ความคิดเห็นที่ 1 เรื่องปกติในทุกวงการครับ จากคุณ : sinvorapat เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 21:34:00

ความคิดเห็นที่ 2 เหมือนช่างซ่อมคอมฯ เมื่อก่อน(10ปีที่แล้ว) ค่าตัวสูงมาก . เดี๋ยวนี้เหรอ? ไปหาซื้อหนังสือเล่มล่ะ 2-3 ร้อยมาอ่าน เดี๋ยวก็เป็นช่างกันได้แลัว . . ช่างซ่อมคอมฯเงินเดือน 8-9 พัน ก็ืถือว่าหรูแล้วน่ะ เดี๋ยวนี้ . . จากคุณ : กลองสุดห้าว เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 21:39:06

ความคิดเห็นที่ 3 กล้อง SLR มันเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้นครับ ทุกคนเข้าถึงได้ .. และหมั่นฝึกฝน จะว่าไปก็คล้ายๆ ตลาดแรงงานสายกฎหมาย สังคมนั่นแหละ จากคุณ : ขนมจีนน้ำปลาร้า เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 21:40:30

ความคิดเห็นที่ 4 ฝีมืออย่างเดียวอยู่ไม่ได้ครับ ราคามักจะมาเป็นตัวเลือกแรกๆ แต่ผมมักจะมีราคาขั้นตำ่เสมอ ไม่งั้นเราอาจทำงานได้ไม่ดี ถ้าคิดว่าไม่คุ้ม จากคุณ : aoon.tk (aoon.tk) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 21:42:50

ความคิดเห็นที่ 5 กล้องเดี๋ยวนี้ถูกมาก น้องๆ ที่ทำงานสี่ห้าคนซื้อกล้องมาไม่ถึงสองสามเดือน ถ่ายยังไม่เป็นเลย รู้จักคนเยอะก็ไปรับงานแล้ว ถ่ายมาไม่ได้เรื่องเลย ถ่ายแล้วก็แล้วไป หน้าใหม่ก็เข้ามาให้ฟันอีก อีกหน่อยคงได้สักห้าร้อยมั่ง จากคุณ : t_bhakawat007 เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 21:43:57

ความคิดเห็นที่ 6 ก็เป็นทุกวงการล่ะครับ สังคมคนมากขึ้น การแข่งขันก็สูงขึ้น ทุกอย่างไปตกที่ผู้บริโภค ถือว่าดีแล้วครับ งานที่ผมทำ เมื่อก่อนงานนึง สมมติ 100 บาทอย่างต่ำ เดี๋ยวนี้ได้กันอยู่ที่ 20-60 บาท เองครับ ขึ้นอยู่กับฝีมือ เพราะฉะนั้นเราต้องปรับตัวให้ทัน พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ครั้งจะคิดแบบเมื่อก่อน ทำอยู่กับรูปแบบเดิมๆ สุดท้ายก็เหมือนกับร้านล้างอัดรูปสไตล์เก่าๆ ก็ค่อยๆล้มหายตายจาก อย่าไปยึดติดกับอดีตเลยครับ จากคุณ : อั้งเสาะ เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 21:45:49

ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อก่อนผมก็เครียดกับปัญหานี้ครับ คนเล่นกล้องเยอะ ต่างคนต่างแย่งลูกค้ากัน โดนส่วนมากใช้วิธีลดราคา บางคน 800 ทั้งวันก็ยังรับ (งานรับปริญญา) แต่ปัจจุบันเลิกเครียดแล้วครับ เรามีเรทในใจ ถ้าค่าแรงไม่คุ้มค่าเหนื่อย ก็ไม่รับครับ ใครอยากรับถูกๆให้เค้ารับไป ช่าง 1 คนก็มี 2 มือ อยากรับกันถูกๆ อย่างมาก 1 เดือนเค้าก็ถ่ายได้แค่ 30 วัน เต็มที่ ใช่ว่าลดราคาแล้วจะรับได้เดือนละ 50-60 งานซะที่ไหน และจากการที่เคยมีประสบการณ์ในการรับงานถูกๆมา และงานที่จ่ายหนักๆมาทั้ง 2 อย่าง ลูกค้าที่ต่อแล้วต่ออีก เวลาถ่ายงานมักจะเรื่องมาก ใช้งานหนัก และจู้จี้ ส่วนลูกค้าที่จ่ายราคาสูงกว่ามักจะไม่มาเครียดกับเราครับ สรุป สุดท้ายอย่าไปเครียดกับเรื่องเรทราคาเลย ให้เรทราคาเป็นตัวบอกคุณภาพของงานดีกว่าครับ สำหรับผมรูปสึกภูมิใจที่ได้งานเพราะคุณภาพมากกว่าได้งานเพราะราคาถูกครับผม จากคุณ : DSkong เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 21:46:21

ความคิดเห็นที่ 8 บางคนฝืมือคุ้มราคา แต่บางคนมีแต่ราคาคุยก็เยอะครับ บางคนถึงขนาดนำผลงานคนอื่นมาเป็นผลงานตัวเอง บางคนก็ฝีมือดี แต่อยากฝึกให้มากขึ้นก็ยอมรับค่าแรงที่ไม่สูงนัก ฯลฯอีกเยอะครับ แต่คนที่ฝีมือดี ก็ยังได้ค่าแรงที่คุ้มค่าก็มีอีกมากครับ จากคุณ : e20 เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 21:48:39

ความคิดเห็นที่ 9 กล้องราคาไม่แพงมากครับเดือนนี้เพื่อนผมถอยกล้องพร้อมๆกัน 4 คน - - จากคุณ : beerlabel เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 21:53:50

