ความคิดเห็นที่ 1 เพิ่มจุดขายครับ คนไม่มีความรู้ดูโบชัวก็คิดว่ายิ่งพิกเซิลมากยิ่งดีครับ จากคุณ : kwanbkk เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 54 21:52:12

ความคิดเห็นที่ 2 เพราะทุกคนไม่ได้ถ่ายแต่ในที่แสงน้อยหรือตอนกลางคืนตลอดเวลา และตอนกลางวันมันไม่มี noise ให้เห็นเนื่องจากใช้ ISO ต่ำได้ แถมได้ภาพที่สามารถอัดได้ขนาดใหญ่ขึ้นโดยที่ภาพไม่แตก จากคุณ : Johnnie Walked เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 54 21:54:14

ความคิดเห็นที่ 3 ผมอยากได้สักห้าล้านพอละ  แต่ขอน้อยส์น้อยๆที่ iso1600 พอละ จากคุณ : เดอะไรท์ เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 54 21:59:53

ความคิดเห็นที่ 4 ด้วยขนาดของเซนเซอร์ที่จำกัดของคอมแพค การเพิ่ม Pixel มันทำได้ง่ายกว่าลด Noise (มั้งครับ) จากคุณ : ที่จุดหมาย ยังมีสายรุ้ง เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 54 22:12:17

ความคิดเห็นที่ 5 เพราะจะลด noise ต้องเพิ่มขนาด sensor ซึ่งมันแพง ไปเพิ่ม pixel ดีกว่า เพราะมือสมัครเล่นชอบคุยทับกันว่า "กล้องชั้น 12 ล้าน กล้องเธอเท่าไหร่" จากคุณ : ภูเขา ทะเล และฉัน เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 54 22:22:05

ความคิดเห็นที่ 6 เพราะคนส่วนมากไม่เข้าใจ พอเห็นPixelเยอะเห็นว่าดี ที่บริษัทให้สั่งซื้อกล้องคอมแพค แทนตัวเก่า ตัวเก่า 14.1 ล้านPixel  แต่เขาอยากได้มากๆกว่านี้ เหตุผลคือจะได้ชัดๆ ???? คนรู้จักอีกคน เอาโทรศัพท์มือถือ มาอวดว่าความละเอียด 12ล้านPixel  ชัดสุดๆ จากคุณ : Mr.pokpak เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 54 22:24:10

ความคิดเห็นที่ 7 กล้องคอมแพคมันจำกัดด้วยขนาดของบอดี้ เพิ่มขนาดเซนเซอร์เพื่อให้ถ่ายกลางคืนดีขึ้น ก็ต้องเพิ่มขนาดเลนส์ให้สัมพันธ์กัน   มันก็ต้องทำบอดี้ให้ใหญ่ขี้นเพื่อรับขนาดเลนส์อีก มันก็ผิดคอนเซปกล้องคอมแพคไป จากคุณ : raksapondet เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 54 22:32:14

ความคิดเห็นที่ 8 แล้วถ้าเป็น compact กลุ่ม DSLR-like นี่ น่าจะมองเป็นลูกค้าอีกกลุ่มรึเปล่าครับ คือเป็นกลุ่มที่มีความรู้มากขึ้นแล้ว แต่ไม่อยากสอย DSLR เพราะเปลืองเป็นแสนๆ ' '? ผมว่าไม่มีใครหรอก ที่ซื้อมาหวังว่า จะถ่ายกลางวันได้อย่างเดียว พอมาถ่ายกลางคืน หรือแม้แต่ แค่ในห้องแสงฟลูออเรสเซนต์แล้ว ถ้าไม่เปิดแฟลชก็เจอนอยส์บานภาพเละ หรือไม่ก็เบลอเพราะ speed shutter ต่ำเกิน ที่คนส่วนใหญ่ที่ไม่มีความรู้ มุ่งดูแต่ pixel เพราะเขาไม่เคยเห็นหรือเทียบกัน ระหว่างกล้องที่ pixel น้อยกว่าแต่คุณภาพเหนือกว่าแบบไม่เห็นฝุ่น รึเปล่า? เพราะที่อยากได้ pixel เยอะ เพราะเชื่อว่ามันจะชัดกว่า ยังไงเป้าหมายสุดท้ายก็เป็น ความชัด ไม่ใช่เลข pixel ถ้าทุกคนได้เห็นหลักฐานจะๆ ว่ามีกล้องตัวนึงแหกคอก pixel น้อยกว่าแต่ภาพกันแจ๋งกว่าสุด มันจะเป็นยังไง? แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 54 22:38:14 จากคุณ : Detonator_Pao_ เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 54 22:35:29

ความคิดเห็นที่ 9 มันก็ใช่ส่วนนึง แต่ปริมาณพิกเซลเยอะกว่า(บนเซนเซอร์ขนาดเดิม)แล้ว Noise จะมากขึ้นตามปริมาณพิกเซลนั้นคงไม่ถูกต้องเท่าไหร่ เดี๋ยวนี้สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือการประมวลผล และการจัดการของจัดการของซอฟท์แวร์หลังการถ่ายภาพ แลละยังมีเรื่องยิบย่อยอีกมากมาย เช่น ความไวแสงของเซนเซอร์(Back side illuminated sensor เป็นต้น) ความไวแสงของเลนส์ เหล่านี้มากกว่าจะเป็นตัวกำหนดน้อยซ์ ตรรกะที่ว่าเซนเซอร์โตกว่าแล้ว Noise ต่ำกว่า มันจะใช้ได้กับการเทียบเซนเซอร์ที่ต่างกันมากๆเท่านั้น เช่น Compact sensor VS APS-C Sensor หรือ APS-C Sensor VS 35mm Full Frame Sensor เป็นต้น พวกนี้มัน Size does matter อยู่แล้วเพราะมันต่างกันมากๆในด้านขนาด แต่ Sensor เล็กของคอมแพคนั้น มันต่างกันอย่างไม่ make sense เลย เช่นขนาด 1/2.33" VS 1/1.7" ซึ่งพอมาคิดเป็นพื้นที่แล้วก็ไม่ต่างอะไรเท่าไหร่ หากลองคิดดูตามตรรกะเดิมๆ คอมแพคเก่า 5-6 ล้านพิกเซลคงจะได้ภาพที่สุดเจ๋งเป็นแน่แท้ เพราะขนาดเซนเซอร์ก็เท่าๆกะกล้องทุกวันนี้ แต่ความหนาแน่นต่ำกว่ามากเพราะไม่ต้องอัดๆกัน ISO สูงๆภาพก็คงแจ่มมากมาย แต่ความเป็นจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ Sony W70 7 ล้านพิกเซลของผมที่ ISO320 ภาพเละ น้อยซ์บาน ยิ่งกว่ากล้องสมัยนี้ที่ ISO800,1600 มากมาย เรียกว่าดูไม่ได้เลย แล้วอะไรล่ะที่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้น้อยซ์ต่ำ Pixel Density ต่ำๆหรือว่าการจัดการของ software กันแน่ ผมว่าหลายๆคนคงคิดออกแล้วล่ะครับ จากคุณ : ผ่านการตรวจสอบ เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 54 22:53:07

