ความคิดเห็นที่ 1 ใช้เลนส์ FX ทุกชนิด ก็รับได้อยู่แล้ว 36 MP ไม่ได้ทำให้ขนาด sensor ใหญ่ขึ้นครับ ขนาดมันก็เท่าเดิม ฉนั้นเลนส์ที่มี(FX)อยู่ก็ใช้กันได้หมดครับ จากคุณ : maykungth เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 18:50:58

ความคิดเห็นที่ 2 >> เข้าใจว่าเลนส์FF ที่มีของนิก ส่วนใหญ่ เคลมอยู่ที่ประมาณ 20-24 ล้านพิกเซล ไม่เคยเห็นเสปกนี้ ตรงไหนเลย เอาค่านี้มาจากไหน? จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 18:53:33

ความคิดเห็นที่ 3 ตัวเลขผมอาจจะสับสน เหมือนว่าเคยอ่านผ่านมาอ่ะครับ เอาง่ายง่าย ถามใหม่ดีกว่าครับ ค่า ความละเอียดของ optic ที่ออกมาจากเลนส์ มันสูงมากพอที่จะส่งไปยังเซนเซอร์กล้องและความละเอียดได้ถึง 36 ล้านไหมครับ ปัจจุบันนี้ ยกตัวอย่างเช่น 24-40 N มันให้ความละเอียดถึง 36 ล้านไหมครับ แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 55 18:59:09 จากคุณ : torsakpet เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 18:57:58

ความคิดเห็นที่ 4 อันนี้ รอผู้รู้มาตอบอีกนะครับ แต่ผมว่า มันอยู่ที่ PS บน sensor มากกว่า จะให้รายละเอียดได้ดีขนาดไหนน่ะครับ เลนส์มันก็ส่งแสงมาตามปรกติของมันอยู่แล้ว ฉนั้นเรื่องที่ optic เลนส์ให้ความละเอียดได้เท่าใดเท่าหนึ่ง ผมว่าน่าจะเข้าใจผิดนะคับ จากคุณ : maykungth เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 19:05:10

ความคิดเห็นที่ 5 ความรู้น้อยนิดเช่นกันครับ ผมว่าเลนส์กับจำนวนพิกเซลไม่น่จะเกี่ยวกันนะครับ จากคุณ : จันทร์สะท้อนเงา เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 19:06:06

ความคิดเห็นที่ 6 มันก็ประมาณว่า สมมุติ เลนส์ ฟิก แล้วกัน 50 1.8 g ถ่ายได้ชัดสุดสุด กับ กล้องAเทพสุดสุด ได้  48 ล้าน ต่อให้ กล้องB ตัวใหม่ออกมา เซนเซอร์ 80 ล้าน มันก็ประมาณว่า ถึงแม้กล้องB จะมีเซนเซอร์ให้ความละเอียดมากกว่า แต่ความละเอียดภาพมากสุด ยังไงก็เท่ากับ กล้องA เพราะว่าเลนส์มันถูกดึงความสามารถออกมาถึงที่สุดแล้ว แบบนี้ผมเข้าใจถูกไหมครับ แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 55 19:16:38 จากคุณ : torsakpet เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 19:15:42

ความคิดเห็นที่ 7 ผมว่าประเด็นขนาดพิคเซลเยอะขึ้นไม่น่าเกี่ยวกันนะครับว่าเลนส์จะ support หรือเปล่า ผมว่าประเด็นที่น่าเกี่ยวนะ เมมโมรี่กะฮาร์ดดิสก์น่าจะมีผลมากที่สุด เต็มไวโคตร จากคุณ : wan_p เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 19:25:19

ความคิดเห็นที่ 8 อึม.   แสงผ่านเลนส์สาดคลุมพื้นที่เซนเซอร์ได้หมดเท่าเดิม. เซนเซอร์จะละเอียดเท่าไรก็เป็นเรื่องของเซนเซอร์แล้ว (ขนาดเท่าเดิมแต่ละเอียดขึ้น)  เลนส์ไม่น่ามีข้อจำกัดนะ    ใช้ได้เหมือนเดิมนะ. จากคุณ : pungee1 เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 19:33:28

ความคิดเห็นที่ 9 เซนเซอร์ขนาดเท่าเดิม มันก็รองรับเลนส์เดิมนั่นแหละครับ จากคุณ : Teerarod เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 19:38:23

ความคิดเห็นที่ 10 ในนี้มีหลายคนคงยังไม่รู้ว่า เลนส์มันขับประสิทธิภาพของ Pixel ในเซนเซอร์ได้ยังไง..ระบบ Optical ของเกรดเลนส์มีผลต่อความคมของภาพ จริงๆจขกท. ถามมามีเหตุผลมากครับ..ผมก็อยากรู้คำตอบเหมือนกัน..คงต้องรอน้าแมวเหมียวฯ มาตอบเพราะน้าเค้าถนัดเรื่องนี้ครับ คราวๆ ก็คือ เกรดของกระจก ระบบการเคลือบ ส่งผลให้แสงที่ตกกระทบเซนเซอร์มีความละเอียดเพียงพอต่อการนำไปแปลผลหรือไม่..แสงจะละเอียดและเข้มพอหรือไม่...น่าคิดนะครับ..แต่ถ้าขนาดเลนส์ นาโนที่คมที่สุดในโลก(สำหรับกล้องระดับ Homeuse ) ก็คงไม่มีเลนส์อะไรมันทำได้แล้วครับ...หรืออาจจะต้องบังคับว่าให้ใช้กับ Nano เท่านั้นก็ไม่รู้ จากคุณ : Night Claw เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 19:51:06

