ความคิดเห็นที่ 1 1. หรือว่า เราแค่วัดแสงระหว่าง speed กระรูรับแสงให้ค่ามันพอดี = 0 ในโหมด m นั่นคือกล้องไม่โดนหลอกโดยสีขาวแล้ว สีขาวจะเป็นสีขาวเป๊ะ - ไม่ใช่ครับ เราต้องให้มันเป็น +1 +2 คือโอเวอร์ขึ้น 2. กดแล้วดูใน LCD เลยครับ ว่าส่วนที่เราต้องการได้ดั่งใจหรือยัง ถ้ายังไม่ได้ก็ให้ชดเชยแสงก่อน ถ้าได้แล้วก็กดชัตเตอร์ครับ 3. อาศัยประสบการณ์ครับ รอผู้เชี่ยวชาญกว่านี้มาตอบให้เคลียร์กว่านี้อีกทีนะครับ พอดีผมต้องรีบไปแล้ว จากคุณ : ริมน้ำปิง - [ 24 ต.ค. 47 18:22:36 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผมเดาเอานะครับ จากที่เคยเล่นmanual มาก่อน ใน A หรือ S เนี่ย กล้องจะทำการคำนวณแสงที่พอเหมาะให้เรา (เทา 18%) ให้เราอัตโนมัติอยู่แล้วนะครับ การที่เราเลือกบังคับค่าใดค่าหนึ่ง (aparture size, shtter speed) กล้องก็จะคำนวณค่าอีกค่าหนึ่ง ให้การรับแสงออกมาพอดี แต่ในระบบ M เนี่ย มันปล่อยให้เราเลือกค่าสองค่านี้อิสระ เพราะฉะนั้น เราสามารถเลือกได้อยู่แล้ว ว่าจะให้มัน under เท่าไหร่ over เท่าไหร่ ตรงนี้อยู่ที่การหมุนค่าต่างๆ จากตัวเราเอง สิ่งที่ต้องสนใจค่าขีดที่บอกว่าตอนนี้แสงที่เข้ากล้องเป็นเท่าไหร่ under ไปกี่ stop หรือ over ไปกี่ stop เมื่อทราบข้อมุลเหล่านี้ เราก็ทดลองปรับค่าทั้ง aparture size หรือ shutter speed จนมันมาอยู่ตรงกลางพอดีไงครับ จากคุณ : total90III - [ 24 ต.ค. 47 19:05:16 ]

ความคิดเห็นที่ 3 กลับมาเรื่องที่ว่า กล้องจะแสงจากวัตถุหลอก แล้วจะทราบได้อย่างไร ว่าต้องหลอกกลับมันอย่างไร ตรงนี้คงต้องอาศัยประสบการณ์ครับ แฮะๆ ผมก็มั่วๆไปเหมือนกันครับ ถ้าสังเกตุว่าวัตถุทั้งภาพขาวเหลือเกิน หรือมืดเกินไปเหลือเกิน ก็หลอกกลับ (แต่ส่วนมากนึกไม่ถึงหรอกครับ) มาปรับเอาใน photoshop อีกครั้งแทนมากกว่าครับ จากคุณ : total90III - [ 24 ต.ค. 47 19:08:29 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ...ที่อ่านมาถูกต้องแล้วครับ...กล้องจะวัดแสง โดยอิงสีเทา 18% ก็คือจะมองเห็นเป็นสีเทาไปหมด ถ้าเจอสีเทาจะพอดี ถ้าเจอสีขาว ก็ยังคิดว่าเป็นสีเทา หรือ เจอสีดำ ก็คิดว่าเป็น สีเทาอีก.... ดังนั้น จึงต้องชดเชยแสงให้กับ สีที่สว่าง หรือ สีที่มืด .... ... เอาให้เข้าใจง่าย ก็คือ พอเจอหิมะ กล้องไม่รู้หรอกว่า คือ หิมะ เซลล์วัดแสง ก็ไปบอกกล้อง ว่า แสงมากนะ ขาว วอกเลย กล้องก็ต้องลดสปีด หรือช่องรับแสงก็ได้ ซึ่งสัม พันธ์กันนะ สองตัวนี้...