ความคิดเห็นที่ 10 อย่างพวก hi-end compact ก็ไม่ได้เพิ่ม pixel นะครับ บางตัวลด pixel ด้วยซ้ำ เช่น ตอน G10 ออกมา 14.7 ล้านpixel แต่ canon กลับออก G11 มา 10 ล้านpixel รวมทั้ง S90 ที่ออกมาตั้งไว้เป็น hi-end compact เหมือนกัน ก็ใช้ 10 ล้านpixel พอออก G12 และ S95 ก็ยังคงที่ 10 ล้านpixel เหมือนเดิม จากคุณ : Epitaphs เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 54 22:53:43

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าทุกคนได้เห็นหลักฐานจะๆ ว่ามีกล้องตัวนึงแหกคอก pixel น้อยกว่าแต่ภาพกันแจ๋งกว่าสุด มันจะเป็นยังไง? มีก็เอามาโชว์หน่อยครับ pixel ต่ำกว่าแล้วคุณภาพทิ้งไม่เห็นฝุ่นนี่ อยากจะเห็นเหมือนกัน ผมเองก็ไม่ได้รู้มากมายอะไร จริงๆก็คิดเหมือนคุณ เพียงแต่เดี๋ยวนี้เห็นว่า pixel density มันเป็นเรื่องรองไปแล้ว การจะมี noise ต่ำ พิกเซลไม่จำเป็นต้องต่ำไปด้วยแล้วครับ จากคุณ : ผ่านการตรวจสอบ เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 54 23:01:03

ความคิดเห็นที่ 12 #9 Software เจ๋งยังไง ก็ดึงรายละเอียดที่เสียไปแล้วจาก hardware ไม่ได้น่ะครับ ถ้าไม่งั้นการซูมแบบ digital zoom มันจะทำได้ดีกว่าที่เป็นอยู่นี้เยอะ โดยที่คุณภาพยังเหมือน optical zoom ผมเข้าใจเรื่องความแตกต่างของเทคโนโลยี ระหว่างเซนเซอร์แต่ละยุคสมัย ทุกครั้งที่ผู้ผลิตเพิ่ม pixel ขึ้นไปได้ โดยที่ noise ยังเท่าเดิมนั่น เพราะเขาใช้ เทคโนโลยี/เทคนิคการผลิต ที่แตกต่างจากเดิมไปแล้ว แต่ประเด็นคือ ในเมื่อเทคโนโลยีใหม่นั้น สามารถจะให้ noise ต่ำลงได้มากกว่าเทคโนโลยีเก่า (เมื่อจำนวน pixel และขนาด sensor เท่ากัน) ทำไมถึงเลือกเอา จำนวน pixel เป็นจุดหลอกขาย แทนที่จะเอาความที่ noise ต่ำกว่าเดิมได้มาก เป็นจุดขาย ผมไม่ปฏิเสธว่า pixel ก็มีความสำคัญ ในยุคสมัยก่อน ที่กล้องหรูๆสุดในตลาดมีความละเอียดสูงสุดอยู่แค่ไม่เกิน 3-5M (ประมาณ 7-8 ปีก่อน) แต่ยุคล่าสุด ก่อนยุคนี้ มันไม่ใช่แล้ว pixel มันเฟ้อแล้ว 10-12M จริงๆคนใช้ก็มีน้อยคนจะถ่ายมันเต็มความละเอียด แลกกับไฟล์ภาพขนาดใหญ่โต แถมภาพก็ไม่ได้คมชัดตามจำนวน pixel จริงๆของมัน การเพิ่ม pixel ไปมากกว่านี้ มันแทบไม่สำคัญกับการถ่ายภาพของคนทั่วไปแล้ว แต่ก็ยังแปลกใจ ที่ยังเลือกจะเล่นสงคราม pixel กันต่อ พวกเขาขายของได้ก็จริง แต่คนซื้อไปแล้วก็มีแต่บ่นผิดหวัง เวลาเอาไปถ่ายในที่แสงน้อย หรือแม้แต่ในห้องแสงฟลูออเรสเซนต์ ก็เริ่มมีปัญหาแล้ว ผมกลับรู้สึกว่า พวกเขาพยายามที่จะไม่กระทบตลาดบนอย่าง DSLR มากกว่า โดยใช้เรื่อง noise มาเป็นเส้นแบ่ง ใครอยากได้ noise น้อยๆ ไปเล่น DSLR สิ (ทั้งๆที่ทำกับกล้อง compact ก็ได้ แต่เลือกจะไม่ทำ) ถึงจะเลือกเส้นทาง compact โดยเอา noise ต่ำและไม่เพิ่ม pixel ยังไงๆ ก็ยังมีเส้นแบ่งเป็นเรื่อง pixel อยู่ดีไง ถ้าคิดว่า pixel สำคัญ การใช้ pixel เป็นเส้นแบ่งนี้ ทำไมถึงจะมีปัญหา? (คือ compact noise ต่ำ , DSLR ก็นอยส์ต่ำ แต่ DSLR มี pixel เยอะกว่า ประมาณนั้น) เว้นแต่ว่าจะกลัว DSLR รุ่นเก่าจะโดนกระทบนั่นแหละ เพราะ DSLR รุ่นเก่า pixel มันก็ต่ำๆไปแล้วสำหรับยุคนี้ จากคุณ : Detonator_Pao_ เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 54 23:11:24

ความคิดเห็นที่ 13 ทุกวันนี้หลายรุ่น ก็ดีขึ้นมากแล้วนะครับ แต่ข้อจำกัด มันก็ยังมีอยู่ แต่ถ้าจะทำให้ดีเลิศเลย เขาก็ทำได้ แต่จะสู้ราคาไหวมั๊ย ดูอย่าง Fuji X100 นั่นคือต้นแบบคอมแพคคุณภาพสูง เขากำลังโยนหินถามทางเรื่องราคากันอยู่ครับ จากคุณ : E22QV เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 54 23:11:36

ความคิดเห็นที่ 14 Olympus xz-1  น่าจะพอช่วยได้ไม่มากก็น้อย เพิ่มISOสูงๆแล้วน้อยส์ตามมา หันมาลดค่าfแทน XZ-1ตัวนี้ได้fที่1.8เอง จากคุณ : อนันต์ครับ เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 54 23:19:01

ความคิดเห็นที่ 15 บางรุ่นเขาก็ไม่ลงไปเล่น pixel war เช่น Canon G12 / Nikon P7000 ใช้ sensor ที่จัดว่าใหญ่นิดนึง (ในบรรดากลุ่ม compact camera) แล้วทำออกมาที่ 10M pixels การตลาดและพฤติกรรมผู้ซื้อในแต่ละ segment คงเป็นตัวกำหนด จากคุณ : ผมว่าอะนะ เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 54 23:31:50 A:58.8.170.75 X: TicketID:106200