ความคิดเห็นที่ 11 คงจะหมายถึง กำลังแยกขยายรายละเอียดของเลนส์ส่วนใหญ่ที่มีในตอนนี้ จะสามารถถ่ายทอดรายละเอียดทั้งหมดลงเซนเซอร์ของ D800 ได้ครบถ้วนหรือไม่ ?? จากคุณ : ต้น-แมว เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 20:01:00

ความคิดเห็นที่ 12 เลนส์ มันไม่เกี่ยวกับ ความละเอียด ของภาพ ครับ เลนส์ มันอค่ตัวรวม แสง ให้ภาพ คมชัด ไม่เกี่ยวกับ คุณภาพ ของไฟล์.. เลนส์ ค่ายนิค มันใส่ DSLR ได้ทุกตัวอยู่แล้ว จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 20:02:10

ความคิดเห็นที่ 13 36 ล้านของ D800 มันก็เท่ากับ 16 ล้านบน D7000 นั่นแหล่ะครับ แล้วเลนส์ที่มีอยู่ตอนนี้ บน D7000 ชัดมั้ยล่ะ ??? จากคุณ : ปอน (poron) เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 20:07:54

ความคิดเห็นที่ 14 "36 ล้านของ D800 มันก็เท่ากับ 16 ล้านบน D7000" น้าปอน ช่วยขยายความหน่อยครับ ผมใช้ D7000 อยู่แอบปลื้มเลย 555 จากคุณ : Supermop เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 20:17:45

ความคิดเห็นที่ 15 ^ ^ ^ เท่ากันยังไง จากคุณ : ice-san เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 20:18:02

ความคิดเห็นที่ 16 ผมว่้าไอ้ 36 ล้านเนี่ย ก็คือ พื้นที่เท่าเดิมแต่มันเก็บรายละเอียดได้มากขึ้นมั้ง เลยส์อาจมีผลบ้าง แต่คงไม่ใช่ขนาดว่า ถ่าย 36 ล้าน คุณภาพเท่าตัวความละเอียด 24 ล้านหรอกมั้งครับ รอน้าเเมวเหมียวอีกคน ผมมือใหม่ไม่ถนัดด้านนี้ จากคุณ : ความเป็นจริงที่ว่างเปล่า เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 20:21:05

ความคิดเห็นที่ 17 ผมหมายถึง pixel ต่อขนาด sensor หน่ะครับ 36 ล้าน บน FX ครอปเป็น DX จะเท่ากับ 16 ล้าน บน DX ครับ (ประมาณ pixel นะครับ ไม่เป๊ะๆ) เพราะฉะนั้น เลนส์ที่ใช้บน D7000 ชัด ก็ใช้กับ D800 ชัดเหมือนกันครับ แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 55 20:24:27 จากคุณ : ปอน (poron) เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 20:23:28

ความคิดเห็นที่ 18 ปอน (poron).....เทคนิคล้วน ๆ ...ขอบคุณมากครับ ผมเอาแค่โฟกัสให้แม่น ภาพออกมาดูดีไว้ก่อน ก็พอแล้วคร๊าบบบบ จากคุณ : Supermop เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 20:27:23

ความคิดเห็นที่ 19 ดูจากการที่มันมีรุ่น E ออกมาด้วย เดาว่าเลนส์มันทำได้เกินกว่าเซ็นเซอร์จะแสดงออกมาได้ครับ จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 20:47:37

ความคิดเห็นที่ 20 ที่ จขกท ถาม เป็นเรื่องของ Resolving Power ของเลนส์ เลนส์แตะละตัวจะมีค่านี้ไม่เท่ากัน ถ้าเป็นเลนส์เกรดดี ๆ ค่านี้จะสูง ทำให้แยกขยายรายละเอียดได้มากกว่า ทำให้มีคนชอบพูดกันว่า เลนส์ตัวนี้ถ่ายออกมาแล้วรูปซอฟต์ ตัวนี้รูปคม คำพูดนี้เกี่ยวเนื่องกับ Resolving Power ตัวนี้ ค่า Resolving Power นี้เป็นค่าเฉพาะตัวของเลนส์แต่ละตัวแต่ละรุ่น เกิดจากการออกแบบชิ้นเลนส์และการโคตติ้ง การที่ จขกท. ถามก็มีเหตผลที่ดีมาก เนื่องจากเลนส์ในรุ่นเก่า ๆ นั้น ค่านี้ไม่สูงพอที่จะแยกรายละเอียดของรูปให้เทียมเท่ากับการแยกรายละเอียดของเซ็นเซอร์ของกล้อง ยกเว้นเลนส์เกรดโปรซึ่งพอจะทำได้บ้าง นิคอนเลยออกแบบโคตติ้งใหม่เพื่อรองรับกับเซนเซอร์รุ่นใหม่ เพื่อให้เลนส์มีกำลังขยายสูง ๆ นั่นจึงเป็นที่มาของเลนส์รุ่น G ตอบคำถามของ จขกท. ถ้าจะเอาให้แน่ใจว่าเลนส์ที่ใช้กับกล้องรุ่น D800 แล้วค่ากำลังขยายของเลนส์สูงพอใช้กับเซ็นเซอร์กล้องได้ ก็ควรใช้เลนส์ที่เป็นเลนส์ G ขึ้นไป เลนส์เก่า ๆ ก็พอใช้ได้ แต่ความคมของภาพอาจจะลดลง จากคุณ : imf41 เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 20:58:58

