ความคิดเห็นที่ 1 นกแต้วแล้วธรรมดา Blue-winged Pitta ชื่ออื่น   นกกอหลอ (ปักษ์ใต้); นกเต้น, นกเต้นตามกวาง (อีสาน); นกเต้าเล้า, นกแต้วแล้ว (ภาคกลาง) Buff-breasted Pitta, Lesser Blue-winged Pitta, Little Blue-winged Pitta, Moluccan Pitta ขนาด ..ขนาดกลาง ความยาวจากปลายปากถึงปลายหาง 18-20.5 ซม. น้ำหนัก 83-87 กรัม ปากยาว 28-32.5 ม.ม. ปีกยาว 114-136 ม.ม. หางสั้นมาก ยาวเพียง 38-54 ม.ม. ขาท่อนล่างยาว 37.5-41 ม.ม. จากคุณ : เตี้ย_แม่กลอง เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 05:23:21

ความคิดเห็นที่ 2 ลักษณะและสีสัน..นกแต้วแล้วธรรมดามีเชื้อสายใกล้ชิดกับนกแต้วแล้วป่าโกงกาง (Mangrove Pitta) มากที่สุดจนนักปักษีวิทยาจัดให้อยู่ใน superspecies เดียวกัน และในอดีตนักปักษีวิทยาเคยถือว่านกแต้วแล้วธรรมดาและนกแต้วแล้วป่าโกงกางเป็นนกแต้วแล้วชนิดเดียวกัน แต่แยกออกเป็นคนละชนิดย่อย ด้วยเหตุนี้ นกแต้วแล้วธรรมดาจึงมีสีสันคล้ายคลึงกับนกแต้วแล้วป่าโกงกางมากกว่านกแต้วแล้วชนิด.. ในการจำแนกนกแต้วแล้วธรรมดาและนกแต้วแล้วป่าโกงกาง นักดูนกต้องใช้ความพิถีพิถันในการพิจารณามากเป็นพิเศษ แต่เนื่องจากนกแต้วแล้วสองชนิดนี้อาศัยอยู่ในแหล่งอาศัยที่แตกต่างกันจึงไม่เป็นการยากในการจำแนก นกตัวผู้และนกตัวเมียมีสีสันเหมือนกันมากจนแยกความแตกต่างระหว่างเพศไม่ได้ ปาก สีดำ ม่านตา สีน้ำตาลไหม้ และมีหนังแคบๆ รอบตาสีเทาอ่อน ขา สีชมพูจนถึงขาวอมชมพู นิ้วเท้า สีค่อนข้างเหลือง จากคุณ : เตี้ย_แม่กลอง เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 05:24:36

ความคิดเห็นที่ 3 นกโตเต็มวัย..นกแต้วแล้วธรรมดามีสีสันสวยงามเกินนกชนิดใดและสวยงามกว่านกแต้วแล้วอีก 11 ชนิดที่พบในประเทศไทยด้วย เพราะมีสีสันตัดกันมากมายถึง 7สี มีแถบขนาดใหญ่สีดำจากโคนปากรวมทั้งคางลากผ่านตาและใต้ตาและขนคลุมหูไปยังหลังคอจนจดกัน ซ้อนข้างบนด้วยแถบที่แคบกว่าเล็กน้อยสีน้ำตาลแกมแดงจากหน้าผาก ด้านข้างกระหม่อมไปยังท้ายทอย แต่ขอบล่างของแถบมักออกสีเหลือง กึ่งกลางกระหม่อมเป็นแถบแคบๆ สีดำ หลัง ไหล่และขนโคนปีกสีเขียวเข้ม ตะโพกและขนคลุมบนโคนหางสีน้ำเงินแกมม่วงสุกใส นกบางตัวมีลายขีดสีดำแซมตามไหล่ หลังและตะโพกบ้าง ขนหางสีดำแต่ปลายหางเป็นแถบแคบๆ สีน้ำเงิน ขนคลุมปีกด้านในและขนคลุมปีกกลางสีเขียวแกมฟ้า แต่ขอบขนและปลายเส้นขนเป็นแถบสีน้ำเงินแกมม่วง ทำให้แลเห็นเป็นแถบใหญ่สีน้ำเงินแกมม่วงสุกใสที่ขนคลุมปีก ขนคลุมปีกใหญ่ด้านนอกสีเขียวแกมฟ้า แต่โคนครีบขนด้านในสีน้ำตาลไหม้ ขนกลางปีกสีค่อนข้างดำ แต่โคนครีบขนด้านนอกสีฟ้า ขนปลายปีกสีค่อนข้างดำ แต่มีแถบกว้างสีขาวพาดขวางขนปลายปีกทุกเส้น ในเวลาที่นกหุบปีกมักแลเห็นสีขาวที่ขนปลายปีกไม่ชัดหรือเห็นเพียงเล็กน้อย แต่นกบางตัวไม่มีแถบกว้างสีขาวพาดขวางขนปลายปีกเส้นนอกๆ ขนคลุมใต้ปีกสีดำ ใต้คอสีขาว ตัดกับหน้าอก สีข้างและท้องตอนบนสีน้ำตาลออกส้ม ท้องตอนล่างและขนคลุมใต้โคนหางสีแดงเข้ม เนื่องจากนกแต้วแล้วธรรมดามีแถบสีขาวขวางขนปลายปีก ในขณะบินจึงแลเห็นแต้มกลมใหญ่สีขาวเกือบเต็มขนปลายปีกสีดำเด่นชัดมากและในขณะที่นกบินผ่านหน้าเราเข้าไปในดงพืชรกทึบอย่างรวดเร็ว อาจทำให้เราเข้าใจผิดคิดว่าเป็น นกกระเต็นหัวดำ [Black-capped Kingfisher; Halcyon pileata (Boddaert) 1783] ได้ แต่นกกระเต็นหัวดำมีหัวสีดำสนิทและหลังสีน้ำเงินเข้ม นกวัยอ่อน..เมื่อดูเผินๆ นกวัยอ่อนมีสีสันคล้ายคลึงกับนกที่โตเต็มวัยแล้ว แต่สีสันโดยทั่วไปของลำตัวส่วนบนหม่นกว่าเล็กน้อย ขนคลุมปีกมีสีฟ้าจางกว่า แถบแคบๆ ที่ปลายหางสีเขียว ไม่ใช่สีน้ำเงิน และไม่มีแถบสีแดงที่ท้องตอนล่างและขนคลุมใต้โคนหาง นอกจากนี้ ปลายปากและมุมปากมีแต้มสีแดง และแถบสีน้ำตาลแกมแดงที่ด้านข้างของกระหม่อมออกสีเนื้อและมีลายเกล็ดสีน้ำตาลไหม้                               เมื่อดูเผินๆ นกวัยอ่อนของนกแต้วแล้วธรรมดาคล้ายคลึงกับนกวัยอ่อนของนกแต้วแล้วอกเขียว (Hooded Pitta) มาก แต่นกวัยอ่อนของนกแต้วแล้วอกเขียวไม่มีสีฟ้าหรือน้ำเงินใดๆ บนปีกเลย และยังมีแถบแคบๆ สีขาวที่ขนคลุมปีกอีกด้วย จึงแยกความแตกต่างได้ไม่ยากนัก จากคุณ : เตี้ย_แม่กลอง เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 05:26:58