ความคิดเห็นที่ 16 รอลุ้น Fuji HS20 น่ะนะ จากคุณ : Gow27 เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 54 23:33:52

ความคิดเห็นที่ 17 ความจริงเท่าที่ตามๆดู เซ็นเซอร์กล้องคอมแพคไฮเอนด์รุ่นใหม่ๆมันก็ พยายามลดนอยซืลงกว่ารุ่นเก่านะครับ แต่ด้วย pixel density ของเซ็นเซอร์อันเล็กๆจะทำให้นอยซ์หายวับไปกับตา คงทำไม่ได้ กล้อง D-SLR ผิดกันสองรุ่นยังทำไม่ค่อยได้เลย ได้แค่ดีขึ้นรุ่นละนิดละหน่อย ถ้าอยากได้คอมแพคนอยซ์ต่ำๆลองดู Canon G12 หรือ Olympus XZ-1 ครับ จากคุณ : todtoh เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 01:26:29

ความคิดเห็นที่ 18 ....แค่ 10 MP ก็น่าจะเหลือ เพราะมีซักกี่คนที่ไปขยายเป็น Billboard แล้วถ่ายในที่ๆมีแสงน้อยถ้าถ่ายออกมาไม่ดีก็บ่นว่า noise เยอะ...อย่างที่น้ารักษ์ฯว่าไว้...ใช่เลย. จากคุณ : dih (dih2552) เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 07:21:08

ความคิดเห็นที่ 19 mirrorless งัยครับ คอมแพ็คที่เพิ่มประสิทธิภาพ เซ็นเซอร์ใหญ่ขึ้นแถมเปลี่ยนเลนส์ได้ด้วย ราคาก็เพิ่มขึ้นตาม ถ้าอยากเล่นคอมแพ็คเจ๋งๆ ลองดู ไลก้า สิครับถ้าสู้ราคาไหวนะเออ จากคุณ : emacthailand (emacthailand) เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 07:30:30

ความคิดเห็นที่ 20 เรื่อง pixel โฆษณาง่ายมีตัวเลขชัดเจน noise โฆษณายากเพราะหาเลขอ้างอิงไม่ได้ แต่คอมแพ็คบางรุ่นอย่างของแคนนอนก็ลดจำนวนพิกเซลลงเพื่อจุดที่ว่านี้ และแน่นอนตลาดมันคนละกลุ่มกัน จากคุณ : Minstrel เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 08:04:00

ความคิดเห็นที่ 21 Canon G12 / Nikon P7000  ดูแล้วผมก็สนใจมากเหมือนกัน ติดนิดเดียว คือซูมได้น้อยเกินไป (นี่ถ้ามันตัดเอาเลนส์ซูมของ sx30is หรือของ Fuji HS10 มาใส่ได้ จะน่าสนใจกว่า) (อันนี้ความเห็นส่วนตัว ชอบเลนส์ซูม Fuji กว่าเพราะซูม/โฟกัส แบบแมนนวล ใช้มือหมุนได้ ตัดปัญหาเรื่อง auto focus หรือ ซูม ไม่ได้ดั่งใจไปได้ด้วย) ซึ่งถ้า จาก HS10 ไปเป็น HS20 มันไม่อัด pixel เพิ่ม ก็จะตอบโจทย์นี้ได้เหมือนกัน (แต่มันก็ดัน... เลือกจะไปเล่น pixel war ...  -_- ) พวก Fuji X100 หรือ ไลก้า หรือ mirrorless อันนั้นเว่อร์ไปครับ เพราะผมแค่สงสัยถึงการเติมตลาดช่วง ช่องว่าง ที่มันห่างเกินไประหว่าง compact กับ DSLR (โดยใช้เรื่อง noise มาเป็นตัวแบ่งแบบมีเลศนัย ทั้งๆที่เมื่อเปลี่ยนเทคโนโลยี sensor แต่ละครั้ง ถ้าเขาเลือกจะไม่อัด pixel มันจะได้คุณภาพที่สูงขึ้น และต้นทุนก็จะต่ำกว่า การเลือกไปเล่นทางอัด pixel แน่ๆ) ซึ่งในกลุ่ม mirrorless, x100 หรือ ไลก้า ก็มีข้อกังขาถึงการเล่นเกมการตลาดแบบอุบอิบ เพราะตัวมันนั้นก็เหมือนเอาของ DSLR มาตัดนู่นตัดนี่ออกไป, ทำ software ใหม่และโครงบอดี้ด้านนอกใหม่ แต่ดันขายได้ราคาเท่าๆกับ Body+เลนส์คิต ของ DSLR (ถ้าพยายาม จะให้มองแง่ดีตรงนี้ คงเป็นเรื่อง economic of scale ซึ่งยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ราคาต่อหน่วยเลยยังสูงได้อยู่) ประเด็นหลักของผม ยังเหมือน #12 น่ะครับ คือ เมื่อมีเทคโนโลยีการผลิต sensor ใหม่เกิดขึ้นมา แล้วเทคโนโลยีนั้น สามารถจะให้ noise ต่ำลงได้มากกว่าเทคโนโลยีเก่า (เมื่อจำนวน pixel และขนาด sensor เท่ากัน) ทำไม พวกเขา ถึงเลือกเอา จำนวน pixel เป็นจุดหลอกขาย (ทั้งๆที่มันเฟ้อไปแล้ว) แทนที่จะเอาความที่ noise ต่ำกว่าเดิมได้มาก เป็นจุดขาย เคสตัวอย่างคือ HS10 ไปยัง HS20 ดูแล้วถ้าไม่เล่นอัด pixel เพิ่ม มันจะน่าสนใจกว่านี้ และน่าจะเป็นกล้องในฝันของหลายคน ที่ไม่อยากไปเล่น DSLR เพื่อเสียเงินเป็นแสน แสน จริงๆในใจยังมีอีกหลายประเด็น ที่แสดงถึงเจตนาไม่ซื่อของผู้ผลิตในหลายเรื่อง แต่กระทู้นี้อยากขอเคลียร์เรื่องนี้ก่อนครับ (หรือว่าผมต้อง ไปตั้งกระทู้แบบนี้ ในเว็บบอร์ด official site ของแต่ละค่ายกล้อง แทนหว่า...) จากคุณ : Detonator_Pao_ เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 10:33:54

ความคิดเห็นที่ 22 ผมว่านะเราลองไปถามคนที่ไม่ได้เล่นกล้อง ถามสัก 10 คน ถามว่าถ้าเขาเลือกซื้อกล้องเขาเลือกคุณสมบัติอะไรเป็นสิ่งแรกๆ ถ้าเขาตอบว่าขอกล้องที่ "น๊อยส์" น้อยๆหน่อย พิกเซลเยอะไม่จำเป็น << ถ้าตอบแบบนี้สัก 5 คน  ผมว่าบอสใหญ่ของบริษัทกล้องสมควรไล่ ฝ่ายวิจัยพัฒนากับพวกการตลาดออกให้หมด แต่ถ้าตอบว่า ขอที่ถ่ายแล้วชัด ซูมเยอะๆ มีวิดีโอด้วย ขอแบบมีหลายสีให้เลือกยิ่งดีมีลายคิตตี้ยิ่งชอบ << ถ้าตอบแบบนี้สัก 5 คน แสดงว่าบริษัทกล้องมาถูกทางแล้วล่ะ ป.ล. ความเห็นไม่มีประโยชน์สักเท่าไร แต่อยากแชร์ เหอะๆ จากคุณ : เจ้าชายรองเท้าแตะ 655 เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 11:15:31

