ความคิดเห็นที่ 1 ปกติ........ เส้นโค้งสองเส้น ในภาพ ผมไม่เคยเห้น บนกระจกด้านหน้า ส่วนใหญ่ น่าจะเป็น เส้น ฮีทเตอร์ ละลายหมอก บนกระจกหลังรถ นะครับ ไม่ใช่กระจกหน้ารถ แน่นอน จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 21:40:19

ความคิดเห็นที่ 2 เงาสะท้อนคอนโซลมั้ง แต่ ยืนขวางแบบนั้น ชนไป ก็ติดท้ายรถด้านหลัง ไม่ก็อัดเละครึ่งตัวล่างแน่ ๆ ไม่ใชสมองบวมหรอก แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 54 21:50:03 จากคุณ : SRJ เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 21:48:49

ความคิดเห็นที่ 3 ปกติ ถ้าไม่เปิดไฟในห้องโดยสาร ผมว่า เกิดเงาสะท้อน แทบจะไม่มีนะครับ ยกเว้นกลางวัน.. แต่คนขับรถกลางคืน มีใครคิด จะเปิดไฟห้องโดยสารบ้าง ยิ่งถ้ายกกล้องขึ้นถ่ายเนี่ย ย่อมไม่ให้คนถูกถ่ายรู้ตัวแนอน... ถ้าเป็นแสงแฟล็ช ยิ่งเป้นไปไม่ได้ แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 54 21:53:55 จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 21:51:42

ความคิดเห็นที่ 4 สะท้อนแฟลชพอได้อยู่ครับ แต่ แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 54 23:06:02 จากคุณ : b_thongyam เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 21:55:25

ความคิดเห็นที่ 5 เงาสะท้อน นั่น มัน ช่องเก็บของ ของรถนิสสัน หรือเปล่าครับ จากคุณ : Bonzai Pix เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 22:04:37

ความคิดเห็นที่ 6 เอาหลักฐานมาอย่างนี้ยิ่งมัดแน่น เฮ้อ เอามาเลย ถ่ายในระยะประชิดขนาดนี้แสดงว่ารู้ชัดว่าคนอยู่ตรงไหน ไม่เจตนาจะชนกระเด็นไกลจนบาดเจ็บสาหัสได้ไง จากคุณ : ZtahC เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 22:09:40

ความคิดเห็นที่ 7 เพราะภาพมัว ผมคงวิเคราะห์แบบมัว ๆ หน้าตา ใกล้เคียงภาพหมอมุก ที่ได้เห็นจาก TV ช่อง 3 ขณะเป็นหมอฝังเข็มที่สามจังหวัดขายแดนใต้ คงต้องดูองค์ประกอบอื่นด้วย เช่น - รถคันที่อยู่หลังคนชุดดำ เอ่ย ! ของคนในภาพ เป็นรถใคร รถหมอมุกจริงหรือ ? - รถคันที่เห็นเพียงท้ายรถต้องจอดห่างจากฟุตบาทออกมามาก เพราะ... ด้านซ้ายของภาพ หรือด้านขวาของคนในภาพต้องเป็นเสาไฟฟ้าเพราะมีป้ายหาเสียง ตามที่แม่หมอมุกให้การว่ารถหมอมุกจอดซ้อนคัน ก่อนที่จะเข้าไปในบ้าน คดีนี้ผมมั่นใจว่า แต่ละฝ่ายยังพูดความจริงไม่หมด   จะพุ่งชน หรืกระโดดใส่ผมคงไม่วิเคราะห์ หวังอย่างเดียวคืออยากให้หมอมุกหายป่วย จะได้กลับไปเป็นหมออาสาช่วยเหลือประชาชนที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ตามที่เธอตั้งปณิธานไว้ จากคุณ : Heron เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 22:26:56

ความคิดเห็นที่ 8 ดูจากภาพแล้ว มุมภาพ ถ่ายจากฝั่ง คนขับ แน่นอน เช็คจาก รูป ว่าถ่ายจาก โทรศัพท์ ว่าถ่ายเครื่องไหน เจ้าของคือใคร น่าจะเป็น คนขับรถชนคุณหมอ จากคุณ : ek_ เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 22:37:43

ความคิดเห็นที่ 9 มีการเจอหน้ากันทั้ง 2 ฝ่าย  ภาพหมอกอดอกดูท่าทางไม่พอใจ  ถ่ายจากคนขับ  กระจกด้านหน้าก้านปัดน้ำฝนหน้า ไม่ได้ติดฟิลม์หน้ารถ  มีเงาสะท้อนคอนโซนหน้า   แนวรถหันหัวตรงรถคันหน้า  อาจจะต้องมีการถอยรถ 1 จังหวะ  จังหวะรถถอยออก หมอต้องไม่ได้ยืนอยู่ตำแหน่งนั้น อืม.... ภาพนี้ช่วยฝ่ายจำเลยได้พอสมควร งี้ก็พูดความจริงไม่หมดทั้ง 2 ฝ่ายดิ จากคุณ : PiGsPy เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 22:53:39

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้ายืนอย่างนี้ตอนโดนชน ช่วงล่างเละ หน้ารถพัง หลังรถที่อยู่หลังคนยืนพัง แล้วขนาดถ่ายภาพได้แล้วยังชน แสดงว่าเจตนาฆ่าแน่นอน เพราะว่ากว่าจะหยิบกล้องขึ้นมา กว่าจะเล็งถ่าย ถึงแม้จะไม่ใช่คนขับถ่าย มีเวลาเป็นนาทีที่จะสามารถหยุดรถได้ บาปกรรมมีจริง โชว์หลักฐานมัดตัวเองได้ จากคุณ : เอริค กองตรงหน้า เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 22:53:48

ความคิดเห็นที่ 11 เอาง่ายๆ ตรงๆ หยาบๆ "ไม่ได้แดกหญ้านะโว้ย!!!" จากคุณ : มะจิ๋ว เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 23:00:52

ความคิดเห็นที่ 12 สมัยนี้โหดจังแค่เรื่องที่จอดรถเอง กลายเป็นเรื่องใหญ่เลย คนเรามีสติน่าจะเอามาหัดใช้กันมั้งจะได้เกิดประโยชน์ จากคุณ : Guview เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 00:49:14

ความคิดเห็นที่ 13 ลองคิดว่าเป็นตัวท่านดูบ้างนะครับ คนที่ขับรถพุ่งชนท่านหรือญาติของท่าน ไปจอดรถขวางหน้าบ้านท่านก่อน พอท่านไปตามให้เลื่อนรถเขาก็มาเขียนด่าท่านอีกที่หน้ากระจกรถ แล้วยังถ่ายรูปท่านไว้อีก ซึ่งมีการยิงแฟลชใส่ด้วยหรือจะเปิดไฟในรถไว้ให้เจ้าตัวรู้ตัวว่าถูกถ่ายรูปไว้ก็ตาม เหมือนต้องการจะยั่วยุท่านหรือไม่ ไปคิดกันเอาเอง ว่าถ้าเป็นท่าน ท่านจะโกรธมั๊ยครับ และสุดท้าย ไม่ว่าจะเกิดจากการที่หมอมุกขยับตัวออมาขวางทางเดินรถไว้ เพราะต้องการจะคุยด้วยหรืออย่างไรก็ตาม ถือว่าสำเร็จวัตถุประสงค์ของผู้ยั่วยุ  หรือแม้แต่ถ้าคุณหมอไม่ได้ขวางรถไว้จริง แต่ผู้ขับเจตนาขับรถไปพุ่งชนใส่หมอมุกด้วยตัวเอง ผู้ขับก็ผิดเต็มประตูทุกกรณี ไม่เห็นจะมีแง่มุมไหนที่จะมาดิสเครดิตคุณหมอมุกได้เลยครับ แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 54 01:15:22 แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 54 01:14:40 จากคุณ : ลุงเบิร์ก เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 01:14:11

ความคิดเห็นที่ 14 ทางข้างหน้ามันไปไม่ได้นี่ครับ ยังไงก็ต้องถอยหรืเลี้ยวออกด้านขวา จะเรียกว่ายืนขวางคงจะแปลกๆ จากคุณ : ต้านชิง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 01:33:04

ความคิดเห็นที่ 15 สงสัยน่ะครับ 1. ภาพจากกล้องมือถือมันมีสัดส่วนภาพเป็นเท่าไหร่ครับ. 4/3, 3/2 ? เพราะดูจากในรูป น่าจะมีการ crop มาด้วย สงสัยว่าอะไรที่ถูก crop ออกไปบ้าง จากคุณ : fishbasket เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 02:10:00

ความคิดเห็นที่ 16 คิดว่าเส้น ที่เห็นคือ สะท้อน จาก  กายภาพของ คอนโซล นะ รูปนี้ถ่ายตอนที่ รถคันหน้ายังไม่ได้เลื่อน ใช่ไหมครับ ? แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 54 03:26:08 จากคุณ : Advil เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 03:20:24

ความคิดเห็นที่ 17 กล้องนี้เยี่ยมครับ ถ่ายจากระยะ 20-30 เมตร ยังได้ภาพที่ชัดเจน ไม่มีแตกวุ้น ทั้งๆเร่ง ISO ขึ้นไปมหาศาล เก็บรายละเอียดได้ครบถ้วน แม้กระทั่งรอยเว้าของกล้ามเนื้อที่แขนขวา ทั้งยังเก็บรายละเอียดของป้ายผู้สมัครมาจนครบ เห็นหมายเลขชัดเจน รวมทั้งคนถ่าย ยังเทพสุดๆ .. มือไม่มีสั่นแม้แต่น้อย ทั้งๆ ที่กำลังขับรถอยู่ด้วยซ้ำ แต่ .. กล้องยังไม่ค่อยเทพสุดๆ เพราะดันเกิด high light burn out ที่ป้ายทะเบียนรถที่หมอมุกยืนบังได้ ทั้งๆที่แสงมีไม่พอ อ้อ .. ขอวิจารณ์นอกเรื่องนิดนึง .. ไม่เกี่ยวกับกล้อง หมอมุก ถึงจะนิยมแต่งชุดทหาร แต่ไม่แต่งเสื้อคอวีอย่างนั้น ไป รพ.วิชัยยุทธหรอก เธอรู้ว่า อะไรควร อะไรไม่ควร จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 06:50:58

