ความคิดเห็นที่ 1 ลุงตุ้ย ผู้ดูแลสถานที่นี้มายี่สิบกว่าปีแล้ว เล่าประวัติความเป็นมาของที่นี่ให้ฟังว่าคุณพ่อของคุณลุงได้ ''ขอยืม'' หัวรถจักรและโบกี้รถไฟซึ่งปลดระวางแล้ว มารวบรวมไว้ที่นี่ จากคุณ : ekawatchaow เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 00:15:02

ความคิดเห็นที่ 2 ที่ดินบริเวณนี้เป็นของ กทม. ซึ่งได้ขอพื้นที่คืนเพื่อไปทำประโยชน์อย่างอื่นมาตั้งแต่ปี 2522 แต่คุณลุงขอยื้อไว้ รวมทั้งขบวนรถไฟซึ่งเป็นของ รฟท.ก็ขอยืมไว้เพื่อจัดแสดงเช่นกัน โดยมีสัญญาว่าห้ามหาประโยชน์จากสิ่งของเหล่านี้ จากคุณ : ekawatchaow เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 00:27:23

ความคิดเห็นที่ 3 แต่แล้ว รฟท.ก็มาบอกว่าคุณลุงทำผิดสัญญา โดยการนำของเข้ามาขาย (ตู้น้ำ) ในบริเวณหอฯ จึงจำเป็นต้องยกเลิกสัญญา และต้องยึดรถไฟที่ขอยืมมานั้นไปแล้วนำไปจำหน่ายทิ้งเป็นเศษเหล็ก เมื่อคุณลุงต่อรองว่าจะขอซื้อหรือทำอย่างไรเพื่อรักษาขบวนรถไฟประวัติศาสตร์เหล่านี้ไว้ก็ได้รับคำตอบว่า ต้องแยกชิ้นส่วน แปลงสภาพเป็นเศษเหล็กก่อนเท่านั้น จึงจะไม่ผิดกฎหมายของรถไฟ จากคุณ : ekawatchaow เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 00:31:47

ความคิดเห็นที่ 4 ผมและรุ่นพี่ที่ไปด้วยฟังแล้วก็อึ้งไป หัวรถจักรและตู้โดยสารพวกนี้ไม่ใช่ของธรรมดา ล้วนแต่เป็น ''ตู้แรก'' หรือ ''ตู้พิเศษ'' ที่มีเรื่องราวผ่านกาลเวลา และยังเหลือมาถึงปัจจุบันในสภาพสมบูรณ์ ผมคงทนเห็นมันกลายเป็นเศษเหล็กไม่ได้แน่ๆ แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้ จากคุณ : ekawatchaow เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 00:34:07

ความคิดเห็นที่ 5 ตู้โดยสารที่เป็นไม้ทั้งคัน สภาพดีมาก ผมว่าเอาตู้พวกนี้มาพ่วงหัวรถจักรแล้ววิ่ง ยังดีกว่าโบกี้ที่ใช้อยู่ตอนนี้อีก จากคุณ : ekawatchaow เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 00:36:29

ความคิดเห็นที่ 6 อยากนั่งในนี้บ้าง จากคุณ : ekawatchaow เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 00:38:18

ความคิดเห็นที่ 7 ป้ายเยอะแยะเลยครับ สวยทุกอัน จากคุณ : ekawatchaow เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 00:38:54

ความคิดเห็นที่ 8 รอยเจิม และบอกว่าเก่าที่สุดด้วย ผมไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องแยกชิ้นส่วนด้วยครับ กฎหมายมันก็แค่ตัวหนังสือที่เขียนไว้ในกระดาษ ที่ผ่านกาลเวลามานานแล้วซึ่งย่อมจะล้าสมัย เมื่อมีสถานการณ์ใหม่ๆให้เราต้องจัดการ อะไรๆก็น่าจะเปลี่ยนแปลงได้ จากคุณ : ekawatchaow เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 00:42:29