ความคิดเห็นที่ 4 เสียงร้อง เสียงร้องดังและชัดเจนมาก สามารถได้ยินได้ในระยะไกล ดัง แต้วแล้ว แต้วแล้ว เป็นระยะๆ ทำให้ชาวภาคกลางเรียกนกชนิดนี้ว่า นกแต้วแล้ว และในเวลาต่อมาชาวไทยจึงนำชื่อ นกแต้วแล้ว ไปใช้เรียกนกชนิดอื่นในวงศ์นกแต้วแล้ว (Family Pittidae) ด้วย ทั้งๆ ที่นกชนิดอื่นในวงศ์เดียวกันมิได้ส่งเสียงร้องเช่นนี้ เราจึงต้องเรียกนกชนิดนี้ใหม่ว่า นกแต้วแล้วธรรมดา เพราะพบบ่อยที่สุด เพื่อไม่ให้ซ้ำกับนกชนิดอื่นในวงศ์เดียวกัน อย่างไรก็ดี ชาวภาคกลางบางคนได้ยินนกชนิดนี้ร้องดัง เต้าเล้า เต้าเล้า จึงเรียกนกชนิดนี้ว่า นกเต้าเล้า แต่ชาวปักษ์ใต้ได้ยินนกชนิดนี้ร้องดัง กอหลอ กอหลอ จึงเรียกนกชนิดนี้ว่า นกกอหลอ  ส่วนบนเกาะบอร์เนียว ชาวพื้นเมืองเรียกนกแต้วแล้วชนิดนี้ว่า Burong Hujan-hujan ซึ่งแปลว่า นกแห่งสายฝน ทั้งนี้เพราะว่าชาวพื้นเมืองมักได้ยินเสียงร้องของนกแต้วแล้วชนิดนี้ก่อนฝนตในฤดูผสมพันธุ์ของนกแต้วแล้วธรรมดา ถ้าเราเดินทางเข้าไปในป่าเรามักได้ยินเสียงร้อง แต้วแล้ว แต้วแล้ว ของนกดังอยู่ไม่ขาดระยะ ตรงโน้นบ้าง ตรงนี้บ้าง แต่เรามักหาที่มาของเสียงร้องไม่พบ ทั้งนี้เพราะว่าเสียงร้องของนกดังและก้องไปทั่วทั้งป่า ในเวลาส่งเสียงร้องนกแต้วแล้วชนิดนี้บินขึ้นไปเกาะบนต้นไม้หรือกอไผ่แล้วส่งเสียงร้อง แต่ในบางครั้งส่งเสียงร้องขณะอยู่บนพื้นดิน นกแต้วแล้วธรรมดาทั้งนกตัวผู้และนกตัวเมียจะส่งเสียงร้องดัง แต้วแล้ว ติดต่อกันเพียง 2 ครั้ง (แต่ละครั้งนานไม่ถึง 1 วินาที) แต่บางครั้งติดต่อกันหลายครั้งและแต่ละครั้งห่างกันราว 3-3.5 วินาที และอาจส่งเสียงร้องยาวนานถึง 14 ครั้งต่อนาที นกจะส่งเสียงร้องเช่นนี้เฉพาะในฤดูผสมพันธุ์เพื่อประกาศอาณาเขตเท่านั้น นอกฤดูผสมพันธุ์ นกอาจส่งเสียงร้องบ้างในเวลาพลบค่ำเมื่อนกขึ้นไปเกาะคอนแล้วหรือในเวลาเช้าตรู่ขณะยังอยู่บนต้นไม้ การแพร่กระจาย นกแต้วแล้วธรรมดานับว่าเป็นนกแต้วแล้วที่ประสพความสำเร็จมากที่สุดในบรรดานกแต้วแล้วทั้ง 32 ชนิดที่พบในโลก เพราะนกแต้วแล้วชนิดนี้ได้พัฒนานิสัยให้เป็นนกบินอพยพย้ายถิ่นเดินทางไกล จึงสามารถแพร่กระจายได้กว้างขวางทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเข้าไปผสมพันธุ์ทำรังวางไข่ในบริเวณพื้นที่ซึ่งแห้งแล้งที่สุดและร้อนที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ ในขณะที่นกแต้วแล้วชนิดอื่นเป็นนกประจำถิ่นที่ต้องอาศัยหกินและผสมพันธุ์ทำรังวางไข่อยู่ในป่าดิบที่ชุ่มชื้นเท่านั้นและมักผสมพันธุ์ทำรังวางไข่ในฤดูฝนด้วย ฤดูผสมพันธุ์ ในช่วงฤดูฝนนกแต้วแล้วธรรมดาบินอพยพย้ายถิ่นขึ้นไปอาศัยและผสมพันธุ์ทำรังวางไข่ในจีนตอนใต้ในมณฑลหยุนหนาน (Yunnan) ตอนใต้ ใน Xishuangbanna ตอนใต้ พม่าในรัฐชาน (Shan) ตอนใต้ เทือกเขาพะโค (Pegu Hills) เทือกเขากะเหรี่ยง (Karen Hills) รัฐยะไข่ (Arakan) ตอนใต้ จนถึงเขตตะนาวศรี (Tenasserim) ประเทศไทย ยกเว้นภาคกลางและส่วนใหญ่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลาว กัมพูชาแถบลุ่มแม่น้ำโขงและเทือเขาช้าง (Elephant Mountains) เวียดนามในแคว้นอันนัม (Annam) และแคว้นโคจินจีน (Cochinchina) และมลายูตอนเหนือในรัฐปะลิส (Perlis) และเกาะลังกาวี (Langkawi) นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานที่ทำให้เชื่อได้ว่านกบางตัวอาจผสมพันธุ์ทำรังวางไข่ในบอร์เนียวด้วย และยังเคยมีผู้พบเห็นนกแต้วแล้วธรรมดาขณะบินอพยพย้ายถิ่นผ่านดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดง (Red R.) ของเวียดนามอีกด้วย ซึ่งชี้ให้เห็นว่านกแต้วแล้วชนิดนี้อาจผสมพันธุ์ทำรังวางไข่ในเวียดนามในแคว้นตังเกี๋ย (Tonkin) และจีนซึ่งติดต่อกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมณฑลกวางสี (Guangxi) จากคุณ : เตี้ย_แม่กลอง เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 05:27:42

ความคิดเห็นที่ 5 นกแต้วแล้วอกเขียว Hooded Pitta ชื่ออื่น  ..Black-headed Pitta, Green-breasted Pitta ลักษณะและสีสัน..ลำตัวค่อนข้างเล็กกว่านกแต้วแล้วชนิดอื่นและนกโตเต็มวัยมีสีสันโดดเด่นไม่เหมือนนกแต้วแล้วชนิดใด นกตัวผู้และนกตัวเมียมีสีสันเหมือนกัน แยกความแตกต่างระหว่างเพศไม่ได้ ปาก สีดำ ม่านตา สีค่อนข้างดำ ล้อมรอบด้วยหนังแคบๆ รอบตาสีเทา เหนือตาและใต้ตาแต้มสีแดงเล็กน้อย ขาและนิ้วเท้า สีเทา จากคุณ : เตี้ย_แม่กลอง เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 05:28:41

