ความคิดเห็นที่ 1 เห่อ เป็นแบบนี้ทุกทีเลย เวลามีการตอบเรื่องวัดแสงหลาย ๆ กระทู้ ก็จะมีกระทู้ติด ๆ กันมาถามแล้วตอบ อื้ม เดี๋ยวทานข้าวเที่ยงเสร็จจะมาแจม เล่านิทานให้ฟัง 1 เรื่อง แต่ตอนนี้หิว ลองหาในคลังกระทู้เก่าก้ได้นะ มีข้อมูลเยอะแยะเลย จากคุณ : หนูน้อย.. - [19 ก.พ. 45 12:01:57] จากคุณ : mr.mdma - [ 10 ก.ย. 47 01:44:47 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มารอพี่หนูน้อย..เล่านิทานนะครับ อยากฟัง อยากฟัง ชอบฟังนิทานของพี่หนูน้อย..ครับ ขอบคุณมาก จากคุณ : Roy - [19 ก.พ. 45 12:08:53] จากคุณ : mr.mdma - [ 10 ก.ย. 47 01:45:09 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผู้ชมนั่งรอเต็มแล้วครับพี่หนูน้อย... อิ่มยังครับ...อยากฟังประดับความรู้เหมือนกันครับ จากคุณ : ริมกรุงเทพ - [19 ก.พ. 45 13:22:32] จากคุณ : mr.mdma - [ 10 ก.ย. 47 01:45:27 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผู้ชม เพิ่มอีกคนแล้วครับ... อ้อ สำหรับเจ้าของกระทู้ ถ้าให้ดี ลองหาหนังสือเกี่ยวกับการวัดแสงมาอ่านก็ได้นะครับ ภาษาไทยก็มี จากคุณ : -MO- - [19 ก.พ. 45 13:32:57] อยากฟังนิทานแย้วว....... จากคุณ : @สนสามใบ@ - [19 ก.พ. 45 13:47:27] งั้นใครพอจะ เริ่มเรื่องนิดๆ ก็ได้นะครับ อิอิ รอฟังอยู่เหมือนกันน่ะครับ ^_^ จากคุณ : เจ้าของกระทู้ - [19 ก.พ. 45 14:01:24] คุณ MO ก็เป็นไอเดียวที่ดีน่ะครับ แต่ว่าพออ่านแล้วอยากมีคำถาม มันถามทันทีไม่ได้อ้ะ เลยมาแบบนี้แทน ทันใจดีครับ ^__^ จากคุณ : เด็กน้อยรัชโยธิน - [19 ก.พ. 45 14:06:41] ใจเย็นหน่อยโยม ทำงานอยู่ จากคุณ : หนูน้อย.. - [19 ก.พ. 45 14:36:03] แง่บๆ...นิทานยังไม่มา... จากคุณ : -MO- - [19 ก.พ. 45 14:38:25] มานั่งฟังด้วยคน จากคุณ : tantanzz - [19 ก.พ. 45 15:06:08] ว้า..... หลวงพี่...ข้าวโพดหมดไปสองถุงแล้วนะ...หนังยังไม่ฉายอีกเหรอ.... เก้าอี้ก็เริ่มเต็มแล้วด้วย...อิๆๆๆๆ จากคุณ : ริมกรุงเทพ - [19 ก.พ. 45 16:02:34] ช่าย ช่าย ทั้งข้าวโพด ปลาหมึกปิ้ง ไกย่าง (ยังกะหนังกลางแปลง) หมดไปเยอะแล้วอ้ะครับ พี่ อิอิ จากคุณ : เจ้าของกระทู้ - [19 ก.พ. 45 16:14:44] จากคุณ : mr.mdma - [ 10 ก.