ความคิดเห็นที่ 1 ข้อ1 คงหมายถึง วัดแสงให้ได้ค่า f shutter iso 2 ใช้โหมด p s a มันต้องล็อค ลองเปลี่ยนมุมนิด ค่าต่างๆก็เปลี่ยน 3ถ้าเอาตรงส่วนสว่างวัดให้พอดี ก็ต้อง fill flash ไม่งั้น แบบก็ดำ 4 m มันขึ้นอยู่กับเราตั้งค่า มันก็ล็อคโดยตัวเองอยู่แล้ว ที่จริงผมก็วัดแสงไม่เก่ง ใช้ 3d colormatrix เอาตลอด แต่ใช้ mode m ก็ลองถ่ายแล้วปรับเอาครับ ทำบ่อยๆก็จะพอรู้หลัก จากนั้นก็หัดชดเชยแสงเอาครับ แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 10:11:36 แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 10:10:50 จากคุณ : meisboo เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 10:03:04

ความคิดเห็นที่ 2 1.  เวลาไปงานเลี้ยงผมได้ยินตากล้องเค้าพูดว่า " ยังไม่ได้วัดแสงเลย " นี่เค้าหมายถึง matering หรือ เค้าหมายถึงพวก white balance ครับ กล้องมันวัดแสงตลอดเวลาอยู่แล้วครับ ส่องไปเจอสีสว่างมันก็ปรับให้มืด ๆ ลง ส่องไปเจอที่มืด ๆ มันก็พยายามทำให้สว่างขึ้น จนถึงขีดที่ว่า เทากลางนั่นแหละครับ 2.  เรื่องการวัดแสง matering กับ การ ล๊อกแสง ( * ) เครืองหมาย ดอกจัน บนกล้อง นี้ สองส่วนนี้มันเกี่ยวกันมั้ยครับ หรือ ไม่จำเป็นที่วัดแสงแล้วต้อง ล๊อกแสง ล็อกค่าแสง ผมไม่เคยใช้นะ   3.  ถ้าแบบ อยุ่ที่ที่เป็นเงา แต่ติดกับ พื้นที่ที่สว่างมากๆ มีการ contrast เกิดขึ้น เคส นี้เรา ล๊อกแสงตรงสว่างมาใช้ถ่ายกับแบบเรา หรือเราใช้ matering mode ครับ (คือในรุปสมมติ จัดองค์ประกอบแล้ว แบบเราอยู่ด้านขวาในส่วนที่เป็นเงา ส่วนวิวทีที่สว่างอยู่ด้านซ้ายของรูปครับ) กรณีนี้ ถ้าเป็นกล้องรุ่นใหม่มาก ๆ ผมใช้ RAW ไฟล์ครับ และผมจะถ่ายในส่วนสว่างมาให้ได้รายละเอียด ส่วนมืดจะมาดึงในภายหลัง ลองดูกระทู้นี้ครับ http://www.pixpros.net/forums/showthread.php?t=67925 4.  เคยได้ยินตากล้องพูดว่า ถ้าใช้ manual คล่อง (ไม่รู้เค้าหมายถึง manual mode หรือ MF) ต่อไปจะไม่ต้องพึ่งเครื่องหมายดอกจัน หรือ การล๊อกแสงเลย มันแปลว่าอะไรครับ ถูกครับ คล่องหมายถึงว่า เข้าใจเรื่องการวัดแสง การชดเชยแสง การมอง สเกล + | - และใช้ได้อย่างเข้าใจ ก็ไม่จำเป็นต้องล็อกครับ จากคุณ : bunkul เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 10:03:11

