ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าเป็น D7000 ถ่ายต่อเนื่อง (VDO) ได้ 20 นาทีครับ จากคุณ : Night Claw เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 19:45:55

ความคิดเห็นที่ 2 ส่วนหนึ่งมันก็มาจากการที่SD มัน write speed ดีขึ้นหรือเปล่าครับ? แบบว่า buffer ของกล้องส่วนหนึ่ง + write speedของsd อะไรแบบนี้ มันเลยทำให้เหมือนว่ากล้องมันดีขึ้น ปล. ผมเดานะครับ จากคุณ : OreOแง่มๆ (OreOแง่มๆ) เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 21:01:38

ความคิดเห็นที่ 3 บัฟเฟอร์ของระบบภาพนิ่ง หรือ ระบบภาพวิดิโอครับ?? มันต่างกันพอสมควร และไม่ใช่เรื่องของบัฟเฟอร์เพียงอย่างเดียว แต่ลามยาวถึงเรื่องของ รูปแบบในการส่งข้อมูลจาก sensor ไปยัง analog stage, จาก analog ไปยัง D/A (ตรงนี้จะทำ noise reduction ไหม), ความเร็วของ D/A, ความเร็วของ digital signal pre-processor และอื่นๆอีกมากมาย นี่คือสิ่งที่ต้องจัดการ ก่อนข้อมูลจะเข้าสู่ main CPU ด้วยซ้ำ ดาต้าบัฟเฟอร์ แทบจะเป็นส่วนสุดท้ายของสายงานการจัดการข้อมูล (signal processing chain) จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 21:02:04

ความคิดเห็นที่ 4 ว่าแต่ที่ d7000 ถ่าย vdo ได้20 นาทีนี่มันเป็นเพราะลิมิตของกล้องหรือ sd หรอครับ ทราบมาว่าsd ทั่วๆไป ไม่สามารถรับไฟล์ขนาดใหญ่มากได้เพราะมันเป็น fat32 จากคุณ : OreOแง่มๆ (OreOแง่มๆ) เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 21:04:32

ความคิดเห็นที่ 5 สมรรถภาพของรถ ไม่ได้ขึ้นกับจำนวนวาวล์ หรือ จำนวนลูกสูบ หรือ ปัจจัยเดี่ยวๆ 1 หรือ 2 หรือ 3 ปัจจัย จำนวนลูกสูบ หรือ ปริมาตรความจุเครื่องยนต์ หรือ ฯลฯ ไม่ได้เป็นตัวตัดสินความเร็วของ รถ บัฟเฟอร์กล้อง ก็เช่นเดียวกัน .. จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 21:08:36

ความคิดเห็นที่ 6 ลองดูแค่วงจรพื้นฐานสุดๆ ของ CCD sensor นี่เฉพาะส่วนของ CCD เท่านั้น มุมขวาบน (line driver) คือ สัญญาณที่ออกจาก CCD พารามิเตอร์ต่างๆ ของทุกๆบล็อก ในวงจรพื้นฐานนี้ มีผลต่อ"ประสิทธิภาพ"ทั้งสิ้น จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 21:17:05

ความคิดเห็นที่ 7 ภาพ .. จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 21:17:29

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณภาพประกอบครับผม แต่ดูในบล็อคไดอะแกรมแล้ว เกือบทั้งหมดเป็นอินพุตเข้า CCD Sensor นี่ครับ เป็นส่วนอื่นๆที่ทำงานร่วมกับ CCD Sensor อย่างเดียวไม่ใช่หรือครับ มีเอาต์พุตออกมาแค่ทางเดียวส่งไปยัง SMB แล้วส่งไปต่อ ที่ผมสงสัยคือที่ต่อจาก SMB นั่นแหละครับ สัญญาณที่ออกมาจาก CCD เข้าใจว่าขนาดไม่ใช่น้อยๆ เวลาที่อ่านสัญญาณจาก CCD เมื่อทำให้อยู่ในรูปข้อมูลแล้ว ก็จะเก็บลงในหน่วยความจำชั่วคราวใช่หรือป่าวครับ? ไอส่วนที่เป็นหน่วยความจำนี่ จะคล้ายกับคอมพิวเตอร์ใช่หรือป่าว อย่างเช่น RAM อะไรทำนองนี้ ถ้าใช่กล้องทั่วไป ใช้หน่วยความจำประมาณเท่าไร แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 55 21:40:04 จากคุณ : Akexorcist เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 21:28:44

