ความคิดเห็นที่ 1 ชูสองมือและสิบนิ้ว+โหวต+กีบ จากคุณ : เครียดไปก็เท่านั้น เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 13:00:48

ความคิดเห็นที่ 2 รวมด้วยช่วยกัน อนุรักษ์สัตว์ป่าครับ จากคุณ : neoex เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 13:17:48

ความคิดเห็นที่ 3 ตามไปยกมือด้วยครับ จากเมื่อก่อนที่เห็นอยู่ที่ต้นไม้ใหญ่หน้าบ้านทุกวัน เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว จากคุณ : E22QV เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 13:56:51

ความคิดเห็นที่ 4 ช่วยโหวตเต็มสตรีมครับ จากคุณ : raksapondet เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 14:37:28

ความคิดเห็นที่ 5 สนับสนุนเต็มที่ครับ  สู้ ๆ จากคุณ : ไข่เจียวโหระพา เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 14:54:28

ความคิดเห็นที่ 6 พอไม่ปลดแล้วจะมีมาตรการอะใรคุ้มครองได้บ้างครับ ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ยังจับยังขายกันโครมๆ เพิ่งเห็นว่าแถวๆบ้านนี่ก็มี วันใหนมันลืมเอาเข้าบ้านจะไปแอบปล่อย จากคุณ : dayong เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 15:06:56

ความคิดเห็นที่ 7 ร่วมด้วยครับ!! ...และขอแชร์ใน FB ด้วย จากคุณ : ต้น-แมว เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 15:29:27

ความคิดเห็นที่ 8  ผมเห็นทุกวันนี้มีกฎหมายคุ้มครอง แล้วกฏหมายมันคุ้มครองอีท่าไหน นกถึงได้ร่อยหรอ ลงทุกวัน แทนที่จะคัดค้านปลดกฏหมายคุ้มครอง เรามาช่วยกันคิด ที่จะลงแส้ให้มีการบังคับใช้กฏหมาย จริงจัง ดีกว่าไหม ? จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 15:29:32

ความคิดเห็นที่ 9 เคยเจอ ก๊วนมีตติ้งกันที่หลังตะวันนา 2 จากคุณ : pipek (yukraider) เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 15:33:40

ความคิดเห็นที่ 10 โหวตครับ จากคุณ : Carnegie เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 17:32:48

ความคิดเห็นที่ 11 ด้วยครับ จากคุณ : MMxeon เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 17:37:23

ความคิดเห็นที่ 12 สนับสนุนครับ ทุกวันนี้มันหายไปจากธรรมชาติเยอะมาก จากที่เคยบินอย่างอิสระมากินผลไม้ในบ้านตอนบ่ายๆกลายเป็นโดนดักไปอยู่ในกรงหมด มันร้องบนยอดไม้ไพเราะกว่าร้องในกรงมากมาย จากคุณ : คนธนฯ เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 17:40:34

ความคิดเห็นที่ 13 ร่วมด้วยครับ จากคุณ : ง่วงป่าว เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 18:17:08

ความคิดเห็นที่ 14 ผมคนนอกนะครับ สงสัยว่าเกณฑ์สำหรับการกำหนดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองมันเป็นยังไงครับ แล้วนกชนิดนี้ เข้าข่ายหรือเปล่า ถ้าไม่เข้าข่ายก็ควรถอด ในขณะเดียวกันถ้าเข้าข่ายใครเสนอถอดก็ควรเอาเข้าคุกครับ เท่านี้เอง ตรงไปตรงมา.... ผมเข้าใจว่ามันมีหลักเกณฑ์ที่แน่นอน ไม่ได้วัดด้วยความรู้สึกหรือเสียงประชาชนโหวต.... จากคุณ : (oidutS skcarT eriT) (Tire Tracks Studio) เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 18:59:05

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่รู้คุ้มครองกันยังงัย    กรงนกที่ทุกบ้านมีอย่างน้อยๆต้องมีเจ้านกนี่อยู่อย่างน้อยบ้านละตัว และกฎหมายมีช่องโหว่อะไรรึเปล่า  สัตว์ป่าคุ้มครองถึงได้มีการจัดประกวดกันเป็นการเป็นงานสุดๆ หรือว่านกพันธุ์นี้เค้าเพาะขยายพันธุ์กันได้เยอะแล้ว จากคุณ : ม่อน เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 20:15:18