ความคิดเห็นที่ 3 1 ) ส่วนใหญ่จะหมายถึง ambient ครับ 2 ) เกี่ยวครับ ถ้าใช้โหมดอัตโนมัติและกึ่งอัตโนมัติ (P A S) เพราะมันจะวัดแสงไปเรื่อยตามแต่เราจะหันกล้องไปทางไหน แต่ถ้าเราต้องการจะใช้ค่าแสงใดเป็นหลักแล้วให้วัดแสงมันหยุดทำงานในโหมดที่ว่า ก็ต้องล๊อคค่าแสงเอาไว้ก่อนครับ แต่ถ้าถามว่าจำเป็นไหม มันขึ้นอยู่กับว่าเราเข้าใจเรื่องวัดแสงดีแค่ไหน อ่านแสงเป็นหรือไม่ ซึ่งเราใช้การชดเชยแสงแทนก็ได้ครับ 3 ) ถ้าเอาแค่ได้ภาพก็ล๊อคค่าแสงตรงที่เราต้องการได้เลย แต่ตรงนี้จะทำให้ภาพนั้นหลังรั่ว (คือมีส่วนที่ขาวโพลนขาดรายละเอียด) ที่ถูกต้องควรปรับ เพิ่ม/ลด contrast ด้วยตัวช่วยเช่น flash หรือ reflex เสียก่อน การวัดแสงจะถูกนำเข้ามาช่วยว่าที่เราปรับลดเพิ่ม contrast นั้นเพียงพอที่จะเก็บรายละเอียดของภาพได้ตามที่เราต้องการแล้วหรือไม่ครับ ถ้ายังไม่พอก็ต้องหาตัวช่วยเพิ่มขึ้นไปอีก 4 ) เขาหมายถึงวัดแสงโดยใช้ manual mode ไม่ใช่ manual focus ครับ กรณีการใช้โหมด M ในการควบคุมกล้องนั้นให้อิสระที่เราจะคุม ambient light (shutter speed) และ DOF (f stop) ได้ยืดหยุ่นกว่าใช้ mode P A S ที่ต้องเป็นไปตามอัลกอริธึ่มที่ผู้ผลิตกล้องวางไว้ให้ แต่การใช้ mode M นี้ต้องอาศัยความเข้าใจเรื่องแสงและความชำนาญในระดับหนึ่งถึงจะทำได้ดีครับ แต่อย่างไรก็ตามโดยรวมแล้วการควบคุมโดยใช้โหมด M จะทำให้วัดแสงได้ช้ากว่า P A S ครับ จากคุณ : arnold_A1 เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 10:12:00

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณทุกๆ ความเห็นครับ คุณ arnold ครับ ในข้อ 3  เวลาผมถ่าย ใช่เลยครับ ด้านหลังขาวโพลนเลย แต่แบบไม่มืดแล้วน่ะครับ แต่มันไม่สวย เหมือนถ่ายแต่วิว แล้วไม่มีแบบครับ พอแบบมา ปั๊ป ทุกอย่างมันก็ไม่เหมือนเดิมเลยครับ  ผมว่าผมเคยลองยิงแฟลชน่ะครับ ในรุปเดียวกันถ่ายไปเรื่อยๆ ต่อให้มีแฟลช มันก็ไม่สวยครับ คุณ bunkul พอดีผมไม่เก่งเรื่อง ใช้คอมฯตกแต่งครับ เลยอยากได้ความรู้ว่าจะจบที่การถ่ายจากกล้องเลยได้มั้ยครับ จากคุณ : TEEGTO เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 10:22:16