ความคิดเห็นที่ 10 ยุคนี้กล้องดิจิตอลราคาถูกลงเรื่อยๆ คุณภาพดีขึ้น ใครๆก็มีได้ ใครๆก็ถ่ายได้ง่ายขึ้น ถ้าไม่ใช่งานโอกาสพิเศษจริงๆคงไม่อยากจ้างช่างหรอกครับ ลองดูสิครับ อย่างงานรับปริญญา เดี๋ยวนี้ทั้งบัณฑิต ทั้งเพื่อนฝูงญาติพี่น้อง ต่างก็พกถือกล้องมากันแทบทั้งนั้น เล็กบ้างใหญ่บ้าง โดยเฉพาะมือใหม่ ถ้าจะเอาเป็นอาชีพจริงจัง โดยไม่มีรายได้จากงานอื่น คงเหนื่อยนะครับ ขนาดมือเก่ามือโปรยังเปลี่ยนแนวหารับงานอื่นนอกจากรับจ้างถ่ายภาพ(ที่แทบไม่มีงานแล้ว) คนรู้จักที่เห็นๆมาและยังรักการถ่ายภาพอยู่ก็ 1. ฝีมือดีหน่อย มีชื่อเสียงบ้าง ก็ไปถ่ายโสการ์ดส่งตามสถานที่เที่ยวต่างๆ 2. รับจ๊อบให้นิตยสารท่องเที่ยว 3. ถ่ายรูปส่งขายไมโครสต๊อค จากคุณ : ray daddy เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 22:00:10

ความคิดเห็นที่ 11 ทุกสิ่งทุกย่าง ย่อมมีการเปลี่ยนแปลง ไปตาม ยุกสมัย ของมัน ช่างภาพสมัยก่อน สมัยกล้องฟิล์ม... สามารถ ยึดเป็นอาชีพได้ เพราะ คนมีความรู้ ทางด้านการถ่ายภาพ ต้องรู้จริง คนเล่นกล้อง สมัยก่อน ต้องเป็นคนที่มีใจรัก และมืออาชีพจริงๆ... เมื่อยุคสมัย มันเปลี่ยน.... กล้องถ่ายภาพ ทุกวันนี้ คือสินค้า คอนซูมเมอร์..... เป็นอุปกรณ์ ชีวิตประจำวันไปแล้ว ทุกๆ ครอบครัว ต้องมีกล้อง อย่างน้อย ก็กล้องมือถือ แหละน่า.... ช่างภาพ .... ก็ต้องปรับตัว ให้เข้ากับยุคสมัยของมัน.... ช่างภาพอาชีพ เกิดขึ้น ตลอดเวลา.... การแข่งขัน สูง ขึ้นตามลำดับ.... ทุกสิ่งทุกอย่าง... ทุกสาขาอาชีพ จะต้องมีการปรับตัว ให้ทันสมัย ทันเหตุการณ์ เพื่อความอยู่รอด.... ใครที่จมปลัก ในอดีต.... ไม่ยอมปรับตัว ก็รอวันตาย... ธรรมชาติ สร้างให้ปลาที่แข็งแรง ว่ายทวนน้ำ เท่านั้น ถึงจะอยู่รอด ส่วนปลา ที่ ลอยตามน้ำ คือปลาที่ตายแล้ว จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 22:06:21

ความคิดเห็นที่ 12 กลายเป็นของเล่นราคาแพงที่ใครก็หาซื้อได้ แล้วก็หาเงินมาชดเชยด้วยการรับงานที่รายได้จุ๋มจิ๋มซะแล้ว เศร้าจริงๆ T_T จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 22:14:14

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าไม่มีช่างมือใหม่ช่างภาพสมัครเล่นเยอะๆ ช่าภาพอย่างเราๆ คงไม่มีปัญญาซื้อกล้องกันหรอกครับ : > 60D คงราคาเป็นแสน 5dmkii คงราคา หลายๆ แสน จากคุณ : Epsilon5th เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 22:20:29

ความคิดเห็นที่ 14 ก็เพราะกลัวไม่ได้งานไงครับ ราคาถึงได้ตกลงเรื่อยๆ ต่อไปก็จะถูกกว่านี้อีก ไม่เชื่อคอยดู จากคุณ : หนึ่งจุดแดง เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 22:22:08

ความคิดเห็นที่ 15 ปกติก็ไม่ได้รับงานถ่ายพวกนี้หรอก มันต้องใช้อุปกรณ์เยอะ เสียเวลาเยอะ กวนเวลางานเวลาพักผ่อนเราไปมาก แลกกับค่าตอบแทนที่แบบว่าถ้านอนเฉยๆ อยู่บ้านคุ้มเสียกว่า เดี๋ยวนี้ก็จะกลายเป็นเหมือนตากล้องหยิ่ง(555 จริงๆ ไม่มีใครจ้าง) คือจะถ่ายเฉพาะที่อยากถ่าย แต่ถ่ายเป็น pattern งานต่างๆ นี่ไม่ถ่ายจริงๆ ขอถ่ายรูปให้เป็นศิลปะกับพักผ่อนหย่อนใจดีกว่า เรื่องเงินที่ซื้อกล้องซื้อเลนซ์ อุปกรณ์ต่างๆ ก็ไม่คิดอะไรแล้ว เหมือนเราซื้อตู้เย็น ทีวีนั่นแหละ ทำใจสบายๆ อิอิ จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 22:22:37