ความคิดเห็นที่ 6 นกโตเต็มวัย...หน้าผาก กระหม่อมและท้ายทอยเป็นแถบสีน้ำตาลแกมแดง หัวตา คาง ใต้คอ ขอบบนสุดของหน้าอก ด้านข้างของหัวและรอบหลังคอสีดำสนิท แต่เมื่อมองดูเผินๆ แลเห็นทั้งหัวและคอสีดำราวกับถูกคลุมด้วยผ้าสีดำทั้งหัว ชาวอังกฤษจึงเรียกนกแต้วแล้วชนิดนี้ว่า Hooded Pitta แม้แต่ชื่อชนิดย่อย คือ cucullata ยังมาจากคำว่า cucullatus ในภาษาละตินซึ่งแปลว่า มีผ้าคลุมทั้งหัว หลังและไหล่สีเขียวเข้มเข้ากับใบไม้ ตะโพกและขนคลุมบนโคนหางสีฟ้าสดใสและเป็นมันสะท้อนแสง ขนหางสีดำ แต่ปลายขนหางเป็นแถบสีน้ำเงินกว้าง 1-2 ม.ม. ซึ่งแลเห็นไม่ค่อยชัด ขนโคนปีกสีเขียวเข้มกลมกลืนกับหลังและไหล่ ขนคลุมปีกมีแถบสีฟ้าสดใสสะท้อนแสงเช่นเดียวกับตะโพกและแลเห็นเด่นชัดมากเพราะถูกล้อมรอบด้วยขนสีเขียวเข้ม ขนกลางปีกสีค่อนข้างดำแต่ขอบขนสีเขียว ขนปลายปีกสีดำแต่มีแถบสีขาวพาดขวางใกล้ปลายขน ในเวลาที่นกหุบปีกมักเห็นปีกเป็นสีเขียวและมีแถบสีฟ้าสดใส แต่ไม่เห็นแถบสีขาวเพราะแลเห็นได้ชัดเจนในเวลาที่นกกางปีกออกเท่านั้น ขนคลุมใต้ปีกสีดำ หน้าอก สีข้างและด้านข้างของท้องสีเขียว จนทำให้ในอดีตชาวอังกฤษเรียกนกแต้วแล้วชนิดนี้ว่า Green-breasted Pitta นายแพทย์บุญส่ง เลขะกุลจึงตั้งชื่อภาษาไทยให้นกแต้วแล้วชนิดนี้ว่า นกแต้วแล้วอกเขียว ทับศัพท์ชื่อภาษาอังกฤษ แต่จางกว่าบนหลังและไหล่ และเหลือบสีฟ้าเล็กน้อย กึ่งกลางท้องตอนบนสีดำ แต่กึ่งกลางท้องตอนล่าง ก้นและขนคลุมใต้โคนหางสีแดงเข้มตัดกับสีเขียวของอกและสีข้างอย่างเห็นได้ชัด นกแต้วแล้วอกเขียวชนิดย่อยนี้มีปากยาว 24-28 ม.ม. ปีกยาว 95-107 ม.ม. หางสั้นมาก ยาวเพียง 32-39 ม.ม. ขาท่อนล่างยาว 36-39 ม.ม. และหนัก 42-70 กรัม จากคุณ : เตี้ย_แม่กลอง เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 05:30:45

ความคิดเห็นที่ 7 เสียงร้อง เสียงร้องคล้ายเสียงผิวปาก ดัง แล้ว แล้ว สองครั้งหรือเป็นจังหวะติดต่อกันไปเรื่อยๆ คล้ายคลึงกับเสียงร้องของนกแต้วแล้วธรรมดา (Blue-winged Pitta) มาก แต่นกแต้วแล้วอกเขียวชอบส่งเสียงร้องขณะอยู่บนพื้นดินมากกว่า จึงแตกต่างจากนกแต้วแล้วธรรมดาที่ส่งเสียงร้องขณะเกาะอยู่บนต้นไม้ นานๆ สักครั้งนกแต้วแล้วอกเขียวจึงส่งเสียงร้องขณะเกาะอยู่บนต้นไม้ในระดับความสูงประมาณ 6-7 เมตรเหนือพื้นดิน นักดูนกที่ไม่มีความชำนาญอาจเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเสียงร้องของนกแต้วแล้วธรรมดา เสียงร้องในเวลาตกใจ ดัง อี๊ด คล้ายคลึงกับเสียงร้องของทั้งนกแต้วแล้วธรรมดาและนกแต้วแล้วท้องดำ (Gurney’s Pitta) แต่เสียงร้องสั้นกว่า และแหลมกว่า การแพร่กระจาย นกแต้วแล้วอกเขียวมีการแพร่กระจายทั่วทั้งเอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเลยไปถึงนิวกินีด้วยจนจัดเป็นนกแต้วแล้วที่มีการแพร่กระจายกวางขวางที่สุดในโลก แต่บนผืนแผ่นดินใหญ่ของเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พบเพียงชนิดย่อยเดียวเท่านั้น คือ ชนิดย่อย P. s. cucullata ซึ่งเป็น นกประจำถิ่น ที่อาศัยและผสมพันธุ์ทำรังวางไข่ในไทยภาคใต้ พอถึงฤดูร้อนราวเดือนเมษายนเมื่อฤดูกาลเริ่มเปลี่ยนจากฤดูหนาวที่แห้งแล้งมาเป็นฤดูร้อนซึ่งมีฝนตกบ้างเพราะลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ได้พัดพาเอาความชุ่มชื้นจากมหาสมุทรอินเดียเข้าสู่ผืนแผ่นดินใหญ่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นกที่อาศัยหากินอยู่ในมลายู สิงคโปร์และเกาะเล็กๆ ใกล้เคียง และเกาะเล็กๆ ชายฝั่งด้านตะวันตกของสุมาตราจะบินอพยพย้ายถิ่นไปพร้อมกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เพื่อขึ้นไปผสมพันธุ์ทำรังวางไข่ในไทยภาคอื่น ลาวภาคเหนือและภาคใต้ กัมพูชา เวียดนาม ในแคว้นตังเกี๋ยตะวันตก พม่า จีนด้านตะวันตกเฉียงใต้ในมณฑลหยุนหนานตอนใต้ อินเดียด้านตะวันออกเฉียงเหนือ บังกลาเทศ และแถบเชิงเขาหิมาลัยของอินเดีย เนปาล สิกขิม และภูฐาน ตั้งแต่บนที่ราบต่ำจนถึงป่าดิบเขาระดับความสูง 1,800 เมตร จากคุณ : เตี้ย_แม่กลอง เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 05:31:20