ความคิดเห็นที่ 18 แล้วหมอมุก ไม่มีรัยทำหรือ ถึงไปยืนท้ายรถ เฝ้ามองรถคู่กรณีวิ่งมาชน???? แถมรู้ด้วยนะว่า เป็นคันนี้แหละ ที่อ้อมรถกลับมาเพื่อชน??? ไม่สนใจรถคันอื่นๆ ที่วิ่งไปวิ่งมา อีกเป็นสิบคัน (โปรดดูภาพ CCTV ที่มีเกลื่อนเน็ต) จำลองภาพ .. ถ่ายตอนกลางวันด้วย ISO 1600, -3EV เพื่อให้เหมือนถ่ายกลางคืน กล้องคอมแพ็คธรรมดา เปิดมาแล้ว ไม่ได้ปรับกล้อง ใช้โหมด auto, เลนส์ 28mm มาตรฐาน (อืมม์ หรือ คนชน มีเวลาปรับกล้อง????) ระยะห่าง 10 เมตร , ใช้ความเร็ว 10 กม/ชม เพราะ ความเร็ว 20 กม/ชม ... ถ่ายไม่ทัน จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 08:01:37

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้าท่านทดสอบเอง .. ขอบอกว่า หากอยู่ในรถ การถ่ายที่ 28mm ไม่ว่าอย่างไรก็ตามที จะติด console เสมอ แต่ถ้าซูมไปที่ 80mm .. จะไม่ติด หรือ ยอมปล่อยมือจากพวงมาลัย เอากล้องไปแนบกระจก ห่างไม่เกิน 5" - 6" ถึงจะไม่ติด console จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 08:06:07

ความคิดเห็นที่ 20 ทำไมถึง '10 เมตร' จากที่ระยะห่างสิบเมตร .. ภาพที่ crop แล้ว .. จะได้แบบนี้ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 08:06:45

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้าระยะห่างสิบเมตร และถ่ายติดแสงไฟในบ้าน มันต้องไปถ่ายจากถนน ฝั่งตรงข้าม จากรถ .. จะเห็นได้ว่า มุมมันอับ .. ไม่ติดแสงไฟในบ้าน ถ้าถ่ายจากระยะห่างราวๆ 20 เมตร?? .. ภาพจากระยะ 20 เมตร .. จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 08:10:03

ความคิดเห็นที่ 22 ภาพที่ crop จากระยะ 20 เมตร .. จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 08:11:33

ความคิดเห็นที่ 23 ขยายใหญ่ ให้เท่าภาพในหัวกระทู้ โดย resize 4 หน พร้อมทั้ง smooth และ ดึง curve เพื่อให้ภาพชัด จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 08:14:42

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้าไม่แต่งภาพ .. เอาที่ crop มาขยายพรวดเดียวให้ขนาดใหญ่เท่าภาพในกระทู้  .. จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 08:15:52

ความคิดเห็นที่ 25 ภาพทุกภาพของผม .. จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะถ่ายจาก 10 เมตร หรือ 20 เมตร หากถ่ายจากบนถนน มันจะติดภาพป้ายหาเสียงของเบอร์ 1 มาทั้งนั้น ถ้าจะไม่ให้ติด .. ต้องถ่ายจากถนนฝั่งตรงข้ามเท่านั้น .. แต่ ก็จะไม่เห็นแสงไฟในบ้านหมอมุก จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 08:18:10

ความคิดเห็นที่ 26 โปรดสังเกตุ .. ป้ายหาเสียงของ #29 .. ตำแหน่งนั้น อยู่เลยจุดกลับรถมาหน่อยนึง ห่างจากบ้านหมอมุกราวๆ 30 เมตร จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 08:21:21

ความคิดเห็นที่ 27 มุมภาพจากตำแหน่งระยะ 30 เมตร .. บริเวณกลับรถ ด้วยมุมรับภาพของเลนส์ 28mm .. จะเห็นได้ว่า ทำอย่างไรก็ตามที มันติด console มาด้วย แต่ .. console จะอยู่ล่างภาพเสมอ ไม่มีทางเข้าไปอยู่ในภาพได้เลย แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 54 08:23:44 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 08:22:35

ความคิดเห็นที่ 28 จบการวิเคราะห์แบบสีข้างเข้าถู ความมั่วเป็นหลัก วิชาการมีน้อย แต่เพียงเท่านี้ .. บอกแล้วบอกอีก ไม่เชื่อกันนี่นาว่า กฏหมายหนะ .. เป็น "ของศักดิ์สิทธิ" จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 08:25:25

ความคิดเห็นที่ 29 เส้นๆนั่น   น่าจะเป็น แสงสะท้อนกับ console รถ  ไปฉายบนกระจกรถครับ   ไม่รู้ว่าแสงไฟส่องถนน หรือไฟหน้ารถ หรือ flash highlight burn  ที่ป้ายทะเบียน  เกิดจากไฟหน้ารถ ไปยิงเข้าสะท้อนกับทะเบียนครับ แต่เรื่องอื่นๆ ไม่รู้ครับ     คอนโซลหน้าของ Sunny neo  มี จากคุณ : tamrong เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 08:45:56

ความคิดเห็นที่ 30 โดนเต็มๆ เลยครับน้าแมว จากคุณ : เนตร (ohhayo) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 08:50:27

ความคิดเห็นที่ 31 น้า tamrong .. ถ้าโดนแค่แสงไฟหน้ารถ ยังเกิด burnout ได้ขนาดนี้ burn จนเลขทะเบียนหายหมด??? ก็ให้แปลกใจยิ่งนัก เพราะผมลองถ่ายโดยกดแฟลชเข้าไปตรงๆ แถมแฟลชตั้งแรงไฟไว้ที่ +1 stop ตัวป้าย burn แต่ตัวเลข .. ยังอยู่เหมือนเดิม จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 08:54:54

ความคิดเห็นที่ 32 ผมก็ไม่สามารถจะฟันธงอะไรได้เหมือนกันครับ เพราะผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จริง   ก็แค่ให้ข้อมูล ว่า น่าจะ  น่าจะ  ตามที่ตาเห็น และคิด ครับ  แฮ่ๆ จากคุณ : tamrong เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 09:13:37

ความคิดเห็นที่ 33 ตัวอย่างครับ เปิดแฟลช +2 EV .. จะเห็นว่าในขณะที่ส่วนพื้นของป้ายทะเบียนมัน burnout หมด ตัวเลขยังคงอยู่ชัดเจน แสงแฟลช อยู่ห่างจากทะเบียนแค่ 2 ฟุต .. ฉะนั้น ไม่มีทางที่จะบอกว่า แสงแฟลชแรงไม่พอ ปล. ขอฟามกรุณา .. "อย่าบอกว่ารถสกปรก" แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 54 09:17:59 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 09:16:13

ความคิดเห็นที่ 34 สิ่งที่หลายๆคนไม่รู้คือ (รวมทั้งคน PS ภาพในกระทู้) ป้ายทะเบียนรถยนต์ .. ไม่ใช่ป้ายธรรมดาๆทั่วไป ตัวพื้น ถูกออกแบบให้สะท้อนแสงได้ดีมากๆ เป็นผิวสะท้อนแสงด้วยซ้ำ เพื่อให้เวลาโดนแสงไฟตอนกลางคืน จะได้เห็นชัดๆว่า เป็นป้ายทะเบียนรถ ทั้งนี้ ทั้งนั้น เพื่อความปลอดภัย ในขณะที่สีตวเลข เป็นสีพิเศษ ที่มีการสะท้อนแสงต่ำมาก ไม่สะท้อนแสง แม้เมื่อโดนแสงแรงๆจากดวงอาทิตย์ตอนกลางวันเปรี้ยงๆๆๆๆๆๆ ทั้งนี้ทั้งนั้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ และคนทั่วไป สามารถมองเห็นได้โดยง่าย ป้องกันผู้กระทำผิดกฏหมายอ้างว่า พยาน หรือ เจ้าหน้าที่ มองไม่เห็นเลขทะเบียน คนทำ PS .. ไม่รู้เรื่องนี้แหง๋ๆ คนที่สงสัยในความเห็นผม ลองเอากล้อง + แฟลช ไปลองถ่ายได้ ไม่ว่ากลางวัน หรือ กลางคืน ไม่ว่าแสงแฟลช หรือ แสงไฟซีนอน 100w หรือ แสงสปอตต์ไลท์ มันไม่มีทางทำให้ตัวเลข ถูก burnout ไปได้ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 09:18:35

ความคิดเห็นที่ 35 เอาไปอีกรูปอ่ะัครับ  ไปเจอมาจากในหว้ากอ คนถ่ายน่าจะถ่ายจากเบาะหลังตรงกลาง และเปิด  flash มั้งครับ exif  E420  นี่  น่าจะมาจากเอากล้อง E420  ไปถ่ายภาพที่เค้า print มามั้งครับ แต่เรื่อง หมอตัวจริงหรือไม่  รถคันจริงหรือไม่  ทะเบียนโดนตัดต่อ หรือสะท้อนแสง  ผมก็ไม่รู้ครับ  แค่เอารูปเต็มมาให้ดูเฉยๆ  แฮ่ๆ แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 54 09:34:19 จากคุณ : tamrong เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 09:31:04

ความคิดเห็นที่ 36 ภาพไม่ค่อยจะเนียนเท่าไหร่ ขอตำหนิน้องที่ทำ PS ภาพจริงๆ .. ฝีมือตกไปเยอะ ดูในวงแดง .. แสงสะท้อนจากทับทิมไฟเลี้ยว ควรลบให้หมด ไม่ควรปล่อยให้แสงสะท้อนจากรถที่ห่างไปร่วมๆ สิบเมตร สะท้อนมาถึงหน้าฝากระโปรงรถคันที่ชน และในกรอบเขียวๆ ทำไมน้องไม่ลบแสงไฟออก? เพราะนั่นมันฟ้องว่า ภาพนี้ มันสั่นมาก ภาพสั่นๆ จะไม่เห็นหน้าเห็นตาหมอมุกชัดเจนขนาดนี้หรอก คอนโซลในรถเหมือนกัน ต้องแต่งภาพให้ดีกว่านี้ เพราะแสงไฟบนเพดาน มันไม่สว่างมากมายจนเห็นคอนโซลค่อนข้างชัดเจน และสีต้องออกส้มๆหน่อย ไม่ใช่สีขาว เพราะเป็นแสงไฟ 2800K WB ต้องดีกว่านี้ เพราะแสงไฟหน้ารถ ก็ 2800K เช่นกัน ผิวหมอมุกตอนก่อนเกิดอุบัติเหตุ .. ขาวจั๊ว โดนแสงไฟ 2800K เข้า จะออกส้มๆแดงๆ ไม่ใช่คล้ำเหมือนตอนอยู่ 3 จังหวัดชายแดน เมื่อหกเดือนที่แล้ว สุดท้าย หมอมุก ไม่ชอบใส่กางเกง .. เอ่อ .. มันโชว์ นน.80++ รู้จักกันมาเป็นปี .. บางครั้งแทบจะเรียกว่า ไปไหนมาไหนด้วยกันจนหัวชนกัน ยังไม่เคยเห็นหมอมุกใส่กางเกงเลย .. จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 09:51:51