ย. 47 01:47:04 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อ๊ะ มาเล่านิทานแล้ว แต่เรื่องยาวนะ บอกไว้ก่อนนะว่านิทาน ห้ามถือเป็นสาระ ภายในฟิล์มถ่ายภาพมีสารประกอบตัวหนึ่ง คือ ซิลเวอร์ฮาไลด์ หรือผลึกเกลืองเงินไวแสง ผลึกตัวนี้มีความสามารถพิเศษคือ มันมีปฏิกริยาเมื่อได้รับแสง ทำให้เรานำมันมาใช้ผลิตฟิล์มถ่ายภาพ เมื่อผลึกเกลือเงินไวแสงได้รับแสงในปริมาณหนึ่ง ก็จะเกิดภาพแฝงขึ้นมาในผลึก เมื่อเรานำฟิล์มไปล้างด้วยน้ำยาสร้างภาพ ผลึกเกลือจะกลายเป็นโลหะเงินจับตัวกันหลวม ๆ มองเห็นกลุ่มของโลหะเงินเป็นสีดำ นั้นก็คือ ส่วนที่เป็นภาพบนฟิล์มนั้นเอง ภาพบนฟิล์มจะเกิดได้ ต่อเมื่อ ผลึกเกลือเงินไวแสง ต้องได้รับแสงขึ้นต่ำ ถึงจะเกิดภาพแฝงได้ ถ้าได้แสงน้อยกว่าขั้นต่ำจะไม่เกิดภาพแฝงเลย เพราะภาพแฝงจะสลายตัว ว่าง่าย ๆ ก็คือ พลังงานแสงไม่พอที่จะไปทำให้ผลึกเกลือเงินเกิดภาพแฝงได้ ปริมาณแสง มีผลต่อโทนสีของภาพที่เกิดขึ้น ถ้าปริมาณแสงน้อยกว่าปริมาณแสงขั้นต่ำ แน่นอนว่า ภาพไม่มีทางเกิดได้ ถ้าปริมาณแสงเท่ากับปริมาณแสงขั้นต่ำ จะทำให้เกิดส่วนดำในภาพ และพอมองเห็นรายละเอียดบนฟิล์มได้ลาง ๆ เมื่อปริมาณแสงมากขึ้น ภาพก็จะเกิดมากขึ้นไปเรื่อย ๆ จากดำจัด กลายเป็นดำ เป็นเทาเข้ม เป็นเทา เป็นเทาอ่อน เป็นขาว เป็นขาวจัด จนกระทั่งถึงจุดหนึ่ง ภาพเกิดมากเต็มที่ 100% ไม่สามารถเกิดได้มากกว่านั้นอีกแล้ว ถ้าพูดถึงฟิล์มเนกาติฟ ส่วนที่ไม่เกิดภาพเลยก็คือ ส่วนใสของฐานฟิล์ม ส่วนที่โดนแสงขั้นต่ำ ก็คือส่วนใสพอมีโทนเล็กน้อย ส่วนที่โดนแสงมาก คือ ส่วนดำบนฟิล์ม พอมองเห็นรายละเอียด ส่วนที่โดนแสงมากสุด ๆ คืน ส่วนดำสนิทของฟิล์ม แต่ถ้าพูดถึงฟิล์มสไลด์ ส่วนที่ไม่เกิดภาพเลย คือส่วนดำที่สุดของฟิล์ม ส่วนขอบฟิล์ม เมื่อแสงมีปริมาณมากพอ ก็จะเกิดส่วนดำมีโทนเล็กน้อย แสงมาก จะเกิดส่วนใสมีรายละเอียดบนฟิล์ม และแสงมากสุด ๆ ฟิล์มจะใสขาวไม่เห็นอะไรเลย อย่างเช่น ส่วนหัวฟิล์ม พฤติกรรมของพื้นฐานของฟิล์มก็คือ ภาพบนฟิล์มจะเกิดเป็นโทนสีอะไร ขึ้นกับปริมาณแสงที่ตกลงบนฟิล์มเป็นสำคัญ ปริมาณแสงน้อยที่สุดที่ทำให้ผลึกเกลืองเงินสามารถเกิดภาพได้ ถูกกำหนดอยู่ในรูปของ ISO หรือค่าความไวแสงฟิล์ม เครื่องวัดแสงไม่รู้หรอกว่า ฟิล์มที่เราใส่ไปมีความไวแสงเท่าไร ต้องให้แสงขั้นต่ำเท่าไร ควรเปิดรับแสงอย่างไร มันรู้ได้จากการตั้งค่าความไวแสงฟิล์ม ถ้าเราตั้งความไวแสงฟิล์มผิด ภาพก็จะเปิดรับแสงผิดไปด้วย ฟิล์มมีอยู่ 2 ประเภท คือ 1. ฟิล์มลายเส้น ให้ภาพขาวและดำ ไม่มีโทนเทา ถ้าให้แสงไม่พอ ภาพจะใส แสงพอภาพจะดำ แสงมาก ภาพก็จะดำ ไม่มีโทนเทา 2.