ความคิดเห็นที่ 21 ลองจินตนาการถึงผิวเลนส์ในระดับผิวจริงๆนะครับ...หลับตานึกถึงกล้องจุลทรรศน์ระดับอิเล็กตรอน.. เลนส์ทุกชิ้นจะต้องถูกทำการขัดให้เกลี้ยงเกลา..โดยกรรมวิธีอะไรก็แล้วแต่แต่ลองนึกดูว่าจะขัดมันแค่ไหนมันก็ไม่เกลี้ยงเกลาขัดได้ดีที่สุดจนขัดไม่ได้แล้วก็จะมาถึงเทคโนโลยีการ "เคลือบ" การเคลือบทำไมทำให้เลนส์คม..เพราะว่ายิ่งกลมแค่ไหน เรียบแค่ไหนเลนส์ก็จะสามารถรวมแสงได้มากและถูกต้องที่สุด เดี๋ยวมาพิมพ์ต่อ จากคุณ : Night Claw เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 21:10:15

ความคิดเห็นที่ 22 ความหนาแน่นของเซนเซอร์ ใน D800 น้อยกว่า D7000 นิดหน่อยครับ เลนส์ยุคใหม่ห้อย N ห้อย G ไม่น่ามีปัญหาหรอกครับ ที่จะมีคือพวก D ห้อยท้าย หรือถ้ามีปัญหาจริงเดี๋ยวก็มีเลนส์ใหม่ออกมาเอง จากคุณ : หมูแจ๊ค เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 21:11:52

ความคิดเห็นที่ 23 แน่ใจหรือครับว่า อยากรู้เรื่องนี้ ผมกำลังหาทาง "ย่อย" paper นี้ ออกมาเป็นภาษาชาวบ้านอยู่ http://www.aptina.com/news/FSI-BSI-WhitePaper.pdf ถ้าพูดกันสั้นๆง่ายๆ เซนเซอร์ทุกวันนี้ รีดประสิทธิภาพของเลนส์ออกมาได้ ไม่ถึง 50% ยกเว้น Leica M9 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 21:20:09

ความคิดเห็นที่ 24 เลนส์ มีขีดจำกัดของเลนส์ ไม่ว่าจะทุ่มทุนสร้างแค่ไหน ใช้อุปกรณ์หรือแก้วดีวิเศษแค่ไหน จะไป "ชน" ขีดจำกัดที่เรียกว่า Rayleigh Criterion .. แสงที่เป็นจุด เมื่อถูกโฟกัส ต้องเป็นจุด แสงสองจุด ถูกโฟกัส ต้องเป็นแสงสองจุด แต่ .. ขนาดในทางทฤษฏี .. แสง จะไม่มีทางเป็นจุด แต่มันจะเป็นแผ่นกลม ขนาดหนึ่ง ถึงแสงที่ถูกโฟกัส .. ไม่ได้กลายเป็นจุด แต่เป็นวงแสงแผ่นกลมๆ ถ้าต้องการที่มา, เหตุผล กรุณาศึกษาเรื่อง airy disc แต่ถ้าวงแสงแผ่นกลมๆ สองแผ่น ไม่ทับซ้อนกัน เราก็ยังเห็นแผ่นวงแสงกลมๆ นั้นเป็น 2 วง แยกแยะจากกันออก และถ้าวงแสงแผ่นกลมๆนี้ แต่ละวง ตกลงบน sensor แต่ละ pixel ไม่ตกเหลื่อมไป สัญญาณที่ออกมาจาก 2  pixel ก็คือ สัญญาณจุดแสง 2 จุด จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 21:24:28

ความคิดเห็นที่ 25 เลนส์ในท้องตลาด มีกำลังสร้างวงแสงที่ละเอียดสูงสุด อยู่ที่ 1 micron ครับ .. โดยต้องเป็นเลนส์ f/2 (แพงระเบิด) แต่โดยทั่วไป จะใช้ตัวเลข  4 micron (ใช้ f/8 .. f/stop ที่คนใช้กันมากที่สุด) ถ้าต้องการที่มาของตัวเลขนี้ กรุณาศึกษาเรื่อง airy disc หมายความว่า ถ้าจุดรับแสงบนเซนเซอร์มีขนาดเล็กกว่า 4 x 4 ไมครอน (16 ตร. ไมครอน) เลนส์ดีแค่ไหน ก็ไม่ทำให้ภาพ "ละเอียด" มากกว่านี้ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 21:25:31

ความคิดเห็นที่ 26 1 มิลลิเมตร = 1,000 ไมครอน 1 ตารางมิลิเมตร = 1000 x 1000 = 1,000,000 ตารางไมครอน เซนเซอร์ 36mm x 24mm มีพื้นที่ประมาณ 860 ตารางมิลิเมตร หรือ 860 ล้าน ตร.ไมครอน เซนเซอร์ 36 ล้าน พิกเซล ของ D800 .. 1 pixel มีพื้นที่  860 / 36 หรือประมาณ 24 ตร.ไมครอน .. ขนาดใหญ่กว่าวงแสงมาก ทำให้ แสงที่ตกกระทบเป็นวงแสง ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 micron หล่นปุ๊ลงไป pixel ไหน .. ก็อยู่ pixel นั้น ไม่เหลื่อมออกไป ภาพจึง คม, ชัดเจน จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 21:28:42