ความคิดเห็นที่ 16 แต่ยุคเศร้าของคนจัด art  ด้วย อุส่าดีใจ คนจ้างทำโปรชัว บอกช่างกล้องใช้ บางคนใช้รุ่นเลขสามตัวท๊อฟถ่ายโปรดัก พอได้รูปมาโห อยากร้องไห้ นึกว่ากล้องคอมแพ็ค  หรือเอากล้องมาให้ผมถ่าย เองดีกว่า ถ่ายมาสู้ตากล้องบางคนที่ใช้ดี แปดสิบ กับ ดีสามรอย ไม่ได้เลย จากคุณ : hepjam เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 22:29:15

ความคิดเห็นที่ 17 ต้้องปรับตัวไปตามความเปลี่ยนแปลง.. ไม่ปรับก็อยู่ไม่ได้.. ผมคิดไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่า..จะไม่ใช้การถ่ายรูปเป็นอาชีพ ถ้าคิดแบบนั้น..ป่านนี้ผมคงอดตายไปแล้ว.. จากคุณ : คนบางปะอิน เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 22:39:43

ความคิดเห็นที่ 18 เมื่อสัก 2 ปีก่อน เพื่อนผมคนนึงแต่งงาน ผมก็หาช่างภาพจากในเวปให้ ทางเพื่อนผมเองตั้งงบประมาณเฉพาะช่วงเย็น ไม่น่าเกิน 3000 บาท ปรากฏว่า ทุกท่านก็เสนอราคามาตั้งแต่ 2500-7500 บาท แล้วแต่ option ว่ามีอะไรบ้าง ผมใช้วิธีลงประกาศหา ปรากฏว่า มาเพียบ พร้อมเวปงานให้ดู ดูไปดูมา เพื่อนผมเลือกช่างภาพคนนึง เค้าคิดแค่ 3000 บาท สิ่งที่ได้มา 1.ตัวเค้าเป็นช่างภาพหลัก 2.มีช่างภาพสำรองมาให้พร้อม ถ่ายเก็บบริเวณในงาน 3.แถมชุดไฟ หน้างานให้ด้วย 4.สามารถเคลื่อนย้ายชุดไฟ ไปในงานให้อีก 5.ทำภาพพร้อมปรับแต่งให้ 6.ภาพถ่ายมาเท่าไหร่ ให้หมดเลย ก็ได้มีการพูดคุย เค้าบอกว่าปกติถ่ายภาพสินค้างานโฆษณาแพคช็อต แต่ช่วงนี้งานน้อย ช่างภาพเยอะ ในเมื่อเค้ามีอุปกรณ์อยู่แล้ว ก็เลยเอามารับงานแบบนี้  อุปกรณ์ได้ใช้งาน มีค่ารถ ค่านำมัน และมีคนรู้จัก เผื่อต่อยอดไปงานแบบอื่นอีก เค้าถึงยอมรับราคานี้ ดีกว่าอยู่เฉยๆๆกินบุญเก่า จากคุณ : sinvorapat เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 22:58:42

ความคิดเห็นที่ 19 เข้าใจน้าๆที่อยู่ในวงการมานาน เห็นใจครับ เพราะผมเป็นประเภทรับงานคนรู้จักเท่านั้นและไม่คิดราคาด้วย และอย่างที่น้าๆว่า กล้องถูก คนเล่นเยอะขึ้น Supply มันเยอะมาก Demand ก็ย่อมได้ประโยชน์ไป จากคุณ : thepthana เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 23:00:01

ความคิดเห็นที่ 20 จาก Blue ocean ----> Red Ocean จากคุณ : 7187 (7187) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 23:03:30

ความคิดเห็นที่ 21 ก็เพราะมันเกิดจาก  Demand และ Supply  การแข่งขันอีก ที่สำคัญ  อยู่เฉยๆ  ไม่ได้ตังค์   ไปซะหน่อย ได้มา 1000-1500 เค้าเรียกว่า  "ดีกว่าอยู่เฉยๆ" ไง จากคุณ : EITHER เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 23:05:17

ความคิดเห็นที่ 22 บลูขชยับตัวเองไปถ่ายไมโครสต๊อคอ่ะค่ะ ที่นั่นงานยังแข่งกันที่คุณภาพและไอ เดียอยุ่ จากคุณ : บลูดานูป เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 23:30:52

ความคิดเห็นที่ 23 งานรับปริญญามันก็แย่ครับ แต่ปีนึงจะรับกันกี่ครั้งครับ ช่างภาพมือใหม่โอกาสรับงานก็มีแค่นี้แหละครับ และลูกค้าก็มักจะถามโน่นนี่ต่อรองซะสุดๆ แต่คุณภาพน่ะไม่รู้เลยครับ จะเอาถูกๆอย่างเดียวคุณภาพมันก็แย่แหละครับ ถูกมากๆก็มีแต่มือใหม่ทั้งนั้นครับ ถ่ายรูปมาไม่กี่เดือนไม่เคยได้ตังค์ ได้สักพันก็ดีกว่าไม่ได้ แถมจะเอาไปทำพอร์ต แต่งานอย่าง อีเวนท์หรืออื่นๆหากไม่เคยผ่าน เขาไม่ไว้ใจก็ไม่มีใครกล้าจ้างหรอกครับ ที่อาจจะไปชนอีกรอบก็ Prewedding โดยมากช่างภาพที่รับงานถูกเพราะกลัวไม่ได้งาน เพราะคุณภาพตัวเองไม่ดีมาก ส่วนลูกค้าที่จ่ายถูกก็เพราะไม่รู้คุณภาพ ว่าเรทไหนคาดหวังได้เท่าไร เลยขอถูกๆและขอเรื่องมากไว้ก่อนเพราะอยากจะให้ได้ดีๆ ส่วนที่ยอมจ่ายเพราะเชื่อถือคุณภาพ มักไม่เรื่องมากและคุยรู้เรื่องมากกว่าครับ รับปริญญาจะเอาเป็นพันรูปแต่งทุกรูป ราคาพันกว่า เช้ามืดยันอาทิตย์ตก เชิญเลยครับมีเยอะแยะ แต่มือใหม่ๆทั้งน้าน คุณก็จ้างไปแล้วกันครับ ผมเองมีเรทในใจอยู่ครับ ก็แค่บอกว่าราคาเดี๋ยวนี้ถูกลงจริงๆแหละครับ แต่คุณภาพมันก็ตามราคาเหมือนกันครับ คิดง่ายๆค่าเสื่อมอุปกรณื ชัตเตอร์กดหนึ่งที 2บาท ค่าแรง1.50บาท  ค่าน้ำมันค่าข้าว 1 บาท ค่าคอมพืและไฟฟ้า.50บาท 500ภาพ 2500 ถึงจะพอได้ครับ ต่ำกว่านี้ขาดทุนใครอยากทำก็ไปเถอะ คิดถูกกว่านั้นเอาเป็นว่าทำไปขำๆก็แล้วกัน ก็รับปริญญาเลยมีอื้อเลย ขนาดเสนอตัวถ่ายฟรีไม่คิดตังค์ก็มี 500ก็มี เป็นงานปริญญาคืองานมือใหม่หัดรับงานครับ อย่าไปคิดเป็นเรทอาชีพจริงๆเลยครับ แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 54 00:51:20 จากคุณ : หมาส้มสมหวัง เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 00:43:31