ความคิดเห็นที่ 23 อยากไำด้ noise ต่ำ ราคาก็สูง พอๆ กับ DSLR หรือแพงกว่าบางรุ่น แต่คุณภาพก็สู้ไม่ได้อยู่ดี จะมีสักกี่คนที่ยอมจ่ายล่ะครับ ผู้ใช้งานทั่วไป ไม่รู้อะไรเลย บางคนปิดแฟลชยังไม่เป็น เค้าไม่สนหรอกครับว่ากล้องมันจะมี noise มากหรือน้อย เพราะอย่างมากเค้าก็ดูจากหลังกล้อง อูย.....สวยจัง ว๊าย...สีสวย แล้วก็ลบทิ้ง เพราะไม่ได้อัดออกมาเก็บ บางคน (น่าจะหลายคนเชียวล่ะ) ซื้อกล้องมาแล้ว ถ่ายรูปแล้ว มาถามผมว่า "เอารูปออกยังไงล่ะ" "ลบรูปที่เก่าแล้วยังไงล่ะ" คนกลุ่มนี้มีมากเสียด้วยสิ ไม่รู้ข้อมูลหันไปพึ่งพาคนที่คิดว่ารู้ อย่างคนรอบตัวที่มีกล้อง หรือเล่นกล้อง แต่สุดท้าย ไปจบลงที่คำพูดของพนักงานขายเกือบทุกรายมาสรุปตรงที่ว่า "กล้องรุ่นใหม่ดีกว่ารุ่นเก่า" "กล้องที่มีจำนวน pixel เยอะๆ ย่อมดีกว่า ชัดกว่า เผื่ออนาคตเอาไว้ก่อน" ผมว่าคนแบบนี้ก็มีเยอะนะ และมีจำนวนเยอะกว่าพวกที่ยอมจ่ายแพงๆ เพื่อให้ noise น้อยลง เพราะเค้าไม่รู้ว่า noise คืออะไร ถึงเห็นก็ไม่สนใจถามด้วยว่าคืออะไร เมล็ดเงินจากคนที่สนใจแค่จำนวน ขนาด(pixel) จึงมีมากกว่า พวกที่สนใจ ขยะ(noise) จากคุณ : ตาบอดสี เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 11:43:19

ความคิดเห็นที่ 24 ลูกค้า Mass ที่ไม่ใช่คนเล่นกล้อง แล้วคิดจะซื้อกล้อง อันดับแรกที่เค้าสนใจ คือ 1. ถ่ายได้กี่ล้าน Pixel (ยิ่งเยอะยิ่งขัด) 2. ถ่ายว๊ดีโอได้ด้วย (เจ๋งแฮะ) 3. จอทัชสกรีนด้วย (สุดยอดอ่ะ) 4. เล็ก ๆ สวย ๆ (ไฮโซที่สุดอ่ะ) จากคุณ : zaxofone เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 13:01:13

ความคิดเห็นที่ 25 แต่สำหรับผมกล้อง compact ทุกวันนี้ก็จัดการ noise ได้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมากแล้วนะครับ ตอนนี้ก็แฮปปี้กับ Sony WX1 ของผมในการถ่ายภาพในที่แสงน้อยแล้วล่ะ จากคุณ : Mr.nobreak เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 15:38:48

ความคิดเห็นที่ 26 ทั้งๆที่ จะทำก็ทำได้ โดยที่ต้นทุนก็ไม่ได้สูงขึ้น และลูกค้าชอบมากกว่า แต่ยังเลือกทางที่เต็มไปด้วยข้อสงสัยและกังขา แทน ทำไม .... เพราะว่ สมมุติฐาน มันผิดตั้งแต่เริ่มต้นหนะสิครับ 1. ต้นทุนไม่ได้สูงขึ้น .. ตรงนี้ผิิดอย่างแรง ถ้าต้นทุนไม่ได้สูงขึ้นจริง .. X100 คงไม่ราคาแพงหูดับตับไหม้ และ 1.1 ผมยังหาหลักฐานที่ว่า เทคโนโลยีที่ทำให้น้อยส์ต่ำลง ราคาถูกๆไม่เจอ น้องนักวางระเบิด มีหลักฐานตรงนี้ไหม 1.2 ผมมีหลักฐานหลายชิ้นที่ชี้ว่า    1.2.1 เทคโนโลยีที่ทำให้น้อยส์ต่ำลง ที่มีในขณะนี้ ราคาแพง ถึงแพงมาก    1.2.2 มีการวิจัยหา เทคโนโลยีที่ทำให้น้อยส์ต่ำลง .. ซึ่งต้องใ้ช้เวลา คน เครื่องมือ ฯลฯ จำนวนมาก ... ซึ่งแปลว่า ต้นทุนๆๆๆๆๆ 2. ไม่มีหลักฐาน (Class Ia evidence) แม้แต่ซักชิ้น ที่ฟันธงว่า "ลูกค้าชอบมาก"  มีแต่เรื่องพูดคุยกันในเน็ต .. ในเว็บของคนเล่นกล้องเท่านั้น  ซึ่งในแง่ธุรกิจ .. หลักฐานระดับ chit-chat นี้ เขาจะไม่เอามาเป็นฐาน, เข็มมุ่ง, เป้าหมาย ในการพัฒนาสินค้า 3. ทางที่ "น่าสงสัย และกังขา" เป็นเพียง chit-chat ในเว็บบอร์ดคนเล่นกล้องครับ แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 54 18:29:27 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 16:14:44

