ความคิดเห็นที่ 1 วิวัฒนาการ สัญลักษณ์ Kodak ___________________________________________________________ Kodak ชื่อนี้ต้องยกให้เรื่องกล้องเลย... Logo ชิ้นแรกเป็นตัวหนังสือในวงกลมสไตล์ art มาเลยทีเดียว จนปรับเปลี่ยนมา หลายรูปแบบ เริ่มใส่สี เปลี่ยนตัวอักษร ไปเรื่อยมา และคาดว่าน่าจะยังคงพัฒนา ปรับเปลี่ยนต่อไปอีกเรื่อยๆ แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 54 20:41:44 แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 54 20:40:36 จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 20:36:22

ความคิดเห็นที่ 2 วิวัฒนาการของ Apple หรือ Mac _______________________________________________________ Apple Inc Logo ชิ้นแรกนี้ถูกออกแบบในปี 1976 โดย Ronald Wayne โดยมีผู้ชายที่ คาดว่าน่าจะเป็น sir Isaac Newton นั่งอยู่ใต้ต้นไม้พร้อมกับผลแอปเปิ้ล ลอยอยู่เหนือหัว [Logo อันนี้ไม่ค่อยเข้ากับสินค้าเลย] แต่หลังจาก Apple ได้เปิดตัวเพียงแค่หนึ่งปี ก็ทำการเปลี่ยนรูปแบบ Logo เป็นผลแอปเปิ้ลที่ถูกกัดไปเสี้ยวหนึ่งแทน จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 20:44:46

ความคิดเห็นที่ 3 Adobe บริษัทซอฟต์แวร์ขนาดใหญ่ ที่แรกเริ่มทำธุรกิจเกี่ยวกับการ เขียนโปรแกรมบน desktop publishing เลยทำให้ Logo ชิ้นแรกดูเหมาะไป ทางนั้นมากกว่า จากนั้นก็เริ่มจะเน้นตัว A ให้ดูมีสไตล์ แต่สุดท้ายตัว A อาจ จะยังไม่สื่อถึง Adobe เท่าไหร่ จึงกลับมาใช้ชื่อเต็มอีกครั้ง และเป็น Logo ในแบบที่เราคุ้นตากัน จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 20:46:54

ความคิดเห็นที่ 4 IBM ชื่อเต็มว่า "International Business Machines" อีกแบรนด์ดัง ที่จำหน่ายคอมพิวเตอร์ สำหรับ Logo ของ IBM ใช้ลูกเล่นของตัวหนังสือมา โดยตลอดตั้งแต่เริ่มแรก จนถึงปี 1947 IBM เปลี่ยน สไตล์ตัวหนังสืออ่าน ง่ายขึ้น และบ่งบอกถึงตัวตนที่ชัดเจนด้วยตัวพิมพ์ "IBM" และมีการปรับครั้ง สุดท้ายพร้อมเติมสีฟ้าในปี 1972 จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 20:48:21

ความคิดเห็นที่ 5 Nokia Logo ชิ้นแรกของ Nokia ในปี 1865 แหม..ดูเหมือนขายสินค้าอุปกรณ์ ตกปลาเลย ต่อมาในปี 1898 ก็เปลี่ยนเป็นอาการแสตมป์ซะงั้น [หน้าตาคล้ายครึง] จนในปี 1998 Nokia เริ่มแสดงความเป็นตัวตนที่ชัดเจน ใน Logo ของตัวเอง จนกลายเป็น Nokia, Connecting People ในปัจจุบันนี้ จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 20:50:28

ความคิดเห็นที่ 6 Microsoft แหม..นี่ก็เป็นอีกแบรนด์ที่ใช้ตัวหนังสือเป็น Logo สินค้า แถมยังยึดมั่นในคำ เดิม "Microsoft" ไม่เปลี่ยนแปลง ก็แน่ละชื่อสินค้าเขานี่หน่า แต่เอ๊ะ!.. เห็นหลังๆ Microsoft ไหนเลยมีเพิ่มสโกแกนสินค้าด้วยละเนี่ย จนล้าสุดใช้คำว่า 'Your potential. Our passion' ต่อท้าย Microsoft จนถึงทุกวันนี้ จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 20:51:47

