ความคิดเห็นที่ 1 ลืมรูป -*- จากคุณ : ทายาทจูล่ง เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 12:09:21

ความคิดเห็นที่ 2 ผลลัพธ์ครับ รูป over ก่อน จากคุณ : ทายาทจูล่ง เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 12:10:03

ความคิดเห็นที่ 3 เอ...รูปเล็กไปหน่อยแฮะ ดู histogram ของรูปต้นฉบับ จากคุณ : ทายาทจูล่ง เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 12:11:09

ความคิดเห็นที่ 4 รูปอันเดอร์บ้าง จากคุณ : ทายาทจูล่ง เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 12:12:00

ความคิดเห็นที่ 5 histogram จากคุณ : ทายาทจูล่ง เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 12:12:24

ความคิดเห็นที่ 6 สรุปว่า แทบจะไม่ต่างกัน ก็เลยเกิดคำถามขึ้นต่อว่า ตูทำอะไรโง่ๆลงไปหรือเปล่าฟระ?!! มันถึงได้ผมลัพธ์แบบนี้ ก็เลยลองใช้โปรแกรม lightroom ทำแบบเดิมอีกครั้งครับ ปรากฎว่าเจอสิ่งที่ต่างกันจนได้ คือภาพที่ถ่ายด้วย raw ไฟล์นั้นสีเต่าตุ่นทุเรศไปเลย เพราะว่ารูป raw ไฟล์ สามารถปรับ wb หรือองศาของสีได้ตั้งแต่ 0 เคลวิน (แล้วโปรแกรมก็ปรับให้ไปอยู่ที่กี่เคลวินก็จำไม่ได้ละ) แต่รูป jpeg เริ่มต้นที่หลักพัน พอผมทดลองเลื่อนเข็มปรับให้ไปอยู่ในตำแหน่งเดียวกันเพื่อที่จะดูว่ารายละเอียดมันเท่ากันหรือไม่ก็ปรากฎว่า สีมันไปกันคนละทางเลย ก็เลยยอมแพ้ และสรุปว่า สิ่งที่ raw เก็บมาให้เยอะกว่า jpeg ไม่ใช่รายละเอียดที่อยู่บนพิกเซล ถ้าหากเราวัดแสงพลาดไปถ่ายโอเวอร์หรืออันเดอร์มา ทั้งjpeg และ raw ก็กู้รายละเอียดส่วนนั้นได้พอๆกัน แต่สิ่งที่ raw ทำได้ดีกว่า jpeg มาก คือ เรื่องของ wb เพราะ raw สามารถปรับ wb ได้แบบยืดหยุ่นกว่าชนิดที่ว่า เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีม่วงได้เลย แต่! ผมว่าคำสั่ง saturation ก็ทำได้ประมาณนึงนะ และรูป jpeg ก็ปรับ wb ได้พอสมควรเหมืือนกัน สรุปว่าผมก็ยังคิดว่า ไม่จำเป็น เหมือนเดิม ก็เป็นอันจบการทดลอง แต่ถ้าใครเห็นข้อดีที่ทดสอบให้เห็นได้ว่าดีกว่าจริงๆ รบกวนมาแสดงให้ดูหน่อยก็ดีครับ ผมจะได้เปิดหูเปิดตากับเค้าบ้าง เพราะที่ผ่านมาเรื่อง raw vs jpeg มีแต่ตัวหนังสือ ทะเลาะกัน ทุกที -*- จากคุณ : ทายาทจูล่ง เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 12:27:49

ความคิดเห็นที่ 7 มันกันพลาดในเรื่อง White balance ด้วยหนิครับ ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเหมือนกัน แต่ถ้าจะเอารูปมาแต่งผมจะถ่ายเป็น RAW อ่ะครับ ถ่ายขำๆก็ jpeg แล้วก็เวลาดึงแสงในที่มืด ที่สว่างของภาพอ่ะครับ ผมก็ไม่ค่อยรู้อ่ะครับ แค่คิดว่าเฉยๆ ออแล้วกล้องบางทีมัน White balance น้อยสุด 2500 แต่ถ้าถ่ายที่น้อยกว่าเช่น ถ่ายในแสงเทียน ซึ่ง WB ประมาน 1800 ก็ถ่าย RAW มาดึงลงได้อ่ะครับ แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 54 12:46:48 จากคุณ : สุดปลายนิ้ว เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 12:44:54

ความคิดเห็นที่ 8 ...ส่วนตัวผม ถ้ารูป แบบที่เน้น เลยนะครับ กลัววัดแสงพลาด  นิด ๅ ถึง มาก ๆ กลัว WB เพี้ยน นิด ๆ ถึง มาก ๆ อันนี้ ล่ะ ผมถึง นึกถึง ไฟล์ RAW จากคุณ : แสบสันต์ หมายเลข 8 เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 12:51:35

ความคิดเห็นที่ 9 พอดีผมชอบ search เรื่อง NEX เจออันนี้มาครับ http://www.stevehuffphoto.com/2010/08/11/sony-nex-5-raw-vs-jpeg-using-aperture-3-03/ ตรงรูปเปลือกต้นไม้ เค้าบอกว่ารายละเอียดมันดีกว่าอะครับ จากคุณ : F_for_Fantastic เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 12:57:03

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าผมจะถ่าย RAW ก็ต่อเมื่อจะเอามา resize แบบใหญ่โตมโหราฬ้ครับ นอกนั้น JPG เพราะคอมผมมันไม่ค่อยมีแรงแล้ว ใกล้ไปแล้ว จากคุณ : mama_shinbi เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 13:09:00

ความคิดเห็นที่ 11 ในฐานะที่ถ่ายภาพแบบสมัครเล่น ก็เลยไม่ซีเรียสสักเท่าไหร่ครับ ไม่ได้ทำมาหากินทางนี้ ความซีเรียส กลัวพลาด มันอาจจะเลยมีน้อย ความจำเป็นในการปรับภาพของผม มักจะไม่เคยเกินขีดจำกัดที่ Jpeg ทำได้อยู่ (กำลังจะบอกว่าตรูเก่ง 55) ผมเลยถ่าย Raw แค่ประมาณไม่เกิน 20 % ของที่ถ่ายมาทั้งหมดได้ แต่บางคน ผมเห็นซีเรียสเกินเหตุนะ ต้อง Raw ๆๆๆ อย่างเดียว เลยคิดว่า ถ้ากล้องมันไม่ Raw คงจบชีวิตการถ่ายภาพเลยหรือเปล่านะ (อันนี้คิดเอง) ก็เอาตามอัทธยาศัยแล้วกันครับ แต่กลัวคนรุ่นใหม่ที่จะมาเล่นกล้อง งง นะผมว่า ผิดถูกอย่างไร ก็ว่ากันได้ครับ อันนี้แบบของผม จากคุณ : E22QV เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 13:21:12

ความคิดเห็นที่ 12 RAW มันเก็บข้อมูลเยอะกว่า ถึงเราจะไม่ได้ปรับแก้ไขภาพอะไรเลย กล้องมันก็ยังทำการบีบอัด RAW -> JPG ให้ ถ้าเราไม่ชอบตรงนี้แล้วหาโปรแกรมแปลง RAW -> JPG ได้ด้วย หรือไม่ก็พวกโปรแกรม Noise reduction ถ้าถ่ายเป็น RAW มันไม่จัดการเรื่องนี้ให้แต่จะเก็บค่าที่กล้องตั้งไว้ พอใช้โปรแกรมแปลง มันถึงค่อยมาจัดการเรื่องนี้ทีหลัง ซึ่งสามารถหาโปรแกรม Noise reduction ที่เราพอใจมาทำงานได้ แทนที่จะออกมาเป็น JPG จากกล้องตรงๆเลยครับ ถ้าถ่ายตามงานมักจะถ่าย RAW  แต่ถ้าไปเที่ยวก็ JPG ตลอดทาง แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 54 13:25:43 จากคุณ : Specie เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 13:24:46

