ความคิดเห็นที่ 1 เห็นด้วยครับ จากคุณ : สกายเพชร สอ แยมโรล เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 23:17:57

ความคิดเห็นที่ 2 อยากจะถาม จขกท  ว่าความเข้าใจ ระหว่าง Mirrorless กับ DSLR ตัวคุน ต่างกันอย่างไรก่อน ถ้า จขกท เข้าใจ เชื่อว่าจะไม่ถามแบบนี้ ลอง ค้นหาคำตอบใน google ก่อนครับ แล้วเราจะตัดสินใจได้ ว่าทำไมถึงเลือก DSLR แล้วทำไมบางคืน ถึงใช้ mirrorless mirrorless คนทำเข้าผลิตออกมาถามวัตถุประสงค์ของคนใช้งาน Easy to use และเปลี่ยน lens ได้  น้ำหนักเบา อีก อิอิอิอิอิ แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 55 23:21:16 จากคุณ : oatloveu เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 23:19:17

ความคิดเห็นที่ 3 เอางี้ดีกว่า ผมตอบเลย ในสิ่งที่ผมสัมผัส ไม่เชื่อบุคคลอื่น mirrorless ยังตั้งค่าตัวกล้องไม่เร็ว หากคุณเป้นคน ชอบถ่าย snap street DSLR ปรับได้ไวมาก แค่ 1 วิ ก็สามารถถ่ายได้ คุณภาพไฟล์ ok เท่ากัน อันนี้ใช่ ตัวกล้อง mirrorless ทำมาให้เบาสำหรับคนที่ไม่ชอบในความหนักของ dslr lens mirrorless ยังต้องรอการผลิตที่ออกมาให้เล็ก เพื่อตลาดคนกลุ่มนี้ จอสัมผัส DSLR ก็สามารถทำได้แล้ว และผมก็เชื่อว่า ตลาด 2 ตัวนี้ก็ยังต้องแยกกันอยู่อีกนานแสนนาน เอาแค่นี้ก่อนละกัน จากคุณ : oatloveu เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 23:27:05

ความคิดเห็นที่ 4 คงไม่หายไปหรอกครับ แต่สัดส่วนตลาดมันจะลดลงแน่ จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 23:27:40

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่เห็นด้วยครับ  แต่อาจจะมี mirrorless บอดี้ DSLR 1. คนที่จับ mirrorless ไม่ถนัด 2. คนที่ใช้เลนส์ เพื่อถ่ายด้านการก๊ฬา ถ่ายเทเล   3. ต้องการแฟลชมั่นคง 4. ราคาเลนส์ 5. มาโคร 6. อื่นไไม่รู้ ว่ามีอะไรอีกไหม แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 55 23:35:05 จากคุณ : dji_2000 เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 23:28:48

ความคิดเห็นที่ 6 ที่ผ่านมากล้องไร้กระจกที่เป็นคลาสโปรจริงๆ ไม่มีเลยนะครับ ถ้าไม่นับโซนี่ SLT กล้องที่ใกล้เคียงที่สุดคือ Panasonic GH3 ที่กำลังจะออก ถ้าตลาดใหญ่พอที่จะให้กล้องโปรเกิด เมื่อนั้นผมก็ไม่เห็นว่า DSLR จะรอดไปได้อย่างไร อะไรที่ DSLR ทำได้ กล้องไร้กระจกก็ทำได้ และทำได้ดีกว่าด้วย ใหญ่ได้ เล็กได้ เบาได้ หนักได้ เร็วได้ ช้าได้ ไม่ต่างอะไรกับ DSLR วันนี้ ถ้ายังเห็นไม่ชัดว่ากล้องไร้กระจกจะไปถึงไหน ดู โซนี่ SLT A99 เป็นตัวอย่างก็ได้ครับ มันคือ  mirrorless แท้ๆ ที่ปลอมตัวมาในเปลือก DSLR กระจกมีไว้เพื่อแบ่งแสงให้ตัวหาโฟกัสเท่านั้น และเซ็นเซอร์โซนี่รุ่นใหม่ นับตั้งแต่ NEX-5R ฝังตัวหาโฟกัสไปในเซ็นเซอร์แล้ว ถ้าเอามาใช้ SLT รุ่นหน้า กระจกสะท้อนไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป จะมี หรือไม่มีก็ได้ แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 55 23:56:00 จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 23:45:20

ความคิดเห็นที่ 7 อนาคต เป็นไปได้ แต่อีกนาน กว่าจะมาแทนที่ได้จริงๆ จากคุณ : E22QV เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 55 23:52:48

ความคิดเห็นที่ 8 mirrorless มันสปีดชัตเตอร์ เร็วสุดเท่าไหร่ แล้วเปิดม่านชัตเตอร์(ไม่รู้เรียกถูกมั้ย เพราะมันไม่มีม่านชัตเตอร์) ได้นานสุดเท่าไหร่ จากคุณ : Thecop911 เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 00:03:22

ความคิดเห็นที่ 9 ผมว่าไม่หายแน่นอนครับ มั่นใจแบบล้าน% เพราะตราบใดที่เรายังยึดติดกับการนำเอาช่วงของฟิล์ม 35mm มาเป็นมาตรฐาน วัดนั่นวัดนี่!! อนาคต กล้องตัวคูณ ก็จะมีเพิ่มเข้ามาอีกครับ คูณ 0.9 คูณ 0.5 อะไรแบบนี้ไงครับ ^ ^ 555+ ... จริงๆนะ เดี๋ยว medium เดี๋ยว large format ก็จะคืบคลานเข้ามาในกล้องในราคาสำหรับคนทั่วไปหาซื้อมาใช้กัน จนได้นั่นล่ะ ตราบใดที่เรายังยึดติดกับฟิล์ม 35mm เอามันมาเป็นมาตรฐาน(ซึ่งมันก็ต้องมีอ่ะนะ จะได้เข้าใจตรงกัน) มันก็ต้องมาคูณกันต่อไป และต่อไป ^ ^" --------------------------- Edit อีกนิดครับ เรื่องตัวคูณอาจจะไม่หาย แต่เรื่องที่ว่า "DSLR" จะหายไปหรือเปล่า? ผมว่าเป็นไปได้ครับ กลไกโบราณอย่างการเอากระจกมาสะท้อนภาพเข้าช่องมองเนี่ย มันน่าจะมีเทคโนโลยีที่เอาชนะมันได้จนได้สิน่า ไม่น่าเกินมือมนุษย์นะ (มันโบราณจริงๆนะ -*-) แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 55 00:21:09 จากคุณ : TalkyWalky เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 00:15:24

