ความคิดเห็นที่ 1 เข้าเรื่องเลยดีกว่า อย่างแรกเลย คือทำไมเป็นรุ่น 5 แล้ว รุ่น 4 มันหายไปไหน การนับเจเนอเรชั่นของกล้องดิจิทัลเพนไม่ได้เป็นการนับอย่างเป็นทางการของโอลิมปัสนะครับ แต่เป็นการนับกันเองของแฟนโอลิมปัสในไทย เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายๆ ถึงการพัฒนาของคุณภาพไฟล์ เพราะสไตล์ของกล้องโอลิมปัสคือ กล้องรุ่นใหม่จะใช้ตัวประมวลผลภาพรุ่นใหม่ขึ้น ทำให้ได้ไฟล์ภาพดีกว่ารุ่นเก่าเสมอ และดีแบบ ราคากล้องจะถูกแพงไม่เกี่ยว กล้องโปรหรือไม่โปรก็ไม่เกี่ยว เห็นๆ กันว่า กล้องมือใหม่ E-PM2 พร้อมเลนส์ราคาสองหมื่น ให้ภาพดีกว่ากล้องโปร E-5 ที่ราคาเฉพาะบอดี้หกหมื่นหน้าตาเฉย ในกล้องอนุกรม PEN (เขียนด้วยตัวพิมพ์ใหญ่หมด) ที่ผ่านมาจึงแบ่งได้เป็น 3 ช่วง คือ E-P1, E-P2, E-PL1 ช่วงกลางปี 2009 ถึงต้นปี 2010 E-PL2 ปลายปี 2010 ถึงต้นปี 2011 E-P3, E-PL3, E-PM1  กลางปี 2011 และในปลายปี 2012 กล้องเพนควรจะเป็นรุ่นที่มีเลข 4 แต่ว่าด้วยความที่เลข 4 ในบางวัฒนธรรมไม่เป็นมงคล เพนจึงกระโดดข้ามไปเลข 5 เลย  แฟนโอลิมปัส ก็เลยข้ามเลข 4 ไปด้วย นับกล้องเพน E-PL5 กับ E-PM2 เป็นเจเนอเรชั่น 5  จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 21:01:40

ความคิดเห็นที่ 2 ในรุ่นที่ 5 มีอะไรน่าสนใจบ้าง พัฒนาการที่สำคัญที่สุดในรุ่น 5 คือ โอลิมปัสปลดระวางเซ็นเซอร์พานาอายุ 6 ขวบ เปลี่ยนเป็นเซ็นเซอร์ลึกลับรุ่นใหม่กิ๊ก ที่ใช้อยู่ใน OM-D E-M5 พร้อมทั้งยกชุดประมวลผลภาพ กับชุดโฟกัสของ E-M5 มาลงทั้งชุดเลย ที่ไม่ได้เอามาคือระบบกันสั่น 5 แกน กับการเพิ่ม Art Filter ใหม่อีกสองแบบ แบบหนึ่งคือ สีน้ำ อีกแบบคือ ขาวดำ หาโฟกัสเร็วๆ แตะจอแล้วโฟกัสก็ยังมีอยู่ในกล้องนี้ จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 21:02:54

ความคิดเห็นที่ 3 โอลิมปัสยุบรวม PEN 3 รุ่น ลงเหลือ 2 รุ่น เอาฟังก์ชั่นของสามรุ่นเดิมมาขยำรวมกัน แล้วแบ่งกันใหม่อีกที ดูค่อยสอดคล้องกับกลุ่มผู้ใช้ขึ้น ไม่กั๊กพิลึกๆ เหมือนเดิม และใช้กลยุทธ์ราคาเดียวกับแอปเปิ้ลคือเปิดรุ่นใหม่ด้วยราคาสูง แต่เก็บรุ่นเก่าราคาต่ำไว้โดยไม่เลิกขาย ทำให้ตอนนี้ PEN 3 ยังคงหาซื้อได้ในราคาถูกลงกว่าเดิม  เทียบแล้ว PEN 3 มีเรื่องเซ็นเซอร์เท่านั้นที่ต่างจากรุ่นใหม่อย่างชัดเจน ซึ่งก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะใช้ประสิทธิภาพเซ็นเซอร์เต็มที่จน PEN 3 ตอบสนองไม่ได้ ภาพจาก PEN 3 ก็ยังคงตอบสนองช่างภาพประจำบ้านได้เหลือพอ ในราคาที่ถูกกว่ากันครึ่งค่อน โอลิมปัสเจเนอเรชั่นนี้ จุดใหญ่ๆ ที่รุ่น L ดีกว่ารุ่น M คือจอพลิกกลับมาด้านหน้าได้ ปุ่มแป้นที่เยอะกว่า ปรับง่ายใช้สะดวกกว่าหน่อย เรื่องอื่นที่ต่างกันผมถือว่าเล็กๆ น้อยๆ  ไม่ได้สำคัญอะไร มีข่าวว่าจะมีรุ่น E-P เฉยๆ ออกตามมา เรียกกันเล่นๆ ว่าเป็น PEN Pro ข่าวนี้ขอให้ฟังไว้เฉยๆ ก่อน เพราะเพนเป็นกล้องไลฟ์สไตล์ หรือ gadget มากกว่ากล้องสำหรับช่างภาพ ต้องดูอีกยาวๆ ว่า โอลิมปัสจะเลือกขยับจากตลาดไลฟ์สไตล์ขึ้นไปจับตลาดนักถ่ายภาพ หรือว่าจะเปิดไลน์ใหม่ เป็นกล้องทรงแบน ที่มีช่องมองภาพในตัว สำหรับตลาดนักถ่ายภาพขึ้นมาแทน โดยส่วนตัวผมให้น้ำหนักอย่างหลังมากกว่า จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 21:03:21