ความคิดเห็นที่ 37 ภาพ ... จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 09:52:21

ความคิดเห็นที่ 38 น้าแมว สรุป เสร็จ สรรพครับ.... ดูแล้ว ก็ไม่จะเป็นภาพถ่ายจริง (ความเชื่อส่วนบุคคลครับ) หวังว่าสื่อ คงเข้ามาเก็บข้อมูลนี้ไปวิเคราะห์ นะครับ จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 10:25:20

ความคิดเห็นที่ 39 เอาไปแต่งใน acdc แล้วมารอบนึงใช่ไหมครับตามรูปแนบ V V V จากคุณ : geno_nr เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 10:26:42

ความคิดเห็นที่ 40 คคห  39   acdsee  นั่น ผมใช้ขยายภาพอ่ะครับ เหอๆ ต้นฉบับจริงๆ   คือ กระดาษ print out   ที่นายพันเอก เค้าถือไปโชว์ที่โรงพักครับ E420  ผมเดาว่าคือกล้องที่นักข่าว  ไปถ่าย copy ภาพจากกระดาษ  print out ของ พ.อ. นั่นมา ภาพที่ลงในหว้ากอ  ถูกย่อมาลงด้วย  photoscape และผมไปเซฟภาพจากหว้ากอ  แล้วขยายภาพเป็น 2 เืท่า ด้วย acdsee  ครับ จากคุณ : tamrong เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 10:31:07

ความคิดเห็นที่ 41 ถ้าใช่ก็ไม่ใช่มุมที่ชนอยู่ดีนะครับ เพราะมุมนี้น่าจะกระเด็นโดนรถคันหน้า ภาพนี่ถ้าจะเป็นไปได้ก็ตอนก่อนที่จะย้ายรถมากกว่า คือหมอมุกอาจจะมา ยืนดูคนชนย้ายรถ พอย้ายรถไปแล้วก็เตรียมตัวจะเอารถตัวเองเข้าบ้าน ในขณะนั้นคนชนก็ไปกลับรถมาแล้วมาหยุดรถรอจังหวะชน (คาดเดา) จากคุณ : หัสดี เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 10:33:01

ความคิดเห็นที่ 42 เออ ผมสงสัยเค้าจะเอามาทำไมเหรอครับ รูปถ่ายหมอมุก  มันก็แค่ ภาพในเหตุการณ์ช่วงนึง  มันจะบอกอะไรได้เหรอครับ เห็นบอกก่อนหน้านั้นมีการโต้เถียงกันนิ   แต่ในคลิป  มีรถไปจอดอีกฝั่งแล้วกลับรถไปที่หมอมุก   แล้วเหตุการณ์ในรูปมันช๊อตไหนเหรอครับ  โต้เถียงกันครั้งแรก หรือ ครั้งที่สองที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ หัวกระแทกเลย ใครมีข้อมูลช่วยบอกด้วยครับ จากคุณ : STOCK_BABY เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 12:34:19

ความคิดเห็นที่ 43 เท่าที่ดูจาก  clip ก็ตรงกันนะคะ มีภาพหมอมุกอยู่ด้านหลังรถ ก่อนจะขยับตัวแล้วรถพุ่งชน แต่แล้วไงอ่ะคะ ภาพนี้ ก็ไม่เห็นจะทำให้คดีพลิกได้เลย ว่าง่ายๆ ไม่ช่วยอะไรเลย อ้อ...ไปเจออีกทู้ เค้าอ้างจากภาพว่า คุณหมอยืนขวาง  แต่ดูจากภาพ เป็นการยืนพิงรถตัวเองมากกว่านะคะ  ยังไงก็ฟังไม่ขึ้นอยู่ดีค่ะ ขอถามคุณ geno_nr  คห 39 เราจะเช็คว่า ภาพนี้ถูกแก้ไขมาด้วย program ไหน ดูยังไงคะ รบกวนด้วยค่ะ แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 54 12:59:36 แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 54 12:58:22 จากคุณ : Vapee เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 12:56:30

ความคิดเห็นที่ 44 เหตุผลที่เค้าเอาภาพมาโชว์ เพื่อยืนยันเจตนาที่เค้าบอกตั้งแต่แรกว่า ตั้งใจมากลับรถมาถ่ายรูปทะเบียนรถ ไม่ได้ตั้งใจกลับรถมาชนครับ  อันนี้จากคำบอกเล่าของคนที่มามอบตัวนะ จากคุณ : seven-elephant เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 12:56:33

ความคิดเห็นที่ 45 ความคิดเห็นที่ 36 กล้องตัวนี้เปิดเเฟลชครับ  ไฟในกรอบสีเขียวที่ทำเครื่องหมายไว้เกิดจากการกล้องเลือกสปีดชัตเตอร์ที่ต่ำ แสงไฟเลยเป็นเส้น กะเอาว่ารูปนี้สปีดไม่สูงกว่า  s 1/30 ภาพสั่นๆ จะไม่เห็นหน้าเห็นตาหมอมุกชัดเจนขนาดนี้หรอก แนะนำไปศึกษาแฟลช ที่แว๊บเสี้ยววินาที ไวกว่าม่านชัตเตอร์ Sync คอนโซลในรถเหมือนกัน ต้องแต่งภาพให้ดีกว่านี้ เพราะแสงไฟบนเพดาน มันไม่สว่างมากมายจนเห็นคอนโซลค่อนข้างชัดเจน แสงสีขาวโอเวอร์ตรงคอนโซล คือแสงเเฟลชกล้อง และสีต้องออกส้มๆหน่อย ไม่ใช่สีขาว เพราะเป็นแสงไฟ 2800K แฟลชตรงคอนโซลมันแรง สปีดชัตเตอร์ต่ำไม่พอ ที่จะทำให้แสงจากหลอดทังสเตนเข้ามาผสมจนเหลืองได้ แต่ตัวคนแสงแฟลชไปถึงไม่พอ ทำให้แสง3200k ผสมได้ ส่วนแสงโอเวอร์จากทะเบียนรถ ปกติครับ จากคุณ : เกร็งข้อลากยาว เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 12:57:09

ความคิดเห็นที่ 46 ให้เดาใจฝ่ายโน้นนะคะ ถ้าเอารูปมาให้ดูจริงละก็ 1. แสดงให้เห็นว่าคดีนี้เป็นเรื่องทะเลาะวิวาท อุบัติเหตุ เขาแค่ขับรถไปตามทางเฉย ๆ หากหมอมุกไม่มา "มีส่วน" ยืนคุกคามหรือโดดเกาะกระโปรงรถดังที่เขาได้ถ่ายภาพก่อนโดดไว้ก็จะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงถึงเพียงนี้ (ให้โดนข้อหาประมาทฯ แทนข้อหาพยายามฆ่าโดยเจตนาหรือโดยไตร่ตรอง) หรือบันดาลโทสะ (เป็นเหตุลดโทษ) ก็เป็นได้ 2. เป็นหลักฐานมัดตัวพันเอกผู้นี้ว่าขับรถชนหมอมุกในวันเวลาเกิดเหตุจริง แต่นอกจากกรณีตาม 1. เขาหาหลักฐานมามัดตัวตัวเองทำไมหว่า  เดามั่ว ๆ คดีอาญาโจทก์ต้องเป็นฝ่ายสืบก่อนเสมอ ต่อให้จำเลยไม่ให้การ หรือให้การมั่วขนาดไหน ถ้าโจทก์นำสืบไม่ได้เรื่องศาลก็ไม่ลงโทษ.... คดีนี้ผู้เห็นเหตุการณ์มีกี่คน ส่วนหมอมุกก็ยังให้การไม่ได้ พนักงานสอบสวนจะสามารถตั้งแนวการสอบสวนจากคำให้การที่มีข้อบกพร่องของผู้ต้องหาได้ดีรึเปล่า ถ้าตั้งแนวไม่ดี ข้อมูลไม่แน่นจะมีปัญหาในชั้นศาลนะนั่น จากคุณ : มานะฯ เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 13:05:06

ความคิดเห็นที่ 47 จาก 41.  ผมว่าไม่ใช่มาดูตอน ย้ายรถนะ  เพราะตอนย้ายรถ เค้าเขนรถคันข้างหน้า และหมอมุก ยังไม่ออกมานะครับ จากคุณ : เลิศศักดิ์ เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 13:51:29

ความคิดเห็นที่ 48 บางครั้งมีเหตุต้องไปถ่ายรูปงานตอนกลางคืนบ่อยๆ   ทะเบียนถ้าเจอแสงจากหน้ารถส่องจะมองไม่เห็นอย่างนี้แหล่ะครับ ปรกติครับปรกติ  เรื่องอื่นไม่รู้ครับ   ปล.ขอให้หมอหายไวๆ นะครับ จากคุณ : iamkwan เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 13:54:36

ความคิดเห็นที่ 49 กระทู้นี้ มี Bias จากคุณ : ระวังหงายท้อง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 14:17:05 A:58.9.108.119 X: TicketID:312087

ความคิดเห็นที่ 50 รอผล..... จากคุณ : Banq T31 เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 14:19:13

ความคิดเห็นที่ 51 alaska แผ่นดินไหว 7.2 คับ วันนี้เลย ขอญาต จขกท แจ้งข่าว น้าๆ ห้องกล้อง ... คริคริ จากคุณ : Advil เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 14:20:59

ความคิดเห็นที่ 52 ผมก็ว่าทะเบียนรถ ถ้าโดนแฟลชในมุมที่เหมาะสม มันก็สะท้อนจ้าแบบนั้นเหมือนกันล่ะครับ อีกทั้งข่าวสามมิติ ช่อง 3 เมื่อคืนก็มีการเอาคลิปมาเทียบกับภาพ ๆ นี้ รถนิสสันที่ก่อเหตุมีการมา "จอด" อยู่ในลักษณะดังกล่าวจริงในระยะเวลาหนึ่ง ก่อนที่จะเลี้ยวเบนออกไป จากคุณ : Capo เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 14:57:49