ความคิดเห็นที่ 13 ผมเอาไว้แก้ WB ครับ  แสงนี่ส่วนมากจบในกล้องเลย ไม่อะไรมากก็ Jpeg ล่ะครับ จากคุณ : priwhan เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 13:44:58

ความคิดเห็นที่ 14 ตัวอย่างที่เห็นผลมากๆเรื่องรายละเอียดสีที่จะได้จาก RAW file คือ การถ่ายดอกไม้ประเภทแดงแปร๊ด เหลืองจัด แล้วลองเอา Jpg กับ Raw มาดึงโทนออกมาดูครับ จะเห็นชัด... หรือไม่ก็ภาพประเภทที่ฟ้าดูเกือบขาวหมด แล้วลองพยายามดึงสีฟ้ากลับ คืนมาดูครับ Raw file ทำได้ดีกว่ามาก ยิ่งการตั้ง Picture style ที่เน้นสีสดมากๆไปกับกล้องก่อนถ่าย โอกาสจะได้สีแดงสีเหลืองเป็นพรึด ก็มากครับ อย่างไรก็ตาม บริษัทกล้องก็พยายามสร้างกรรมวิธีการเปลี่ยนภาพจาก Raw file เป็น Jpg ให้ดีขึ้นเรื่อยๆ กล้องหลายรุ่นทำได้ใช้ได้ทีเดียว ส่วนประเด็นเอาเข้า Lightroom แล้วสีตุ่น แก้ด้วยการตั้งค่า Preset ไว้ก่อนครับ เดี๋ยวนี้เค้ามีค่าปรับให้ได้ไสตล์ตามกล้องแล้ว(แต่สีได้แค่ใกล้เคียง ไม่เป๊ะๆ เพราะไม่ได้ใช้การดึงข้อมูลตามบริษัทผู้ผลิตกล้อง) ถ้าจะผิดก็ที่ Lightroom ยังไม่พัฒนาความสะดวกด้านนี้ ไม่ใช่ Raw file ทำให้สีตุ่น และถ้าเอาไปเปิดโปรแกรมอื่นสีมันพาลมักจะไม่เหมือนกันซักโปรแกรมซะด้วย เพราะข้อมูลใน Raw file ไม่ใช่ข้อมูลสีแบบ JPG ถ่าย Raw file ยุ่งยากมากกว่าแน่นอนครับ จัดการไม่เป็นจะหาว่า Noise เยอะกว่า สีเพี้ยน ไฟล์ใหญ่ ฯลฯ ได้ จึงต้องเรียนรู้การจัดการ Raw file ควบคู่ไปด้วย ถ้าเข้าใจก็จะจัดการได้ละเอียดกว่า(แต่ใช้เวลามากกว่าอยู่ดี) ถ่าย Jpg สะดวกกว่าครับ ไฟล์เล็กกว่า ตั้งค่าในตัวกล้องดีๆ ได้ไฟล์เนียนกว่า (แต่ถ้ามาปรับภายหลังเราจะเลือกความเนียนได้ละเอียดกว่า)แต่ความคล่องตัวไม่ มากนักถ้าจะเอารูปมาปรับภายหลัง ส่วนเรื่องการทดลองที่เกิดจากสมมติฐานว่าถ่าย Raw file ไว้เผื่อ Over หรือ Under แรกๆผมก็เข้าใจแบบนั้น แต่ผมพบว่า ยังไงมันก็ชดเชยการ ถ่ายให้พอดีไม่ได้ครับ แต่ถ้าภาพโอเวอร์มากๆหรืออันเดอร์มากๆ อันนี้ Raw file ทำได้ดีกว่าเยอะครับ(แต่ต้อง+ด้วยการปรับค่า อื่นๆด้วยนะครับถึงได้ ได้ผลเห็นชัดมาก เช่น Curve Adjustment, Noise reduction ect. ทีนี้ก็อยู่ที่เราแล้วว่าจะเลือกอะไร ส่วนตัวผมแต่ก่อนถ่ายเป็น JPG ตลอด แล้วมีพักนึงที่เริ่มเข้าใจ Raw file บ้างรู้สึกเสียดายน่าจะถ่ายเป็น Raw file มาตลอด แต่พอพักหลังก็เริ่มคิดอีกแบบว่า ถึงแต่ก่อนถ่าย Raw file ไป คงจะ เสียเวลามากในการมานั่งปรับแต่ง เดี๋ยวนี้ก็ยังติดถ่าย Raw file อยู่ แต่มักใช้โปรแกรมที่ติดมากับกล้องแปลง ค่าเลย ไม่ได้ปรับแต่งอะไรเพิ่มนัก ยกเว้นหลายๆภาพที่มันคันและมันมือจริงๆ (เสียเวลาเหมือนกัน แต่ติดนิสัยครับ) แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 54 14:09:26 จากคุณ : . (Ngo No.5) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 13:57:08

ความคิดเห็นที่ 15 แต่ผมว่า ยิ่งสำหรับคนที่เพิ่งหัดถ่าย ไฟล์แบบ RAW จะเป็นครูสอนเราได้เป็นอย่างดีนะครับ เพราะเมื่่อเรามาปรับค่าต่าง ๆ บนกล้องเอง ซึ่งไฟล์ RAW มันปรับได้เยอะกว่าอยู่แล้วหละครับ ขีดจำกัดมันเยอะกว่าแน่นอน อีกทั้ง มันแก้ไปแก้มาได้ แต่ jpeg ลองแก้แล้วบันทึก แล้วก็กลับมาแ้ก้ให้เหมือนเดิม มันก็ทำไม่ได้นะครับ ส่วนที่ค้างไว้ว่า มันสอนเราได้ ก็คืออย่างเช่น เราจะได้รู้เรื่อง WB เพิ่มขึ้น ว่าสถานะการณ์เช่นนั้น ควรปรับแบบไหนดี Picture Style ก็เหมือนกันครับ เราเอามาทดสอบใหม่ได้เลย โดยส่วนตัวแล้ว ผมเอาไฟล์ RAW มาศึกษาการปรับเปลี่ยนค่าต่าง ๆ กับโปรแกรม เมื่อเห็นข้อผิดพลาดของตน ตอนออกไปถ่ายจริง เราก็สามารถพัฒนาฝีมือได้อีกครับ เพราะเราเห็นข้อผิดพลาดของเราได้ชัดเจนกว่า jpeg แน่นอน ยังไงๆ มันก็เหนือกว่าอีกเยอะหละครับ ไม่งั้น เค้าคงไม่ทำมาให้มันยุ่งยากขึ้นนะ ลองทดสอบต่อไป ดีแล้วครับ จากคุณ : indysoft เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 13:59:13