ความคิดเห็นที่ 27 แต่ถ้าวงแสงที่เกิดจากเลนส์ มันใหญ่เกินขนาด pixel วงจุดแสงที่เล็กที่สุด .. ใหญ่กว่า 1 pixel ภาพที่ออกมา ก็เลอะเทอะ มั่วดี นั่นคือ ทำไมเซนเซอร์กล้อง compact ที่มีขนาด 16 ล้าน pixel ภาพถึงได้เละกว่าเซนเซอร์กล้องใหญ่ ที่ขนาดแค่ 10 ล้าน pixel เพราะเราแยกไม่ออก ว่า .. จุดภาพหนึ่งจุดนั้น มันเกิดจาก pixel ไหน, สีไหน จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 21:30:56

ความคิดเห็นที่ 28 ผ่านพบมาพอดีครับ โหลดมาชมเองเลยดีกว่า ตอบตรงโจทย์ที่สุดแล้วครับ http://imaging.nikon.com/lineup/dslr/d800/sample02.htm คงต้องกำเงินแน่นๆนะครับ ^_^ จากคุณ : 1fineday เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 21:31:53

ความคิดเห็นที่ 29 กลับมาที่ คห. 23 ต่อ ถ้าพูดกันสั้นๆง่ายๆ เซนเซอร์ทุกวันนี้ รีดประสิทธิภาพของเลนส์ออกมาได้ ไม่ถึง 50% ยกเว้น Leica M9 ทำไม เราจำโครงสร้างของ sensor กันได้ไหม ตัวรับแสง (photodiode) มันอยู่ ลึก ลงไปในชั้นซิลิกอน โดนปิดทับด้านหน้าด้วยแผ่นกรองสี (color filter array, CFA) และปิดทับบนสุดด้วยไมโครเลนส์เพื่อรวมแสง ไมโครเลนส์ ต้องรวมแสง เพราะข้างๆ ของแต่ละ pixel มันต้องมีลายวงจรรับสัญญาณ ลายวงจรพวกนี้ จะบังแสง .. ทำให้แสงไม่ตกไปโดนตัวรับแสง (photodiode) เหนือ ไมโครเลนส์ มีสิ่งที่สร้างความเจ็บปวดกับช่างภาพทั่วทุกตัวคน .. แม้ไม่มีใครรู้ว่า มันคือ อะไร จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 21:38:04

ความคิดเห็นที่ 30 photodiode + CFA + microlens + ลายวงจร .. เรียกว่า Photosite (PS) หรือ Sensel (SENSor ELement) วงแสง 1 วง (ที่ควรเป็นจุดแสง แต่ไม่เป็น) .. ควรตกกระทบ PS 1 จุด .. เพื่อสร้างสัญญาณ 1 สัญญาณที่มีอัตตลักษณ์ของตัวเอง น่าจะเป็นอย่างนั้น .. ภาพจะได้คม ชัด แต่ เหนือไมโครเลนส์คือ .. Anti Alias Filter .. AA  .. ตัวที่ทำให้แสงที่ควรตกกระทบ PS จุดหนึ่งจุดเดียว ไปตกกระทบ PS อื่นด้วย เพื่อให้ภาพไม่ชัด เพราะถ้าไม่ทำอย่างนั้น .. "การซ้อนกัน" ของตารางละเอียดๆ 2 ตาราง (CFA & Microlens) จะทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า "ลายคลื่น" (Moire) .. เพราะมันเป็นธรรมชาติของแสง จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 21:42:41

ความคิดเห็นที่ 31 เจ้า AA นี่แหละ .. ที่ทำให้ความคมชัดของภาพลดลง ลดลงไม่ใช่นิดหน่อย .. แต่มากมายมหาศาล จะเห็นได้ว่า หลายๆครั้ืงที่กล้องรุ่นใหม่ มีคำโฆษณาว่า "เซนเซอร์ได้รับการพัฒนาใหม่ มี AA ที่บางลง" olympus E-5 ถึงกับเอาเรื่องนี้ เป็นหนึ่งในเรื่องหลักที่ใช้โปรโมทเซนเซอร์รุ่นใหม่ของตน .. และ วิศวกรออกแบบเลนส์ของ olympus .. ถึงกับช็อค ที่พบว่า เลนส์ที่ตัวเองออกแบบไว้  และผลิตเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว .. คุณภาพเหนือกว่า sensor ยุคปัจจุบัน จบได้หรือยัง จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 21:45:25

ความคิดเห็นที่ 32 สรุป (แบบมั่วสุดๆ .. ไม่จำเป็นอย่าอ่าน) 1. เซนเซอร์ ประสิทธิภาพเหนือเลนส์เยอะ เพราะสามารถสร้างจนมีขนาด 1 micron ได้สบายๆ แต่เลนส์ .. ไม่สามารถให้จุดวงแสงภาพที่้เล็กกว่า 1 micron ได้ (และไม่มีทางเป็นไปได้ แม้ในอนาคต 10-20 ปีนี้) 2. แต่ด้วยกฏของแสงเรื่องการเลี้ยวเบน/สอดแทรก .. ทำให้เซนเซอร์ ต้อง ลดความสามารถที่จะทำให้ภาพละเอียดลง และ (เพิ่มเติม) ด้วยกฏของแสง ... จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 21:53:26

