ความคิดเห็นที่ 1 กล้องมือถือ ขนาด sensor เล็กมาก เล็กจนสามารถสร้างเลนส์ที่มีขนาดรูรับแสงใหญ่มากได้ ดูเลนส์กล้อง FF vs กล้อง CCTV เป็นตัวอย่างได้ กล้อง FF แค่ได้ f/1.4 ก็ตื่นเต้นกันนักหนาว่า สว่างๆๆๆ เลนส์เทพ เลนส์เมพขริงๆ ในขณะที่ CCTV lens ทำได้สบายๆ และลงต่ำถึง f/0.9 ก็มีให้เห็นทั่วไป ขายกันเกลื่อน ในราคาหลักพันเท่านั้น CCTV lens มันเมพขริงๆนะครับ พี่น้อง จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 04:04:29

ความคิดเห็นที่ 2 sensor ยิ่งเล็ก ยิ่งสามารถทำเลนส์ที่มี  f/stop กว้างๆๆๆ ได้ง่ายขึ้น ถ้าอย่างนั้น กล้อง ติดโทรศัพท์มือถือหละ??? แม่นแหล่ว! กล้องติดมือถือ เซนเซอร์เล็กนิดเดียว เลนส์ของกล้องมือถือ จึงสามารถทำรูรับแสงกว้างๆได้ กล้อง iphone 4 ... เซนเซอร์แทบเรียกว่า "ใหญ่มาก" ในบรรดากล้องติดมือถือทั้งหมด คือ 5MP, 1/3.2" BSI sensor (แต่ยังแพ้ nokia N8 .. sensor 1/2.3" + เลนส์ Zeiss 5.4mm f/2.8.. พอๆกับกล้อง compact ทั่วๆไป) เลนส์ติดกล้องคือ 3.85mm f/2.8 (28mm equivalent) กล้องของยี้ห้ออื่น sensor เล็กกว่านี้มาก แต่เลนส์ "สว่างมาก" .. เรียกได้ว่า บางยี่ห้อใช้ f/1.4 ด้วยซ้ำ แล้วเกี่ยวอะไรกับหัวกระทู้หว่า? เรารู้กันอยู่นี่นาว่า รูรับแสงของเลนส์ (f/stop) ยิ่งกว่า (f/stop น้อย) .. ระยะชัดลึกมันก็ยิ่งน้อยตาม เราอยากได้ f/1.4, f/2.0 .. เลนส์สว่างๆ .. เพราะนอกจากจะถ่ายในที่แสงน้อยได้ดี ยังจะได้ "หน้าชัดหลังเบลอ" ง่ายๆด้วย ชิแม๊ะ อ้าว .. ถ้าอย่างนั้น กล้องติดโทรศัพท์มือถือที่มี f/stop แค่ f/1.0 หรือ f/1.4 .. ก็ทำหน้าชัดหลังเบลอได้อะดิ???? มันไม่ถึงขนาดน้านนน เพราะกฏเกี่ยวกับตัวคูณเทียบเท่าเลนส์ 35mm มันบอกว่า DOF หรือระยะชัดลึกที่จะได้จริง ต้องเอาตัวคูณ ไปคูณกับ f/stop ด้วย ตัวอย่างเช่น .. ตัวคูณของ iphone 4 = 7.64 DOF ที่เกิดขึ้น ก็ เสมือน ใช้ f/stop ที่ 2.8 * 7.6 หรือ ประมาณ f/22 ระยะชัดลึกที่ได้จากกล้องมือถือ มันมากเอาเรื่อง ฉะนั้น .. หน้าชัด หลังเบลอ "แทบจะ" ไม่มีเอาซะเลย จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 04:23:13

