ความคิดเห็นที่ 1 เป็นคอมแพคครับ เซนเซอร์ APS-C เปลี่ยนเลนส์ไม่ได้ จากคุณ : nuimg เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 18:47:32

ความคิดเห็นที่ 2 ถามอีกข้อนะคะ rangefinder มีแบบที่ไม่ใช้ฟิล์มไหมคะ ขอบคุณคะ จากคุณ : bussayayee เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 18:57:37

ความคิดเห็นที่ 3 G12 ไง --------------------------------------------------------------------------- http://topicstock.pantip.com/camera/topicstock/2006/01/O4025915/O4025915.html แหม...เหมือนกับลองภูมิคนแก่เลยนะ...เอ้า เอาไปพอเป็นน้ำจิ้มก็แล้วกัน กล้อง Rangefinder เป็นกล้องประเภท Direct Vision หมายถึงเป็นกล้องที่มองผ่านช่องมองโดยตรง ไม่ผ่านเลนส์ เหมือนกล้อง Compact ทั้งหลาย แต่อาศัยระบบหาตวามชัดหรือโฟกัสที่เรียกว่า Rangefinder จากระบบของปืนมาใช้ ส่วนกล้อง SLR นั้นคือ Single Lens Reflex เป็นกล้องที่มองผ่านเลนส์ แสงจะผ่านเลนส์เข้ามา สะท้อนด้วย Half-silvered Mirror ซึ่งตั้งเฉียง 45 องศา ขึ้นไปยังกะโหลกของกล้อง ซึ่งจะมีกระจกสะท้อนแสงไป-มา จนเวียนหัว จนทำให้ได้เห็นภาพบนช่องมองแภาพที่มองแล้วเหมือนจริงทุกอย่าง จากคุณ : tnu  - [ 16 ม.ค. 49 09:25:56 ] --------------------------------------------------------------------------- แต่ถามความต้องการจริงๆหมายถึงอยากได้กล้องดีๆตัวเล็กๆเปลี่ยนเลนส์ได้หรือเปล่าครับ?? ลองดูที่นี่คับ http://www.pantip.com/cafe/camera/topic/O10205496/O10205496.html แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 54 19:19:39 แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 54 19:18:56 จากคุณ : siwarut เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 19:18:28

ความคิดเห็นที่ 4 Leica M8,9 ครับ นึกได้เท่านี้อะครับ แหะๆ จากคุณ : nuimg เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 19:19:00

ความคิดเห็นที่ 5 #2 G12 ก็ไม่ใช่ rangefinder เพราะไม่มีการใช้ ระบบrangefinder ในการหาระยะโฟกัส จากคุณ : Tama2kun เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 19:26:19

ความคิดเห็นที่ 6 งั้นระบบ แท้ๆมันจะยังเหลืออยู่หรอครับน้า?? จากคุณ : siwarut เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 19:39:14

ความคิดเห็นที่ 7 ความต้องการที่ทำตัวนี้ น่าจะมาจากเป็นเคสต้นแบบ rf ของพวก leica ตระกูลเอ็ม  ซึ่งเป็นที่นิยมใน ช่างถ่ายรูป แนว streetfoto ซึ่งกล้องพวกนี้นิยม เลน 35 มม. มาตราฐาน จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม ฟูจิจึงไม่ทำเลนออกมาเปลี่ยนได้  เพราะเค้าเจาะกลุ่มเล่นกล้อง rf หรือ ตากล้อง street foto โดยตรง   พวกที่หวังว่าจะเหมือน mirrorless คงผิดหวัง   เพราะเค้าไม่ได้ต้องการทำ slr แต่เป็น กล้องที่ถ่ายแนว streetfoto แท้ๆ ว่ากันง่ายๆ ก็ไลก้าเอ็มนี้แหละ แต่ที่เด็ดคือวิวไฟเอร์เป็นระบบที่แซงหน้า ไลก้าไปแล้ว เลนถ้าพูดถึงระบบก็แซงหน้าเป้นทั้งออโต้และแมนนวลในตัว เรียกว่า โกงคะแนนจากแฟนพันธ์แท้ street foto ไปเต็มๆๆๆ และถ้าเปลี่ยนเลนได้คงเป็นเม้าเอ็มซึ่ง ก้จะมีแต่แมนนวล ก็เฉพาะกลุ่มอยู่ดี ถึงเปลี่ยนเลนได้แล้วใช้เม้าเอ็ม ก้มีปัญญาซื้อเลนได้แค่เลนเดียว  อย่างมากก็สองเลน   แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 54 20:53:30 จากคุณ : hepjam เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 20:38:24

ความคิดเห็นที่ 8 รูปที่ถ่ายจากเอ๊กร้อยล่าสุด  ก่อนโดนลบอีก http://brandonremler.blogspot.com/2011/02/finepix-x100-first-day-of-shooting.html จากคุณ : hepjam เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 20:42:23

ความคิดเห็นที่ 9 Digital  ที่เป็น   Rangefinder แท้ๆ   มี  M8  M9  และก็  Epson R1Ds  เท่านั้นหละครับ นอกนั้นเป็น  Rangefinder wannabe จากคุณ : tamrong เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 21:24:16

