ความคิดเห็นที่ 1 โทรไปถามมาหลายทีแล้ว ที่ร้านให้ตัดฟิวเตอร์ไปให้ด้วย ขอบคุณครับ จากคุณ : thisis_chan เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 21:57:23

ความคิดเห็นที่ 2 เอากล้อง mirrorless มาทำดีกว่า "ดีกว่า" นี่ ขอบอกว่า .. ดีกว่าหลายๆอย่างเชียวครับ แค่เรื่องหมดปัญหา B/F เนี่ย ก็ดีกว่ามากมายแล้ว กล้อง dSLR แปลง IR .. ปัญหา B/F มันหนักกว่ากล้องที่ไม่ได้แปลงมากมาย แถมถ้าเกิดปัญหานี้ จะแก้ไขไม่ได้ด้วย จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 55 23:49:51

ความคิดเห็นที่ 3 ตัวขนาดของ IR pass filter .. ไม่ใช่เท่ากับขนาด sensor ครับ ขนาดจะเท่าไหร่ .. ขึ้นกับรุ่นกล้อง มิติของ IR pass ไม่ใช่มีแค่กว้าง x ยาว แต่มี "ความหนา" ด้วย ถ้าเป็นพวก mirrorless .. ความหนาไม่ค่อยสำคัญ แต่ถ้าเป็น dSLR เนี่ย .. จะทำให้ตำแหน่งโฟกัสเพี้ยนได้ง่ายๆ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 00:01:22

ความคิดเห็นที่ 4 หา filter ได้แล้ว ต้องเอาเลนส์ *ที่ใช้บ่อยสุด* ไปให้ด้วย และต้องทำใจไว้ด้วยว่า การปรับ B/F .. เชื่อถือได้สุดก็กับเลนส์ตัวนี้เท่านั้น เอา 400D ที่เรามี ขายไป แล้วเพิ่มเงิน ซื้อจาก ebay หรือ .. ประกาศหาซื้อกล้องที่เขาทำสำเร็จรูปดีกว่า จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 00:32:47

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณครับ เด๋วลองดูอีกที จากคุณ : thisis_chan เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 01:07:46

ความคิดเห็นที่ 6 อยากทราบว่าไปติดต่อ ff สาขาไหน เนี่ยที่บอกให้ตัด ฟิวเตอร์ไปเองเนี่ย ลองหากล้องที่เค้าทำสำเร็จมาใช้จะดีดว่านะครับ ลองไปหาตัว 350dมาใช้ น่าจะดีกว่า จากคุณ : diguall เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 02:21:50

ความคิดเห็นที่ 7 ...โม IR แล้วยัง autofocus ผ่าน phase detect ได้หรือครับ? มันต้องใช้ contrast detect อย่างเดียวนิ เพราะแสงคนละช่วง หักเหไม่เท่ากัน จุดโฟกัสไม่เหมือนกัน จากคุณ : SRJ mk V เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 02:51:25

ความคิดเห็นที่ 8 โอววว....ได้ความรู้จากน้าแมวฯ เพิ่มเติม...ขอบคุณมากครับน้า...กีฟหมดซะแล้ว จากคุณ : Supermop เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 07:04:21

ความคิดเห็นที่ 9 มีวิธีง่ายกว่านี้.... ไปยืมน้าแมวฯเลย.... จากคุณ : LVP@HEART เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 08:07:31

ความคิดเห็นที่ 10 น้า diguall .. ติดต่อสาขาไหน ก็จะได้คำตอบนี้ครับ IR filter ขาดตลาด .. และสั่งมาสต็อกไว้ก็ไม่คุ้ม .. ปีนึงมีคนซื้อไม่ถึง 10 แผ่นเลยมั้ง ฉะนั้น คนที่อยากได้กล้อง IR ต้องหาฟิลเตอร์มาให้เขาตัด (หรือเอาที่ตัดมาเรียบร้อยแล้วก็ได้) ---------------------------------------- ปัญหาของกล้อง dSLR รุ่นใหม่ๆ คือ IR block filter มันฝังรวมอยู่กับ AA filter แถมบางเฉียบ การเอาฟิลเตอร์แผ่นมาตัด .. ไม่ค่อยได้ผลนัก เพราะตัวแผ่นฟิลเตอร์มันหนา ทำให้ระยะ [ท้ายเลนส์ ->  AF sensor] เพี้ยนจาก [ท้ายเลนส์ -> image sensor] มากขึ้น เซนเซอร์ขนาด 22mm x 15mm ฟิลเตอร์ 52mm ตัดทำ IR pass ได้อย่างมากก็แค่ 2 แผ่น .. แต่ต้องฝีมือดีจริงๆ พลาดขึ้นมาก็เสียทั้งสองแผ่น ถ้าจะให้ปลอดภัยก็คือหาฟิลเตอร์ 49mm มาตัดทำ IR pass แผ่นเดียว ฟิลเตอร์ดีๆหน่อย อย่างของ Hoya .. ราคาไม่ใช่ถูก ก็ต้องเสี่ยงเอาหละ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 09:09:00

ความคิดเห็นที่ 11 55 น้าเล้งพูดถูก จากคุณ : Jedcon เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 13:54:57