ความคิดเห็นที่ 10 เหมือนเทียบ โน๊ตบุ๊คกับพีซีเลย มีคนใช้โน๊ตบุ๊คแทนพีซีมากขึ้นเพราะความสะดวกในการพกพาและความสามารถของมัน แต่พีซีก็ยังมีการใช้อยู่เพราะประสิทธิภาพมันยังสูงกว่าในหลายๆด้าน จากคุณ : thefatcat_14 เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 00:23:21

ความคิดเห็นที่ 11 ตอบ คห.8 Speed Shutter กล้อง Mirrorless ทั่วไป ส่วนใหญ่ได้พอๆกับ DSLR รุ่นเล็กครับ - เร็วสุด 1/4000 - เปิดนานสุด 30 sec. (บางรุ่นได้ 60 sec) * แต่ตอนนี้ Mirrorless ที่ Speed Shutter เร็วสุดคือ Nikon 1 Mechanical Shutter • 1/4000 sec. –30 sec. • Bulb Electronic Shutter • 1/16000 sec. –30 sec. • Bulb จากคุณ : Hong_G เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 00:34:37

ความคิดเห็นที่ 12 ผมเห็นไปในทางเดียวกับน้านิค อะธีลาส คห. 6 ครับ เพราะ การที่ไม่มีกระจก ทำให้สามารถลดขนาด และน้ำหนักลงได้ ซึ่งพื้นที่ที่ว่างลงนี้ ก็สามารถจะเพิ่มเติม คุณสมบัติ หรือชิ้นส่วนอุปกรณ์อื่นๆ เพื่อเพิ่มความสามารถใหม่ๆ ที่ DSLR ไม่มี ลงไปได้อีก ตอนนี้ Mirrorless ทำได้ทุกอย่าง ที่ DSLR ทำได้ และ Mirrorless บางรุ่น ก็ทำได้มากกว่า DSLR ส่วนใหญ่ทำได้อีกด้วย แรกเริ่มเดิมที Mirrorless ถูกสร้างออกมา เพื่อให้เล็กลง เบาขึ้น แต่ปัจจุบัน ตลาดโตขึ้น ความต้องการของตลาดมากขึ้น ก็มีบอดี้สำหรับผู้ใช้ที่จริงจังออกมาแล้ว เช่น Panasonic GH3 และ OLYMPUS OM-D หรือแม้แต่ Leica และ Fuji ต่อไป Mirrorless ที่เป็น Body Pro ก็จะออกมา ประเด็นเรื่องปุ่มควบคุมน้อย การจับถือไม่ถนัด ก็จะหายไป ภายในปีหน้า จะได้เห็น กล้อง Mirrorless ที่เป็นบอดี้ Pro จาก OLYMPUS ( OM-D ไม่ใช่ Level Pro อย่างที่ตอนนี้หลายๆคนเข้าใจ เป็นแค่ Enthusiasm level camera ) สำหรับคำถามของน้า Thecop911 ในคห. 8 นั้น... ตอนนี้ Nikon V1 สามารถถ่ายที่ 1/16000 ได้ครับ ซึ่งผมว่าต่อไป กล้องอื่นๆ ก็จะสามารถทำได้เช่นนี้ หรือมากกว่านี้ในอนาคตอันใกล้ ส่วนเปิดม่านนานสุด... ถ้าเอาแค่ที่ตั้งได้ในกล้อง ส่วนใหญ่จะเป็น 30 วิ ไม่งั้นก็เข้าโหมด Bulb ครับ อย่าง OM-D ที่ผมใช้อยู่ ก็เปิดได้ 30 นาที แต่ถ้าใส่อุปกรณ์เสริม... ก็ได้ 99 ชั่วโมง * แก้ไขพิมพ์ผิด โลกที่น่าอยู่... สังคมที่ดี...   ไม่มีขาย อยากได้...   ต้องช่วยกันสร้าง โดยเริ่มจาก...   ตัวเราเอง...   เดี๋ยวนี้... แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 55 00:45:04 จากคุณ : Phoenixนิลมังกร เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 00:42:40

ความคิดเห็นที่ 13 Entry Level ยังไงก็ยังคงต้องมีอยู่ต่อไป แม้เทคโนโลยีจะพัฒนากล้องให้ถูกลง แต่อย่าลืมว่าเลนส์มันไม่เคยถูกลงตาม จะว่าเอาเลนส์ DSLR ตัวคูณไปใช้ใน mrl ได้ ถ้าบอกว่าพัฒนาเลนส์ร่วมกัน แต่ก็ต้องใส่ adapter อยู่ดี เพราะตัวนึงมีกระจก อีกตัวนึงไม่มี ก็ต้องเพิ่มระยะท้ายเลนส์ กลุ่มคนที่ต้องการ DSLR ที่ไม่ได้ต้องการอุปกรณ์เกรดโปร ราคาสูง "ยังมี" แม้กลุ่ม mrl จะใหญ่ขึ้นก็ตาม จากคุณ : j เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 00:54:31 A:27.130.191.23 X: TicketID:268645

ความคิดเห็นที่ 14 จริงๆถ้าประเด็นหลักของกระทู้ ไม่ได้ถกกันเรื่องตัวคูณ แต่ถกกันเรื่อง DSLR กับ Mirrorless ผมว่าอนาคต DSLR หายไปแน่ๆครับ หายทั้งยวงเลยล่ะครับ แม้แต่ DSLR Full Frame ก็ไม่เหลือครับ ... หลายคนเข้าใจผิดมากๆ ที่คิดว่าเทคโนโลยีไฮเทคต้องอยู่ใน DSLR -*- "กระจกสะท้อนแสง" แผ่นเดียว ไม่ได้ช่วยให้เทคโนโลยีด้านภาพดีกว่าเดิมไปอย่างไรเลยครับ แล้วก็แทบไม่ได้ช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานของกล้องดีขึ้นมาแต่อย่างใด -*- แต่มันเป็นความเรียบง่ายในด้านกลไกการใช้งาน มันเป็นเพียง "กลไกการใช้งาน" ที่ยังไม่มีเทคโนโลยีอะไรมาชนะมันอย่างเด็ดขาดได้ในตอนนี้ก็เท่านั้น (คล้ายๆกับเวลาฝนตก ก็ยังไม่มีอะไรมาแทนที่ "ร่ม" ที่แสนจะเรียบง่ายไปได้) ... แต่วันหนึ่ง เทคโนโลยีนั้นต้องปรากฎออกมาแน่ๆ ขอแค่รอให้มีเทคโนโลยีที่สามารถเอาชนะระบบกระจกได้อย่างเด็ดขาด โผล่ออกมาก็เท่านั้นเอง ตอนนี้ DSLT ก็ออกมาแล้ว ถ้าพัฒนาขึ้นจนไร้ข้อกังขา ก็น่าจะชนะ DSLR ได้ แล้ววันที่ DSLR หายไป ... ศัพท์คำว่า Mirrorless ก็ต้องหายไปด้วย ในเมื่อมันไม่มีกล้องที่ใช้กระจกสะท้อนภาพอีกต่อไปแล้ว แล้วจะไปนิยามคำว่า Mirrorless ใช้ไปทำไม? ... ส่วนตัวผมเอง ผมคิดว่า "บอดี้แบบ SLR" ต่างหากที่น่าสนใจ เพราะตอนนี้ Mirrorless บางเจ้าก็เริ่มทำบอดี้แบบ SLR ขึ้นมาแล้ว อย่าง Panasonic GH3 นี่ ใช่เลย!! จากคุณ : TalkyWalky เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 01:08:48