ความคิดเห็นที่ 16 ผมยก 2 มือ  กับ อีก 2 เท้าให้ด้วยเลยครับ จริงๆไม่เคยรู้ว่ามันเป็นสัตว์สงวน แต่ก็ควรจะอนุรักษ์ต่อไปนะครับ จากคุณ : มนุษย์เงินเดือน (ระเบิดเด่น) เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 20:36:45

ความคิดเห็นที่ 17 ทำไมไม่รู้ แต่ผมรู้สึกเหมือนว่าเค้าวางแผนการมาก่อนแล้วสำหรับการจะถอดชื่อนกปรอดหัวโขนออกจากบัญชีสัตว์สงวน มันเหมือนกับบังเอิญมากเกินไปอ่ะครับ ก่อนหน้านี้ รายการกบนอกกะลาก็เล่นประเด็นนี้โดยที่ไม่อธิบายว่าทำไมถึงไม่นำเสนอเรื่องนี้ในแง่ของการอนุรักษ์ ว่าการเลี้ยงเนี่ย มันผิดกฏหมาย ก็โดนคนต่อต้านมากมายโดยไม่สนใจอะไร แล้วหลังจากนั้นไม่นาน ก็อย่างที่เห็น ที่คุณสุวิทย์จะให้ถอดชื่อ....มันบังเอิญไปหรือเปล่าครับ จากคุณ : shuamy เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 20:49:35

ความคิดเห็นที่ 18 อยากตอบน้า ม่อน คห 15 ครับ... อยากให้ดูกราฟ จำนวนประชากร นกปิดจะลิ่ว (เรียกตามภาษาเหนือ) เนี่ยขนาด มีพรบ. คุ้มครองสัตว์ป่า คุ้มครองนก ชนิดนี้อยู่ มันยังลด ปริมารมากมายขนาดนี้... ภาคใต้ แถวนราธิวาส ตอนนี้หายากขึ้นทุกๆที ทั้งที่พวกเขาอ้างว่านกชนิดนี้ เพาะพันธ์ได้ แล้ว จึงได้มีการลักลอบ จับในภาคเหนือ ไปส่งภาคใต้... บางครั้งมีการจับกุม หลายพันตัว แออัด กันในกรง ใต้ท้องรถทัวร์... ร้อนๆ เผื่อจะถึงปลายทาง ตายไป ไม่รู้กี่ร้อยตัว... งานนี้ ถ้าพวกเขาถูกถอดถอน ออกจากสัตว์ป่าคุ้มครอง.. อย่างหวัง ว่า ภายในสิบ ยี่สิบ ปีลูกหลานจะได้ยินเสียงของพวกพวกมัน.. อนาจใจ มนุษย์ ทำไมต้องเบียดบังชีวิตผุ้อื่น เพียงแค่ ความบันเทิง ของตัวเอง แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 54 20:52:18 จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 20:50:55