ความคิดเห็นที่ 8 ฤดูผสมพันธุ์ ฤดูฝนระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม นฤดูผสมพันธุ์ นกแต้วแล้วอกเขียวมีวิธีเกี้ยวพาราสีกันที่น่าดูมาก นกตัวผู้และนกตัวเมียที่จับคู่กันจะกระโดดไล่กันไปรอบๆ สลับด้วยการยกตัวขึ้นเข้าหากันแล้วลดตัวลงอย่างรวดเร็ว ตลอดเวลานกจะกระดกหางสั้นๆ ขึ้นๆ ลงๆ และส่งเสียงอยู่ในลำคอ บางครั้งนกตัวหนึ่งยืนอยู่ต่อหน้านกอีกตัวหนึ่งพร้อมกับยกและแผ่ปีกออก เผยให้เห็นแถบสีขาวที่ซ่อนอยู่ในปีก รัง หลังจากนั้นอีกราว 1 สัปดาห์นกทั้งคู่จึงเริ่มสร้างรังซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม นกแต้วแล้วอกเขียวสร้างรังได้รวดเร็วมาก เพียงแค่ 3 วันนกทั้งคู่สามารถสร้างรังเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพราะนกทั้งคู่รีบเร่งหาวัสดุและนำมาสร้างรังตลอดทั้งวัน แต่รังบางรังอาจใช้เวลาก่อสร้างนานกว่านี้ รังเป็นรูปลูกรักบี้ (rugby ball) ทำด้วยกิ่งไม้แห้งเล็กๆ รากพืชเล็กๆ เส้นใยของพืชและใบไม้แห้ง ในบางท้องที่นกใช้ใบไผ่แห้งด้วย แต่บางรังมีแต่ใบไผ่แห้งล้วนๆ ที่นำมาขัดสานกันอย่างหยาบๆ หลวมๆ แล้วรองภายในรังด้วยเส้นใยของพืช รังของนกจึงผุพังได้ง่ายแต่กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมดีมาก รังแต่ละรังยาวประมาณ 20-25.5 ซม. และกว้างประมาณ 15-24 ซม. ทางด้านหน้าของรังมีรูเข้ารังเป็นรูกลมๆ ซึ่งกว้างประมาณ 7.6 ซม. รังของนกแต้วแล้วอกเขียวอยู่บนพื้นดิน ในดงพืชรกๆ กอไผ่ บนตอไม้ ซึ่งรอบๆ รังเต็มไปด้วยกิ่งไม้ และใบไม้แห้งที่กองทับถมกันทำให้แลเห็นรังได้ยากมาก บางครั้งอยู่ตรงรากไม้ของลำต้นไม้ที่โค่นล้มอยู่กับพื้นดิน ตรงโคนต้นปาล์มบางชนิด หรือบนกองใบไม้แห้งที่ทับถมกัน บางครั้งอยู่ในกอเฟินข้าหลวง (Bird’s Nest Fern) ที่ขึ้นอยู่บนต้นไม้สูงหรือในกองใบไม้ที่ถูกน้ำพัดพามาสะสมไว้บนก้อนหินใหญ่ที่ขวางลำห้วย โดยนกใช้กิ่งไม้ยึดกองใบไม้แห้งเหล่านั้นเข้ากับต้นไม้เล็กๆ เช่น สัมกุ้ง (Begonia) และเฟินที่ขึ้นอยู่บนก้อนหิน ไข่ นกแต้วแล้วอกเขียววางไข่ครอกละ 3-5 ฟอง แต่บางครั้งมีเพียง 1 หรือ 2 ฟองเท่านั้น ขนาดของไข่ 23-28 X 19.6-22.5 ม.ม. เปลือกไข่สีขาวและประพรมด้วยจุดกระสีม่วงหรือสีน้ำตาล และอาจมีลายขีดสีดำแกมม่วงด้วย แต่ลวดลายและจุดกระหนาแน่นมากทางด้านป้านของไข่ โดยวางไข่วันละ 1 ฟอง เมื่อวางไข่ฟองสุดท้ายแล้ว นกตัวผู้และนกตัวเมียจะผลัดกันกกไข่ทันที โดยใช้เวลากกไข่ประมาณ 15-16 วัน ลูกนกฟักออกจากไข่ใหม่ๆ มีแต่หนังเปลือยเปล่าและตาปิด พ่อนกและแม่นกจะช่วยกันหาเหยื่อซึ่งส่วนใหญ่เป็นไส้เดือนมาป้อนลูกนก พ่อนกหรือแม่นกจะหาไส้เดือนมาสะสมไว้ ณ ที่ใดที่หนึ่ง เมื่อได้มากพอแล้วจึงนำไปป้อนลูกนก โดยลูกนกแต่ละตัวกินไส้เดือนครั้งละ 2 ตัว จนกว่าลูกนกจะเจริญเติบโตพอที่จะหากินเองได้ซึ่งต้องใช้เวลาราว 12 วัน เมื่อลูกนกบินได้แล้วจึงแยกจากพ่อนกและแม่นกออกไปหากินเองตามลำพัง เมื่อถึงกลางเดือนตุลาคม ลูกนกจึงเจริญเติบโตเต็มวัยแล้วและพร้อมที่จะบินอพยพกลับไปยังมาเลเซียและอินโดนีเซียเช่นเดียวกับพ่อนกและแม่นก จากคุณ : เตี้ย_แม่กลอง เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 05:31:55

ความคิดเห็นที่ 9 นกแต้วแล้วนางฟ้า Fairy Pitta Pitta nympha Temminck & Schlegel 1850 ชื่ออื่น ..Chinese Pitta, Lesser Blue-winged Pitta, Swinhoe’s Pitta ขนาด                   ขนาดกลาง ความยาวจากปลายปากถึงปลายหาง 16-19.5 ซม. น้ำหนัก 67.5-155 กรัม (นกในไต้หวัน) 63 กรัม (นกตัวหนึ่งในบอร์เนียว) ปากยาว 28-31 ม.ม. ปีกยาว 118-128 ม.ม. หางยาว 34-45 ม.ม. ขนาดระหว่าง นกแต้วแล้วอินเดีย กับ นกแต้วแล้วธรรมดา ลักษณะและสีสัน นกแต้วแล้วนางฟ้ามีเชื้อสายใกล้ชิดกับนกแต้วแล้วอินเดีย (Indian Pitta) มากที่สุดจนนักปักษีวิทยาจัดให้อยู่ใน superspecies เดียวกัน และในอดีตนักปักษีวิทยาเคยถือว่านกแต้วแล้วนางฟ้าและนกแต้วแล้วอินเดียเป็นนกแต้วแล้วชนิดเดียวกัน แต่แยกออกเป็นคนละชนิดย่อย ด้วยเหตุนี้ นกแต้วแล้วนางฟ้าจึงมีสีสันคล้ายคลึงกับนกแต้วแล้วอินเดียมากกว่านกแต้วแล้วชนิดใ จากคุณ : เตี้ย_แม่กลอง เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 05:32:21