ความคิดเห็นที่ 9 รูปนี้ผมให้เดาว่าคืออะไร อย่าเพิ่งแอบดูเฉลยนะครับ จากคุณ : ekawatchaow เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 00:43:20

ความคิดเห็นที่ 10 มันคือ.... ก็อกน้ำและอ่างล้างมือ มีที่ใส่สบู่ด้วย ถ้าไม่ได้เห็นที่นี่ แล้วเราจะหาดูได้ที่ไหนกัน จากคุณ : ekawatchaow เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 00:45:03

ความคิดเห็นที่ 11 ป้ายระวังอันตรายจากรถไฟครับ ตั้งใจทำมากเลยทีเดียว จากคุณ : ekawatchaow เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 00:46:19

ความคิดเห็นที่ 12 ปลายทางรถไฟสายปากน้ำ จากคุณ : ekawatchaow เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 00:47:39

ความคิดเห็นที่ 13 หัวรถจักรไอน้ำอีกคันหนึ่ง จากคุณ : ekawatchaow เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 00:48:27

ความคิดเห็นที่ 14 มาตรวัดความดัน จากคุณ : ekawatchaow เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 00:49:21

ความคิดเห็นที่ 15 คันบังคับ น่าสนุกดีนะครับ จากคุณ : ekawatchaow เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 00:50:02

ความคิดเห็นที่ 16 ยังมีอย่างอื่นด้วยครับ เช่นรถราง ของแท้แน่นอน ไม่เหมือนรถรางเทียมๆ ที่วิ่งด้วยล้อรถยนต์เหมือนที่เห็นๆกันทุกวันนี้ จากคุณ : ekawatchaow เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 00:52:04

ความคิดเห็นที่ 17 รถโยก เอาไว้วิ่งบนรางรถไฟ ซึ่งยังพอเห็นกันอยู่บ้าง แต่ไม่เท่แบบนี้ แก้ไขเมื่อ 29 พ.ค. 54 01:21:34 จากคุณ : ekawatchaow เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 00:52:48

ความคิดเห็นที่ 18 มีโมเดลรถไฟด้วยครับ มีข้อมูลบอกว่าชื่อวิคตอเรีย จำลองมาอีกทีจากโมเดลที่ราชทูตอังกฤษนำมาถวายเป็นบรรณาการแด่ในหลวงรัชกาลที่ 4 จากคุณ : ekawatchaow เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 00:56:42

ความคิดเห็นที่ 19 มีป้ายอีกแผ่นติดไว้บนตู้ ว่า The First Train in Siam จากคุณ : ekawatchaow เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 00:58:30

ความคิดเห็นที่ 20 นอกนั้นก็เป็นโมเดลของเล่นครับ มีตุ๊กตานั่งอยู่บนหิ้ง แต่มีตัวเดียว ท่าทางเหงาหงอยเหมือนคุณลุง จากคุณ : ekawatchaow เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 00:59:34

ความคิดเห็นที่ 21 โมเดลจักรยาน (ยนต์...มั้ง) ยุคแรกๆ ดูกลไกแล้วน่าจะใส่ถ่านหรือไขลานวิ่งได้จริงๆ จากคุณ : ekawatchaow เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 01:01:14

ความคิดเห็นที่ 22 ยังมีโมเดลรถไฟอีกมากมาย จากคุณ : ekawatchaow เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 01:01:53

ความคิดเห็นที่ 23 รางนี้ครั้งหนึ่งเคยเอารถไฟจำลองมาวิ่งได้จริงๆครับ ตอนนี้ไม่รู้ยังใช้การได้ไหม จากคุณ : ekawatchaow เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 01:02:44

ความคิดเห็นที่ 24 หนึ่งในรถไฟจำลองหลายสิบขบวน ที่ตอนนี้จอดอยู่เฉยๆ จากคุณ : ekawatchaow เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 01:03:24