ความคิดเห็นที่ 19 ผมขออนุญาต คัดเนื้อหาบางส่วนใน พรบ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ มาแสดง สำหรับท่านที่สงสัยว่า ความเป็น "สัตว์ป่าคุ้มครอง" มันมีความพิเศษต่างจากสัตว์ทั่วๆ ไปอย่างไร “สัตว์ป่า” หมายความว่า สัตว์ทุกชนิดไม่ว่าสัตว์บก สัตว์น้ำ สัตว์ปีก แมลงหรือแมง ซึ่งโดยสภาพธรรมชาติย่อมเกิดและดำรงชีวิตอยู่ในป่าหรือในน้ำ และให้หมายความรวมถึงไข่ ของสัตว์ป่าเหล่านั้นทุกชนิดด้วย แต่ไม่หมายความรวมถึงสัตว์พาหนะที่ได้จดทะเบียนทำตั๋ว รูปพรรณตามกฎหมายว่าด้วยสัตว์พาหนะแล้ว และสัตว์พาหนะที่ได้มาจากการสืบพันธุ์ของสัตว์ พาหนะดังกล่าว --> สัตว์ป่าก็คือสัตว์ที่อยู่ตามธรรมชาติ ไม่ต้องมีใครเลี้ยงดู มันอยู่ของมันได้ “สัตว์ป่าคุ้มครอง” หมายความว่า สัตว์ป่าตามที่กฎกระทรวงกำหนดให้ ป็นสัตว์ ป่าคุ้มครอง “ล่า” หมายความว่า เก็บ ดัก จับ ยิง ฆ่า หรือทำอันตรายด้วยประการอื่นใดแก่ สัตว์ป่าที่ไม่มีเจ้าของและอยู่เป็นอิสระ และหมายความรวมถึงการไล่ การต้อน การเรียก หรือการล่อเพื่อการกระทำดังกล่าวด้วย ในกฏหมายฉบับนี้ กำหนดไว้ว่า... มาตรา ๑๖ ห้ามมิให้ผู้ใดล่า หรือพยายามล่าสัตว์ป่าสงวน รือสัตว์ป่าคุ้มครองเว้นแต่เป็นการกระทำโดยทางราชการที่ได้รับยกเว้นตามมาตรา ๒๖ --> มาตรา 26 คือข้อยกเว้นสำหรับงานวิจัย และงานกิจการสวนสัตว์ สามารถครอบครองได้ แต่ต้องขออนุญาตจากอธิบดีเป็นลายลักษณ์อักษร มาตรา ๑๙ ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครองซากของสัตว์ป่าสงวน หรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง เว้นแต่จะเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดที่กำหนดตามมาตรา ๑๗ ที่ได้มาจาการเพาะพันธุ์ หรือซากของสัตว์ป่าดังกล่าว และโดยต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดี และต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดในกฎกระทรวงและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ใบอนุญาต --> มาตรา 17 มาตรา ๑๗ ให้รัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ มีอำนาจกำหนด ชนิดของสัตว์ป่าคุ้มครองให้เป็นสัตว์ป่าชนิดที่เพาะพันธุ์ได้ โดยกำหนดเป็นกฎกระทรวง มาตรา ๑๘ ห้ามมิให้ผู้ใดเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองเว้นแต่ (๑) เป็นการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าคุ้มครองชนิดที่กำหนดตามมาตรา ๑๗ โดยได้รับ ใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์จากอธิบดี (๒) เป็นการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองของผู้รับใบอนุญาต จัดตั้งและดำเนินกิจการสวนสัตว์สาธารณะตามมาตรา ๒๙ ซึ่งได้รับอนุญาตจากอธิบดีให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองที่อยู่ในความครอบครองเพื่อประโยชน์แก่กิจการสวนสัตว์สาธารณะของตน มาตรา ๒๐ ห้ามมิให้ผู้ใดค้าสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าสงวนซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าดังกล่าว เว้นแต่เป็นการค้าสัตว์ป่า คุ้มครองชนิดที่กำหนดตามมาตรา ๑๗ ที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ ซากของสัตว์ป่าดังกล่าว หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าดังกล่าว ทั้งนี้ โดยได้รับใบอนุญาตจากอธิบดี จากคุณ : naimaew1 เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 20:56:16

ความคิดเห็นที่ 20 สรุปก็คือ   ประเด็นที่พยายามจะปลดออกจากบัญชีก็เพราะเห็นว่ามันเพาะพันธุ์ได้แล้ว (หรือเปล่าหว่า เหอๆ) ซึ่งหากเป็นไปตามกฏหมาย การเพาะพันธุ์ก็ต้องขออนุญาตจากอธิบดี ซึ่งก็เป็นเรื่องยุ่งยากในทางปฏิบัติ ก็เลยถอดมันออกจากบัญชีเสีย เพื่อให้ตาสีตาสา (และนายทุน) เพาะพันธุ์กันเอาเอง   แต่ประเด็นที่คัดค้านกันก็คือว่า คุณแน่ใจได้ไงว่านกที่อยู่ในกรงบ้านคุณมันคือสิ่งที่คุณเพาะพันธุ์ได้ หรือลักจับเอา เหมือนกับที่ทำกันอยู่ปัจจุบัน เพราะความจริงปัจจุบันที่มีกฏหมายคุ้มครองอยู่ นกกรงหัวจุกในธรรมชาติก็ไม่ได้หาดูได้ง่ายๆ แล้วนะครับ จากคุณ : naimaew1 เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 20:56:56

ความคิดเห็นที่ 21 ผมเห็นร้านขายข้าวแถวบ้านมีแขวนอยู่ตัวนึงครับ ผมควรจะไปบอกเค้าว่ายังไงดี จากคุณ : ekawatchaow เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 21:07:54