ความคิดเห็นที่ 10 นกโตเต็มวัย นกตัวผู้และนกตัวเมียมีสีสันเหมือนกันมากจนแยกความแตกต่างระหว่างเพศไม่ได้ ปาก สีดำ แต่นกบางตัวมีปลายปากสีค่อนข้างจาง ม่านตา สีน้ำตาลไหม้ ขาและนิ้วเท้า สีชมพูจนถึงขาวอมเทา   แถบหนาสีดำลากจากหัวตา ผ่านตา และขนคลุมหู ไปจดกันที่ท้ายทอย มีแถบแคบคล้ายคิ้วสีเนื้อลากจากรูจมูกไปเหนือแถบหนาสีดำ ไปจดกันที่ท้ายทอย และล้อมรอบหน้าผาก กระหม่อม และท้ายทอยสีน้ำตาลแดง หลังและไหล่สีเขียวเข้ม ตะโพกและขนคลุมบนโคนหางสีฟ้าสดใส แต่นกบางตัวอาจมีขนบนหลังและตะโพกสีค่อนข้างดำบริเวณกลางเส้นขน ทำให้แลเห็นเป็นลายสีดำ หางสีดำ แต่ปลายขนหางสีน้ำเงิน ตะโพกและขนคลุมบนโคนหางสีฟ้าสดใส สีสันของหลังไหล่และตะโพกจึงใกล้เคียงกับนกแต้วแล้วอกเขียวมาก (นกแต้วแล้วนางฟ้าบางตัวอาจมีขนบนหลังและตะโพกสีค่อนข้างดำบริเวณกลางเส้นขน ทำให้แลเห็นเป็นลายสีคล้ำอยู่บนพื้นสีเขียวของหลังและสีฟ้าของตะโพก) หางสั้นสีดำ แลเห็นไม่ค่อยชัดเพราะปลายปีกยาวลงมาคลุมจนเกือบมิด แต่ปลายขนหางสีน้ำเงิน ขนคลุมปีกน้อยสีฟ้าอมเขียวสุกใสคล้ายสีของ ไข่การะเวก (turquoise) และแลเห็นเด่นชัดที่สุดเป็นแถบสีฟ้าอมเขียวสุกใสอยู่บริเวณหัวปีกสีเขียว เพราะขนคลุมปีกกลางสีเขียว ขนคลุมปีกใหญ่และขนโคนปีกสีเขียวแกมฟ้า ผิดกับนกแต้วแล้วธรรมดาที่มีแถบบริเวณหัวปีกสีน้ำเงินอมม่วง ขนกลางปีกสีค่อนข้างดำ แต่ขนกลางปีก 5 เส้นนอกมีครีบขนด้านนอกสีฟ้า และขนกลางปีกเส้นในๆ มีครีบขนด้านนอกสีฟ้าอมเขียว ขนปลายปีกสีค่อนข้างดำ แต่ปลายขนปลายปีกออกสีเทา ครีบขนด้านนอกของขนปลายปีก 2 เส้นนอกมีจุดสีขาว ในเวลากางขนปลายปีกออกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะบินจึงแลเห็นเป็นแต้มกลมสีขาวได้อย่างชัดเจน ทำให้คล้ายคลึงกับนกแต้วแล้วอกเขียวในขณะบินซึ่งมีแต้มกลมสีขาวที่ขนปลายปีกเช่นเดียวกัน  แต่แต้มกลมสีขาวของนกแต้วแล้วนางฟ้ามีขนาดเล็กกว่าเล็กน้อย คางและใต้คอสีขาวราวกับสำลีเช่นเดียวกับนกแต้วแล้วธรรมดา อก สีข้าง ด้านข้างของท้อง และขนโคนขาสีเนื้อแกมสีครีมคล้ายสีของลำไม้ไผ่ที่นกกำลังเกาะซึ่งแตกต่างจากนกแต้วแล้วธรรมดาอย่างเห็นได้ชัด เพราะนกแต้วแล้วธรรมดามีลำตัวส่วนล่างสีเนื้อที่เข้มกว่านี้ กึ่งกลางท้องและขนคลุมใต้โคนหางสีแดงสด จึงคล้ายคลึงกับนกแต้วแล้วธรรมดา ขาและนิ้วเท้าสีชมพู (นกบางตัวอาจมีขาและนิ้วเท้าสีขาวอมเทา)   เมื่อเห็นครั้งแรกอาจเข้าใจผิดคิดว่าเป็นนกแต้วแล้วธรรมดา (Blue-winged Pitta) เพราะมีสีสันเมื่อดูเผินๆ คล้ายคลึงกัน แต่ในขณะบินกลับคล้ายคลึงกับนกแต้วแล้วอกเขียว (Hooded Pitta) จึงมีสีสันก้ำกึ่งระหว่างนกแต้วแล้ว 2 ชนิดนี้ นักดูนกที่ไม่มีความชำนาญจึงอาจมองข้ามได้ ถึงแม้ว่านกแต้วแล้วนางฟ้ามีสีสันตัดกันถึง 7 สีจนน่าจะแลเห็นได้ง่ายในป่า แต่กลับเป็นนกที่แลเห็นตัวได้ยากมาก ทั้งนี้เพราะว่าสีน้ำตาลแดงบนกระหม่อม สีเขียวบนหลังไหล่ และสีฟ้าบนตะโพกและขนคลุมบนโคนหางของนกกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมในป่ามากโดยเฉพาะอย่างยิ่งบนพื้นดินที่มีเฟินและไม้คลุมดินอื่นๆ ขึ้นหนาแน่น ถ้าหากนกยืนหันหลังให้ เราแทบไม่สามารถมองเห็นตัวนกได้เลย อย่างไรก็ดี ถ้าหากนกแต้วแล้วชนิดนี้ยืนเอียงข้าง เรามักแลเห็นตัวนกได้ง่ายกว่าแม้ว่าจะมีไม้พุ่มและเฟินขึ้นอยู่หนาแน่นตามพื้นดิน เพราะว่าแถบสีฟ้าอมเขียวที่บริเวณหัวปีกจะสุกใสสะท้อนกับแสงแดดที่ส่องลอดช่องแมกไม้ลงมาเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ แถบสีแดงที่ขนคลุมใต้โคนหางจนถึงกึ่งกลางท้องยังแลเห็นได้เด่นชัดอีกด้วยแม้ว่านกยืนอยู่ห่างจากนักดูนกหลายสิบเมตร ในขณะที่นกแต้วแล้วนางฟ้าบินผ่านหน้าเราไป แวบแรกที่เห็นเรามักเข้าใจว่าเป็นนกแต้วแล้วอกเขียวที่เราคุ้นเคยกันดีเพราะมีหลังไหล่สีเขียวเข้มเหมือนกัน สีฟ้าที่ตะโพกและขนคลุมบนโคนหางเหมือนกัน  แถบสีฟ้าสุกใสบริเวณหัวปีกเหมือนกัน และแต้มกลมสีขาวบนปีกเหมือนกัน แต่แต้มกลมสีขาวของนกแต้วแล้วนางฟ้ามีขนาดเล็กกว่า และกระหม่อมมีสีน้ำตาลแดงเด่นชัด ไม่ออกดำหรือน้ำตาลไหม้อย่างนกแต้วแล้วอกเขียว จากคุณ : เตี้ย_แม่กลอง เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 05:33:11