ความคิดเห็นที่ 4 ผมว่าโอลิมปัสคงรู้ดีว่ากำลังทำอะไรอยู่ เทียบกับสมัย E-P1 ออก ตอนนั้นเหมือนโอลิมปัสจะงง จับทิศทางอะไรไม่ได้ จะหาซื้อของเล่นมาใส่กล้องดูยากเย็นเหลือเกิน แต่ในรุ่น 5 โอลิมปัสเตรียมพร้อมมาก รู้ดีกว่ากล้องไลฟสไตล์ จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ ของเล่นสวยๆ น่ารัก เยอะๆ โอลิมปัสเลยมีแจ็คเก็ตหุ้มฐานกล้องออกมา 4 สี มีกริ๊ป 3 ลาย (สำหรับ E-PL5) เข้าชุดกับฝาปิดเลนส์ 3 ลาย กับกระเป๋ากล้องดีไซน์แปลก สายสะพายกล้อง 7 แบบ สายคล้องข้อมือ 3 แบบ และยังใช้กริ๊ปของ E-PL3 ทั้ง 3 แบบได้ด้วย และยังใช้ของเล่นจากผู้ผลิตอิสระได้อีกเป็นร้อยๆ อย่าง ถ้าจะซื้อกันจริงๆ มีหมื่นหมดหมื่น มีแสนหมดแสนละครับ เทียบกับกล้องอื่นๆ แล้ว ตอนนี้ของเล่น กับเครื่องประดับของเพน ก็เลยจะมีเยอะที่สุด ทั้งของยี่ห้อ และของอิสระ นักถ่ายภาพเอง อาจจะมองเฉยๆ ไม่ได้สนใจกับของเล่นพวกนี้ แต่คนทั่วไปซื้อกันกระหน่ำ และของพวกนี้แหละ ทำกำไรให้ผู้ขายเป็นกอบเป็นกำ รวมทั้งเป็นการกระตุ้นยอดขายกล้องทางอ้อมอีกด้วย จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 21:03:41

ความคิดเห็นที่ 5 Olympus Image Share โอลิมปัสแสดงอย่างชัดเจนว่า เจาะตลาดผู้ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ เลยเตรียมเครื่องมืออำนวยความสะดวกในการแชร์ภาพมาให้ โดยที่ไม่ต้องดัดแปลงกล้อง แค่มี Wi-Fi SD Card กับแอพที่รองรับ ก็พร้อมที่จะแชร์ภาพได้ทันที O.I. Share เป็นแอพลิเคชั่นใน iOS ที่โอลิมปัสทำไว้รองรับการส่งข้อมูลไร้สายจากเพน มาที่ iPhone, iPod Touch และ iPad และพร้อมแชร์ไปยังโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ หรือจะใส่อาร์ตฟิลเตอร์ก็ได้ (ตอนนี้ก็หวังว่าแอพเวอร์ชั่นแอนดรอยด์จะออกมาเร็วๆ) ที่จริงมันก็มีแค่นี้แหละ แอพนี้จะทำงานร่วมกับ Toshiba FreshAir SD Card ที่เป็นตัวส่งภาพ ใส่ไว้ในกล้อง และขายแยกต่างหาก เดาใจโอลิมปัสว่า ช่วงแรกอาจจะมีโปรโมชั่นแถมการ์ดนี้ด้วยก็ได้ จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 21:04:19

