนา หนัก แตกง่ายมากๆ .. (canon ขึ้นชื่อเรื่องนี้เลย ... ตากแดดนานๆ เลนส์ร้าว!) กลับมาที่เลนส์ wide ต่อ การออกแบบ แบบ RT .. ถ้า้ทำที่อัตราส่วน 0.5 เหมือนตัวอย่างที่ยกมาข้างบน หมายความว่า เลนส์ 24mm สามารถออกแบบให้กระบอกเลนส์ยาว 24 / 0.5 หรือ 50mm ได้ โดยที่ตัว "เลนส์เสมือน" อยู่ห่างจากฟิล์ม"แค่ 24mm " แล้วเลนส์ 20mm หละ ... ถ้าใช้ ratio 0.5 ที่ว่ามา .. แทบอ้วกแล้ว เพราะกระบอกเลนส์ ยาวได้แค่ 20/0.5 .. 40mm เท่านั้น ต้องอาศัยชิ้นแก้วพิเศษมากขึ้น .. ออกแบบยากมากขึ้น เลนส์ wide .. ไม่ว่าสมัยฟิล์มหรือดิจิตอล ทุกๆมิลลิเมตรที่หดสั้นลง .. ราคาถึงแพงขึ้นอย่างโหดร้่าย .. เสมอ เลนส์ 20mm .. มีช่องว่างในการวางชิ้นแก้วแค่ 40mm มันก็เต็มกลืน เลนส์ 17mm ถ้าเอาตามกฏเกณฑ์เดิมๆ .. มีช่องว่างสำหรับวางชิ้นแก้วแค่ 35mm นึกถึงยุคที่ไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้ .. ทุกอย่างคำนวนด้วยสมองและเครื่องคิดเลข ผมว่า .. มันทำไม่ได้หรอก ขนาดคอมพิวเตอร์ยุคนี้ การคำนวนเรื่อง ray tracing .. ยังจัดว่า เป็นปัญหาโหดหินระดับต้นๆเลยครับ สิ่งที่วิศวกรออกแบบเลนส์ทำ .. ถ้าจะให้ง่ายขึ้น ก็คือ "เลื่อน"เลนส์ชิ้นท้าย ให้มันเข้าไปอยู่ในกล่องกระจกของกล้องซะ เพื่อเพิ่มช่องว่างในตัวเลนส์ จะได้วางได้สะดวกๆ เลื่อนไปข้างหน้าไม่ได้ .. เพราะเท่ากับเลื่อนให้ห่างจากความยาวโฟกัสของเลนส์ .. เลนส์ UW สมัยฟิล์ม .. ตูดถึงยื่นกันบานเิบิก จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 07:34:03