ความคิดเห็นที่ 22 ขออนุญาต เพิ่มเติม คห. 20 เดิมที การเลี้ยง นกปรอดหัวโขน เริ่มต้นแค่ชาวบ้าน ในภาคใต้ เลี้ยงเพื่องานอดิเรก สนุกๆ แข่งขันกันเองภายในหมุ่บ้าน ตำบล ไม่เป็นล่ำเป็นสัน.... ปัญหาของมัน ต้นตอของมัน เกิดมาจาก กลุ่มพ่อค้านายทุนหัวใส ร่วมมือ นักการเมืองท้องถิ่น ทำให้มันบูม ด้วยการส่งเสริม สนับสนุน ให้มีการแข่งขัน นิยมเลี้ยงกันอย่างแพร่หลาย .... พวกมัน ปั่น ให้นกพวกนี้ ให้มีมูลค่า นกบางตัวราคาเป้นหมื่นเป้นแสน พวกกลุ่มนายทุน นักการเมืองท้องถิ่น ต่างส่งเสริม สนับสนุน เพิ่มเงินรางวัล จนกลายเป็นความนิยม แพร่หลายในภาคใต้ ... จนกลายเป็นธุรกิจ สำหรับพ่อค้านายทุน นักการเมืองท้องถิ่น อย่างเป็นล่ำเป็นสัน .... ตอนนี้มันลามขึ้นมา ถึงนักการเมืองระดับชาติ จนนาย สุวิทย์ โดดเข้าไปเล่นด้วย... พวกนายทุนทั้งหลายต่างอ้างว่า สามารถเพลาะเลี้ยงได้ แล้ว... แต่ทำไม นกชนิดนี้ ได้หายไปจากป่าภาคใต้ ... จนถึงมีการ ลักลอบ นำมาจากภาคเหนือ... มนุษย์ ได้ย่ำยี ต่อธรรมชาติ .... จนตอนนี้ เรามารับกรรมจากธรรมชาติ ทั้ง ซึนามิ แผ่นดินๆหว แผ่นดินยุบ พายุ อากาศแปรปรวน.... ธรรมชาติ ได้เอาคืน แล้ว ครับ.... จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 21:16:10

ความคิดเห็นที่ 23 อยากให้ดูตัวอย่าง ของมนุษย์ ที่กระทำต่อสัตว์ เพียงเพื่อความสนุกสนาน ... พวกเขาไม่ได้ ฆ่า เพราะจำเป็น ในปัจจัยสี่... ทำแค่เพื่อความสนุกสนาน แค่นั้นเอง ถ้าเปลี่ยนจาก ลูกธนู มาเป้นกล้อง จะดีกว่ามั๊ย จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 21:20:51

ความคิดเห็นที่ 24 อีกมุมหนึ่ง วันนี้เพิ่งคุยกะ จนท.อนุรักษ์พันธ์สัตว์ป่าฯ ไปร่วมพิธีปล่อยกระจกสู่ป่า ที่เกาะตะรุเตา มีท่านหนึ่งให้ความเห็นว่า หากมีการแชร์สัตว์ป่าที่เพิ่มจำนวนขึ้นได้ (ขยายพันธ์) ไปยังประชาชน หรือผู้สนในเลี้ยง (เลี้ยงนะครับ) จะทำให้ประชากรสัตว์เพิ่มได้มากขึ้น ดีกว่าคุ้มครองไว้โดยปล่อยตามธรรมชาติอย่างเดียว เพราะมันอาจลดจำนวนลงได้เรื่อย ๆ หากจัดการไม่ดีพอ อีกอย่างครับ ที่ภาคใต้ ตอนนี้นกปรอด หรือที่ชาวบ้านทางใต้ เรียกก้อคือ นกกรงหัวจุก มีคนเลี้ยงไว้ดู ฟังเสียง และแข่งขัน มากมายเกือบทุกครอบครัวแล้วครับ การใช้กฎหมายบังคับมันทำยากครับ เค้าเลยเชื่อว่า..ปล่อยให้เป็นไปอย่างที่ว่า น่าจะดีกว่า แค่นี้.. จากคุณ : @ (pran52) เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 21:57:30