ความคิดเห็นที่ 24 อย่างอีเวนท์ที่ผมได้มาก็ยังสามสี่พัน เหมาวันก็ยังหกพันอยู่ดีครับ เพราะไม่ต้องไปชนมากมายกับมือใหม่ๆ อันนี้ก็ว่ากันไปแหละครับ ว่างานแต่ละคนมันก็แบ่งกันไปแต่ละระดับราคา เรทหลักหมื่น หรือแสนก็ยังมีอยู่ครับ ขอบเขตการทำงานการรับผิดชอบก็ต่างกันไป จัดเซตทีเป็นแสนๆคุณจะจ้างช่างภาพราคาหกพัน ไม่คิดว่าเสี่ยงหรือครับ โปรดัคชั่นใหญ่ๆมันก็ยังได้เงินหลักหมื่นหลักแสนอยู่ดีครับ ตัวแปรก็ยังเหมือนเดิม คุณภาพที่มีและคู่แข่งที่มีครับ เป็นตัวกำหนดราคาที่แท้จริง จากคุณ : หมาส้มสมหวัง เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 01:01:56

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้าคุณฝีมือดีพอ คิวละ 5000-10000 ก็มีคนจ้างครับเห็นมาแล้ว มาคนเดียวด้วย มุมมองสุดยอด โพรเสสภาพสุดยอด ส่งงานตรงเวลา โปรฯตัวจริง เดี๋ยวนี้ค่าจ้างถูกๆแต่จับกล้องยังไม่ถึงเดือนก็มีครับ ลูกค้ายังไงซะเค้าก็เลือกอยู่แล้วครับ ส่วนตัวผมไม่รับงานพวกนี้ครับเพราะเหนื่อยไม่คุ้มค่าแรง ถ้ามีถ่ายก็ถ่ายเฉพาะ ญาติพี่น้อง พี่รหัสน้องรหัส เพื่อนสนิท ค่าจ้างไม่คิดครับ เลี้ยงข้าวซักมื้อพอ ข้าวแกงก็ได้ไม่ซีเรียส...แต่รอหน่อยนะผมโพรเสสช้า อิอิ จากคุณ : LoLinEo เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 01:08:45

ความคิดเห็นที่ 26 มือใหม่ยังไม่มีฐานลูกค้า ยังไม่เป็นที่รู้จัก ก็ต้องจูงใจ ลด แลก แจก แถม เป็นธรรมดา ส่วนมือเก่า มืออาชีพ มีฐานลูกค้า เป็นที่รู้จัก หรือบอกต่อๆกัน ภาพสวย ภาพดีเยี่ยม ก็มีงานกันตลอดปีนะ ในเรทราคาของช่างแต่ละท่าน งานชน งานซ้อนเสมอๆ ผมเองในยุคดิจิตอลเรียกราคาแพงกว่าสมัยฟิล์มพอสมควร ทั้งงานรับปริญญา งานแต่งงาน ฯลฯ เพราะถ่ายภาพเสร็จต้องมาโพรเสสงานต่ออีก ลูกค้าก็เข้าตลอดเหมือนกัน (สำหรับงานรับปริญญามีรับกันแทบทั้งปีครับ แล้วแต่ที่ แล้วแต่ละสถาบันทั้งต่างจังหวัดและ กทม.) จากคุณ : 13 ลัคกี้นัมเบอร์ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 02:26:14

ความคิดเห็นที่ 27 เดี่ยวนี้กล้องมันถูกลงมากๆ ใครๆก็เป็นกันได้ มีตากล้งหน้าใหม่รับงานฟรีแลนซ์กันมากมายตัดราคาแข่งกันเองบ้าง ยิ่งทำให้ดูค่าตัวถูกลงเรื่อยๆด้วย จากคุณ : tump เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 07:12:38

ความคิดเห็นที่ 28 เอาไว้ถ้ามันถึงจุดเสื่อมที่สุดแล้ว หลังจากนั้นก็จะเริ่มปรับตัวเข้าที่เข้าทางเองแหละครับ >>ช่างภาพตัดราคากันเอง ตัดไปตัดมาสุดท้ายก็จะเลิกเองเพราะไม่คุ้ม >>ลูกค้าเลือกช่างภาพราคาถูกที่สุดไว้ก่อน แต่โอกาสได้ภาพแย่ๆ มากกว่าภาพดีๆ    สุดท้ายก็จะต้องกลับมาเลือกในราคาที่สมเหตุสมผลอยู่ดี จากคุณ : SpRiNtEr เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 07:23:23