ความคิดเห็นที่ 53 #45 น้าเกร็งข้อลากยาว = แสงโอเวอร์จากทะเบียนรถ ปกติครับ - #34 น้าแมวเหมียวพุงป่อง = ไม่ว่าแสงแฟลช หรือ แสงไฟซีนอน 100w หรือ แสงสปอตต์ไลท์ มันไม่มีทางทำให้ตัวเลข ถูก burnout ไปได้ มีความเห็นตรงข้ามกันไปคนละทาง รอน้าทั้งสองมาชี้แจงเพิ่มครับ ผมกำลังศึกษาเรื่องกล้องเรื่องแสงอยู่พอดี จากคุณ : Limelight เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 16:28:28

ความคิดเห็นที่ 54 คืนนี้ .. น้าๆ ทั้งหลาย ทดลองถ่ายภาพดูได้ครับ และ .. กล้องมือถือ ถ้าจะถ่ายให้เกิด slow sync คือ ภาพเกิดจากแสงไฟ (ภาพสั่นไหว) + แสงแฟลช (ภาพอยู่นิ่ง) บอกได้เลยว่า หืดจับ ลองเย็นนี้ได้เลยครับว่า การถ่ายแบบ slow sync .. ต้อง setup อะไร มากมายขนาดไหน เพราะกล้องคอมแพ็ค ส่วนใหญ่ ถ้า set แบบ auto ไว้ มันจะยิงแฟลช ที่ความเร็วสูงจำเพาะ (flash-specific shutter speed) การลด shutter speed ลงมา ต้องใช้ manual mode ครับ ขนาดกล้อง dSLR ยังหืดจับ เย็นนี้ ทดลอง slow sync ดูนะครับ นอกจากจะเข้าเรื่องรูปที่เป็นปัญหานี่แล้ว ยังจะช่วยทำให้เข้าใจ "การถ่าย macro หลังดำ" ด้วย ที่แปลกใจกับภาพนี้อีกอย่างคือ แสงแฟลชมันแข็งโป้ก (very high contrast) แต่ภาพนี้ .. แสงที่เกิดบน console .. สม่ำเสมอมาก สุดท้ายที่แปลกใจคือ แสงแฟลชกล้องคอมแพ็ค มันไปได้อย่างมากก็แค่ 4-5 เมตร เกินกว่านั้น .. มืดตึ๊ดตื๋อ สภาพแบบนี้ .. มือใหม่หัดใช้กล้อง เจอแทบทุกราย และไม่เข้าใจว่า ทำมั้ย ตรูใช้แฟลชแล้ว ระยะห่างๆยังมืดตื๋อ มองอะไรไม่เห็น ทดลองทดสอบได้เย็นนี้เลยครับ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 16:40:40

ความคิดเห็นที่ 55 อืม... จากคุณ : pan2551 เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 16:49:44

ความคิดเห็นที่ 56 ไม่ได้เล่นกล้องแต่อยากแจมว่า ที่มันมีเงาสะท้อนคอนโซลไปที่กระจก น่าจะเกิดจากไฟถนนครับ ไม่ใช่ไฟในเก๋ง น่าจะถ่ายในแนวที่ไฟตกลงมาเป็นแนวตั้งฉากกับคอนโซลเลย แล้วรถมันไม่ได้อยู่ในแนวเดียวกัน แต่น่าจะถ่ายหลังจากที่กลับรถมาแล้ว เทียบจากการมองที่ปัดน้ำฝนเทียบกับท้ายรถคันหน้า เพราะถ้าตรงกันคุณจะมองไม่เห็นถนนส่วนข้างหน้าแบบนั้น ส่วนการที่บอกว่าส่วนที่อยู่ไกลสั่นไหว แต่ใกล้ๆไม่สั่น เป็นไปได้หรือไม่ว่าส่วนที่ใกล้มันอยู่นิ่งๆ แต่ส่วนที่ไกลๆมันเป็นรถที่วิ่งอยู่ แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 54 17:20:23 จากคุณ : มารนิติ (mojamoja16) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 17:17:06

ความคิดเห็นที่ 57 ตอบ จขกท. น้าลีโอ ...เนื่องจากภาพหยาบมาก จึงมองอะไรไม่ออกมากนัก แต่ก็รู้สึกว่า เนื้อไฟล์บริเวณตัวคุณหมอมุก และตัวรถที่อยู่หลังคุณหมอ เนียนกว่า ส่วนอื่น  และภาพซี่ๆ ที่เป็นร่องน้ำถัดจากกระจกรถ มีเงาดำแปลกๆ แต่เนื่องจากภาพหยาบมาก จึงไม่สามารถฟันธงว่าตัดต่อ ...อีกประการหนึ่ง ตามข่าวบอกว่าคุณหมอมุกจอดซ้อนคัน ขวางรถ พันเอกอยู่  แต่ในภาพ รถแคมรี่ข้างหลังคุณหมอมุกจอดชิดริมถนน เพราะป้ายหาเสียงคงไม่อยู่กลางถนน คงอยู่ริมถนน ตอบ เรื่องกระทู้นี้มี bias ...โดยส่วนตัวก็ยอมรับว่าลำเอียงไปทางคุณหมอมุก มากกว่าทางพันเอก ก็ด้วยเหตุการณ์มันพาไป - คุณหมอมุก นอน ไอซียู ... พันเอก ??? - เหตุเกิดคืนวันที่ 11 ... พันเอกมาให้การวันที่ 21 - สิบวันที่ผ่านมาก่อนจะมาให้การ พันเอกได้ทำอะไรพอที่จะให้ผมลำเอียง ไปทางฝั่งเขาไหม เช่น มาเยี่ยมคุณหมอมุก หรือมากล่าวขอโทษขอโพย คุณแม่หมอมุก ฯลฯ ...แต่โดยรวมก็ไม่ได้มุ่งหวังว่าจะต้องให้ใครรับโทษ  แต่มุ่งหวังว่าเหตุการณ์ จะผ่านไปด้วยดี ... คุณหมอมุกหายดี ... พันเอกเข้ามาขอโทษขอโพย (ถ้า ทำผิด) คุณแม่หมอมุกก็เอ่ยแล้วว่า ขอแค่เป็นลูกผู้ชายจริง ... จากคุณ : M_Janya (M_Janya) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 17:26:35

ความคิดเห็นที่ 58 แสงโดนตัวแบบ อย่างกะมาจากไฟร่ม ไฟหน้ารถเปิดอยู่ แสงที่ขา ทำไมไม่เห็นละ มีแต่แสงที่กันชน ดูผ่านก็มองว่าปกติ ถ้าดูดีๆ ด้วยสายตาคนถ่ายภาพ ภาพโดนทำขึ้นมานะ จากคุณ : สมคะเน เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 17:39:11

ความคิดเห็นที่ 59 จากประสบการณ์ครับ ป้ายทะเบียน เวลาเจอไฟแฟลช ถ่ายไม่เห็นตัวเลขครับ เหมือนในภาพนั่นแหละครับ ไม่มีอะไรผิดปกติครับ คนถ่ายภาพนี้อยู่ทางด้านขวาของรถครับ ไม่ใช่คนนั่งทางด้านซ้ายเด็ดขาด มุมเอียงนิดๆครับ ลาย 2 เส้นนั้นคือ ลายคอนโซลกลางรถสะท้อนไฟ (แต่จะไฟอะไร ไม่ทราบครับ เพราะเวลาเปิดไฟเพดานกลางรถ ก็จะมีภาพสะท้อนแบบนี้ครับ )  ไปที่กระจกบังลมหน้าครับ อันนี้ก็ปกติ ส่วนตัวว่าภาพนี้ของจริงครับ แต่เอามาใช้โชว์เป็นหลักฐานนี่ ผมว่าคงเอามาหักล้างเรื่อง ตั้งใจชนครับ จะเรื่องทะเลาะกัน หรือหมอกระโดดใส่หน้ารถเอง ตามที่ คนชนเอามาเป็นประเด็นครับ รายละเอียดอื่น คงต้องพิสูจน์ โดยใช้กล้องตัวเดียวกับที่ถ่ายนั่นแหละครับ  ถึงจะชัวร์ จากคุณ : Whalephant เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 17:53:09

ความคิดเห็นที่ 60 มาถึงขั้นนี้แล้ว  ไม่ว่าใครถูกใครผิด ใครเป็นชนวน ก็ช่างละ ขอให้ จับตัวคนขับตัวจริง มาลงโทษได้ก็พอ ปล.ขอให้หายไวๆนะคะ คุณหมอ ปล.อีกที เค้าเอาภาพมาแสดงเพราะว่า?? เค้ากลับรถมาถ่ายทะเบียน หรือ เพื่อว่แสดงว่าเค้าเป็นคนขับรถชนจริงๆ จากคุณ : ราดหน้าเย็นตาโฟต้มยำ เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 17:54:57

ความคิดเห็นที่ 61 ไม่รู้จุดประสงค์จริงๆ ..... แค่ทะเลาะวิวาทกันจริงๆ ทำไมจะต้อง ขับรถย้อนกลับมาอีกทำไม แสดงว่า คนที่ขับย้อนกลับมา มีวุฒิทางสมอง ที่ ต่ำ จริงๆ เจ้าคิด เจ้า แค้น ขาดสติ จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 18:20:46

ความคิดเห็นที่ 62 เมื่อเช้าดูช่อง 3 แม่หมอมุก ให้สัมภาษณ์ว่า  หมอมุกนอนร้องอยู่ที่ถนน  แล้วรถจะมาทับซ้ำอีก....แต่...มีผู้ชาย 3 คนโดดมาขวางหน้ารถเอาไว้ ? ผมว่าจะไขปริศนานี้ได้ ก็คงต้องพึ่งพยานในที่เกิดเหตุนี่แหล่ะครับ ถ้าคดีออกมาว่า  หมอมุกกระโดดเกาะหน้ารถแล้วตกลงมา  ก็อาจจะตีความว่า ไม่ได้เจตนา เป็นอุบัติเหตุเอง เพราะเค้าตกใจแล้วเบรกรถ แล้วหมอมุกตกจากหน้ารถ...... ถ้าคดีออกมาว่า....ตั้งใจชนหมอมุก...บาดเจ็บขนาดนอน ICU อย่างนี้ เข้าข่ายพยามฆ่า แล้วครับ.....โทษหนักกว่ากันมากเลย รอดูผลสรุปจาก ตร. ดีกว่าครับ ขอให้หมอมุก หายป่วยเร็ว ๆ ครับ น้าแมวฯ  ว่าหมอมุกจะพูดได้ในเร็ววันนี้รึเปล่าครับ ....ถ้าไม่สะดวกพูด ใช้เขียน เพื่อให้ปากคำตำรวจ ได้มั๊ย ? จากคุณ : Supermop เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 18:41:16

