Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
แชร์ประสบการณ์ที่เลวร้ายที่สุดสำหรับการจ้างตากล้องนิสัยแย่มาถ่ายรูปรับปริญญา เป็นอุธาหรณ์ให้เพื่อนๆ น้องๆ ต่อไป!!~ ติดต่อทีมงาน

** เรื่องที่จะเล่าจะค่อนข้างยาวมากนะคะ อดทนอ่านกันนิสนึงคะเพื่อนๆ
         การรับปริญญาเป็นโอกาสสำคัญที่ทุกคนๆต้องมีครั้งนึงในชีวิต เราอยากจะแชร์เรื่องนี้ไว้ให้เพื่อนๆ น้องๆ และพี่ๆตากล้องได้ลองพิจารณากันในเคสนี้ เพื่อจะได้ระมัดระวังและไม่ทำนิสัยแย่ๆ แบบนี้กับวันที่สำคัญที่สุดของเรา  ที่มาของตากล้องคนนี้ก็มาจากรุ่นน้องที่รู้จักกันแนะนำให้เพราะว่าพี่คนนี้เค้าเป็นแฟนของรุ่นน้อง เราเองก็เลยคุยรายละเอียดและตกลงจ้างเค้าเป็นตากล้องในงานรับปริญญาทั้งสองวันของเรา ซึ่งตอนที่คุยกันก็พูดไว้อย่างดิบดีว่าเป็นมืออาชีพ ใช้กล้องอย่างดี บริการหลังจากขายด้วยซีดีสกรีนอย่างดีและผ้าใบผืนใหญ่เป็นของแถม ในราคา 5,000 บาทถ้วนกับเวลาวันครึ่ง ซึ่งเราต้องยอมรับจริงๆว่ามีงบน้อยและไม่อยากรบกวนพ่อแม่เลยตกลงเลือกช่างภาพคนนี้ เพราะว่าเห็นว่าเค้าน่าจะเก่งและราคาก็ไม่สูงนัก (แต่สุดท้ายต้องมาน้ำตาตกแบบนี้ T,T)

         ในวันงานทั้งสองวันก็มีอุปสรรคบ้างเล็กน้อยแต่เราก็ไม่ได้ติดใจอะไร ก็ถือว่าพี่เค้าก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ตามที่ตกลงกันเอาไว้ แม้ว่าจะไม่ได้ช่วยคิดท่าทางในการโพสท่าถ่ายรูปให้เราเลยแม้แต่นิด ทั้งที่เราก็แจ้งไว้ก่อนแล้วว่าเป็นคนโพสท่าไม่เก่งอยากให้ช่วย แต่ก็โอเคเข้าบอกว่าอยากให้เป็นธรรมชาติ โพสท่ามากจะดูไม่เหมาะก็โอเคอ่า ถือว่าเราไม่เก่งเอง อันนี้ไม่ว่ากัน แต่เวลาเห็นตากล้องเพื่อนคิดท่าให้ตลอดมันก็แอบเฟวเล็กๆๆ ส่วนเรื่องของการจ่ายเงิน เราเองก็จ่ายมัดจำแรกไป 2000 บาท และพอจบวันสุดท้ายที่ถ่ายก็ให้ส่วนที่เหลือครบถ้วนตามกำหนด และกลับมานั่งรอลุ้นภาพสวยๆ หลังงานรับปริญญาสิ้นสุดลงไปอีก 1 เดือน