ฟิล์มโทนต่อเนื่อง ให้ภานโทนขาว เทา และดำ ฟิล์มโทนต่อเนื่องจะมีช่วงรับแสงกว้าง แสงไม่พอ ไม่มีภาพ แสงมากเกินไป ฟิล์มดำปี๋ (เนกาติฟ) หรือใสแจ๋ว(สไลด์) แต่ถ้าแสงพอ ขึ้นกับว่า พอแบบไหน พอน้อย ๆ ก็ให้ภาพสีดำ เทาเข้ม พอแบบมาก ๆ ก็ให้ภาพสีเทาอ่อน มีขาว(สไลด์) ต่อไปนี้ผมพูดถึงสไลด์นะครับ ไม่ใช่เนกาติฟ ปัญหาก็คือ ฟิล์มโทนต่อเนื่อง ซึ่งก็ฟิล์มที่เราใช้ถ่ายภาพทั่วไป เป็นฟิล์มที่มีช่วงรับแสงกว้างมาก มีโทนสีมากมายหลายเฉด จะได้เฉดไหนก็ขึ้นกับแสงที่ตกลงไป คราวนี้ จะสร้างเครื่องวัดแสงให้ทำงานร่วมกับฟิล์มโทนต่อเนื่อง ก็ต้องทำการกำหนดว่า วัดแสงแล้วจะให้ภาพสีใดบนฟิล์ม เช่น วัดแสงแล้วทำให้เกิดส่วนขาวบนฟิล์ม วัดแสงแล้วทำให้เกิดภาพส่วนดำบนฟิล์ม จะเอายังไงดีละทีนี้ ถ้าถามว่า การวัดแสงที่ถูกต้องในอุดมคติคืออะไร การวัดแสงที่ถูกต้องก็คือ การวัดแสงแล้วให้ภาพมีสีเหมือนวัตถุที่เป็นต้นแบบ ขาวเป็นขาว ดำเป็นดำ แต่ในทางเป็นจริงแล้วเป็นไปไม่ได้ เพราะความสามารถของเครื่องวัดแสงมีแค่ข้อเดียวคือ บอกว่าปริมาณแสงที่ตกลงเครื่องวัดแสงมีค่าเท่าไร ได้ค่าแล้วจะไปทำอะไร ก็เป็นเรื่องของผู้ใช้แล้ว มันไม่รู้ว่าวัดแสงจากวัตถุสีอะไร แสงเป็นอย่างไร ความเปรียบต่างเป็นอย่างไร รู้อย่างเดียวว่า แสงที่ตกลงบนตัวเองนั้น มีค่าเท่าไร เราก็เลยต้องมาดูว่า แล้วจะเอาค่าปริมาณแสงที่ได้จากเครื่องวัดแสงไปทำอะไร ไปทำให้เกิดสีดำ สีขาว สีเทา สีเทาอ่อน สีเทาเข้ม ฯลฯ ก็ฟิล์มมันมีตั้งหลายเฉดนี่นา เราก็เลยต้องมาดูภาพที่จะถ่าย หาวัตถุที่ขาวที่สุดที่ไม่ใช่กระจกและไม่ใช่แหล่งกำเนิดแสง หาวัตถุที่ดำที่สุด เอามาอยู่ในภาพเดียวกัน ลองให้แสงตกลงไป ผลก็คือ วัตถุที่ขาวที่สุด จะสะท้อนแสงได้ประมาณ 90% (ไม่มีวัตถุอะไรที่สะท้อนแสงได้ 100%) ส่วนวัตถุที่ดำที่สุดก็สะท้อนแสงออกมาประมาณ 3.6% (จำตัวเลขไม่ได้) ตรงกลางของ 90 กับ 3.6 คือ 18% ในระบบ log ฐาน 2 18% จะห่างจาก 90% อยู่ 2.3 stop 18% จะห่างจาก 3.6% อยู่ 2.3 stop เราจึงถือว่า สีเทา 18% คือ สีกลางของวัตถุทั้งมวล (ไม่ใช่ได้มาจากการหาค่าเฉลี่ยนการสะท้อนแสงของวัตถุต่าง ๆ ในโลก) หามองภาพทีเราถ่ายกัน ภาพส่วนใหญ่ก็จะเป็นโทนเทา มีส่วนขาวบ้าง ดำบ้าง แต่ส่วนมากก็จะอยู่ที่เทา เอาเป็นว่า เราสร้างเครื่องวัดแสงให้วัดแสงจากสีเทา 18% แล้วได้ภาพเป็นสีเทากลางบนฟิล์ม ก็แล้วกัน แล้วจะสร้างแบบอื่นได้ไหม ได้ซิ ทำไมจะไม่ได้ สร้างให้วัดแสงจากส่วนขาว 90% แล้วได้ส่วนขาวบนฟิล์ม สร้างให้วัดจากส่วนดำ 5% แล้วได้ส่วนดำบนฟิล์ม สร้างให้วัดจากส่วนเทา 50% แล้วได้ภาพสีเทาอ่อนบนฟิล์ม