ความคิดเห็นที่ 1 ตอบ 1 - มักจะเป็นกับคอมแพ็คครับ ส่วน กล้องทุกชนิดที่เปลี่ยนเลนส์ได้จะแยกเป็นดังนี้ครับ เลนส์มี 2 แบบครับ 1.) F ไหล คือ F ไม่คงที่ครับ ยิ่งซูมมาก F ยิ่งมากตาม 2.) F คงที่ เลนส์ชนิดนี้มักจะราคาแพงกว่า เช่น 70-200 F2.8 (ค่า F ไม่เปลี่ยนแม้จะซูมสุดที่ 200) ตอบ 2 - ดังข้อ 1 ครับ ถ้าเลนส์เป็นประเภท F คงที่ ซูมเท่าไหร่ค่า F ก็คงที่ครับ ตอบ 3 - ไม่ใช่เฉพาะแสงครับ รวมถึงสปีดชัตเตอร์ด้วย รูรับแสงแคบ (เลขเยอะ) ก็ต้องใช้เวลาเปิดหน้ากล้องรับแสงนานขึ้น ทำให้ได้สปีดในการถ่ายช้า ทำให้ภาพสั่นด้วยครับ ส่วน F มากๆนี่เอาไว้ทำอะไร ทำได้หลายอย่างครับ - ใช้คุมระยะชัดลึก ชัดตื้น F เลขน้อยๆ จะได้ระยะที่ครอบคลุมน้อยกว่าเลขมากครับ - ใช้ถ่ายไฟกลางคืนให้เป็นแฉก, ถ่ายให้เป็นเส้น ฯลฯ แล้วแต่เทคนิค - ถ่ายวิว อันนี้มักจะให้ชัดทั่วถึง มักจะใช้มากกว่า F8 ขึ้นไปครับ รอน้าๆมาเสริมละกันครับ จากคุณ : JaoMom เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 23:32:53

ความคิดเห็นที่ 2 1. ขึ้นอยู่กับเลนส์ครับ เลนส์บางตัวสามารถให้ F ต่ำสุด ตลอดช่วงซูมได้ เช่น เลนส์ 70-200 F4  หมายความว่า   ระยะซูมที่ 70 จะให้ค่า F ต่ำสุดที่ F4 หรือระยะซูมที่ 200 ก็จะให้ค่่า F ต่ำสุดที่ F4 ครับ (บางทีเรียกเลนส์แบบนี้ว่า F ไม่ไหล) แต่เลนส์บางตัวทำไม่ได้ครับ เช่น 18-55 F3.5-5.6 หมายความว่า  ระยะซูมที่ 18 จะให้ค่า F ต่ำสุดที่ F3.5 แต่ระยะซูมที่ 55 ก็จะให้ค่่า F ต่ำสุดที่ F5.6 ครับ(บางทีเรียกเลนส์แบบนี้ว่า F ไหล) 2. ขอผ่าน 3. Fน้อย ระยะชัดน้อย Fมากระยะชัดมาก ถ่ายมาโครต้องใช้ จากคุณ : ยัยหนูกะตาหนู เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 23:36:10