พอถ่ายพอดี ก็จะกลายเป็น หิมะสี เทา... ดังนั้น แสงสว่างๆ ก็ชดเชยให้โอเว่อร์ ก็คือ เปิดช่อง รับแสงให้กว้างขึ้น หรือ ปรับสปีดให้ลดลง มากกว่าที่กล้อง วัดแสงได้... ส่วนถ้าซับเจ็คมืดๆ ดำๆ ก็ปรับตรงกันข้าม คือ อันเดอร์.... หลักการมีแค่นี้จริงๆ ส่วนจะเท่าไหร่ และสีอะ ไรที่ใกล้เคียงกับสีเทา นี่ซิยากหน่อย เพราะว่าในธรรมชาติ จริงๆ มันไม่ได้มีแค่ 3 สีนี้... ...ส่วนที่บอก โหมด AV TV ไม่งง เพราะว่า มันมีปุ่มชด เชยแสงมาให้ ปรับ ++ ก็คือโอเว่อร์ ปรับไปทาง -- ก็คือ ปรับให้อันเดอร์กว่าที่กล้องวัดได้นั่นแหล่ะ ... แต่ที่ งง คือ โหมด M เพราะมันปรับได้อิสระ ต่อกัน ให้ ดูที่ บาร์สเกล นะครับ... ถ้า 0 หมายถึงพอดี เราก็ปรับให้ ไปทาง + หรือ - ได้เช่นกัน โดยปรับที่ สปีดซัตเตอร์ หรือ ช่องรับแสงก็ได้ครับ... ถ้าปรับที่ 0 ก็แสดงว่า ไม่ได้ชด เชยแสง ... ดังนั้นโหมดนี้ จึงไม่มีปุ่ม ชดเชยแสงมาให้ครับ ... สำหรับ คอมแพ็ค บางรุ่น ก็มี บาร์สเกล บางรุ่น ก็ใช้วิธี ดูที่จอ ถ้ามืดก็คืออันเดอร์ ถ้าสว่างก็คือ โอเว่อร์ ... สำหรับ SLR ไม่สามารถ ดูที่จอได้ เพราะต้องมองผ่าน เลนส์ เวลาปรับ โอเว่อร์ อันเดอร์ จะไม่แสดงผลให้เห็น ด้วยการมองด้วยตาครับ... ...ตอบเท่าที่พอจะรู้นะครับ...ยังไงก็รอโปรฯท่านอื่นมา ตอบให้นะครับ... ถ่ายภาพ ย้อนแสงแบบนี้ ก็ต้องชดเชยแสงครับ... จากคุณ : pax - [ 24 ต.ค. 47 19:27:07 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อืม อ่านแล้วยังมึนๆอยู่ครับ คุณ pax -_-" ไอ้ที่บอกว่าทำไมโหมด m ถึงไม่มี ชดเชยแสงผมเข้าใจแล้ว แต่... 1> เวลากล้องเจอวัตถุสีขาวเป๊ะ สมมติเช่น หิมะ กล้องมันไม่รู้ว่าหิมะเราเป็นสีขาว แต่มันมองเห็นเป็นสีเทาใช่ไหมครับ พอเราถ่ายหิมะสีขาวออกมา มันเลยกลายเป็นสีเทา เราเลยต้องชดเชย โอเวอร์ เพื่อให้หิมะที่กล้องมองเห็นเป็นสีเทามันโอเวอร์เป็นสีขาว 2> เวลากล้องไปถ่ายวัตถุสีดำปี๋ เช่นเสื้อยืดสีดำ กล้องมันไม่รู้อีกว่าเป็นสีดำ มันจะมองเสื้อเราเป็นสีเทา พอเราถ่ายเสื้อออกมาเลยเป็นสีดำไม่ดำสนิท ออกเทาใช่ไหมครับ เราเลยต้องถ่าย under เพื่อให้เสื้อเราที่กล้องมองเห็นเป็นสีเทามันติด อันเดอร์กลายเป็นสีดำ ผมเข้าใจถูกหรือเปล่า 3> ตะกี้คุณ pax ยกตัวอย่างแค่ สีเทา สีขาว สีดำ สรุปคือไม่ว่าเราจะเอาไปถ่ายสีอะไรในโลก <สีชมพู เขียว ฟ้า ม่วง etc>  กล้องมันก้อจะเห็นเป็นสีเทาหมดใช่ไหมครับ เราต้องมาชดเชยแสงโอเวอร์ อันเดอร์เอาเอง โดยการที่เราต้องรู้ว่า สีเหล่านั้นมันมีค่าการสะท้อนแสงเท่าไหร่ แล้วไอ้ค่าสะท้อนแสงของสีต่างๆมันเทียบกับอะไรครับ ใช่ เทากลางหรือเปล่า 4> ที่เค้าบอกให้พก grey card เอาไว้ แล้วก่อนถ่าย ให้เราวัดแสงที่ grey card แล้วค่อยถ่าย งงครับ อธิบายอีกที ทำเพื่ออะไร ตามที่ผมเข้าใจ สมมติจากรูปนี้ มีหาดขาว แนวป่าเขียว วิธีถ่ายแบบไม่ให้กล้องโดนหลอกคือ เราวัดแสงที่ แนวป่าเขียว <เพราะสีเขียวมันสะท้อนแสงใกล้เคียงกะสีเทา 18%> แล้วล๊อกแสงไว้ แล้วค่อยมาถ่ายเต็มๆทั้งรูปใช่ไหมครับ หรือแทนที่จะวัดที่แนวป่าเขียว เราวัดจาก grey card ที่เราพกไปเลยก้อได้ แล้วเอามาถ่ายปรกติ จะถูกต้องกว่าวัดที่แนวป่าอีก ผมเข้าใจถูกหรือเปล่า 5> อีตอนนี้มันงงแล้วแหละ สรุปว่ายังงี้ไม่ว่าเราจะรูปอะไรก้อตาม สมมติ หิมะ หรือ ก้อนหินดำทะมึน แต่ว่าถ้าเราวัดแสงที่ grey card ก่อนถ่ายทุกครั้งแล้วค่อยเอาไปถ่าย กล้องจะไม่โดนหลอกแน่นอน ผมเข้าใจถูกป่าวเนี่ย ถ้าถูก เพราะอะไร อธิบายอีกที -_-" แหะๆ 6> รูปที่มีหลายสีในรูปเดียวกัน จะรู้ได้ไงว่าต้องชดเชยยังไง เพราะสีมันสะท้อนมั่วไปหมด บางอันก้อใกล้เทากลาง บางอันก้อไม่ใกล้ แล้วจะชดเชยยังไงครับ -_-" เอาแค่นี้ก่อนละกัน -_-" เด๋วจะมาถามเรื่องวัดแสงแบบ spot อีก แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 47 20:29:36 แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 47 20:23:12 จากคุณ : Next LifE - [ 24 ต.ค. 47 20:16:47 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คุณ pax ตอบได้เคลียร์อย่างมากเลยครับ เยี่ยมจริง ๆ ขอเพิ่มเติมอีกหน่อยนะครับ นอกจากสภาพของแสงแล้ว ระบบวัดแสงก็เป็น อีกปัจจัยนึง ในการตัดสินใจว่าจะชดเชยแสงหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น การถ่ายคนผิวดำกลางหิมะ หากใช้ระบบวัดแสงแบ่งพื้นที่ จะให้ผิวของคนดำ ออกมาดำ และหิมะออกมาขาว ก็คงต้องชดเชยให้โอเวอร์สัก 1 สต๊อป แต่หากใช้ระบบวัดแสงเฉพาะจุด จุดที่วัดก็ให้ความแตกต่างในการชดเชยแสงแล้ว มีทั้งแบบชดเชยทางโอเวอร์ หรือ ชดเชยทางอันเดอร์ (แบบไหนชดเชยอย่างไร ไม่บอกนะครับ) อีกปัจจัยในการตัดสินใจในการวัดชดเชยแสง ก็คือ อารมณ์ในการนำเสนอ ภาพบางภาพ วัดแสงพอดี มันก็ไม่สวย หรือ ไม่ตรงกับความต้องการในการนำเสนอของผู้ถ่ายภาพ บางครั้ง ก็ต้องการให้โอเวอร์ บางครั้งก็ต้องการให้อันเดอร์ กับการตัดสินใจว่า ควรจะชดเชยมากน้อยเพียงใด เรื่องแบบนี้ ประสบการณ์ จะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจครับ อยากแนะนำสำหรับเพื่อน ๆ ที่เพิ่งเข้าสู่โลกแห่งการถ่ายภาพนะครับ สมัยที่เราเริ่มต้นถ่ายภาพด้วยฟิลม์ เราต้องเข้าใจพื้นฐานของการถ่ายภาพก่อน แล้วจึงจะสามารถผลิตผลงาน ได้อย่างที่ต้องการ ทุกวันนี้ โลกดิจิตอล ทำให้อะไรมันดูง่ายไปหมด ถ่ายแล้วไม่สวยก็ลบทิ้ง ถ่ายแล้วไม่ดีก็ถ่ายใหม่เลย หรือไม่อย่างนั้นก็ไปแก้ไขใน photoshop ความจริงแล้ว หากเราถ่ายภาพออกมาได้ดีและถูกต้องแต่แรก ก็จะประหยัดเวลาในการมาปรับแต่งภาพอีก นอกจากนี้ ภาพต้นฉบับจากการถ่ายภาพที่ดี อย่างไรเสียก็สวยกว่าภาพที่ถ่ายมาไม่ค่อยดีแล้วมาปรับแต่งใน photoshop แน่นอนครับ ที่จะบอกคือว่า อยากจะแนะนำให้หาหนังสือที่เป็นพื้นฐานของการถ่ายภาพมาศึกษา ถ้าพื้นฐานไม่แน่น เบสิคไม่แกร่ง ก็จะรู้สึกว่า การถ่ายรูปไม่ยาก แต่ทำอย่างไรก็ไม่ได้ดี อย่างน้อยที่สุดความเข้าใจเรื่อง การวัดแสง การชดเชยแสง ก็เป็นพื้นฐานที่สำคัญที่ต้องรู้ก่อน บางคน พื้นฐานยังไม่ดีเลย เห็นรูปที่พวกพื้นฐานแน่น ๆ ถ่ายมา แล้วก็รู้สึกเป็นความยากเกินกว่าจะไต่ขึ้นไปได้ ก็ท้อแท้ แล้วก็ทิ้งมันไป เพราะคิดว่า มันยากเกินกำลังและความสามารถของตนเอง นอกจากหนังสือแล้ว การอบรมเรื่องการถ่ายภาพที่มีจัดขึ้นบ่อย ๆ ก็ช่วยเหลือได้อย่างมาก เอาใจช่วยทุกท่านครับ จากคุณ : สุพจน์ - [ 24 ต.ค. 47 20:34:23 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ตอบกระทู้ไปแล้ว ถึงได้เห็นที่คุณมาถามอีก ขอตอบตามความรู้ที่ผมพอมีนะครับ 1> เวลากล้องเจอวัตถุสีขาวเป๊ะ สมมติเช่น หิมะ กล้องมันไม่รู้ว่าหิมะเราเป็นสีขาว แต่มันมองเห็นเป็นสีเทาใช่ไหมครับ พอเราถ่ายหิมะสีขาวออกมา มันเลยกลายเป็นสีเทา เราเลยต้องชดเชย โอเวอร์ เพื่อให้หิมะที่กล้องมองเห็นเป็นสีเทามันโอเวอร์เป็นสีขาว 2> เวลากล้องไปถ่ายวัตถุสีดำปี๋ เช่นเสื้อยืดสีดำ กล้องมันไม่รู้อีกว่าเป็นสีดำ มันจะมองเสื้อเราเป็นสีเทา พอเราถ่ายเสื้อออกมาเลยเป็นสีดำไม่ดำสนิท ออกเทาใช่ไหมครับ เราเลยต้องถ่าย under เพื่อให้เสื้อเราที่กล้องมองเห็นเป็นสีเทามันติด อันเดอร์กลายเป็นสีดำ ผมเข้าใจถูกหรือเปล่า สองข้อนี้ตอบรวมกันว่า ใช่แล้วครับ แต่จะชดเชยมากน้อยเพียงใดขึ้นกับ ประสบการณ์ และ ความต้องการในการนำเสนอ 3> ตะกี้คุณ pax ยกตัวอย่างแค่ สีเทา สีขาว สีดำ สรุปคือไม่ว่าเราจะเอาไปถ่ายสีอะไรในโลก <สีชมพู เขียว ฟ้า ม่วง etc>  กล้องมันก้อจะเห็นเป็นสีเทาหมดใช่ไหมครับ เราต้องมาชดเชยแสงโอเวอร์ อันเดอร์เอาเอง โดยการที่เราต้องรู้ว่า สีเหล่านั้นมันมีค่าการสะท้อนแสงเท่าไหร่ แล้วไอ้ค่าสะท้อนแสงของสีต่างๆมันเทียบกับอะไรครับ ใช่ เทากลางหรือเปล่า ตอบว่า ถูกต้องแล้วครับ 4> ที่เค้าบอกให้พก grey card เอาไว้ แล้วก่อนถ่าย ให้เราวัดแสงที่ grey card แล้วค่อยถ่าย งงครับ อธิบายอีกที ทำเพื่ออะไร ตามที่ผมเข้าใจ สมมติจากรูปนี้ มีหาดขาว แนวป่าเขียว วิธีถ่ายแบบไม่ให้กล้องโดนหลอกคือ เราวัดแสงที่ แนวป่าเขียว <เพราะสีเขียวมันสะท้อนแสงใกล้เคียงกะสีเทา 18%> แล้วล๊อกแสงไว้ แล้วค่อยมาถ่ายเต็มๆทั้งรูปใช่ไหมครับ หรือแทนที่จะวัดที่แนวป่าเขียว เราวัดจาก grey card ที่เราพกไปเลยก้อได้ แล้วเอามาถ่ายปรกติ จะถูกต้องกว่าวัดที่แนวป่าอีก ผมเข้าใจถูกหรือเปล่า บางครั้งในสภาพแสงที่มันซับซ้อนมาก ๆ  และผู้ถ่ายต้องการค่าแสงที่เป็นกลางที่สุด ก็ใช้ grey card เป็นเครื่องมือช่วยในการวัด  แต่คนที่จะใช้ ก็ต้องมีความเข้าใจพื้นฐานก่อน ไม่ใช่ว่า มาถึงก็ใช้ได้เลยนะครับ 5> อีตอนนี้มันงงแล้วแหละ สรุปว่ายังงี้ไม่ว่าเราจะรูปอะไรก้อตาม สมมติ หิมะ หรือ ก้อนหินดำทะมึน แต่ว่าถ้าเราวัดแสงที่ grey card ก่อนถ่ายทุกครั้งแล้วค่อยเอาไปถ่าย กล้องจะไม่โดนหลอกแน่นอน ผมเข้าใจถูกป่าวเนี่ย ถ้าถูก เพราะอะไร อธิบายอีกที -_-" แหะๆ การถ่ายภาพ เป็นทั้งศาสตร์และศิลป การใช้ grey card มันก็ไม่สามารถใช้ได้ในทุกสถานที่นะครับ มันขึ้นกับเวลา สถานที่ อารมณ์ในการนำเสนอภาพ หลายปัจจัยครับ  ตอบตรงนี้ คงสามวันสามคืนแน่ 6> รูปที่มีหลายสีในรูปเดียวกัน จะรู้ได้ไงว่าต้องชดเชยยังไง เพราะสีมันสะท้อนมั่วไปหมด บางอันก้อใกล้เทากลาง บางอันก้อไม่ใกล้ แล้วจะชดเชยยังไงครับ -_-" วิธีที่มืออาชีพสุด ๆ ใช้กันก็คือ วัดแสงเฉพาะจุด หลายๆ จุด แล้วมาหาค่าเฉลี่ยเอาเอง อย่าถามนะว่าคิดอย่างไร ผมทำไม่เป็นหรอก ผมว่า คุณ nextlife น่าจะหาตำราเกี่ยวกับการถ่ายภาพมาศึกษาดูนะครับ ขณะเดียวกัน ก็ต้องลงมือปฏิบัติจริงด้วย  เก่งแต่ทฤษฎี สู้เก่งปฏิบัติไม่ได้หรอกครับ บางทีการได้ลงมือปฏิบัติจริงสักครั้ง มันจะทำให้เราเข้าใจทฤษฎี หรือ ตอบโจทย์ต่าง ๆ ที่เราไม่เข้าใจได้อย่างดีเลยครับ อย่าลืมนะครับว่า  กรุงโรม ไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว ขออนุญาตแนะนำนะครับ แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 47 20:56:52 แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 47 20:48:38 จากคุณ : สุพจน์ - [ 24 ต.ค. 47 20:47:54 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เพื่อนๆน้าๆลุงๆช่วยกันตอบหมดแล้ว... น้องวุ้นขอแนะนำให้ไปหาหนังสือชื่อ เทคนิคการวัดแสง ของคุณสุรเดช สำนักพิมพ์ Photo&Life มาอ่านครับ มีรูปประกอบเข้าใจง่ายครับ อ่านแล้วจะตอบคำถามทั้งหมดได้ด้วยตัวเองทันที... จากคุณ : w@@n - [ 24 ต.