ความคิดเห็นที่ 15 มันจะหายหรือไม่หาย ผมไม่ทราบครับ คงอยู่ที่ความปราณีของบริษัทกล้อง ว่าจะทำอะไรมาให้เราใช้ ถ้าผมเป็นบริษัทกล้อง อะไรกำไรเยอะ ขายดี ผมก็ทำอันนั้นครับ การเปรียบเทียบกล้อง น่าจะเอากล้องระดับเดียวกันมาเทียบ ถ้าเอากล้องระดับ Entry Level มาเทียบกับกล้อง Semi Pro มันก็ไม่แฟร์ ซึ่งกล้อง Mirrorless ยังไม่มีกล้องโปร จนกระทั่งมี GH3 หรือ Sony A99 ซึ่งเป็น SLT ส่วน OM-D ก็ยังไม่เป็นกล้อง Pro เรื่อง mirrorless ปรับตั้งค่าได้ช้ากว่า DSLR ไม่จริงครับ ต้องดูเป็นรุ่นๆ ไป และ Mirrorless ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นตัวแบนๆ เหมือนกล้อง compact เสมอไป เช่น panasonic ทำกล้องตระกูล G และ GH ซึ่งเป็นกล้อง mirrorless รูปทรงเหมือน DSLR มานานแล้ว ซึ่งก็คอนโทรลกล้องได้ดีไม่ต่างจาก DSLR เลย การคอนโทรลกล้องสะดวกหรือไม่ มันไม่ได้อยู่ที่เป็น mirrorless หรือ DSLR แต่อยู่ที่ระดับของกล้อง เช่น EOS1100D ซึ่งเป็นกล้อง Entry Level มันก็ต้องคอนโทรลได้ช้ากว่า EOS60D ซึ่งเป็น Semi อยู่แล้ว แค่มี 2 แป้น กับ 1 แป้นหมุนมันก็ต่างกันเห็นๆ แต่เผอิญว่ากล้อง mirrorless เพิ่งพัฒนามาได้ไม่กี่ปี ก็เลยยังมีกล้องไม่ครบทุก Level มันก็เอามาเทียบกับ DSLR ซึ่งมีมานานกว่าลำบาก อย่างผมมีกล้อง DSLR Olympus E620 กับ กล้อง Mirrorless Pana GH1 จากการใช้งานบอกได้เลยว่าแทบไม่ต่างกัน อาจมีได้เปรียบเสียเปรียบกันบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ เช่น 1. ช่องมองภาพ OVF ของ E620 ดูแล้วสบายตาและเป็นธรรมชาติกว่า ไม่มีภาพหน่วง แต่ EVF ของ GH1 ก็ได้เปรียบตรงจอใหญ่กว่า เห็นภาพ 100% ซูมภาพเพื่อโฟกัสแบบละเีอียดได้ หรือเวลาเข้าเมนูก็ดูใน EVF ได้เลย ไม่ต้องมาดูที่ LCD 2. ระบบโฟกัส แทบไม่เห็นความแตกต่าง สำหรับกล้องโบราณทั้งสองตัว 3. การปรับตั้งค่า มันก็พอๆ กัน เพราะมันเป็นกล้องระดับใกล้เคียงกัน มี แป้นหมุนเดียว แล้วก็ปุ่มปรับอีกนิดหน่อย ซึ่งกล้องระดับนี้ส่วนใหญ่ก็ออกแบบมาคล้ายๆ กับ 4. พวกอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ เช่น แฟลชนอก ก็ใช้ได้เหมือนๆ กัน ส่วนพวกรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ เช่น รัวได้กี่ภาพต่อวินาที เปิดชัตเตอร์ได้นานเท่าไร ค่า Timelag ผมไม่ได้สนใจครับ เพราะการใช้งานจริงของผม ผมไม่ได้เน้นตรงนี้ และกล้องทั้งสองตัวก็ตอบโจทย์ผมได้ก็จบครับ จากคุณ : too-CH เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 01:11:08

ความคิดเห็นที่ 16 SLR ก็ลดจำนวนลงเรื่อยๆ เป็นเรื่องธรรมชาติโลก Mirrorless ก็อาจถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ในอนาคต ส่วนเรื่อง เอา PC กับ Notebook มาเทียบกันไม่ถูก เพราะ PC และ Notebook ต่างกันที่ประสิทธิภาพชัดเจน ปัจจัยที่ทำให้ต่างจัดเจนคือเรื่องพลังงาน และการระบายความร้อน ที่เป็นปัญหาหลักของ Notebook แต่ DSLR กับ Mirrorless  ถ้าไม่เทียบกับ Full Frame เพราะตลาด Full Frame ของ Mirrorless ยังแคบอยู่ ก็ถือว่าปัจจุบัน ประสิทธิภาพเท่ากัน ต่างแค่ความคล่องตัวในการควบคุม และที่ผมเคยพูดบ่อยๆ  อย่าไปยึดติดว่าคำว่า Mirrorless จะต้องหมายถึงกล้อง ที่ตัวเล็ก ปุ่มน้อยๆเสมอไป ....  มันไม่ใช่ครับ ที่ปัจจุบันยังมี SLT เพราะความเร็วในการ Focus ยังดีกว่า Mirrorless (เฉพาะของ Sony)  และอาจจะรวมถึง การควบคุมกลุ่มของการ Focus ได้ดีกว่าด้วย ดังนั้น Sony จึงยังต้องใช้ SLT ต่อไป ไม่งั้น กล้องระดับ Pro - Semi Pro ขายไม่ได้แน่ครับ เพราะโฟกัสช้า ถ้าต่อไป ถ้า Sony สามารถทำให้ Mirrorless โฟกัสได้เร็วมากๆได้  มี Group Focus หลายๆจุดได้  SLT ก็จะสูญพันธ์เช่นเดียวกัน แล้วจะกลายเป็น Mirrorless ในร่างของ SLT (แต่ผมว่าคงอีกนาน) จากคุณ : ZicmA เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 01:26:50

ความคิดเห็นที่ 17 ตราบใดที่ยังไม่มีเลนส์ 70-200 f2.8 ที่เบาๆสักสองขีด แต่ได้คุณภาพของภาพเท่ากับตัวบ้องหนักๆ กล้องไร้กระจกก็ไร้ค่าอ่ะ เพราะงานเราต้องใช้เลนส์ตัวนี้ แล้วถ้ามันไม่เล็กแถมยังหนัก กล้องไร้กระจกก็เปล่าประโยชน์อยู่ดี เพราะจุดขายของมันอยู่ที่เล็กและเบา แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 55 02:13:24 จากคุณ : โครตเซียน..ไม่เกี่ยงจอย เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 02:08:34

