ผมมันคนประเภทสายตาประแจเลื่อน ดูจากที่ไหนก็ได้ บิ้วอารมณ์ตามกล้องได้ทุกตัว
แม้จะดูตรงจาก screen แบบ Hass หรือจากกล้อง Large format ฟิล์มแผ่นคลุมหัวเป็นไอ้โม่งดูก็ได้ไม่เกี่ยงถ้าภาพมันออกมาแล้วดี
ดูจาก EVF บน Mirrorless หรือ DSLR-ilke ดูจากภาพจริงบน DSLR หรือ VF,RF ดูได้หมด ยกเว้นหลังจอของคอมแพ็กที่ดูนานๆแล้วปวดตาเพราะสูงวัยแล้ว
เลนส์บางตัวต้องจ่ายเพิ่มอีกสองเท่าเพียงได้ประสิทธิภาพอีกไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์จากรุ่นธรรมดา ถ้าแบบนี้มีคนในตลาดรับได้ ทำขายมาหลายสิบปีก็ยังขายออกซื้อเข้ากันได้ไม่ขาดสาย เพราะมันคือการเพิ่มคุณภาพเอาท์พุทของภาพตรงๆ
แต่กรณีนี้ไม่ใช่กับกล้องอีเล็กโทรนิกอายุสั้นไม่เกินสามปีที่ตลาดมีสิ่งที่ทดแทนในราคาถูกกว่าตลอดเวลา Mirrorless ถือว่าเป็นนวัตกรรมที่ประสพความสำเร็จเพราะฉีกตลาดออกไปยังที่ตลาดไม่มีคู่แข่ง แต่ระบบสะท้อนภาพไร้กระจกมันมันอาจจะไม่รอดเพราะยังมีทางเลือกอื่นที่ยังดีเท่ากันหรือดีกว่าอยู่ Digital Back ยังต้องดูจากจอเป็นหลักไม่ใช่จากสกรีนหัวกล้อง แล้วการดูภาพจริงจากตามันก็คงไม่ได้เป็นความสำคัญระดับเปลี่ยนคุณภาพรูปที่ได้จริงแต่อย่างไร
หลายๆคนเล่นมือหมุน เลนส์อายุหลายสิบปีเข้าเลือดแม้จะมีเลนส์โฟกัสไวปานวอกราคาหลายหมื่นอยู่ในเป้ก็ถอดเลนส์แพงออกจากล้องมาหมุนเลนส์หลักพันเพื่อเอาภาพตอนจบที่ถูกใจกว่าสักห้าหกภาพแก้อยากก็มีให้เห็นบ่อยๆ
มีนวัตกรรมหลายๆอย่างที่ดีแต่แพงเกินไป มีนวัตกรรมหลายๆอย่างที่ยอดเยี่ยมแต่ดีสู้เดิมๆแบบขาดลอยในทุกประตูไม่ได้ ดังนั้นจึงเห็นคนขับพอร์ชและเฟอร์รารีแบบเข้าเลือดถอดหัวฉีดออกแล้วใส่คาร์บูเรเตอร์แทนในโลกนี้หลายร้อยคัน เพราะมันขับสนุกกว่ากันเยอะแม้ว่ามันจะซดระดับคอแห้งดูดโอเลี้ยงก็ตาม
โอลี่นำหน้าเรื่องนวัตกรรมมาตั้งแต่ PEN ในยุค 60's ผมก็ตามซื้อโอลี่มาใช้ตั้งแต่รุ่นแรกที่ต้องปรับกล้องเองทุกพารามิเตอร์ในรุ่น Pen-S จนมาถึง Pen E ไฟฟ้าทั้งตัว แล้วก็ตายจากไปด้วยนวัตกรรมแหกโลกของตัวเอง หลังจากที่กล้องฟิล์มคอมแพ็ก FF ออกมาเต็มตลาด และมาตายสนิดเมื่อ C35 ขาดเล็กถูกกว่าดีกว่าออกมาปิดฝาโลงให้โอลี่ กล้อง HF ของโอลี่ก็ถึงกาลอวสาร เหมือนกับที่โอลี่ทิ้งเมาท์ 3/4 ไม่ใยดี ลอยแพลูกค้าไปเล่น M3/4 ปล่อยให้คนซื้อ E500 ตัวสุดท้ายร้องไห้เหมือนสาวถูกฟันแล้วทิ้ง