ความคิดเห็นที่ 25 ขอเชียร์ดังๆด้วยคน ไม่อย่างงั้นป่าคงขาดสีสรรถ้าไม่มีนกที่ว่านี่อยู่!! จากคุณ : สะบก เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 22:29:10

ความคิดเห็นที่ 26 คือ ถ้าเราเพราะพันธุ์เอง ยังไงก็ไม่สูญพันธุ์ถูกมั้ยครับ จำนวนในธรรมชาติมัน สำคัญยังไงต่อการไปสงวนมัน ? (นอกจากเป็นสายพันธุ์ที่มีความสำคัญต่อระบบ นิเวศน์ก็ว่าไปอย่าง) ถ้าจำนวน "ตามธรรมชาติ" เหลือน้อยมากแล้วต้องเป็นสัตว์สงวน งั้นหมาเลี้ยง ทุกพันธุ์ก็ไม่อยู่ตามธรรมชาติ ก็ควรเป็นสัตว์สงวนด้วย อันนี้ไม่ได้กวนนะครับ แต่ผมตีความแบบเป๊ะๆได้แบบนี้.... สรุปความว่า ถ้าไม่ต้องคุ้มครอง ให้ประชาชนเพาะเองได้ และพิสูจน์แล้วว่า เพาะเลี้ยงได้สำเร็จจริง ก็ปลอดภัยจากการสูญพันธุ์ ก็บรรลุวัตถุประสงค์ ในการสงวนและคุ้มครองแล้ว แล้วจะคุ้มครองต่อไปทำไม -__-" ทั้งหมดนี้เขียนแบบคนไม่มีความรู้ด้านอนุรักษ์นะครับ ถ้าไม่เหมาะสม คิดสั้นไป ฯลฯ ก็ขออภัยล่วงหน้า.... จากคุณ : (oidutS skcarT eriT) (Tire Tracks Studio) เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 22:29:11

ความคิดเห็นที่ 27 ตอบคห. 26 คือ ถ้าเราเพราะพันธุ์เอง ยังไงก็ไม่สูญพันธุ์ถูกมั้ยครับ จำนวนในธรรมชาติมัน สำคัญยังไงต่อการไปสงวนมัน ? (นอกจากเป็นสายพันธุ์ที่มีความสำคัญต่อระบบ นิเวศน์ก็ว่าไปอย่าง) - ลองกลับไปดู กราฟ ในคห 18 ครับ... ในขณะ กลุ่มผู้เลี้ยง อ้างเสมๆว่า ตอนนี้ สามารถเพาะเลี้ยงได้แล้ว แต่ทำไม ประชากร ของนก จึลดลง อย่างรวดเร็ว +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ถ้าจำนวน "ตามธรรมชาติ" เหลือน้อยมากแล้วต้องเป็นสัตว์สงวน งั้นหมาเลี้ยง ทุกพันธุ์ก็ไม่อยู่ตามธรรมชาติ ก็ควรเป็นสัตว์สงวนด้วย อันนี้ไม่ได้กวนนะครับ แต่ผมตีความแบบเป๊ะๆได้แบบนี้.... - เพราะมีการ ลักลอบ ค้าขายกันนะสิครับ จำนวนมันจึงลดลง อย่างรวดเร็ว ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ สรุปความว่า ถ้าไม่ต้องคุ้มครอง ให้ประชาชนเพาะเองได้ และพิสูจน์แล้วว่า เพาะเลี้ยงได้สำเร็จจริง ก็ปลอดภัยจากการสูญพันธุ์ ก็บรรลุวัตถุประสงค์ ในการสงวนและคุ้มครองแล้ว แล้วจะคุ้มครองต่อไปทำไม -__-" - ยังพิสูจน์ ไม่ได้ว่าเลี้ยงเองได้ จริง ครับ มันเป็นแค่ข้ออ้าง ของกลุ่ม นายทุน จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 22:41:14

ความคิดเห็นที่ 28 แถวบ้านผมเขาใช้กรงนกต่อไปดักนกในป่าครับ ผมไม่เห็นนกปรอดในธรรมชาติมานานมากแล้ว แต่ก่อนยังพอได้ยินเสียงแถว ๆ บ้านอยู่บ้าง ปัจจุบันไม่มีแล้วครับ แล้วที่บอกว่าเพาะพันธุื์ได้ ผมไม่เคยเห็นกับตาเลยว่ามีที่ไหนทำฟาร์ม หรือสามารถเพาะพันธุืนกปรอดได้จริง ๆ จากคุณ : raksapondet เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 23:42:14