ความคิดเห็นที่ 16 - ดึงภาพจากการถ่ายที่ให้แสงผิดพลาด รับรองได้ว่าต่างกันมาก ผมก็มีข้อแตกต่างเป็นภาพ Jpg ที่ถ่ายโอเวอร์มามาก แต่เอามาดึงกลับแล้วน่าเกลียดกว่า การเอา Raw มาดึงกลับมากมายนัก - WB ที่หลายๆคนบอกไว้  มันเนี๊ยบกว่ากัน - รายละเอียดภาพ  ไม่เคยสังเกต ..................................................................................................... อยากออกความเห็นดังนี้นะ 1. ใครจะถ่าย Raw หรือไม่ ไม่ใช่ประเด็น ไม่เห็นต้องเชียร์ให้ถ่ายหรือไม่ถ่าย 2. ถ้าจะถ่าย Raw ประเด็นเรื่องไฟล์ใหญ่ เปลืองพื้นที่ คอมไม่แรง ก็ไม่ใช่ประเด็น คนเล่นกล้อง อยากได้ไฟล์เนี๊ยบๆ นั่งอัพกล้อง อัพเลนส์ ใช้เงินหลักหมื่นหลักแสน ก็ยอมจ่ายกัน แต่กับ Ext.Hdd กับ Upgrade คอม นี่บอกเปลืองเงิน ผมว่าเรื่อง Raw ไฟล์ นี่แหละเป็นการ Upgrade ภาพ ที่ประหยัดสุด 3. ขั้นตอนการทำงานของคนถ่าย Raw เป็นประจำเค้าก็มีรูปแบบ รวดเร็วทันใจ ผมมี Preset ของไฟล์ภาพแต่ละ ISO เลือกรูปกดคลิกเดียว ทุกอย่างเสร็จ ...... สรุปว่า ต้องลองเอากะมันซักพัก อย่าสรุปจากการทดลองครั้งสองครั้ง คุณอยู่กับมัน แก้ปัญหามัน ดูข้อดี ข้อเสียของมัน เดี่ยวคุณจะรู้เองว่าจะถ่ายมันหรือไม่ ปล.  ย้ำข้อ 1 อีกที   " จะถ่าย Raw หรือ ไม่ถ่าย Raw ไม่ใช่ประเด็น ไม่ใช่กระแส ไม่ควรชวน หรือเชียร์ ให้ถ่ายหรือไม่ถ่าย " . . จากคุณ : Ingrid เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 14:18:46

ความคิดเห็นที่ 17 ผมว่าแล้วแต่กล้องบางตัวด้วยมั้ง บางตัวยังมีถ่าย JPG แหล่มกว่า Raw ก็ยังมีเลย แต่ผมก็ชอบถ่ายแบบ JPG+Raw ไว้สำหรับไฟล์ Raw ก็ตั้งไว้ "รอ" ไปก่อน ส่วนไฟล์ JPG ก็เอาไปใช้งาน เหอๆ ไว้ภาพไหนมันเพี้ยนสุดๆก็เอาไฟล์ Raw นี่แหละมาปรับแก้มันก็ง่ายกว่าปรับจากไฟล์ JPG ผมคิดว่างั้นนะ เมื่อก่อนผมก็ถ่ายแต่ JPG แล้วรู้สึกบางภาพมันยังดีกว่านั้นหากเอามาปรับอีกนิดหน่อยเช่น WB และ ค่าแสงอีกนิดๆหน่อยๆ ก็เสียดายเหมือนกันพักหลังผมเลยอัด JPG+Raw ตลอด เหอๆ จากคุณ : tump เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 14:33:35

ความคิดเห็นที่ 18 เดี่ยวจะหาว่าไม่มีสาระ เข้ามาแน๊ะแหน่ อย่างเดียว ใจจริงไม่อยาก เอาภาพมา แบบว่า AB Test อะไร เทือกนี้หรอก  แต่เห็นว่า จขกท. ทำการทดลองแล้วเห็นผลว่า ไม่เห็นความแตกต่างของ Raw และ Jpg จึงอยากจะแชร์บ้าง เผื่อคนสนใจ และเข้าใจว่า การทดลอง บางทีมันต้องลองหลายๆเงื่อนไข ถึงจะมีข้อสรุปได้กว่านี้ ภาพนี้เป็นภาพแท้ๆดั่งเดิม คือ เป็นไฟล์ JPG แบบ Fine ของกล้อง 50D จากคุณ : Ingrid เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 14:37:02

ความคิดเห็นที่ 19 ผมถ่ายไฟล์ RAW เพราะเคยเทียบไฟล์กับ Jpeg  ดูที่100% ไฟล์Raw เก็บรายละเอียดได้ดีกว่า อย่างที่น้าท่านบนว่า  ฮาร์ดิสลูกนึง 2-3พัน ถ้าไม่ใช้ตากล้องอาชีพที่รับงานประจำ ฮาร์ดิสขนาด 1TB ใช้ได้ ปีสองปีสบาย เพราะภาพมันย้อนกลับไปถ่ายไม่ได้ เลยไม่ต้องเขียมกันแล้ว อัดกันสุดสุดไปเลย จากคุณ : อั้งเสาะ เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 14:37:11

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าอยากลองเล่นๆ ลอง Save ไปปรับดูก็ได้นะ ว่าจะได้แค่ไหน ดึงเอาไอ้ตรงขาวๆมาได้แค่ไหน ส่วนความสามารถของผม แบบพยายามเต็มที่แล้วได้แค่นี้อะ จากคุณ : Ingrid เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 14:38:39

ความคิดเห็นที่ 21 .. แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 54 14:42:26 จากคุณ : Ingrid เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 14:42:04

ความคิดเห็นที่ 22 Raw ปรับ ได้ประมาณนี้ ปล. สุดท้าย ...... อยากรู้ความจริง อย่าเอาแต่นั่งอ่านนั่งสรุป   เอากล้องออกไปถ่าย Raw ซัก 3-4 ทริป  นั่งทำภาพไปเรื่อยๆ เดี่ยวรู้เองว่าเป็นยังไง ไม่เก็ต ไม่ชอบ เอา Jpg ก็อยู่หมัด ก็ถ่าย Jpg ต่อไป   แต่ถ้าปิ๊ง Raw ขึ้นมา ก็ถ่ายสิ ไม่เสียหาย ไม่ต้องมามีประเด็น ประเภท เปลืองเมม  มือไม่ถึงต้องถ่ายเผื่อ อะไรต่อมิอะไร นะคุณ จากคุณ : Ingrid เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 14:45:04

ความคิดเห็นที่ 23 เห็นชัดมากเวลาดึงสี-WB และส่วนสว่างกลับครับ ภาพนี้ถ่ายด้วย JPG ไม่ได้ครับ จากคุณ : Keng -w เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 14:45:22

ความคิดเห็นที่ 24 ถ่ายทั้ง 2 แบบล่ะครับ แต่แค่ RAW มันสามารถมาปรับ WB ได้หน้าคอมแค่นี้ก็พอใจแล้วครับ แต่หลายครั้งรู้สึกว่า RAW ทำให้ชีวิตการแต่งภาพของผมสนุกขึ้นกว่าเมื่อก่อนที่ใช้ jpg เยอะเลย จากคุณ : Rap-A-Bit เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 14:47:59

ความคิดเห็นที่ 25 -*- ตั้งกระทู้แนวนี้ แต่ไม่ห้อยท้ายหน่อยหรอน้า เด๋วเมพลงหรอก แล้วใครบอกถ่าย RAW สวยกว่า jpeg เนี่ย ถ่ายรูปมุมเดียวกันด้วย RAW+jpeg มันก็สวยเท่ากันเสมอแหละ ถ่าย RAW มันแค่ยืดหยุ่นกว่าในการปรับแต่ง ก็เท่านั้น jpeg มันเป็น lossy ตอนเซฟมามันเสียข้อมูลไปบ้างแล้ว RAW มันข้อมูลดิบ ยังไม่เสียอะไรเลย จากคุณ : DoraeMew เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 15:12:38