ความคิดเห็นที่ 63 จากที่เห็นรูปการทดสอบ ทะเบียนใน ความคิดเห็นที่ 33 ถ่ายมุมเีฉียงๆ แบบนั้นมาอ้างอิง .. เลยทำให้ผมอยากเข้ามาให้ข้อมูลหักล้างความความคิดเห็นของ คุณแมวเหมียวพุงป่อง ครับ มีรูปทะเบียนรถในกระทู้นี้ มุมสะท้อนๆ ยังไงมันก็โอเวอร์ http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V10671248/V10671248.html ส่วนแฟลชเเรงไม่เเรง แสงเวอร์ตรงคอนโซลเกิดจากอะไร .... แนะนำให้นักถ่ายรูปหยิบกล้องคอมเพค เข้าไปในรถ แล้วเปิดเเฟลชถ่ายผ่านคอนโซล ให้มุมคล้ายกันกับในรูปที่เป็นประเด็น  ถ้าจะให้ดีขับรถไปจอดใต้เเสงไปทังแสตน(ไฟถนน)ด้วย แล้วจะได้คำตอบครับ จากคุณ : เกร็งข้อลากยาว เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 19:28:46

ความคิดเห็นที่ 64 ความคิดเห็นที่ 54 สุดท้ายที่แปลกใจคือ แสงแฟลชกล้องคอมแพ็ค มันไปได้อย่างมากก็แค่ 4-5 เมตร เกินกว่านั้น .. มืดตึ๊ดตื๋อ ภาพที่เป็นประเด็นนี้ มันตอบคำถามของคุณแมวเหมียวพุงป่อง อยู่เเล้วนิครับ .....ดูจากคลิบขณะหมอมุกขืนอยู่หลังรถคันนี้ รถของคู่กรณีก็ห่างออกไปแค่ไม่เกิน1ช่วงรถ (เข้าใจว่าเป็นเวลาที่จอดถ่ายรูปนี้) แสงแฟลชโดนคอนโซล อยู่ใกล้มากๆทำให้โอเวอร์ข้างหน้า แฟลชหัวกล้องโดนใบปัดฯ ทำให้เกิดเงาดำในมุมที่รองรับกัน หมอมุกยืนห่างออกไป ปริมาณแสงโดนน้อยลง  .... ป้ายหาเสียงอยู่ใกลกว่า จึงได้รับแสงน้อยกว่าหมอ  ... ไกลออกไปกว่านั้นแฟลชไปไม่ถึงจริงๆอย่างที่คุณแมวเหมียวพุงป่องว่าไว้ รูปนี้isoไม่ต่ำกว่า 800 แน่นอน จากคุณ : เกร็งข้อลากยาว เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 19:45:19

ความคิดเห็นที่ 65 รูปเพิ่มเติมนะครับ ... ผมหยิบกล้องคอมแพ็คที่ผมมีออกไป กล้องคุณภาพค่อนข้างดีทีเดียวหละ ใช้โหมด auto เปิดกล้อง ... แฟลชก็ติด กดชัตเตอร์จากในรถ โดยยื่นมือออกไป เกินคอนโซลหน้าปัทม์ เพื่อไม่ให้ติดคอนโซลมากเกินเหตุ ตัวผม .. ในรถ อยู่จากท้ายรถคันหน้า สามเมตร กดชัตเตอร์โดยไม่รอ AF lock .. กล้องใช้เวลาสามวินาที เพื่อเปิดระบบไฟช่วยโฟกัส, ควานหาตำแหน่งเป้าหมาย, ล็อกจุดที่จะถ่าย, ลั่นชัตเตอร์พร้อมยิงแฟลช สามวินาทีขอรับ ที่ผมต้องอยู่นิ่งๆเฉยๆ ไม่งั้นคงได้ถ่ายจุดอื่นแน่ๆ แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 54 19:50:33 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 19:50:15

ความคิดเห็นที่ 66 นอกรถ ตรงตำแหน่งที่รถผมจอดอยู่ มีแสงไฟจากหลอด 40W อยู่สูงขึ้นไป 2.50 เมตร .. ส่องลงมาที่ console จนสว่างมากพอสมควร โปรดสังเกตุรูปที่เกิดจากการถ่าย .. ซึ่งมีข้อมูล EXIF อยู่ด้วย ณ ตำแหน่งต่อไปนี้ ตำแหน่ง #1 : มีหลอดไฟขนาด 10W เปิดสว่างอยู่ สูงประมาณ 2.50 เมตร ตำแหน่ง #2 : มีรถจอดอยู่อีก 1 คัน .. หมายความว่า ห่างจากรถผมไปประมาณ 7 เมตร (รถ 555 ยาว 3 เมตร + ผมห่างจากรถ 555 4 เมตร) แสงแฟลชไม่ถึง .. จึงมองไม่เห็นรถ เห็นแต่ทับทิมท้ายรถ สะท้อนแสงแฟลช ตำแหน่ง #3 : ทะเบียนท้ายรถ ซึ่งห่างไปแค่สี่เมตร .. ไฟแฟลช ไม่มีทางทำให้ over ได้ ตำแหน่ง #4 : คอนโซลรถ .. ได้รับแสงแฟลชน้อย แต่ไม่ over และสิ่งที่สำคัญที่สุดของที่สุด แสงไฟมันสะท้อนกับกระจกหน้ารถ นี่ขนาดกระจกเช็ดล้างแล้วนะครับ (โปรดสังเกตุรอยคราบน้ำ ที่หัวเลข 2) จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 19:57:22

ความคิดเห็นที่ 67 ลองดู 100% cropping ดูได้ครับ แทบไม่เห็นท้ายรถ 555 เลย และที่สำคัญ ถึงพื้นป้ายทะเบียนรถ แสงจะ over แต่ตัวเลขจะไม่ over สิ่งที่อีกหลายๆคนไม่รู้คือ .. กฏแห่งความปลอดภัย ที่ใช้กันทั่วโลก ในการออกแบบรถ ไม่ว่าจะเป็นรถจ่ายกับข้าว หรือ รถสปอร์ตราคาสิบล้าน ท้ายรถทุกคัน จะต้องมี "ทับทิมสะท้อนแสง" ซึ่งสะท้อนแสงได้ดีมาก จนเกือบเท่ากระจกเงา ท้ายรถ 555 นี่เหมือนกัน ทับทิมสีแดง สะท้อนแสงแฟลชจ้าออกมา ในขณะที่ไฟเลี้ยวสีเหลือง แทบมองไม่เห็น แล้วทำไม ทำไม???????????? รถหมอมุก ไฟทับทิมสีแดงนี้ ถึงไม่สะท้อนแสง จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 20:02:43

ความคิดเห็นที่ 68 ลบภาพครับ แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 54 20:45:42 จากคุณ : เกร็งข้อลากยาว เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 20:05:54

ความคิดเห็นที่ 69 ความสงสัยมันไม่หมดสิ้น เลยทุ่มทุนสร้าง เอาสปอตไลท์ 500W มาส่องจากด้านซ้าย-บน ห่างจากท้ายรถ 555 ไปราวๆ 3 เมตร สว่างจนอ่านหนังสือต้องหรี่ตาเลยหละ แถมด้วยการเปิดไฟหน้ารถทั้ง xenon และ ไฟสูง ส่องจากระยะห่าง 4 เมตรอย่างที่บอก จะเห็นว่า คราวนี้ รถคันหน้านู่น สว่างจนแม้ที่ speed 1/60 @ ISO 800 .. ก็ยังพอบันทึกได้ แต่ แสงแฟลช ไปไม่ถึงอยู่ดี ท้ายรถ ก็สว่าง .. เพราะไฟซีนอน และ ไฟสูง แต่ทับทิมสะท้อนแสง .. ไฟเลี้ยวสีเหลือง ไม่ยอมสว่างตาม อืมม์ ... น่าสนใจ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 20:20:58

ความคิดเห็นที่ 70 ให้กระบวนการยุติธรรมเป็นผู้ตัดสินดีกว่าครับ หากผมจะออกไปถ่ายรูปในสภาพสิ่งเเวดล้อมใกล้เคียงกันนี้มาหักล้างคุณแมวเหมียวพุงป่อง เพื่อให้เห็นกันเเบบจะๆ เกรงว่ามันจะล้ำไปนิด... ให้กระบวนการยุติธรรมเป็นผู้ตัดสินดีกว่าครับ  ขอบคุณครับ จากคุณ : เกร็งข้อลากยาว เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 20:30:45

ความคิดเห็นที่ 71 กระบวนการยุติธรรม??? มันอยู่ตรงไหนหรือครับ ผมหาไม่เจอ เพราะได้ข่าวว่า โดนรถชนกระเด็นไปตกบนทางรถไฟ ก่อนจะโดนรถไฟทับตายคาที่ไปแล้ว เก้าวัน .. เก้าวัน .. มันนานเกินกว่าที่ยาวิเศษไหนๆ จะชุบเจ้า "กระบวนการยุติธรรม" ให้มันฟื้นคืนชีพได้ ตำรวจยังไม่ได้ออกหมายจับ ข้อมูล พยาน หลักฐาน ฯลฯ ยังไม่รวบรวม จำเลย ยังไม่มี มีแต่ผู้ถูกกล่าวหา, ผู้ต้องสงสัย .. ทั้งๆที่สองอาทิตย์ผ่านไป คดียังไม่เข้าสู่ศาล กระบวนการยุติธรรมยังไม่ฟื้นชีพ จึงเป็นหน้าที่ของเรา ที่ต้องิช่วยเหลือให้มันฟื้นให้ได้ ---------------------------------------- อะไรคือ ความยุติธรรม ในกรณีนี้?? ไม่ใช่เรืองแค่ ใครเป็นคนขับรถชนหมอมุก แต่ ใครออกมาประกาศลั่นๆว่า รถคันนี้ วิ่งอยู่ในกรมกอง ใครออกมาประกาศว่า รถวิ่งไม่ได้ ทำไม กระบวนการทางกฏหมาย ถึงโดนชนสาหัสปางตาย ได้ ข่าว 3 มิติ หยอดยาให้ ถึงเพิ่งขยับตัวได้ ฯลฯ อัยการยังไม่สั่งฟ้อง จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 22:15:43