จะสร้างอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น แต่ว่า ถ้าสร้างให้วัดแสงจากส่วนขาว 91.278% ได้ภาพเป็นสีขาว ก็ต้องไปวัดแสงจากส่วนขาว 91.278 % ด้วยนะ ถ้าไปวัดจากวัตถุสีเทา จะได้ภาพสีขาวบนฟิล์ม วัดแสงจากส่วนดำ จะได้สีขาวบนฟิล์ม วัดจากอะไร ก็จะได้สีขาวบนฟิล์ม ถ้าสร้างให้วัดแสงจากส่วนดำ 3.8829% ได้ภาพเป็นสีดำ ก็ต้องไปวัดแสงจากส่วนดำ 3.8829% ถ้าไปวัดแสงวัตถุสีเทา ก็จะได้ภาพสีดำ วัดแสงจากวัตถุสีขาว ก็จะได้ภาพสีดำ ไม่ว่าจะสร้างให้เครื่องวัดแสงไปวัดสีอะไร ปัญหามันก็มีเหมือน ๆ กัน คือค้องไปวัดแสงที่วัตถุสีนั้นในภาพ อื้ม...........คิดว่า มันยากไปหน่อยนะ เพราะภาพเรารวม ๆ มันก็เป็นเทา ขืนสร้างให้วัดจากส่วนขาว คงได้วัดเมฆบนท้องฟ้ากันมันส์ไปเลย ถ้าสร้างให้วัดจากส่วนดำ มีหวังต้องไปวัดแสงจากเงามืด หรือไม่ก็ในซอกผมของแบบ แล้วเวลาผิดแสงผิด ภาพจะผิดแบบมหัศจรรย์ ไม่ไหวมั้งแบบนี้ เอาเป็นว่า สร้างให้วัดแสงจากส่วนเทา แล้วได้ภาพเป็นสีเทา จะดีกว่ามั้ง นะ ผลก็คือ เครื่องวัดแสง ถูกสร้างให้วัดแสงจากส่วนเทา และได้ภาพเป็นเทาเสมอ อ๊ะนะ.............................................. แต่ว่าคนเราเนี้ย เวลาเอาเครื่องวัดแสงไปใช้งาน มันไม่ได้วัดแสงจากสีเทา 18% เพราะภาพที่เราถ่าย มันมีทั้งส่วนขาว ส่วนเทา ส่วนดำ ดำมาก ดำน้อย ดำชิบเป๋ง ขาวจั๋ว ขาวหน่อย เยอะแยะไปหมดเลย เครื่องวัดแสงมันก็เลยจะวัดแสงถูกต่อเมื่อ เฉลี่ยสีของวัตถุในส่วนพื้นที่วัดแสงทั้งหมด รวมแล้วเท่ากับ เทา 18% หรือไม่ก็ ไปวัดแสงที่เทา 18% มันเสียเลย (การที่เราใช้กระดาษเทา 18% วัดแสง หรือใช้เครื่องวัดแสงแบบตกกระทบ ก็คือ การวัดแสงจากเทา 18% ของจริงนั้นเอง) หลายครั้ง เราก็มีส่วนขาวมากไป ส่วนดำมากไป ไม่เจอเทา 18% บ้าง ภาพมันก็ดีบ้าง พังบ้าง เป็นเรื่องปกติ เพราะเราใช้งานไม่ถูกต้อง แต่ไม่ว่าภาพที่เราไปวัดจะเป็นอย่างไร ภาพที่เราได้จะมุ่งเข้าสู่โทนกลาง หรือเทากลางเสมอ ถามว่า คนออกแบบเขารู้ไหม ว่าภาพมันจะพังบ้าง ดีบ้าง รู้ครับ คนออกแบบเครื่องวัดแสง ตั้งระบบวัดแสงขึ้นมา เขาฉลาดมาก แต่ไม่มีทางเลือก การวัดสีเทาแล้วได้ภาพสีเทา เป็นทางสายกลางที่ทำให้ได้ภาพเสียหายน้อยที่สุดแล้ว จากคุณ : เอาไป 1ท่อนก่อนแล้วกัน - [19 ก.พ. 45 16:23:25] จากคุณ : mr.mdma - [ 10 ก.ย. 47 01:47:47 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เจาะเวลหาจิ๋นซี จบไป 1 ตอน เจ้าของกระทู้ลองตอบคำถามตัวเองได้ไหมครับ จากที่ผมเล่าไป ลองตอบและอธิบายตัวเองดู เมื่อคุณตอบแล้ว ผมจะเริ่มตอน 2 ฮิฮิฮิ จากคุณ : หนูน้อย.. - [19 ก.