ความคิดเห็นที่ 18 ผมว่าบางคห.ต้องตีโจทย์ให้แตกก่อนอ่ะ ว่า Mirrorless กับ DSLR มันต่างกันยังไง (โดยเนื้อแท้ของประเภทกล้องน่ะครับ ไม่เกี่ยวกับรูปร่างที่บริษัทกล้องทำออกมาขาย) จากคุณ : TalkyWalky เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 02:37:26

ความคิดเห็นที่ 19 จุดขายมันเปลี่ยนแปลงได้ครับ อย่างที่้น้านิคว่า มันยืดหยุ่นได้ครับ ทำเล็กก็ได้ทำใหญ่ก็ย่อมได้ เทคโนโลยีมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ และ เร็วเสียด้วย จากคุณ : ต้านชิง เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 02:37:30

ความคิดเห็นที่ 20 mirrorless ไม่จำเป็นต้องเล็กเสมอไป เพียงแต่ช่วงแรกมาจับตลาดตรงนี้ แต่ถ้ามีช่องทางทางการตลาด มีคนอยากได้กล้องที่โปรขึ้น จับถนัดขึ้น และทำแล้วมีกำไร ทำไมจะไม่ทำครับ เราไม่รู้ว่าบริษัทกล้องคิดอะไร อาจจะตั้งโจทย์ขึ้นมาว่าต้องการทำกล้องที่ผลิตง่าย ต้นทุนต่ำ กำไรเยอะ แล้วคำตอบก็อาจลงมาที่ Mirroless ก็ได้ ผมไม่แน่ใจเรื่องต้นทุน แต่ถ้าสมมุติว่าการผลิตกล้อง mirrorless ที่มีฟังก์ชั่นเหมือน DSLR แต่ต้นทุนต่ำกว่า ผลิตง่ายกว่า กำไรต่อหน่วยมากกว่า DSLR แล้วมันขายได้ ตลาดยอมรับ ถ้าผมเป็นบริษัทกล้อง ผมก็เลือกทำ mirrorless ขายแหละครับ จากคุณ : too-CH เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 03:00:30

ความคิดเห็นที่ 21 หมายถึงยังไงอ่ะครับ แปลว่าถ้ามีกล้องไร้กระจกที่มีรูปร่างใหญ่ๆหนักๆเหมือนกล้องโปรทุกอย่าง แค่ไม่มีกระจกกับมีกระจก แล้วกล้องใช้กระจกมันจะหายไปจากตลาด? แปลว่าตอนนี้เทคโนโลยีตอนนี้ของกล้องไร้กระจกสมบูรณ์แบบกว่า แบบนี้รึเปล่าอ่ะครับ เพราะเห็นบอกว่าขนาดเล็กกับนน.มันไม่ใช่ความหมายของกล้องไร้กระจก เข้าใจแบบนี้ถูกรึเปล่าหว่า? ถ้าเป็นแบบนั้นก็ให้กล้องมีกระจกหายๆไปแหละ แล้วช่วยทำกล้องไร้กระกระจกที่มีรูปร่างกับนน.เหมือนพวกตัวใหญ่ๆในราคาถูกๆออกมาเร็วๆหน่อยก็ดี แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 55 03:13:56 แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 55 03:12:34 จากคุณ : โครตเซียน..ไม่เกี่ยงจอย เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 03:11:57

ความคิดเห็นที่ 22 >> คงจะเหลือกลุ่ม FF อย่างเดียว ซึ่งเป็นกล้องที่ให้คุณภาพสูงสุด ตรงนี้ ผิดอย่างหนัก จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 07:37:31

ความคิดเห็นที่ 23 กคงไม่ถึงขั้นหาย แต่รุ่นจะเหลือน้อยลง จากคุณ : tump เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 07:45:10

ความคิดเห็นที่ 24 ไม่อ่ะ สุดท้ายแล้วกิ๊กกับแฟนมันก็แทนกันไม่ได้อยู๋ดี จากคุณ : ที่จุดหมาย ยังมีสายรุ้ง เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 08:32:55

ความคิดเห็นที่ 25 น่าจะหายไปเพราะffราคาถูกน่ะครับ อย่างนิคอนอีกห้าปีกล้องff ขนาด36mp ในโหมดcrop DXได้15mp อย่างD800 ขายราคาไม่เกิน 50000บาท มันทดแทนได้เลย.. (เคสนี้ไม่เกิดกับแคนอนครับ) จากคุณ : กระเพราเป็ด เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 08:56:14

ความคิดเห็นที่ 26 ยังไงๆกล้องตัวคูณก็ยังอยู่ครับ จากคุณ : พวงเงิน เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 09:14:22

ความคิดเห็นที่ 27 กล้องตัวคูณ ถ้าหายเสียดาแย่เลย เลนส์ 300 มิล เดิมเคยครอบเซ็นเซอร์ได้ 450 // เมอร์เร่อเค้าก็คูณหรือเปล่าไม่แน่ใจ  หรือที่พูดหมายถึงรูปร่าง //ส่วนตัวคิดว่าตัวคูณอาจจะหายไป เพราะเห่อฟลเฟรม ส่วนเมอร์เร่อเลสสำหรับโปรๆ  อาจจะแปลงร่างมาเป็น D1x  หรือ D4  ส่วนบอดี้แบบคอมแพคยังอยู่ยงคงกระพัน ส่วนหนึ่งคิดว่าการตลาดเพราะมันสามารถกินพวกอยากได้แบบคอมแพคแต่รูป DSLR  เมื่อมีความเชื่อมันในคุณภาพทีนี้ก็เจาะกลุ่มบอดี้แบบ DSLR  ซึ่งส่วนตัวทึ่งในความบ้าของโซนี่ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 55 09:53:23 จากคุณ : nawinh เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 09:52:27