ความคิดเห็นที่ 10 rangefinder  คือระบบหาโฟกัสระบบนึงครับ จากคุณ : tamrong เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 21:27:16

ความคิดเห็นที่ 11 เหอๆ RF digital แพงมากถึงแพงมากๆๆๆๆ จากคุณ : iMOst เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 00:10:35

ความคิดเห็นที่ 12 เข้ามาเพิ่มเติม: ภาพประกอบคำบรรยาย อยู่ คห.19-20 ------------------------------------------------ G12 ไม่ใช่ RF ช่องมองภาพ เป็นแบบ "tunnel" คือ เป็นช่องให้มองเฉยๆ .. ไม่ได้ใ้ช้ในการหาระยะ (range finding) X100 เป็น RF ครับ แต่ต้องเรียกว่า "super" RF ที่เหนือกว่า RF ของ leica ด้วยซ้ำ ระบบ RF ธรรมดาๆ จะมี "ช่องรับภาพ" 2 ช่อง ช่องหลัก (MAIN viewfinder, MVF) กับ ช่องรองซึ่งอยู่ห่างไป (Auxillary Viewfinder, aVF) ช่องหลัก MVF จะให้เราเห็นภาพโดยตรง ช่องรอง aVF จะรับภาพมา และสะท้อนภาพนั้นไปเสริมกับภาพที่เราเห็นผ่านช่องมองหลัก เนื่องจากอยู่ห่างออกไป ระยะห่าง มันจึงมากกว่าหน่อย ภาพที่เราเห็นจา่กช่องหลัก MVF จะห่าง = ระยะกล้องถึงสิ่งที่จะถ่าย ภาพที่เราเห็นจา่กช่องรอง aVF จะห่าง = ระยะกล้องถึงสิ่งที่จะถ่าย + ระยะห่างระหว่างช่องหลักกับช่องรอง เมื่อเป็นอย่างนี้ .. ภาพสองภาพที่ซ้อนกัน มันจะเหลื่อมกัน กล้องจะมีกลไก ที่ปรับให้ภาพสองภาพ ซ้อนกันสนิท ไม่มีเหลื่อม กลไกที่ว่า เชื่อมโยงมาจากวงแหวนโฟกัสของเลนส์ เมื่อโฟกัสได้ตำแหน่ง ... ภาพจะซ้อนกันสนิทพอดี จะเห็นว่า จากหลักการทำงาน ... กลไกเชื่อมโยง จะซับซ้อนและละเอียดอ่อนเป็นอย่างมาก เพราะความห่างช่องมอง มันแค่ 3-5 ซม แต่ระยะห่างที่เลนส์ต้องโฟกัส .. มันนับเป็นสิบๆเมตร RF ถึงได้แพงดับด่าวดิ้นสิ้นใจ แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 54 21:52:23 แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 54 21:51:19 แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 54 07:47:58 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 07:33:49

ความคิดเห็นที่ 13 แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 54 07:42:44 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 07:38:49

ความคิดเห็นที่ 14 แต่ .. Fuji สร้างนวัตกรรม ระบบดั้งเดิม ต้องมีการเชื่อมโยง ไปกลไกการสะท้อนภาพที่ผ่านเ้ข้าช่องมองภาพรอง (AVF) แต่ระบบของ fuji .. ใช้เลนส์เป็นช่องมองภาพรอง เอาภาพที่ตกกระทบเซนเซอร์ .. ไปสร้างภาพบน Electronic Viewfinder (EVF) เพื่อให้ภาพที่ปรากฏใน EVF เสริมซ้อนเข้ากับภาพที่เห็นผ่านช่องมองหลัก (MVF) ทำให้นอกจากจะสร้างง่าย ได้ผลดี ภาพชัดเจน การโฟกัสง่ายดายและ แม่นยำเที่ยงตรง ต้นทุนยังถูกๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 07:46:24

