PANTIP.COM : O12001672 **แชร์ต่อ**รบกวนด้วยครับ มีกล้องโดนฉก เซ็นทรัลลาดพร้าว [กล้องดิจิทัล]

ความคิดเห็นที่ 37

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1335256187&grpid=03&catid=19&subcatid=1904

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 24 เมษายนว่า ขณะนี้ในสังคมโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กโดยเฉพาะในเฟซบุ๊กได้มีการส่งต่อ ข้อความพร้อมรูปภาพของ สมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Jatechan Kirdsuk ซึ่งได้กระจายข่าวขอความช่วยเหลือไปทุกช่องทางสื่อบนอินเตอร์เน็ต เพื่อให้คนในสังคมช่วยกันตามหากระเป๋าสำหรับใส่กล้องวิดีโอ ที่เขาระบุว่า วางลืมไว้ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว เมื่อวันเสาร์ที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา และจากภาพกล้องวงจรปิด แสดงให้เห็นว่า มีผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นผู้เก็บกระเป๋ากล้องวิดีโอดังกล่าวไป จึงได้ฝากประกาศไปยังผู้หญิงบุคคลในภาพที่มีการนำมาโพสต์ไว้ ถ้าพบเห็นข้อความรวมถึงรูปภาพที่แสดงไว้ให้นำมาคืนเขาด้วย

ทั้งนี้ Jatechan Kirdsuk ระบุว่า ตนเองเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ของ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อินเตอร์ ซึ่งในกระเป๋าที่หญิงคนดังกล่าวเก็บไปนั้น บรรจุกล้องวิดีโอที่เขาบันทึกงานชิ้นสุดท้าย เพื่อส่งอาจารย์ในการเตรียมตัวจบการศึกษา โดยเขาได้โพสต์ทั้งข้อความและรูปภาพที่นำมาจากกล้องวงจรปิดของทางห้างฯพร้อมกับนำคลิปวิดีโอ จากกล้องวงจรปิดมาประกาศให้ทุกคนช่วยกันตามหาผู้หญิงคนดังกล่าวที่มีน้ำใจเก็บกระเป๋าใส่กล้องวิดีโอของเขาไว้ด้วย

สำหรับข้อความที่ Jatechan Kirdsuk ระบุไว้ดังนี้

"***แชร์ต่อให้ด้วยครับ ได้โปรด*** ใครรู้จักสุภาพสตรีท่านนี้บ้าง ท่านนี้กรุณาเก็บกระเป๋าวิดีโอ เมื่อวันเสาร์ที่ 21 เมษาที่เซ็นทรัลลาดพร้าว ที่ผ่านมาไว้ให้ แต่เข้าใจว่าหาตัวผมไม่พบ เพราะไม่ได้รู้จักกันมาก่อน ถ้าท่านใดรู้จักสุภาพสตรีท่านนี้ กรุณาติดต่อผมได้ที่ 0856775888 หรือ ส่งอีเมล์มาที่ jatechan@yahoo.com เพราะงานในเครื่องนี้เป็นงานที่ผมต้องใช้ส่งอาจารย์เพื่อส่งงานชิ้นสุดท้ายในการที่จะจบปีสี่ ธรรมศาสตร์อินเตอร์ ถ้าไม่มีงานชิ้นนี้ผมจะไม่มีสิทธิ์จบ ชีวิตผมทั้งชีวิตก็ไม่รู้จะไปทางไหน คุณพ่อ คุณแม่ คุณยาย ผมจะต้องเสียใจมาก พ่อท่านรอความสำเร็จของผมในครั้งนี้เห็นใจผมด้วยนะครับ ข้อมูลในกล้องนี้มีความสำคัญกับอนาคตของผมจริงๆ สงสารผมเถอะครับ ขอความกรุณาช่วยแชร์ต่อๆกันด้วยนะครับ และขอขอบพระคุณสุภาพสตรีท่านนี้เก็บของให้ผมด้วยครับ เพราะคงเวทนาผมที่ผมลืมของไว้ และคิดว่าผมเป็นเหมือนลูกเหมือนหลานสาวของท่านที่มาด้วยในภาพนี้ครับ ช่วยผมด้วยนะครับ http://www.youtube.com/watch?v=tndpPTZwAO8 เป็นคลิปครับ"