ความคิดเห็นที่ 26 " จะถ่าย Raw หรือ ไม่ถ่าย Raw ไม่ใช่ประเด็น ไม่ใช่กระแส ไม่ควรชวน หรือเชียร์ ให้ถ่ายหรือไม่ถ่าย " เห็นด้วยโคตรๆคับ แต่ก็ไม่รู้ทำไมมีคนมาชวนให้ถ่ายด้วย raw ไฟล์เยอะจัง 555 รูปในคห.22 เปิดโลกทัศน์ผมให้กว้างขึ้นมาอีกหน่อย ขอบคุณที่เอามาแบ่งปัน คห.23  ชัดเจนดีครับ เสียดายกิ๊ฟหมด บอกตรงๆว่าตอนตั้งกระทู้ลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปเลย คห.25 เมพคนไหนล่ะ ถ้าเมพคนนั้นผมก็ยินดีต้อนรับนะ เพราะตอนนี้แกออกจะสุภาพพูดเพราะลงหางเสียงครับๆ พูดจาชวนเป็นมิตรอย่างกะเป็นคนละคน หึหึ จากคุณ : ทายาทจูล่ง เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 15:49:22

ความคิดเห็นที่ 27 ไฟล์ที่ได้ จาก raw กับ jpeg เหมือนกันหรือไม่ แล้วแต่กล้องแต่ละรุ่น Jpeg จะเป็นที่พอใจก็แล้วแต่ความพึงพอใจแต่ละคน ถ่ายให้ดี ไม่จะเป็น raw หรือ JPEG ก็ต้องทำ  เรื่อง WB ปวดหัวสุด ไม่เคยแม่น หรือจะให้กด แล้วดูผลทุกครั้งแล้วกดใหม่ก็เกินไป ส่วน convert file แค่ 1-2 ชั่วโมง ไม่ใช่เรื่องใหญ่ กลับมาบ้านเหนื่อย ไม่จะพักกันหรือไง เปิดคอม แล้วให้ คอม convert คอมทำนะ ไม่ใช่คนทำ แล้วก็ อาบน้ำ ทานข้าว  คุยกับลูก กับ เมีย ซักพักก็เสร็จหมดแล้ว Raw ทำให้สามารถเรียนรู้การตั้งค่า โดยไม่ต้องลงสนามจริง เทพ ยังต้องถ่าย Raw เราเลือกสิ่งดีกับเรา เหมาะกับเรา   แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 54 16:04:52 จากคุณ : dji_2000 เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 15:51:48

ความคิดเห็นที่ 28 ผมก็ไม่เก่ง แต่ถ่าย RAW ตลอด เพราะ เคยอ่านหนังสือ หรือเว็ป จำไม่ได้แล้ว ว่า RAW คือไฟล์ที่ยังไม่ได้บีบอัด JPEG ตือไฟล์ที่บีบอัดแล้ว เวลาคุณแก้แล้วแก้อีก RAW จะไม่มีการศูนย์เสีย แต่ JPEG จะดร๊อปไปเรื่อยๆ ในที่ผมอ่านมา เค้าเซฟ JPEG ซ้ำ ซัก 4-5 รอบ ภาพก็เละแล้วครับ จากคุณ : deepat (deepat) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 17:09:36

ความคิดเห็นที่ 29 เริ่มแรกเลยผมใช้ JPG มาปีนึงได้ละ พอช่วงเลยปีมาลองใช้ RAW ถึงได้เห็นความต่างครับ ว่า RAW มันเอามาเล่นอะไรได้มากกว่า JPG ทั้ง WB แสง  เด่นๆเลยก็เรื่องปรับสี หรือแม้กระทั่งความคมชัด ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าแต่ในความรุ้สึกของผมคิดว่ามันต่างกันพอสมควรเลยนะติดเสียอยู่อย่างเดียว ขี้เกียจปรับ-แปลงไฟล์มากมาย - -* จากคุณ : สะบายดีบางกอก เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 17:18:07

ความคิดเห็นที่ 30 -*- ฮ่วย ... ไม่ได้อยากทะเลาะด้วยดอกนะ แต่ตัดสินคนง่ายไปมั้งน้าจูล่ง ดูคน ต้องดูยาวๆ ดูนิดๆ หน่อยๆ แล้วตัดสินกันเลย มันเลยมาม่า น้าแมวแกอาจเก็บอาการสักพัก เด๋วก็เหมือนเดิม คอยดูจิ เข้าเรื่องต่อดีกั่ว โดยส่วนตัว ใช้ไฟล์แบบไหน แล้วแต่กล้องด้วย กล้องประจำตัว Pentax K100D ... ระบบ WB เน่ามวากกก ต้องถ่าย RAW ไว้ก่อนเลย -*- กล้องยืมมาบางที Sony Alpha 500 ฉลาด ใช้ง่าย ไฟล์สีสวย อย่างกะคอมแพค อันนี้ jpeg โลด ถ่ายแล้วส่งไฟล์ให้คนอื่นได้เลย สบายแฮ จากคุณ : DoraeMew เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 17:29:23

ความคิดเห็นที่ 31 จะ RAW จะ JPG สำหรับผม แล้วแต่หน้างานนะ  ถ้าทริปยาว ไปทีหลายวัน  ก็คง raw ได้แค่บางภาพ  ประหยัดเมมไว้ถ่ายหลายๆรูป (ไอ้ประหยัดเมมก็สำคัญนะ คุณไปออกทริปในป่าในเขา เมมเต็มจะหาซื้อเพิ่มที่ไหน)  แต่ถ้าไปวันเดียวหรือไม่กี่ชั่วโมงก็จัด RAW ซะเยอะนะ  แล้วแต่อารมณ์ ความรัก ความรู้สึก ไม่มีกฎตายตัว อยากจัดแบบไหนก็แบบนั้น ไม่ได้ถ่ายรูปไปแข่งกัใคร  แต่ยอมรับเลยว่าชอบ RAW ตรงที่ปรับได้เยอะนี่แหละครับ จากคุณ : genius koch เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 17:40:57

ความคิดเห็นที่ 32 ผมถ่าย RAW เพราะชอบเอามาแต่ง โดยเฉพาะภาพสาวๆ แต่งยังไงก็ไม่เบื่อ จากคุณ : LuisFigo เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 18:03:43

ความคิดเห็นที่ 33 มาอีกแล้วกับกระทู้ลักษณะนี้..... RAW กับ JPG เดี๋ยวซักพัก คงมีแบบ แต่งรูป หรือไม่แต่งใครเจ๋งกว่า... สรุปง่ายๆจากมุมมองของผม....ว่า คนที่ใช้ประโยชน์จากมันเป็น....ก็จะชอบไฟล์ RAW ส่วนคนที่ใช้ไม่เป็นก็จะชอบ JPG การที่เราทำไม่เป็น ใช่ว่าจะหาพวกโดยการตั้งแง่ อันนู้นดีกว่า อันนี้ดีกว่า ใช้อันนี้สิ...เจ๋งกว่า อย่าไปตัดสินใจแทนคนอื่นจากประสบการณ์ของตัวเองน่าจะดีกว่า... เพราะแต่ละคนก็มีความรู้มาก-น้อยไม่เท่ากัน จะฟันธงอะไรก็อาจจะยากที่จะชี้ชัด.... อันนี้ตัวอย่างแบบดิบๆ NOPS ไฟล์เดิมๆจากกล้อง จากรูปจะเห็นว่าท้องฟ้า ไปแล้ว....ขาวจั๊วะน่าเจี๊ยะ... หรือให้ดูมีความรู้นิดนึง เรียกว่า Highlight Clipping แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 54 18:33:49 จากคุณ : Abolys เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 18:19:12