ความคิดเห็นที่ 11 แหล่งอาศัย ในญี่ปุ่นในฤดูร้อนซึ่งเป็นฤดูผสมพันธุ์ นกแต้วแล้วชนิดนี้อาศัยและผสมพันธุ์ทำรังวางไข่ในป่าผลัดใบและป่าดิบตามลาดเขาเตี้ยๆ ในระดับความสูงต่ำกว่า 500 เมตร ใกล้ชายฝั่ง แต่มีลำธารที่มีไม้พุ่มและเฟินขึ้นหนาแน่นอยู่ทั้งสองฝั่ง และในบางครั้งยังพบถึงระดับความสูง 1,200 เมตร คือ ภูเขาอันเซ็น (Mt. Unzen) แต่ในฤดูอพยพย้ายถิ่นในเดือนพฤษภาคมมักพบเห็นนกแต้วแล้วชนิดนี้ในป่าสนที่แห้งแล้งและร่มครึ้ม ถึงแม้ว่าในฤดูร้อนนกแต้วแล้วนางฟ้าอาศัยและผสมพันธุ์ทำรังวางไข่ในป่าที่รกทึบจนยากที่จะแลเห็นตัวได้ง่ายๆ แต่ในช่วงที่บินอพยพย้ายถิ่นหลบหนีความหนาวเย็นเพื่อลงมาอาศัยหากินทางตอนใต้ในฤดูหนาว หรือบินอพยพย้ายถิ่นขึ้นเหนือเพื่อไปผสมพันธุ์ทำรังวางไข่ในฤดูร้อน นกแต้วแล้วชนิดนี้อาจแวะพักอาศัยหากินในบริเวณพื้นที่ที่ค่อนข้างโล่ง และบางครั้งยังเชื่องมากอีกด้วย ในสวนเวฬุวันในพุทธมณฑลซึ่งอยู่ริมน้ำและเนืองแน่นไปด้วยกอไผ่ขนาดใหญ่ แม้ว่าพื้นดินใต้กอไผ่เต็มไปด้วยใบไผ่แห้งที่ร่วงหล่นลงมาทับถมกันเกลื่อนกลาด และแทบไม่มีไม้คลุมดินใดๆ ขึ้นอยู่เลยนอกจากต้น พุงดอ หรือ หนามรอบข้อ เพียงไม่กี่ต้นเท่านั้น จนมีสภาพเป็นสวนไผ่ที่โล่งมาก แต่นกแต้วแล้วนางฟ้าตัวหนึ่งยังอาศัยหากินอยู่ได้ตั้ง 7 วัน อุปนิสัย นกแต้วแล้วนางฟ้าใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในเวลากลางวันกระโดดหากินตามพื้นดินในบริเวณพื้นป่าที่มีเฟิน ไม้พุ่ม และไม้คลุมดินอื่นขึ้นอยู่หนาแน่นเพื่อพรางตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมเพื่อป้องกันภัยจากศัตรู แต่นกแต้วแล้วชนิดนี้ชอบอาศัยหากินในบริเวณพื้นป่าใกล้ลำธาร เมื่อกินอิ่มแล้วจะบินขึ้นไปเกาะพักผ่อนบนต้นไม้ แต่อุปนิสัยอื่นๆ ของนกแต้วแล้วชนิดนี้ไม่ค่อยทราบกันนัก อาหาร เข้าใจว่านกแต้วแล้วชนิดนี้คงเลี้ยงชีวิตด้วยไส้เดือน หอยทากและแมลงที่พบตามพื้นดินเช่นเดียวกับนกแต้วแล้วชนิดอื่น ในไต้หวันนกแต้วแล้วชนิดนี้ป้อนลูกนกด้วยไส้เดือนเป็นส่วนใหญ่ โดยคาบไส้เดือนไปพร้อมๆ กันหลายตัว และในกระเพาะของนกตัวหนึ่งมีชิ้นส่วนของด้วงและเปลือกหอยเล็กๆ ด้วย ส่วนในกระเพาะของนกสองตัวที่เก็บได้ในรัฐซาราวัค (Sarawak) บนเกาะบอร์เนียว พบมดในกระเพาะด้วย สาเหตุที่นกแต้วแล้วนางฟ้าอาศัยหากินอยู่ในสวนเวฬุวันได้ตั้ง 7 วัน อาจเป็นเพราะว่านักถ่ายภาพนกได้นำหนอนนกจำนวนมากมาวางไว้ที่พื้นดินเพื่อล่อให้นกแต้วแล้วนางฟ้าตัวนี้ลงมากินเพื่อจะได้ถ่ายภาพได้ และตลอดเวลา 7 วันนกแต้วแล้วนางฟ้าตัวนี้จะบินลงมากินหนอนนกบนพื้นดินเป็นระยะๆ วันละหลายครั้ง พอกินอิ่มจะบินขึ้นไปเกาะพักผ่อนบนกิ่งไผ่ที่ยื่นออกมาจากกอทันที จากคุณ : เตี้ย_แม่กลอง เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 05:34:07

ความคิดเห็นที่ 12 การผสมพันธุ์ทำรังวางไข่ ฤดูผสมพันธุ์ นกแต้วแล้วนางฟ้าผสมพันธุ์ทำรังวางไข่ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม  และได้ยินเสียงร้องของนกบ่อยมากตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม ถึง 10 มิถุนายน แต่ โอ. แอล. ออสติน และ เอ็น. คุโรดะ บอกว่านกจะส่งเสียงร้องอีกครั้งในราวกลางเดือนกรกฎาคมเมื่อนกสร้างรังเสร็จแล้ว และส่งเสียงร้องต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งลูกนกโตเกือบเต็มวัย และพร้อมที่จะบินอพยพย้ายถิ่นลงมาอาศัยหากินทางใต้ในฤดูหนาว รัง นกแต้วแล้วนางฟ้าทำรังด้วยกิ่งไม้แห้งเล็กๆ และใบไม้แห้งที่นำมาขัดสานกันอย่างหลวมๆ จนกลายเป็นรูปโดม รังมีเส้นผ่าศูนย์กลางราว 20 ซม. ซ่อนอยู่ระหว่างง่ามกิ่งของไม้ยืนต้นเตี้ยๆ เช่น ต้นเชอรี (cherry) หรืออยู่ในซอกหิน อยู่สูงจากพื้นดิน 1.5-7.5 เมตร แต่บางครั้งทำรังไว้ในโพรงดิน ด้านหน้าของรังหันออกสู่ดงพืชที่รกทึบ นกโตเต็มวัยที่กระโดดเข้ารังจึงไม่ต้องเคลื่อนที่ผ่านพื้นที่โล่งให้ศัตรูเห็น เนื่องจากรังของนกแต้วแล้วทำด้วยกิ่งไม้แห้งเล็กๆ และใบไม้แห้งที่นำมาขัดสานกันอย่างหลวมๆ จึงไม่มั่นคงแข็งแรงนัก รังของนกแต้วแล้วจึงเก็บมาดูได้ยากมาก เพราะแม้เพียงเอามือไปจับต้องรังของนกแต้วแล้วเพียงเบาๆ รังของนกอาจพังเป็นเศษไม้ออกมาได้ อย่างไรก็ดี รังของนกแต้วแล้วนางฟ้ากลมกลืนกับสภาพแวดล้อมมากจนยากที่ศัตรูจะแลเห็นได้โดยง่าย ไข่ นกแต้วแล้วนางฟ้าวางไข่ครอกละ 4 ถึง 6 ฟอง ไข่มีลักษณะค่อนข้างกลม เปลือกไข่สีขาวเป็นมัน ประพรมด้วยจุดกระใหญ่ๆ สีน้ำตาลแกมม่วง และจุดกระเล็กๆ สีม่วงอ่อน เปลือกไข่ของนกแต้วแล้วนางฟ้าจึงมีสีสันและลวดลายสวยงามมาก และยังเป็นสีสันที่กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมอีกด้วย ทั้งนกตัวผู้และนกตัวเมียช่วยกันกกไข่จนกระทั่งไข่ฟักออกเป็นตัว ลูกนกฟักออกจากไข่ใหม่ๆ มีแต่หนังเปลือยเปล่า ตาปิด และช่วยตัวเองไม่ได้ พ่อนกและแม่นกต้องผลัดกันออกไปหาเหยื่อ เช่น ไส้เดือน มาป้อนลูกนกจนกระทั่งลูกนกเจริญเติบโต หัดบิน และเลี้ยงตัวเองได้ ลูกนกเจริญเติบโตรวดเร็วมาก ภายในเวลาเพียงไม่กี่วันจะมีขนขึ้นเต็มตัว และหัดบินได้แล้ว ตามปกติลูกนกสามารถหัดบินได้เมื่อมีอายุไม่ถึง 2 สัปดาห์เท่านั้น นกวัยอ่อนจึงมีขนาดเล็กกว่านกโตเต็มวัย ขออนุญาตและขอขอบคุณ ข้มูลจาก Savepitta.com Gurney's Pitta conservation group โดยคุณ   สุธี ศุภรัฐวิกร .. และขอขอคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมด้วนะครับ. จากคุณ : เตี้ย_แม่กลอง เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 05:34:47