ความคิดเห็นที่ 6 Body Cap Lens 15 mm f/8 โอลิมปัสไม่ได้จัดฝาปิดบอดี้ที่ถ่ายรูปได้ไว้ในแคตาล็อกเลนส์ แต่เอาไว้ในหมวดอุปกรณ์เสริม อันนี้เป็นของเล่นอันดับหนึ่งในงานนี้ที่ผมสนใจ อยากลองเล่นมั่ง ว่ามันจะให้ภาพเป็นยังไง ที่จริงมันคือเลนส์เดี่ยว 15 มม. ช่องรับแสง f/8 ตายตัว ที่ปลอมตัวมาในรูปฝาปิดบอดี้ ทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 30 มม. ในกล้อง 135 เป็นช่วงที่ใช้ง่ายสารพัดประโยชน์ เหมาะกับงานสแนปช็อตทั่วไป ไม่ต้องปรับโฟกัส ไม่ต้องปรับช่องรับแสง เพราะไม่มีให้ปรับ ยกขึ้นกดได้ทันที ชัดตั้งแต่ประมาณวานึงไปจนอินฟินิตี้ อยากถ่ายใกล้กว่านั้น จนมาใกล้สุดฟุตนึง ก็เลื่อนสวิชท์มาที่ถ่ายใกล้ ถ้าไม่่ถ่ายก็เลื่อนมาที่ปิดเลนส์ มันทำได้แค่นี้แหละ แต่มันทั้งบาง ทั้งเบา จนน่าแปลกใจ จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 21:06:03

ความคิดเห็นที่ 7 มาดูเลนส์มั่ง ผมดูเหมือนว่าโอลิมปัสจะแบ่งทางทำมาหากินกับพานาโซนิค ในขณะที่พานาเน้นทำเลนส์ซูมเกรดสูง โอลิมปัสจะเน้นทำเลนส์ทางยาวโฟกัสเดี่ยวเกรดสูงเสียมากกว่า ส่วนเลนส์เกรดสแตนดาร์ด ดูเหมือนว่าจะยั้งๆ มือกันแล้วทั้งคู่ เพราะที่มีอยู่มันก็เต็มตลาดไปหมดแล้ว ลองเปิดแคตาล็อกนับดู เลนส์ที่ขายอยู่ในปัจจุบันมี 30 รุ่นพอดี ยังไงมันต้องมีสักรุ่นที่เราใช้ได้แหละ เลนส์ใหม่ในรอบนี้ที่เปิดตัวมี 17 มม. f/1.8 ที่เป็นเลนส์ Prime ติดกล้อง สำหรับงานสแนปช็อต และสตรีท เรียกว่าเป็นเวอร์ชั่นไฮโซของแพนเค้ก 17 มม. f/2.8 ที่เคยออกมาก่อนหน้านี้ก็ได้ อันที่น่าสนใจจริงๆ คือ 60 มม. มาโคร f/2.8 ที่ใส่ชิ้นเลนส์พิเศษมาเพียบ มีสเกลบอกกำลังขยาย ระยะวัตถุ และสวิชท์เลือกระยะโฟกัส ที่น่าสนใจคือ เท่าที่ได้ลองและจากภาพตัวอย่างที่มีแล้ว เป็นเลนส์ที่ gradient ดีทีเดียว การเข้าสู่ไฮไลท์ กับแชโดว์ ไล่โทนได้นุ่มหลายระดับดี ฉากหลังก็นุ่มนวลดี บุคลิกภาพคล้ายๆ กับ ZD 50 มม. f/2 มาโคร เนียนๆ ดีเทลเยอะๆ คอนทราสท์ไม่จัด ไม่คมขาดบาดตา ผมไม่ใช่คอมาโคร พอเห็นสไตล์ภาพแล้ว คิดอยู่ว่าน่าเอาไปถ่ายบุคคลแฮะ ผมชอบฮู้ดอ้ะ เป็นฮูดสไลด์ ใส่แล้วหล่อขึ้นอีกหลายกิโล เสียดายที่ไม่ได้แถมมาด้วย ต้องซื้อเพิ่มต่างหาก แพงด้วยสิ จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 21:07:16

ความคิดเห็นที่ 8 เลนส์อื่นๆ ที่เปิดตัวไปนานแล้ว คือ 12 มม. f/2 ก็เพิ่มรุ่นสีดำออกมา ผมชอบเลนส์ตัวนี้มากตั้งแต่เวอร์ชั่นสีเงินแล้ว ผมว่าน่าเอาไปลองถ่ายเทสกับ 17 มม. f/1.8 ดูแฮะ ว่าจะออกมาเป็นยังไง เพราะเป็นเลนส์ไฮเกรดทั้งคู่ ทางยาวโฟกัสกับ การใช้งานใกล้เคียงกันมาก แต่ซื้อไม่ไหว แพงระยับจับจิตทั้งคู่ ใครซื้อมาแล้วผมขอยืมเล่นมั่ง จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 21:07:40

