|
กล้องทุกตัวจะเป็นภาพได้ต้องมีแสงวิ่งไปตกที่ ฟิล์มหรือเซนเซอร์ของกล้องดิจิตอล
เมื่อตกที่เซนเซอร์แล้วแต่ละจุดก็จะแปลงสัญญาณจุดต่างๆ เป็นล้านจุดแสงเพื่อไปรวมกันไปเป็นภาพถ่าย ๑ ภาพ
ซึ่งกระบวนการเปิดรับแสงจะใช้เวลามากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่ความประสงค์ของคนถ่ายภาพว่าต้องการแบบไหน และโดยส่วนมากจะใช้เวลาแค่เสี้ยววินาทีในการเปิดรับแสง สังเกตุได้จากที่เราๆท่านๆได้ยินเสียงกดชัตเตอร์ถ่ายภาพดัง "แชะ !!" <<< นั่นล่ะครับคือการบวนการเปิดรับแสงเสร็จสิ้นแล้ว
คราวนี้ถ้าเราถ่ายสิ่งเดียวกัน แต่เป็นสภาพแสงที่มืดหรือถ่ายในเวลากลางคืน แสงก็จะน้อยกว่าเวลากลางวัน ทำให้กล้องต้องการเวลาในการเปิดรับแสงมากกว่าปกติ เพื่อให้แสงมาตกที่ ฟิล์มหรือเซนเซอร์ได้มากพอที่จะเป็น ๑ จุดแสง เพื่อเอาไปรวมเป็น ๑ ภาพ ได้
แต่คราวนี้หากเราเปิดนาน สิ่งที่ตามมาคือ มือเราที่ถือกล้องอยู่ต้องไม่ขยับเขยื่อน ต้องนิ่ง เพื่อให้แสงไปตกลงใน "จุดแสงเดิม" จนสะสมได้สว่างพอ >>> แต่หากมือไม่นิ่งพอมีการสั่นไหว มีการขยับ ก็จะทำให้แสงที่วิ่งไปกำลังสะสมความสว่างอยู่นั้น ไปตกในตำแหน่งอื่นๆสาดละเลงไปทั่ว >> เมื่อนำจุดแสงเหล่านั้นไปรวมเป็นภาพถ่าย ๑ ภาพ จึงเกิดแสงอย่างที่เห็นครับ
นอกการสั่นไหวของมือเราจนทำให้เกิดภาพเลอะๆแล้ว เราสามารถประยุกต์เอากล้องไปตั้งนิ่งๆไม่ให้สั่นไหว แต่ให้แสงไฟจากรถวิ่งผ่านหน้ากล้อง เพื่อให้แสงวิ่งตกที่เซนเซอร์เป็นทางยาว เป็นภาพสวยๆ ของถนนราชดำเนินที่เราเคยเห็นๆกัน หรือภาพถ่ายที่เป็นการวาดแสงต่างๆได้ด้วยครับ
| จากคุณ |
:
เจ้าชายรองเท้าแตะ 655   
|
| เขียนเมื่อ |
:
14 ส.ค. 55 16:01:26
|
|
|
|
ขอเชิญผู้เชี่ยวชาญเรื่องกล้องและการถ่ายภาพ อธิบายสาเหตุของภาพนี้หน่อยครับ