พ. 45 16:26:23] จากคุณ : mr.mdma - [ 10 ก.ย. 47 01:48:13 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เอาหล่ะสิ...นี่เพิ่งภาคแรกเองนะคุณเจ้าของกระทู้ 55555 มาตอบและอธิบายตัวเองดูเร็วครับหนังกำลังมันส์เลย... จากคุณ : ริมกรุงเทพ - [19 ก.พ. 45 16:52:37] อิอิ จากคุณ : Headbanger - [19 ก.พ. 45 17:16:12] อยากอ่านภาค 2 ต่อแล้วครับ.. ไปห้องน้ำมาเรียบร้อย อิ อิ จากคุณ : tantanzz - [19 ก.พ. 45 17:20:17] หนูตอบแทนได้มะ จะได้เริ่มตอน 2 จากคุณ : -MO- - [19 ก.พ. 45 18:01:48] อิๆๆ...จดๆๆ.....เอ๋จดไว้แล้วนิน่า.... ....อิๆๆ....จดไว้ตั้งแต่ 8 ปีแล้ว..ลืม น้าหนูน้อยฯ...ยังมีแรงแบก 075 อีกป่ะเนี๊ย...อิ จากคุณ : AramBoy_ - [19 ก.พ. 45 18:24:24] ว้าว ... สมัยเรียนยังไม่เข้าใจขนาดนี้เลย ขอบคุณอีกครั้ง ครับ จากคุณ : ทุ่มเท - [19 ก.พ. 45 18:42:02] อดอ่านตอน 2 ชัวร์ ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆ ไปดูเจาะเวลาหาจิ๋นซีต่อละ กำลังมันส์ ฮิฮิฮิ จากคุณ : หนูน้อย.. - [19 ก.พ. 45 19:46:16] เจอ quiz ตัวเองเข้าไป ตอบไม่ได้เพื่อนๆ โกรธแย่เลย..เค้านั่งรอฟังตอนสองกันอยู่นะ คุณเด็กน้อยรัชโยธิน นิทานเรื่องการตอบสนองของวัสดุไวแสงต่อแสงของพี่หนูน้อยนี่ฟังกี่รอบก็สนุก แหม..แต่พี่ก็เข้าใจปล่อย quiz นะครับ จากคุณ : Roy - [19 ก.พ. 45 21:18:07] โอ้โฮ ขนาดกลับไปนอนมาคืนนึงแล้วเจ้าของกระทู้ยังไม่กลับมาตอบอีกเหรอ... มีอะไรไม่เข้าใจเมล์มาถามได้นะครับ...เผื่อว่าผมจะเข้าใจ.... แล้วจะได้เริ่มฟังตอน 2 กันไง.... จากคุณ : ริมกรุงเทพ - [20 ก.พ. 45 08:12:24] พี่ก๋าบ ป๋มอยากฟังนิทานต่ออ่ะ มากเล่าเร็วๆหน่อยสิก๋าบ จากคุณ : jeabz - [20 ก.พ. 45 09:00:57] มาแล้วคร้าาาบ อ่านแล้วด้วยความขอบคุณ บางทีพอเรียนรู้อะไรไปถึงจุดหนึ่งจะเริ่มคิดมากและคิดเล็กคิดน้อยจนทำให้พื้นฐานต่างๆ ที่รับรู้มากลายเป็นสิ่งที่ตัวเองรู้สึกว่าง้ง งง สับสน แล้วเลยอยากมาเริ่มใหม่หลายๆ รอบ 555 ยังไงก็ขอบคุณมากๆ นะครับ และจะรอ ภาค 2 น้าาาา จากคุณ : เจ้าของกระทู้ - [20 ก.พ. 45 10:29:22] ยังไม่ตอบเลยนาาาา จากคุณ : หนูน้อย.. - [20 ก.พ. 45 10:32:16] หุ หุ... จากคุณ : tantanzz - [20 ก.พ. 45 10:36:32] จากคุณ : mr.mdma - [ 10 ก.