ความคิดเห็นที่ 7 Firefox Firefox หรือ "จิ้งจอกไฟ" แลกเริ่มเดิมที่คือ นกฟีนิกส์ (Phoenix) ห รือ นกไฟ ในชื่อ "Firebird" มาก่อน แต่เจ้ากรรมชื่อนี้ดันไปซ้ำกับ Browser เจ้าอื่น ทำให้ต้องเปลี่ยนชื่อมาเป็น "Mozilla Firefox" ที่เรารู้จักกัน ดีในนาม Firefox กับ Logo จิ้งจอกกอดลูกโลก จนเป็นที่โด่งดังติดตาถึงทุกวันนี้ จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 20:53:30

ความคิดเห็นที่ 8 ทุกอันใช้หลักลดทอน เรียบๆ อยู่ได้นานค่ะ จากคุณ : หมอนทองสองใบกับใจเหงาๆ เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 20:54:58

ความคิดเห็นที่ 9 วิวัฒนาการ ตราสัญลักษณ์ สินค้า อื่นๆ.... blog.:-) แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 54 20:58:46 จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 20:58:21

ความคิดเห็นที่ 10 เดี๋ยวนี้ต้องถูกหลักฮวงจุ้ย ถูกต้องตามธาตุทั้ง 5 ด้วยใช่มั้ยครับ จากคุณ : J@ckTheRipper (devilmanx) เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 20:58:56

ความคิดเห็นที่ 11 อันนี้ ใช่ โลโก้เก่า Nikon หรือเปล่า... ใครทราบก็ยืนยัน ด้วยครับ จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 21:07:03

ความคิดเห็นที่ 12 ความคิดเห็นที่ 10     เดี๋ยวนี้ต้องถูกหลักฮวงจุ้ย ถูกต้องตามธาตุทั้ง 5 ด้วยใช่มั้ยครับ จากคุณ : J@ckTheRipper   _______________________________________________________ ในความคิดเห็นส่วนตัว ในฐานะ เคยเป็นช่าง อาร์ตโรงพิมพ์ และเคยออก แบบโลโก้มาบ้าง บริษัทเปิด ใหม่ๆ ถ้าให้คนจดจำ แบรนด์ ได้เร็ว ต้องเป็นคำที่อ่านได้ ชัดเจน ไม่เกิน 3 พยางค์ เราจะเห็นว่า แบรนด์ดังระดับโลก ส่วนใหญ่ จะเป้นคำที่อ่านได้ ไม่ใช้คำย่อ เช่น Coke Pepsi Apple Nikon Cannon Pantex ... ส่วนใหญ่ โลโก้ ที่จำง่าย ต้องอ่านออก ไม่เกิน 3 พยางค์ ยิ่งสองพยางค์ ยิ่ง จำง่าย.. ยิ่งในโลก อินเตอร์เน็ต ใครคิดจะตั้งชื่อ บริษัท ต้องเน้นชื่อ ให้เป็น ตัว A นำหน้า รับรอง อยู่ต้นๆ ของเสริจ เอนจิน ทั้งหลาย อย่าใช้ ตัว L ในการตั้งชื่อบริษัท เพราะเวลาพิมพ์ แอล ตัวเล็ก มันเหมือนตัว ไอ.. ทำให้สับสน... โดยเฉพาะ ในการเสริจหาในอินเตอร์เน็ต l I ลองดูนะครับ บางฟ้อนต์ ระหว่าง แอลกับไอ ดูไม่ออกเลย   ปล. ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 54 23:36:40 แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 54 21:20:54 จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 21:16:29

ความคิดเห็นที่ 13 เรื่อง แอล กับ ไอ เพิ่งรู้นะเนี่ย.. ขอบคุณครับ จากคุณ : หน้าม้ารับจ้าง เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 21:31:34

ความคิดเห็นที่ 14 ^ ^ น้า หน้าม้ารับจ้าง ... มันเป็นประสบการณ์ตรงของผมเองครับ สมัยทำงานกับญาติ ของผม แกตั้งชื่อ บริษัทเป็นอักษรย่อ 4 ตัว คือ LSXX (XX คืออักษรตัวอื่นนะครับ) เวลาลูกค้าส่ง อีเมลมา มักจะพิมพ์ เป็นตัว ไอบ่อยๆ lsxx@... มีปัญหามาตลอดเลยครับ แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 54 21:43:21 จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 21:40:33

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณครับ..โลโก้เก่าๆผมยังไม่เกิดเลยจริงๆ.. จากคุณ : naryak เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 21:50:29

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่มีของไทยบ้างหรือครับน้า จากคุณ : พายหอม&พีมะ เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 22:09:15

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณครับ...น้าลีโอ จากคุณ : Advil เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 22:58:14

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณครับน้าจิโร่ จากคุณ : raksapondet เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 23:09:56

