|
เลนส์เก่าเราลืม #38 Wollensak cine Raptar 25mm F1.9 หัวแถวของตระกูล Raptar
|
|
เมื่อครั้งที่แล้วผมเอา Wollensak cine Vilostigmat 25mm F1.5 อายุแปดสิบปีมารีวิวแล้วมีหลังไมค์มาถามเรื่อง Cine Raptar ว่าที่ Wollensak โฆษณาว่า Better lenses is labelled "Velostigmat", and the best lenses is labelled "Raptar". นี่มันจริงไหม
ผมยืนยันนอนยันได้เลยว่า "จริง" และ "ไม่จริง" คือมันไม่ได้ดีกว่าทุกรุ่น แต่บางรุ่นต้องยอมรับว่ามันดีกว่าแบบเห็นได้ชัดเจน สำหรับคนบ้า F จะมองว่าตัว 25/1.5 น่าจะดีกว่าตัว 25/1.9 แต่มันไม่ใช่เลยแม้แต่น้อย เรื่องนี้ต้องเล่ากันยาวไปถึงเมื่อปี 1945 ปีที่สงครามโลกจบยุโรปเต็มไปด้วยซากอิฐ อเมริกาก็เริ่มผลิตทุกสิ่งที่โลกต้องการแทนยุโรปในเวลานั้นรวมถึงเลนส์กล้องถ่ายภาพยนต์ด้วย ตอนนั้นโรงานของ Cooke Kinic กลายเป็นซากจากระเบิดของนายพลเกอร์ริ่งส่งไปถล่มอังกฤษในสงครามบริเทน โรงงานของ Scheider ก็กลายเป็นกองอิฐจากระเบิดของเครื่อง B-29 Superfortress ที่ถวายนิ่มๆลงกลางโรงงาน ดังนั้นเลนส์ Cine ในตลาดโลกเหลือเจ้าใหญ่ อยู่ไม่มากนัก สวิส ฝรั่งเศส อเมริกา เลยถูกหวยไปหลายปี กล้อง Bolex ขายดีก็ตอนนี้แหละครับ
เวลานั้น ในปี 1945 หรือเมื่อเจ็ดสิบปีก่อน Wollensak ได้ทำแคมเป็ญออกมากับเลนส์ Cine ตัวใหม่ว่าเลนส์ดีต้อง Velostigmat แต่เลนส์ยอดเยี่ยมต้อง Raptar และออกเลนส์ตระกูลใหม่คือ Wollensak cine Raptar ออกมาขายอีกราคาหนึ่งอัพเกรดจาก Cine Velostigmat ที่ขายมาหลายสิบปี พร้อมกับเปลี่ยนโลโก้ใหม่ทั้งสองรุ่น แต่สิ่งที่ Cine Raptar แก้ไม่ได้คือมันฟุ้งเมื่อแสงมากที่ 1.5 และดันฟุ้งมากกว่า Cine Velostigmat พี่สาวคนโตเสียอีกจากการที่ไปเลื่อนระบบใส้ในให้ภาพมันออกมาแนว Cooke Kinic และ Angenieux เลนส์ที่ขายดีกว่าในเวลานั้นแม้แต่ฮอลีวูตยังต้องเอาเลนส์ยุโรปมาใช้ในบางซีนที่เลนส์อเมริกันเองให้ภาพหลังนุ่มแบบนั้นไม่ได้ โดยคิดว่ามันจะเป็นทางเลือกราคาถูกกว่าดีกว่า แต่ว่ามันเป็นเพียงฝันเปียกที่เลนส์อเมริกันขึ้นไปเทียบชั้นเลนส์ยุโรปแท้ๆรุ่นก่อนสงครามไม่ได้
ดังนั้นหลังจาก Cine Raptar ออกมาขายได้ไม่นานเลนส์ตัว 25/1.5 ขายไม่ดีเพราะคนแห่กันมาซื้อตัว 25/1.9 ใช้แทน สำหรับตัว 1.5 คนยังซื้อรุ่น Cine Velostigmat ไปใช้อยุ่เพราะมันราคาไม่แรงแถมยังดีกว่ารุ่นใหม่ ตรงที่ว่าพี่สาวมันฟุ้งระดับ3 แต่ยัยน้องสาวดันฟุ้งระดับ 5 และอีกอย่างหนึ่งคือ การที่ Wollensak ดีซายด์ใส้เลนส์รุ่น Raptar ใหม่เพื่อให้ภาพออกแนวยุโรปเพื่อจับตลาดที่ตัวเองหวังไว้หลังสงครามโลก การลด Immage ciricle เพื่อให้ภาพมันย้วยนิดๆในแนวแบบเลนส์ยุโรปมันส่งผลให้เลนส์ Raptar ไม่ดีทุกรุ่นเหมือนราคาคุยเอาไว้ แพงกว่าแต่ห่วยกว่าดังนั้น Velostigmat พี่สาวที่ขายมาหลายสิบปีก็ยังขายได้ดี แถมยังขายดีกว่าในรุ่นที่วิ่งระยะโฟกัสระดับ wide-normal เสียอีก
ดังนั้นในตลาดจะเห็นมีแต่รุ่น Raptar 25/1.9 ออกมาให้เห็นเยอะมากนานๆจะเห็น 1.5 หลุดลงตลาดมาสักตัว แถมยังโก่งราคาระดับสภาพผีขนุนแต่เอาค่าตัวเกินหมื่นเพราะความหายาก เนื่องจากที่ผมเล่าให้ฟังนั่นแหละว่าที่มันหายากเพราะคนไม่ซื้อกันเพราะผลิตน้อย แต่คนหันมาซื้อ 1.9 แทนในราคาถูกกว่า เพราะว่ามันใช้จริงที่ 1.5 ในที่แสงมากได้เสียที่ไหนกัน เสียเงินแพงกว่าแต่ไม่ได้ใช้ที่ F1.5 ตามเงินที่จ่าย หันไปเล่นตัวที่ใช้ได้จริงๆเป็น 1.5 ในรุ่น Velostigmat พี่สาวดีกว่า
เรามาลองดูกันว่าลูกสาวคนสวยที่สุดในตระกูล Raptar จะให้ภาพอย่างที่ผมบอกหรือไม่ กล้องที่ใช้ยังเป็น GH1 อยุ่เหมือนเดิม เนื่องจากฝนมันถล่มหัวทุกวันผมเลยเอารูปแบบง่ายๆ แบบว่าอยู่ที่ไหนใกล้กล้องก็กดเอารูปมาให้ดูกันตามสภาพแสงหลายๆแบบ รูปยังคงไม่มีการแต่งเติม ได้มาแบบไหนก็เพียงแต่ย่อแล้ว USM ถือว่าจบเท่านั้น
จากคุณ |
:
คนธนฯ
|
เขียนเมื่อ |
:
20 พ.ย. 55 21:22:58
|
|
|
| |