ความคิดเห็นที่ 33 กล้อง medium format ที่ใช้เลนส์เก่าๆ แต่เอามาติด back ความละเอียดสูงๆ ก็เห็นถ่ายออกมาดูดีมากๆ เลยนะครับ (เลนส์กล้อง MF การออกแบบไม่เน้น กำลังแยกขยายเหมือนเลนส์ 35mm เพราะฟิล์มกล้อง MF ใหญ่อยู่แล้ว ดังนั้น ถ้าปัญหาที่ จขกท กังวลมัน serious ผมว่า back ของ Hasselblad/mamiya ขายไม่น่าจะออกนะ...) จากคุณ : csirre เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 21:54:36

ความคิดเห็นที่ 34 ด้วยกฏของแสง ... 1. เซนเซอร์ ที่มีขนาดพื้นที่ sensel/pixel  เล็กกว่าค่าหนึ่งๆ .. ไม่ทำให้ความละเอียดภาพเพิ่มขึ้น เพราะวงแสง มันตกทับที่ละหลายๆ pixel ค่านั้นคำนวนได้คือ ตัวเลข f/stop หารสอง (f-number/2) ก่อนเอามาคูณตัวเอง (ยกกำลังสอง) อย่างเช่น ถ้าเลนส์เปิดได้ f/2 ..  sensel เล็กสุด ไม่เกิน (2/2) ^ 2 หรือ 1 x 1 micron กล้องคอมแพ็ค เลนส์ f/2.8 .. sensel เล็กสุดคือ (2.8/2) ^ 2 หรือ 1.4 x 1.4 หรือ 1.96 2. ขนาดพื้นที่ของ sensel (หรือเรียกอีกชื่อว่า photosite) คำนวนได้จาก ขนาดพื้นที่ของ sensor (มิลลิเมตร) หารด้วยจำนวน (ล้าน) pixel อย่างเช่น D800 .. sensor ขนาด 36mm x 24mm = 860 จำนวน pixel = 36 (ล้าน) ขนาด PS หรือ sensel = 860/36 หรือ 24 หรือ "ประมาณ" 5 x 5 ไมครอน จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 21:58:53

ความคิดเห็นที่ 35 โบนัส กล้องคอมแพ็ค sensor 1/2.3" หรือ 6.2 x 4.6 = 28 ตร.มม กล้องคอมแพ็ค sensor 1/1.6" - 1/1.7"  = 45 ตร.มม กล้อง nikon 1 sensor 1" = 118 ตร.มม กล้อง 4/3, m4/3 sensor 4/3" = 225 ตร.มม กล้อง APS-C = 350 ตร.มม กล้อง 135-film (full frame) = 860 ตร.มม กล้อง medium format .. Phase One = 2,178 ตร.มม จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 22:02:55

ความคิดเห็นที่ 36 โบนัส stage II กล้องคอมแพ็ค 1/2.3" พื้นที่ 28 ตร.มม "pixel" = 14 ล้าน photosite/sensel = 28/14 = 2 ตร.มม หรือ 1.4 x 1.4 ตร.มม ถ้าเลนส์ f/2.8 .. วงแสงขนาด 1.4 ตร.มม เช่นกัน เจ๊า .. แต่ถ้าเลนส์ซูมไปยัง tele .. f/stop เหลือ f/5.6 "จุด"แสง จะมีขนาด 5.6/2 หรือ 2.8mm หรือ 1 จุดแสง .. โดนจุดรับแสง 2 x 2 .. 4 จุด จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 22:06:36

ความคิดเห็นที่ 37 Hidden Bonus f-stop / 2 มันสูตรของแสงสีน้ำเงิน ถ้าเอา แสงสีแดง .. ไม่ต้องหาร นั่นคือ เลนส์เทพแค่ไหน จุดวงแสงเล็กสุด มีขนาดเท่ากับ f-stop ฉะนั้น .. ต่อให้เปิด f/2.8 ถ่ายท้องฟ้า .. แสงสีน้ำเงิน ลง PS สีน้ำเงิน,แต่แสงสีแดง ดันไม่ยอมลงแค่ PS สีแดง แต่กระโดดไปลง PS สีเขียวด้วย โชคดีที่ใต้ PS "สีเขียว" มันมี filter สีเขียว ป้องกันแสงสีแดงลงไป ... ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเปิด f/5.6 .. วงแสงกว้างไม่น้อยกว่า 5.6 micron ลง photosite ไม่น้อยกว่า 4 x 4 หรือ 16 จุด เละเทะ .. จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 22:11:01

ความคิดเห็นที่ 38 จบสนิท จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 22:11:14

ความคิดเห็นที่ 39 งงดีแท้ จากคุณ : Mr.pokpak เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 22:20:09

ความคิดเห็นที่ 40 อ่านน้าแมวแล้วเครียดมากๆ > < ขอบคุณความรู้ล้วนๆครับ แสดงว่าสบายใจได้ว่าในอนาคตมันไกลๆถึงจะไม่พอใช่ไหมครับตอนนี้สบายๆ จากคุณ : bbee_blue เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 22:36:34

