ความคิดเห็นที่ 1 กางเกงกันน้ำ แนะนำว่าให้ใช้ของดีหน่อยนะครับ เช็คก่อนมาก็ได้ว่ารั่วรึเปล่า ของผมไม่ได้เช็คมา รั่วซะ ไม่มีประโยชน์ รองเท้าบู๊ทครับอย่ารองเท้าแตะ อันตรายมาก สัมภาระให้พร้อม วางแผนให้ดีครับ ว่าเราจะเข้าบ้านกี่โมง ออกกี่โมง เพราะใช้เวลาเดินนานกว่าปกติมาก เส้นทางนี้ปกติเดินไม่เกิน 10นาที ของจริงเดิน 45นาที และกินกำลังขามากๆ ขากลับเริ่มจะล้า เราจะกินข้าวเที่ยงที่ไหน กินก่อนเข้าหรือหลังเข้า แต่ผมแนะนำว่า อย่าไปกินในบ้านครับ กินให้เสร็จๆไปเลยซัก 11โมง อัดไปให้อิ่มๆ แล้วซื้อขนมติดไปนิดหน่อย งานคุณจะเยอะมากจนไม่มีเวลากิน น้ำดื่มคนละขวด สาเหตุที่ไม่แนะนำให้กินในบ้าน เพราะเชื้อโรค เชื้อราเยอะมากครับ เดี๋ยวรูปหลังๆผมจะลงให้ดู จะกินข้าวไม่ลง น้ำกินพอดี เดี๋ยวหาห้องน้ำอีก ยุ่งอีกเพราะน้ำประปาแทบจะไม่ไหล ที่สำคัญมากๆที่อยากจะบอก คือเตรียมกาย เตรียมใจให้ดีครับ ภาพที่คุณเห็นตรงหน้าอาจจะทำให้คุณอยากร้องไห้ อย่าไปคิดครับ ตัดงานเป็นชิ้นย่อยๆ แล้วทำทีละชิ้น ทำทีละอย่าง อย่าไปคิดว่าเราต้องทำอะไรทั้งหมด มันท้อครับ แก้ไขเมื่อ 28 พ.ย. 54 22:46:47 จากคุณ : เสี่ยโต้ง เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 54 22:12:50

ความคิดเห็นที่ 2 สิ่งนึงที่จำเป็น หากไม่ได้ใช้เรือ คือ หากะละมังพลาสติกซักใบครับ ช่วยทุ่นแรงได้มาก เวลาขนของเข้าออก ของจริงก็ไม่ได้เอาเข้าไป ไปเอาจากในบ้านออกมา ทุ่นแรงแบกของได้อย่างดี ของง่ายๆที่บางทีก็นึกไม่ถึงครับ จากคุณ : เสี่ยโต้ง เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 54 22:15:26

ความคิดเห็นที่ 3 นี่คือด่านแรกที่มาถึงครับ กุญแจหน้าบ้านจมน้ำนาน จนเริ่มเป็นสนิม ของที่ต้องติดไปอย่างสำคัญ คือ น้ำยากัดสนิมครับ หรือเอายี่ห้อ SONAX ก็ได้ กระป๋องสีส้มๆ หาซื้อง่ายดี ฉีดเข้าไปในรูกุญแจ แล้วเอากุญแจบิดๆไปเรื่อยๆ ฉีดใหม่ เอาลูกกุญแจใส่แล้วบิดๆ ทำซัก 2-3 รอบ ก็จะไขได้ ด่านแรกก็เริ่มเรียกเหงื่อได้แล้ว จากคุณ : เสี่ยโต้ง เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 54 22:16:31