ความคิดเห็นที่ 29 ช่างภาพเกิดใหม่วันละเป็นร้อย  แน่นอนครับการแข่งขันมันสูงแน่ๆเค้าเป็นมือใหม่จะให้เค้าไปเรียกราคาแพงๆเค้าก็คงจะไม่ได้งานเหมือนกัน ก็เลยเรียกราคาแบบว่าได้ฝึกมือไปด้วยได้ค่าขนมชิวๆไปด้วยก็โอแล้ว   กับช่างภาพอีกประเภทคือรับงานแบบมีเรทราคาตายตัวอยู่แล้ว    ผมว่ามันขึ้นอยู่กับลูกค้าครับว่าเค้าจะเลือกอะไรแบบไหน ถ้าเน้นถูกก็ต้องแบบแรก แต่ถ้าเน้นคุณภาพหน่อยก็ต้องแบบหลัง  ตลาดมันต่างกันนะ   เดี๋ยวนี้ถ่ายรูปสวยอย่างเดียวการตลาดไม่เก่งก็ไม่รอดเหมือนกันล่ะครับ   อย่างผมไม่คิดอะไรมากนะ ถ้าลูกค้าต่อราคามากๆจนเราคิดว่าไม่คุ้มเหนื่อยผมก็ปฎิเสธไปครับ ต้องยอมปล่อยลูกค้าไปให้เค้าไปหาราคาที่เค้าพอใจล่ะครับ  ไอ้จะไปลดแลกแจกแถมตามมือใหม่ๆผมก็ไม่เอาเหมือนกันมันไม่ไหวหรอกครับใครจะทำก็ทำนะแต่ผมไม่เอาด้วยคน จากคุณ : ตากล้องหนุ่ม เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 07:47:29

ความคิดเห็นที่ 30 เรื่องที่ จขกท.กังวล ผมขอบอกว่า ... มันไม่ได้ต่างจากอาชีพสายอื่นๆหรอกครับ เพียงแต่ว่า สายอาชีพอื่นๆ ... มันวางไลน์ไว้ชัด เป็นสิบปี ส่วนสายอาชีพถ่ายรูป .. ไลน์ไม่ค่อยชัด ไม่มีสถาบันหรือองค์กรไหน เป็นตัวตั้งตัวตี คนที่เป็นช่างภาพต้องมองหาเองให้เจอ ไม่ค่อยชัด ไม่ใช่หมายความว่า ไม่มี ----------------------- สายอาชีพ "ทำเงินง่าย" อย่างผม เรียนกันตามหลักสูตร แทบตายคาเขีัยง (ช่างภาพ .. เรียนกันเท่าไหร่??) เรียนกันเป็นปี (ช่างภาพ เรียนกันนานเท่าไหร่??) จบมาใหม่ๆ ถ้าอยากได้ตังค์ ก็ต้องไปเป็นลูกน้องเขา ได้เงินวันละ 1,500-2,000 ก็ต้องยอม (ช่างภาพ ได้วันละเท่าไหร่??) ถ้าอยากได้ตังค์มากๆเยอะๆ ก็ต้องซื้อหา จัดหา อุปกรณ์เอง หาทำเลลงทุน ฯลฯ หลายแสน (ช่างภาพ ลงทุนเท่าไหร่) ลงทุนไป .. กว่าจะคืนทุน .. ก็ต้องทำทุกวัน รับจ็อบทุกวัน ปีนึงๆ หยุดงานได้ไม่เกิน 4-5 วัน!!! (ช่างภาพมือใหม่ ทำงานกันเดือนละกี่วัน?) วันแรกๆ เดือนแรกๆ ได้เฉลี่ยวันละ 1,000 บาท ก็ดีใจตายแล้ว เพราะพอจ่ายดอกเบี้ย + ค่าข้าวรายวัน กว่าจะมีรายได้เข้ามาสม่ำเสมอ ก็ต้องทำอย่างนั้น ทำทุกวัน ทำไปสามปี ห้าปี ช่างภาพ ที่ทำงานทุกวัน ถ่ายรูปทุกวัน เพื่อรายได้ 500-1,000/วัน ... นาน 3 ปี ห้าปี มีไหม กว่าสายอาชีพผม (ซึ่งมีไลน์อาชีพชัดเจน การันตีว่า มีงานเข้าเสมอ) จะมีรายได้มาก รายได้สม่ำเสมอ ได้จ็อบค่าตอบแทนสูง ยังต้องเรียนกันเป็นสิบๆปี ทำงานหามร่งหามค่ำกันเป็นสิบๆปี แล้วสายอาชีพช่างภาพหละครับ ???? การแข่งขันกันในสายอาชีพ มันรุนแรงทุกสายอาชีพครับ คนที่อดทน ฝึกฝน ไม่ย่อท้อ เรียนรู้ตลอดเวลา วัดกันด้วยมาตรเวลา "สิบปี" ถึงจะประสบความสำเร็จ ในสายอาชีพของตัว ก้าวจากแถวหลังสุด มาแถวหน้า รับค่าตอบแทน "คุ้ม" กับแรงงานแรงสมองที่ใส่ลงไป ส่วนคนที่หวังผลเฉพาะหน้า ยึดติดกับความรู้ ความชำนาญเก่าๆ ไม่รอดซักราย ความขยัน มานะ อดทน .. รากมันลึก และขมยิ่ง แต่ดอก ผลของมัน หอมหวานสุดๆ สู้ๆ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 08:01:25