ความคิดเห็นที่ 9 อู่ว... ตอบแบบผมเข้าใจนะครับ(ถ้าผิดก็ขออภัยด้วย) ทำไมbufferได้เยอะและเร็ว -ก็เพราะcpuมันเร็วและbufferมีขนาดใหญ่ไงครับ -แล้วที่ว่าbufferได้ขนาดนี้ ผมงงนิดหน่อย คือการจะเกิดการเขียนข้อมูลลงในbufferของกล้องได้ ก็คือcpuจะต้องprocessข้อมูลออกมาได้เร็วกว่าอัตตราการเขียน ของmemใช่ป่ะครับ ถามว่าทำไมbufferได้มาก ก็เพราะmemมันเขียน ช้ากว่าการprocessของcpuมากไงครับ การทำงานที่ทำให้ได้เร็วและresสูงผมว่าไม่เกี่ยวกับbufferครับ เพราะbufferคือที่พักข้อมูล ถ้าอัตราการเขียนข้อมูลของเมมต่ำ กล้องก็จำเป็นจะต้องเขียนข้อมูลลงbufferไว้เพื่อรอเขียนลงเมม เช่น cpu process ข้อมูลออกมา20mbต่อวินะ แล้วถ้าเมมเขียนได้แค่15mbต่อวิกล้องก็จำเป็น จะต้องเขียนข้อมูลลงbuffer5mbด้วยเพื่อรอเขียนข้อมูลไห้สมบูรณ์ และคราวนี้bufferจะโดนเขียนลงเพิ่มวิละ5mbไปเรื่อยๆและเมื่อbuffferเต็ม การprocessก็จะหยุดลงเพราะไม่มีพื้นที่ให้เขียนผลของการprocess เหมือนกับกรณีที่เอาเมมclass4 มาอัด1080pไงครับ อัดได้จิ๊ดเดียว ดับ ไม่ไช่เพราะเมมเต็มแต่เพราะbufferมันเต็ม และกลับกัน ถ้าcpu process ออกมา 20mb memเขียนได้ 25mb ไม่จำเป็นต้องเขียนลงbuffer bufferไม่เต็ม เขียนได้เรื่อยๆ win-winครับผมคราวนี้ก็อยู่ที่กล้องหล่ะครับจะอัดvideoได้นานแค่ไหน -การจัดการข้อมูล อันนี้ไม่น่าเกี่ยวครับ เพราะถ้าbufferเต็มยังไงก็ดับ น่าจะประมานนี้นะครับ จากคุณ : MooVaN เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 21:33:12 A:110.77.241.252 X: TicketID:331258

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณที่ตามมาตอบให้ครับ 5555 คือผมเข้าใจว่าเวลาถ่ายรูปซักรูปนึง แล้วจะต้องเก็บไว้ในที่พักข้อมูลตลอดทุกครั้ง ก่อนที่จะลง SD น่ะครับ (เข้าใจว่าตอน Preview ภาพหลังถ่าย ยังไม่ได้เก็บลง SD ต้องกด Save ก่อน) ถ้าเป็นแบบที่คุณ MooVaN อธิบายมา ก็เข้าใจกระจ่างแล้วครับผม ขอบคุณทุกคนมากๆเลย จากคุณ : Akexorcist เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 21:42:41