ความคิดเห็นที่ 3 แทบจะไม่มี ไม่ใช่ ไม่มีแน่นอน แย่กว่าการที่ "แทบจะไม่มี หน้าชัด-หลังเบลอ" คือ  การมีหน้าชัด-หลังเบลอ ครับพี่นอง ทำไมถึงว่าแย่กว่า เพราะกล้องติดมือถือ มันไม่มีระบบ MECHANICAL autofocus มือถือนะครับ .. มือถือ ขืนใส่ระบบ AF เข้าไป ต่อให้เป็นแบบ dSLR คือ ใช้ ultrasonic linear motor เข้าไป .. กล้องและเลนส์ ได้ใหญ่ขึ้นไม่น้อยกว่าสองเท่า แถมซดพลังงานแบตเป็นอูฐ และความทนทาน ลดลงไม่น้อยกว่าห้าเท่า มือถือ .. น้อยคนที่จะใช้ถนอมๆมันเหมือนกล้อง จะเห็นว่า แทบจะไม่่มีมือถือไหน ที่มีส่วนเคลื่อนไหวได้เลย .. กลับมาที่กล้อง เซนเซอร์ยิ่งเล็ก .. ยิ่งทำเลนส์สว่างๆมากได้ (f/stop น้อยๆ) และเซนเซอร์ยิ่งเล็ก .. noise ยิ่งมาก ยิ่งถ้าให้แสงเข้าน้อย .. น้อยส์มาตรึม 1+1 = 2 (แน่หรือ) ฉะนั้น .. กล้องมือถือ .. ทำเซนเซอร์เล็กๆ + เลนส์สว่างๆเ้ข้าไว้ เลนส์ f/stop = 1.0 หรือ 1.4 เข้าไปโลด เพราะมันทำง่าย ราคาไม่แพง บลาๆๆๆๆๆ ผลก็คือ กล้องดี ไวแสง หน้าชัด หลังเบลอ แต่ มีแต่หน้าชัด หลังเบลอนะขอรับ จะถ่ายวิว ถ่ายทิวทัศน์ ถ่ายภูเขา ก็ ชัดแต่ข้างหน้าเรา ส่วนภูเขา ...เบลอ เบล๊อ เบลอ เบลอว่ารักแถบ อ้าว? ต้องการหน้าชัด หลังชัด ก็หรี่รูรับแสงลงดิ หรือโฟกัสไปที่ภูเขาไกลๆตาสิ ทำไมไม่ทำ??? กล้องมือถือ ไม่มีกลไกขับเคลื่อนระบบ AF ขอรับ และไม่มีกลไกหรี่รูรับแสงเช่นกัน ถ้าใช้เลนส์ f/stop กว้างๆเมื่อไหร่ DOF ที่น้อย จะทำให้เรื่อง หน้าชัด หลังชัด ... เป็งปายม่ายล่ายยย จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 04:33:47

ความคิดเห็นที่ 4 นั่นจึงเป็นที่มาของเรื่อง extended DOF .. 1.กล้อง ใช้ sensor เล็กๆ เพื่อที่จะได้ใช้กับเลนส์สว่างๆ 2. เอาภาพที่ได้มา .. ภาพที่ชัดแต่ข้างหน้า และส่วนหลังเบลอๆๆ มาคำนวนแยกแยะองค์ประกอบ หาความชัด ลดความเบลอลง พูดง่ายๆ ความชัดลึก ที่ได้จากเลนส์เทพๆ รูรับแสงสว่างๆ ไม่ใช่ความชัด ที่่เกิดจากเลนส์ แต่เกิดจากการคำนวนของ CPU ในกล้อง พิมพ์มาตั้งยาวเหยียด สรุปเนื้อหา มันมีแ่ค่นี้เองจริงๆจ้ะ นอนหลับ ฝันดีทุกท่านครับ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 04:41:46

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณครับน้าแมว เป็นความรู้ใหม่จริงๆครับเรื่องนี้ จากคุณ : เด็กน้อยด้อยปัญญา เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 05:27:20

ความคิดเห็นที่ 6 ได้ความรู้เพิ่ม ขอบคุณครับผม จากคุณ : Ball_In_Flames เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 06:54:03

ความคิดเห็นที่ 7 อ่านมาซะยาวเข้าใจบรรทัดสุดท้ายนี่แหละ จากคุณ : AprilSnow เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 07:03:54

ความคิดเห็นที่ 8 สุดยอดครับน้า.... อ่านมายาว สรุปนิดดียว ๕๕๕๕๕๕ แต่.... น่าติดตาม ครับ... จากคุณ : Jedcon เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 07:07:45

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณครับน้าแมว จากคุณ : kai_inner เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 07:09:14

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณสำหรับความรู้ครับน้าแมวฯ จากคุณ : spajan เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 07:24:04

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณครับ จากคุณ : RichThoFeN เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 07:33:20

ความคิดเห็นที่ 12 เหรอ  อืม...... พลิกไปเลยแฮะ จากคุณ : venfaa เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 07:57:28