ความคิดเห็นที่ 72 เห็นตาม ความคิดเห็นที่ 49 สำหรับกระทู้นี้นะครับ  ^____^ จากคุณ : เกร็งข้อลากยาว เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 00:37:29

ความคิดเห็นที่ 73 หลายคนอาจคิดว่า คุณแม่หมอมุกพูดไม่หมด พูดไม่จริง หรือพูดเกินจริง คนที่ยังเข้าข้างอยู่คงเอียงกระเท่เร่ไปแล้ว กู่ไม่กลับ บางครั้งผมคิดว่าคนเราก็ คาดหวังเอากับคนอื่น ๆ มากไป ว่าเค้าต้องบริสุทธิ์ ผุดผ่อง ใส และถูกต้องมาอย่าง 100% เต็ม ตนจึงจะช่วย จะเชียร์ จะเข้าข้าง จะเห็นอกเห็นใจได้ ไม่อย่างนั้นก็จะไม่อยากเปลืองตัว หรือกลัวจะเสียรู้ก็ไม่อยากจะวิเคราะห์ สมมติ ว่าลูกสาวของคุณถูกคู่กรณีขับชนหรือมีเรื่องอะไรต่อกัน ก็แล้วแต่นะครับ ลูกสาวคุณต้องเข้าห้อง icu ผ่าสมอง เป็นตายเท่ากัน และยังไม่ฟื้นคืนสติ ในขณะที่ตำรวจก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้เลย 9 วันล่วงไป ไม่มีใครสนใจคุณและลูกเลย แล้วเรื่องก็คงจะเงียบหายไป แล้วถ้ามันไปพร้อมกับการตายของลูกคุณล่ะ ในฐานะของแม่คนหนึ่ง คุณจะทำอะไรให้เขาได้บ้างครับ เดินไปบอกสื่อ หรือคุณสรยุทธ์เหรอครับว่า ลูกสาวคุณมีเรื่องทะเลาะวิวาท มีปากมีเสียงกับคู่กรณีก่อน สื่อจะได้เข้าใจแบบมักง่ายว่าลูกสาวของคุณร้ายพอกันกับอีกฝ่ายหรือครับ เค้าก็จะไม่สนใจคุณใช่ไหมครับ แล้วก็ผ่านไป ไม่ทำข่าวให้ เพราะสื่อชอบอะไรครับ ชอบของแรง ของที่อีกฝ่ายเลว อีกฝ่ายบริสุทธิ์ ผุดผ่อง ใส ราวกับหยาดรินลงมาจากสรวงสวรรค์ เพราะเล่นข่าวแล้วมันติดใจคนง่าย ขายได้ เรากำลังหลงอยู่ในเกมส์หรือภาพลวงของสังคม เพราะสื่อที่วัน ๆ ต้องแข่งขันกันหากินอย่างสุดเหวี่ยงบนความทุกข์ของชาวบ้านกันอยู่หรือเปล่าครับ หรือคุณจะบอกว่า คนดีต้องพูดแต่ความจริงสิ ถ้าไม่พูดให้ถูกถ้วนทุกกระบวนความ แสดงว่า ก็ไม่ได้เป็นคนดีซักเท่าไหร่ อย่างนั้นฉันขอบายไม่ยุ่งดีกว่า หรือถ้าดีจริงก็ต้องทนสิ อดทน อดกลั้น เก็บกดกันเข้าไป ราวกับนิยายน้ำเน่า มันจะใช่หรือครับ ผมไม่ได้จะบอกว่า ฝ่ายผู้เสียหายจะทำอะไรก็ได้เพื่อให้ได้มา ทำมันทุกวิถีทาง แม้จะไม่เหมาะสม หรือไร้จริยธรรมก็ยอม ผมไมไ่ด้บอกอย่างนั้นนะครับ แต่ผมอยากให้ทุกคนตระหนักว่า คน 2 คนมีเรื่องกัน แต่ฝ่ายหนึ่ง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ปางตาย อีกฝ่ายหายหัวไปนานเกือบ 10 วัน ภายใต้ข้อสงสัยที่ว่า อาจมิใช่ผู้ที่ก่อเหตุจริง หรือถ้าใช่ คำให้การก็ดูจะมิได้สำนึกต่อการกระทำอันเกินกว่าเหตุ ที่ได้กระทำต่อคู่กรณีเลยแม้แต่น้อย โดยปกติ รถยนต์คันหนึ่งชนรถยนต์อีกคันหนึ่งเข้าที่ท้ายรถ ถ้าไม่มีพยานหรือผู้ถูกชนไม่รับผิดเสียเองว่าเบรคกระทันหัน โดยรูปการชน ผู้ชนจากด้านหลังจะผิดในทันที(ตำรวจบอกผม) เพราะกฏหมายก็บอกไว้แล้วว่า รถที่อยู่หลัง ต้องรักษาระยะห่างจากคันข้างหน้าไว้เท่าไหร่ แต่นี่คนนะครับ คุณไม่ได้รักษาระยะห่างอะไรเลย แถมยังขับเข้าใกล้ จนกระทั่งปะทะกับร่างของผู้บาดเจ็บ ไม่ว่าจะด้วยเหตุอะไรก็ตาม หากคุณบอกว่าคุณไม่ได้ตั้งใจจะทำร้าย คุณคงไม่ขับหนีพร้อมกับปิดไฟหน้ารถอำพรางตัวในทันทีแบบนี้ ทุก ๆ เรื่อง มักมีหลักในการคิด ง่าย ๆ ในการหาเหตุผล หรือดูความเหมาะสมของการกระทำ อย่างเช่น การที่คนปกติ มีเรื่องกัน มีปากมีเสียงกัน ถ้าไม่ได้มากมายอะไร ก็มักจะเลิกรา หนีหายกันไป เพื่อทุเลาเหตุ เป็นวิถีชาวบ้านครับ ผู้เสียหายแม้มีปากเสียงกับคู่กรณีด้วยโทสะ และอาจบันดาลโทสะทุบรถของคู่กรณี(ตามที่คู่กรณีอ้าง) แต่นั่น อาจสาสมแล้วหรือ กับการที่จะต้องถูกผ่าสมอง มีอาการสมองบวม และแม้ฟื้นขึ้นมาได้ก็ยังอาจจะไม่กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม(คำของคุณหมอนะครับ) เหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นได้อย่างไร จากการที่คู่กรณีบอกว่า คุณหมอมุกกระโดดเกาะรถเขาไว้ แล้วก็ดึงก้านปัดน้ำฝนด้วยความโมโห สงสัยคุณหมอจะดูหนังฝรั่งมากเกินไป ประกอบกับคุณหมอมุกอาจตัวหนักหรืออะไรก็ไม่รู้(ว่าเขาอีก) คู่กรณีอ้างว่าเพียงเคลื่อนรถออกไป มิได้มีเจตนาจะพุ่งเข้าหาอย่างที่เป็นข่าว แต่คุณหมอตัวหนักคว้าก้านปัดน้ำฝนแล้วยังเอาไม่อยู่จึงไหลหล่นลงพื้นไปเอง แล้วคู่กรณีก็กลัวว่ารถจะไปทับตัวคุณหมอ(จิตใจงาม) จึงถอยรถออกมาแล้วขับเลี่ยงออกไป ลองนึกภาพนะครับ คุณหมอก็คงจะแค่เหมือนกับคนหนึ่งคนที่กระโดดเกาะฝากระโปรงหน้ารถของเขาไว้แล้วตัวหนักไหลลงไปเอง สมมติว่าให้คุณหมอหงายหลังลงด้วยนะครับจนศีรษะฟาดกับพื้น โดยที่รถเคลื่อนตัวช้า ๆ ตามที่คู่กรณีบอก สมมติกันขนาดนี้เลยนะครับ ? -*- โดยความเห็นส่วนตัว คิดว่า คู่กรณีคนนี้ไม่น่าจะใช่ผู้กระทำความผิด เพราะดูจากลักษณะการให้สัมภาษณ์มีความสงบนิ่งผิดวิสัยของผู้ที่หลบหนีคดีไปเกือบ 10 วัน แล้วกลับเข้ามามอบตัว มีการอำพรางใบหน้าของภรรยาจนไม่รู้ว่ากลัวว่าพนักงานสอบสวนจะจับพิรุธได้หรืออย่างไร หรือจะใช่ภรรยาของนายทหารท่านนี้จริงหรือไม่(ตรงนี้ชมตำรวจว่ารอบคอบดีมีการขอตรวจเนื้อเยื่อด้วย เพราะปกติของการสอบสวน สีหน้าแววตาและอารมณ์ของผู้ถูกสอบนั้นเป็นสิ่งที่ช่วยในการจับพิรุธได้ดี และผู้ให้ปากคำนั้นก็อำพรางเสียหมดสิ้น ผิดชาวบ้านธรรมดามาก ๆ) และการให้ปากคำของทั้งคู่นั้น แสดงให้เห็นว่ามีความคล่องตัวสูงในการควบคุมคำพูดมิให้หลุดรอดเกินจำเป็น มีความรัดกุมมากราวกับมีการซักซ้อมมาเป็นอย่างดี ผิดวิสัยชาวบ้านทั่วไปอีก ผู้ให้ปากคำน่าจะมีความรู้ หรือได้รับความรู้ในทางกฏหมายมาเป็นอย่างดี มีการให้ข้อความ หรือภาพข่าว ในการลดทอนความน่าเชื่อถือของผู้เสียหายลงอย่างต่อเนื่องมาเป็นลำดับ เพื่อดิสเครดิตคุณหมอและคุณแม่ เป็นการตัดกระแสอารมณ์ของมวลชน และการให้สัมภาษณ์นั้น เมื่อเริ่มรู้สึกว่าจะพูดอะไรเกินไปกว่าที่มั่นใจแล้ว จะเริ่มหยุดการให้สัมภาษณ์ทันที โดยไม่มีความเกรงใจผู้ถาม ตำรวจ หรือใครในที่นั้นทั้งสิ้น (ผิดวิสัยชาวบ้านเช่นเคย) และสุดท้ายมีลักษณะการพูดถึงอีกฝ่ายด้วยอารมณ์ที่เฉย ๆ ทั้ง ๆ ที่ไม่ว่าใครก็ตาม จะโกรธจะแค้นกันมามากมายสักปานใด ถ้ารู้ตัวว่าได้กระทำให้อีกฝ่ายตกทุกข์ได้ยาก อย่างสาสมแล้ว ก็มักจะได้สติ และคิดขอขมากรรม สำนึกถึงบาปบุญคุณโทษ เพื่อให้เรื่องราวนั้นจบลงเสียแต่โดยดี และให้ได้รับโทษทั้งทางกฏหมายให้น้อยที่สุด และในทางสังคมก็ให้คนเกลียดชังน้อยที่สุด แต่นี่กลับไม่ได้เป็นอย่างนั้น คำให้การกลับกลายเป็นโทษอีกฝ่ายได้อย่างเลือดเย็นที่สุด น้่าแกนิ่งราวกับเพชรฆาตเลยล่ะครับ http://www.youtube.com/watch?v=Aa0zu1bvR0I&feature=related จากคุณ : ลุงเบิร์ก เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 03:13:35