ความคิดเห็นที่ 41 อ่านของน้าแมวจบแล้ว... มิน่า Nikon เลยออก D800 และ D800E เพื่อแก้ไขปัญหา Anti Aliasing นี่เอง เป็น ตัวเลือกว่าใครอยากจะเล่นตัวไหน จากคุณ : fork เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 22:57:28

ความคิดเห็นที่ 42 น้าแมวเหมียวทำไมไม่พูดภาษาไทย ... อิ อิ .... จากคุณ : HairLess เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 23:14:08

ความคิดเห็นที่ 43 น้าแมว ช่วยสรุปหน่อยครับ D800 ดีเกินเลนส์ในปัจจุบัน หรือ ยังต้องพัฒนากล้องให้ดีกว่านี้อีก อ่านไปอ่านมา ผมงง หรือว่าตอนนี้ผมง่วง ชักไม่แน่ใจ เดี๋ยวพรุ่งนี้ จะลองอ่านช้าๆอีกรอบ ขอบคุณครับ จากคุณ : Pom40D เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 23:23:15

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบพระคุณทุกท่านมากเลยนะครับ ที่ให้ความรู้อย่างมากมายครับ รอ D800  59900 บาท ก่อนค่อยเจอกันครับ ^^ จากคุณ : torsakpet เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 23:23:42

ความคิดเห็นที่ 45 เห็นรูปแล้ว....ใครที่บ่นบอกว่าให้มาทำไมตั้ง 36 ล้าน..เงียบกริบ.. http://www.thaidphoto.com/forums/showthread.php?t=251467 ไอ้ที่ครอปมา 100 นั่นมัน..อะไรกันนั่น........ แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 55 23:25:42 จากคุณ : Night Claw เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 23:24:17

ความคิดเห็นที่ 46 อ่านน้าแมวแล้วมึนนิดๆ แต่พอเข้าใจได้ครับ จากคุณ : Ace striker เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 23:55:12

ความคิดเห็นที่ 47 มึนเลย 555+ จากคุณ : ความเป็นจริงที่ว่างเปล่า เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 02:38:46

ความคิดเห็นที่ 48 อ่านแล้วมึนเช่นกันครับ เพราะถามสด ตอบสด พอมาอ่านใหม่ ถึงรู้ว่า จับสามเรื่อง (ที่เกี่ยวข้องกัน) มาปนกัน ที่น้า Pom40D ถาม ขอตอบว่า .. กล้องปัจจุบัน ยังรีดคุณภาพของเลนส์ออกมาได้ไม่ถึง 50% ครับ ถึงจะเป็นอนาคต ก็ไม่มีทางรีดได้เกิน 75% เพราะเรามี CFA, microlens, AA ขวางทางแสงอยู่ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 07:52:54

ความคิดเห็นที่ 49 ใครที่มีเลนส์สะสมอยู่มาก มีทั้งเลนส์ code เดียวกัน แต่เป็น รุ่นเก่า และรุ่นใหม่ ลองเอามาถ่ายเทียบดูได้ โดยใช้กล้องตัวเดิม อายุห่างกันนับสิบปี, การสร้าง(น่าจะ)ไม่เหมือนกัน, ราคาแพงกว่ากัน 2-3 เท่า ฯลฯ แต่คุณภาพรูปที่ได้ .. ต่างกันเกิน 10% หรือเปล่า ยังไม่แน่ใจ ชาว oly เจ็บมาแย้ว!! เลนส์เกรดโปร 14-54mm .. mark I ให้ภาพที่คุณภาพดีพอๆหรือดีกว่า mark II และ 11-22mm ดีกว่าเลนส์ 9-18mm กล้อง E-5 "แค่" ทำ AA ให้มันบางเฉียบลง .. คุณภาพรูปที่ได้ เหนือกว่า E-3 มหาศาล .. แต่ดันตั้งราคา E-5 ซะสุดลิ่ม ทั้งๆที่มันคือ E-3 on steroid เท่านั้นเอง แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 55 08:08:37 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 08:00:03

ความคิดเห็นที่ 50 อ่านแล้วหายง่วงเลยก๊าบน้าแมว สรุปมันไม่ต่างถ้ามองด้วยตาชิมิ จะได้เลิกกังวล จากคุณ : F:A:B:R:E เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 08:03:48

ความคิดเห็นที่ 51 ตอบเรื่อยๆ มันออกทะเล ส่วนหนึ่งของคำตอบ (คห.27)  .. ชี้่ให้เห็นว่า 1. ทำให้ตาย .. กล้องคอมแพ็คพิกเซลมากๆ ก็ไม่มีทาง "คม, ชัด"กว่ากล้องคอมแพ็คพิกเซลน้อยกว่า หรือ กล้องคอมแพ็คที่เซนเซอร์ขนาดใหญ่กว่า กล้องคอมแพ็ค 16 ล้าน ไม่มีทางคมชัดกว่ากล้อง 12 ล้าน 2. กล้อง superzoom .. 20เท่า, 30เท่า ฯลฯ ทำให้ตาย ภาพจากการซูมสุด ก็ไม่มีทาง"คมชัด" เท่าภาพจากกล้อง compact ระดับบนที่ซูมได้ 3-5 เท่า .. 3. ยิ่งซูมมาก .. จน f/stop ต่ำสุด ยังมากกว่า f/4 .. ภาพยิ่งเละ ปล.อ่านแล้วคิดว่าได้ประโยชน์ กรุณาคลิ้กเก็บเข้าคลัง แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 55 08:09:08 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 08:07:43