ความคิดเห็นที่ 31 คนสมัยนี้ .. อุปกรณ์มันถูกลง ทำให้หลายๆคน อยากเป็นช่างภาพ เริ่มด้วยความรักความชอบในการถ่ายภาพ + ต้องการฝึกฝีมือ จึงรับงานที่ "ขาดทุน" ถ้ามองผ่านๆ .. ขาดทุน ในแง่ธุรกิจ แต่ถ้ามองให้ดี .. กำไร ในแง่ "ความพึงพอใจในงานที่ได้ทำ และไ้ด้ทำงานที่พอใจ" ตากล้อง "สมัครเล่น"เหล่านี้ ถือกำเนิดขึ้นทุกวัน เพราะเทคโนโลยี ราคาถูก ความรู้ หาง่าย แหล่งฝึกฝน มีมาก สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยน คือ การเปลี่ยนตัวเอง จาก "มือสมัครเล่น" เป็น "มืออาชีพ" ต้องการรายได้ จากรายได้ของมือสมัครเล่น เป็น รายได้ของมืออาชีพ เมื่อไรที่ต้องการเปลี่ยนอย่างนั้น ก็ต้อง "เข้าใจ และรู้ชัด" ถึงความแตกต่างระหว่างมือสมัครเล่น กับมืออาชีพ ถ้าไม่เข้าใจ ลูกค้า ก็ไม่เข้ามา และ ตัวเองก็จะได้รับค่าตอบแทน ระดับ "มือสมัครเล่น" อยู่เรื่อยไป ความแตกต่างระหว่าง มืออาชีพ และมือสมัครเล่น มันไม่ใช่แค่ อุปกรณ์ หรือ ความรับผิดชอบต่องาน มันยังรวมไปถึง ความรู้ ความสามารถ ความชำนาญ ในด้านที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงาน การรับจ้างถ่ายรูป เป็นเรื่องของปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนต่อคน หรือ คนต่อองค์กร คนต่อสังคม ถ้าไม่เข้าใจเรื่องนี้ชัดๆ ก็เหมือนอยากถ่ายรูปคนให้หน้าชัดหลังเบลอโดยใช้คอมแพ็ค หรือ ถ่ายมาโครหลังดำให้เหมือนน้าบางโดยกล้องมือถือ .. มืออาชีพ ใช่ว่าจะแค่เข้าใจในงานที่ตัวเองทำ ยังต้องเข้าใจ กฏ เกณฑ์ กติกา ของอาชีพ ของสังคม ของธุรกิจ ของลูกค้า ต้องรู้ และเข้าใจบัญชี เศรษฐศาสตร์ ประชาสัมพันธ์ บริหารงาน บริหารธุรกิจ ฯลฯ ถ้าไม่รู้ และไม่เข้าใจ ก็ไม่ต่างจากมีสตูใหญ่ๆ ไว้ถ่ายรูป ที่มีตัวเราเอง, กล้อง 1Ds ตัวนึง, เลนส์ 85mm f/1.2 ตัวนึง แต่ไม่มีแฟลช ไม่มีไฟ ไม่มีผู้ช่วย ไม่มีคนจัดไฟ, ไม่มีร่ม, ไม่มีคนซื้อน้ำเย็นๆ, ไม่มีช่างแต่งหน้า ฯลฯ ไม่ถดถอย ไม่ดับไว ก็เป็นเรื่องแปลกหละ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 08:15:55

ความคิดเห็นที่ 32 การแข่งขันมันสูงจังเลย  แล้วน้าๆ ที่รับงานเจอสถานการณ์แบบนี้แล้วคิดเห็นกันอย่างไร  แล้วเอาตัวรอดอย่างไรกับการแข่งขันอันดุเดือดนี้  มาแชร์กันหน่อยครับ สู้ครับ .. สู้ด้วยความขยัน มานะ อดทน ขยันหาความรู้ ขยันหาความชำนาญ  ขยันเพิ่มพูนความสามารถ มานะ อดทน ไม่เกี่ยงงานหนัก ไม่เกี่ยงเงินน้อย ได้ห้าร้อย รับห้าร้อย ได้ห้าพัน รับห้าพัน ไม่ท้อแท้ ไม่สิ้นหวัง ไม่หดหู่ทอดอาลัย อย่าคิดตื้นๆสั้นๆ แค่ว่า  ผลตอบแทน คือ เงิน อย่างอื่น ไม่ใช่ผลตอบแทน อย่าดูถูกเงินที่ได้มาด้วยการทำงานสุจริต คนที่ดูถูกเงินบาทเดียวว่าน้อย ไม่มีทางรุ่งเรือง ... หมั่นสะสม .. ไม่ใช่แค่เงิน แต่สะสมประสบการณ์ สะสมชื่อเสียง เกียรติยศ ความชำนาญ ผลงาน วันใดที่สิ่งเหล่านี้เต็ม มันก็รอดเอง ไม่ต้องดิ้นรน ประสบการณ์ ชื่อเสียง เกียรติยศ ความชำนาญ ผลงาน สิ่งเหล่านี้ ไม่ได้มาได้ในเวลา 1-2 วัน หรือ 1-2 ปี และไม่มีทางลัด ที่จะได้มาด้วย ลองศึกษาประวัติคุณชิน โสภณพาณิช ดูได้ครับ ท่านมาอย่างไร ใช้เวลานานเท่าไหร่ ใช้ความอดทนมากน้อยแค่ไหน กว่าท่านจะกลายเป็น"ตำนาน"ของความสำเร็จทุกวันนี้ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 08:23:17