         ปัญหาใหญ่ก็มาอยู่ที่ตอนรับซีดีภาพที่ส่งมาทางไปรษณีย์คะ  บ้านของเราเองเคยมีปัญหาในเรื่องของการไม่มีคนอยู่บ้านจึงเลือกที่จะส่งพัสดุนั้นไปที่บ้านแฟนซึ่งมีคุณแม่แฟนอยู่ทุกวันและใกล้ที่ทำงานเราด้วย จึงคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่แล้วพอพัสดุมาส่งแม่แฟนก็เซ็นรับให้เรียบร้อยและวางไว้รอให้เราซึ่งจะไปบ้านแฟนช่วงเย็น ปรากฏว่าพอเราแกะห่อดูก็พบกล่องซีดีใสที่มองเห็นแผ่นซีดีภาพของเราที่หักเป็นเสี่ยงๆ กับรูปภาพที่อัดมาอีกนิดหน่อย บอกตรงๆว่าตกใจมาก และรีบกดโทรศัพท์โทรหาช่างภาพทันที ก็คิดนะว่าคงเพราะการขนส่งจึงทำให้เกิดการชำรุดเช่นนี้จึงรีบโทรไปบอกพี่เค้า เพื่อให้เค้ารับรู้และไรด์ไฟล์ภาพในแผ่นซีดีให้อีกครั้งก็จบเรื่องกัน แต่กลับได้คำตอบที่ว่า ไฟล์ภาพของเราพี่ลบไปจาก HDD แล้ว เพราะพอส่งของทางไปรษณีย์ มีคนเซ็นรับเรียบร้อยก็ถือว่าหน้าที่ความรับผิดชอบของพี่นั้นได้จบลงแล้ว หากจะเรียกร้องคงต้องไปโวยที่ไปรษณีย์เอง  โห...ฟังแค่นั้นอ่า น้ำตาไหลพรากพูดอะไรไม่ออกอีกเลย ก็ตัดสินใจให้ผู้ใหญ่คุยแทนให้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป สุดท้ายแม่ก็ขอร้องให้กู้ไฟล์ให้หน่อยไรด์ลงแผ่นธรรมดาไม่ต้องสกรีนอะไรสวยงามก็ได้ ได้รูปมาไม่ครบก็ไม่เป็นไร ทางช่างกล้องบอกอีกว่าตอนนี้ HDD เค้าใส่งานอื่นอยู่และต้องทำรูปให้คนอื่นก่อนถึง 3 คนกว่าจะมีเวลามากู้ไฟล์ให้ สุดท้ายตกลงกันว่าเราต้องรอไปอีก 3 เดือนเต็ม ซึ่งเราก็ตัดสินใจรอต่อไป เราเองเสียความรู้สึกมากจริงๆ ไม่เข้าใจว่าจะรีบลบภาพไปทำไม ในเมื่อลูกค้ายังไม่ทันได้โทรไปบอกเลยว่าเปิดได้ไหม แผ่นซีดีมีปัญหาอะไรหรือเปล่า ถ้าเกิดแผ่นไม่หักแต่เกิดเปิดไฟล์ดูไม่ได้ คุณก็ลบภาพแล้วอยู่ดียังงั้นซิใช่ไหม  นี่คือบริการหลังจากการที่แย่ที่สุดที่เคยเจอมาในชีวิต และไม่มีทีท่าอยากแสดงความรับผิดชอบเลยซักนิด เอาแต่โทษไปรษณีย์แล้วให้ไปเรียกร้องค่าเสียหายจากไปรษณีย์เอง เพราะหน้าที่เค้าสิ้นสุดไปแล้ว (เรียกร้องไปรษณีย์ได้ค่าแผ่นซีดีไม่กี่ร้อยบาท แล้วได้ไฟล์รูปคืนไหม๊ล๊า)