ความคิดเห็นที่ 4 ด่านถัดไป คือประตูทางเข้าบ้านครับ หากประตูทำด้วยไม้ มันจะบวม ไม่สามารถเปิดประตูได้.. ที่ต้องติดตัวไปด้วย คือค้อน แบบใหญ่หน่อย มีหัวงัดจะดีมาก และเตรียมหัวไม้หน้าสาม ยาวประมาณคืบไปด้วย ปกติน้ำจะท่วมไม่ถึงขอบบนประตู ดังนั้น หากบิดลูกบิดได้ ก็ต้องออกแรงเย่อประตูให้ค่อยๆอ้าออกทีละนิด เทคนิคคือ ไม่ต้องใช้แรงมากนะครับ โยกไปโยกมาเรื่อยๆ ค่อยๆเพิ่มแรง หากประตูอ้ามากพอที่จะใส่หัวไม้หน้า3ที่เราเตรียมมาได้ ก็ใส่มันลงไปเลยแบบนี้.. หากเราสามารถใส่หัวไม้ลงไปได้แบบในรูปแล้ว ก็สามารถเอาค้อนค่อยๆงัดประตูได้ งัดทีละนิดๆ หากมีท่อแป๊บประปาที่เป็นท่อเหล็กยาวซักเมตรนึงจะดีมาก จะสามารถผ่อนแรงช่วงนี้ได้เยอะ ค่อยๆงัดไปเรื่อยๆจากด้านบนลงล่าง ประตูจะค่อยๆเผยอออก แต่บอกได้คำเดียวว่า หากเป็นผู้หญิงไปคนเดียว ไม่มีทางครับ แต่ละบานใช้เวลาครึ่งชั่วโมงเป็นอย่างน้อย หรือจะติดไม้หน้าสามยาวซักเมตรนึงแทนค้อนก็ได้ ตอนผมไปไม่นึกว่าจะโหดขนาดนี้ เจอหัวไม้ยูคายาวประมาณ 1 ศอก กับหัวไม้หน้า 3 พอดี ต้องใช้ระบบคานงัดคานดีดอยู่นาน นี่เป็นกรณีประตูหน้าเปิดที่ต้องเปิดออกครับ แต่หากเราเข้าในบ้านไปแล้ว เจอบานออกหลังบ้านแบบที่ต้องดันจากในบ้านออกไป นี่ก็ปัญหาเหมือนกัน เพราะเราใช้ค้อนไม่ได้แล้ว หัวไม้หน้าสามที่เราเตรียมมาจะเป็นประโยชน์ ให้มันไปอยู่ที่ตีนล่างประตู แล้วเอาค้อนหรือหัวไม้กระหน่ำเข้าไปเลย (ทำเหมือนเราตีกอล์ฟ โดยที่ลูกกอล์ฟคือหัวไม้หน้า3 ไม้กอล์ฟคือค้อนหรือไม้หนักๆที่เราเตรียมไป) หวดครับ อย่าเอาเท้าเตะ ช่วงแรกๆผมเอาเท้าเตะ สรุปว่าเจ็บขาจนถึงวันนี้และประูไม่ขยับแม้แต่น้อย จากคุณ : เสี่ยโต้ง เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 54 22:19:02

ความคิดเห็นที่ 5 สิ่งที่ผมเคยบอกไปตอนแรก ว่าก่อนเข้าบ้าน คุณต้องเตรียมกายเตรียมใจให้พร้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ใจ" ครับ หากมีพ่อแม่ที่ค่อนข้างอ่อนไหว เสียใจง่ายกับเรื่องแบบนี้ ผมไม่แนะนำให้เข้าไปในวันแรกครับ ขนาดใจแข็งๆแบบผม ยังน้ำตาซึมไม่ได้.. สภาพฝั่งบ้านเช่าที่ผมทำเป็นโรงงานผลิตน้ำยาทำความสะอาด เห็นท่อไอเสียรถมอเตอร์ไซค์มั๊ยครับ ด้วยความที่มันนาน ทำให้กองไม้พาเลทที่ผมยกสูงไว้รับน้ำหนักไม่ไหว ทุกอย่างที่กองสูงไว้ โค่นลงมาทั้งหมด ส่วนโรงงานผมต้องเ้ว้นไว้ทั้งหมด รอให้น้ำแห้งหมดจริงๆ ค่อยกลับมาทำ จากคุณ : เสี่ยโต้ง เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 54 22:20:15