ความคิดเห็นที่ 33 งานรับปริญญา มักให้ความสำคัญกับคำว่า"ขอราคาไม่เกิน 1,*** นะครับ/นะ  งบน้อย ฯลฯ   แต่ขอดูพอร์ท  + อุปกรณ์กล้อง  เลนส์ แฟลช ที่ใช้  ผลงานที่ผ่านมา มากมาย   นี่คือ สิ่งที่ผมว่ามาข้างบน คนที่ยังไ่ม่มี "ประสบการณ์ ชื่อเสียง เกียรติยศ ความชำนาญ ผลงาน" ... ก็ต้อง "เข้าไปเสนองานล้นหลามครับ  ...เรียกว่ามากันทุกระดับ  ทั้งมือเก่า  มือใหม่    ขนอุปกรณ์มาเสนอและแปะลิ้งผลงานกันมากมาย .. ต่อรองราคาได้" และจะไม่เห็นมืออาชีพที่มี "ประสบการณ์ ชื่อเสียง เกียรติยศ ความชำนาญ ผลงาน" เข้าไปเสนองานเลย นอกจากไม่เข้าไปเสนองานแล้ว ยัง "เกี่ยงงาน, เล่นตัว, ใช้อารมณ์, โก่งราคา" อีกตะหาก เอาง่ายๆ อย่างน้าเบิร์ด (แห่งพันทิปนี่แหละ), น้าต่อพงศ์ (2how) ฯลฯ ลองประกาศดิว่า .. กรูรับจ็อบงานถ่ายภาพรับปริญญา งานแต่ง  งานบวช นะเฟร้ย (น้าเบิร์ดรับไปแล้วนี่หว่า) งานเข้าไหม ต้องออกไป "แย่งลูกค้า" ไหม "ประสบการณ์ ชื่อเสียง เกียรติยศ ความชำนาญ ผลงาน" มันไม่มาเอง มันไม่มาง่ายๆ มันไม่มีง่ายๆ แต่มีเมื่อไหร่ มาเมื่อไหร่ เต็มเมื่อไหร่ งานเข้าเอง ปฏิเสธงานให้ทันแล้วกัน จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 08:31:02

ความคิดเห็นที่ 34 ตลาดสูงวันละแสนห้ายังมีอยู่และไปได้ดีไม่ต้องแย่งงานครับ เอเยนซี่เลือกคนเลือกเฮ้าส์แบบไม่เกี่ยงราคาถ้าฝีมือแน่จริง แต่ตลาดล่างร้อยพ่อพันแม่รับตั้งแต่งานโกนจุกถึงทอดผ้าป่าเลือกงานไม่ได้ต้องทำใจ สะพายเครื่องมือราคาครึ่งแสนมารับงานแปดร้อยก็เห็นบ่อยๆ แต่งานสต็อกยังคุ้มค่าเสมอสำหรับคนมีฝีมือที่รักอิสระเป็นเจ้านายตัวเอง บางครั้งรูปเดียวก็ได้ค่าเลนส์คืนแล้ว ตลาดยุโรปและรีจินอลยังขายฟุตเทจหรือสต็อกได้เสมอสำหรับคนมีฝีมือสร้างงานศิลป์ตัวจริง นับหัวแล้วในเมืองไทยยังมีคนประกอบอาชีพขายสต็อกและฟุตเทจนับร้อยคนที่ใช้ชีวิตอยู่ได้แบบไม่ลำบากเลยครับ จากคุณ : คนธนฯ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 08:45:13

ความคิดเห็นที่ 35 มีอยู่ครั้งนึง ผมไปงาน "ขอบคุณลูกค้า" ของ บ.ยักษ์ใหญ่ ที่จัด ตจว. งานจัดริมสระน้ำ โรงแรมหรูเชียวหละ ได้คุยกับช่างภาพ .. ที่มาถ่ายภาพตอนเย็น งานเขาคือ 1.ถ่ายภาพลูกค้า แบบ "จัดฉาก" ให้เข้ากับคอนเซ็ปท์ของงาน โดยถ่ายภาพลูกค้า คนละ 2-3 รูป กับฉากที่ บ.จัดหามาให้ ก่อนเลือกภาพที่ดีสุด มาพรินท์ลงบนของที่ระลึก เพื่อให้ลูกค้านำกลับไป 2. ถ่ายภาพแขก ในงานเลี้ยงตอนกลางคืน คืนนั้น .. ส่งมอบเป็นไฟล์ทันทีหลังจบงาน, ไม่ต้องแต่งภาพ ลูกค้ามีราวๆ 30 คน ช่างภาพ มากัน 3 คน กล้อง 2 ตัว + เลนส์ 2 ตัว + ขาตั้ง + ชุดไฟร่ม 3 ชุด + โน้ตบุค + เครื่องพิมพ์ภาพ 2 ชุด คนนึง ถ่ายภาพ (กล้องอยู่บนขาตั้ง) อีกคน คอยบริการจัดคิวลูกค้า และคนสุดท้าย แต่งภาพ และพิมพ์ภาพ ----------------------------- สิ่งที่ีคุยได้มา ค่าจ้างทั้งหมด 100,000 บาท กับการถ่ายรูปไม่เกิน 100 รูป ที่อัดแค่ 30 รูป และถ่ายเล็กๆน้อยๆ 2 ชม. ตอนงานเลี้ยงกลางคืน รับงาน .. เดือนละ 4-5 งานเท่านั้น มากกว่านั้น .. เหนื่อย และขี้เกียจ คิวงาน??? อ๋อ? ยาวไปอีกหกเดือน หน้าฝนงานน้อยหน่อย สิ้นปียังไม่รู้จะรับงานดีไหม เพราะอยากไปเที่ยว ตปท. ทำไมลูกค้าถึงจ้าง? เอ้อ .. ลูกค้า(ผู้จ้าง)"มั่นใจ"ว่า ได้รูปแน่นอน "มั้ง" เคยพลาดมั่งไหม แบบว่า ไม่มีรูปให้ ไม่เคย ของมันพลาดได้หนเดียว พลาดก็จบ เลิกทำงานนี้ได้เลย เหมือนขับเครื่องบินนั่นแหละ จบบทสัมภาษณ์ครับ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 08:45:31