ความคิดเห็นที่ 29 กรง ... ไม่ใช่ ... บ้าน!!! จากคุณ : LP-BK-HYD เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 00:37:42

ความคิดเห็นที่ 30 ปลดไม่ปบลดมันก็ไม่เหลือในธรรมชาติแล้วหล่ะครับ กลายเป็นนกที่อยู่แต่ในกรงไปแล้ว และต่อไปมันคงจะกลายพันธ์กลายเป็นไม่มีปีกบินไม่ได้แน่ๆ เหอๆ จากคุณ : tump เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 07:23:43

ความคิดเห็นที่ 31 ดูช่อง ไทยพีบีเอส ตอนประมาณ 12.25 วันนี้  เล่นประเด็นนี้ ขอบคุณมากๆครับ  ขอบคุณทีมงานที่ทำเรื่องนี้ --------------- ผมคิดว่านกมันไม่น่าใช้สัตว์เลี้ยงครับ เอามันไปขังไว้ซึ่งผิดวิสัยมันที่วิถีชีวิตต้องโบยบิน แล้วที่น้าว่ามันเพาะกันได้ ผมว่ามันทำกันได้จริงรึเปล่า และทำได้พอกับความต้องการรึเปล่า สิ่งมีชีวิตมันจะเหมือนเพาะสัตว์ชนิดอื่นๆไหม  อัตราการรอดชีวิตมันสูงพอไหม    ถ้าไปปล่อยให้ยกเลิกความคุ้มครอง สิ่งที่เกิดแน่ๆคือ การจับนกชนิดนี้เป็นไปอย่างเสรีไม่มีใครไปจับ ซึ่งขณะนี้จำนวนที่สำรวจมาก็น้อยอยู่แล้วมันจะหมดไปก่อนหรือไม่  การเพาะเลี้ยงให้มีจำนวนมากพอจนคนไม่ไปจับนกตามธรรมชาตินั้นมันเป็นปลายทางแล้วครับ เราจะแน่ใจได้ไหมว่าการเพาะพันธุ์จะทันการกับการจับนกในธรรมชาติ ป.ล. อีกความเห็นนึงนะจ๊ะ แชร์กันๆ แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 54 12:55:18 จากคุณ : เจ้าชายรองเท้าแตะ 655 เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 12:32:12

ความคิดเห็นที่ 32 โหวตค่ะ จากคุณ : +G@To+ เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 13:36:26

ความคิดเห็นที่ 33 รวมด้วยช่วยกัน อนุรักษ์สัตว์ป่าครับ จากคุณ : kingkiev เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 14:26:40

ความคิดเห็นที่ 34 ร่วมด้วยครับ จากคุณ : spajan เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 16:56:51

ความคิดเห็นที่ 35 หนู ร่วมด้วย ค่ะ จากคุณ : เป็ดน้องแบกกล้อง เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 18:10:34

ความคิดเห็นที่ 36 ไม่มีอะครับเพาะได้ ไปต่อมาทั้งนั้นแหละ หรือไม่ก็ซื้อมา พรุ่งนี้วันอาทิตย์ ไปเดินดูเถอะ จตุจักร ยังงัยก็มีลักลอบขาย แต่เมื่ออาทิตย์ที่แล้วไปมา ก็ขายกันอย่างเปิดเผย ขายกันในราคาขั้นต่ำ ตัวละ  2000-3000 แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 54 18:55:33 จากคุณ : E22QV เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 18:54:55

ความคิดเห็นที่ 37 โชคดี แถวบ้านผมยังมีอยู่ครับ บินมาร้องกันทุกวันเลย จากคุณ : มาม่าผัดขี้เมา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 19:07:28

ความคิดเห็นที่ 38 ถึงจะเพาะพันธ์ได้...แต่ค่าตัวมันน่าจับขายอ่ะ  ตัวละ 2000-3000 ขั้นต่ำ อย่าให้จับเลย...ผมเห็นนกอยู่ในกรงแล้วมันทุเรศนัยตา      คนเลี้ยง...โปรดนึกถึงตัวเอง ต้องติดคุกขังเดี่ยวตลอดชีวิตทั้งที่ไม่มีความผิดโดยไม่มีโอกาสพบและร่ำลาลูกเมียบ้าง ผมไม่รู้หรอกคัดค้าน พรบ.แล้วมันจะส่งผลอะไร แต่อยากขอร้องให้หยุดเกมส์แข่งนกบ้าๆนี่ซะที จากคุณ : Salt Cat เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 20:57:52