ความคิดเห็นที่ 52 สรุปใช้เลนส์เดิมต่อไป. ดีเกินพออยู่แล้ว จะว่าไปกล้องตอนนี้มันก็ดีเกินการใช้งานทั่วๆไปแล้วนะ  ไม่มึนข้อมูลนะ  ชอบด้วย........อ่านผลสรุปเลยง่ายดี อิอิ แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 55 09:00:05 จากคุณ : pungee1 เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 08:58:07

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณน้าแมว สำหรับอาหารสมอง...อ่านแล้วยังงงๆ บ้าง เข้าใจบ้าง แต่ก็ได้ความรู้ครับ... จากคุณ : monster_1009 เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 10:38:42

ความคิดเห็นที่ 54 @torsakpet : ขอบคุณที่ตั้งกระทู้นะครับ @แมวเหมียวพุงป่อง : ขอบคุณน้าแมว ที่ช่วยอธิบายครับ ฟังแล้ว ถ้าเราอยากตามเทคโนโลยีกล้อง สงสัยต้องเก็บตังค์รอซื้อรุ่นใหม่ไปได้เรื่อยๆ ส่วนผู้ผลิตก็ออกรุ่นใหม่ๆมายั่วพวกเราได้อีกนานเลย จากคุณ : Pom40D เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 10:59:00

ความคิดเห็นที่ 55 อยากถามน้าแมวครับ ถ้าสมมุติกล้อง 36M pixel แต่เราถ่ายที่ 6M แทน ปัญหาที่น้าว่ามาจะหายไปรึเปล่า จากคุณ : alpha_7d (Alpha_7D) เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 11:17:51

ความคิดเห็นที่ 56 สุดยอดมากครับ ขอบคุณน้าแมวที่ เอา ความรู้ มาฝาก จากคุณ : khunkom เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 11:39:20

ความคิดเห็นที่ 57 ขอบคุณน้าแมวเหมียวฯครับ จากคุณ : จันทร์สะท้อนเงา เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 11:47:49

ความคิดเห็นที่ 58 สรุปให้น้าแมวดีกว่า ที่เจ้าของกระทู้ถามว่าเลนส์รุ่นเก่าๆ จะใช้งานกล้องเทพ D800 ได้สมคุณภาพกล้องไหม น้าแมวตอบทันใดว่า "กล้องต่างหากที่ใช้งานเลนส์ได้สมราคารึเปล่า" เพราะเลนส์เป็นอุปกรณ์ที่พัฒนามาตลอด และเปลี่ยนกระบวนการมาตามเทคโนโลยี แต่กล้องดิจิตอล ก็มีปัญหาไม่ต่างจากกล้องฟิล์ม คือ ตัวเซนเซอร์รับภาพมีขีดจำกัด ขีดจำกัดที่ว่าคือ "เซนเซอร์ไม่สามารถรับแสงที่ส่งจากเลนส์มาได้เต็มที่" (เรื่องเทคนิคดูที่น้าแมวเอามาอธิบายประกอบนะครับ) ปัญหาที่ว่าคือ ยิ่งใช้ F สูง ขนาดของแสงที่แผ่ลงเซนเซอร์ยิ่งใหญ่ แต่เซนเซอร์แผ่ใหญ่ขึ้นตามแสงที่สาดมาไม่ได้ ดังนั้นผลคือ การประมวลมันเพี้ยน ทีนี้พอเราต้องการแก้เพี้ยนด้วยเทคนิคต่างๆ ผลคือ คุณภาพการรับแสงของเซนเซอร์ยิ่งด้อยลงไปอีก อาาาาาาาาาาา น้าแมวให้ผมรักเลนส์รุ่นพระเจ้าเหาทั้งหลายขึ้นอีกเยอะเลยครับ จากคุณ : Ace striker เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 12:46:53

ความคิดเห็นที่ 59 สรุปก็คือ เลนส์เดิมๆ จนถึงปัจจบัน ใช้ได้กับกล้องทุกชนิด รวมถึงกล้องรุ่นใหม่ล่าสุดด้วย เพราะมีกฎของแสงขวางไว้อยู่ทำให้เซนเซอร์ไม่สามารถรีดประสิทธิภาพของเลนส์ได้มากไปกว่านี้แล้ว ฉะนั้น ซื้อเลนส์เก็บไว้ดีที่สุด ใช่ป่าวครับ อิอิ จากคุณ : deletenumlock เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 13:53:46

ความคิดเห็นที่ 60 น้าแมว ............ ผมงง - - เหอะๆๆ อ่านไปกลับหลายรอบเลยตรู - - จากคุณ : reni เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 14:02:56

ความคิดเห็นที่ 61 มึนเลย....ขอบคุณน้าแมวเหมียวฯ ครับ จากคุณ : Supermop เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 15:04:03