ความคิดเห็นที่ 5 1.หมายถึง metering ครับ 2.เกี่ยวข้องกันครับ ขออ้างอิงจากคำถาม ที่ 3 ของน้า จขกท.เลยละกัน โดยส่วนมากเราจะล๊อกแสงเมื่อ "ต้องการนำค่าแสงจากที่หนึ่ง มาใช้กับ Subject ที่อยู่อีกที่หนึ่ง" โดยปกติแล้ว การกดชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่ง ของกล้อง DSLR กล้องก็จะล๊อกค่าแสงและจับโฟก้สไว้ให้แล้ว แต่ในกรณีที่ Subject ที่เราต้องการไม่ได้อยู่ในจุดโฟกัสที่เราวัดแสงจะทำยังไงล่ะทีนี้ ปล่อยปุ่มชัตเตอร์จับโฟกัสใหม่ที่ Subject ก็ไม่ได้เพราะค่าแสงต้องถูกวัดใหม่ถ้าปล่อยปุ่มชัตเตอร์ เราจึงต้องล๊อกค่าแสง ((*)หรือ(AE)แล้วแต่กล้องรุ่นนั้นๆ) และทำการจัดองก์ประกอบใหม่ ให้ได้ตามที่เราต้องการ สรุปหากคุณล๊อกค่าแสงไว้ด้วยการกดปุ่ม(*)หรือ(AE)ค้างเอาไว้ คุณสามารถปล่อยปุ่มชัตเตอร์ แล้วจัดองก์ประกอบใหม่เลือกโฟกัสใหม่โดยที่ยังได้ค่าแสงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่ถ้าคุณต้องการวัดแสงที่ Subject คุณสามารถจัดองก์ประกอบของภาพได้ด้วยการแพลนกล้องแล้วกดถ่ายได้เลยโดยที่ไม่ต้องล๊อกค่าแสง เพราะ Subject กับจุดวัดแสงอยู่ที่เดียวกัน ส่วนจะ under หรือ over ค่อยมาชดเชยแสงกันอีกที 3.Metering mode โดยทั่วไป จะมี 3 แบบ คือ 3.1 เฉลี่ยทั้งภาพ(Average)ถ้า จขกท.ตั้งไว้ที่โหมดนี้ ภาพที่ได้ก็จะออกมาใกล้เคียงกับที่ตาเห็นมากที่สุด(เท่าที่กล้องจะทำได้) 3.2 เฉลี่ยหนักกลาง(Center weigth average)ถ้า จขกท.ตั้งไว้ที่โหมดนี้ ภาพที่ได้ก็จะออกมา แบบ ตัวแบบมืดตึ๊บ มองรายละเอียดไม่เห็น 3.2 เฉพาะจุด(Spot)ถ้า จขกท.ตั้งไว้ที่โหมดนี้ ภาพที่ได้ก็จะออกมา แบบ ตัวแบบมืดตึ๊บเช่นเดียวกัน แนะนำให้ไปลองหาความรู้เพิ่มเติมดูว่าแต่ละโหมดมีการทำงานอย่างไร วัดแสงจากส่วนใด หาในคลังกระทู้เก่า หรือถามอากู๋ก็ได้ครับ 4.หมายถึงโหมดการถ่ายภาพแบบ Manual(M) ครับ โหมดนี้ล็อกแสงไม่ได้อยู่แล้ว แต่ Scale วัดแสงมันจะวิ่ง ไป-มา ตลอดต้องปรับชดเชยด้วยการ ปรับ Speed Shutterและค่า f ให้ ลูกศรมาอยู่ตรงกลาง Scale ก็จะได้ค่าแสงที่พอดี(เชื่อไม่ได้เสมอไป) http://topicstock.pantip.com/camera/topicstock/2010/11/O9944434/O9944434.html Credit น้า Auxin ครับ ขออภัยในความผิดพลาดเรื่องการพิมพ์ตกหล่นครับ แก้ไขให้แล้ว ขออภัยจริงๆ -/\- แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 14:31:30 จากคุณ : Skycool เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 10:24:33

ความคิดเห็นที่ 6 มันไม่ใช่ matering นะครัีบ ต้องเป็น metering มิเตอร์ คือ ตัววัดทั้งหลายแหล่ะนั่นแหละ อันนี้สะกิดให้นิดหนึ่งครับ เผื่อจะไปค้นคว้าเพิ่มเติม จะได้ค้นได้ถูกคำครับ (เดี๋ยวหาไม่เจอ) จากคุณ : proofman เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 11:15:42

ความคิดเห็นที่ 7 กระทู้น้า auxin ตามความเห็น 5 เลยครับ ลองอ่านแบบละเอียดและตั้งใจดู รับรองว่าตอบคำถามข้างบนได้ทุกข้อ จากคุณ : คนคายาก เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 11:17:59

ความคิดเห็นที่ 8 อธิบายหมดแระ มา ยืนยัน จากคุณ : แฟนพันธุ์ทาง (อาจารย์ไข่) เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 11:25:51

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณครับ 555 สะกดคำผิดเฉยเลยเรา จากคุณ : TEEGTO เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 11:40:36

