 
ความคิดเห็นที่ 15 |
ขอบคุณครับน้า theorem ระยะนี้ไม่ค่อยเอาภาพมาให้ชมเลยสงสัยจะมีแต่เหี่ยวๆเหมือนบ้านผม
ขึ้นทางเดียวกันมั่งครับเพราะไม่น่าจะมีเส้นทางอื่นแต่สมัยนั้นมีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ไม่กี่คนดูแลพื้นที่ทั้งหมดไม่มีกำลังพอจะมาดูแลคนที่ขึ้นไปเที่ยวหรอกครับเพราะไม่เห็นใครสักคนมีแค่ที่ทำการป่าไม้หลังเล็กๆหลังเดียวอย่างที่เ่ล่าคือไปหาเลือกที่พักกันเอาเองไม่มีใครมาไล่หรือมาคุ้มครองเราพวกเราก็เลยเลือกบนยอดน้ำตกที่เป็นลานหินกางเต็นท์ทหารเพราะสมัยก่อนมีแต่ทหารที่มีเต็นท์ไม่มีเต็นท์ผ้าร่มเบาๆแบบสมัยนี้หรอกครับเป็นผ้าใบหลายๆผืนมีรูร้อยเชือกมาต่อๆกันกับท่องโลหะที่ใช้ทำเป็นเสาค้ำเรียกว่าต้องประกอบและมีประสบการณ์กางเต็นท์ทหารมาก่อนไม่งั้นนอนตากน้ำค้างแน่บรรยากาศก็อย่างที่บอกคือเล่ายังไงก็ไม่น่ากลัวเท่าไปอยู่ในบรรยากาศจริงๆ ส่วนเส้นทางไปสถานที่ท่องเที่ยวด้านบนมีไม่เยอะเหมือนปัจจุบับเพราะยังไม่ได้สำรวจเจอกันเพิ่มในตอนหลังๆมีแต่หลักๆคือผานกนางแอ่น ผาหมากดูก ประมาณนั้นครับ
คงเป็นเพราะสมัยก่อนมีวิชาลูกเสือที่ต้องมีการออกค่ายประจำปีคือเข้าไปพักแรมในป่าจริงๆไม่ใช่พักที่ ร.ร.แล้วเอาขอนไม้แห้งมาพาดๆกันแล้วเอากระดาษแก้วสีแดงส่องสปอตไลท์เป็นกองไฟให้ลูกเสือนั่งรอบกองไฟเวลานอนก็นอนในห้องเรียนเหมือนผมเห็นลูกชายผมพักแรมประจำปีแล้วขำแทนครับน้ากาละมังบินก็เลยทำให้ผมซึบซับนัดเพื่อนเข้าป่าค้างแรมกันอยู่บ่อยๆครับ
แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 55 06:51:56
| จากคุณ |
:
KY_2003 
|
| เขียนเมื่อ |
:
28 ก.ค. 55 06:49:08
|
|
|
|
)