ความคิดเห็นที่ 28 คห 26  ตัวคูณอยู่แน่ครับ เพราะมันมีข้อดีของมัน  แต่อ่านที่คนอื่นโพสๆกันสักนิด น้า คห 21 ครับ ตอนนี้มันยังแทนกันไม่ได้ เพราะเรื่องการ ออโต้โฟกัสครับ ยังไม่มี Mirrorless ตัวไหน ทำ AF ได้เร็วเท่า DSLR หรือ DSLT ครับ รวมทั้งยังไม่มี Mirrorless ตัวไหน โฟกัสแบบกลุ่ม ได้ แล้วค่ายใหญ่ๆอย่าง Nikon และ Canon ยังไม่ลงมาเล่นตรงนี้จริงจังครับ ดูกล้อง Mirrorless ที่ออกมาในปัจจุบัน ของสองค่ายนี้แล้วยังเพลียอยู่ครับ ซึ่งสองค่ายที่ว่าเป็นตลาดใหญ่มาก ทำให้ยังไม่สามารถดึงคนที่อยากเปลี่ยนกล้องแต่อยู่ค่ายเดิมยังไม่ได้ แต่ผมคิดว่ายังไงช่วงแรกๆบริษัทกล้อง ยังคงต้องทำให้ Mirrorless ตัวเล็กเข้าไว้ เพราะต้องการความแตกต่างที่ชัดเจน กับผู้ใช้งานระดับทั่วไปที่ไม่ชอบมาศึกษาเทคโนโลยี จากคุณ : ZicmA เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 09:59:58

ความคิดเห็นที่ 29 ผมไม่รู้หรอกว่ามันจะหายหรือไม่หาย ขอให้เป็นเรื่องของอนาคต ผมขอเพียงแค่ให้สนุกกับการถ่ายภาพ และได้ภาพสวยๆ เาอมาให้ได้ชมกัน ครับ จากคุณ : odypus (odypus) เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 12:22:25

ความคิดเห็นที่ 30 @ 26 ผมว่า น้า ZicmA ต้องหาข้อมูลเพิ่มแล้วครับ - Mirrorless โฟกัสแบบกลุ่มได้ "มี" ครับ อย่างน้อย ก็รุ่นที่ผมใช้อยู่ละ - หนังสือ Color Photo Magazine ของเยอรมัน เอากล้องที่ออกถึง มิถุนายน 2012 ที่ผ่านมา ทำการทดสอบ ความเร็วในการโฟกัส  ( ทดสอบที่แสง 1000 lux ) ได้ผลออกมา ตามนี้ครับ   อันดับ 1 OLYMPUS  E-P3 อันดับ 2 OLYMPUS OM-D ( E-M5 ) อันดับ 3 Panasonic GF-5 อันดับ 4 Nikon D4 อันดับ 5 Pana GX1 อันดับ 6 Sony Alpha A77 อันดับ 7 Nikon V1 อันดับ 8 Pana GF-3 อันดับ 9 OLYMPUS E-PL3 อันดัน 10 Canon EOS-1D Mk IV อันดับ 11 Nikon J1 อันดับ 12 Sony Nex 7 ... และล่าสุด Pana GH3 ที่กำลังจะวางจำหน่าย เค้าประกาศว่า โฟกัสเร็วที่สุด... เร็วกว่า กล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ "ทุกระบบ" ในโลก ... ตอนนี้ คนหันมาใช้ Mirrorless มากขึ้น ไม่ใช่แค่คนที่มาจาก Compact แม้แต่ หลายๆคน ที่เคยใช้ FF ก็เริ่มเปลี่ยนมาใช้ Mirrorless มากขึ้นแล้วครับ และเมื่อคนที่เคยใช้กล้องใหญ่ หรือ กล้อง FF เปลี่ยนมาใช้ Mirrorless คนรอบข้าง... จะเป็นยังไงครับ ? คนรอบข้าง ที่เคยเห็นเพื่อน ใช้กล้องโปร เปลี่ยนมาใช้ Mirrorless ก็จะเริ่มถามคำถาม... ... น้าลองไปดู ส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกดูนะครับ DSLR หดตัวลงเรื่อยๆ และ Mirrorless เติบโตขึ้นเรื่อยๆ เดิมที... Nikon กับ Canon ก็เคยบอกว่าจะไม่ทำ Mirrorless แต่ตอนนี้... ด้วยแนวโน้มความต้องการของตลาดเปลี่ยนไป Nikon ก็เข็น Nikon 1 ออกมา Canon ก็เข็น EOS M ออกมา... ... ปล. Mirrorless ไม่ได้มีแต่ Micro 4/3 * แก้ไข เพิ่มเติม - พิมพ์อันดับตกไป 1 รายการคือ อันดับ 5 Pana GX1. โลกที่น่าอยู่... สังคมที่ดี...   ไม่มีขาย อยากได้...   ต้องช่วยกันสร้าง โดยเริ่มจาก...   ตัวเราเอง...   เดี๋ยวนี้... แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 55 15:47:05 แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 55 15:44:08 แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 55 15:35:22 จากคุณ : Phoenixนิลมังกร เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 15:34:03

ความคิดเห็นที่ 31 Panasonic GH3 เห็นว่าไฟล์ภาพก็เทพด้วยนี่ครับ อยากรอเห็นตัวจริงไวๆ จากคุณ : TalkyWalky เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 17:39:19

ความคิดเห็นที่ 32 ผมไม่ได้หมายถึงการโฟกัสแบบ Multiple Point  โดยไม่สามารถกำหนดจำนวน Focus Point ได้นะครับ แต่ผมหมายถึงการโฟกัส แบบจุดหลัก โดยมีกลุ่มย่อยๆช่วยในการโฟกัส เหมือนกล้อง ระดับโปรที่มี Focus Point 50 60 จุด แบ่งเป็นกลุ่มๆละ 12 -15 จุดประมาณนั้น Mirrorless  รุ่นไหนมีแบบนี้ อันนี้ผมก็ไม่ทราบจริงๆ ส่วนเรื่อง focus speed ผมเทียบกับกล้องในปัจจุบันนะครับ ส่วนที่จะออกมาต่อไปนี่ ถ้ามันเร็วขึ้นเท่า DSLR ก็จะเป็นเรื่องดีมาก แต่ GH3 ที่ว่า เร็วแค่ไหนก็ยังไม่รู้ เพราะเร็วกับ แม่น ต้องมาด้วยกัน ส่วนเรื่อง DSLR ลดจำนวน หรือ หายไปเลย อันนี้ผมไม่ได้พูดตรงไหนว่ามันจะไม่หายไปนะ แค่มันลดจำนวนลงเรื่อยๆตามเวลาของมัน ตามเทคโนโลยีที่ถูกแทนที่ เป็นธรรมดาครับ แค่มันยังไม่ใช่เร็วๆนี้เท่านั้นเอง จากคุณ : ZicmA เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 17:49:43