ความคิดเห็นที่ 13 เข้าเวร .. ตีสามโดนปลุก ตื่นมาทำงาน ใครจะนอนต่อไหว เลยเอาเรื่องน่าสนใจมาเล่าสู่กันฟัง เทคนิค E-DOF ถ้าจัดเต็ม นอกจากทำให้หน้าชัดหลังชัด ยังทำให้เราเลือกจุดโฟกัสได้, ทำให้หน้าชัดหลังเบลอได้ (ระดับหนึ่ง จากธรรมชาติของ f/stop น้อยๆ), ทำให้มี zone of DOF .. เลือกได้ว่าจะให้แถบไหนชัด แต่การจัดเต็ม กิน CPU, กินไฟ ฯลฯ มือถือหลายๆเจ้าเลยเล่นง่าย บอกว่ามือถือของตัวเอง มี E-DOF โดยทำให้มีแค่หน้าชัดหลังชัด(โดย software) และไม่บอกว่า มันทำให้เสียคุณสมบัติการถ่ายใกล้ (close-up) ไป จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 08:16:55

ความคิดเห็นที่ 14 กล้องมือถือบางรุ่นมี MECHANICAL autofocus ไม่ใช่หรือ พวกที่กดโฟกัสแล้วดังกึกๆ ปล. ส่วนตัวเคยใช้ sony k750i คิดว่าเคยเห็นชุดเลนส์ขยับเวลาโฟกัสนะ จากคุณ : Tama2kun เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 08:18:41

ความคิดเห็นที่ 15 มาแย้งน้าเหมียวนิดนึงครับ กล้องมือถือบางตัว (เน้นว่าบางตัวเท่านั้น) มันมีระบบ AF นะครับ (หรือว่ามันเขียนไว้เท่านั้นเองก็ไม่แน่ใจ) อย่าง k750 โบราณของแม่ผม   กับ  6270    โลตัส 3990 ของเมียผม มันก็มีระบบหาโฟกัสนะครับ กดจิ๊กๆ รอมันล๊อคโฟกัสก่อนแล้วค่อยถ่าย จากคุณ : tamrong เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 08:21:53

ความคิดเห็นที่ 16 อันนี้ ของเมียครับ ซื้อมา 3990  ห้างดอกบัว จากคุณ : tamrong เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 08:22:13

ความคิดเห็นที่ 17 ลองดูกล้องมือถือ ของ nokia นะครับ nokia เป็นหัวแรงใหญ่ ในการผลักดันกล้องที่มี technology E-DOF เรียงลำดับคือ N73, N86, N97 ซึ่งไม่ใช้ E-DOF ขวาสุดคือ C7 ..(และคาดว่าจะใช้ใน E6, E7 และ X7) ในแง่ของผู้ผลิต .. E-DOF คือ เทพลงมาจุติ ขนาดกล้องเล็กลง จนสามารถสร้าง smart phone ที่บางแค่ 10mm ได้ ในขณะที่กล้อง AF ปกติ .. ต้องหนาร่วมๆ 14mm ระหว่างโทรศัพท์มือถือ ที่ลูกเล่นอย่างอื่นเหมือนกันหมด แต่ A) หนา 1" และมีกล้อง 4-5 ล้านพิกเซล ที่ต้องโฟกัสไปๆมาๆ กว่าจะถ่ายรูปได้ (ยิ่งแสงน้อย ยิ่งโฟกัสลำบาก) vs B) หนา 1/2" และมีกล้อง 8 ล้านพิกเซล ที่ไม่ต้องโฟกัส ยกขึ้นปุ๊บ ถ่ายได้ปั๊บ แถม vdo ไม่มีกระตุก ไม่ว่าจะถ่ายใกล้หรือถ่ายไกล .. ภาพไหลลื่น ใครเลือกมือถือ A ซึ่งราคาแพงกว่า มือถือ B มั่ง --------------- ขออภัย .. ภาพอยู่ที่ คห.29 ครับ แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 54 12:47:46 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 08:27:06

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณน้า tamrong ครับ ผมพูดเว่อร์ไปหน่อย (ไม่หน่อยหละ) ยังง่วงจากการโดนปลุกมาทำงานตอนตีสามไม่หายเลย .. แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 54 08:31:02 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 08:28:48

ความคิดเห็นที่ 19 จุดเด่นมากของกล้อง E-DoF  คือ - ราคาต้นทุน hardware ถูกลง (แหง๋หละ ไม่ต้องมีส่วนเคลื่อนไหวนี่นา) - อึดกว่า (ไม่ต้องเคลื่อนไหว ก็พังยากขึ้น) - ไม่ต้องกดสองจึ้ก(จึ๊กแรก เพื่อโฟกัส) .. มือใหม่ชอบนักหนา - ไม่ต้องกังวลว่า ระบบ AF จะล็อกเป้าผิด หรือ ไล่โฟกัสตามไม่ทัน .. มือใหม่ชอบสุดๆ - ไม่ต้องยิ้มค้าง .. เพราะทุกอย่าง ชัดหมด - สถานการณ์โหดร้ายต่อกล้องระบบ AF .. ระบบ E-DoF บอกว่าเป็นเรื่องไร้สาระ อย่างเช่น ถ่ายภาพที่ contrast ต่ำๆ (ท้องฟ้า, วิวที่มีหมอกจัด), ภาพเด็กเล่นวิ่งไปวิ่งมา, ภาพที่มีวัตถุใกล้ๆ บังวัตถุไกลตา (สองอันหลังนี่  dSLR ยังเต็มกลืน) - จุดเด่นสุดคือ สามารถถ่ายภาพ levitation ได้  เพราะมันไม่ต้อง AF จึงไม่มี shutter lag .. กดปุ๊บ ได้ภาพปั๊บ! มีจุดเด่น ก็ต้องมีจุดด้อย .. แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 54 09:03:28 แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 54 08:56:17 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 08:35:00