ความคิดเห็นที่ 62 อ่าน บทสรุปของ หน้า Ace striker ที่ #58 ผมว่า มันแปล่งๆๆ นะฮะ เลนส์เมื่อ 10 ปีก่อน เทียบกับเลนส์ปัจจุบันนี้ ประสิทธิภาพไม่ได้แตกต่างกันมากนัก (ยกเว้นเรื่องการ cloated หน้าเลนส์) สรุปอีกนัยคือ เลนส์มันพัฒนาให้ไปมากกว่านี้ได้ยากแล้ว หรือไม่ได้มีการพัฒนาดๆ มากนัก เมื่อเทียบกับเมื่อ 10 ปีก่อน (ดูรูปจากเลนส์มือหมุนเป็นตัวอย่างได้) แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 55 15:52:22 จากคุณ : fork เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 15:49:18

ความคิดเห็นที่ 63 เรื่องวิทยาศาสตร์ผมไม่รู้หรอก แต่ที่รู้และแน่ใจคือ นิคอนมันไม่ออกกล้องใหม่ที่มันไม่รองรับเลนส์ที่มีอยู่ในตลาดหรอก ทำงั้นก็เหมือนเชือดคอตัวเอง จากคุณ : hoyhey เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 16:34:52

ความคิดเห็นที่ 64 เย็นนี้จะขับรถเข้าบ้านถูกซอยไม๊เนี่ยะ??? เบลอๆๆๆ (ขอบคุณลุงเหมียวสำหรับความรู้ครับ) จากคุณ : Piggie MM เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 17:10:11

ความคิดเห็นที่ 65 มาขอบคุณน้าแมวที่ให้ความรู้ค่ะ // me -- กลับขึ้นไปอ่านอีกรอบแบบงงๆ มึนๆ (- -") แก้คำผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 55 21:04:42 จากคุณ : หม่ามี๊น้องมินนี่ เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 21:00:09

ความคิดเห็นที่ 66 ถ้าสมมุติกล้อง 36M pixel แต่เราถ่ายที่ 6M แทน ปัญหาที่น้าว่ามาจะหายไปรึเปล่า ขึ้นกับการออกแบบครับ การถ่ายที่ 6 ล้าน pixel มันมีสามแบบคือ .. 1. เลือกเอาข้อมูลจาก sensel แค่ 6 ล้านจุดมาประมวลผล วิธีนี้ .. ใช้ทั้ง canon & nikon รุ่นใหญ่ ที่ pixel มากๆ 2. เอาข้อมูลจาก 36 ล้านจุด มารวมกัน ก่อนประมวลผล หมายความว่า แสงที่ตกกระทบ sensel 6 ตัว รวมเป็นข้อมูล 1 ชุด วิธีนี้ ทำให้ความไวแสงเพิ่มขึ้น, noise ลดลง ฯลฯ เรียกว่า pixel binning รู้สึกว่า มี fuji เป็นหัวหอก เพราะต้องออกแบบการวางแผ่นกรองสี (CFA) หน้า sensel ใหม่ อย่าลืมว่า .. ข้อมูลจาก 6 sensel .. มันไม่ได้เป็นข้อมูลที่มาจากแสงสีเดียวกัน .. สัญญาณเอามารวมกันดื้อๆ .. มิได้ 3. เอาข้อมูลจาก 36 ล้านจุด มาประมวลผล ก่อนตัดข้อมูลที่ "ไม่จำเป็น" ทิ้งไป .. ซึ่งเป็นกระบวนการย่อยหลัก ในการสร้างไฟล์ภาพแบบ jpeg อยู่แล้ว กล้อง compact เลือกวิธีนี้ เพราะมันง่ายดี .. คุณภาพ? อย่าถามถึง .. จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 22:18:58

ความคิดเห็นที่ 67 มีนเลยครับอ่านเส็ด จากคุณ : TomIndy เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 23:03:31

ความคิดเห็นที่ 68 #62 น้า fork ครับ ผมหมายถึงตัวเลนส์มันก็มีเทคโนโลยีปรับไปตามสภาพการใช้งานไงครับ อย่างติดมอเตอร์เพิ่ม เปลี่ยนวิธีการทำกระจก ปรับจำนวนกระจกที่ใช้อะไรก็ว่าไป ทุกวันนี้ผมยังไม่เห็นคนถือว่าเลนส์ แคนนอนที่ F 1.0 มาใช้ให้เห็นจะๆ เลยครับ จำได้ว่าตอนมันออกเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ตัวกะปุ๊กลุกพ่อซัดไปสองล้าน ฮ่าๆ แต่ตัวเทคโนโลยีกล้องดิจิตอล มันยังไม่ได้รู้อะไรกันมากขนาดเลนส์ ผมว่าเลนส์ถ้าทำจริงๆ เทคโนโลยียังไปได้ครับ แต่ทำออกมาแล้วไม่คุ้ม ขายไม่ออก เขาก็ไม่ทำออกมาหรอก แล้วยิ่งข้อมูลทางเทคนิคมันฟ้องว่ากล้องยังตามเลนส์ไม่ทัน ยิ่งสบายเลยครับ ไม่ต้องรีบทำมาก เน้นใส่ออฟชั่นเพิ่มเอาก็ขายกินได้เรื่อยๆ แบบนี้ ใครจะทำอะไรที่มันก้าวกระโดดออกมา ก็จุกและเจ๊งเท่านั้นเองครับ จากคุณ : Ace striker เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 55 02:17:59

ความคิดเห็นที่ 69 ขอคารวะ น้าแมวเหมียว 1 จอก จากคุณ : somyosonline เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 55 10:16:09