ความคิดเห็นที่ 39 ขอไห้กรรมตามทัน คนที่ฝืนธรรมชาติ ทำสิ่งไดไว้ สิ่งนั้นตอบแทน จากคุณ : kimji40d เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 08:51:01

ความคิดเห็นที่ 40 แถวบ้านผมปีนี้ ย้ำ "ปีนี้" พึ่งเห็นอยู่แค่ 3 ตัว หลังจากปีที่แล้ว ปีก่อน ไม่เห็นเลยซักตัว จะบอกว่าเพิ่มขึ้นก็ไม่ได้ เพราะมันมากินลูกไม้ที่บ้านผมเอง ปัจจุบันผมยิ่งเห็นนกชนิดนี้ยากขึ้นทุกทีๆ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนตอนเด็กๆ ได้ยินเสียงทุกเช้า ส่วนตอนนี้บางทีเป็นเดือนยังไม่ได้ยินเสียงมันเลย จากคุณ : นมช็อคโกแล็ต เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 09:17:29

ความคิดเห็นที่ 41 เข้ามาช่วยโหวหตด้วยคนครับ จากคุณ : nabuki เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 11:53:26

ความคิดเห็นที่ 42 ส่งเสริมให้เพาะเลี้ยง และขยายพันธุ์ น่าจะเป็นทางออกที่ดีนะครับ ตัวอย่างที่เห็นๆ กัน อย่างเช่น ปลาหมูอารีย์ นั่นไง สัตว์อนุรักษ์ ห้ามซื้อขาย ห้ามมีในครอบครอง (ตอนนี้ก็ยังเป็น) แต่ความจริงก็คือ มันหมดไปจากแม่น้ำแม่กลอง ตั้งนานมากแล้ว ที่มีให้ดูตัวเป็นๆ ทุกวันนี้ เกิดจากการ เพาะเลี้ยง (ผสมเทียม) ทั้งนั้น จากฝีมือเอกชนด้วยนะ ไม่ใช่ทางราชการ ถามว่าคนที่ผสมเทียมปลาหมูอารีย์ผิดไหม ตามกฏหมายผิดครับ แต่ถ้าไม่ได้เขา โลกใบนี้ คงเหลือปลาหมูอารีย์ แค่ในภาพวาด ในเมื่อแหล่งอาศัยก็แย่ลง คนจับได้เขาก็กิน ชาวบ้านไม่สนใจ ว่ามันจะเหลือน้อยแค่ไหน ข้อห้ามน่ะดี ผมเห็นด้วย แต่ที่อยู่อาศัยของสัตว์น่ะ มันเหลือน้อยมากครับ เราช่วยกันส่งเสริม เพิ่มจำนวนประชากรเขาให้มากขึ้น น่าจะเป็นทางออกที่ดีครับ ไม่อย่างงั้น กรณี "แพนด้า" ทำไมเราไม่ปล่อยให้เขาอยู่ในป่า และขยายพันธ์เองล่ะครับ ทำไมเราต้อง เอาเขามาช่วยกันขยายพันธุ์ อีกความเห็นนึงน่ะครับ ตัวผมเองก็ไม่ได้เลี้ยงนกสักตัว มองแบบภาพรวมน่ะครับ ด้วยความเคารพ แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 54 13:36:38 จากคุณ : november_fish_fish เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 13:30:22

ความคิดเห็นที่ 43 มันจะได้ผลหรือไม่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย อย่างน้อยก็คง เป็นไม้กันหมาได้ จากคุณ : B-Nursery เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 18:47:17

ความคิดเห็นที่ 44 คนมันทะลึ่ง ไปเรียกว่านกกรงหัวจุก ด้วยความเห็นแก่ตัว .......... คันปาก อยากด่า จากคุณ : คนโฉด (คนโฉด) เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 22:06:09

ความคิดเห็นที่ 45 เสนอชื่อให้แล้วครับ จากคุณ : cute เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 23:06:23 A:180.210.216.74 X: TicketID:308480