ความคิดเห็นที่ 27 ปัจจัยพื้นฐานสุดของเทคโนโลยีปัจจุบัน ที่เกี่ยวกับ noise คือ ขนาดจุดรับภาพ (photosite, PS) ไม่ใ่ช่ขนาด pixel .. แต่เป็นขนาด photosite .. ขนาดของจุดแต่ละจุดที่รับแสง noise จะน้อยลง (และสัญญาณภาพจะดีขึ้น) .. เมื่อขนาด PS ใหญ่ขึ้น มันเป็นกฏพื้นฐาน ... ที่มาจากทฤษฏีหลายๆทฤษฏี หากไม่มีวิวัฒนาการทางทฤษฎีฟิสิกส์ มาล้มล้างกฏปัจจุบันได้ ... เราก็ยังต้องใช้กฏข้อนี้ไปเรื่อยๆ เซนเซอร์กล้อง dSLR .. ขนาดของ PS คือ 7 micron แต่ของ compact คือ 2 micron พื้นที่รับแสง ของจุดรับภาพบนเซนเซอร์กล้องคอมแพ็ค คือ 2*2/7*7 หรือ แค่ 4/49 .. 1/12 ของจุดรับภาพบนเซนเซอร์กล้อง dSLR ฉะนั้น .. ถ้าจะให้ระดับ noise ใกล้เคียงกับกล้อง dSLR (ไม่ต้องเท่า) ก็ต้องเพิ่มพื้นที่รับแสงขึ้น ... ตีึซะว่า 5 เท่า กล้อง 15 ล้าน pixel ... ก็จะต้องเหลือแค่ 15/5 หรือ 3 ล้านพิกเซล! นี่ขนาดเพิ่มพื้นที่ PS มาแค่ 5 เท่าเองนะ ----------------------------------- 3 ล้าน จริงอะป่าววว ???? ไม่จริงหรอก กล้อง APS-C ขนาด sensor = 22mm x 15mm หรือ 330 ตร.มม. 1mm = 1,000 micron (uM) 1 ตร.มม. = 1,000 x 1,000 หรือ 1,000,000 ตาราง uM sensor กล้อง APS-C  ขนาด 330 ล้าน ตร.um. (ใกล้เคียงกับที่คำนวนไว้ข้างบน .. 330 ล้าน ตร. / 50 ตร = 6.6 ล้านพิกเซล) กล้อง compact "เซนเซอร์ใหญ่" 1/1.7 หรือ 1/1.8 .. พื้นที่ = 40 ตร.มม. หรือ 40 ล้าน ตร.um (ใกล้เคียงเ่ช่นกัน . 40 ล้าน ตร. / 4 ตร. = 10 ล้านพิกเซล ถ้าจะเอา noise น้อยๆ ... ก็ต้องทำกล้อง compact ที่มีเซนเซอร์ขนาด 40 ล้าน ตร.um. และมีขนาดจุดรับแสง .. 40 ตร.um/จุด นั่นคือ กล้องคอมแพ็คตัวนี้ ขนาดแค่ 1 ล้านพิกเซลเท่านั้น ยอมรับได้ไหม? แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 54 16:35:20 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 16:33:37

ความคิดเห็นที่ 28 มีกล้อง compact หลายๆรุ่น จากหลายเจ้า ทำสิ่งที่เรียกว่า "pixel binning" คือ เอาข้อมูลจาก PS ที่ติดกัน มารวมกัน ให้กลายเป็น 1 PS อย่างเช่นจาก 2x2 หรือ 4 PS มารวมกันเป็น 1 PS เรียกว่า 4:1 binning หรือจาก 3x3 เป็น 1 .. 9:1 binning แต่ .. ดูจาก คห.ข้างบนแล้วกัน ต่อให้ 9:1 .. พื้นที่ PS รวม มันก็แค่ 9 x 4 หรือ 36 ตร.uM เท่านั้น กฏทางฟิสิกส์ในเรื่องนี้ บอกไว้ว่า ถ้าเอามารวมกันแบบนี้ 1.สัญญาณเพิ่มตามจำนวนที่เอามารวม แต่ 2.สัญญาณกวน (noise) เพิ่มตาม squareroot ของจำนวนรวม จาก 1. สัญญาณเพิ่มขึ้น 9 เท่า จาก 2. สัญญาณกวนเพิ่มขึ้น sqrt(9) หรือ 3 เท่า ฉนั้น .. เดิม สัญญาณ:สัญญาณกวน = 1:1 แต่พอรวม 9:1 ... สัญญาณ:สัญญาณกวน = 3:1 หรือ ประมาณ 1.5 stop "ความไว"แสง เพิ่มขึ้นมา 1.5 stop แต่ pixel ลดลงไป 9 เท่า .. จากเดิม 15 ล้าน เหลือแค่ 1.6 ล้าน รับได้ไหมเอ่ย จบแหล่ว จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 16:42:47

ความคิดเห็นที่ 29 ปล. ผมเคยบอกหลายๆกระทู้แล้ว ว่า .. อย่าถามคำว่า "ทำไม" คำตอบ ไม่เคยมาสั้นๆ ไม่ว่า เรื่องกล้อง เรื่องเลนส์ หรือ เรื่อง เหตุผลของการมีชีวิต จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 16:43:50

ความคิดเห็นที่ 30 อยากเห็น 1/1.7" CCD vs 1/2.3" CMOS จัง จะได้รู้ไปเลยว่า size does matter หรือ techno. does matter (จะนับรวมพวกเทคโนโลยีประกอบ 5-7 ภาพเป็น 1ภาพในที่มืดด้วยดีป่ะหว่า) จากคุณ : killerG เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 17:50:49 A:58.11.5.188 X: TicketID:295993

ความคิดเห็นที่ 31 ผมว่าเรื่องลด Noise นี่ไม่ได้ทำกันง่ายๆหรอกนะครับ บนเซ็นเซอเล็กๆแค่นั้น เพราะถ้าทำได้ง่ายผมทำมาขาย ซัดคู่แข่งเลยดีกว่าครับ ลองมองข้อดีของ Compact ไหมครับ เซ็นเซอเล็กทำให้รูปชัดลึกได้ง่ายกว่านะครับ ผมว่ามันดีพอแล้วสำหรับกล้องของครอบครัว ถ่ายทั่วๆไป กดๆมาเถอะขอให้มันชัดทั้งภาพ แล้วก็ชัดทุกคนที่อยู่ในภาพด้วย อ่าวแล้วที่แสงน้อยทำไง ก็แฟลชหัวกล้องก็ช่วยได้สุดชีวิตมันแล้วหล่ะครับ จากคุณ : NopView เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 18:11:46

ความคิดเห็นที่ 32 ผมเข้าใจว่าแมวเหมียวไม่เคยเรียน solid state engineering และ ราคา X100 ไม่มีความเกี่ยวข้องกับความสามารถในการทำกล้องพิกเซลต่ำ SNR ดีแต่อย่างใด จากคุณ : Epsilon5th เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 20:21:15

ความคิดเห็นที่ 33 กระทู้นี้ท่าทางจะ drama จากคุณ : ขอกราบลา เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 21:50:08 A:58.8.172.27 X: TicketID:106200