ความคิดเห็นที่ 9 อันที่เป็นไฮไลท์จริงๆ ของงานนี้ ผมยกให้ XZ-2 ครับ ทั้งงานมีกล้องเดียว แต่พอลองจับแล้วไม่อยากวางเลยจริงๆ จากหุ่นบางๆ ในรุ่นแรก กลับกลายเป็นสวยบึกบึน จับถนัดมือกว่า E-PM2 อีก ความหนากล้องพอๆ กับของเดิม แต่เพิ่มความหนาชองจอพับเข้ามาอีก ทำให้กล้องดูหนา และจับถนัดมาก ผิวสีดำกึ่งด้าน สวยกว่าในรูปเยอะ XZ-2 แก้ไขข้อบกพร่องของ XZ-1 ไปหลายอย่างเลย อย่างหนึ่งที่เราบ่นกันเรื่องโหมด P ที่วงแหวนหน้าปรับได้แต่ ISO อย่างเดียว ตอนนี้ก็สามารถใช้วงแหวนหน้าชิฟท์ค่าช่องรับแสงความไวชัตเตอร์ได้แล้ว วงแหวนรอบเลนส์ตอนนี้สามารถใช้ได้ทั้งปรับค่าแสง และปรับโฟกัส หรือปรับซูม โดยเพิ่มคานโยกสลับโหมดที่ด้านข้างเลนส์ขึ้นมา ทำให้เลือกปรับได้สะดวก และเร็วมาก และเวลาปรับโฟกัส ก็มีสเกลบอกระยะขึ้นมาให้เห็นบนหน้าจอ มีปุ่มฟังก์ชั่นบนแกนคาน ที่ตั้งให้สั่งการอะไรประหลาดพิสดารได้หลายอย่าง กริป ถอดเปลี่ยนได้ จอสัมผัสกดถ่ายภาพได้ โฟกัสได้เร็วมาก แม้ในที่แสงน้อย ตั้งในกล้องเลือกอัพโหลดภาพขึ้นเฟสบุ๊คได้ พอต่อกับคอมพิวเตอร์ภาพจะถูกอัพโหลดจากกล้องไปทันทีผ่าน Olympus Viewer 2 หรือต่อด้วย Eye-Fi หรือ FlashAir SD Card แล้วทำงานร่วมกับ O.I. Share ได้ จากเดิมที่ซอฟท์แวร์กล้องใกล้เคียงกับกล้องคอมแพ็กต์ ก็ปรับให้ใกล้เคียงกับ PEN มากขึ้นอีกหน่อย ลูกเล่นในการทำงานต่างๆ มันก็คือ PEN ฉบับย่อเซ็นเซอร์ลงมา และเปลี่ยนเลนส์ไม่ได้นี่เอง เซ็นเซอร์ ยังคงขนาด 1/1.7” เหมือนเดิม แต่เปลี่ยนเทคโนโลยีเป็น BSI-CMOS ของโซนี่ พร้อมตัวประมวลผลภาพ TruePic VI แบบเดียวกับ PEN ควบคุมกล้องด้วยปุ่ม 4 ทิศทาง หรือวงแหวนรอบปุ่ม บวกวงแหวนรอบเลนส์ บวกแป้นเลือกโหมด  และปุ่มโน่นนี่อีกเพียบ ทุกปุ่มสามารถตั้งค่าให้ทำงานอะไรก็ได้ตามสไตล์โอลิมปัส โดยรวมแล้วสามารถปรับค่าต่างๆ ได้เร็วกว่า E-PL5 เสียอีก ผมยังไม่ได้ดูไฟล์ละเอียด แต่เท่าที่เห็นคร่าวๆ ก็ออกมาดูดีทีเดียว เป็นกล้องที่น่าประทับใจที่สุดในงานนี้เลย จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 21:08:02

ความคิดเห็นที่ 10 ประกาศลิขสิทธิ์ บทความนี้มีลิขสิทธิ์ แต่อนุญาตให้ใช้งานได้ตามสัญญาอนุญาต Creative Commons: Atrribution Disclaimer - ประกาศปฏิเสธความรับผิดชอบ ผู้เขียนได้้รับเชิญเข้าร่วมการแถลงข่าวจากบริษัท โอลิมปัส (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะสื่อมวลชน เป็นตัวแทนจากเว็บไซต์ autofourthirds และผู้ดูแลเฟสบุ๊คเพจ OLYMPUS Club Thailand ทั้งนี้ไม่ได้เรียก หรือรับผลประโยชน์ตอบแทนใดจากโอลิมปัส ทางตรง หรือทางอ้อม แต่ผู้เขียนบทความ มีผู้สนิทสนมคุ้นเคยที่ทำงานในโอลิมปัสไทย เมื่อทราบแล้ว ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ ระมัดระวังความไม่เป็นกลางในบทความด้วยตัวเอง นะจ๊ะ นะจ๊ะ แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 55 22:16:13 จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 21:08:58