ย. 47 01:50:54 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอโทษทีครับ พออ่าน "นิทาน" เสร็จ ก็พลันรีบลงมาตอบเลย โดยไม่ได้อ่านอีกหลายๆ ข้อความ (พอดียุ่งๆ อยู่น่ะครับ) อืมม จากที่อ่านมา เข้าใจได้ว่า โดยไม่ต้องไปคำนึงถึงเรื่องสี เรื่องแสงสะท้อนเนี่ย ประมาณว่าถ่ายยังไงก็ได้โดยให้แสงทีจะตกลงบนฟีล์มเนี่ย มีค่าเท่ากับ เทากลาง เพราะการชดเชยแสงก็เพื่อให้สี หรือแสงสะท้อนต่างๆ ในกรอบภาพเรานั้น ถูกต้องสมจริงที่สุด ฉะนั้น หากในกรอบที่เราจะถ่ายภาพ มีวัตถุสีเทากลางให้อ้างอิง ก็สามารถอ้างอิงมันได้เลยโดยไม่ต้องชดเชยแสงอีก นอกจากต้องการ effect เพิ่มเติม แต่หากในกรณีที่ไม่มีสิ่งใดเลยที่มีค่าเท่ากับเทากลางก็จำต้องชดเชยแสงตามค่าของมัน ตอบถูกมั้ยครับ ยังไงหากยังเข้าใจอะไรผิด ช่ว่ยบอกด้วยล่ะ อ้ะ...ต่อภาค 2 ได้ยังงงงงง อิอิ จากคุณ : เจ้าของกระทู้ - [20 ก.พ. 45 12:47:31] จากคุณ : mr.mdma - [ 10 ก.ย. 47 01:51:46 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อิ...อิ...ตอบเสร็จและ...สมาชิกรอฟังนิทานภาค 2 มาเข้าโรง 1 คนแล้วครับ จากคุณ : -MO- - [20 ก.พ. 45 13:09:38] โอ้...หนังจะยาวเท่า ตำนานรักดอกเหมยมั้ยเนี่ย .. (เกือบมาไม่ทันหนังดี :) จากคุณ : ยิ้มแย้ม:> - [20 ก.พ. 45 13:48:59] ตามมาอีกคนแร้วว.ว จากคุณ : tantanzz - [20 ก.พ. 45 14:05:51] นี่ นี่ อย่าลืมบอกด้วยนะ ว่าผมตอบถูก หรือ เข้าใจถูก อ๊ะ ป่าว โรงหนังเริ่มคนแน่นอีกหนแล้วล่ะ ครับ หากดี ก็มี ภาคต่อไปเรื่อยๆ นะ แบบ บ้านผีปอบอ้ะ เพียงแต่หนังเรื่องนี้ มีสาระหน่อย ไม่ต้อง วิ่งไล่จับ กับวิ่งหนีกันให้เหนื่อยด้วย อิอิอิ จากคุณ : เด็กน้อยรัชโยธิน - [20 ก.พ. 45 14:48:19] ผู้ชมมาแล้วครับ....พร้อมกับข้าวโพดคั่วและหมากฝรั่ง อิๆๆๆๆ....... แต่พี่หนูฯบอกแต่เพียงว่าตอบแล้วจะเล่าตอน 2....ไม่ได้บอกนี่ว่าถูกหรือผิด...5555 เสร็จโจร...ได้ดูตอน 2 แน่นอน... จากคุณ : ริมกรุงเทพ - [20 ก.พ. 45 15:03:39] คนดูเริ่มโห่รอแล้วพี่โก๊ะ จากคุณ : kobee - [20 ก.พ. 45 15:25:30] รอภาค 2,3,4 อิ อิ อิ จากคุณ : Li-Ion - [20 ก.พ. 45 16:02:15] มารอภาค 2 ด้วยคนครับ จากคุณ : #BIG Z# - [20 ก.พ. 45 18:11:18] จากคุณ : mr.mdma - [ 10 ก.ย. 47 01:53:18 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ความคิดเห็นที่ 37 เห่อๆๆๆ ไปข้างนอกมาเฟ้ย เลยไม่ได้เข้ามาอ่าน แล้วก็ปวดหัวมาก เพราะดูหนังจีนถึงตี 3 ติดต่อกันมา 3 คืนแล้ว ง่วงสุด ๆ เลย คำถาม..... 1. เวลาถ่ายรูป เล็งกล้อง และวัดแสงเนี่ย สมมุติว่าเราเล็งแล้ววัดแสงที่วัตถุที่อยู่ในกรอบที่มีค่าเป็นสีเทากลางเนี่ย เราสามารถใช้ "ค่า" นั้นในการถ่ายภาพได้เลย หรือไม่ (หากจริงๆ แล้วกรณีที่ subject ของเราไม่ได้มีค่าแสงอยู่ที่ เทากลาง เพียงแต่วัดแสงเพื่ออ้างอิงเพื่อให้ได้ค่าแสงในที่นั่นออกมาก) หรือต้องชดเชยแสงอีกครับ 2. หรือการชดเชยแสงทำเฉพาะในกรณีที่ต้องวัดแสงในที่ที่เราไม่มีวัตถุที่เป็น เทากลาง ไว้อ้างอิงสำหรับ วัดแสง ครับ เพราะยังขาดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเรื่องการวัดแสงอยู่เหมือนกัน เพราะหากวัดแสงที่วัตถุสีเทากลางได้แล้วตรงนั้น ก็สามารถถ่ายภาพอะไร สีอะไรก็ได้ อย่างงั้นหรือเปล่าครับ งง เหมือนกัน ตอบด้วยนะครับ เจ้าของกระทู้ตอบ โดยไม่ต้องไปคำนึงถึงเรื่องสี เรื่องแสงสะท้อนเนี่ย ประมาณว่าถ่ายยังไงก็ได้โดยให้แสงทีจะตกลงบนฟีล์มเนี่ย มีค่าเท่ากับ เทากลาง เพราะการชดเชยแสงก็เพื่อให้สี หรือแสงสะท้อนต่างๆ ในกรอบภาพเรานั้น ถูกต้องสมจริงที่สุด ฉะนั้น หากในกรอบที่เราจะถ่ายภาพ มีวัตถุสีเทากลางให้อ้างอิง ก็สามารถอ้างอิงมันได้เลยโดยไม่ต้องชดเชยแสงอีก นอกจากต้องการ effect เพิ่มเติม แต่หากในกรณีที่ไม่มีสิ่งใดเลยที่มีค่าเท่ากับเทากลางก็จำต้องชดเชยแสงตามค่าของมัน ตอบถูกมั้ยครับ ยังไงหากยังเข้าใจอะไรผิด ช่ว่ยบอกด้วยล่ะ ***** อื้ม เจ้าของกระทู้ตอบถูกแล้ว ถ้าเราวัดแสงจากเทากลาง เราได้สามารถใช้ค่าจากเทากลางมาใช้เป็นค่าเปิดรับแสงได้เลยในเบื้องต้น ยกเว้นแต่ว่าเราต้องการผลพิเศษ ก็สามารถชดเชยแสงได้อีก ถ้าเราไม่ได้วัดแสงจากวัตถุที่เป็นเทากลาง หรือวัตถุใด ๆ ก็ตาม สีของภาพจะออกมาเป็นเทากลาง เมื่อมองภาพแบบขาวดำ จะชดเชยแสงหรือไม่ ขึ้นกับความต้องการของเราว่า ต้องการให้ภาพออกมาเป็นเทากลางแบบนั้น หรือต้องการเปลี่ยนเป็นสีอื่น เช่น มีวัตถุสีขาว แล้ววัดแสงจากวัตถุสีขาว หากถ่ายภาพที่ได้วัตถุขาวจะออกมาเป็นเทา จะชดเชยแสงหรือไม่ขึ้นกับว่า 1. ถ้าต้องการให้ขาวเป็นเทาแบบนั้น ก็ไม่ต้องชดเชย 2.แต่ต้องการให้ขาวเป็นดำ ชดเชยแสงไปทาง - หรืออันเดอร์เพิ่ม 3.ต้องการให้ขาวกลับเป็นขาว ก็ต้องชดเชยแสงเพิ่มทาง + หรือโอเวอร์ การชดเชยแสงมันขึ้นกับว่า เราต้องการให้สีเทากลางของภาพที่จะได้ กลายเป็นสีอะไร บางครั้งเราไม่ได้คำนึงถึงว่า วัตถุเป็นสีอะไรด้วยซ้ำ คิดถึงแต่ว่า ต้องการให้วัตถุเป็นสีอะไร เช่น ถ่ายภาพแสงอาทิตย์ที่กำลังลอดเมฆอยู่กลางทะเล เมฆเป็นสีขาว แสงเป็นขาวกว่า