ความคิดเห็นที่ 6 เครื่องแต่งกายขณะเข้าบ้านหลังน้ำท่วมครับ.. ชุดที่จำเป็นประกอบด้วย แว่นตา(อาจซื้อแบบแว่นตาใสที่นักเคมีใช้กัน) ถุงมิอยาวถึงข้อศอก กางเกงกันน้ำ รองเท้าบู๊ท หากมีเสื้อคลุมอีกตัวก็จะดี และที่สำคัญ หน้ากาก ที่ใช้จะต้องเป็นชนิดที่กันเชื้อราได้ ที่แนะนำเป็น 3M รุ่น 8210 หรือ 8822 หรือ 9322 รุ่น 8210 สามารถซื้อได้ตาม modern trade ทั่วไป อย่าใส่หน้ากากธรรมดา เพราะไม่ได้ช่วยอะไรจากสปอร์ของเชื้อรา สำหรับผู้หญิง ถ้ามีหมวกคลุมผมด้วยก็จะดี และข้อสำคัญ ทำเสร็จแล้วรีบเปลี่ยนชุด ล้างน้ำสะอาด (ในรถควรเตรียมน้ำไว้อีกชุด ไว้ล้างตัวตอนเสร็จงานก่อนขึ้นรถอีกรอบ) รีบกลับบ้านล้างตัวสระผมทันที..ถ้าอบไอน้ำลวกผิวฆ่าเชื้อโรคได้จะดีมาก..(อันนี้ล้อเล่น) เหมือนเคยอ่านเจอ ว่าสปอร์ของเชื้อรา สามารถไปเติบโตในปอดได้..จริงเท็จไม่แน่ใจ แต่ก็น่าเชื่ออยู่ จากคุณ : เสี่ยโต้ง เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 54 22:21:55

ความคิดเห็นที่ 7 ระบบกลอน ตัวล๊อคต่างๆจะ fail ทั้งหมด ดังนั้นสเปรย์ SONAX ที่ผมเคยบอกให้เอาติดตัวเข้าไปด้วย จะมีประโยชน์มากๆ ฉีดไว้เลยครับ จะช่วยเราได้เยอะ ให้เอาแม่กุญแจสำรอง หรือโซ่คล้อง ติดตัวไปเพิ่ม เพราะคุณจะไม่ได้อยู่บ้านแน่ๆในวันแรก และประตูที่เปิดขึ้นมาแล้วจะไม่สามารถปิดได้ อาจต้องใช้กุญแจที่เราเตรียมมาปิดไปก่อนครับ จากคุณ : เสี่ยโต้ง เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 54 22:22:44

ความคิดเห็นที่ 8 อุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างยิ่ง ไม้ดันน้ำ(อันนี้เป็นพระเอกเลย) ไม้ถูพื้นแบบแปรงขนอ่อน ไม้กวาดแข็ง(อันนี้ไม่ค่อยได้ใช้) Foggy เอาไว้ผสมสารเคมีฉีดผนัง ซื้อแบบทำสวนที่มีปั๊มด้วยก็จะดีมาก ไม่เมื่อยมือ สายยางยาวๆ ถ้าที่บ้านไม่มีก็ต้องเอาไป ช่วยได้มากๆตอนล้างผนัง ต้องยาวพอให้ลากได้ทั่วบ้าน ถ้าที่บ้านมีถังน้ำอยู่แล้วก็ ok กะความยาวสายยางให้ดี ยิ่งยาวเท่าไหร่ ยิ่งทุ่นแรงได้มากขึุ้นเท่านั้น สังเกตจากรูปว่า น้ำที่พื้นยังมีอยู่ น้ำด้านนอกเพิ่งลดจากตัวบ้านไป ช่วงนี้เป็นเวลาทองของการล้างบ้าน เพราะล้างไม่ยาก (ไม่ยากจริงๆนะ) ถ้ารอให้มันแข็งตัวแล้วนั่นล่ะ นรกมาเยือน ผมเคย post เรื่องปืนฉีดน้ำแรงดันสูงไว้ ที่บ้านผมมีอยู่แล้ว แต่ใช้ไม่ได้ เนื่องจากน้ำยังอ่อนอยู่มาก ต้องใช้ระบบ manual อย่างเดียว จากคุณ : เสี่ยโต้ง เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 54 22:23:53