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ จากคุณ : MUCAS - แรด (Hidden Rhino) เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 21:22:03

ความคิดเห็นที่ 12 5 5 5 เข้ามาอ่านอย่างเดียว ให้ give ไม่ได้ ( หมดไปมะวาน ) เห็นด้วยเลยครับ XZ-2 มัน... งามจริงๆ... โลกที่น่าอยู่... สังคมที่ดี...   ไม่มีขาย อยากได้...   ต้องช่วยกันสร้าง โดยเริ่มจาก...   ตัวเราเอง...   เดี๋ยวนี้... จากคุณ : Phoenixนิลมังกร เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 21:23:23

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณมาก ๆครับน้านิค ฝาปิดบอดี้ถ่ายภาพได้มันโดนจริง ๆ จากคุณ : raksapondet เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 21:38:12

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับน้านิก (^__^) จากคุณ : - nutsadini เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 21:39:45

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณ .. จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 21:43:32

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณมากค่า อ่านแล้วน้ำลายหก art filer แจ่มมาก อยากได้ สายคล้องกับกระเป๋าก็สวย แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 55 21:48:57 จากคุณ : animE' เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 21:48:21

ความคิดเห็นที่ 17 ZX2 มันแจ่มมว๊ากกก จากคุณ : biosteam เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 21:56:02

ความคิดเห็นที่ 18 ออกมาบ่อย เหมือนเพิ่งเคยรู้สึกว่าอยากได้ pen 2 อยู่ไม่กี่เดือนเอง แต่ของเก่าก็มียังถ่ายให้ดีไม่ได้ เลยไม่ซื้อดีกว่า จากคุณ : Biocalm เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 21:58:44

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณครับ จากคุณ : เพียงแค่ดินโคลน เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 22:00:43

ความคิดเห็นที่ 20 ฝาปิด body 15 mm ราคาโดยประมาณ คาดว่าบ้านเราจะตั้งราคาเท่าไหร่เหรอครับ จากคุณ : j เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 22:16:55 A:171.6.243.39 X: TicketID:268645

ความคิดเห็นที่ 21 ราคา PEN ผมว่าแพงไปหน่อย ถ้าจะซื้อผมจะรอโปรโมชั่น อย่างน้อยต้องแถม FlashAir card ถึงจะน่าซื้อ XZ-2 สองหมื่น อันนี้แพงไม่หน่อย แพงเยอะเลย คิดไปคิดมาถ้าใช้เหตุผลกันแล้ว ผมว่าเอา PEN 3 จะดีกว่า แต่ถ้าได้จับตัวจริงละก็ ผมเชื่อว่าถ้าเงินถึง XZ-2 มันจะตามกลับบ้านมาด้วยแน่ กล้องมันเสน่ห์เกินห้ามใจจริงๆ ฝาปิดกล้องถ่ายรูปได้ ราคาเมืองนอก 79 เหรียญ ราคาเมืองไทยยังไม่ประกาศครับ น่าจะแถว 2 พันปลายๆ เดาว่าน่าจะ 2,600-2,800 ประมาณนั้น จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 22:47:28

ความคิดเห็นที่ 22 ชอบหน้าตา XZ-2 แต่ชอบจอพับได้ กับเปลี่ยนเลนส์ได้ของ EPL-5 เห้อ กลุ้ม จากคุณ : ลังเล เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 23:19:57 A:171.7.63.235 X: TicketID:375961

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณมากครับ ผมก็เล็ง E-PM2 กับ E-PL5 อยู่ ไปๆ มาๆ อาจจบที่ XZ-2 เพราะมันหล่อมาก จากคุณ : puritat_jam เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 00:08:01

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณครับ จากคุณ : พุงพลุ้ย เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 00:41:07

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณครับ XZ-2 ท่าจะแจ่ม แต่ผมสะดุ้งราคาเห็นใน Amazon อยู๋ 599 US  แพงกว่า Fuji XF1 ตั้ง 100 US แน่ะ ว่าแต่เจ้า XZ-2 มันไม่มีสีขาวเหรอครับ จากคุณ : แมวละเมอ เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 00:47:31