ความคิดเห็นที่ 20 จุดด้อย??? ต้องย้อนกลับไปกรรมวิธีการสร้างกล้อง Extended Depth of Field 1. ใช้เลนส์ asymmetrical .. เลนส์ตัวเดียว มีความยาวโฟกัสบริเวณต่างๆไม่เหมือนกัน โดยความยาวโฟกัสนั้น ขึ้นกับสีของแสง เพื่อให้โฟกัส  object ที่อยู่ต่างระยะ  ให้ลงมาจุดเดียวกันหมด ผลก็คือ ภาพเบลออิ๊บอ๋าย 2. ภาพเละ? แต่เมื่อเรารู้ล่วงหน้าว่า แสงสีนี้ ทำให้เลนส์พิสดารตัวนี้ มีความยาวโฟกัสเท่านี้ แสงสีนั้น ทำให้เลนส์เพี้ยนระดับเทพเลนส์นี้มีความยาวโฟกัสเท่านั้น เราก็สามารถเอา software มาแก้ไขความเพี้ยนนี้ได้ อย่าบอกว่า แก้ภาพด้วย s/w ... จะสู้ภาพที่ไม่ผ่าน s/w ได้เหรอ เพราะ Nikon .. แก้ความเละ(บางส่วน)ของภาพ ตั้งแต่ก่อนเป็น raw file ซะอีก! leica .. ทำเลนส์ ที่มีข้อมูลความเพี้ยนของเลนส์ฝังไว้ เพื่อส่งให้ s/w แก้ไข m4/3 .. แหะๆๆๆๆ ทำมันทั้งระบบ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 08:43:09

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณครับน้าแมว จากคุณ : raksapondet เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 08:49:38

ความคิดเห็นที่ 22 จุดด้อย ของ E-DoF คือ .. ระบบนี้ จงใจทำให้ภาพเละ และแก้ไขความเละนั้น โดย s/w เฉพาะ แก้อย่างไรก็ตาม ยังมีผลเสียหลงเหลือ - ภาพและสี ไม่สุดๆ เหมือนกล้องที่ใช้ AF - close-up .. ตอนนี้ เป็นไปไม่ได้ (ใกล้สุดได้แค่ราวๆ 30-40 ซม เท่านั้น) - แสงน้อยเมื่อไหร่ .. จบเห่เมื่อนั้น (แต่ใครหว่า ที่คาดหวังอะไรมากมาย จากกล้องติดมือถือ) จบดีกว่า ----------------- แก้ไขเพิ่มเติม @ 16:05น. ข่าวว่า Samsung Galaxy S-II สามารถทำ close-up ได้ถึง 15cm .. เกาหลี เดี๋ยวนี้ เก่งแฮะ แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 54 16:05:19 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 08:54:57

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบใจน้อง nipon91 ที่ทำให้ผมได้มีโอกาสปั่นกระทู้นี้ ขอบใจน้องนิธิศนันท์, น้องหมูครับ ที่ทำให้ผมเอ๊ะ และค้นข้อมูลละเอียดๆ เพิ่ม จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 08:58:25

ความคิดเห็นที่ 24 ผมว่ากล้องมือถือรุ่นใหม่ๆ น่าจะเป็นอย่างน้าแมวฯ ว่านะครับ อย่างมือถือตัวเก่าผม KU990 นี่โฟกัสจริง ได้ DOF (น่าจะจริง) สังเกตจากการกดปุ่มจังหวะแรก ได้ยินเสียงเลนส์เคลื่อนตัวชัดเจนเลย โดยเฉพาะถ่ายแบบมาโคร แต่มือถือตัวใหม่ผม ยี่ห้อเดียวกัน GD880 กดจังหวะแรก เงียบสนิท ทั้งถ่าย ไกล ถ่ายใกล้ ผมคิดว่า รุ่นใหม่ๆ น่าจะเป็นแบบที่น้าแมวฯ ว่า แต่ผมยังชอบแบบเก่ามากกว่า ภาพดีกว่า   ผมยังคิดอยู่ ว่ามันมี 2 แบบหรือเปล่า พอ น้าแมวฯ มาตั่งกระทู้ บอกนี่ ผมบรรเจิดเลย ขอบคุณครับ จากคุณ : E22QV เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 09:22:25

