 |
เคยอ่านมานานแต่จำไม่ได้ละ สรุปเอาเลยดื้อๆ
แต่เดิม ค่ายนิค เค้าจะทำกล้องระดับกลางบอดี้ใหญ่ๆ เหมาะสำหรับมืออาชีพที่เน้นประสิทธิภาพสูง กล้องส่วนใหญ่ของ Nikon จึงมีมอเตอร์ในตัวกล้อง ( จริงๆแล้ว บางส่วนมันก็มาจากความเป็นกล้องฟิลม์์ด้วยส่วนนึง )
ในขณะที่แนวคิดของ Canon ต่างออกไป ใหนๆ ก็เข้าสู่ยุคดิจิตอลแล้ว Canon ต้องการขยายตลาดไปทุกระดับ จึงตัดมอเตอร์ในกล้องออกทั้งหมด ( จะเห็นว่า Canon ยุคแรกๆที่เป็นดิจิตอล แทบจะไม่มีมอเตอร์ในตัวกล้องเลย ) เพราะฉะนั้น Canon จึงสามารถแตกไลน์ผลิตได้เยอะกว่า ตั้งแต่ระดับ Consumer ไปยันระดับโปร โดยเอามอเตอร์มาบรรจุไว้ที่เลนส์แทน ด้วยเหตุนี้ กล้องที่ไม่มีมอเตอร์ในตัว จึงสามารถออกแบบให้มีขนาดเล็กกว่า จึงเป็นเหตุที่ว่า สมัยแรกๆ Canon จึงสามารถผลิตกล้องระดับล่างออกมาขายได้ก่อนคู่แข่ง
ต่อมา แนวคิดนี้ก็แพร่ขยายไปยังผู้ผลิตรายอื่นๆที่ต้องการแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ไปยังระดับล่าง เพราะสามารถออกแบบกล้องให้เล็กลงและยัดวงจรอิเล็กทรอนิกส์เข้าไปได้มากขึ้น ทำให้กล้อง Nikon ระดับล่างๆ แทบทุกตัวไม่มีมอเตอร์และยังมีขนาดที่เล็กลงอีกด้วย ดังนั้น ปัจจุบัน กล้องค่าย Nikon จึงมีทั้งมีมอเตอร์ในตัว และไม่มีมอเตอร์ในตัว ด้วยเหตุนี้ Nikon จึงเริ่มผลิตเลนส์ที่มีมอเตอร์ในตัวของค่ายขึ้นมา
เรื่องมอเตอร์ในเลนส์นั้นก็มีสองแบบ คือแบบธรรมดากับมอเตอร์ความเร็วสูง ซึ่งเป็นแบบเงียบโฟกัสเร็ว ความต่างก็อยู่ที่มอเตอร์เล็กๆที่ใส่เข้าไปในตัวเลนส์นั่นเอง เนื่องด้วยเทคโนโลยีมอเตอร์ในเลนส์มีการพัฒนาและเติบตัวสูง ทำให้เลนส์แพงๆ จึงมักใส่มอเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงเข้าไปในเลนส์ โดยเฉพาะจำพวกเกรดโปร โดยสังเกตสัญลักษณ์ที่ชื่อเลนส์ต่อพ่วงท้าย อย่างเช่นค่าย Canon จะลงท้ายด้วย USM (Ultra Sonic Motor) ส่วน Nikon จะใช้สัญลักษณ์นำหน้าว่า AF-S ( Autofocus Silent Wave Motor )