ความคิดเห็นที่ 9 ท่อจับงูครับ อันนี้สั่งให้ลูกน้องทำให้ จริงๆก็ทำไม่ยากครับ ท่อ PVC 4หุน อุดปลายด้วยตัวอุดท่อ แล้วเจาะรู 2 รู ร้อยเชือกเข้าไปให้ปลายไปโผล่อีกด้าน เวลาคล้องงูพลาดแล้วจะได้ดันเชือกได้เลย..ถือเป็นโชคดีที่ไม่ได้ใช้ แต่ตอนน้ำแห้งจริงๆไม่แน่ อุปกรณ์พวกนี้ทำไม่ยากครับ ติดตัวไว้ไม่เสียหาย ฝาที่เห็นเป็นฝาของสเปรย์ SONAX ครับ และเห็นเชื้อราที่เฟอร์นิเจอร์มั๊ย..นี่ล่ะนรกของจริง ตู้ไม่ได้จมน้ำนะครับ แต่ผมไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเหมือนกัน จากคุณ : เสี่ยโต้ง เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 54 22:24:31

ความคิดเห็นที่ 10 น้ำฉีด แล้วล้างพื้นไปก่อนเลยครับ 1 รอบ ปล่อยน้ำเข้าบ้าน แล้วเอาไม้ผลักน้ำดันๆออกไปเรื่อยๆ โคลนมันจะเจือจางลงโดยตัวมันเอง เอาแปรงขนอ่อนขัดๆไปด้วยครับ ถ้าผ่านพ้นขั้นตอนนี้ไปได้ จะเห็นได้เลยว่าพื้นดูดีขึ้นมากมายก่ายกอง สภาพนี้ดีขึ้นเยอะแล้วนะ มาตอนแรกร้องโอ้วววว จากคุณ : เสี่ยโต้ง เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 54 22:25:34

ความคิดเห็นที่ 11 ให้ไปซื้อไฮเตอร์ หรือน้ำยาซักผ้าขาว ที่มีส่วนผสม sodium hypochlorite as available chlorine 6% w/w ซึ่งเดี๋ยวจะ post ในรูปต่อไป ผสม 20 ml / น้ำ 1 ลิตร ซึ่งกี่ ml ไม่ต้องตกใจว่าเราจะรู้ได้ยังไง เพราะที่ฉลากเค้าจะมีเขียนอยู่ ขวด 600 ml 1่ฝา = 10 ml ส่วนขวด 2500 ml 1 ฝา = 24 ml ผสมใส่ขวดน้ำก่อน เข้าให้เข้ากัน แล้วค่อยเทใส่ foggy ถ้าเป็น foggy แบบมีปั๋มที่เค้าทำสวนจะดีมาก เพราะประหยัดแรงได้เยอะ ฉีดไว้ให้ทั่วบริเวณผนัง หรือ บริเวณที่เชื้อราขึ้น ทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง แล้วลงแปรงขัด ล้างออกเลย นี่ก็จะฆ่าเชื้อโรคและทำความสะอาดผนังได้ระดับนึง ถ้ามีโอกาสได้ทำความสะอาดบ้านต่อเลย (เพราะต้องล้างซ้ำๆ) ครั้งที่ 2 ให้ผสมเดทตอล ในอัตราส่วนผสม 250 ml ต่อน้ำ 5 ลิตร (250 ml ก็ให้ดูที่ฝาอีกเหมือนกัน) ผสมน้ำแล้วเทใส่ foggy ฉีดใส่ผนัง พื้น ฝ้า บริเวณที่เป็นเชื้อรา ก็จะสามารถฆ่าเชื้อได้ดีเลย แต่จะมีผลฆ่าเชื้อต่อไปได้อีก 2-3 เดือน ถ้ายังไม่หนำใจ ก็ต้มน้ำเลย ราดไปซะ ผนังยังไงก็ต้องทาสีใหม่อยู่แล้ว แต่ไม่ต้องรีบเพราะต้องให้มันแห้งอย่างน้อย 3 เดือน ก็ราดไปเลย เสร็จแล้วฉีดเดทตอลอีก..ช่วงเข้าบ้านใหม่ๆ แนะนำว่าอย่าเิพิ่งทำอาหารกิน ซื้อกินข้างนอกไปก่อน เพราะเชื้อโรคที่เกี่ยวข้องกับทางเดินอาหารจะมีเยอะมาก ต้องรอซักระยะ จากคุณ : เสี่ยโต้ง เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 54 22:27:00