ค. 47 21:12:03 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณคร๊าบบบบบ คือทุกทีถ่ายตามปรกติอ่ะครับ ชดเชยแสงตามใจฉันเอามันส์ อิอิ มันก้อไม่มีไร แต่พอมาอ่านๆดู เลยงงเลย -____-" จากคุณ : Next LifE - [ 24 ต.ค. 47 21:36:35 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ...อิอิ เข้ามาอีกรอบ...มีถามต่อด้วย... ...น้าสุพจน์ ก็ตอบได้เคลียร์ หมดจดจริงๆ นับถือๆ เช่นกัน เพราะหลักการมันเหมือนกันนะครับ ...จริงๆ ต้องออกตัวไว้ก่อน ว่าผม ไม่ได้แม่น ทฤษฏีเป๊ะๆ แบบที่เขียนในหนังสือ...เพราะเขาเขียนกันเป็นเล่มๆ ถึง แม้เราอ่านหมด ก็ใช่ว่าเราจะจำได้หมด .. เราแค่นำมันมา ประยุกต์ กับการเป็นคนชอบถ่ายรูปแบบเราๆ ...ผมเป็น เพียงคนชอบถ่ายรูปเล่นๆ คนหนึ่งเท่านั้น... จึงหนักไปทาง ปฏิบัติมากกว่าทฤษฏี...อิอิ จริงๆ ก็อ่อนทั้งสองอย่าง แต่ที่ ตอบเพราะตัวเองก็เคย งง แบบนี้เหมือนกัน ตอนนี้ พอจะ เก็ท ก็เลยมาบอกให้ฟัง... แล้วจะตอบแบบรวมๆนะครับ.. ...ถามมาเป็นข้อๆเลย ... ตอบรวมๆ กัน ไม่ต้องทวนนะครับ ... 1 กับ 2 เข้าใจถูกแล้วครับ ... ข้อ 3 นี่แหล่ะ ที่ว่ามันยาก เพราะสีมันเยอะ ก็มองด้วย ตาเรานี่แหล่ะ ว่าสีไหนมันเข้ม สีไหนมันสว่าง ถ้าสว่างน้อย ก็ถือว่าอยู่ในส่วนของดำ ถ้าสว่างมากๆ ก็ถือว่าอยู่ในส่วน ของขาว... เช่น สีเหลือง สีชมพู ยังไงๆ ก็น่าจะสว่างกว่า พวกสีเขียวเข้ม หรือ สีน้ำตาลเข้ม ... ดังนั้น จะชดเชยยัง ไงเท่าไหร่ ก็ลองดู ถ้าดำชดเชย -2 ถ้าเข้มน้อยลงมา หน่อย ก็ -1 อะไรทำนองนี้... ... ส่วน Gray Card ไม่เคยใช้ เห็นเขาบอกว่ามันแพงด้วย นะ และไม่ได้หาซื้อได้ทั่วไป เหมือนฟิลเตอร์ ... ส่วนวิธี ใช้ก็ไม่ยาก แค่เอาไปวางไว้ตรงที่ซับเจ็ค ที่เราจะถ่าย แล้ว วัดแสงที่สะท้อนมาจาก Gray Card ซึ่งมันจะเท่ากับสีเทา 18% เสร็จแล้ว ก็ล็อคค่านี้ไว้ แล้วอย่าลืมยก Gray Card ออกด้วย พอยกออก ค่าแสงจะเปลี่ยนไป ก็ไม่ต้องสนใจ กดถ่ายเลย ก็จะพอดี เพราะเท่ากับเทา 18% แล้วไง... แค่นี้แหล่ะ ...แต่เจ้า Gray Card แผ่นเล็กจิ๊ดเดียว ถ้าเรา ไปถ่ายวิว แล้วถ้าจะให้พอดี ต้องเอาไปวางไว้ที่แสงที่จะ สะท้อนกลับมาที่กล้องพอดี...ตามหลักปฏิบัติ ก็ยาก เพราะเราจะเดินเอาไปวางไว้ที่ภูเขา แล้วเดินกลับมาที่ กล้องเพื่อวัดแสง แล้วค่อยถ่าย...