ความคิดเห็นที่ 25 เว็บเมืองนอก กำลังรบกัน (comment) มันส์หยดติ๋งๆ สงครามระหว่าง EDoF vs AF vs fixed-focus wide lens แต่ละอย่างมีข้อดีข้อเสียกันไป EDoF ในอนาคต รองรับเลนส์รูรับแสงกว้าง + เซนเซอร์ใหญ่, ให้ภาพชัดเจน พอควร->ดี ในสภาวะแสงมากทั่วไป, ใช้งานง่าย โดยเฉพาะการถ่าย vdo หรือ ภาพที่สิ่งสำคัญๆในภาพเคลื่อนไหวเร็ว AF จำกัดขนาด sensor, ใช้รูรับแสงกว้างมากไม่ได้ ได้ภาพชัดระดับ ดี->ดีมาก (แต่อย่าเอาไปเทียบกับกล้อง compact นะ), ใช้งานยาก (สำหรับมือใหม่ ที่ไม่เข้าใจการทำงานว่า AF มันมี 2 เสต็ป), vdo มีกระตุกง่าย, ถ่าย macro ได้ เรื่อง macro นี่ เป็นจุดอ่อนหนักๆของ EDoF ถ้าใครสงสัยว่า มันอะไรกันนักหนา จะเอากล้องมือถือไปถ่ายมาโครทำไม .. นึกถึง QR code ให้ดีๆครับ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 09:29:00

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณครับ จากคุณ : kengDD เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 09:49:24

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณครับน้าแมวเหมียว. ขอมาเก็บความรู้ครับ ^ ^ v จากคุณ : เขียนบน iPhone (aunmanus) เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 10:07:37

ความคิดเห็นที่ 28 จะเขียนว่าไงดี " แจ่ม แมว " อิอิ  มีความคิดที่ไปในทางเดียวกันครับน้าแมว  แต่ผมเขียนเรียบเรียงให้มนุษย์เข้าใจไม่ได้ ขอบคุณครับ  คุณภาพจริงๆ จากคุณ : krit190 เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 11:22:07

ความคิดเห็นที่ 29 ขนาดกล้อง ใน คห.17 เรียงตามลำดับคือ N73, N86, N97 และขวาสุด C7 .. 8 ล้านพิกเซล แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 54 12:49:58 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 12:47:04

ความคิดเห็นที่ 30 ว้าาาว ๆ ความรู้ใหม่ .... ขอบคุณครับ น้าแมว... จากคุณ : Advil เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 12:47:31

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณข้อมูลน้าแมวเหมียวฯ ครับ จากคุณ : jerry-t เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 13:18:28

ความคิดเห็นที่ 32 เข้ามารับความรู้ครับน้าแมว ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันครับ จากคุณ : far away from the north pole เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 14:14:29

ความคิดเห็นที่ 33  ขอบคุณ สำหรับการเปิดมุมมองใหม่คร้าบ  จากคุณ : KatsuyA_Aon เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 54 23:13:16

ความคิดเห็นที่ 34 (ไม่ใช่สาระสำคัญ แค่สงสัยนิดนึง) เหมือนมีคนเคยโพสต์ว่า N86 จากคุณ : killerG เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 54 07:51:43 A:182.255.9.38 X: TicketID:295993

ความคิดเห็นที่ 35 N86 ขนาด 2/3" N8 ขนาด 1/7" อ่ะครับ จากคุณ : killerG เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 54 07:52:15 A:182.255.9.38 X: TicketID:295993

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณมากๆ เลยครับ สำหรับสาระ ความรู้ อ่านแล้ว อยากกด love สักร้อยครั้ง ^^ จากคุณ : A r t F u l l Y เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 54 12:02:58

ความคิดเห็นที่ 37 เซฟ.... ขอบคุณน้าแมวจ้าาาาา จากคุณ : THE CUT เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 54 12:33:00