ความคิดเห็นที่ 34 1. ถ้ามองว่า ผมเป็นพวกไม่รู้ว่า ขนาดของ photosite หรือ pixel density มีความสำคัญ ตอบ - ทั้งหัวข้อกระทู้ และสิ่งที่ผมย้ำประเด็นหลักอย่างน้อยๆมา 2 รีพลาย ผมแสดงถึงความสำคัญของเรื่องขนาด photosite กับ pixel density อย่างชัดเจน, ถ้าอ่านแล้วคิดว่าผมไม่เห็นความสำคัญของ 2 เรื่องนี้ แสดงว่าอ่านไม่หมด (กรุณา Ctrl + F แล้วหาคำว่า "ประเด็น") 2. ถ้ามองว่า ผมโมเมที่บอกว่า การเลือกเส้นทางที่ทำให้นอยส์น้อยลง มีต้นทุนต่ำกว่า ตอบ - ถ้าเทคโนโลยีการผลิตแบบเดียวกัน แล้วผลิต sensor ขนาดพื้นที่เท่ากัน ตัวนึงผลิตมาแบบ 10M อีกตัวนึงผลิตมาแบบ 16M ยังไงตัวที่ต้องการความละเอียดสูงกว่าอย่าง 16M ก็จะมีต้นทุนสูงกว่าตัวที่ทำมาเป็น 10M แต่ตัวที่ทำมาแบบ 10M จะมีนอยส์ต่ำกว่าตัวที่เป็น 16M (ย้ำ ว่า เมื่อใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบเดียวกัน และ ขนาดพื้นที่ sensor เท่ากัน) ผมอาจจะบอกไว้ตรงนี้เลยว่า คำถามนี้ผมข้องใจ จากเรื่อง HS10 และรุ่นสืบทอดอย่าง HS20EXR HS20EXR อย่างอื่นดีหมด ยกเว้นอย่างเดียวที่ไม่น่าไว้วางใจเลย คือเขาเลือกจะเพิ่มจาก 10M (ใน HS10) ไปเป็น 16M คำถามผมสั้นๆ และไม่น่าจะเข้าใจอะไรยาก (ซึ่งไม่รู้ว่าทำไมบางคนเข้าใจยาก) ผมสงสัยแค่ว่า ทำไมเขาไม่เลือกทำ 10M (หรืออย่างมาก 12M) แล้วไปเอาประโยชน์ที่จะได้จากการที่ noise ต่ำกว่าแทน การที่เพิ่มไป 16M ทำให้เหมือนมีเจตนาจะเลี้ยง noise เอาไว้ชัดๆ (แต่ขอดูผลการพิสูจน์ตัวจริงอีกทีละกัน ว่าจะสู้ S200EXR ได้รึเปล่า) 3. ผมโมเมเอาเอง ว่าคนที่เห็นความสำคัญของเรื่อง noise มีเยอะ ตอบ - เรื่องนี้ผมวัดจาก 1). จำนวนคนที่บ่นเรื่อง HS10 ว่า ซื้อมาแปบเดียวก็กลับไปหา S200EXR ดีกว่า 2). จำนวนคนที่ประกาศขาย HS10 ในระยะนี้ แน่นอนว่าผมไม่ได้วัดผลอย่างชัดเจนเหมือนการทดลองวิจัย แต่ความรู้สึกจากการพูดคุยกันตามที่ต่างๆ รวมถึงกระทู้ในนี้ ก็เห็นกระแสว่าคนกลุ่มนี้ก็มีไม่น้อยเลย 4. ถามผมกลับว่า ถ้าจะเอานอยส์น้อยๆ เขาก็ทำมาแล้วไง อย่าง X100 แล้วมันก็แพงซะ ตอบ - ผมก็ชี้แจงแล้วว่า X100 ดูยังไงก็แพงเกินต้นทุนจริง เพราะมันคือการเอา DSLR ระดับล่าง มาตัดกระจกสะท้อนแสง ตัดปริซึม เพิ่ม interface ที่จะใส่อุปกรณ์อย่างช่องมองภาพด้านบนเพิ่ม ปรับปรุง software ติดเลนส์พิลึกๆตัวนึงที่ซูมไม่ได้และ(ผม)ไม่รู้ว่ามันถอดเปลี่ยนเลนส์เหมือน mirrorless ค่ายอื่นได้รึเปล่า แต่กลับตั้งราคาขายได้เท่าหรือแพงกว่าตัว DSLR ระดับล่างที่แถมเลนส์คิตบางตัว ซะอีก และจากต้นขั้วของความข้องใจผม ผมไม่ได้เล็งคุณภาพระดับนั้น (ซึ่งผมก็บอกไปแล้วใน #21) แต่ผมเข้าใจว่า X100 เป็นผู้บุกเบิก และจำนวนการขายคืนทุนที่ตั้งเป้าไว้ไม่ได้สูงมาก ดังนั้นในแง่ scale การขาย จึงต้องตั้งราคาสูงไว้ก่อน (ตามปกติของสินค้าที่เจาะตลาดกลุ่มใหม่ทั่วไป และเพิ่งวางตลาดใหม่ๆหมาดๆ) ประเด็นความข้องใจหลายๆอย่าง คิดๆไปมา มันเป็นเรื่องเกมการตลาดที่เล่นกับกิเลสและความคิดว่าคนซื้อส่วนใหญ่นั้นโง่สนแต่ pixel (ซึ่งอาจจะจริงในตลาดระดับล่าง แต่ในตลาดระดับ DSLR-like นั้นไม่ใช่พวกที่ดูเป็นแต่ pixel แน่ๆ) ปล. หลายท่านในนี้เข้าใจที่ผมสื่ออยู่แล้ว และที่ผมอธิบายตอบไปในรีพลายนี้ ก็แค่หยิบเอาที่เขียนไว้ในรีพลายก่อนหน้า มาตอบซ้ำๆ - - เขียนยาวไป เดี๋ยวก็อ่านข้ามๆแล้วก็มายิงคำถามซ้ำๆกะผมอีก จากคุณ : Detonator_Pao_ เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 23:49:29

ความคิดเห็นที่ 35 ถ้าผลมาว่า HS20EXR 16 MPixel มีสัญญานรบกวนต่ำกว่า 10 MPixel ของ HS10 ล่ะ คุณจะหุบปากแล้วซื้อมันมั้ย หรือคุณยังจะพล่ามต่อว่า เนี่ยถ้าทำพิกเซลเท่าเดิม น้อยซ์ก็ต้องน้อยกว่านี้เข้าไปอีก ทำไมไม่ทำฟระ บลาๆๆๆๆๆ อ่านดูแล้วคุณเหมือนชอบเอาตัวเองไปตัดสินแทนคนอื่นจังเลย จริงๆนะ แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 54 01:04:34 จากคุณ : ผ่านการตรวจสอบ เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 01:02:31

ความคิดเห็นที่ 36 กล้องคอมแพค ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าคอมแพค แปลว่าต้องเล็ก และราคา เข้าถึงได้ง่าย ส่วนปัจจัยที่จะทำให้ noise ต่ำก็คือเซ็นเซอร์ต้องมีขนาดใหญ่ แต่เมื่อเซนเซอร์ใหญ่ เลนส์มันก็ต้องใหญ่ตามไปด้วย แล้วยิ่งถ้าจะมามีพูดเรื่องเลนส์ซูมได้เยอะๆ(โดย F อยู่ในระดับที่รับได้) มันก็ต้องยิ่งใหญ่เข้าไปอีกมโหฬาร และความแพงแบบทวีคูณ นี่คือขีดจำกัดของกล้อมคอมแพคโดยเฉพาะคอมแพคซูเปอร์ซูมครับ ที่ไม่สามารถทำเซนเซอร์รับภาพให้ใหญ่ๆได้ สมมติ HS20 ใช้เซนเซอร์ขนาด APS-C เพื่อชูจุดขายว่า กล้องฉัน noise ต่ำสุดๆ แต่ยังคงต้องการให้เลนส์ช่วงซูมกว้างมหาศาลเท่าเดิม  ถ้าจะทำแบบนี้จริง เลนส์อาจยาวฟุตนึง กล้องหนัก 3 กิโลกว่าๆ  และราคา+แปดหมื่น   แบบนี้ก็น่าคิดครับ  ทางออกของผู้ผลิตกล้องที่ต้องคุมราคาให้ได้ คือการ ทำเซนเซอร์ให้เล็ก มันก็ได้พลังซูมแถมมาฟรีๆครับ ถ้าทำกล้องคอมแพคซูมได้เยอะๆ แต่ noise เยอะก็ถูกด่า ทำกล้องที่ noise ต่ำ แต่ซูมไม่ได้เลยก็ถูกด่าอยู่ดี ผู้ผลิตก็คงต้องเลือกซูมได้เยอะๆใว้ก่อน เพราะเจาะตลาดได้มากกว่าครับ จากคุณ : todtoh เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 02:10:07