ความคิดเห็นที่ 26 ทีแรกก็งง ว่าทำไม ไม่มี E-P5 แล้วใยไม่เรียก E-PL5 เป็น E-P5 ไปเลย ไหน ๆ ขนาดก็ไม่ lite และหน้าตาก็คล้าย Pen ยิ่งกว่า lite ตัวก่อน ๆ ดูแล้วมันก็ Pen ชัด ๆ มากกว่าจะ เพ็ญไลท์ แต่น้าอะธีลาส เกริ่นถึง Pen Pro แล้วชักอยากจะรู้ไม้เด็ดแล้ว ว่ายัดอะไรเข้ามา ที่ทำให้มันเป็น Pen ไม่ lite5 ได้ โอลิมปัส ชอบมีหมัดเด็ดออกมาเซอร์ไพรส์วงการกล้องได้ตลอดเวลา ตั้งแต่ระบบทำความสะอาดเซนเซอร์เอง, ระบบ Live View ใน E330, DSLR ที่เล็กที่สุดในตลาด ณ เวลานั้นคือ E-4xx พร้อมแพนเค้ก, mirrorless E-P1, OMD แต่ละอย่างเป็นที่ฮือฮาจริง ๆ จากคุณ : j เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 00:55:25 A:171.6.243.39 X: TicketID:268645

ความคิดเห็นที่ 27 Idea ฝาปิดกล้องที่เจ๋งมากๆฮะ ปล. ขอบคุณสำหรับบทความดีๆด้วยครับ จากคุณ : Muyan เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 01:29:49

ความคิดเห็นที่ 28 โอ้!น่าสนใจทั้งนั้นเลย ทำใจแข็งรอE-7ต่อไป ^^ จากคุณ : Wink77 เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 01:49:30

ความคิดเห็นที่ 29 อ่านข้อ 10 อย่างเดียคร๊าบบบบบ....5555 จากคุณ : Supermop เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 05:47:07

ความคิดเห็นที่ 30 ผมได้สัมภาษณ์ผู้บริหารหน่อยนึง ว่าโอลิมปัสเน้นไปที่กล้องไลฟสไตล์ แล้วจะตอบสนองความต้องการของกลุ่มช่างภาพมืออาชีพที่ใช้ DSLR FourThirds อย่างไร ถอดรหัสจากคำตอบ พอจะตีความได้ว่าโอลิมปัสไม่ได้มีแผนอะไรเลยในเรื่องนี้ ถ้าดูจากยอดขายแล้วโอลิมปัสเป็น market leader ในตลาดกล้องไร้กระจกอยู่ ในไทยโอลิมปัสมีส่วนแบ่งการตลาดในกล้องกลุ่มนี้อยู่ 35-40% แซงโซนี่ กับพานาฯไปแล้ว ตลาดกล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ในไทยเป็นกล้องไร้กระจกซะ 25% และกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เร็วมาก จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 06:25:09

ความคิดเห็นที่ 31 ผมเล่น Canon / Nikon มาทั้งชีวิต อยู่ๆ กระโดดมาหา OM-D ได้ไงก็ไม่ทราบครับ ตอนนี้ขาด 12mm f/2 อยู่ตัวเดียวเอง ใช้แล้วชอบมากๆครับ จากคุณ : The Hidden Dimension เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 07:40:12

ความคิดเห็นที่ 32 รอ ep5 ที่มี evf ในตัวโลด จากคุณ : นายอ้น เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 08:00:09

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ อ่านเพลินเลย ผมมาจับ olympus ครั้งแรกแรกก็เพราะ OM-D นี่ล่ะ ตอนนี้อยากได้ 12mm สีดำจัง จากคุณ : PSno7 เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 08:19:50

ความคิดเห็นที่ 34 ถ้ารู้ว่าเขาจะถามหากล้องโอลิมปัส จะให้น้านิคยืม E-1 ตัวเก่าแก่ของผมพกไปด้วย เธอนอนอยู่ในตู้เป็นปีแล้ว สภาพเหมือนวันที่ซื้อมาเลย จากคุณ : ha ha yee เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 08:43:58

ความคิดเห็นที่ 35 วันนั้นผมฟังน้านิคพูดถึงยอดเป้าของ OLYMPUS THAILAND ผมยังตะลึงเลยว่า เอาจริงเหรอเนี้ย 55 ขอบคุณสำหรับบทความนะครับ ผมรอ 17mm F1.8 อยู่ครับ ถ้าออกมาแล้วดี ได้เวลาเก็บเงินสอยเลยละครับ จากคุณ : ballny เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 08:56:18