ความคิดเห็นที่ 10 อ้าว #5 น้า Auxin เราเปลี่ยนชื่อแล้วเหรอ จากคุณ : jerry-t เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 12:00:05

ความคิดเห็นที่ 11 น้าอ๋าครับ ไม่เข้าใจ ข้อ1 ครับ เรื่อง ambient ครับ ไม่ได้มีความรู้มาก่อนด้วยครับ  ไม่เคยปฏิบัติ ได้แต่เดาตาม sense ของผม  คงไม่ได้หมายถึงกล้อง คงหมายถึงการจัดไฟ  ให้สว่างเพียงพอ  ให้พื้นที่หลายๆจุดมีความสว่างคงที่ ส่วนข้อ 4 ถ้าตั้งไฟสว่างคงที่ โหมด M จะให้ภาพสว่างคงเส้นคงวา การprocess หลายๆไฟล์ จะง่ายขึ้นด้วย แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 12:45:13 จากคุณ : dji_2000 เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 12:44:03

ความคิดเห็นที่ 12 ู^ ^ ถูกต้องครับ สำหรับมืออาชีพแล้ว ตามงานเลี้ยงสิ่งแรกๆที่เขาจะดูกันคือ ambient light ทีคุมด้วย shutter speed ว่า speed ที่ได้เพียงพอที่จะจับถือให้นิ่งได้มากพอหรือไม่เมื่อใช้ร่วมกับแฟลช แต่ไม่ถึงกับต้องจัดไฟหรอกครับเพราะนั่นเรื่องใหญ่กว่าครับ ก็คล้ายๆกับเวลาที่เราไปถ่ายภาพตามงาน motor show นั่นละครับ ไงๆก็ต้องวัด ambient light กันก่อนครับ แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 12:59:20 จากคุณ : arnold_A1 เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 12:57:49

ความคิดเห็นที่ 13 เข้ามาเก็บความรู้จากน้าอ๋า.... จากคุณ : น้าอ๋า FC (ไก่แก้ว สาริกา) เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 13:18:48

ความคิดเห็นที่ 14 เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณน้าอ่๋า มากครับ จากคุณ : dji_2000 เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 14:07:37

ความคิดเห็นที่ 15 ส่วนที่พิมพ์ตกหล่นแก้ไขแล้วนะครับ ขออภัยจริงๆ :p รบกวนถามน้าอ๋า(ขออนุญาตเรียกแบบนี้นะครับ) ช่วยสรุป เรื่อง ambient light ได้มั๊ยครับว่าคืออะไร?มีความสำคัญยังไง? ถ้าได้อ่านจากน้าอ๋า คงเข้าใจง่ายกว่าค้นหาเองอ่ะครับ(จริงๆแล้วเข้เกียจละมั้ง -_-") ปล.ถ้าพิมพ์ผิดอีกขออภัยนะครับ บนมือถือมันพิมพ์ลำบากนิดนึง แถมอยู่บนมอ'ไซค์ด้วยอ่ะ -/\- แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 14:43:55 แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 14:42:54 จากคุณ : Skycool เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 14:41:01

ความคิดเห็นที่ 16 น้า skycool  จอดรถค่อยพิมพิ์ก็ได้  เสียวแทน ใจๆเย็น จากคุณ : dji_2000 เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 14:55:47

ความคิดเห็นที่ 17 เข้ามาจดๆๆๆๆๆ จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 16:51:05