ความคิดเห็นที่ 25 อดีตรุ่งโรจน์ ปัจจุบันเรียนรู้ สู่อนาคตรุ่งเรือง เรายังต้องเรียนรู้อีกมาก ไม่เฉพาะจากบทเรียนครั้งนี้ แต่ในอีกหลายๆเรื่อง การเรียนรู้อาจจะต้องเหนื่อยยากลำบาก เจ็บปวด หรือแม้แต่สูญเสียสิ่งที่รัก เพื่อว่าสักวันจะนำไปสู่อนาคต...ที่รุ่งเรือง จากคุณ : ekawatchaow เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 01:06:18

ความคิดเห็นที่ 26 หอเกียรติภูมิรถไฟตั้งอยู่ในบริเวณสวนจตุจักร ริมประตูฝั่งตะวันตกซึ่งเป็นทางออกไปสู่สวนรถไฟ ไปได้ก่อนเที่ยงนะครับ (เห็นเวลาทำการจากในกระทู้ดั้งเดิมด้านบน) วันนี้ผมอยู่ถึงเกือบๆเที่ยงเลยไม่ทราบว่าปิดตอนเที่ยงจริงหรือเปล่า แนะนำให้พกเลนส์ wide สว่างๆ และ CPL ติดไปด้วยครับ เพราะในตู้รถไฟจะค่อนข้างมืด และของเล่นทุกชิ้นอยู่ในกระจกซึ่งมีแสงสะท้อนจากภายนอก ลุงตุ้ยบอกว่า เราอาจจะไม่ได้เห็นของเหล่านี้อีกแล้ว ดังนั้นมาช่วยกันถ่ายรูปเก็บไว้ให้มากๆครับ จากคุณ : ekawatchaow เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 01:11:56

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณที่ถ่ายรูปมาให้ชมครับ ผมคงไม่มีโอกาสกลับไปทันดูของเหล่านี้แน่ๆ อยากบอกแค่เสียดายมากๆครับ จากคุณ : Ball_In_Flames เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 01:40:49

ความคิดเห็นที่ 28 น่าแวะไปดูสักครั้ง ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆ ครับ จากคุณ : Westinghouse เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 01:48:47

ความคิดเห็นที่ 29 มาชมภาพดีๆครับ จากคุณ : chaiseed เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 02:31:57

ความคิดเห็นที่ 30 วันนี้ไป มัวแต่นั่งคุย ไม่ได้ถ่ายเลย.... จากคุณ : SRJ เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 02:57:49

ความคิดเห็นที่ 31 ..อยากไปเก็บภาพสิ่งที่ผ่านเวลาและความทรงจำแบบนี้ไว้เช่นกัน..แต่ไม่รู้ว่าจะได้ไปรึเปล่า ..ขอบคุณที่นำภาพสวยๆ และมีค่ามาให้ชมนะครับ ...เป็นอีกครั้งที่ระบบราชการไทย จงใจละเลยเจตนารมย์ที่ดีด้วยข้ออ้างกฎเกณฑ์เล็กน้อย...ทำลายความดีงามในอดีต.. ..อาจเนื่องด้วยโมหจริตของผู้มีอำนาจในปัจจุบัน... ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธ์และบรรพชน ดลบรรดาลให้มีผู้มีอำนาจสูงกว่า..กำราบโมหจริตของผู้รู้เท่าไม่ถึงการณ์ และปกป้องหลักฐานของเกียรติภูมิในอดีต ณ หอเกียรติภูมิรถไฟ ให้ลูกหลานสืบต่อไปด้วยเทอญ... จากคุณ : ป๊าตัว art (แม่ยู้-ลูกหมูนะโม) เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 03:32:01

ความคิดเห็นที่ 32 น่าเสียดายจริง ๆรู้สึกเพลียใจกับการรถไฟไทยมานานแล้ว ขอบคุณสำหรับภาพสวย ๆที่จะกลายเป็นภาพประวัติศาสตร์ต่อไป จากคุณ : raksapondet เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 08:23:43