ความคิดเห็นที่ 15 ข้อดีของระบบนี้คือ เจ้า AVF มันสว่างโร่ๆๆ เพราะเรามองผ่านเลนส์แบบทะลุไปเลย ช่องมอง AVF นี้ สามารถสร้างให้องศารับภาพ มากกว่า ภาพที่ได้ผ่านเลนส์ .. ทำให้เราสามารถ "เห็น" สิ่งรอบๆข้างที่เราไม่ได้ถ่ายได้ เรื่องนี้ เป็นเรื่องจำเป็นมาก สำหรับนักข่าว snapshot .. ไม่ว่าจะเป็นสาย street หรือ war photographer โดยเฉพาะประเภทหลัง .. ที่ถ้าคุณมัวแต่สนใจ "ภาพ" ที่ปรากฏใน VF .. วินาทีต่อมา คุณมีสิทธิได้เป็นช่างภาพประจำตัวท่านยมฯ ที่ว่าเป็นนวัตกรรมคือ 1. ช่องมองภาพ (VF) แบบ RF ของ leica มีปัญหาคือ ภาพที่เห็นผ่าน MVF .. มันไม่ใ่ช่ภาพที่จะกระทบเซนเซอร์จริง 2. และจาก #1 .. .กล้องแบบ RF ที่เปลี่ยนเลนส์ได้ .. ช่องมองภาพ ไม่สัมพันธ์กับภาพที่เกิดจากเลนส์ ขีดจำกัดเลนส์ของ RF จึงอยู่ที่แถวๆ 100mm ... เพราะเกินกว่านั้น ตำแหน่งที่เห็นในช่องมอง อาจไม่ใช่ภาพที่จะถ่าย 3. ในขณะที่ ช่องมองภาพ (VF) ของ dSLR มัน"เกือบจะใ่ช่"ภาพที่จะกระทบเซนเซอร์จริง .. แต่ยังมีต่างกันนิดๆ (ซึ่งทั่วๆไป ถือว่าน้อยมากๆๆๆๆ) แต่นั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญ ข้อจำกัดของการมองสิ่งที่จะถ่ายผ่าน VF ของ dSLR .. ทำให้ช่างภาพไม่รับรู้โลกภายนอก มันอันตราย!!! และอาจพลาดภาพเด็ดอื่นๆ ที่เกิดขึ้นใกล้เคียง ถึงจะมีจุดเด่นที่เหนือกว่า RF มาก ในเรื่องไม่มีขีดจำกัดการใช้เลนส์ เพราะภาพที่จะตกบนเซนเซอร์ คือ ภาพที่เราเห็นจาก VF 4. LCD หลังกล้อง .. ให้ภาพที่เกิดขึ้้นจริง แบบ 100% แต่ก็ไม่ทำให้ช่างภาพ เห็นสิ่งที่เกิดรอบๆสิ่งที่ถ่ายได้ และ แพ้แสงสว่างภาพนอกมากมาย รวมทั้งเป็นแหล่งกำเนิดแสงสว่าง ... ซึ่งทำให้เป็นเป้าสายตาได้ Electronic RF แบบ fuji X100 .. ลบล้างข้อเสียทุกอย่างของทุกระบบ ถ้าผลการตอบรับ "ดี" .. fuji ก็พร้อมจะปล่อย RF แบบ "เปลี่ยนเลนส์ได้" .. เพราะถ้าใช้เลนส์ UW หรือเลนส์ supertele ก็แค่ปิดภาพที่เห็นจากช่องหลัก ให้เห็นภาพที่เกิดขึ้นบนเซนเซอร์ ที่ฉายผ่าน EVF .. เท่านั้นเอง จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 08:02:02

ความคิดเห็นที่ 16 น้าแมวตอบชัดเจนซะ หมดคำถามเลย อิอิ เข้ามาเก็บความรู้ครับ ... จากคุณ : เด็กน้อยด้อยปัญญา เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 09:47:16

ความคิดเห็นที่ 17 ท่านแมว เคลียร์ มาก ยังไงผมก็ไม่แคร์ เปลี่ยนเลนได้หรือไม่ได้ เพราะถ้าเปลี่ยนเลนได้จริง ก็ไม่มีตังซ์้อเลนอีกตัว จากคุณ : hepjam เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 10:50:04

ความคิดเห็นที่ 18 จากภาพตัวอย่างตามลิ้ค์ข้างบน ผมว่ามันทิ้งสีสรรที่เคยฉูดฉาดไม่เหมือนกับกล้องฟูจิแบบ เดิมๆ ไปเลย มันดูซอฟนุ่มแปลกตาไป เหมือนกับจะเลียนแบบให้ใกล้เคียงกับแนวภาพ ของไลก้าเลย จากคุณ : vars เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 13:29:08

ความคิดเห็นที่ 19 ภาพประกอบคำบรรยาย คห.12 ภาพที่เราเห็นจา่กช่องหลัก MVF จะห่าง = ระยะกล้องถึงสิ่งที่จะถ่าย ภาพที่เราเห็นจา่กช่องรอง aVF จะห่าง = ระยะกล้องถึงสิ่งที่จะถ่าย + ระยะห่างระหว่างช่องหลักกับช่องรอง เมื่อเป็นอย่างนี้ .. ภาพสองภาพที่ซ้อนกัน มันจะเหลื่อมกัน กล้องจะมีกลไก ที่ปรับให้ภาพสองภาพ ซ้อนกันสนิท ไม่มีเหลื่อม กลไกที่ว่า เชื่อมโยงมาจากวงแหวนโฟกัสของเลนส์ แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 54 21:53:54 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 21:51:46

ความคิดเห็นที่ 20 ภาพประกอบคำบรรยาย คห.12 ได้มาจาก wiki เมื่อเป็นอย่างนี้ .. ภาพสองภาพที่ซ้อนกัน มันจะเหลื่อมกัน (รูปด้านซ้าย) ... เมื่อโฟกัสได้ตำแหน่ง ... ภาพจะซ้อนกันสนิทพอดี (รูปด้านขวา) แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 54 21:55:17 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 54 21:53:03