ผู้สื่อข่าว มติชนออนไลน์ ได้โทรศัพท์ไปตามหมายเลขโทรศัพท์ ที่ Jatechan Kirdsuk ประกาศไว้บนเฟซบุ๊ก ซึ่งชายหนุ่มรายนี้มีชื่อจริงคือ นายเจตน์จันทร์ เกิดสุข อายุ 23 ปี เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อินเตอร์ ผู้นำข้อความมาลงประกาศตามหาไว้ โดยเจ้าตัวเล่าเหตุการณ์ว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา ตัวเขาเองและมารดาได้ไปรับประทานอาหารที่บริเวณ ฟู้ดคอร์ด ท็อป ซุปเปอร์มาร์เก็ต ชั้นใต้ดิน ห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัล ลาดพร้าว เวลาประมาณ13.30 น. โดยลืมกระเป๋าที่บรรจุกล้องวิดีโอไว้ที่โต๊ะหลังรับประทานอาหารเสร็จ กว่าจะรู้ตัวและกลับมาหากระเป๋าก็ตอนเวลาประมาณ15.30 น.แล้วแต่ก็ไม่พบ จึงไปสอบทางกับทางห้างฯ ก็ไม่ปรากฎว่า มีผู้ใดนำกระเป๋ามาคืน ทางห้างฯจึงแนะนำให้เขาไปลงบันทึกประจำวันกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และนำใบบันทึกประจำวันมาขอดูกล้องวิดีโอวงจรปิด และก็สันนิษฐานว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว น่าจะตรงกับช่วงผู้หญิงในภาพที่ตนประกาศตามหาอาจเป็นคนเก็บไว้ให้ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจริงๆแล้วเป็นผู้หญิงคนนั้นหรือไม่ จึงได้มาประกาศผ่านเเฟซบุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือจากสังคม เพราะมองเห็นว่าเป็นช่องทางเดียวที่น่าจะช่วยกันกระจายข่าวความเดือดร้อนให้ตนได้

"ในกระเป๋านั้นใส่วิดีโอที่ผมถ่ายงานเพื่อเตรียมมานำตัดต่อส่งงานอาจารย์ ซึ่งเป็นโปรเจ็คสุดท้ายก่อนที่ผมจะเรียนจบในภาคการศึกษานี้ ผมอยากได้กล้องที่มีข้อมูลงานของผมคืนไม่ได้คิดจะไปเอาความเอาเรื่องใคร และหากผู้หญิงคนนั้นที่เขาน่าจะเป็นคนที่อยู่ในช่วงเวลานั้นจริงๆเป็นผู้เก็บไว้ให้ผมก็อยากให้เขาได้เห็นในสิ่งที่ผมพึ่งเฟซบุ๊กและติดต่อนำมาคืนให้กับผมเขาอาจติดต่อผมไม่ได้ เลยใช้ตรงนี้เป็นช่องทางในการสื่อสารเพราะก็เห็นแต่มีตรงนี้เท่านั้นที่ช่วยเหลือผมได้ ขณะที่อีกหนึ่งช่องทางที่ผมพอจะพึ่งได้ก้คือการบนบาน ศาลกล่าวต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกทาง ผมแค่อยากได้ข้อมูลงานของผมคืนเท่านั้น ตอนนี้ผมเดือดร้อนมาก วอนทุกคนช่วยเหลือผมด้วย"

อย่างไรก็ตาม ภายหลังที่ Jatechan Kirdsuk นำรูปภาพ พร้อมข้อความรวมถึง คลิปวิดีโอ โพสต์ผ่านทางเฟซบุ๊ก และเว็บไซต์ youtube ตั้งแต่เมื่อช่วงดึกวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมานั้น ได้มีผู้คนในสังคมโซเชี่ยลมีเดีย ต่างแชร์ข้อมูลเพื่อช่วยกันตามหากล้องวิดีโอให้กับชายคนดังกล่าวนั้นเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ ผู้คนที่ทราบข่าวจำนวนไม่น้อยแนะนำให้นายเจตน์จันทร์ไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ รวมถึงบุคคลที่ทราบข่าวบางส่วน ได้โทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูลประกอบจากเจ้าตัว ในการเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยกันตามหากล้องวิดีโอ ทั้งที่ไม่รู้จักกัน นับเป็นอีกหนึ่งปรากฎการณ์การรวมพลังช่วยเหลือซึ่งกันและกันของผู้คนในสังคมโซเชี่ยลมีเดีย ที่ปัจจุบันเริ่มมีอิทธิพลและเป็นที่พึ่งพาของคนในสังคมมากขึ้น

จากคุณ : BONDJUNG_TH

เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 10:41:24