ความคิดเห็นที่ 33 รู้สึกหดหู่ครับ จะช่วยกันปกป้องยังงัยได้บ้างมั้ย เพื่อให้ของเหล่านี้ดำรงอยู่ต่อไป ในสายตาของผู้มีอำนาจ ของเหล่านี้จะมีค่าก็ต่อเมื่อหาไม่ได้อีกแล้ว จากคุณ : ลายแทง เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 08:32:00

ความคิดเห็นที่ 34 เดี๋ยววันนี้ไปเลยดีกว่าครับ  อยากไปมานานแล้วเหมือนกัน "เดี๋ยวนี้...ไม่มีคำว่า เดี๋ยวก่อน" .....ถึงวันนั้นอาจจะสายเกินไปแล้ว ใครไปแล้วเจอกันครับ จากคุณ : Supermop เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 08:32:27

ความคิดเห็นที่ 35 ต้องแยกชิ้นส่วน แปลงสภาพเป็นเศษเหล็กก่อนเท่านั้น จึงจะไม่ผิดกฎหมายของรถไฟ <<-- เพื่ออะไรครับ ใครรู้ช่วยบอกผมที มันมีความลับหรืออะไรซ่อนอยู่นอกจากคุณค่าที่ผ่านกาลเวลาครับ ถึงต้องแปลงสภาพให้เป็นเศษเหล็ก่อน?? ในเมื่อ การรถไฟ เอามาทำให้ดีไม่ได้ แล้วทำไมไม่เปิดโอกาสให้คนอื่น ที่เค้ามองเห็นคุณค่าตรงนี้ เป็นคนจัดการล่ะครับ ??? จากคุณ : หล่อได้พ่อหนึ่งแม่ติ้ง เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 08:54:53

ความคิดเห็นที่ 36 สงสัยมันคงจะผิดระเบียบสมัยพศ2493ล่ะมั๊งครับน้า  อย่างว่าจะครับระบบราชการไทยมีการพัฒนาที่ช้ามากๆ  เห็นอะไรที่ไม่ดีไม่งามไม่เหมาะสมก็ปล่อยๆมันไว้อย่างนั้นไม่มีใครคิดจะแก้ไขใดๆ  ทำงานไปวันๆก็พอแล้วปัญหาอะไรจะเกิดก็ช่างมันเถอะก็ธุระไม่ใช้ของฉันนี่    กฎระเบียบที่ล้าหลังที่ควรจะแก้ไขกันได้แล้วก็ไม่มีใครเหลียวแลจะทำกัน .................ผมว่าเราควรจะเปลี่ยนความคิดกันใหม่นะครับว่าเราๆคนธรรมดาทำอะไรไม่ได้   แต่อยากให้คิดใหม่ว่าคนธรรมดาๆอย่างเราๆนี่ล่ะครับสามารถทำได้   คนน้อยคนอาจจะทำไม่ได้แต่คนมากๆอาจจะสำเร็จก็ได้ครับ อยากจะลองดูกันซักตั้งไหม?.... จากคุณ : ตากล้องหนุ่ม เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 09:29:11

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณที่ถ่ายรูปมาให้ชมค่ะ เสียดายจริงๆเลย จากคุณ : NANFA_WK เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 11:10:39

ความคิดเห็นที่ 38 ท่านๆครับ การรถไฟมันเป็นรัฐวิสาหกิจไม่ใช่หรอครับ ผมว่าสิ่งที่พอทำไดั คือ เรามีโลกออนไลน์ มีพลังจากโลกเสมือน ใช้หนทางนี้ให้เป็นประโยชน์กันเถอะครับ ผมเอง เอาลิงค์ไปเสนอ ตามเฟซบุครายการข่าว ผู้สื่อข่าว รายการสารคดี เผื่อมันจะเป็นประเด็นขึ้นมาได้บ้าง ดีกว่านั่งเฉยๆ ก็อปลิงค์ไปแปะ ไม่ยากครับ ช่วยๆกัน มีสิบคน ก็ขยายเป็นร้อยพันหมื่นแสนได้ครับ จากคุณ : ไก่แก้ว สาริกา เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 13:07:19