ผมล่ะหวันใจกับนวัตกรรมค่ายนี้เหลือเกินทั้งที่มีกล้องค่ายนี้ในตู้มาตั้งแต่ยุค 60's ไม่เคยขาดและไม่เคยขายทิ้ง กองทัพ Pen กับ OM ของผมยังอยู่ในลัง แม้ว่า OM จะสู้ Pentex ไม่ได้ในทุกทาง แต่ก็ซื้อมาด้วยใจรักถ่ายสองสามม้วนก็กลับไปใช้ Pentex กับนิกคอนต่อเหมือนเดิม เพิ่งจะมาเลิกสะสมโอลี่ก็ตอนที่ 3/4 E1 น็อยส์กระจายขณะที่ D40 รู่นเจ้าคุณปู่ปรับปรุงไปถึงไหนๆแล้ว สาระพัด E รุ่นหลังๆก็ยังเป็นโรงงานผลิตน้อยส์เหมือนเดิม ผมเลยถอยห่างออกมาจากโอลี่ไม่เสียเงินให้โอลี่เหมือนแต่ก่อน
ต่อมาโอลี่ก็ออก M3/4 แม้จะประสพความสำเร็จถล่มตลาดกระจาย แต่สำหรับสายตาของผมแล้วของพานามันดีกว่านี่แหละ ถึงนอกใจ Pen ไปเล่น Lumix แบบไม่ใยดีที่จะใช้ Pen แต่ก็ยังนอกใจพานาบางเวลาที่ Pen M3/4 ลดราคาแอบซื้อมาโยนให้ลูกใช้อยู่เหมือนกันทั้งที่ซื้อมาตัวเองก็ไม่ใช้ เพราะมันไม่โดนใจของผมแบบ M3/4 ของพานาที่ File ยืดหยุ่นกว่าของ Pen เยอะ
ถ้าระบบใหม่ของโอลี่ยังทำคุณภาพทิ้งกระจกแบบขาดกระจุยไม่ได้แต่อัพราคาอย่างกับเบอร์ตองนั่งนอกตู้ หรือหิ้งห่างจาก EVF แบบหนังคนละม้วนในทุกเรื่องไม่ได้จริงๆ เพราะนวัตกรรมอันนี้มันเป็นเพียงตัวสร้างภาพเข้าตาคนถ่าย ไม่ใช่ตัวทำภาพจริงที่เก็บในแรมเอาไปใช้งาน ราคาที่เพิ่มอีกมากมายขึ้นคงเรียกลูกค้าเข้ามาซื้อเหมือนเลนส์ดีๆที่ค่าตัวสองเท่าแต่มีผลต่่อภาพโดยตรงไม่ได้ โอลี่คงลำบากแน่กับระบบนี้ ไม่ต่างกับ X100 ที่ช่องมองแบบ 2in1 แ่พอจริงๆแล้วก็กลายเป็นถอดกางเกงตด ราคากล้องที่แพงขึ้นอีกมากกับจอแบบนี้ แต่คนไม่ค่อยใช้สลับจอกันหรอกใครชอบแบบไหนก็แช่จอแบบนั้น
แล้วมันก็คือโอลี่ ที่ โอลี้-โอลี่ ที่ผมทั้งที่ปากก็บ่นในวามเป็นโอลี่ แต่มือก็ควักกระเป๋าซื้อทั้งที่ปากยังที่บ่นไม่ปิดสนิทมาตั้งแต่ Pen ยุค 60's จนถึงระกูล EP ที่แม้ตัวเองจะไม่ใช้เองก็ยังปันใจซื้อแจกคนอื่นใช้ เพราะอยางไรก็ตาม Mirrorless ของโอลี่มันก็ยังฉีกพานาทุกตัวในเป้ของผมแบบขาดกระจุยคาตาไม่ได้สักที