ความคิดเห็นที่ 12 นี่ให้ดูส่วนผสมที่จะใช้ผสมน้ำทำน้ำยาฆ่าเชื้อหลังน้ำลด ใช้ยี่ห้ออื่นที่ไม่ใช่ไฮเตอร์ก็ได้ครับ แต่จากส่วนผสมที่ผมบอกไว้ ให้หาที่ 6% เป็นหลัก จากคุณ : เสี่ยโต้ง เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 54 22:29:11

ความคิดเห็นที่ 13 เข้าบ้านได้ ก็ถอดหน้ากาก ปลั๊กไฟออกทั้งหมดครับ ดึงออกมาทั้งยวง ให้มันแห้งจริงๆ ปลั๊กพ่วงไฟยาวจึงจำเป็นมาก เพราะเราต้องพ่วงไฟจากชั้นบนลงมาใช้ก่อน มีไดร์เป่าผมก็เป่าเข้าไปเลยให้แห้งสนิทจริงๆ ยกเบรกเกอร์ขึ้นโดยให้ยกทีละวงจรเพื่อเช็ค ถ้าลูกย่อยไหน tip ก็แสดงว่าวงจรนั้นมีปัญหา อาจปิดเฉพาะลูกนั้นไปก่อน ใช้ไฟจากวงจรอื่นไปแทนได้ หากเป็นไปได้ เปลี่ยนสวิทช์ไฟที่โดนท่วมไปเลยก็ดีนะครับ จากคุณ : เสี่ยโต้ง เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 54 22:32:09

ความคิดเห็นที่ 14 ถึงแม้น้ำจะท่วมไม่ถึง แต่เฟอร์นิเจอร์ต่างๆก็ราขึ้นได้.. ==' ความรู้ใหม่ของผมเลย ผมยังไม่ทำส่วนนี้ เพราะกะจะไปทำนอกบ้าน ให้อากาศถ่ายเทดีและมีแสงแดด ยกเฟอร์นิเจอร์ต่างๆออกไปนอกบ้าน เช็ดด้วยน้ำเปล่าผสมไฮเตอร์ตามส่วนผสมที่ผมบอกไว้ในรูปก่อน เช็ดด้วยฟองน้ำ (ต้องใส่ถุงมือและระมัดระวังไม่ให้ถูกกับร่างกาย) เช็ดซ้ำได้จนกว่าเชื้อราจะออกหมด ผสมเดทตอลกับน้ำเช็ดซ้ำอีกครั้ง สังเกตว่า รามันขึ้นไปถึงบนฝ้าเลย..มันเก่งมากๆ ==' ขณะทำ เปืิดหน้าต่าง เปิดพัดลมเพื่อเปลี่ยนอากาศด้วยนะครับ จากคุณ : เสี่ยโต้ง เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 54 22:33:48

ความคิดเห็นที่ 15 อุตส่าห์เก็บผ้าม่านจนหมด ยังอุตส่าห์โดนราคาบไปกิน ดีที่ยังไม่เยอะ ก็ใช้น้ำยาผสมไฮเตอร์ตามส่วนผสมที่เคยบอก เช็ดออกรอบแรกก่อน แล้วก็ยังถอดไปซักได้.. ถ้ามารอบหน้า ผมถอดเก็บหมดทุกสิ่งอย่าง ประสบการณ์ครั้งนี้มันสอนอะไรหลายๆอย่างเลย.. จากคุณ : เสี่ยโต้ง เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 54 22:34:25