ความคิดเห็นที่ 18 ความคิดเห็นที่ 15 [ถูกใจ] [แจ้งลบ] ติดต่อทีมงาน ส่วนที่พิมพ์ตกหล่นแก้ไขแล้วนะครับ ขออภัยจริงๆ :p รบกวนถามน้าอ๋า(ขออนุญาตเรียกแบบนี้นะครับ) ช่วยสรุป เรื่อง ambient light ได้มั๊ยครับว่าคืออะไร?มีความสำคัญยังไง? ถ้าได้อ่านจากน้าอ๋า คงเข้าใจง่ายกว่าค้นหาเองอ่ะครับ(จริงๆแล้วเข้เกียจละมั้ง -_-") ปล.ถ้าพิมพ์ผิดอีกขออภัยนะครับ บนมือถือมันพิมพ์ลำบากนิดนึง แถมอยู่บนมอ'ไซค์ด้วยอ่ะ -/\- แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 14:43:55 แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 14:42:54 จากคุณ : Skycool เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 14:41:01 ************************* ถ้าจะถามความหมายของ ambient light ว่าคืออะไรฝรั่งเขาให้คำจำกัดความไว้อย่างนี้ครับ Ambient light means the light that is already present in a scene, before any additional lighting is added. It usually refers to natural light, either outdoors or coming through windows etc. It can also mean artificial lights such as normal room lights. แต่ถ้าถามถึงช่างภาพทั่วไปว่า ambient light คืออะไร? ส่วนใหญ่เขาเรียก "แสงฉากหลัง" แล้วเราใช้อะไรคุมมัน? คำตอบคือ shutter speed ครับ บางครั้ง speed ที่ได้อาจต่ำมากในยุคดิจิตอลนี่ทำได้ง่ายโดยการเพิ่มความไวแสง (ISO) ได้เลย แต่ถ้าเป็นกล้องฟิลม์เราก็ปรับเพิ่ม ISO ได้ด้วยเช่นกันแต่ต้องบอกช่างเมื่อตอนเอาไปล้างว่าเรา push ISO ขึ้นไปกี่ stop เคยสังเกตุไหมครับเวลาเราใช้โหมด A ถ่ายภาพในงานร่วมกัน flash แล้วฉากหลังมันมืดบ้าง สว่างบ้าง ไม่เท่ากันสักกะรูป ซึ่งตรงนี้เป็นเพราะ shutter speed ถูกล๊อกโดย algorithm ของกล้องแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อ ซึ่งถ้าเราต้องการคุม ambient light ก็ต้องปลดล๊อคตรงนี้เสียก่อนโดยหันไปใช้โหมด M ควบคุมกล้องแทน ยิ่งถ้าน้าSkycool หันมาถ่ายภาพในแบบ long exposure การวัด ambient light จะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากขึ้นไปอีก เพราะพื้นที่ใน frame ของเราค่อนข้างกว้างปริมาณแสงสว่างในแต่ละจุดไม่เท่ากัน ต้องมีการทดและชดเชยให้เหมาะสมบอกเป็นค่าตายตัวค่อนข้างยากเพราะมีปัจจัยแวดล้อมประกอบหลายด้าน แต่ถ้าอยากฝึกทำความเข้าใจด้วยตัวเอง ก็ลองหาไฟโฆษณา (กลางแจ้ง) มาถ่ายดูครับ โดยถ่ายป้ายนั้นเต็มเฟรมในตอนแรก แล้วค่อยๆลดสัดส่วนของป้ายนั้น(ในเฟรม)ลง โดยคงที่ค่ารูรับแสง (F stop) ไว้เท่าเดิม แล้วปรับลด/เพิ่ม shutter speed เราก็จะเข้าใจเรื่องการคุม ambient light เองครับ ส่วนคำถามที่ถามว่า ambient light สำคัญอย่างไร ตรงนี้ขึ้นอยู่กับมุมมองและประสบการณ์ของช่างภาพเป็นสำคัญ แต่การใส่ใจกับเรื่อง ambient light นั้น จะทำให้เราถ่ายภาพได้ละเอียดขึ้นและควบคุมแสง(ส่วนหนึ่ง) ให้เป็นไปอย่างที่เราการได้ครับ ที่เขียนๆมาไม่รู้ว่าผมเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนหรือเปล่านะ จากคุณ : arnold_A1 เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:04:56

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณน้าอ๋า มากๆเลยครับ ^__^ ผมเพิ่งหัดปลูกต้นมะพร้าวเองครับน้า ความรู้ใหม่ที่อ่านแล้วยังมึนๆ :p ต้องศึกษาและปฏิบัติเพิ่มเติม ขอบคุณอีกครั้งนะครับ...^__^b จากคุณ : Skycool เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 22:30:56