ความคิดเห็นที่ 34 อีกรูป ปรับใน Adobe Camera Raw มาแล้ว ผมว่าจะเป็น JPG น่าจะลำบากนะครับ... ถ้าจะ PS ให้ได้แบบนี้ สีคงเร่งกันจนเละ... ไฮไลท์ คงหลุดไปเลย... จากคุณ : Abolys เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 18:21:51

ความคิดเห็นที่ 35 จากรูปบน ถ้าไม่ได้ ACR ช่วยคงแย่ครับ... ที่ทำไป ทั้งปรับ WB ลด Exposure ปรับ Curve เร่ง Saturation/Vibrance ใส่ Graduated ND ที่ฟ้า... บางสถานการณ์ มันก้จบหลังกล้องไม่ได้.... บางคนที่ในอดีตถ่ายแต่ JPG...แต่ถ่ายออกมาสวยมากๆ... จนหลายๆคนยอมรับในฝีมือ... ก็เปลี่ยนมาถ่าย RAW ครับ มันตอบสนองจินตนาการไปได้อีกเยอะ... สมัยนี้มันไม่ใช่เรื่อง Expose To The Right ซะแล้ว... คิดซะว่าถ่ายยังไงก็ได้ให้เก็บ DR ของภาพนั้นให้มากที่สุด... อาจจะสว่างเกินพอดี แต่ Highlight ที่สำคัญๆ ต้องครบ แล้วค่อยมาปรุงอีกทีครับ...ใครชอบแบบธรรมชาติ ก็ปรุงแบบธรรมชาติ ใครชอบฉูดฉาด ก็นานาจิตตัง... แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 54 18:43:45 จากคุณ : Abolys เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 18:25:27

ความคิดเห็นที่ 36 ใครถ่าย RAW ก็ถือได้ว่าคุณยังเก็บวัตถุดิบดีๆไว้ได้อยู่... วันหลังจะเอามาปรุงใหม่ พลิกแพลงอีกกี่รอบก็ได้... ทุกวันนี้ CS4,5,6 ใช้ GND Filter ได้แล้ว สำหรับผม...ที่ไม่ถนัดเรื่องการซ้อน Layer และ Gradient ใน PS งานง่านขึ้น และประหยัดค่าฟิลเตอร์ไปได้มาก... ACR มีการพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆในแต่ละเวอร์ชัน ไม่รู้ในอนาคต จะทำอะไรได้บ้าง.... สำหรับผม ก็เก็บวัตถุดิบไว้ รออนาคต จะมีกระทะดีๆ พ่อครัวดีๆ มาปรุงครับ... จากความเห็นคนที่ถ่าย RAW ตลอดงาน...อีกคนนึงครับ จากคุณ : Abolys เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 18:32:42

ความคิดเห็นที่ 37 อ่านเรื่อง raw vs jpeg มาก็เยอะ เพิ่งมีกระทู้นี้แหล่ะที่ทำให้อยากจะถ่าย raw ขึ้นมาบ้าง เหอๆๆ แต่ถ้าจะให้ดีรบกวนน้า Abolys โพสภาพแบบซีดๆไว้ให้ด้วยได้ป่ะคับ แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 54 19:44:05 จากคุณ : ทายาทจูล่ง เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 18:55:56

ความคิดเห็นที่ 38 raw หรือ jpeg ไมมีถูกผิด แใครถนัดแบบไหนก็ตามสะดวก จากคุณ : เอก (เด็กดำเนิน) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 19:16:59

ความคิดเห็นที่ 39 RAW ดีกว่าแน่นอนครับ ที่เห็นๆ RAW ส่วนใหญ่เก็บข้อมูล 14 bit ต่อ color channel ส่วน jpeg แค่ 8 bit ต่อ color channel ครับ เพราะฉะนั้น RAW จะมี dynamic range อยู่เยอะกว่ามากครับ ภาพ ตย ของ จขกท นั้นอาจจะไม่เหมาะนักครับ เพราะ scene ต้นฉบับไม่ได้มี contrast ratio มากเกินความสามารถของ jpeg ครับ (หรือ contrast ratio ไม่มากเกิน 8 bit/color channel) ผลที่ได้ก็เลยไม่รู้สึกแตกต่างมากนักครับ ส่วนภาพ ตย ของความเห็น 18 และ 33 แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วครับว่า exposure lattitude ทางด้าน highlight นั้น ไฟล์ RAW มีเก็บไว้มากกว่าครับ แล้วที่สำคัญนั้น ผมว่าเพราะการ์ดจอคอมพ์ทั่วไปก็แสดงผลที่ 8 bit/color channel ครับก็เลยไม่เห็นแตกต่างมากนักระหว่างไฟล์ทั้งสอง แต่ถ้า tone map หรือ process ภาพโดยใช้ software ถึงจะเห็นความแตกต่าง ตาม ตยของ 18 และ 33 รับ ผมเชื่อมากๆ ครับ ว่าถ้าระบบแสดงผลการ์ดจอ กะ หน้าจอ ทำได้มากกว่านี้ การแสดงผล 8 bit กะ 16 bit ต่างกันแน่นอนครับ จะมากกว่าหรือน้อยกว่าแค่ไหนผมว่าขึ้นอยู่กับ technology ในการผลิตตัว sensor หรือตัวฟิลม์ครับ ถ้าไงลองค้นหาคำว่า expose to the right ดูครับ อาจจะทำให้เข้าใจเรื่องพวกนี้ได้มากขึ้นครับ ถ้าสรุปง่ายๆ ถ่าย RAW แล้วใช้ software process เอง ก็เปรียบได้กลับตากล้องฟิลม์ที่ล้างฟิลม์เองอัดรูปเองครับ สามารถควบคุมตัวแปรต่างๆ ได้เองครับ แทนที่จะปล่อยให้ร้านอัดรูป หรือให้กล้อง digital ทำการ process ภาพให้แล้ว output เป็น jpeg ครับ ส่วนอันไหนดีกว่าอันไหน ก็ตามความเห็นข้างต้นครับ สรุปไม่ได้ชัดๆ ครับ แล้วแต่เหตุผลส่วนตัวครับ แล้วถ้าใครว่าถ่าย RAW แล้วสวยกว่า ก็ไม่จำเป็นอีกแหละครับ เพราะความงามขึ้นกับตาของคนดู จากคุณ : podometry เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 19:27:30 A:202.124.75.171 X: TicketID:302161

ความคิดเห็นที่ 40 กระทู้รายปี #37 โถ่ถัง กระทู้นี้ http://topicstock.pantip.com/camera/topicstock/2009/01/O7432129/O7432129.html ไม่ได้สร้างความอยากถ่าย Raw ให้ จขกทเลยเหรอครับ แต่เชื่อเหอะ ปี52ก็ทำเป็นสนใจแบบนี้แหละ เด๋วปีหน้าก็ตั้งกระทู้หาประโยชน์อันใดจากRAWมิได้อีก 555 EDIT เด๋วจะหาว่าไม่มีสาระ RAWสำหรับผมนอกจากความยืดหยุ่นกับ WB แล้ว ผมชอบเรื่อง Picture Style ที่ถ่ายแล้วไม่พอใจ มาปรับในคอมได้ตามใจชอบภายหลังครับ แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 54 20:12:13 จากคุณ : Papercut เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 20:08:40