ความคิดเห็นที่ 33 - Focus แบบกลุ่ม แบบที่น้าว่า... อันนี้ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ของผมเลือกได้ ว่าจะเอาแบบโฟกัสเป็นจุด จุดไหนของภาพ หรือ เป็นกลุ่ม และทั้งจุดและกลุ่ม ก็เลื่อนตำแหน่งได้ เลือกกลุ่มเล็กกลุ่มใหญ่ได้ แต่ไม่แน่ใจว่ามันเป็นแบบที่น้า ZicmA บอก หรืออย่างไร และไม่รู้ว่า ม้นให้ผลลัพธ์ ต่างกันยังไง  งั้นข้อนี้ผ่านละกัน - Focus Speed เอ...  "ผมเทียบกับกล้องในปัจจุบัน" อันนี้ไม่เคลียร์แฮะ... โอเค... ในตาราง ไม่มี D800 , D800E หรือ Canon 650D หรือ A99 แต่ถ้าน้าจะบอกว่า "เทียบกับกล้องในปัจจุบัน" ผมก็อยากขอข้อมูลจากน้า ZicmA ที่ว่า มีกล้อง "ในปัจจุบัน" ที่มีการทดสอบ อย่างเป็นกิจจะลักษณะ หน่อยครับ เพราะผมหาได้เท่านี้เอง ซึ่งจากการทดสอบ ของหนังสือ Color Photo Magazine จากเยอรมันนั้น เค้าเอาทั้ง "เร็ว และ แม่น" ด้วยครับ ไม่ได้เอาแค่เร็วอย่างเดียว แต่ผมก็อ่านเจอจากเว๊บต่างประเทศ ที่เค้ามีทั้ง 7D และ E-P3 เค้าก็ยอมรับว่า E-P3 เร็วกว่า สำหรับการใช้งานแบบ Point & Shoot ( E-P3 ใช้เลนส์คิท ) แต่ถ้าเป็น ถ่ายต่อเนื่อง ดูเหมือนกว่า 7D จะเร็วกว่านิดหน่อย - DSLR vs Mirrorless  ครับ อันนี้ผมเข้าใจน้าครับ จริงๆ ผมจะบอกน้าท่านอื่นๆ แต่มันพ่วงไปด้วยกัน แหะๆ   ขอบคุณ ที่แลกเปลี่ยนมุมมอง ความรู้กันด้วยเหตุผลครับ โลกที่น่าอยู่... สังคมที่ดี...   ไม่มีขาย อยากได้...   ต้องช่วยกันสร้าง โดยเริ่มจาก...   ตัวเราเอง...   เดี๋ยวนี้... จากคุณ : Phoenixนิลมังกร เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:22:13

ความคิดเห็นที่ 34 เรื่องบางอย่าง คนไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้นะครับ.. จากคุณ : คนบางปะอิน เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:49:32

ความคิดเห็นที่ 35 พูดกันถึงเรื่องกล้อง ไม่พูดถึงเลนส์ที่ใช้เลยเหรอครับ จะนำเลนส์ L,Nano ไปใส่ mirrorless เหรอ ถ้าต้องวิ่งไปด้วยถ่ายไปด้วยจะไหวรึเปล่าครับการจับถือ ถ้าไม่เอาตาไปทาบ view finder จะเล็งได้เร็วแค่ไหน เปิดจอหลังตลอดการถ่าย แบตจะทนได้นานเท่ากับไม่เปิดเลยรึเปล่าครับ ถ้าไม่มี view finder แล้วถ่ายเสียเยอะระดับนึงเลยครับ ผมคงฝีมือไม่ดี ส่วน EVF ยังไม่ค่อยถนัด จะปรับ ISO ทีนึง กดเข้าไปสามสี่ เมนูกว่าจะปรับได้ ผมคงไม่ชินมือ คงต้องซื้อ mirrorless มาใช้เป็นเป็นเรื่องเป็นราวก่อนถึงจะเห็นภาพจริงๆ จากคุณ : หัวฟูเจเนอเรชั่น เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 22:00:45

ความคิดเห็นที่ 36 พูดกันถึงเรื่องกล้อง ไม่พูดถึงเลนส์ที่ใช้เลยเหรอครับ จะนำเลนส์ L,Nano ไปใส่ mirrorless เหรอ - เป็นการคาดเดาอนาคตเล่นๆ ขำๆ ว่ารายใหญ่จะลงมาเล่น Mirrorless หรือเปล่า กล้องในยุคหน้าจะเป็นอย่างไร ก็เหมือนกับที่คนใช้กล้อง nik หรือ canon คาดเดาว่ากล้องที่จะออกมาใหม่จะใส่อะไรมาให้บ้าง เปิดมาราคาเท่าไร FF ราคาถูกออกมาจริงหรือเปล่า ตรงนี้เป็นเรื่องจินตนาการครับ ทุกคนมีสิทธิ์คาดเดาและแชร์กันเพื่อความบันเทิง ซึ่งโดยส่วนตัวผมไม่สนใจครับว่าต่อไปมันจะมีกล้องอะไรออกมา เราเป็น user มีหน้าที่ซื้อใช้ ส่วนจะทำอะไรออกมาเป็นเรื่องของบริษัทกล้องครับ ส่วนเรื่องสมดุลกล้องกับเลนส์ มันไม่มีปัญหาอยู่แล้วที่กล้อง Mirrorless จะทำให้ตัวใหญ่ๆ มันไม่มีข้อจำกัดทางเทคนิคใดๆ เลยที่จะทำไม่ได้ อยู่ที่ว่าตลาดต้องการหรือเปล่า ซึ่งตอนนี้ Panasonic ก็มี GH3 ออกมาแล้ว หรืออย่าง Sony A99 แม้จะเป็น SLT แต่ผมว่ามันก็ใกล้เคียงกับ Mirroeless ก็เป็นตัวชี้แนวโน้มของกล้อง Mirrorless ว่าคงแยกเป็น 2 ทาง คือ พวกรูปทรงแบบ DSLR เน้นการใช้งานจริงจัง กับ พวกกล้องตัวบางๆ พกง่ายๆ ถ้าต้องวิ่งไปด้วยถ่ายไปด้วยจะไหวรึเปล่าครับการจับถือ ถ้าไม่เอาตาไปทาบ view finder จะเล็งได้เร็วแค่ไหน - กล้อง Mirrorless แบบมี viewfinder ในตัว (EVF) มีมานานแล้วครับ ถ้าผมจำไม่ผิด กล้อง Mirrorless ตัวแรกเป็น Panasonic G1 ออกมาตั้งแต่ปี 2008-2009 ออกมาก่อน Olympus E-P1 ซึ่งตัว G1 ก็มีรูปทรงเหมือน DSLR เลย มี EVF ด้วย ตรงนี้เป็นเรื่องของ user ที่ตรงเลือกกล้องให้ตรงกับงานครับ กล้อง mirrorless ตัวแบนๆ หลายรุ่น ก็มี EVF มาให้เลย เช่น Sony nex6 nex7, Fuji X pro1 ถ้าไม่เอาตาไปทาบ view finder จะเล็งได้เร็วแค่ไหน เปิดจอหลังตลอดการถ่าย แบตจะทนได้นานเท่ากับไม่เปิดเลยรึเปล่าครับ - ถ้าถนัดดู view finder ก็เลือกกล้องที่มี EVF ครับ จากที่ผมใช้กล้องรุ่นเก่าประมาณปี 2009-2010 ที่มี EVF ในตัว บอกได้เลยว่าเร็ว อาจไม่เร็วที่สุดในโลก แต่เป็นระบบที่ใช้งานได้จริง บางคนอาจติว่าจอ EVF สู้ OVF ไม่ได้ ตรงนี้ผมมองว่าต้องให้เวลาพัฒนาครับ เหมือนกับเมื่อก่อน จอ LCD ยังไงก็สู้จอ CRT ไม่ได้ แต่ลองดูปัจจุบัน ถ้าให้ซื้อทีวีหรือจอคอมใหม่ ใครจะซื้อจอแก้วหนาๆ หนัก ส่วนเรื่องการกินไฟ ถ้ารู้ว่ากล้องเรากินไฟเยอะก็เตรียมแบ็ตสำรองให้เพียงพอ หรือกล้อง Mirrorless บางรุ่นก็มี Grip ใส่เพิ่ม จะปรับ ISO ทีนึง กดเข้าไปสามสี่ เมนูกว่าจะปรับได้ - ต้องดูเป็นรุ่นๆ ไป เหมารวมไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่น Panasonic ก็แยกกล้อง mirrorless ของตัวเองเป็น 2 กลุ่มชัดเจน คือ พวก GF GX จะเป็นตัวแบนๆ เหมือนกล้องคอมแพค ส่วนอีกกลุ่มจะเป็นกล้องรูปทรงเหมือน DSLR คือ G และ GH พวกนี้คอนโทรลได้ง่ายและเร็วเหมือน DSLR ถ้าลองนับปุ่มและแป้นหมุนต่างๆ ที่อยู่บนตัวกล้อง มันก็ใกล้เคียงกับกล้อง DSLR หรือกล้องตัวแบนๆ อย่าง Fuji X-Pro1 ก็ออกแบบระบบการควบคุมมาเหมือนกับกล้องฟิล์มเลย จากคุณ : too-CH เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 23:20:31