         ระหว่างที่รอซึ่งอีกเดือนหนึ่งจะถึงกำหนดรับของ วันนั้นเป็นวันเกิดของเรา เค้าก็มาเมนท์ในเฟซเราว่า พี่กำลังทำให้อยู่นะ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เลย.... เพื่อนๆลองคิดดูว่าอ่านแล้วคงจะมีความสุขมากในวันเกิดที่รู้ว่าตลอดเวลาเกือบสองเดือนที่รอคอยไฟล์กู้คืน บัดดี้ยังไม่ได้อะไรเลย!! เราก็ตัดสินใจพิมพ์โต้ตอบกลับไปด้วยความผิดหวังและโทรไปคุยกับเค้า ซึ่งทางเค้าเองก็โมโหที่เราต่อว่า และบอกว่าที่ทำให้อยู่ตอนนี้ก็เพราะสงสารไม่งั้นคงไม่ทำให้ สุดท้ายเราก็ปิดท้ายว่า ยังไงต้องได้รับไฟล์ภาพที่กู้คืนนั้นในวันที่ 16 ตุลาคม (ซึ่งเป็นกลางเดือนพอดีที่ช่างภาพเคยพูดไว้) โดยเค้าก็ยังบอกว่าไม่มีเวลาไปส่งให้ ถ้าอยากได้ต้องมาเอาเอง ซึ่งต้องเถอะไปถึงบางบอน พระราม 2 ก็โอเค เป็นอันตกลงตามนั้น เหมือนจะจบแต่ก็ยังอีกคะ พอก่อนวันไปรับ 1 วันเราก็โทรไปหาเค้าเพื่อคอนเฟริมเวลาสถานที่ แต่สิ่งที่ได้คือ ไม่รับโทรศัพท์ของเราเลยทั้งที่พยายามโทรหลายครั้ง ซึ่งทางบ้านเราก็คุยแล้วว่าไม่ว่ายังงัยก็จะไปตามที่อยู่ของเค้าที่เรามี นัดกันตอนเที่ยง เราแฟนเราและน้องชายเราก็ไปที่บ้านเค้าแต่บ้านปิด เราก็เลยโทรอีกหลายครั้งกว่าเค้าจะรับซึ่งบอกว่าให้ไปเจอที่บิ๊กซีบางบอนไม่เกินเที่ยง แต่ไม่แค่นั้นนะ เค้าพูดกับเราว่าการรับรูปไฟล์ภาพที่กู้คืนมีค่าใช้จ่ายด้วย ซึ่งเราก็โวยทันทีว่าตั้งแต่คุยกันมา 3 เดือนที่ผ่านมาไม่เห็นเคยพูดเรื่องนี้เลย เค้าบอกกับเราอย่าง... ว่า ไม่ได้บอกไม่ได้แปลว่าไม่มีค่าใช้จ่าย! ยอมรับนะว่าเดือดมากกับประโยคนี้แต่ในเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้วเป็นไงเป็นกัน เราก็เดินทางไปตามนัดเพื่อดูภาพว่าจะสวยพอที่เราจะยอมเสียเงินเพิ่มอีก 2000 บาท