ความคิดเห็นที่ 36 ไม่รอแล้วครับ ใช้ OMD ต่อไป   ตอนนี้ รอราคาลงอย่างเดียวเลย  555 จากคุณ : tamrong เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 09:29:57

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณมากค่ะ อ่านแล้ว อยากได้ อยากได้ จากคุณ : libra-cat เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 09:34:38

ความคิดเห็นที่ 38 อยากรู้อีกอย่าง ว่าของลงร้านค้าเมื่อใหร่อ่ะครับน้านิค มีใครถามมั่งมั้ย แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 55 09:40:06 จากคุณ : tamrong เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 09:39:55

ความคิดเห็นที่ 39 ผมก็อยากรู้ว่า ฝาปิดกล้อง 15mm f8 มันจะขายเมื่อไหร่ จากคุณ : นมช็อคโกแล็ต เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 11:36:26

ความคิดเห็นที่ 40 วันขายเค้าก็บอกนะ แต่ผมไม่ได้สนใจเท่าไหร่ เพราะคิดว่าคงไม่ซื้อแน่ๆ เลยไม่ได้จดไว้ คือพอได้จับตัวจริง PEN รุ่นนี้แล้ว first touch ผมไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ ไม่เหมือนตอนจับ PEN รุ่นแรกๆ E-M5 หรือ XZ-2 ที่ทำเอาหลงรักทันที คุ้นๆ ว่าทั้งหมดนี่จะขายภายในเดือนนี้แหละครับ น่าจะปลายๆ เดือน จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 12:05:50

ความคิดเห็นที่ 41 Toshiba FlashAir นี่มันใช้กับ om-d ได้รึเปล่าครับนี่ น่าสนใจ จากคุณ : exam เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 15:17:52

ความคิดเห็นที่ 42 SD ส่งรูปผ่าน Wi-Fi แบบ คห. 5 ผมใช้ของ Eye-Fi อยู่ มันกินแบตมากมายครับ หวังว่า Toshiba จะทำฮาร์ดแวร์ให้ใช้พลังงานน้อยกว่า Eye-Fi ไม่งั้นต่อให้ใช้แบตกล้อง DSLR ของโอลิมปัสก็เอาไม่อยู่ แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 55 15:41:09 จากคุณ : durian to go เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 15:40:30

ความคิดเห็นที่ 43 PEN CLUB Olympus Thailand เรียนทุกท่านคะ ทางบริษัท Olympus จะเริ่มขาย PEN E-PL5, E-PM2 และ Body Cap Lens ตั้งแต่ วันที่ 11 ต.ค นี้เป็นต้นไปคะ จาก Facebook ครับ เก็บเงินทันไม่เนี้ย มะรืนนี้เอง เหอๆ ปล.รูปใหญ่ไปนิดครับ ลืมย่อเอามาจากเฟสครับ  ขออภัย แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 55 16:52:53 จากคุณ : ballny เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 16:49:09

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณมากครับ งั้นไม่รอ E แล้วตัดใจได้ซะที่ D7000 จ๋ารอหน่อยนะ แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 55 20:29:19 จากคุณ : srich เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 20:28:43

ความคิดเห็นที่ 45 12 f2 มีสีดำแล้ว 45 กับ 75 น่าจะทำสีดำบ้าง ผมใช้ omd สีดำ รู้สึกว่ามันไม่เข้า ยังไงไม่รู้ -*- จากคุณ : Mr.Thaimufc เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 21:04:33

ความคิดเห็นที่ 46 อ่า... ได้เวลาเปลี่ยนจาก XZ-1 ไปเป็น XZ-2 แล้วเหรอเนี่ย... จากคุณ : หนุ่มเมืองน่าน เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 23:44:30

ความคิดเห็นที่ 47 ของญี่ปุ่นรู้สึกว่าmirrorlessจะมีส่วนแบ่งเกือบ50%แล้ว เป็นเหตุผลว่าทำไมcanonและnikonถึงต้องทำmirrorlessออกมาขาย เพราะถ้าตามกระแสไม่ทันอาจเสียความเป็นผู้นำก็ได้ในอนาคต จากคุณ : I am เตียบ่อกี้ เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 00:02:09

ความคิดเห็นที่ 48 o.i. share นี่ใช้กับรุ่นอะไรได้มั่งครับ ถ้าจะใช้กับกล้องรุ่นก่อนๆ อย่าง E-PM1 ได้รึเปล่า? จากคุณ : กาลามังป๊องแป๊ง เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 01:28:39

ความคิดเห็นที่ 49 น้าครับ อยากทราบว่าเวลาแชร์ไปหาตัว device อื่น มันจะต้องย่อ resolution ลงหรือเปล่า หรือจะแชร์เต็มไปที่ 16MP เลย จากคุณ : MondayCool เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 02:02:06