ความคิดเห็นที่ 37 - เลนส์ L , Nano ในอนาคตน่าจะได้เห็นเลนส์ L , Nano สำหรับ Mirrorless ( ถ้าหมายถึงเฉพาะ C , N เท่านั้น ) แต่ปัจจุบัน m.Zuiko กับ Lumix , Leica ก็ใช้เทคโนโลยี แบบนาโน หรือ L ในเลนส์รุ่นสูงของ m4/3 แต่เรียกชื่อต่างกัน และส่วนประกอบย่อยต่างกัน ( ไม่งั้นโดนฟ้องว่าลอกเทคฯ ) - วิ่งไปด้วย ถ่ายไปด้วยจะไหวรึเปล่า ... ผมใช้ Mirrorless ... ได้เป็น Man of The Match ด้วยคะแนนสูงสุด ท่ามกลาง DSLR จากหลายๆยี่ห้อ ในการแข่ง Photo Battle ( ใช้กล้องไล่ยิงกันแทนปืน ในสนาม BB ) ที่มีผู้เข้าร่วมแข่งเกือบยี่สิบคน เมื่อสองสามเดือนที่แล้วครับ โดยภาพต้องชัด เห็นหมายเลขของผู้แข่งขันชัดเจนด้วย ไม่ใช่แค่กดติดอย่างเดียว และใช้เลนส์ที่มีระยะอยู่ในกติกา ถึงจะได้คะแนน จริงๆต้องถามว่า...  ใครจะวิ่งได้เร็วกว่ากัน ใครจะคล่องตัวกว่า ใครจะวิ่งได้นานกว่ากัน และใครจะยกยิงได้เร็ว ได้แม่นกว่ากัน ระหว่าง DSLR ของคุณ กับ Mirrorless ของผม ... ถ้าสนใจ ไปลองกับผมที่สนามดูก็ได้ครับ - Viewfinder Mirrorless มีหลายรุ่นครับ บางรุ่นก็มี EVF ในตัว บางรุ่น ก็เป็นอุปกรณ์เสริม และเผลอๆ คุณใช้ Viewfinder ของ DSLR ของคุณจะถ่ายได้ช้ากว่า Mirrorless ของผมนะครับ EVF รุ่นใหม่ๆ ตอนที่ใช้ใหม่ๆ อาจจะรู้สึกว่า OVF ดีกว่า ( ผมเองแรกๆ ก็ชอบ OVF มากกว่า ) แต่ตอนนี้ยอมรับว่า ชอบ EVF ของกล้องตัวใหม่ มากกว่า OVF เมื่อกลับไปใช้ ไปจับกล้อง DSLR ตัวเดิมของผมแล้ว - การใช้พลังงาน ถ่ายได้นานแค่ไหน กล้อง Mirrorless ที่ผมใช้อยู่ สามารถถ่ายได้ 900 ภาพ ด้วยแบตก้อนเดียว ถ้าไม่พอ ติดกริ๊ปสองชั้น ใส่แบตเพิ่มเข้าไปอีกได้ - การปรับ WB , ISO , Flash , หรือ Single , Multiple Shot ฯลฯ สามารถ กดปุ่มเดียว แล้วหมุน Dial เลือกค่าได้เลย แถมมี... ปุ่มเดียว เลือกได้หลายอย่างด้วยนะครับ - ถ้าชอบปุ่มเยอะๆ สามารถ Direct Control ไม่ต้องเข้าเมนู ตอนนี้ก็มี Panasonic ตระกูล GH ( ซึ่งก็บอกกันไปหลายคนแล้ว ) ทั้งรูปร่าง หน้าตา การจับถือเหมือน DSLR ทุกอย่าง เพียงแต่ไม่มีกระจกสะท้อนภาพ Mirrorless ก็คือ พัฒนาการต่อไป ของ DSLR นั่นแหละครับ ต่อไป ก็จะมีทั้ง Entry , Medium , Semi และ Professional ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มมาแล้ว ไม่ได้มีแต่ตัวเล็กๆ บางๆ เบาๆ เหมือนยุคแรก ของ Mirrorless ปล. คุยกันสนุกๆ แลกเปลี่ยนความรู้ และมุมมองนะครับ   โลกที่น่าอยู่... สังคมที่ดี...   ไม่มีขาย อยากได้...   ต้องช่วยกันสร้าง โดยเริ่มจาก...   ตัวเราเอง...   เดี๋ยวนี้... แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 55 00:53:39 แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 55 00:43:45 แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 55 00:39:54 จากคุณ : Phoenixนิลมังกร เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 00:35:55