ความคิดเห็นที่ 19 รุ่นหลัง ๆ เนี่ย เน้นชื่อ จะได้จำได้ และความเรียบง่ายนะคะ ขอบคุณที่นำมาให้อ่านและชมคะ จากคุณ : Angel Tanya เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 23:24:49

ความคิดเห็นที่ 20 เสริมอีกนิด ... การออกแบบโลโก้ เป็นตัวหนังสือ เอนหลัง แสดงถึงการเคลื่อนไหว (Movement) ไม่หยุดนิ่ง .. มุ่งไปข้างหน้า เพราะเราอ่านหนังสือจากซ้าย ไปขวาส่วนใหญ่... อันนี้ ก็ ความคิดเห็นส่วนตัวเหมือนกันครับ ผิดถูก ก้ ขออภัย จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 23:40:58

ความคิดเห็นที่ 21 ย่องๆ เข้ามาดู ตอบเปิดหลับตาข้างนึง อีกข้างหรี่ไว้ ในใจนึก ตูจะโดนหลอกอีกเปล่า.... ขอบคุณสำหรับสาระครับ จากคุณ : ตาบอดสี เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 23:58:33

ความคิดเห็นที่ 22 ของ canon รุ่นแรก นี้นึกว่าโลโก้โรงเรียนช่างกล จากคุณ : sk8er60yd เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 00:41:25

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่ทราบว่ามีใครพอจะทราบวิวัฒนาการของ TOKYU-HOT บ้างครับ อุอุ โดน CENSOR ไหมเนี่ย จากคุณ : LT SOLID SNAKE เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 01:38:55

ความคิดเห็นที่ 24 อืมม ได้รับรับข้อมูลดีๆ ที่นำเสนอ อีกเรื่องนึง จากน้าลีโอ ต้องขอขอบคุณหลายๆ เด้อขับ จากคุณ : malesh เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 03:14:20

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ นะคะ จากคุณ : NANFA_WK เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 07:19:10

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณครับน้าลีโอ จากคุณ : ลุงเปี๊ยก (kajohnwit) เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 07:48:37

ความคิดเห็นที่ 27 เพิ่มเติมส่วน Kodak ให้นิดนึง EKC  ย่อมาจาก  Eastman Kodak Company Eastman  คือ นามสกุลของ George Eastman ผู้คิดค้นฟิล์ม และก่อตั้งบ. Kodak จากคุณ : EITHER เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 08:29:24

ความคิดเห็นที่ 28 แจมด้วยครับ โลโก้ โฟล์คสวาเก้นครับ แต่ก่อนใช้โลโก้ที่ชาวโฟล์ค ขนานนามว่า "หมาแดงบนกำแพงขาว" และเปลี่ยนมาใช้ VW ช่วงปี1962 เป็นต้นมาครับ จากคุณ : เด็กหนอนข้างบ้าน(CND) (blue bike) เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 08:40:07

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณครับ .. จากคุณ : TOAD FIGHTER เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 08:58:03

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณครับน้าลีโอที่ให้ความรู้ ตอนนี้พอดีจะออกแบบโลโก้อยู่เหมือนกัน เป็นร้านรับงานเซอร์วิสเล็กน้อยๆ ชื่อร้านก็ยังไม่มี กำลังลองๆศึกษาเรื่องการออกแบบโลโก้ ในอินเตอร์เน็ตอยู่ครับ มีเวปไซต์พอจะแนะนำมั้ยครับ จากคุณ : J@ckTheRipper (devilmanx) เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 10:46:12

ความคิดเห็นที่ 31 อันนี้เคยเรียนตอนเรียน marketing นะครับ หลักการต่างๆ แต่ลืมไปหมดแล้ว จริงๆ มันเป็นเรื่องที่สนุกมากเลยนะครับ หลักการต่างๆ และเหตผลของแต่ละ LOGO เนี่ย ช๊อบชอบ จากคุณ : panda_bs เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 15:21:14

ความคิดเห็นที่ 32 เมื่อก่อน โนเกีย ไม่ได้ขายอุปกรณ์โทรศัพท์อย่างเดียว เค้าขายหลายอย่างมาก มียางรถยนต์ด้วย สุดท้ายหันมาเอาดีทางมือถือ และอุปกรณ์อย่างเดียว จากคุณ : JoeRazz เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 11:44:18

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณคราบ จากคุณ : ^gismo^ เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 13:11:25

ความคิดเห็นที่ 34 เจ๋งค่ะ ! จากคุณ : eunjong38 เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 54 19:19:18