ความคิดเห็นที่ 39 ไม่รู้จักเก็บประวัติศาสตร์ ไม่รู้จักหวงแหนประวัติศาสตร์ ไม่รู้จักเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ เป็นการรถไฟที่น่าหดหู่เสียจริงๆ เสียดายความตั้งพระทัยขององค์พระปิยะมหาราช ที่ต้องการให้ประเทศชาติมีความรุ่งเรืองทัดเทียมอารยะประเทศอื่นๆ แต่คนเพียงหยิบมือกลับปล่อยให้ความรุ่งเรืองนั้นเสื่อมโทรมลงเรื่อยๆ โดยไม่คิดที่จะปรับปรุงแก้ไข อ้างแต่ระเบียบปฏิบัติเพราะกลัวที่จะต้องรับผิดชอบ ปล่อยให้เอกชนรับไปบริหารเต็มตัวยังดีเสียกว่า ปัญหาในการรถไฟมันคงจะเยอะมากจนไม่มีใครอยากไปแตะต้อง เพราะแตะตรงไหนก็เน่่าตรงนั้นแหล่ะ ผมเห็นเวลานำรถจักรไอน้ำมาเปิดเป็นขบวนพิเศษ พวกนี้เขาทำได้อย่างไรกันหนอ ทีพวกที่อยู่ในหอเกียรติภูมิรถไฟ กลับไม่มาช่วยกันดูแล หน่วยงานหนึ่งก็เจ้าของที่ ไม่ยอมให้ที่ อีกหน่วยงานก็ให้ยืม ทั้งที่ต้ัวเองจะเอาไปทำลายแท้ๆ แย่จริงๆเลย จากคุณ : e20 เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 15:24:13

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณมากๆครับผม ที่ห้ามจำหน่ายเป็นหัวรถจักรนั้น เพราะมีกฎหมายว่าหัวรถจักรเป็นยุทธปัจจัยหน่ะครับ เอกชนไม่สามารถครอบครองได้ (แต่ถ้าเป็นแบบวิ่งไม่ได้แล้ว คือมีแต่โครงน่าจะไม่มีปัญหา) เหมือนที่เอกชนไม่สามารถครอบครองรถถังหรือจรวดมิซไซด์ได้นั้นแลครับ แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 54 10:19:28 จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 10:17:31

ความคิดเห็นที่ 41 หอเกียรติภูมิรถไฟก่อตั้งมาตั้งแต่สมัยท่านสรรพสิริ คุณพ่อของคุณลุงตุ้ย ถ้ามีโอกาสได้อ่านเรื่องที่ท่านเล่าจะรู้ว่าท่านทำเพราะรักรถไฟจริงๆ ถ้าผู้บริหารการรถไฟคิดได้เพียงแค่นี้ ก็ไม่มีความเห็นอะไรจะเสนอแนะ ถึงเสนอแนะไปก็คงไม่รับฟังอยู่แล้ว จากคุณ : จันทร์สะท้อนเงา เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 21:48:01

ความคิดเห็นที่ 42 ทำยังไงที่จะอนุรักษ์สถานที่ดีๆ อย่างนี้ไว้ได้ครับ จากคุณ : RadioHome เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 54 12:49:50

ความคิดเห็นที่ 43 ต้องแยกชิ้นส่วน แล้วถึงจะขายได้ ?????? แล้วไอ้โบกี้ที่อยู่ที่บ้านของ คุณสมัคร สุนทรเวช ล่ะครับ มันไปรวมร่าง กันตอนไหน ถึงไปอยู่ที่นั่นได้ ?????? อารายย ฟระ การรถไฟไทย จากคุณ : Beastie_Thai เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 54 13:07:02

ความคิดเห็นที่ 44 โบกี้ไม่เป็นไรจ้ะ เขานับแต่หัวรถจักร จากคุณ : cocobronco เขียนเมื่อ : 4 มิ.ย. 54 09:52:32