ความคิดเห็นที่ 12 ขออนุญาตเสนอ 2 แนวทางครับ 1  น้าลองไปหาโหลด Picture Style IR มาใส่กล้องครับ 400D ผมหาโหลด IR มาเล่นเหมือนกัน (ตามภาพครับ) 2 มีวิธี DIY หรือ โม แบบบ้าน ๆ ครับ เพราะราคาถูกมาก ใช้ฟิล์มสไลด์ Kodak E100S ขนาด 120 เพราะใหญ่ดี (ซื้อมาแล้วให้ร้านล้างให้เลย ราคาล้าง 40 บาท + ค่าฟิล์มสไลด์ 120 บาท = 160 บาท แค่นี้เราก็ได้ฟิลล์เตอร์ IR ไว้ใช้ครับ (ตอนล้างฟิล์มอย่าให้รอยนิ้วมือโดนนะครับ) ตอนใช้งานก็เอามาสวมแทนฟิลเตอร์ได้เลย แต่อย่าลืมถอดกระจก UV ออกก่อนนะครับ แถมเกร็ดความรู้ครับ >> ฟิลเตอร์อินฟราเรดที่นิยมในบ้านเราก็จะมี Hoya R72 ครับผม จากคุณ : nasongfoto เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 55 17:04:24

ความคิดเห็นที่ 13 แถม nasongfoto ตาคนเรา มองเห็นแสงที่มีความยาวคลื่น 400 (ม่วง) - 700 (แดง) nm ต่ำกว่า 400 คือเหนือม่วง (ultraviolet) สูงกว่า 700 คือ ใต้แดง (infrared) บางคนอาจเห็นถึง 380nM หรือ 720nM .. แต่น้อยมากๆๆๆๆ ฟิลเตอร์ตัดแสง IR .. บอกความยาวคลื่นที่แสงลดความเข้มลง 50% (1 stop) อย่างเช่น 720nM นั้น .. แสงความยาวคลื่น 720nM ความเข้มลดลง 1 stop แสงความยาวคลื่นยิ่งสั้นกว่าจุดตัดนี้  ความสว่างยิ่งลดลงมาก ฟิลเตอร์จากจีน .. ประสิทธิภาพค่อนข้างต่ำ IR 720 nM ลดแสง 720nM ลง 1 stop ได้ก็จริง แสง 680nM (แดงเข้ม) อาจลดลงแค่ 2 stop กว่าจะลดลง 6 stop (เหลือ 1%) .. อาจลงไปถึง 450 nM (เขียวน้ำเงิน) ด้วยซ้ำ!! IR 720nM ดีๆหน่อย อย่างเช่น Hoya R72 .. ตัดเร็วกว่านั้น IR 720 nM ลดแสง 720nM ลง 1 stop เท่าของจีน แต่พอเป็น 680nM (แดงเข้ม) ลดลงไปถึง 3-4 stop และลดลง 6 stop (เหลือ 1%) .. ที่ 550nM แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 55 14:15:59 จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 14:04:00

ความคิดเห็นที่ 14 เราจะถ่ายภาพด้วยแสง IR แต่ดันมี แสงที่มองเห็นได้ (visible, VIS) เข้ามาด้วย เขาเรียกว่า  "แสงปนเปื้อน" (bleedthrough) แสงปนเปื้อน มีปัญหาแน่ เพราะในการ "ล้างภาพ" ที่ถ่าย เราต้องทำการสลับสี (channel mixing) ------------ เป็นที่รู้ทั่วไปว่า sensor กล้องทั่วๆไป ให้ภาพออกมา 3 สี คือ R (600nM), G(500nM) และ B (450nM) ภาพที่เกิดขึ้น ก็เกิดจากการผสมกันของสีสามสีนี้ ฟิลเตอร์ที่มีหน้า sensor ก็เพื่อรับประกันว่า มีแสงแค่ 3 สีนี้ ผ่านไปชนเซนเซอร์ได้ แต่พอเราเอาฟิลเตอร์นี้ออก .. แสง IR เข้าไปได้เต็มๆ IR ที่ผ่านเข้าไป มันมี 2 อย่างคือ 1. IR ที่คลื่นยาวนิดนึง ช่วง 740-800nM .. ขอเรียกว่า far IR แล้วกัน 2. IR ที่คลื่นสั้น 700-740nM .. ขอเรียกว่า near IR สรุปคือ มีแสงห้าสี (FIR, NIR, R, G, B) .. จะสร้างภาพได้อย่างไร??? ---------------- IR PASS filter จะให้แสง FIR, NIR, R ผ่านได้ ตัดแสง G และ B ออกไป แสง NIR มันทะลุฟิลเตอร์สร้างสีหน้าเซนเซอร์ดีมาก มันจะทำให้เกิดสัญญาณภาพทั้งใน R, G และ B pixel ถ้าเป็นไปตามที่เราต้องการ แสงสีน้ำเงินไม่มี *** สัญญาณที่ออกมาจาก pixel สีน้ำเงิน .. เกิดจากแสง IR *** และสัญญาณที่ออกจาก pixel สีแดง เกิดจากแสงสีแดง + แสง IR ทำให้เราสามารถ "โยก" (channel swapping) เอาสัญญาณที่ออกมาจากสีน้ำเงิน (IR) ไปเป็นภาพสีแดง (R) เอาสัญญาณที่ออกมาจากสีแดง (R + IR) ไปเป็นภาพสีน้ำเงิน (B) ภาพสีน้ำเงิน = สีแดง  + IR ภาพสีแดง  = IR แต่ถ้าปล่อยให้แสงสีน้ำเงิน เข้าไปชน pixel สีน้ำเงิน เท่ากับสัญญาณที่เกิดจาก pixel สีน้ำเงิน เกิดจากแสงสีน้ำเงิน + แสง IR เมื่อทำการโยก ภาพสีน้ำเงิน = สีแดง + IR ภาพสีแดง  = สีน้ำเงิน  + IR จะเห็นว่ามี IR ปนอยู่ทั้งคู่ ภาพจะออกมา "เละ" จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 55 14:25:01