ดังนั้น ไม่แนะนำให้ไป ซื้อมาใช้ ด้วยประการทั้งปวง นอกจากคุณจะถ่ายสิ่งของ เล็กๆ หน่อย แล้วถ่ายด้วยฟิล์มแค่ช๊อตเดียว และไม่อยาก ผิดพลาดเรื่องการวัดแสง...อันนั้น ขอแนะนำ.. ...แต่ปัจจุบัน คนใช้ดิจิตอล กันเยอะมาก ถ่ายเสร็จ ก็ดูได้ ถ้าไม่มั่นใจ ลองชดเชย เพิ่ม หรือ ลด จนกว่าจะพอใจ ก็ ไม่มีปัญหาอะไร ... เพราะผมก็ทำอย่างนี้เป็นประจำ...แค่ นี้แหล่ะนะ .. ..ขอให้สนุกกับการถ่ายภาพ... และ วัดแสงไม่เพี้ยน... ภาพนี้ ถ่ายแบบ ไม่ต้องชดเชยแสงครับ... จากคุณ : pax - [ 24 ต.ค. 47 22:19:44 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มาศึกษาครับ มีแบบนี้บ่อยๆ ผมชอบ จากคุณ : popnoi - [ 24 ต.ค. 47 23:27:15 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ใช้วิธีการถ่ายคร่อมได้ไหมครับ ? จากคุณ : mba9prelude - [ 25 ต.ค. 47 00:44:08 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ฮื่อ....มีคนถามแบบนี้ คนตอบแบบนี้ ติดตามทั้งผู้ถาม ผู้ตอบ คนถามเกิดจากตนเอง คนตอบก็ตอบจากประสบการณ์ตนเอง คนไม่รู้อย่างผม ขอเก็บเบี้ยใต้ถุนร้านก่อนนะครับ แล้วจะแวะมาบ่อยๆ อย่าล้างลาการถาม การตอบเด้อ ขอบคุณหล๊าย...หลาย ซิมาอีก จากคุณ : เนตรพิจิตร - [ 25 ต.ค. 47 00:45:22 ]

ความคิดเห็นที่ 14 มาเก็บขอมูลไว้ เพื่อจะได้นำไปทดลองในการเก็บเกี่ยวภาพในวาระต่อไป ขอบคุณ คุณน้าทุกท่านที่เข้ามาชี้แนะค่ะ PS น้องปอของน้าpax สีหวานจังเลยขอบอก จากคุณ : sun-flower - [ 25 ต.ค. 47 00:52:07 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อธิบายของยากๆ ให้ง่ายได้นี่เยี่ยมมากๆ เลยครับ ผมว่าคุณ Next LifE ต้องใช้ชดเชยแสงบนโหมด AE จนชินแล้วแน่ๆ พอปรับเป็น M แล้วงงกับเสกลบาร์ ที่วิ่งไปวิ่งมาอยู่ตลอดเวลาหรือเปล่าครับ สำหรับผมจะไม่สนใจมันครับ ผมถือซะว่ามันเป็นมอนิเตอร์บอก ว่าค่าที่เราปรับเองตอนนี้ ถ่ายแล้วจะออกมายังไงมากกว่าครับ จากคุณ : PKbike - [ 25 ต.ค. 47 08:26:47 ]

ความคิดเห็นที่ 16 มาเก็บความรู้ครับ จากคุณ : ต้อหนองหิน - [ 25 ต.ค. 47 10:18:55 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณทุกท่านคร๊าบบบบ จากคุณ : Next LifE - [ 25 ต.ค. 47 12:43:37 A:168.120.35.101 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 มาเก็บข้อมูลครับ ความรู้อีกแล้ว จากคุณ : Lemon_Icecream - [ 27 ต.ค. 47 14:04:28 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอ save ความรู้ เก็บกระทู้นะคะ @^_^@ จากคุณ : เกดจัง - [ 4 พ.ย. 47 09:33:27 ]