ความคิดเห็นที่ 11 ตัดเอามาให้ดูเฉพาะส่วน CCD เท่านั้น .. เพื่อให้เข้าใจง่ายครับ ว่า .. แค่ส่วนนี้ ยังสลับซับซ้อนพอสมควร สิ่งที่หลายๆคนอาจไม่รู้คือ สัญญาณที่ออกมาจาก CCD เป็นสัญญาณ analog และมีความแรงของสัญญาณน้อยมาก KAF8300 นี่ ให้ความแรงสัญญาณ 23 ในล้าน (23 uV) ต่ออีเล็คตรอน(e) 1 ตัว และต้องใช้โฟตอนถึง 3 เม็ด ถึงจะดีดอีเล็คตรอนออกมาได้ 1 ตัว (QErgb คือ 33%, 40% และ 33% ตามลำดับ) บ่อรับแสงมีความจุสูงสุด คือ 25,500e .. หรือ สร้างสัญญาณได้แรง 23 * 25500 .. ประมาณ 0.6 volt แต่ตอนแสงน้อยๆ .. สัญญาณแรงแค่ 0.0001-0.0002 volt เท่านั้น สัญญาณพวกนั้นส่งออกที่ตรง SMB ไปเข้าวงจรขยาย, ปรับปรุง ฯลฯ สัญญาณให้มีคุณภาพ ก่อนจะแปลงเป็นสัญญาณ digital --------------- "ก่อนจะแปลงเป็นสัญญาณ digital .. สัญญาณที่ออกจาก CCD เป็นสัญญาณ analog" มันมีความสำคัญอีกอย่างคือ .. มันเป็น serial stream ข้อมูลที่เกิดขึ้นที่ CCD .. 10 ล้าน pixel ส่งออกได้ครั้งละ 1 pixel เท่านั้น ในการสร้างภาพ 30 ภาพต่อวินาที CCD จะต้องส่งข้อมูลออก 10 ล้าน x 30 หรือ 300 ล้านครั้ง .. ผ่านช่องทาง 1 ช่องทางเท่านั้น วงจรที่ให้ดู เป็นแค่วงจรเบื้องต้น (prototype) จริงๆแล้ว ระหว่าง CCD กับ SMB มันควรต้องมี buffer สำหรับเก็บประจุ เพื่อให้ถ่ายภาพได้เร็วขึ้น แต่วงจร analog buffer (sampling & hold) นี่ ขอบอกว่า ยุ่งมาก ยากมาก &ต้นทุนสูงมากๆ จบเรื่องของ CCD & การส่งข้อมูล (charge transfer) ผมว่า มันออกทะเลมากเกินไปแล้วครับ ถ้าน้อง จขกท. ไม่ได้ทำเรื่องการถ่ายภาพทางดาราศาสตร์ หรือ ถ่ายภาพงานวิจัย .. อย่าไปสนใจเรื่องพวกนี้เลยครับ แก้ไขเมื่อ 30 มี.ค. 55 07:57:15 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 23:13:10

ความคิดเห็นที่ 12 แค่ความอยากรู้ส่วนตัวน่ะครับ หุหุ ผมว่าพี่ๆออกเนื้อหากันมาขนาดนี้ ผมก็ขอบคุณมากๆแล้วครับ เนื้อหาออกไปทางฟิสิกส์ก็ไม่มีปัญหาครับ ผมเรียนสายนี้อยู่แล้วน่ะครับ แค่สนใจเรื่องนี้เป็นการส่วนตัวน่ะครับ ปล.มีเพื่อนที่สนใจการทำงานของตัวรับภาพอยู่ คงต้องเรียกมาให้อ่าน ข้อมูลที่กระทู้นี้แล้วล่ะ 555 แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 55 23:40:32 จากคุณ : Akexorcist เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 23:29:15

ความคิดเห็นที่ 13 พยายามอ่านจนจบ.... งงหนักเข้าไปอีก T_T จากคุณ : OreOแง่มๆ (OreOแง่มๆ) เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 55 20:08:22