ความคิดเห็นที่ 38 EDOF ปรับระยะชัดลึกของภาพ (Extended depth of focus) ก็อย่างที่น้าแมวว่าไว้ (สรุปใน Rep 3,4 ) ซึ่งมักใช้ร่วมกับระบบ  Fixed Focus หรือที่ Nokia เรียกว่า Full focus ซึ่งเป็นการปรับความคมชัดอัตโนมัติ ข้อดีคือ มันจะทำให้เราไม่ต้องเลือกจุดโฟกัสเองเหมือนระบบ AF เพราะระบบจะคำนวณระยะโฟกัสและปรับความคมชัดอัตโนมัติให้มีความชัดทั่วทั้งภาพ ส่วนวิธีการก็ตาม Rep บนๆ เลย ข้อด้อยก็ตามที่ Rep บนๆ อีก คือไม่สามารถถ่ายในระยะไกล้เกินกว่าที่ผู้ผลิตกำหนด ( ให้ดูตามคู่มือกล้องเลย ปัจจุบันไกล้สุดอยู่ที่ 30 Cm ) เหตุผลที่ Nokia เลือกใช้ระบบ Fixed Focus/Full Focus แทน Auto Focus นั้นเป็นดังรายละเอียดด้านล่างนี้ " ว่าแล้วผู้เชี่ยวชาญด้านกล้องถ่ายภาพประำจำ Nokia นาม Mr.Damian Dinning ยอมรับว่า Fixed Focus ต้นทุนการผลิตต่ำ ไม่มีชิ้นส่วนเคลื่อนไหว นั้นเป็นความจริงที่สุด แต่ไม่อยากให้หลายคนคิดว่ากล้องแบบ Fixed Focus จะมีเทคโนโลยีต่ำชั้นกว่า Auto Focus เพราะ Nokia ได้คิดค้นและวิจัยกล้อง Full Focus ของตนด้วยเทคโนโลยีถึงระดับจุลทรรศน์ Electron ซับซ้อนยิ่งกว่า Auto Focus เสียอีก ยิ่งนับวันมือถือยิ่งมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ Nokia คิดว่าการใช้กล้อง Full Focus นอกจากใช้เนื้อที่น้อยลงแล้วยังช่วยให้ผู้ใช้ถ่ายรูปได้อย่างรวดเร็วขึ้น Nokia จึงพัฒนา Full Focus ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคดังนี้ ระยะรัศมีระยะชัดระยะตั้งแต่ 50 เซนติเมตรจนถึงไม่มีที่สิ้ินสุด, บันทึกภาพรวดเร็วไม่ต้องรอ ( Nokia N8 ยังต้องรอการประมวลผล), ทุกวัตถุที่อยู่ในรัศมีก็จะปรับความชัดให้เท่าเทียมกันหมด ไม่มีการเบลอหน้าและเบลอหลัง ที่สำคัญโมดูลกล้องมีขนาดเล็กมาก " ส่วนมือถือค่ายอื่นๆ อย่าง iPhone , Samsung , SE ฯลฯ นั้น ผมว่าเป็นระบบ AF นะครับ ซึ่งต่างจาก Nokia ( บางรุ่น โดยเฉพาะรุ่นใหม่ๆ ) จะเป็นระบบ Full Focus ครับ  แต่การที่กล้องมือถือ/ดิจิตอล ไม่สามารถถ่ายให้หน้าชัด-หลังเบลอได้ เพราะขนาดเซ็นเซอร์ รูรับแสงกับfocal length ของเลนส์อย่างที่ว่าไว้ครับ จากคุณ : Cho_shang เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 54 12:33:22

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณครับ หมอแมว จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 54 12:41:36

ความคิดเห็นที่ 41 เทคโนโลยี EDoF ก้่่าวล้ำหน้่ากว่า AF แต่คุณภาพรูป .. แย่กว่าครับ เหมือน digital zoom หรือ f/w ฝังในเลนส์เพื่อแก้ความเพี้ยนของเลนส์นั่นแหละครับ แย่กว่ามากไหม?? ก็ตอบว่าไม่ .. เพราะภาพจากมือถือ ส่วนใหญ่ ใช้ up ขึ้น fb, แจกจ่ายกันเพื่อดูเนื้อหา (content) มากกว่าดูรายละเอียด, พิมพ์เป็นภาพขนาดไม่เกิน 6"x8" ฯลฯ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 54 14:58:45

ความคิดเห็นที่ 42 สุดยอดความรู้อีกแล้วครับ จากคุณ : tump เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 54 15:09:09

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณครับ จากคุณ : sanfu2010 เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 54 15:35:11

ความคิดเห็นที่ 44 ความรู้ล้วนๆเลยครับ...ขอบคุณครับ จากคุณ : เป้ว_จีที เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 54 15:38:24

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณครับผมสำหรับความรู้ จากคุณ : ItrusYOU เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 54 16:57:23