ความคิดเห็นที่ 50 ตะลึงตึงๆแบบช็อคโลก 15mm f/8 เมืองนอกขาย $79 แต่เมืองไทยดันตั้งราคาเข้าไปได้ยังไงก็ไม่รู้ . . . . . . . . . . .. . 1,990 บาท เหลือเชื่อ .. จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 07:55:48

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณครับ จากคุณ : Boem เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 08:30:52 A:223.206.113.25 X: TicketID:344606

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณครับ ใช้มาทั้ง Nikon, Canon, Fuji, Sony อนาคตอาจได้จับ Olympus บ้าง แต่ดูแล้ว ยังสนใจ OM-D จากคุณ : jerry-t เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 55 15:28:48

ความคิดเห็นที่ 53 คิดเหมือนน้าแมว 1,990 บาทนี่ ทำให้ผมนึกถึงสุดยอด body cap ของ canon แพงๆ ที่เกือบ 2 ปีก่อนมีคลิป youtube ออกมาโชว์กระบวนการผลิตอันน่าเหลือเชื่อของฝาปิดกล้อง กับราคาที่น่าเหลือเชื่อพอๆ กัน เจอ body cap ถ่ายรูปได้ราคานี้ของ oly ไทยเข้าไป ถึงกับงง ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่เทียบกับการตั้งราคาที่ผ่านๆ มาแล้ว มันน่าแปลกจริงๆ ไม่รู้หรอกว่ามีเลนส์ดีๆ หลายตัวแล้ว จะเอาไอ้เจ้านี่มาไว้ทำอะไร แต่มันก็น่ามีเก็บไว้มากๆ ๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 11 ต.ค. 55 18:56:51 จากคุณ : ถอยหลังไปข้างหน้า เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 55 18:56:06

ความคิดเห็นที่ 54 มีเรื่องอยากเตือนคนที่จะซื้อ EPL5 ครับ วันนี้กำลังจะซื้อแล้วเขียนใบรับประกันแล้ว(ตัวสีขาว) แต่เคยมีประสบการณ์ไม่ดีตอนซื้อ EPL3 มีปัญหาที่ back up แบตเตอรี่เสื่อมทั้งทั้งที่เพิ่งผลิตมาไม่นาน คือพอถอดแบตแล้ว ต้องตั้งค่ากล้องใหม่ทุกครั้ง เลยลองตั้งค่าในกล้องแล้วถอดแบตออก อาการเดียวกันเลย แต่ลองตัวโชว์สีดำไม่เป็น เลยยกเลิกไป ให้ร้านไปหาตัวที่ไม่มีปัญหามาก่อน ไม่แน่ใจว่าดวงผมไมาดีเจอแบต back up เสื่อมทั้งสองครั้ง หรือ QC ของโอลี่มันเจ๋งขั้นเทพก็ไม่รู้นะครับ จากคุณ : Rockman เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 55 22:17:10 A:180.183.11.18 X: TicketID:353287

ความคิดเห็นที่ 55 วันนี้ถามไปที่ร้านกล้องใหญ่ใหม่ว่ามีสีขาวที่ไม่มีปัญหาถอดแบตออกแล้วต้องกลับมาตั้งค่าใหม่ทุกครั้งไหม ได้คำตอบว่าล็อตนี้เป็นทุกตัว แต่แก้ไขโดยการไป up firmware ที่ศูนย์ได้ ส่วนตัวผมไม่คิดว่าเป็นที่ firmware นะครับ เพราะสีดำไม่มีปัญหานี้ คิดว่า back up แบตเสื่อมมากกว่า อีกอย่างที่ว่าเป็นทั้งล็อตนี่ผมก็ไม่แน่ใจว่าเขาได้ test หลายๆตัวจริงหรือเปล่านะครับ จากคุณ : Rockman เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 55 22:09:02 A:183.89.88.171 X: TicketID:353287

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ : ) จากคุณ : PedGab เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 10:35:26

ความคิดเห็นที่ 57 เข้าใจว่า back up แบตเสื่อมครับ หรือบางทีก็ไม่ได้เสื่อม แต่ไม่มีไฟ อาจจะต้องใส่แบตทิ้งไว้สักวันสองวันให้มันชาร์จแบ๊คอัพให้เต็มก่อน ซึ่งถ้ามันไม่มีไฟมานาน มันอาจจะชาร์จไม่เข้า แต่ปกติแล้วอาการนี้เคลมได้นะครับ เป็นข้อบกพร่องจากการผลิต จากคุณ : อะธีลาส เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 55 10:52:09