และดวงอาทิตย์เป็นขาวที่สุด เมื่อเราวัดแสงที่เมฆ หากเราไม่ชดเชยแสง ได้เมฆเป็นสีเทา ลำแสงสีขาว พระอาทิตย์สว่างเวอร์ ชดเชยไปทางโอเวอร์เพื่อให้ขาวเป็นขาวตามหลักการ ได้เมฆสีขาว ลำแสงขาวจ้า พระอาทิตย์ใสแจ๋ว แต่เป็นผมเลือกเปิดอันเดอร์อีกเล็กน้อย เพื่อให้เมฆเป็สีเทาเข้มแบบเมฆฝน ลำแสงเป็นเทาอ่อน แล้วเห็นดวงอาทิตย์ขาวจ้า เป็นการดึงภาพให้เข้าเพื่อเพิ่มผลที่แสงลอดเมฆ และอารมณ์ของภาพ โดยไม่สนใจว่าความจริงเป็นเช่นไร? เจ้าของกระทู้ตอบถูกแล้ว เก่งมากกกกก.... เพราะฉะนั้น นิทานจึงจบ เองวังด้วยประการฉะนี้ ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไปนอนก่อน ง่วง ไม่ไหวแล้ว จากคุณ : หนูน้อย.. - [20 ก.พ. 45 18:24:02] จากคุณ : mr.mdma - [ 10 ก.ย. 47 01:53:39 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เหอ ๆ จากคุณ : Sun - [20 ก.พ. 45 19:03:06] จ๊ากกกกก ไหงตอบถูกแล้วจบเลยหล่ะพี่หนูน้อยฯ โหๆๆๆ...ยักแล้วยิ้ม โกงกันเห็นๆๆๆ...55555 จากคุณ : ริมกรุงเทพ - [21 ก.พ. 45 07:50:25] ขอบคุณมากนะครับ สำรับความบันเทิงหน้าจอ ระหว่างทำงาน ได้ความรู้ดีๆ ไปด้วย ที่สำคัญ จะได้ไม่คาใจอีกต่อไป และได้เพื่อน "ดูหนัง ฟังนิทาน" อีกเพียบ มีอะไรจะถามไถ่มาอีก อาจมีคำถามพิศดาร เพี้ยนๆ มาถามอีกนะครับ อิอิ จาก เด็กน้อยรัชโยธิน เจ้าของกระทู้ จากคุณ : เจ้าของกระทู้ - [21 ก.พ. 45 11:30:00] หนังจบเร็วจัง pop corn ยังไม่ทันหมดถุงเลย น่าจะมีภาคต่ออีกนะ จากคุณ : jeabz - [21 ก.พ. 45 11:51:01] ได้ความรู้อีกเพียบเลยจ้า.....แต่ทำไมไม่มีภาค 2 น๊า.... จากคุณ : ก้อนกรวด - [26 ก.พ. 45 23:59:26] หนังเลิกแล้วเหรอ ว้า.... อดดูเลยเรา จากคุณ : สายลมแสงแดด - [1 มี.ค. 45 22:17:36] จากคุณ : mr.mdma - [ 10 ก.ย. 47 01:55:09 ]

ความคิดเห็นที่ 12 โหเก่ามั๊กๆเลยนะเนี้ย นึกถึงสมัยก่อน ความหลังของคนแก่ ก๊ากๆๆๆๆๆ จากคุณ : หนูน้อยต้อยตีวิด.. - [ 10 ก.ย. 47 02:48:12 ]

ความคิดเห็นที่ 13 555 หนุกดี อิ อิ...มานส์มั๊กๆ จากคุณ : @สนสามใบ@ - [ 10 ก.ย. 47 07:48:41 ]

ความคิดเห็นที่ 14 5555 จากคุณ : kobee - [ 10 ก.ย. 47 08:09:27 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เอาอีก เอาอีก จากคุณ : อยากจะโปร - [ 10 ก.ย. 47 13:49:16 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อิอิ อยากจะบอกว่าอ่านรอบแรกแล้วมึนตึ้บ ฮ่าๆๆๆ ไว้มาอ่านอีกรอบ หุหุ จากคุณ : หนูอินค่ะ - [ 10 ก.ย. 47 14:14:18 ]