ความคิดเห็นที่ 41 เท่าที่ผมเคยเจอมา ตอนถ่าย Over มากๆ JPG ดึงให้รูปพอดี จะดึงส่วนที่เป็น Highlight ลงได้ยากมาก คือ ยังขุดรายละเอียดไม่เจอ แต่ถ่าย Raw ขุดจนเห็นรายละเอียดได้ครับ จากคุณ : BommasteR เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 20:27:42

ความคิดเห็นที่ 42 ภาพซีดๆ จากคุณ : Abolys เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 20:43:27

ความคิดเห็นที่ 43 JPG ซีดๆ ผ่าน PS ...... รูป 100% ท้องฟ้าแตกเป็นบั้งๆ ไปเรียบร้ิอยแล้ว จากคุณ : Abolys เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 20:46:26

ความคิดเห็นที่ 44 หะหะ อย่าดื้อเลย ไปศึกษาใหม่ให้ดี ๆ RAW มันเหนือกว่าอยู่แล้วครับ ไม่งั้นเค้าจะทำมาเพื่ออะไรหละ เอ้อ ไปเถียงวิศวะกรผู้คิดค้นอีก หรือถ้าจะไปถ่ายแบบ RAW ก็ไม่เห็นจะมีใครว่าอะไรเลยนะครับ ถนัดใช้ jpeg ก็ใช้ต่อไปได้เลยครับ ไม่จำเป็นต้องไปอะไรให้มากมาย จากคุณ : indysoft เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 20:49:01

ความคิดเห็นที่ 45 คห.40 กลับไปอ่านดีๆแล้วจะรู้ว่า กระทู้นั้นไม่ได้ทำให้ผมอยากถ่าย raw ครับ ผมไปบอกว่าจะถ่าย raw ตอนไหน??? อ่านแค่คห.ที่99 ที่เป็นความคิดเห็นสุดท้ายของผมเอาก็ได้ว่า คำถาม/ข้อโต้แย้งยังเต็มไปหมด...... ปล.ผ่านไป 2 ปีแล้วหรอเนี่ย จุดยืนผมมั่นคงดีเนอะ 555 ปล.2 คือผ่านไป 2 ปีแล้วตั้งกระทู้เรื่องเดิมนี่มันผิดกฎพันธุ์ทิพย์หรือเปล่าครับ ถ้าผิดจะได้ลบ??? ปล.3 รู้สึกว่าตัวเองมีแฟนคลับ(คอยจ้องจิกกัดแฮะ แต่ก็ช่างเค้าเถอะ 555) ปล.4 สาเหตุที่ตั้งกระทู้ก็อุส่าพิมให้รู้แล้วยังจะมาหาเรื่องผมอีกนะ คนเรา - -' ปล.5ไม่ต้องรอปีหน้า แค่ถ้าสัปดาห์หน้าผมมีเรื่องหรือเหตุอันใดเกี่ยวกับ raw ผมก็คงมาตั้งอีกอ่ะผม ผมมีสิทธิ์ตั้งป่ะคับ???? ปล.6กระทู้นี้กับกระทู้นั้นประเด็นของกระทู้ต่างกันโดยสิ้นเชิง แค่มันเป็นเรื่องเดียวกัน อ่านดีๆนะครับ ปล.7แค่เรื่อง raw jpeg ก็เหนื่อยพอละ อย่ามาหาเรื่องทะเลาะนอกประเด็นดีกว่าครับ หึหึ จากคุณ : ทายาทจูล่ง เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 22:31:50

ความคิดเห็นที่ 46  " เวลาที่ผมใช้ Raw file ผมมักจะชอบถ่ายให้ Over กว่าปกติ แต่ยังไม่มี Hightlight clipping แต่หาก Hightlight นั้นเป็นสิ่งที่ควรปล่อยหรือเป็นธรรมดาอยู่เองที่มันต้องเป็นอย่างนั้น ผมจะปล่อยครับ ฉะนั้นการที่ภาพหลังกล้องไม่สวยจึงไม่เป็นประเด็น เพราะถ่ายมาเพื่อหวังทำ Post processing อยู่แล้ว เราต้องการต้นฉบับที่ดีเท่านั้นครับ " จากคุณ : ตุ๊กตาหมี เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 22:38:25

ความคิดเห็นที่ 47 ผมว่า มันอยู่ที่คนถ่ายอ่ะครับ ใครใคร่ RAW ก็ต้องรอ -แต่แต่งแสงกันสนุกมือใคร ไม่ชอบ RAW ก็ Jpeg -ก็จบในกล้อง ง่าย สะดวก ปรับแต่งได้ "บ้าง" แต่ไม่เท่า RAW แน่ๆ แรกๆผมก็ Jpeg นะครับ เอาเยอะ เสียก็ไม่สน เอาชินไม้ชินมือ พักหลังกด RAW เพราะว่าคิดว่ามันแต่งแสงปรับสี สนุกมือดี นะครับ (แต่รอแปลง นานมาก เซ็งแค่ตรงเนี่ยล่ะค๊าบบบ) จากคุณ : เด็กน้อยด้อยปัญญา เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 23:00:32

ความคิดเห็นที่ 48 RAW ของ Canon จริงๆแล้วมันเป็น JPEG นะจ๊ะ อุอุอุ แต่ ..... JPEG มันมีการเก็บอยู่ 2 แบบ แบบแรกคือ Lossy compression Canon ใช้วิธีนี้ เก็บรูปเล็กๆ เอาไว้ 3-4 รูปในไฟล์ RAW เพื่อใช้ในการแสดงรูปในกล้อง หรือ thumbnail ในคอม อีกแบบก็คือ Lossless compression Canon ใช้วิธีนี้กับตัวรูปจริงๆ แต่ถ้าคุณเลือกเก็บแบบ JPG .....กล้องมันซัดให้แบบเดียวเลยครับ Lossy ตลอดศก (ไม่ขออธิบายรายละเอียดลึกๆเรื่อง Lossy/Lossless นะ ..... เอาคร่าวๆคือ Lossy มันจะตัดรายละเอียดภาพบางส่วนทิ้งไป แต่ Lossless ไม่ทิ้งอะไรเลย) ไอ้เรื่อง Lossy/Lossless เนี่ยมันเป็นส่วนนึงที่ทำให้ภาพมันต่างกัน แต่จริงๆแล้ว ....... มันมีสาเหตุสำคัญกว่านั้น ที่ทำให้หนังสือส่วนใหญ่ แนะนำให้ถ่ายรูปแบบใช้ RAW มากกว่า ก่อนอื่นขอ อธิบายเรื่องการทำงานของกล้องหน่อย เวลาที่กล้องถ่ายรูปเสร็จ ช่วงที่จะเก็บข้อมูล กล้องมันจะทำแบบนี้ครับ JPG :  Image-> Filters -> Compression -> Save RAW: Image-> Filters(เฉพาะรูปเล็กๆ รูปจริงไม่ทำ) -> Compression -> Save ::: Filter มีอะไรบ้าง ...... - Noise reduction - WB - Picture style - Sharpen - Art (ในกล้องบางรุ่น) ไอ้ตรง Filter นี่แหละครับ ที่รูป RAW ไม่โดนทำไปด้วย ::: แล้วทำไมเอารูปที่ถ่ายเป็น RAW มาดูในกล้องสีมันถึงได้ตรง - มันทำเฉพาะรูปเล็กๆ ที่เก็บอยู่ใน Raw ไฟล์อีกทีครับ ส่วนรูปจริง ไม่ได้ทำอะไรเลย อยู่เหมือนเดิมทุกอย่าง ไอ้จุดนี้แหละ เวลาที่เอา RAW มาแต่งรูปต่อมันถึงได้ยืดหยุ่นกว่า แถม มันยังช่วยให้เราสามารถเอา Algorithm ใหม่ๆ มาจัดการภาพที่ถ่ายมาด้วยกล้องเก่าๆได้ด้วย พูดอีกแบบก็คือ JPG = รูปถ่าย - รายละเอียดบางส่วน + filter (ทุกอย่างอยู่ในรูปหมดเลย) RAW = รูปถ่าย (พวก Filter ต่างๆ เก็บแยกขาดจากรูป แต่อยู่ในไฟล์เดียวกัน) ส่วนเรื่อง เก็บแบบไหนดีกว่ากัน .... มันอยู่ที่การใช้งานครับ ถ้ากะเอาไปแต่งรูปต่อ แนะนำว่า RAW ดีกว่า แต่ถ้ากะถ่ายเสร็จก็อบแจกเพื่อนเลย แบบนี้ก็ถ่าย JPG เถอะ อย่าให้เพื่อนมานั่งรอเลย -*- จากคุณ : ginosty เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 23:41:50