ความคิดเห็นที่ 3 1. แล้วแต่เลนส์ที่ใช้ครับ อย่าง xz-1 ซึ่งเป็นกล้องที่เปลี่ยนเลนส์ไม่ได้จะมีเขียนอยู่ที่เลนส์ว่า 1.8-2.5 หมายถึงสามารถปรับ F กว้างสุดที่ 1.8 เมื่อถ่ายที่ช่วง wide และเมื่อซูมเข้าไป F จะแคบลงเรื่องๆจนกว้างสุดแค่ 2.5 ลักษณะแบบนี้เรียกว่า "F ไหล" ในกรณีของกล้อง DSLR ซึ่งเปลี่ยนเลนส์ได้ ก็จะมีเลนส์ทั้งแบบที่ F ไหลและไม่ไหลครับ ดังนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรครับ 2. โดยหลักการ F จะสัมพันธ์กับความเร็วชัตเตอร์กับ ISO ครับ ไม่เกี่ยวกับการซูม ยกเว้นที่ตอบไปในข้อ 1 3. จะบอกว่าไม่มีผลก็ไม่ใช่ซะทีเดียว เพราะปกติเลนส์จะมีจุดที่ถ่ายได้คมชัด contrast ดีสุดที่ F ค่านึง ซึ่งปกติจะเป็น F กว้างสุดคูณ 2 เช่นเลนส์เรา F1.8-2.5 ก็จะถ่ายได้คมสุดที่ F4-5 ขึ้นไป ส่วนรูรับแสงแคบๆเอาไว้ถ่ายเวลาปรับความเร็วชัตเตอร์ต่ำ เช่นการถ่ายน้ำตกให้เป็นสายน้ำนุ่มๆ แต่การถ่ายแบบนี้ต้องใช้ขาตั้งกล้องนะครับ จากคุณ : ชีสพายอร่อย เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 23:50:22

ความคิดเห็นที่ 4 1. เลนส์ที่ F คงที่ก็มีครับ ซึ่งราคาจะสูงกว่าแบบ F ไหล 2. ยิ่งซูมมาก ยิ่งเสียแสงครับ ความต่างระหว่าง F คงที่ กับ F ไหล คือ F ไหล รูรับแสงคงที่ครับแต่พอซูมแล้วเสียแสง F จึงเพิ่ม ในขณะที่ F คงที่ คือ ซูมแล้ว รูรับแสงขยายตามการซูมได้ ทำให้ไม่เสียแสง F คงที่ (และการออกแบบยากกว่า ราคาแพงกว่า) 3. มีผลกับปริมาณแสง, ระยะชัด, และความคมครับ รูรับแสงกว้างแสงเข้ามาก ระยะชัดตื้น รูรับแสงแคบก็เป็นตรงข้าม ส่วนความคม ช่วงที่คมที่สุดว่ากันว่าจะอยู่ที่ F แคบกว่า F ที่ต่ำสุด ประมาณ 2 สตอป เช่น เลนส์ F2.8 จะคมสุดที่ F5.6 ประมาณนั้น ถ้ากว้างไป หรือแคบไป ก็จะเสียความคมไปเล็กน้อย จากคุณ : Teerarod เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 01:15:02

ความคิดเห็นที่ 5 ค่า f-number มาจาก ทางยาวโฟกัส / ความกว้างของช่องรับแสง เลนส์ 50mm f/2 จะต้องมีช่องรับแสงกว้าง 25mm เลนส์ 50mm f/1 จะต้องมีช่องรับแสงกว้าง 50mm เลนส์ 200mm f/2.8 ยอดนิยม มีช่องรับแสง 71mm คิดสภาพเลนส์มีชิ้นแก้ว 10 ชิ้น แต่ละชิ้นเส้นผ่านศูนย์กลาง อย่างน้อย ๆ 7 เซ็น ว่ามันใช้เนื้อแก้วเท่าไหร่ และจะหนักแค่หน จากคุณ : SRJ เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 02:49:59

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณทุกความเห็นเลยได้ความรู้เยอะเลย ถ้างั้นเวลาถ่ายที่แสงพอผมควรปรับ F ไว้ที่ 4-5 แล้วถ้ามันมืดไปก็ปรับ speed ลงไปหน่อยก็พอใช่มั๊ยครับ ที่ถามเพราะเห็นหลายๆท่านไปถ่ายงานมอเตอร์โชว์มา แล้วลงรายละเอียดเห็นว่าส่วนมากใช้ F ที่ประมาณ 4 กัน ก็เลยสงสัยว่าทำไมไม่ใช้ F น้อยๆเพื่อได้ภาพที่สว่างกว่า จากคุณ : ชินจัง เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 09:03:12 A:180.210.216.131 X: TicketID:167769