ความคิดเห็นที่ 46 อืม ขอบคุณครับ จากคุณ : เพียงแค่ดินโคลน เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 54 16:59:11

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณน้าแมว และเป็นเกียรติอย่างมากเลยครับ ที่แตกประเด็นกระทู้ผม ให้ได้กระจ่างขึ้น ขอบคุณครับ ^_^ จากคุณ : nipon91 เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 54 20:39:02

ความคิดเห็นที่ 48 อยากจดลิขสิทธิ์มั่ง ทำไงดี ผมก็มีไอเดียอยู่นะครับ แต่กรมทรัพน์สินทางปัญญาเค้าบอกว่าต้องมีสิ่งประดิษฐ์ด้วย งงเลย ไม่เคยทำ -*- จากคุณ : อาร์ตตี้ (อย่าร้องไห้น้า) เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 54 21:44:19

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณสำหรับข้อมูลและความรู้ใหม่ๆครับ.. จากคุณ : ป๊าตัว art (แม่ยู้-ลูกหมูนะโม) เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 54 22:58:32

ความคิดเห็นที่ 50 iPhone นี่เป็น EDOF รึเปล่าครับ มันโฟกัสได้ไม่ถึง 10 เซนเลยนะครับ ก่อนหน้านี้ผมใช้ K750i ยอมรับว่า ยอดเยี่ยมมากๆ ยังประทับใจจนวันนี้ เคยได้ยินว่า AF ขยับชิ้นเลนส์ด้วยแม่เหล็ก อะไรประมาณนั้น ไม่รู้จริงรึเปล่า สรุปว่าตอนนี้มันมี 3 แบบใช่มั้ยครับ คือ Fixed Focus, Auto Focus, EDOF ? 2 อันแรกพอ เข้าใจ แต่ EDOF ทำงานยังไง ยังไม่เข้าใจครับ S/W จะช่วยทำให้ภาพชัดได้ยังไงครับ รบกวนน้าแมวอธิบายอีกหน่อยนะครับ - -'' เกี่ยวกับ image processing มั้ยครับ รึว่าไม่เกี่ยวเลย จากคุณ : Teerarod เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 00:25:37

ความคิดเห็นที่ 51 image processing ล้วนๆเลยครับ หลักการทำงาน?? .. คห.20 ครับ ระบบ EDoF ใช้เลนส์พิสดาร ที่ในตัวเดียว มีความยาวโฟกัสไม่เท่ากัน ความยาวโฟกัส ขึ้นกับสีของแสง และมุมตกกระทบ โดยทั่วไป เซนเซอร์ต้องอยู่ห่างจากเลนส์ เท่ากับความยาวโฟกัสของเลนส์ เลนส์จะต้องรวมแสงทั้งเจ็ดสี ให้ตกลงผิวเซนเซอร์ พอดีเป๊ะๆทุกสี ถ้าเลนส์ตัวนั้น รวมแสงสีแดงลงข้างหลัง รวมแสงสีน้ำเงินอยู่ข้างหน้า ฯลฯ ภาพก็ออกมาเละตุ้มเป๊ะ เพราะมันมั่วซั่ว แต่เมื่อเรา รู้ล่วงหน้า ว่า ความเละตุ้มเป๊ะ มันมีมากน้อยแค่ไหน เราสามารถ'ชดเชย' ได้ อย่างเช่น แสงสีแดง ที่เข้ามาตรงกลางเลนส์ ได้โฟกัสเป๊ะๆพอดี จุดแสงมีขนาด 1.00mm แต่ที่เข้ามาจากตรงริม เบลอระดับหนึ่ง เพราะเข้ามาจากขอบเลนส์ ซึ่งความยาวโฟกัสของเลนส์ตรงขอบ ไม่เท่ากับความยาวโฟกัสของเลนส์ตรงกลาง จุดแสงมีขนาด 1.10mm เราได้ึความแตกต่างของจุดแสง = 1.10 - 1.00 = 0.10mm แต่แสงสีน้ำเงิน ที่มาแบบนี้ มีขนาดจุดแสง 1.05 และ 0.95mm ตามลำดับ ความแตกต่าง = -0.10 คำนวน บวกลบคูณหาร .. พยากรณ์ได้ว่า สีเขียว ควรมีขนาด 1.00mm และ 1.00mm ปรากฏว่าจริงๆแล้วไม่ใช่  แต่เป็นหมอมุกโดนแพะชนบาดเจ็บสาหัสปางตาย เอ๊ย เป็น 0.90 และ 0.90 ทั้งคู่ .. อะไรซักอย่างต้องเก๊แน่ๆ ตำรวจที่ซื่อสัตย์ หรือ software ที่ฉลาดๆ ก็สามารถคำนวนหาข้อมูล และความจริงออกมาได้ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 07:01:36