ความคิดเห็นที่ 36 ตากล้องมีฝีมือ นิสัยดี อุปกรณ์ดี รับถ่ายปริญญา 5000 up ต่อวันก็ยังมีเยอะนะครับ จากคุณ : idiosy เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 09:07:20

ความคิดเห็นที่ 37 น่าจะมีการสอบวัดมาตรฐาน หรือพวกใบ certificate เฉพาะสาขาอาชีพเนอะ มีใบ cert. แบบว่าผ่านการทดสอบแล้ว คล้ายๆใบ cert. ของ windows อะไรประมาณเนี้ย และมีการตั้งราคามาตรฐาน (แต่คงยาก) จากคุณ : หมูอ้วนจะบิน เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 10:47:19

ความคิดเห็นที่ 38 ......... Lemon Market ........... แปลว่าไรไม่รู้ นู่จำเค้ามา ..เหอๆ   ปล. เป็นพวกฟรีสะแหลนซ์ คือ สะแหล๋นไปทำให้เขาฟรีๆ มีความสุขดีค่ะ 55+ จากคุณ : จิตรางคทา เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 11:05:01

ความคิดเห็นที่ 39 เรื่องแข่งตัดราคากัน เป็นปกติทุกวงการ งานบริการที่ไม่ต้องใช้ความสา่มารถพิเศษ ก็มีคู่แข่งเยอะอยู่แล้ว สถาปนิก กับ โปรแกรมเมอร์ ยังตัดราคาแย่ง project กันหนักกว่าตากล้องอีก จากคุณ : jaycee เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 11:18:33

ความคิดเห็นที่ 40 ผมว่ามันเหมือนวัฎจักรทางธุรกิจมากกว่าครับ  แต่เหนือสิ่งอื่นใด  นอกจากลูกค้าที่ต้องการแค่ว่าราคาถูก  ก็ยังมีลูกค้าอีกจำนวนหนึ่งที่ต้องการคุณภาพมาก่อนเช่นเดียวกัน  และแน่นอนเลยครับว่า  ลูกค้าจำพวกนั้นเค้าต้องศึกษา และดูผลงานที่ผ่านมาของคนที่จะจ้างวานอย่างละเอียด ถี่ถ้วนอย่างแน่นอนครับ จากคุณ : Plus Size+ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 11:43:09

ความคิดเห็นที่ 41 กล้องถูกลง มากๆ แถมคุณภาพดีขึ้นมากๆ ตากล้องก็เลยเพิ่มขึ้นมากๆ ตาม จากคุณ : แกงส้มผักกระเฉด เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 12:44:05

ความคิดเห็นที่ 42 การแข่งขันสูงนำมาซึ่งการตัดราคา มีในแทบทุกวงการครับ จากคุณ : จันทร์สะท้อนเงา เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 16:09:50

ความคิดเห็นที่ 43 ผมว่าน่าจะขึ้นอยู่กับความพอใจของลูกค้าด้วยน๊ะ บางคนอยากได้รูปสวยๆ ไม่ใช่แบบฝีมือธรรมดา ก็คงยอมจ่ายราคาแพง แต่บางคนไม่ต้องการอะไรขอแค่มีรูปถ่ายเก้บไว้เป็นที่ระลึกก็พอ แบบนี้ก็คงไม่อยากจ่ายเยอะ เรื่องธรรมดาครับ ผมว่าเส้นทางอาชีพสำหรับช่างภาพ ไม่ได้มีแค่ถ่ายรูปรับปริญญานี่ครับ เช่น นิตยสาร สื่อสิ่งพิมพ์ งานโฆษณา งานอีเว้นท์ อื่นๆ อีกมากมาย ลูกค้ากลุ่มนี้ เค้าคงไม่ยอมเสี่ยงกับช่างภาพที่มาห้ำหั่นราคากันหรอกครับ เค้าก็คงต้องเลือกช่างภาพโดยดูจากผลงานของช่างภาพที่เค้าจะจ้างอ่ะครับ จากคุณ : kob76 เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 16:31:42

ความคิดเห็นที่ 44 ไม่รวมที่ถ่ายกันเองด้วย เพื่อนรับปริญญา ก็ไปช่วยถ่ายให้ฟรีอีก เพื่อนที่เรามี ทั้งในออฟฟิศ และ เพื่อนสมัยเรียน ตอนนี้อย่างน้อย 2 คน มีกล้องDSLR ส่วนเพื่อนผม บ้านมีตังค์ เอา550D ให้ลูกวัย 3 ขวบ ถ่ายเล่น เดี๋ยวนี้เด็กมัธยมก็เล่นกล้องแล้ว (สงสัยมาจากหนัง สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก ด้วย) มือสมัครเล่น ดีกว่าอยู่เปล่าๆ เอาราคาถูก จากคุณ : ฟูนัน เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 17:26:38

ความคิดเห็นที่ 45 เหตุนี้แหละ ที่ผมถึงถ่ายรูปเป็นงานอดิเรก..แม้อุปกรณ์จะเพียงพอรับงานก็ตามที จากคุณ : maxoutda เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 54 08:51:47

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณทุกความคิดเห็นมากครับ   จากคุณ : AODAOD29 เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 54 09:02:33