ความคิดเห็นที่ 38 ส่วนตัวผมว่า DSLR ลดลงแน่ๆครับ แต่ไม่น่าถึงขั้นหายไป แล้วผมว่า Mirrorless มันยังพัฒนาได้อีกเยอะ สังเกตจากตอนนี้ Mirrorless พยายามทำตัวกล้องให้มีความสามารถใกล้เคียง DSLR มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในอนาคตผมว่าตามทันแน่นอน แต่ผมว่าในรุ่นกล้องระดับสูงๆ พวกตามสตูก็คงจะใช้ DSLR อยู่ จากอะไรๆที่มันน่าจะมีเหนือกว่า Mirrorless มาก ในด้านการทำงานที่จริงจังถึงขนาดนั้น อารมณ์แบบกองถ่ายหนังที่ยังมีเห็นใช้ฟิมล์กันอยู่ แต่ปัจจุบันก็เริ่มแทนที่กันด้วย DSLR แล้ว อาจจะไม่หายไปหมด แต่ DSLR น่าจะเหลือเฉพาะรุ่นสูงๆ แต่รุ่นล่างๆ กลางๆ อาจจะโดน Mirrorless กินหมด ผมไม่เชื่อว่าอนาคต กล้องMirrorless จะตาม 600d หรือ 60 d ไม่ทันนะ แล้วทีนี้ผมว่ามันจะวัดกันที่ราคากับดีไซน์แล้ว ซึ่งผมว่า DSLR รุ่นล่างกับกลางๆคงกินMirrorless ด้านราคา(ถูกกว่า คุ้มกว่า) แต่ดีไซน์ ความสวยงามนี่โดยส่วนตัวผมให้ Mirrorless ชนะนะ จากคุณ : korntana0101 เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 03:02:17

ความคิดเห็นที่ 39 ถ้ามันเร็วขึ้นเท่า DSLR ก็จะเป็นเรื่องดีมาก แต่ GH3 ที่ว่า เร็วแค่ไหนก็ยังไม่รู้ เพราะเร็วกับ แม่น ต้องมาด้วยกัน น้า ZicMa ครับ พื้นฐานของ dSLR .. ใช้ระบบโฟกัสแบบ PDAF และระบบ PD-AF นั้น พื้นฐานๆแล้ว มันมีความ "ไม่แม่น" ฝังอยู่ใน DNA เลย AF sensor เขยื้อนไปแม้ 0.1mm ก็ก่อปัญหา back/front focus ทันที เลนส์โฟกัสลงตรง AF sensor เป๊ะ ไม่ได้แปลว่า จะโฟกัสลงตรง image sensor ในขณะที่ระบบ CD-AF ที่เป็นระบบหลักของ mirrorless ความ "แม่น" ก็เป็นพื้นฐานใน DNA ของมันเช่นกัน เพราะ image sensor ทำหน้าที่เป็น AF sensor เช่นกัน ระบบ CD-AF ไม่มีเรื่อง back-front focus ฉนั้นต่อให้ sensor ขยับเขยื่อนแค่ไหน ก็ไม่มีปัญหา b/f นี้ เลนส์โฟกัสลงตรงเซนเซอร์ ก็คือ ภาพโฟกัสเข้าเป้า จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 09:00:56

ความคิดเห็นที่ 40 ถ้าวันนึงราคากับเพอร์ฟอร์มานพอๆกัน DSLRคงหดหายไปเพราะมันคือวัตถุโบราณ ถึงจะออกแบบให้โค้งมนอย่างไรก็ตาม มันเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีอายุขัยยาวนานมากแล้ว  แต่ผมเองก็ยังไม่คิดจะลงทุนกับกล้องMIL ในเวลานี้ครับ จากคุณ : กระเพราเป็ด เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 09:33:05

ความคิดเห็นที่ 41 ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนยังไม่เคยจับ หรือทดลองเล่น Mirrorless แบบจริง ๆ จัง ๆ ที่ว่า DSLR ทำ Touch Screen หรืออะไรหลาย ๆ อย่างได้ ลองไปเทียบประสิทธิภาพสิครับ แค่โฟกัสก็ช้ากว่าแบบคนละเรื่ืองแล้ว บทจะหายมันก็ไปไวนะครับ เหมือนเมื่อก่อนตอนยุคกล้องฟิลม์เฟื่องฟู แล้วดิจิตอลเพิ่งเข้ามานั่นแหละ ใครจะคิดว่าฟิลม์จะตาย ตอนนี้เหลือแค่เล่นกันกลุ่มเล็ก ๆ จากคุณ : ganblade เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 09:41:32

ความคิดเห็นที่ 42 ผมใช้ DSLR + Mirrorless ถ่ายรับงาน MRL โฟกัสเร็วกว่า และรูปจาก MRL โฟกัสเข้ามากกว่าครับ(ขณะที่ MRL ใช้ F1.4 ถ่าย / DSLR F4.0 ด้วยครับ) (MRL ผมใช้ Touch Screen ในการถ่ายด้วยครับ) --------------------------------------- จากคุณ : Dont Be Serious เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 19:23:37

ความคิดเห็นที่ 43 DSLR - เทคโนโลยี่กำลังตันครับ เราเห็นได้ว่ากล้องรุ่นใหม่แทบไม่มีการพัฒนา MRL - เทคโนโลยี่กำลังก้าวกระโดด เช่น ระบบ Focus ที่ฝั่งไว้ในตัว , ความเร็ว Focus ที่ไวมากขึ้น ,EVF ที่ไวกว่าเดิม-ไม่ต้องคำนวณแสงให้ยุงยากกว่าเมื่อก่อน, ควบคุมกล้องได้ดีขึ้นโดยเพิ่มออฟชั่นเพิ่ม DSLR ระดับสูงยังคงอยู่ต่อไป แต่กลาง-ล่าง อันนี้โดน MRL กินเยอะแน่ๆครับ นิก-หนอน ที่ไม่มีแผนพัฒนา MRL ก่อนหน้านี้ เพราะไม่คิดว่าเทคโนโลยี่ MRL จะก้าวกระโดดไปไวกว่าที่คิด ถ้าเทคโนโลยี่ DSLR นิ่งไม่มีอะไรแปลกใหม่ รับประกันได้ว่า DSLR จะกลายเป็นตลาดเฉพาะกลุ่มมาขึ้น จากคุณ : jarungkit เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 10:44:38

ความคิดเห็นที่ 44 dslr อาจจะหายไปเลยก็ได้ อาจเหลือแต่ระบบไม่ต้องมีกระจก แต่  แต่   .... คนต้องการมองในช่องมองภาพ ก็จะมี mirrorless ที่มีช่องมองภาพ ซึ่งก็มีแล้ว แต่จะมีแบบดีดีขึ้นไป  และขนาดจะมีทั้งเล็กทั้งใหญ่ อาจมีขนาดใหญ่ถึง dslr ปัจจุบัน มันก็เหมือน mirrorless ที่ทำออกแบบมาให้มันดูคล้ายกล้องฟิล์ม อีกหน่อย มันก็จะมีแบบทำออกมาให้คล้าย dslr ด้วยขนาดอาจใหญ่ แต่น้ำหนักเบา จากคุณ : puylogin เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 17:43:46