ความคิดเห็นที่ 52 ยัง งง ๆ แต่พอเข้าใจบ้าง ได้ความรู้มากๆ ครับ ขอบคุณน้าแมวมากครับ จากคุณ : เจ้าหญิงขี้วีนกับตาตี๋จอมแสบ เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 08:22:35

ความคิดเห็นที่ 53 เยี่ยมมากครับน้าแมว สมควรได้เป็นพ่อตาในอนาคตดีเด่นของผมเลย..... เจร้ยยยยย ขอใส่เสื้อกันกระสุนก่อนนนน จากคุณ : Mr.KiNg เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 14:38:59

ความคิดเห็นที่ 54 ขอบพระคุณมากครับน้าแมวเหมียว จากคุณ : Hinkong เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 14:43:08

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณครับน้าแมวฯ คห.51 เข้าใจอุปมาอุปมัย 555 จากคุณ : jynx เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 17:56:41

ความคิดเห็นที่ 56 Galaxy S ของผม เวลาแตะจอเลือกจุดโฟกัสมันก็ AF วื้บๆให้เห็นเลยนะครับ ภาพรวมๆก็จะขยับเข้าออก เหมือนกล้องคอมแพคเลยครับ แต่ไม่มีเสียงอะไรขยับนะ ไม่รู้ AF ทำงานยังไง แอบมองในกล้องก็ไม่มีอะไรขยับ ที่แน่ๆมันมีโหมด macro ด้วย ถ้าถ่ายมาโคร ก็ทำหน้าชัดหลังเบลอได้ระดับนึงครับ ขนาดตัวมือถือก็ถือว่าไม่หนานะครับ บางพอๆกับ iphone นั่นแหละ จริืงๆเรื่องการลดขนาดของมือถือ ผมว่าเป็นแค่ข้ออ้างจะลดต้นทุนอย่างเดียวเลยครับ เพราะยังไงสมัยนี้การใช้ S/W ช่วยก็ง่ายกว่า Mechanical อยู่แล้ว ในวงการกล้องก็เห็นกันอยู่ชัดๆ ^__^" ถ้าให้ผมสรุป จะซื้อมือถือเน้นกล้องตอนนี้ ผมคงเอาที่มี AF ไว้ก่อน จากคุณ : eMiLe เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 11:51:29

ความคิดเห็นที่ 57 เข้ามาเก็บความรู้ครับ จากคุณ : illusionik เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 12:11:54

ความคิดเห็นที่ 58 ...อ่านจนจบ ...ขอบคุณน้าแมว ครับ จากคุณ : แสบสันต์ หมายเลข 8 เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 18:47:24

ความคิดเห็นที่ 59 ผมใช้ BenQ-Siemens S88 ตัวนี้ตอนถ่ายเลนส์ขยับอย่างเห็นได้ชัดครับ ภาพถ่ายผมว่าดีกว่ามือถือในยุคนี้หลายๆตัวแน่นอนครับ จากคุณ : ConFlict เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 20:15:27

ความคิดเห็นที่ 60 ขอบคุณทุกความเห็นครับ EDoF มันไม่ใช่แค่ลดต้นทุน แต่ยังตอบสนองต่อ 'เสียงเรียกร้อง' ของคนใช้ อยากได้กล้องที่ "ใช้ง่ายๆ" AF ง่ายก็จริง แต่มันมี 2 จังหวะ .. คนไม่เคยชิน จะได้ภาพชัดกริ๊บๆ + ภาพเบลอสุดๆ หรือ ไม่ได้ภาพ (เพราะ AF ไม่ล็อค กล้องเลยไม่เก็บภาพ) แต่ EDoF จะได้ภาพแน่นอน ไม่สวยจัด ไม่คมเลิศ แต่ได้ภาพแน่นอน ยกปุ๊บ กดปั๊บ ได้ภาพเป๊ะ เหมือนกันกล้อง compact สมัยฟิล์มที่คำขวัญคือ "You just press shutter, we do the rest" จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 08:41:17

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณครับ อ่านจบนึกถึงเทคโนโลยี่ใหม่  ถ่ายไว้ก่อน Focus ทีหลังเลยยยยย หลักการคล้าย ๆ กันไหมน๊า ??   http://www.engadget.com/2011/06/22/light-field-camera-captures-unprecedented-images-lets-you-cho/ จากคุณ : ดอกธูป เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 14:58:00