ความคิดเห็นที่ 49 ..เข้ามาเก็บความรู้ครับ...ขอบคุณจขกทและน้าๆ ทุกท่านที่ร่วม share กันในกระทู้ที่น่าสนใจอย่างนี้ สำหรับผมจะถ่าย raw เมื่อ WB เอาไม่อยู่..เอามา process ทั้งในกล้องเอง(60D)  / DPP ในคอม..ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ.. เพราะผมแก้ WB ใน jpg เมื่อใด..สีเพี้ยนทู้กที... ..แต่ตอนนี้ที่ DPP มีจุดที่ทำให้ผมทึ่งอีกอย่างคือ เรื่องจัดการ noise ครับ..ทำได้เนียนดีทีเดียว... .. . ต.ย. รูปนี้ iso6400 ...process ด้วย DPP และ PhotoScape ..... . จากคุณ : ป๊าตัว art (แม่ยู้-ลูกหมูนะโม) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 00:47:02

ความคิดเห็นที่ 50 ..ขอร่วม Jam อีกนะครับ..เพราะเป็นประเด็นที่อยากเสวนาอยู่พอดีเลยเตรียมภาพมาอีก... ภาพต้นฉบับจากกล้องประมาณนี้ครับ..(ภาพนี้ใช้ FastStone Viewer convert) ผมเทียบภาพกับจอหลังกล้องแล้วคล้ายกัน.. ถ้าต้นฉบับเป็น JPG ล่ะก็..ผมคงทำสีเพี้ยนแน่ๆ...ยิ่ง process เก่งๆ อยู่ .. . จากคุณ : ป๊าตัว art (แม่ยู้-ลูกหมูนะโม) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 00:55:08

ความคิดเห็นที่ 51 ..พอทำผ่าน DPP แล้วปรับ WB เข็น Kelvin ไปมาได้สบาย...ง่ายกว่า JPG เยอะ.. .. . ปล. Exif ยังอยู่ในภาพนะครับ...ภาพนี้ที่ iso5000.. .. . จากคุณ : ป๊าตัว art (แม่ยู้-ลูกหมูนะโม) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 00:58:34

ความคิดเห็นที่ 52 สำหรับผม ถ่ายเป็น RAW  ก็ไม่ค่อยแตกต่างกันมากกับ JPG แต่ไฟล์ RAW มันเก็บข้อมูลดิบๆ และมีข้อมูลอื่นๆ อีกมาก ถ้าไม่เบื่อแปลงไฟล์  ถ่ายเป็น RAW อย่างไรย่อมดีกว่า  เราค่อย เอามาแปลงเป็น JPG ตามใจเราในภายหลังได้อีกมาก  ไม่ว่าจะย้อม WB เป็นเฉดสีต่างๆ  ถ้าถ่ายเป็น JPG แล้ว  ปรับ WB ในภายหลัง ย่อมยากกว่าเยอะ     และผมยังเชื่อแน่ว่า  ข้อมูลดิบ ย่อมมีอะไรดีกว่า  ข้อมูล RAW ในวันนี้ อาจจะไม่ค่อยมีอะไร  แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ทางบริษัทกล้องมีการพัฒนาขึ้น ข้อมูลดิบๆ ตัวเก่านั้น   อาจจะนำมาปรับใช้ได้  ขอยกตัวอย่างแบบเห็นง่ายๆ คือ  ผมใช้กล้อง E-P1  ถ้าถ่ายเป็น RAW แล้ว  สามารถเอา RAW ตัวนี้ไปลง คอม เข้าโปรแกรมของกล้อง  ไว้เล่น Art Filter อีก 2 อย่าง ที่ในกล้อง E-P1 ยังไม่มี  แต่มีในกล้องรุ่นหลังๆ      เป็นต้น      เข้ามาขอแชร์ เพื่อให้เห็นข้อดีของ RAW อีกมุมหนึ่งครับ แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 54 02:01:16 จากคุณ : NAF เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 01:55:54

ความคิดเห็นที่ 53 แต่ถ่าย RAW ได้อารมณ์แบบกล้องฟิล์มหน่อยๆนะ  ไอ้เรื่องจะถ่ายแต่ละทีต้องคิดหน่อยเพราะจำนวนรูปถ่ายมีจำกัดมาก  ยิ่งพวกเมมน้อยมาถ่าย RAW นะ ยิ่งคิดหนักหน่อย (แต่ยังไงก็ดีกว่าฟิล์มตรงลบแล้วถ่ายใหม่ได้) จากคุณ : genius koch เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 02:02:11

ความคิดเห็นที่ 54 ไม่มีตังซื้อ SD ดีๆอ่ะ ถ่าย sf raw ที่ไรช้าทุกทีไม่ทันใจ ถ่ายเจเปกสะดวกดีโอนไฟล์เข้าเครื่องเร็วด้วย PS ดีๆก็ได้ภาพที่ต้องการแล้วละ RAW คงปรับได้ง่ายและเยอะกว่า โดยเฉพาะภาพที่มันห่วยจริงๆ ขุดกันสุดๆ มีข้อดีข้อเสีย แต่มือสมัครเล่นงบน้อยอย่างผมคงเลือก เจ๊.เปค อ่ะคับ ^^ จากคุณ : siwarut เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 02:25:34

ความคิดเห็นที่ 55 ถามเล่นๆดูแล้วรู้กันป่าวคับว่าภาพได้ jpeg ภาพไหน raw จากคุณ : ทายาทจูล่ง เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 11:13:34

ความคิดเห็นที่ 56 มีคนบอกว่าอยากเสวนาด้วยผมค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย หุหุ คือผมไม่เคยใช้ DPP อ่ะเลยพูดไรมากไม่ได้ แต่อยากถามว่าโปรแกรม DPP ถ้าเปิดรูป jpeg คำสั่งที่ปรับ kelvin มันจะใช้งานไม่ได้หรือเปล่าครับ?? เพราะผมเปิดด้วย lightroom มันปรับได้เหมือนกันหมด คำสั่งแก้ wb ก็สามารถนำมาแก้ในไฟล์ jpeg ได้นะครับ แค่ช่วงที่มีให้ปรับมันสั้นกว่า เหมือนที่น้าสุดปลายนิ้วบอกนั่นแหล่ะ แต่ก็ไม่ได้แปลว่ามันสั้นมากซะจนใช้การอะไรไม่ได้นะ อย่างรูปนี้ผมก็ปรับแค่ wb เหมือนกันคับ :) จากคุณ : ทายาทจูล่ง เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 11:21:43