ความคิดเห็นที่ 7 1.มันเป็นปกติของกล้องทุกชนิดหรือเปล่า   ---ปกติของเลนส์ทั่วๆไป  เค้าเรียกว่า F ไหลครับ 2.ค่า F กับการซูมมันสัมพันธ์กันยังไงครับ  --- F เกิดจากทางยาวโฟกัส/ความกว้างรูรับแสง  ถ้าซูมมากขึ้นทำให้ทางยาวโฟกัสยาวขึ้น ถึงแม้ขนาดความกว้างรูรับแสงเท่าเดิม  มันก็จะทำให้Fสูงขึ้นไปด้วยครับ 3.ถามเพิ่ม F ค่ามากหรือน้อยนี่มีผลกับแสงอย่างเดียวใช่มั๊ยครับ ไม่ได้มีผลทำให้คุณภาพแย่ลง ปกติปมถ่ายที่ F น้อยๆตลอด เลยสงสัยว่า F มากๆนี่ไว้ใช้ในกรณีไหนครับ ---F ไม่ได้มีผลต่อคุณภาพๆโดยตรง  แต่เลนส์ทั่วไปคุณภาพความคมของภาพมักจะสูงกว่าจาก Fกว้างสุดสัก 1-3Stop  เช่นเลนส์ F1.8 ถ้าถ่ายที่F1.8 จะดูฟุ้งๆไม่คมเท่าไร  ถ้าเพิ่ม Fอีก 2Stop เป็น 3.5 จะคมกว่า   แต่เลนส์ดีๆบางรุ่นก็คมตั้งแต่Fกว้างสุดเลยทีเดียว   , และF สูงๆ เอาไว้หรี่รูรับแสง ในกรณีแสงสว่างมากๆ  และใช้ถ่ายให้มีความชัดลึก หรือต้องการแสงไฟเป็นแฉกเป็นต้น ถ้าใช้ F สูงมาก จะทำให้คุณภาพๆแย่ลงเช่นกัน อาจจะตั้งแต่ F16เป็นต้นไป  ก็แล้วแต่เลนส์แต่ละรุ่นอีกเหมือนกัน จากคุณ : ฟรีค่าแรงตลอด5หมื่นโล เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 09:12:38

ความคิดเห็นที่ 8 เข้ามาอ่านด้วยคน ได้ความรู้ดีมาก โดยเฉพาะ คห.๓ ข้อ ๓ เราเองก็เพิ่งรู้นะเนี่ย ทุก คห.ตอบได้ชัดเจนดีเหลือเกิน ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความรู้ จากคุณ : COMEKAEW เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 10:46:31

ความคิดเห็นที่ 9 เลนส์ซูมยาวๆมักมีขนาดรูรับแสงโตสุดหลายค่าครับ ตามที่ความเห็นด้านบนทุกท่านกล่าวไว้ครับ ขอเพิ่มเติมว่า คุณสมบัติชัดลึก-ชัดตื้น นอกจากเรื่องขนาดรูรับแสงแล้ว ความยาวโฟกัสของเลนส์ ก็มีส่วนครับ ยาวมาก-ชัดตื้น เลนส์มุมกว้าง-ชัดลึก ดังนั้นเมื่อใช้เลนส์ความยาวโฟกัสสูง ไม่จำเป็นต้องเปิดรูรับแสง 1.8 ครับ ( ซึ่งมันก็มักไม่มีอยู่ดี) ระยะทางระหว่าง ตัวแบบ กับ ระนาบรับภาพของกล้องก็มีส่วนครับ ห่างจากกัน-ชัดลึก ใกล้กัน-ชัดตื้น แบบเลนส์มาโครครับ : ) จากคุณ : ขาประจำบัตรผ่าน เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 15:31:50 A:58.9.211.248 X: TicketID:285515