ความคิดเห็นที่ 16 หลังจากขัดล้างบ้านอยู่หลายรอบ ฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อโรคไปแล้ว ก็เย็นค่ำ ได้เวลากลับบ้าน..แนะนำให้ติดน้ำสำหรับล้างแขนขา ล้างหน้าล้างตัวด้วยครับ ผมพลาดประเด็นนี้ไป ต้องรีบไปปั๊มน้ำมันโดยด่วน.. ถุงพลาสติกใบใหญ่ๆ ไว้ใส่ของเปียกน้ำตอนกลับก็สำคัญครับ มัดถุงไว้เลย เพราะอาจมีเชื้อรามากระจายอยู่ในระบบแอร์ของรถได้ อันนี้ไม่ดีแน่ครับ หลังจากนี้คงทำอะไรไม่ได้มาก รอกลับเข้าไปล้างครั้งที่ 2 แล้วก็คงทำอะไรไม่ได้มากแล้ว ต้องรอให้น้ำหน้าบ้านแห้งจริงๆ ถึงจะกลับเข้าไปได้อีกรอบ..หวังว่าวันนั้นคงจะมาถึงในเร็ววันนี้ จากคุณ : เสี่ยโต้ง เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 54 22:35:57

ความคิดเห็นที่ 17 ใบนี้ ถ่ายตอนขับรถกลับหลังจากเข้าไปทำความสะอาดบ้านหลังน้ำลดครั้งแรก..ผมจอดรถกลางน้ำท่วม นั่งมอง หยิบกล้อง กดชัตเตอร์..ไม่ว่าเหตุการณ์จะเลวร้ายยังไง การถ่ายภาพ มันก็ฝังอยู่กับวิญญาณของผม กำลังใจในช่วงเวลาที่เลวร้ายนั้นสำคัญ ฟ้าดีๆ กล้องดีๆ เวลาดีๆ ก็ช่วยเยียวยาจิตใจเราได้..เอาวะ..พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่.. ;) ตอนนั่งทำใบนี้ อยากลืมเรื่องราวที่เพิ่งผ่านมา แล้วขับรถขึ้นเหนือไปเลย..ทิ้งอะไรต่อมิอะไรไว้ข้างหลัง ไปตระเวนถ่ายรูป น้ำลดหมดแล้วค่อยกลับ ล้างบ้านช้าหน่อย ล้างยากหน่อย แต่จิตใจคงดีขึ้นกว่านี้เยอะ..ไหนจะเงินซ๋อมบ้าน ไหนจะเวลาที่เสียไป โรงงานเล็กๆอีก 1 โรงที่ต้องกู้ขึ้นมา..อย่าเพิ่งไปคิด..ทำทีละอย่างๆ ตัดงานเป็นชิ้นๆ ถ่ายรูปไป ฟ้าดีๆก็ทำให้เราดีขึ้นได้เอง.. อยากมีเวลานั่งเอากิ่งไม้ทางซ้ายมือออก ใบนี้ WB SHIFT M+2 SAT+4 sharpness+7 iso1600 F4 เพราะไม่ได้ใช้ขาตั้ง ถ่ายบนรถ จากคุณ : เสี่ยโต้ง เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 54 22:37:28

ความคิดเห็นที่ 18 อ้อ..ผมลืมถ่ายรูปมาอีกอย่าง คือถ่านดูดกลิ่นและความชื้นนะครับ เดี๋ยวนี้ไม่ต้องใช้ถ่านแล้ว เป็นสารดูดกลิ่นแทน เอาวางในบ้านก่อนกลับออกมา น้ำ EM ก็เตรียมไปด้วยก็ดีครับ ราดส้วม ราดห้องต่างๆที่น้ำัยังไม่ลด รอบหน้าค่อยมาใหม่ หวังว่าน้ำที่ขังคงจะมีสภาพดีขึ้น หวังว่ากระทู้นี้ จะเป็นประโยชน์นะครับ ใครมีอะไรเพิ่มเติม ช่วยด้วยนะครับ เป็นข้อมูลไว้ ผมว่าหลังจากนี้ จะเริ่มมีคนเข้าบ้านเพื่อไปทำความสะอาดมากขึ้น ข้อมูลต่างๆเหล่านี้จะช่วยท่านได้ครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : เสี่ยโต้ง เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 54 22:39:51