ความคิดเห็นที่ 13 สวยมาก + ความรู้เพียบ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : CHLOROPHYLL เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 05:57:57

ความคิดเห็นที่ 14 .. โหยยยย .. น้าเตี้ยมาพร้อมข้อมูลแบบปึ๊กๆ .. ขอบคุณมากครับได้ความรู้เกี่ยวกับนกเข้าหัวอีกแล้ว .. จากคุณ : พายหอม&พีมะ เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 05:59:16

ความคิดเห็นที่ 15 เย้น้าเตี้ยเอานกมาโชว์อีกแล้ว หายไปหาถ่ายนกไกลๆนี่เองถึงไม่เห็นตั้งนานมาทีไรมานกสวยๆข้อมูลแน่นปึกมาให้อ่านอีกแล้ว ชอบนกแต้วแล้วธรรมดาที่ไม่ธรรมดาเหมือนชื่อเพราะสีสันได้ใจ 7 สีในตัวเดียวชอบมากก็ตรงขลิบปีกสีฟ้าที่ปลายไล่สีเป็นเฉดสีน้ำเงินสะท้อนแสงตัดกับขนอกสีเหลืองเปลือกส้มไล่เฉดไปที่ท้องกลายเป็นสีส้มสะท้อนแสง งามมั่กๆเลยครับ                ขอบคุณน้าเตี้ยที่เสียสละแรงกายและกำลังฝีมือถ่ายภาพสวยๆอย่างนี้มาให้ชมกันเรื่อยๆ จากคุณ : KY_2003 เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 06:22:50

ความคิดเห็นที่ 16 ภาพงาม...ความรู้ยอดครับน้า จากคุณ : BOHEMIAN เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 06:25:28

ความคิดเห็นที่ 17 สุดยอด ทั้งภาพและเรื่องราวเลยครับ จากคุณ : nasay เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 06:26:06

ความคิดเห็นที่ 18 เห็นกระทู้น้าเตี้ย  รู้ได้ทันทีว่าภาพนกสวย ข้อมูลเยี่ยม ครับ จากคุณ : หมากสีนวล เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 06:46:13

ความคิดเห็นที่ 19 ภาพสวย ข้อมูลเยี่ยม คุณภาพจริงๆ ครับ จากคุณ : E22QV เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 07:03:15

ความคิดเห็นที่ 20 สงสัยต้องไปนั่งถ่ายนกกับน้าแล้วมั้งเนี่ย อิอิ เดี๋ยวถ่ายนกกระจอกข้างบ้านซ้อมมือไปก่อนแล้วกันนน้า 55 จากคุณ : คนบางกระทุ่ม เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 07:03:42

ความคิดเห็นที่ 21 สุดยอดจริงๆครับ ภาพถ่าย เรื่องราว ความคมชัด  ขอบคุณครับ จากคุณ : peetalay เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 07:03:57

ความคิดเห็นที่ 22 ลงชื่อไว้ก่อน เด่วผมกลับมาอ่านครับน้า จากคุณ : Zaraki เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 07:05:12

ความคิดเห็นที่ 23 ภาพแจ่มมากครับ จากคุณ : jerry-t เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 07:17:49

ความคิดเห็นที่ 24 สวยทุกรูปจนไม่รู้จะให้กิฟรูปไหนดี.... ให้หัว ท้าย  เป็นตัวแทนละกันครับน้าเตี้ย.... จากคุณ : LVP@HEART เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 07:35:50

ความคิดเห็นที่ 25 สวยงามมากๆ.............แต่ทำไมน้าเตี้ยเด็ดหางน้องนกซะงั้น อิอิ จากคุณ : The Fat Monkey (น้าลิง) เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 07:54:16

ความคิดเห็นที่ 26 เยี่ยมยอดทั้งภาพและคำบรรยาย จากคุณ : raksapondet เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 08:13:33

ความคิดเห็นที่ 27 โอ้  ผมเข้าใจผิดตั้งนาน  คิดว่าเป็น"แต้วแร้ว"  ซะอีก  จริงๆเป็นแต้วแล้วหรือครับ จากคุณ : ฟ้าทะยานโจน เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 08:47:24

ความคิดเห็นที่ 28 โหย..... มาแล้ว เจ้าแห่งนก มาครั้งนี้สุดแสนจะสวยงามตามแบบฉบับน้าเตี้ย และเกร็ดความรู้อันทรงคุณค่า ภาพสุดสวย ความรู้ที่แนบมาสุดยอด ครับ แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 55 14:20:55 จากคุณ : ประสิทธิ์ ชูสนิท (Pshoosanit) เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 08:59:27

ความคิดเห็นที่ 29 สุดยอดอะน้า และสิ่งที่สำคัญที่สุดของการถ่ายนก คือขอให้พวกเค้าอยู่กับเรานานๆสืบไปไม่สูญพันธ์ จากคุณ : jubjeang2 เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 09:06:19

ความคิดเห็นที่ 30 ทั้งภาพสวยและได้ความรู้เลยครับ จากคุณ : tump เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 09:26:11

ความคิดเห็นที่ 31 สวยจังค่ะ ขอเซฟไปเป็นภาพหน้าจอคอมนะคะ ขอบคุณค่า ^^ จากคุณ : ผู้บ่าวเจียงฮาย เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 09:29:22

ความคิดเห็นที่ 32 น้าเตี้ยถ่ายภาพนกได้สวยระดับโปรแล้ว ขาดแต่อุปกรณ์อีกนิดหน่อย ฉนั้นน้าเตี้ยเอารถตักไปขายแล้วซื้อ D800+500 f4  รับรองแจ่ม   จากคุณ : หนุ่มสระบุรี เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 09:31:17

ความคิดเห็นที่ 33 ผมจะพลาดได้ยังไงกันครับ...Animal Planet ฉบับน้าเตี้ย...เข้าใจง่าย...ไม่ต้องแปล... ปล 1...น้องนกหางกุดน่ารักดีไปอีกแบบครับ.. ปล 2...ขอบคุณมากครับ.. จากคุณ : Khunbob เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 09:34:21

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณภาพสวยๆ พร้อมข้อมูล จากคุณ : I am Robin เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 09:53:00

ความคิดเห็นที่ 35 ชัดเจน แจ่มแจ๋ว ทุกตัว ทุกรูปเลยครับ...น้าเตี้ย... ขออภัยครับ..สะกดผิดอีกแร่ะ... แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 55 10:22:13 จากคุณ : มอมแมม 777 เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 10:20:49

ความคิดเห็นที่ 36 สุดยอดในความพยายาม ขอบคุณที่นำมาให้ชมครับ จากคุณ : Dcupnui เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 11:04:36

ความคิดเห็นที่ 37 น้องนกน่ารักมากๆ ค่ะน้าเตี้ย ได้ความรู้อีกเพียบด้วยค่ะ จากคุณ : luckyfarm6662 เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 11:13:26

ความคิดเห็นที่ 38 ไม่เคยรู้เรื่องนกเลย อ่านทู้นี้แล้วสุดยอดค่ะ เจ้าตัวนี้น่ารักดีหางมันด้นๆเวลายืนตัวตรงดูตลกดี ฮ่าๆๆๆ ภาพสวยมากค่ะน้าเตี้ย จากคุณ : desert_iris เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 13:26:15