ความคิดเห็นที่ 74 สรุปแล้วว่า เค้าถ่ายด้วย มือถือ คอมแพ๊ค หรือ DSLR เรื่องเทคนิค ผมไม่ขอออกความคิดเห็น (เพราะไม่มีความรู้ อิอิ) แต่ไม่ว่าจะกล้องไหน ผมรู้อย่างเดียวว่า ถือกล้องได้นิ่งมาก แม้ขณะขับรถ มือขวากดชัตเตอร์ มือซ้ายถือพวงมาลัย แถมขับรถอยู่ด้วย เมพจริงๆ จากคุณ : เด็กน้อยด้อยปัญญา เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 09:25:54

ความคิดเห็นที่ 75 ขอแสดงความเห็น ประกอบคำอธิบาย พร้อมภาพ และ คลิป ตามนี้ครับ http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X10726660/X10726660.html # 20/22/24/27/63/70/80 แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 54 11:40:28 จากคุณ : The Rounder เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 11:24:47

ความคิดเห็นที่ 76 ความคิดเห็นที่ 74 สรุปแล้วว่า เค้าถ่ายด้วย มือถือ คอมแพ๊ค หรือ DSLR -------------- ดูจากเงาแฟลชแล้วตัด DSLR ออกไปได้เลยครับ ส่วนกล้องมือถือที่มีแฟลช อันนี้ผมไม่ทราบเหมือน ว่ารุ่นไหนบ้าง จากคุณ : เกร็งข้อลากยาว เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 11:53:16

ความคิดเห็นที่ 77 เข้ามาอ่าน... จากคุณ : LIVE 4 LIVE เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 12:04:06

ความคิดเห็นที่ 78 ไม่ใช่ช่างภาพมืออาชีพ แต่เป็นคนชอบถ่ายรูป ยอมรับว่า เมพมาก ถ่ายรูปในรถได้นิ่งขนาดนั้น เราใช้กล้องเทพแค่ไหน ถ่ายในรถก็ไม่ได้นิ่งอย่างนี้ เมพ... ภาวนาขอให้หมอมุกดีวันดีขึ้น ลุกขึ้นมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเองได้โดยเร็วนะคะ ขอคุณงามความดีของหมอมุกคุ้มครองหมอค่ะ จากคุณ : อาซิ่ม เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 12:24:12

ความคิดเห็นที่ 79 เรียนคุณแมวเหมียว ถ้าเป็น clinical trial ต้องควบคุมปัจจัยให้เหมือนกันด้วยนะครับ รถก็ต้องแบบเดียวกัน  แสงจากถนนก็ต้องมุมเดียวกัน แล้วก็มุมกระจกหน้ารถแต่ละรุ่นมันไม่เหมือนกันครับ คือเห็นว่าเวลาขับรถต่างแบบกัน มุมสะท้อนจากคอนโซล กับกระจกหน้ารถก็ไม่เหมือนกันนะครับ จากคุณ : OSK29560 เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 12:44:09

ความคิดเห็นที่ 80 คห.79 ... หมายความว่า ??? จะให้ผมเป็น พฐ.จริงๆหรือครับ ผมสงสัยเรื่องรูปที่แปลกๆ .. ก็เลยขับรถผ่านสามเสน และถ่ายรูปมา 7-8 รูป ขณะรถวิ่งช้าๆ ไม่ได้มีการหยุดเพื่อถ่าย ใครที่สงสัย ก็ทำอย่างผมได้ทุกคนครับ ป้ายชื่อเบอร์สิบยังอยู่ บ้านหมอมุกยังอยู่ ถนนยังอยู่ ทุกอย่างยังอยู่เหมือนเดิม หากล้องซักตัว นั่งแท็กซี่ไปก็ได้ แล้วกดถ่ายให้หนำใจ .. จะได้คลายความสงสัยไปได้หลายส่วน จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 13:24:56

ความคิดเห็นที่ 81 เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบของคนทั้งสองแค่นิดเดียว นิดเดียวจริงๆ (ขอนอกเรื่องนิดนึง) จากคุณ : DUB-COOK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 13:41:13

ความคิดเห็นที่ 82 กระสุนนัดเดียว ที่สังหาร Archduke Ferdinand ด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ก็ไม่เคยมีใครคาดคิดว่า มันจะทำให้คนอีกนับล้านต้องตาย รากแก้วของปัญหามันมากกว่านั้น ความฟอนเฟะ คอรัปชั่น ในกองทัพ (จนทำให้รถที่หม้อน้ำรั่ว ออกมาวิ่งฉลุยบนถนนได้) การหลงในอำนาจ (ทหารเป็นใหญ่) ฯลฯ อารมณ์วูบนั้น มันก็แค่ฟางเส้นสุดท้าย ก่อนจะโทษฟางเส้นนั้น เราหันไปมองสัมภาระที่ท่วมหลังลากัน ดีไหม???? จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 14:37:15

ความคิดเห็นที่ 83 จากความคิดเห็นหลายกระทู้ ผมว่าคุณแมวเหมียวพุงป่องไม่ได้เป็นกลางนะ ------ และคุณแมวเหมียวพุงป่องเป็นผู้วิเคราะห์ภาพในกระทู้นี้ เช่นกัน แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 54 15:41:17 จากคุณ : เกร็งข้อลากยาว เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 15:40:26

ความคิดเห็นที่ 84 ความคิดเห็นที่ 70 ให้กระบวนการยุติธรรมเป็นผู้ตัดสินดีกว่าครับ หากผมจะออกไปถ่ายรูปในสภาพสิ่งเเวดล้อมใกล้เคียงกันนี้มาหักล้างคุณแมวเหมียวพุงป่อง เพื่อให้เห็นกันเเบบจะๆ เกรงว่ามันจะล้ำไปนิด... ให้กระบวนการยุติธรรมเป็นผู้ตัดสินดีกว่าครับ ขอบคุณครับ ---------------------------------------------------------- ผมอยากเห็น รูปของท่านครับช่วยออกไปถ่ายให้ผมดูหน่อยผมอยากเห็นแบบจะๆๆ ที่สภาวะใกล้เคียงกันผมว่า มันคงไม่ล้ำเกินไปหรอกครับ สำหรับการพิสูจน์ กรุณาผมเถอะ นะ ผมอยากเห็น น้าแมว เค้าก็พิสูจน์ในแบบของเค้ามาให้ดูแล้ว แล้วท่านละ ผมก็รออยู่ครับ กระบวนการยุติธรรม ในประเทศไทย รอแล้ว รอเล่า มันก็เกิดมาแล้วหลายกรณี เมื่อไหร่ เท่านั้นเอง ที่จะเกิดกับตัวท่าน และ ตัวผม จากคุณ : Sarikanon 1 เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 18:50:53

ความคิดเห็นที่ 85 แปลก .. มีคนพยายามจะผลักดันให้ผมเป็นผู้พิพากษาให้ได้ ต้องการให้ผมเป็นผู้ตัดสินคดีหรือ ถึงได้เรียกร้อง "ความเป็นกลาง" ขนาดนี้ คุณเกร็งข้อฯ ลองนำเสนอข้อมูลอย่างเป็นกลาง ให้ผมดู ผมฟัง ผมพิจารณา หน่อยครับ เมื่อรู้ข้อมูล, ข้อเท็จจริง, หลักฐาน ฯลฯ มากมาย จนกล้าฟันธงว่า ผมไม่เป็นกลาง ผมก็อยากรับรู้ข้อมูลที่เป็นกลางเหมือนกัน .. เพราะเมื่อไม่รู้ข้อมูล, ข้อเท็จจริง, หลักฐาน ฯลฯ เหมือนอย่างคุณเกร็งข้อฯ ผมก็ได้แต่ "คาดคะเน" โดยอาศัยความรู้สึกนึกคิด, ความรู้เท่าที่มี และ ข้อมูลหลักฐาน เท่าที่ทราบมาโดยตรง .. เท่านั้นเอง จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 19:31:43

ความคิดเห็นที่ 86 คำโบราณมีว่า ทองแท้ไม่กลัวไฟ อย่างแรก อยากพิสูจน์ว่าทองแท้ หรือ ทองชุบ เขาให้เอาทองนั้นไปเผาไฟ ทองชุบ โดนไฟ มันลอก อย่างที่สอง ทองแท้ ไม่ว่าจะผ่านไฟร้อนแรงเท่าไหร่ เผาผลาญจนหลอมเหลวเท่าไหร่ .. ก็ยังเป็นทองแท้ ทองไม่แท้ โดนลมปากนักข่าวแค่เฮือกเดียว .. ละลายเละเทะ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 19:35:55

ความคิดเห็นที่ 87 และแปลกไหม??? ที่หายหน้าหายตาไปสิบกว่าวัน รอจนข่าวออกสองวัน .. แล้วค่อยไปค้นเจอว่า มีภาพอยู่ 1 ภาพ ในกล้อง ก่อนเอาไปปรินท์ออกมา 1 รูป เพื่อโยนให้นักข่าวดู ทำไมไม่เอาไฟล์ภาพออกมาให้ดูหละ เพื่อเป็นหลักฐาน พิสูจน์ได้จะๆว่าอะไรเป็นอะไร ภาพก่อนหน้าหายไปไหน? ภาพหลังจากภาพนี้หายไปไหน? ถ่ายมารูปเดียวเองหรือ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 19:40:54