ความคิดเห็นที่ 57 แว้ก!! ปล่อยไก่ตัวเบ้อเริ่ม รูปบนผมไปปรับ brightness ด้วยอีกอย่างนึงคับ รูปนี้ไม่ได้ปรับ แค่จะบอกว่า มันต่างกันไม่มากหรอกคับ จากคุณ : ทายาทจูล่ง เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 11:26:59

ความคิดเห็นที่ 58 DPP ผมพึ่งลงไปเมื่อ 2 วันก่อนนี่เอง..ยังงูๆ ปลาๆ อยู่เลยครับ ... ..ถ้ามันปรับ Kelvin กับ JPG ได้ก็แหล่มเลย..เอาไว้จะลองดูนะครับ.. ..เลยลองเอาภาพของตัวเองจาก คห 50 มาแก้ WB ที่ Photoscape ด้วยการดึง curve แบบลูกทุ่งๆ..ก็พอได้นะครับผมว่า.. (แต่พอเทียบกันแล้วเนียนสู้ไม่ได้แฮะ..) .. . แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 54 11:42:57 จากคุณ : ป๊าตัว art (แม่ยู้-ลูกหมูนะโม) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 11:39:03

ความคิดเห็นที่ 59 อ่านอยู่นาน...นึกว่า จขกท. จะเข้าใจแล้วซะอีก เอ้อออ....ผมว่าคนเข้ามาตอบช่วยกันอธิบายได้ดีแล้วนะ.... จากคุณ : Salt Cat เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 15:12:24

ความคิดเห็นที่ 60 ผมว่าผมพอแล้วดีกว่า.... จะกลับไปสู่โหมดอ่านอย่างเดียวเหมือนเดิมฮะ... ใครมีอะไรหลังไมค์ไว้ละกัน จากคุณ : Abolys เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 15:23:22

ความคิดเห็นที่ 61 ทดสอบ โดยการถ่าย over,under ไป สอง สต๊อป มันยังไม่ค่อยเห็นความต่างหรอกครับ ลองใหม่ ลอง under/over สักสี่สต๊อป แล้วลองดึงกลับดูสิครับ อีกอย่างหนึ่ง สิ่งที่คุณถ่ายมาเป็นตัวอย่าง สภาพแสงมันสม่ำเสมอทั้งภาพ ลองเจอสภาพแสงยากๆประเภท ครึ่งนึงของภาพอยู่ในที่ร่ม อีกครึ่งของภาพ แดดส่องเต็มๆ แล้วลองมาดึงให้รายละเอียดโผล่มาให้มากที่สุดดูสิครับ --==NICK==-- จากคุณ : NICK (||ic|<) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 16:43:40

ความคิดเห็นที่ 62 ถ่าย Portrait มาเยอะ RAW ให้ผิวที่เนียนกว่าจริงๆครับ รายละเอียดต่างๆชัดกว่าพอาสมควร *อ้างอิงจากประสบการณ์และความเชื่อ ^^ แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 54 20:52:56 จากคุณ : Sympho เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 20:52:19

ความคิดเห็นที่ 63 - - ปรับ Kelvin กับ jpeg ได้ก็แปลกแล้น ถ่ายมาเป็น RAW มันเป็นข้อมูลดิบ มีข้อมูลอื่นๆ ประกอบมาด้วยให้โปรแกรมอ่านค่าได้ในภายหลัง ถ่ายที่อุณหภูมิสีเท่าไร ก็เก็บค่าไว้ใช้ตอนอ่านไฟล์ได้ ทำให้มีจุดอ้างอิงว่าถ่ายด้วยอุณหภูมิสีเท่าไร แล้ว jpeg มันเก็บอะไร? มันไม่เก็บข้อมูลอุณหภูมิสีแหงๆ นะ เก็บแต่ค่าสีแต่ละพิกเซลเท่านั้นแหละ จากคุณ : DoraeMew เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 23:26:12

ความคิดเห็นที่ 64 คห.54 มีตังค์ซื้อกล้องตัวเป็นหมื่น แต่ดันไม่มีตังค์ซื้อเม็มอันละสองสามร้อย โอ้ว... ช่างเป็นไปได้นะคนเรา ผมว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นเลยหละครับ ส่วน จขกท. ผมว่า ถ้าคุณไม่เปิดใจยอมรับฟังที่น้า ๆ เค้ามาทดสอบให้ดูบ้าง มันก็ไร้ค่านะที่ตั้งกระทู้นี้มา แต่ผู้ชมหลาย ๆ คน อาจได้รับประโยชน์ไปเยอะพอสมควรครับ จากคุณ : indysoft เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 01:13:02

ความคิดเห็นที่ 65 เฮ้อ Raw Jpeg อยากใช้อะไรก็ใช้ไปเถอะ ความมั่นใจของแต่ละคน สำหรับผมใช้ทั้งสองอย่าง มันอยู่ที่ความเหมาะสม RAW ใช้เมื่อต้องการรายละเอียดสูงๆ เพราะเรามาปรับ Compression ได้ทีหลัง แค่นั้นแหละ ไอ้ที่ยืดหยุ่นแก้ได้ก็ใช่อยู่ แต่ หากคุมกล้องได้ดี WB ไม่มีเพี้ยนขนาดต้องมาตามแก้ แบบปวดหมองหรอกครับ ถึงเพี้ยนมาหากไม่มาก เพี้ยนนิดๆ Jpeg ก็แก้ได้ ถ้าเพี้ยนมากๆ RAW ช่วยได้แต่ว่าให้คิดว่า แล้วตอนถ่ายนี่ฝีมือด้อยขนาดนั้นเลยหรือครับ ถ้าถ่ายแบบต้องมาตามแก้ใน RAW ตลอด เอาเวลาไปฝึเรียนกถ่ายภาพเพิ่มเถอะครับ สะดวกยังไงใช้อย่างงั้นก็แล้วกัน ผมสรุปว่าอยู่ที่การนำไปใช้ และโปรเสสการทำงานของแต่ละท่านเองแหละครับ จากคุณ : หมาส้มสมหวัง เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 02:00:10

ความคิดเห็นที่ 66 "วันก่อนไปถ่ายรูปเล่นกับเพื่อนมาครับ" เพื่อน : ไมไม่ถ่ายเป็น raw วะ ผม : ไม่เห็นจำเป็นนี่หว่า จากที่คุณ ทายาทจูล่งได้กล่าวมา ผมเห็นด้วยครับ ผมคิดว่าRAW เหมาะสำหรับงานที่เวลาในการถ่ายมีน้อย แต่ต้องได้ภาพ และภาพนั้นสำคัญ   ในการถ่ายรูปเล่นๆนั้น ไฟล์RAW จึงไม่มีความจำเป็นเลย ถ่ายJPG ดีกว่า ได้ฝึกวัดแสงแม่นๆไปในตัวด้วย หลายท่านอาจบอกว่า ในอนาคตต่อไป เมื่อมีจอที่ละเอียดๆ ทำให้เห็นข้อเสียของJPG แต่ผมกลับไปดูรูปที่ถ่ายเมื่อ20-30ปีก่อน มันซีดๆจางๆ แต่มันก็ยังเป็นภาพที่ผมชอบนะครับ จากคุณ : adome เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 02:02:37

ความคิดเห็นที่ 67 67 จากคุณ : DoraeMew เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 01:14:13

ความคิดเห็นที่ 68 68 จากคุณ : DoraeMew เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 01:14:28

ความคิดเห็นที่ 69 69 ได้ละเฟ้ย เลขลามก จากคุณ : DoraeMew เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 01:14:50