ความคิดเห็นที่ 39 ภาพสวยครับน้า แต่จะไม่เป็นการชี้ชวนให้นักถ่ายภาพเข้าไปถ่ายภาพนกกันมากกว่าเดิมรึเปล่าครับ พอดีผมได้อ่านข้อมูลจากกระทู้ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E12031022/E12031022.html นี้น่ะครับ เลยสงสัยขึ้นมา ไม่มีอะไรมากกว่านี้หรอกครับ :)) จากคุณ : หนุ่มพเนจรนอนกลางไพร เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 13:42:20

ความคิดเห็นที่ 40 ตอบแทนคห. 39 ครับ แยกเป็น 2 ประเด็น 1. ชี้ชวนให้ถ่ายเพิ่มขึ้นหรือไม่ ตอนนี้นกไม่อยู่แล้ว...โดยเฉพาะนกแต้วแล้วนางฟ้า การโพสในครั้งนี้ก็โพสหลังจากนกไม่อยู่แล้ว ไม่มีเหตุจำเป็นต้องขึ้นไปเกาะมันในอีกต่อไปแล้ว และมีผู้นำไปโพสต่อสาธารณะก่อนหน้านี้หลายกลุ่ม หลายจำพวก ในขณะที่นกแต้วแล้วนางฟ้ายังไม่อพยพด้วยซ้ำ มิต้องสงสัยขึ้นมาในทำนองเดียวกันหรือครับ 2. ประเด็นในส่วนลิงค์ที่ยกมากล่าว...ก็มีหลายความเห็น มีที่เห็นด้วยในเชิงวิชาการและไม่เห็นด้วยทั้งหมด ในแง่ทางปฏิบัติยังมีหลายมิติที่คนยังไม่ได้วิเคราะห์ให้หลากมิติอยู่ดี ปล. ส่วนนกแต้วแล้วส่วนที่เหลืออีก 2 ชนิด ก็ไม่มีเหตุจำเป็นต้องขึ้นเกาะมันในแต่อย่างไร เพราะเมื่อถึงฤดูอพยพนกแต้วแล้ว 2 ชนิดดังกล่าว มาทำรังวางไข่บ้านเราทุกปี แทบได้ว่านักดูนก นักอนุรักษ์ นักถ่ายภาพนก คุ้นเคยกับทุกที่ในเมืองไทยอยู่แล้ว การเผยแผ่ภาพ ผู้ลงภาพน่าจะพิจารณาถ่องแท้แล้วว่าไม่มีผลแต่อย่างไรครับ ที่ว่าไม่มีอะไรมากกว่านี้ น่าจะมีอะไรมากกว่านี้หรือปล่าวครับ จากคุณ : appendiculata191 เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 14:05:21

ความคิดเห็นที่ 41 เสียดายไปชื้อรถตังค์หมดเลยไม่มีตังค์ซื้อเลนส์ไปถ่ายนกกับน้าเตี๊ยเลย55555 จากคุณ : bigkan เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 14:17:25

ความคิดเห็นที่ 42 สวยงามมากครับน้า ^^ จากคุณ : A r t F u l l Y เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 15:01:56

ความคิดเห็นที่ 43 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 15:11:18

ความคิดเห็นที่ 44 สวยมากมายเลยครับ อยากถ่ายได้อย่างนี้บ้างจังอ่ะ จากคุณ : เด็กวัดช้าง เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 15:38:22

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณ คห.40 มากครับ ข้อหนึ่งผมคิดไปเองว่า คงมีอีกหลายคนครับที่ไม่รู้ว่านกไม่อยู่แล้ว หากเขาทราบข่าวจากกระทู้นี้ แล้วเกิดอยากไปให้ได้ซักครั้ง (ทั้งที่นกอาจจะไม่อยู่แล้ว) ก็อาจจะไม่ดีเหมือนกันนะครับ ส่วนในลิ้งนั้น ผมอ่านเจอเมื่อนานมาแล้วครับ แล้วเกิดเอะใจเฉยๆ เลยยกมาแปะไว้เป็นข้อมูลเผื่อคนที่ยังไม่ทราบครับ ไม่มีอะไรมากครับ ผมคงกังวลใจไปเอง :)) จากคุณ : หนุ่มพเนจรนอนกลางไพร เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 17:15:23

ความคิดเห็นที่ 46 สวยมากครับ จากคุณ : pakame เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 17:51:58

ความคิดเห็นที่ 47 ถ้าพูดถึงนก จะต้องคิดถึงน้าเตี้ย อิอิ จากคุณ : web_rung เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 18:14:05

ความคิดเห็นที่ 48 แจ่มๆทั้งนั้นเลยครับน้าเตี้ย ได้ชมภาพสวยๆแถมยังได้ความรู้อีก จากคุณ : paul_samit เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 18:45:51

ความคิดเห็นที่ 49 สวยเกินไป.รับบ่ได้ 555. ผมได้ไปด้วยป่าวทำไมไม่มีแบบนี้เลย อิอิ จากคุณ : ไก่อ่อนสอนขัน เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 20:08:57

ความคิดเห็นที่ 50 โห...น้าเตี้ยถ่ายสวยแบบนี้ ทำให้พี่อยากไปถ่ายนกบ้างเลย  หุ หุ จากคุณ : ตองเจ็ด เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 22:08:22

ความคิดเห็นที่ 51 งามมากเลยน้า จากคุณ : คนบางกระทุ่ม เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 22:31:20

ความคิดเห็นที่ 52 ...ขอขอบคุณทุกๆท่านทากเลยครับ ทุกคอมเม้น ทุกกิ๊ป.. ...และขอบทุกท่านที่ช่วยกดให้ขึ้นกระทู้แนะนำ เป็นครั้งแรกเลยครับสำหรับผม ขอบคุณมากๆคร้าบบบบ.. จากคุณ : เตี้ย_แม่กลอง เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 55 04:56:05

ความคิดเห็นที่ 53 นกสีสวยมากกกกกกกกกก ภาพก็สวยมากค่ะ :) จากคุณ : ตัวตลกสีเทา เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 55 05:30:48

ความคิดเห็นที่ 54 นกสีสวยมาก น่ารักจริงๆ ภาพคมชัดมากค่ะ จากคุณ : bighen เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 55 11:58:04

ความคิดเห็นที่ 55 แต่ละตัว ถ่ายภาพมาได้สวยมากเลยค่ะน้าเตี้ย ... จากคุณ : Thammalee เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 55 14:57:43

ความคิดเห็นที่ 56 ทั้งแจ่ม ทั้งชัด เยี่ยมเลยน้าเตี้ย เอามาโชว์เรื่อยๆนะครับ จากคุณ : Ok, boss เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 55 16:33:10

ความคิดเห็นที่ 57 ขอบคุณครับ คิดว่าดูแนชั่นแนลจีโอกราฟิคซะอีกนะเนี่ย จากคุณ : พีศิลป์ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 55 19:20:02

ความคิดเห็นที่ 58 ดูนกต้องห้องนี้จริงๆ สวยมาก จากคุณ : lumpoo เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 55 21:54:37

ความคิดเห็นที่ 59 นานๆ มาที สุดยอด จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 10:23:37

ความคิดเห็นที่ 60 ยอดมากครับ จากคุณ : เข็มหมุด เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 15:26:28

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณมากครับ ภาพสวยมากครับ จากคุณ : เส้นสีฟ้า เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 21:04:05

ความคิดเห็นที่ 62 ...ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งครับ ขอบคุณมากครับ.. จากคุณ : เตี้ย_แม่กลอง เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 04:57:30