ความคิดเห็นที่ 88 ไฟล์ภาพในการ์ด .. ส่งการ์ดมาสิ .. จะได้เห็นกันจะๆว่า ภาพที่พิมพ์ออกมาให้ดูนี่นะ มันเป็นภาพของจริงของแท้ ถ่ายจากกล้องด้วยตัวเองแท้ๆ รูปอื่นๆเป็นหลักฐานยืนยันได้นะว่า ถ่ายมาเองจริง เป็นไฟล์ภาพของจริง ไม่ใช่ภาพจาก PS ไฟล์ภาพ หายไปไหน พิมพ์ออกมาเสร็จ ลบไฟล์ภาพทิ้งไปเลยหรือ พิมพ์ออกมาจากปริ่นเตอร์เครื่องไหน หรือ ส่งร้านอัดรูปพิมพ์ออกมา ทุกๆคำถาม มันคือ ความจริง ที่พร้อมจะออกมาเป็นหลักฐานว่า คุณพูดจริง คุณชนจริง ยัยหมอมุกมันขวางทางจริง .. ทำอะไรพิกลพิสดาร หลบๆซ่อนๆ กระมิดกระเมี้ยนทำ แล้วจะไม่ให้คนอื่นมีอคติ คิดเองเออเองได้อย่างไร????????? จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 19:44:58

ความคิดเห็นที่ 89 ให้กระบวนการยุติธรรมเป็นผู้ตัดสินดีกว่าครับ หากผมจะออกไปถ่ายรูปในสภาพสิ่งเเวดล้อมใกล้เคียงกันนี้มาหักล้างคุณแมวเหมียวพุงป่อง เพื่อให้เห็นกันเเบบจะๆ เกรงว่ามันจะล้ำไปนิด คุณเกร็งข้อฯ ครับ คุณมั่นใจหรือว่า รูปของผม, ความคิดเห็นของผม, รูปของคุณ, ความคิดเห็นของคุณ, เสียงจากสังคม จะทำให้กระบวนการยุติธรรม เบี่ยงเบน ไม่เป็นธรรม ถ้าคุณคิดเช่นนั้น .. แสดงว่า คุณก็ไม่เชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมเช่นกัน คุณไม่เชื่อว่า .. ศาลจะตัดสินได้ยุติธรรม เพราะหลักฐานจากผม มันทำให้ ศาลไม่ยุติธรรม ทำให้ศาลตัดสินเอนเอียง และตัดสินลงโทษ พ.อ. ศฯ  ว่า มีเจตนาฆ่า อย่างนั้นหรือครับ ผมควรยุติหรือครับ? เพื่อไม่ให้ศาลสถิตย์ยุติธรรม เหลวไหล เชื่อถือไม่ได้???? แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 54 14:33:41 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 19:49:58

ความคิดเห็นที่ 90 แสงไฟหน้ารถ และองศากล้อง แน่นอนว่าชะลอรถ เพื่อถ่ายภาพแน่ๆ ถ้าไม่ใช่กล้องคอมแพค ก็อาจเป็นกล้องมือถือคนในรถ หนึ่งภาพในหนึ่งเวลา ปัจจัยมากมายให้เกิดภาพในลักษณะหนึ่ง ถ้ารูปนี้เกิดขึ้นจริง เป็นเราคงหงุดหงิดที่เจอกระดาษเขียนด่า ยังจะขับรถชะลอถ่ายรูปอีก คงเรียกให้วนกลับมาเคลียร์กันหน่อย หรืออาจมีแรงจูงใจพอไปขวางให้หยุดคุยกันก่อน จากคุณ : knrknr เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 20:30:52

ความคิดเห็นที่ 91 ผมว่า แค่รูปๆเดียวมันเอามาหักล้าง กล้องวงจรผิดไม่ได้หรอก อันนั้นมันชัดเจน ถึงคำบรรยายจะเว่อร์ไปหน่อยก็ตาม จากคุณ : ไม่พบนามแฝง เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 21:06:37

ความคิดเห็นที่ 92 ความคิดเห็นที่ 70  ผมอยากเห็น รูปของท่านครับช่วยออกไปถ่ายให้ผมดูหน่อยผม ----------- ผมบอกไว้แต่แรกแล้วนะ ว่าไม่อยากล้ำ แต่คุณSarikanon 1 สงสัย..ผมจึงลงไปถ่ายจากโรงรถผมให้ดู (ตามความสะดวกผมตอนนนี้นะ) ในโรงรถมี แสงนิออน1ดวง แสงนีออนหน้าโรงรถ1ดวง และที่เห็นก็คือแสงจากไฟหน้ารถ ข้อมูลภาพผมปรับระไปที่ ระบบออโต้ โหมดNight Portrait ซึ่งกล้องทุกตัวส่วนใหญ่มี ข้อมูลภาพที่กล้องเลือกให้คือ (โหมดNight Portrait)    Exposure time           1/2 s    F-number                f/4    Exposure program        Not defined    ISO speed ratings       ISO 400    Date/time original      25/6/2554 21:11:43    Date/time digitized     25/6/2554 21:11:43    Component config        YCbCr    Shutter speed value     1/2 s    Aperture value          f/4    Exposure bias value     0.00 eV    Metering mode           Pattern    Flash                   Flash fired, auto mode    Focal length            28 mm กระจกหน้ารถเพิ่งเอาไปลุยฝนมาเมื่อกี้เลยเป็นรอย จากคุณ : เกร็งข้อลากยาว เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 21:45:15

ความคิดเห็นที่ 93 ถ้าเป็นกล้องของคุณแมวเหมียวพุงป่อง canon powershot sx210 ก็ให้ปรับไปตรงนี้ ตามรูปโหมดNight Portrait V V V จากคุณ : เกร็งข้อลากยาว เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 21:48:29

ความคิดเห็นที่ 94 ต้องติดตาม - - แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 54 23:01:29 จากคุณ : เด็กDQ เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 22:59:57

ความคิดเห็นที่ 95 ขอแปลกใจหน่อยว่า รูปที่แสดง หมอยืนหลังรถตัวเองใช่ปะ .. ข่าวบอกว่า รถหมอจอดขนาบรถต้นเหตุ แล้วตอนที่รถต้นเหตุออกไป หมอก็ยังไม่ได้มาเลื่อนระ เพิ่งจะเดินมาเลื่อนตอนที่เกิดเหตุ แล้วทำไม เรามองว่า รถหมอมันจอดชิดฟุตบาทจัง มันไม่ห่างออกมาเยอะหน่อยเหรอ ในเมื่อมันจอดอยู่เลนที่ 2 แบบว่ามองเอาจากภาพ เรารู้สึกว่า มันชิดป้ายหาเสียงมากอะ เดาเอานะ สงสัยอะ หรือเรามองผิดนะ จากคุณ : สงสัย (คนธรรมดาคนหนึ่ง) เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 23:49:34

ความคิดเห็นที่ 96 ขอบคุณครับ สำหรับ วิธีการ และ ภาพถ่าย จากคุณ : Sarikanon 1 เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 54 00:26:53

ความคิดเห็นที่ 97 หลักฐาน ก็เห็นๆอยู่ ว่าท่านอภิสิทธิ์ ยืนอยู่ข้างหลังตอนเกิดเหตุ ทำไมไม่ไปถามท่านละ......ตึ่งโป๊ะ.... จากคุณ : เออเร่อ (เออเร่อ) เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 54 01:14:50

ความคิดเห็นที่ 98 ได้ความรู้เรื่องกล้องเพิ่มขึ้นเยอะเลย จากคุณ : Galaxy Force เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 54 01:47:41

ความคิดเห็นที่ 99 ขอโทษนะคะ อยากทราบจริงๆ ว่าท่าน พ อ  ใช้กล้องอะไรถ่ายคะ  เห็นท่านแต่ละคนให้ความรู้แล้วมึนมากๆค่ะ (ขอโทษค่ะ ไม่มีความรู้เรื่องการถ่ายภาพ เล่นกล้อง แฮ่ๆๆ ^^' ) แล้วอีกอย่างนะคะดูอายุอานามท่าน พอ ก็ปาเข้าไปเกือบ 51 ท่านคงจะเก่งการใช้เทคโนโลยีกล้องมือถือมากๆเลยนะคะ (ขนาดดิฉันยังตั้งค่าถ่ายรูปง่ายๆจากมือถือให้ออกมาเทพแบบนี้ไม่ได้เลยค่ะ  - -') ทั้งขับรถ ทั้งตั้งค่าการถ่ายรูป ทั้งอารมณ์ที่กำลังโมโห (อันนี้ไม่แน่ใจค่ะ) แล้วพวกเหล่าขบวนท่านอีก 3 คนหล่ะคะ นั่งเป็นไม้ตีพริก (ขอโทษนะคะที่ใส่อารมณ์นิ๊สสส ) ไม่รู้สึกรู้สาถึงการกระทำของคนขับรถ (ซึ่งตนต้องฝากชีวิตในช่วงอยู่ในรถไว้) ที่ทั้งเล็ง ทั้งตั้งค่ากล้อง  นึกภาพตามแล้วพิลึกดีค่ะ คงตะกุกตะกักน่าดู ขัดความรู้สึกมากๆค่ะ (หรือว่าขบวนเหล่านั้นอาจจะส่งเสริม เชียร์ มองทางให้ ก็เป็นอีกกรณีค่ะ )         ปอลิง   ดิฉันรู้เพียงอย่างเดียวค่ะว่า  ถ้ามีคนเจ็บ (จะจากเราหรือไม่ก็ตามแต่) แล้วเราอยู่ในเหตุการณ์ ต้องหยุดช่วยหรือลงมาดู (ตามประสาไทมุง) ไม่ใช่ปิดไฟแล้วเผ่นแนบหายไปตั้งนาน (สงสัยไปตกใจอยู่ o _O) ย้ำ!!  อาทิตย์กว่าๆเลยนะคะที่หายไปตกใจอยู่คร่าาาาา   (ทั้งหมดทั้งมวลคือความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ ถ้าไม่ถูกใจใคร ดิฉันก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ค่ะ ขอบคุณค่ะ ) จากคุณ : BeLoveD_Me เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 54 03:02:51

ความคิดเห็นที่ 100 ติดใจอยู่เรื่องเดียว " ทำไมวนกลับมาถ่ายรูปเสร็จแล้ว ต้องปิดไฟหน้าขับรถจากไป" จากคุณ : TKK newbie เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 54 08:58:24

ความคิดเห็นที่ 101 รูปนี้คงถ่ายตอนรถหยุดอยู่นะครับ ถ้านึกตามภาพจากกล้องวงจรปิดไปด้วย จะมีช่วงที่รถคันนี้ไปหยุดรออยุ๋ด้านหลังรถ ของหมอมุก อาจจะถ่ายไปหลายรูปเพียงแต่ว่ารูปนี้มันดูชัดสุด เลยเอามาเป็นหลักฐาน อาจจะนะครับ จากคุณ : whutzy เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 54 09:58:24