ความคิดเห็นที่ 37 ก่อนที่จะอ่านเรื่องที่ผมเขียนข้างล่างนี้ ผมขออะไรอย่างหนึ่งคือ อย่ามาม่ากับผม ชอบไม่ชอบก็ไม่ต้องว่ากัน   แต่ถ้าทำไม่ได้ผมขอให้ข้ามไปเลยครับ ไม่ต้องมาอ่านสิ่งที่ผมเขียนข้างล่างนี้ ****************************** ผมไม่อยากให้มู้นี้เป็นมู้ในห้องหว้ากอ ดังนั้นผมขอข้ามที่จะร่ายยาวเรื่อง Quantum electrodynamics เพราะมันไม่เกี่ยวกับ Pixel มากหรือน้อยสักเท่าไรแม้ว่าขนาดมันจะมีผลก็ตาม สมัยก่อน APS-C ห้าหกล้านมันก็ขนาดเท่าทุกวันนี้นี่แหละแต่น้อยส์เพียบแต่ทุกวันนี้มันยกระดับไปสองเท่าแต่น็อยส์น้อยกว่าด้วยขนาดเท่ากันไม่ได้เปลี่ยนแปลง ผมชอบที่จะใส่ระหัสเองจาก Analog เป็น Digital กับอุปกรณ์ทุกชิ้นที่ผมสามารถแฮ็กได้หรือมีพอร์ทให้ผมเชื่อมต่อ ดังนั้นเครื่องเสียงของผมจะเป็นแบบที่ผมเลือกที่จะ Encode-Decode ตามใจต้องการไม่ใช่แบบมาสำเร็จรูป เพราะคำเพียงสองคำคือ ความเที่ยงตรงและ น็อยส์ ดังนั้นกล้องส่วนใหญ่ของผมถูกใจและใช้มันนานๆจะเป็น CCD ที่มันให้แต่ Analog แล้วค่อยมา Encode นอกตัว Sensor เพราะผมชอบใจที่บริษัทกล้องใจกว้างที่ผลิตของแบบนี้ออกมาขายโดยยอมเสียเงินเพิ่ม ไม่ใช่ลดต้นทุนโดยใช้ CMOS ที่ Encode เป็นดิจิตอล บน บน Sensor เลย จริงอยู่ว่าเวลานี้ CMOS มันพัฒนาไปได้ไกลแล้วจนให้ภาพที่ดี แต่ก็ทำได้เพียงแต่ไล่ตามคุณภาพที่ได้จาก CCD เท่านั้น ต้องเปิดใจและยอมรับให้ได้ถึงความจริงอันนี้ว่า ทุกวันนี้ CMOS ยังไม่เหนือกว่า CCD เพียงแต่พัฒนาไปได้ไกลแล้วเท่านั้น ทุกวันนี้กล้องระดับ Hi-end ก็ยังใช้ CCD ตั้งแต่เจ้าจิ๋ว Lieca M9 ไปถึง hasselblad และ Digital Back เพราะมันเลือกที่จะ Process ได้ตั้งแต่มันยังเป็น Analog ดิบๆ ในทำนองดียวกัน ผมใช้ HS10 ไม่ถึงยี่สิบชัตเตอร์แล้วโยนเข้าตู้ แต่ใช้ 200EXR มาเป็นหมื่นชัตเตอร์แล้วเพราะมันเหนือกว่าตรงน็อยส์และไดนามิกส์นี่แหละ แม้ว่ามันจะเป็นเพียงกล้องตลาดราคาถูก แต่หลายๆคนคงพูดได้ว่าภาพออกมามันไล่กัดตูดกล้องใหญ่กว่าได้เลยเพราะฟูจิใจกว้างกับรุ่นนี้ที่ยอมเพิ่มขั้นตอน Process ได้ตั้งแต่มันยังเป็น Analog ดิบๆเหมือนกล้องราคาแพง ทุกวันนี้กล้องพิเศษทุกตัวทั้งโลกและในอวกาศก็ยังลดน็อยส์ของ CCD เพื่อเพิ่มคุณภาพของรูปที่ได้ เหมือนที่ตั้งแต่ครั้งผมเคยใช้ตั้งแต่สมัยยังทำงานกับเจ้ากล้องพวกนี้มันอยู่ คือลดอุณหภูมิของ Sensor ด้วยแกสอุณหูมิต่ำจากการระเหยของแกสเหลว ผ่าน Heat Pump เมื่อสิบปีก่อนผมทำอย่างไรทุกวันนี้กล้องพิเศษทั้งในโลกและนอกโลกก็ยังใช้แบบนั้นคือลดน้อยส์ตรงๆตามสิ่งที่จริงแท้แน่นอนคือ Temperature is determined by quantum statistical mechanics ที่สร้างภาพบน Sensor จาก Quantum electrodynamics บน semi-conductor คือมันต้องใช้หลักการพื้นฐานของ Quantum และอุณหภูมิ นี่คือวิธีเดียวเท่านั้นที่จะลดน็อยส์แบบรูปธรรมที่สุดแล้วเท่าที่เท็กโนโลยีปัจจุบันจะพึงทำได้กับกล้อง และมันใช้ได้จริงๆมาสิบกว่าปีแล้วโดยที่ทุกวันนี้กล้องพิเศษทุกตัวในโลกนี้ก็ยังใช้วิธีนี้อยู่ เพียงเล่าให้ฟังเท่านั้นครับ เพราะกล้องตลาดคงไม่มีใครออกแบบให้คนถ่ายต้องแบกถังฮีเลี่ยมเหลวติดหลังไปด้วยหรอกครับ ********************************** ขอบคุณครับที่อ่านจนจบแล้วไม่มาม่าใส่ผม  และขอบคุณคนที่รู้ตัวว่าอดมาม่าไม่ได้แล้วข้ามไปไม่อ่าน จากคุณ : คนธนฯ เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 04:03:39

ความคิดเห็นที่ 38 ผมไม่น่าเสียเวลา ... จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 08:00:19