ความคิดเห็นที่ 46 @ คห. 42 ด้วยความเคารพ ครับ กรณี ปลาหมูอารีย์ ไ่มีใครปั่นราคา ให้เป็นตัวละสองสามพัน เหมือน นกปรอด นะครับ.... เรารู้ว่าปลามันกำลังจะสูญพันธ์ เราก็หยุดจับมัน และเพาะเลี้ยงได้.... แต่นกปรอดหัวโขน มีที่ไหน ที่พิสูจน์ว่าเลี้ยงได้บ้าง... และจะมาเทียบกับหมีแพนด้า ก้ไม่ไเด้อีก เพราะหมีแพนด้า ตกลูกครั้งละหนึ่งตัว เหมือนคน หมีแพนด้า ไม่มีใคร ล่ามันเพื่อมาเลี้ยง แต่มันกำลังจะสูญพันธ์ เพราะสภาพ ธรรมชาติ ของตัวมันเอง จึงต้องมีการเพาะเลี้ยง แต่นหปรอดหัวโขน กำลังจะสูญพันธ์ เพราะ เพราะการลักลอบจับ ครั้งละเป็นพันเป็นหมื่น ต้นตอของมันคือ พวกนิยมเลี้ยง และมีการแข่งขัน เราควร ต่อต้านจากพวก ใจบาป พวกนี้ ที่จำกัดอิสรภาพของชีวิตผู้อื่น.. การดินรน ของพวกนี้ ไม่ใช่การที่จะพยายามอนุรักษ์... แต่พยายาม แก้กฏ ให้ล้างผลาญ ธรรมชาติ ได้ง่ายขึ้น ครับ แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 54 23:23:42 จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 23:21:36

ความคิดเห็นที่ 47 สัตว์บางชนิดคุ้มครองก็เหมือนไม่คุ้มครองเลย คุ้มครองแต่ในตัวหนังสืออย่างเดียวได้อะไร ในขณะที่ถ้าปลดออกจากสัตว์ป่าคุ้มครองแล้วทำให้มันสามารถขยายพันธุ์ได้โดยเอกชนไม่ดีกว่าอีกหรือครับ ราคานกป่าก็จะถูกลงไปอีกตามอัตราที่เพิ่มขึ้นกลไกตลาดมันสามารถควบคุมได้ด้วยตัวมันเอง ดูอย่างปลาเสือตอสิครับเป็นสัตว์คุ้มครอง แต่เดี๋ยวนี้แทบหาไม่ได้เลย เพราะอะไร ผมว่าเพราะกฎหมายมันครอบอยู่ไงครับ เลยไม่สามารถทำให้เอกชนค้นคว้าการเพาะขยายพันธุ์ได้ ที่ทำได้คือแอบจับมาขาย มีแต่หมดลงๆซึ่งทุกวันนี้แทบจะไม่มีให้เห็นเลยด้วยซ้ำ(ถ้ามีราคาก็คงแพงมาก(จะบอกว่าแต่ก่อนผมซื้อตัวลายใหญ่ในราคาหลักสิบเองครับ เดี๋ยวนี้ไม่ต้องพูดถึง)) นกกรงก็เช่นเดียวกันในความคิดผมครับ ด้วยความเคารพครับ จากคุณ : ผมแอบชอบคุณ!! เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 04:12:00

ความคิดเห็นที่ 48 @ คห. 47.... มนุษย์ เรา มีความฉลาด.... เราสามารถ เล่นเกมส์ อะไรก้ได้ เพื่อความบันเทิง โดย ไม่เบียดบังสัตว์ เช่น เล่นว่าว การแข่งขันหนังตลุง หรืออะไรอื่นๆ.... ทำไมต้องจับพวกเขามาขังด้วย..... จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 04:52:11

ความคิดเห็นที่ 49 ผมส่งอีเมล์ร่วมคัดค้านไปแล้วครับ.. เวลาไปต่างจังหวัดโดยเฉพาะหลายๆจังหวัดในภาคใต้ รู้สึกสลดใจมากเวลาเดินเที่ยวในตัวเมือง เห็นแต่กรงนกปรอดหัวโขนเต็มไปหมด  เฮ้อ..มนุษย์เรา จากคุณ : edsady เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 10:50:15