ความคิดเห็นที่ 19 ขอให้น้ำลงวันลงคืนนะ....เอาใจช่วยจ้า จากคุณ : tvd2005 เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 54 22:55:25

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณสำหรับข้อมูลและภาพสวยๆครับ สำหรับบ้านผมโชคดีที่เครื่องสูบน้ำและกำแพงอิฐ "เอาอยู่" จากคุณ : เด็กวัดช้าง เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 54 22:56:00

ความคิดเห็นที่ 21 เอาใจช่วยมากๆเลยครับ ขอให้ผ่านมันไปด้วยดี สู้ๆนะครับ จากคุณ : cing เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 54 23:16:58

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณมากครับเสี่ย กระทู้มีประโยชน์มาก ๆ โหวตโลด จากคุณ : raksapondet เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 54 00:00:50

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณมากครับ ขอให้น้ำแห้งไวๆ นะครับ :) จากคุณ : bBlue เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 54 05:43:45

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีมีประโยชน์ + ภาพประกอบสวยๆ เข้าใจเลยครับ บ้านผมก็เพิ่งทำความสะอาดไปเหมือนกันครับ ^ ^ จากคุณ : JaoMom เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 54 08:43:59

ความคิดเห็นที่ 25 สู้ๆครับ ขอเอาใจช่วยครับ จากคุณ : Leon Fong เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 54 12:01:06

ความคิดเห็นที่ 26 สู้ๆค่ะ ^^ จากคุณ : armearn เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 54 14:28:50

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณครับ ขอเพิ่มเติมอีก 2-3 อย่าง วันแรก ... 0. ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ 1. อุปกรณ์ทำความสะอาดพื้นฐาน เพิ่มเติม .. ผมใช้ โซดาปิ้งขนม (โซเดียมไบคาร์บอเนต, NaHCO3) ซื้อแบบเกรดธรรมดาๆ ราคาไม่แพง  หลักร้อยเท่านั้น อย่าไปซื้อแบบเกรดผสมอาหาร (food grade) เอาผสมกับน้ำถังใหญ่ๆ ถัง 200 ลิตรก็ได้ ใส่ไปให้มากที่สุด และคนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะไม่ละลาย เอาน้ำผสมโซดานี้ ราดไปบนพื้นที่ทำความสะอาดหยาบๆแล้ว ฉีดพ่นไปที่ผนัง หรือ ฝ้าเพดานก็ได้ ฉีดพ่นใส่เครื่องเรือนเครื่องใช้ได้ แทบทุกอย่าง ไม่เป็นพิษ ไม่มีภัยอันตรายใดๆทั้งสิ้น แล้วก็รอให้มันแห้ง จะใช้เวลา 1-2 วัน ถึงบอกให้ ใจเย็น จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 54 16:09:07

ความคิดเห็นที่ 28 2. ผ้าดิบ หรือ ผ้าขี้ริ้ว 3. น้ำมันก๊าด หรือ น้ำมันเครื่องใสๆ + ยาฆ่าแมลง 4. น้ำส้มควันไม้ (ซื้อจากร้านขายต้นไม้) ผ้าครึ่งหนึ่ง ชุบน้ำมันก๊าด + ยาฆ่าแมลง โยนเข้าไปตามซอกๆ มุมๆ ห้องน้ำ ก่อนจะเอา ท่อจับงู (คห.9) ดันเข้าไปให้สุดมุม ห้องน้ำห้องท่า หรือ ซอกใต้บันได ฯลฯ ก็โยนเข้าไป ผมรับประกันว่า .. ถ้าไม่ทำ แล้วเจอ ตะขาบตัวเท่าท่อนแขน คุณจะวิ่งบ้านแตก จนถ่ายรูปไม่ทัน (พูดในฐานะคนโดนมาแล้ว ) เมื่อโยนผ้าชุบน้ำมันก๊าด + ยาฆ่าแมลงแล้ว เอาน้ำส้มควันไม้ ผสมน้ำเจือจาง ฉีดพ่นให้ทั่วบ้าน และเอาชุบผ้า โยนตามส่วนต่างๆ จากนั้น ปิดบ้าน .. ทิ้งไว้ 1-2 วัน น้ำส้มควันไม้  จะ"ดับกลิ่น" ที่ฝังลึกในไม้ หรือ อินทรียวัตถุในบ้าน น้ำมันก๊าด + ยาฆ่าแมลง จะเชื้อเชิญ แขกไม่พึงประสงค์ ให้ออกนอกบ้าน แล้วโซดาปิ้งขนมหละ //quesion รอมันแห้งก่อน .. จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 54 16:15:25