ด้วยความที่เลนส์ทุกตัวของค่าย Canon มันมีมอเตอร์ในเลนส์ แต่มอเตอร์ที่ใช้ดันมีสองแบบ เพราะฉะนั้น เลนส์ทั่วๆไป ของค่าย จึงไม่นิยมระบุสัญลักษณ์ว่ามีมอเตอร์ยกเว้น เลนส์ที่เป็นมอเตอร์แบบ Ultra Sonic Motor จะระบุว่า USM หมายถึงมอเตอร์ที่ขับเคลื่อนโดยอาศัยหลักคลื่นเสียงความถี่สูง Ultra-Sound ทำให้โฟกัสเงียบและเร็วขึ้น ประสิทธิภาพดีขึ้น นั่นเอง ดังนั้น หลายคนจึงสับสนว่ากล้อง Canon มีมอเตอร์ในตัว ซึ่งความจริงแล้วกล้อง Canon ทุกตัวไม่มีมอเตอร์ครับ
ส่วนค่ายนิคนั้น แต่เดิม ไม่มีมอเตอร์ที่ตัวเลนส์ แต่เมื่อตัวเองพัฒนากล้องในระดับล่างที่เล็กและไม่มีมอเตอร์ขึ้นมา ก็เลยย้ายมอเตอร์มาไว้ในเลนส์รุ่นใหม่ๆแทน ซึ่งข้อดีคือ สามารถโฟกัสได้ไวขึ้น ร่นระยะเวลาขั้นตอนการโฟกัสภาพทำให้ถ่ายภาพได้ง่ายขึ้น แต่ถึงกระนั้นถ้าใส่มอเตอร์แบบธรรมดาๆก็คงจะน้อยหน้าในเมื่อมีเทคโนโลยีใหม่ๆก็ใส่เทคโนโลยีมอเตอร์ความเร็วสูงมาไว้ในเลนส์รุ่นใหม่ๆเลย เรียกว่า AF-S = Autofocus Silent Wave Motor ซึ่งเป็นมอเตอร์ความเร็วสูงในเลนส์ เหมือนกับ USM ของทาง Canon นั่นเอง
ดังนั้น ถ้าเห็นเลนส์ Nikkor AF-S ของค่าย Nikon ที่ราคาจะสูงหน่อย ไม่ต้องแปลกใจ เพราะนั่นแปลว่า คุณได้มอเตอร์ความเร็วสูงในเลนส์มาใช้ได้เลย
ส่วนเลนส์ค่ายอิสระ ที่มีมอเตอร์ความเร็วสูงในเลนส์ ก็จะมีชื่อย่อแตกต่างกันไป ไม่ขอพูดถึงแล้วกัน
ดังนั้น เอาเป็นว่า สำหรับคนที่ใช้กล้องไม่มีมอเตอร์ในตัวของค่ายนิค ไม่ต้องน้อยใจ เพราะเลนส์รุ่นใหม่ๆ ย่อมมีการพัฒนาไม่หยุด โดยเฉพาะเลนส์ Kit ทุกค่าย ต่างก็ใช้มอเตอร์ในเลนส์และกันสั่นเป็นมาตรฐานกันหมดแล้ว เพราะฉะนั้น ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีเลนส์ไม่มีมอเตอร์ให้ใช้ แต่อย่างไรก็ดี เรื่องของราคา ก็อาจเป็นอุปสรรคอยู่บ้าง สำหรับเลนส์ราคาถูกๆที่ใช้มอเตอร์แบบธรรมดาของค่าย Canon ที่อาจจะวืดวาดเสียงดังไปบ้าง แต่ก็ยังดีกว่าเลนส์มือหมุนของค่ายนิค ที่ราคาอาจจะถูก แต่พอเอามาใช้กับกล้องเล็ก ต้องใช้มือหมุนสถานเดียว นอกจากจะใช้กับร่วมรุ่นเก่าในระดับกึ่งโปรขึ้นไปที่มีมอเตอร์ในตัวกล้องอย่าง D90 , D7000 ในขณะนี้ เป็นต้น
เพราะฉะนั้น ใครใช้กล้องระดับล่าง(ผู้เริ่มต้น) อย่าง D3000 , D3100 , D5000 , D5100 ก็อย่าลืมดูรหัสเลนส์ว่าเป็น AF-S หรือเปล่า? ด้วยนะครับ
แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 54 18:11:12
จากคุณ |
:
Cho_shang
|
เขียนเมื่อ |
:
13 มิ.ย. 54 17:10:50
|
|
|
|
 |