ความคิดเห็นที่ 39 จริงๆ noise ไม่ได้มีสาเหตุเดียว และวิธีลด noise ก็ไม่ได้มีวิธีเดียว การเพิ่มจำนวน pix แล้ว ค่อยมาลดทีหลัง ก็เป็น หนึ่งในหลายวิธีที่ลด noise ได้ ประเด็นสำคัญที่ยังทำ สงคราม pix กันอยู่ ก็น่าจะเป็น เพราะกลุ่มเป้าหมาย ผู้ชื้อนั้น ไม่ได้สนใจ noise ที่ติดมา เพราะส่วนใหญ่ ก็ อัดรูปแค่ไม่เกิน 4*6 นิ้ว หรือดูบนหน้าจอ ไม่เกิน 1280*1024  นั่นแหละครับ จากคุณ : Humandroy เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 12:26:09

ความคิดเห็นที่ 40 ไม่มีใครเสียเวลา และไม่มีดราม่า และจะตอบกระทู้สไตล์หว้ากอก็ได้ เพราะผมก็มาจากห้องหว้ากอ กระทู้กำลังมีสาระ ถ้าแค่นี้จะดราม่าแล้ว ก็ค่อนข้างอ่อนไหวเกินไปหน่อย มีคนตอบให้เก็บเกี่ยวความรู้ได้เยอะครับ ที่คุณแมวเหมียวฯ คำนวณให้ดู ก็เข้าใจครับ แต่น่าจะมีตัวแปรเยอะกว่านั้น เพราะถ้ามองมิตินั้นอย่างเดียว อนาคตของ HS20 ก็คงจะรอดยาก เพราะว่าขนาด sensor ตามสเปคชัดเจนว่า มันเท่าๆกับ HS10 แต่รีดจำนวน pixel เพิ่มขึ้นไปจากเดิมกว่า 6M (ขนาดของ photosite ย่อมเล็กกว่าเดิมแน่ๆ) แต่ค่อนข้างมั่นใจว่า มันจะไม่แย่กว่า HS10 แน่ๆ เพราะถ้าเป็นแบบนั้น จะเป็นผลเสียร้ายแรงกับการทำตลาดของ Fuji ตัวแปรที่ทำให้รีด pixel เพิ่มขึ้นไปได้ (และไม่อยู่ในการคำนวณฯ) เป็นเรื่องเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน ซึ่งคำตอบเท่าที่ได้ตอนนี้ คือ เหตุผลทางการตลาด เพราะเขามองว่า pixel เป็นสิ่งที่คนซื้อ "ส่วนใหญ่" เลือกดู และจากการคำนวณความน่าจะเป็นในการเลือกเส้นทางการทำตลาดแบบต่างๆกันตามโมเดลที่เขามีอยู่ คิดว่าทางนี้ น่าจะ ทำกำไร ได้ดีสุด ซึ่งเผอิญคนในเว็บบอร์ดห้องกล้องต่างๆนั้น เป็นคน "ส่วนน้อย" และยังเป็นกลุ่มประชากรที่สนใจมีความรู้เรื่องกล้องดีอยู่แล้ว จึงมีปรากฏการณ์ขาย HS10 กลับไปซบ S200EXR หรือค่ายอื่น อันมากในช่วงนี้, การที่ผมดูแต่กระแสบนเว็บบอร์ดคนเล่นกล้องต่างๆ จึงไม่สามารถใช้เป็นกลุ่มประชากรตัวอย่างตามระบบทางสถิติได้ ผมเข้าใจแบบนี้ถูกมั้ย? แต่ผมก็หวังให้ Fuji ทบทวนเรื่องนโยบายเกี่ยวกับ noise ของตัวเองบ้าง เพราะ ผมตามดู รีวิว กล้อง Fuji หลายๆตัว ผมอดสงสัยไม่ได้หรอกว่า ผลการรีวิวเกือบทุกอัน ทำไม Fuji ถึงได้คะแนนเรื่อง noise ต่ำกว่ากล้องค่ายอื่นที่เป็นมวยรุ่นเดียวกัน ทุกที (แต่เน้นจุดเด่นคือ Feature กับไอเดียแปลกๆใหม่ๆแทน) ถ้ามีชนะบ้าง/แพ้บ้าง สลับกันไป มันก็คงเป็นเรื่องธรรมดา แต่เผอิญนี่เห็นบ่อยเกิน เหมือนคนที่ตั้งเป้าการสอบปลายภาค แค่สอบผ่านแบบปากคาบมีนตีนเหยียบ F ไว้ก่อน รู้สึก Canon SX30IS ก็จัดการเรื่อง noise ได้ดีกว่า ทั้งที่ระยะซูมเยอะกว่า และขนาด sensor เท่ากัน (แต่ต่างกันตรงที่มันเป็น CCD คงเทียบกันไม่ได้อีก) #35 ถ้ามันจัดการ noise ได้ดีกว่า HS10 หรือเลยไปถึงขั้นเทียบเท่า S200EXR (อันนี้หวังสูง) ผมซื้อแน่ ที่ผมตั้งกระทู้ เพราะผมคาดหวังกับกล้องรุ่นพัฒนาต่อจาก HS10 นี่แหละ คาดหวังว่า มันจะปรับปรุงจุดด้อยต่างๆของ HS10 ให้ดีขึ้น ซึ่งก็ออกมาเป็น HS20 แต่อย่างที่บอก อย่างอื่นดูดีหมด แต่ไม่สามารถมั่นใจในเรื่อง noise ได้ทันที เพราะ 1). ภาพในสปอตโฆษณา เห็นชัดว่าถ้าไม่เปิดแฟลช ก็สาดไฟใส่ ดังนั้นไม่เห็น noise อยู่แล้ว 2). ผมอ่านโบวชัว กล้องหลายๆรุ่น ทั้งหมดก็โฆษณาว่ากล้องตนจัดการเรื่อง noise ได้ดีมาก ทั้งนั้น (แต่ผลการทดสอบจริง มันไม่ค่อยจะตรงคำโฆษณาเท่าไหร่) ดังนั้น ผมที่ตรัสรู้ไม่ได้ ก็ยังต้อง กังขา ต่อไป จนกว่าจะมีผลการรีวิวจริงออกมาให้เห็น และหวังว่า มันจะดีเท่าที่โฆษณาไว้ ปล. ผมว่าผมไม่ได้โพสด่าหรือวิจารณ์คนตอบกระทู้น่ะ ผมวิจารณ์ค่ายกล้องและการทำตลาดของเขา ก็แปลกที่บางคนเหมือนจะมีอารมณ์ ปล2. ผมมาจากห้องหว้ากอ ถ้าสไตล์การโพสต์ขัดหูขัดตาคนห้องกล้อง ต้องขออภัย จากคุณ : Detonator_Pao_ เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 23:49:38

ความคิดเห็นที่ 41 การถ่ายภาพเป็นเรื่องของศิลปะ ทำไมคนชอบเอาเรื่องวิทยาศาสตร์มาเป็นส่วนสำคัญในการถ่ายทอดศิลปะทุกทีเลย - -* จากคุณ : pandahappy เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 54 00:46:48