ความคิดเห็นที่ 29 2 วันให้หลัง ทางเข้าบ้าน น้ำจะแห้งลงอีก .. และน้ำโซดา จะแห้งเช่นกัน กลับไปทำความสะอาดรอบสอง เอา หัวน้ำส้มสายชูเข้มข้น (น้ำส้มสายชูเทียม) .. ราคาถูกมากๆ เข้าไปด้วย พอเข้าบ้าน เขี่ยผ้าต่างๆออกมาให้หมด .. พวกบรรดาสัตว์ไม่พึงประสงค์ ก็จะออกจากบ้านเราไปมากเช่นกัน เอาหัวน้ำส้ม ผสมน้ำ เจือจาง แล้วฉีดพ่นไปที่ที่เราพ่นน้ำโซดาไว้ น้ำโซดา จะทำปฏิกิริยากับน้ำส้ม เป็นฟองเดือดฟู่ๆๆๆๆๆๆๆๆ ดันพวกคราบตะไคร่น้ำ และคราบสกปรกเล็กๆ ออกมาจากรูพรุนตามพื้น, ตามฝาผนัง ฯลฯ ฟองเดือดฟู่ๆพวกนี้ ไม่มีอันตรายใดๆทั้งสิ้น รอจนฟองหมด เอาน้ำก๊อก ฉีดไล่เบาๆ กวาดเบาๆ คราบสกปรกฝังลึก รวมทั้งเชื้อโรค ก็จะออกเกือบหมด จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 54 16:19:28

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้าใจเย็นพอ ................. หิ้ว ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (H2O2) อย่างเข้มข้น เข้าไปด้วย (ถามร้านฟอกสีผม เขาต้องมีไว้ใช้) เอาผสมน้ำ ให้เจือจาง 3-4% ตอนผสมน้ำ ค่อยๆเท เพราะมันจะเกิดความร้อนนิดหน่อย และอาจกระเด็น H2O2 เจือจาง ไม่อันตรายหรอก ในน้ำยาบ้วนปาก ก็ผสมเข้าไปตั้ง 1% เอา H2O2 ผสมแล้ว ฉีดพ่นๆๆๆๆๆ ให้ทั่วทั้งบ้าน มันจะเป็นฟองฟู่ๆๆๆๆ เช่นกัน พ่นทิ้งไว้ 1-2 ชม ก่อนฉีดน้ำล้างออก .. H2O2 จะฆ่าเชื้อ และดับกลิ่น .. (เขาถึงผสมในน้ำยาบ้วนปาก) ไม่มีอันตราย (ยกเว้นเข้มข้นเกิน 12%) ผมไม่นิยมใช้สารเคมีผสมคลอรีน (ไฮโป หรือ คลอรอกซ์) เพราะมันอันตรายพอสมควร น้ำยาขัดพื้น ที่มีส่วนผสมกรดเกลือ (hydrochloric acid) ยิ่งอันตราย .. เหนื่อยแล้วครับ ขอไปทำบ้านต่อ .. จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 54 16:27:44

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณพี่แมวครับ..ช่วยเติมเต็ม tips ต่างๆได้น่าสนใจครับ โดยเฉพาะตะขาบตัวเท่าแขน   ==' ว่าแต่ทำไมพี่มีความรู้เรื่องสารเคมีพวกนี้เยอะจัง.. จากคุณ : เสี่ยโต้ง เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 54 17:20:36