          พอเค้ามาถึงก็เปิดโนตบุคให้ดูภาพที่เค้าบอกว่าพยายามกู้มาแล้ว ซึ่งจากที่ถ่ายเป็นพันๆ รูปได้เพียง 150 ภาพที่เป็นภาพที่แต่งแล้วทั้งสิ้น ลักษณะภาพมีแต่โลโม่ สีจัด คอนทราสหนักไม่มีความเป็นธรรมชาติ และไม่มีไฟล์รูปธรรมดาๆ ที่เราต้องการเก็บไว้เป็นที่ระลึกเลย เราเห็นภาพของเพื่อนๆ ก็มีทั้งแบบโลโม่ แบบสไตล์อื่น และแบบธรรมดาที่เอาไว้เก็บได้ดูกัน แต่ของเรากลับมีแต่ภาพแบบนี้ ซึ่งเราเห็นแล้วแบบผิดหวังกับการรอคอยมาก กู้ไฟล์ยังไงได้มาแต่ภาพที่แต่งแล้วโดยไม่มีภาพธรรมดาเลยซักนิด แล้วเราก็ถามเค้าว่าทำไมเพิ่งมาพูดเรื่องค่าใช้จ่ายตอนนี้  เค้าบอกกับเราด้วยประโยคเดิมๆที่ว่า ไม่ได้บอกไม่ได้แปลว่าไม่มี! (เกลียดประโยคนี้มากจิงๆ) เค้าบอกว่าโพสไว้ในเฟซบุคเค้าแล้ว คิดว่าเราคงเข้าไปอ่านเองได้เรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งเพิ่งมาโพสตอนหลังตกลงกันหลายเดือน (ขอโทษนะคะ คิดว่าเป็นเฟซบุคดาราเหรอ ที่เราต้องเข้าไปติดตาม เพ้อเจ้อจิงๆ)  สุดท้ายเราก็เลยสวนเค้ากลับไปเช่นกันว่า หนูบอกว่าจะมารับภาพ ก็ไม่ได้บอกว่าจะเอาภาพกลับไป ที่สำคัญไม่ได้แจ้งเรื่องค่าใช้จ่ายล่วงหน้า เพราะฉะนั้น หนูก็ไม่เอาเหมือนกัน แล้วเดินจากมาและไม่คิดจะหันกลับไปมองหน้าตากล้องนิสัยแย่ๆคนนั้นอีกเลย โมโหนะ โกดมากจิงๆ ที่โดนแบบนี้ เมื่อเรื่องจะจบแต่เค้าก็ยังไม่เลิกจองเวรเรานะ กลับไปโพสด่าเราด้วยถ้อยคำหยาบคายอีก หาว่าเราทำแผ่นซีดีพังเองแล้วมาเรียกร้อง ถามหน่อย... เพื่อนๆจะทำลายแผ่นซีดีไฟล์ภาพของตัวเองที่ยอมจ่ายตังไป 5000 บาทเพื่ออะไร เพื่อมาเสียเวลา เสียความรู้สึกทะเลาะกับตากล้องนิสัยเสียอย่างเค้างั้นเหรอ เฮ๊อ... สุดท้ายเราก็ลบเค้าออกจากเฟรน แต่คงไม่อาจลบออกจากความทรงจำในใจเราได้ เราก็เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์แย่ๆ นี้ไว้ เป็นอุธาหรณ์ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน  เรามีข้อคิดอยากจะฝากดังนี้

1. จงเลือกตากล้องที่ฝีมือ นัดมาคุยให้รู้เรื่อง อย่าผ่านตัวกลางแม้จะเป็นเพื่อนที่รู้จักกัน บางครั้งการยอมจ่ายราคาที่สูงหน่อย แต่แลกมากับภาพความน่าประใจครั้งเดียวในชีวิตที่สวยงามคงคุ้มค่ากว่ากันเยอะ!

2. ข้อตกลงที่ตกลงกับตากล้องระบุไปให้ชัดเจนเลยว่า ถ้ายังไม่ได้รับชิ้นงานและตรวจเช็คเรียบร้อยกับตาตัวเอง ตากล้องต้องรับผิดชอบในกรณีที่แผ่นชำรุด ทางที่ดีไปรับด้วยตัวเองเลย แต่จริงๆ ถ้าชำรุดไรด์ใหม่ก็จบ แต่เคสเรามันไม่ง่ายยังงั้นไง

3. การจ่ายเงินทางที่ดีไม่ควรจ่ายทั้งหมดตั้งแต่แรก เพราะสุดท้ายพอมีปัญหาเค้าก็ไม่รับผิดชอบอะไรอย่างที่เห็นนี้ เหลือไว้ซักก้อนนึงไว้ค่อยให้ตอนรับงานครบทั้งหมดจะดีที่สุดคะ เพื่อป้องกันกรณีเช่นนี้นั่นเอง!!

** หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนต่อไป ไม่ว่าจะเป็นผู้จ้างหรือตากล้อง ก็อยากจะให้เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นอุธาหรณ์ต่อไป หากใครอยากทราบรายละเอียดของตากล้องคนนี้ รบกวนส่งข้อความมาถามเรา เราจะให้รายละเอียดตากล้องนิสัยเสียคนนี้ และเราหวังว่าคงมีบัณฑิตโชคร้ายแบบเราไม่กี่คน เพราะมันเป็นความทรงจำที่ไม่อาจลืมได้จริงๆ ><”

แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 54 15:44:04

จากคุณ : jayonaraao_rainy
เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:40:50




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com