ความคิดเห็นที่ 1 1. เรื่องข้อกำหนดในการห้ามถ่ายรูปใมนสวนรถไฟ    ทางสวนรถไฟห้ามให้มีการถ่ายรูปในเชิงพาณิชย์เช่น ลงนิตยาสาร  หรือมาเป็นกลุ่มจำนวนมาก(มากกว่า8-10คนขึ้นไป) หรือมาในรูปแบบชมรมหรือสมาคม หรือในกรณีที่มีการใช้นางแบบ(เจ้าหน้าที่บอกมาอีกที)    หลักเกณฑ์ในการตัดสินว่าแบบไหนเป็นการถ่ายภาพเชิงพาณิชย์หรือไม่ใช่ อนึ่งอยู่ในดุลย์พินิจของเจ้าหน้าที่ที่ดูแลสวนด้วย 2. การกำหนดพื้นที่ห้ามถ่ายรูป คลอบคลุพื้นที่สวนรถไฟทั้งหมด ยกเว้น  สวนผีเสื้อ 3. การไปในลักษณะกลุ่มใหญ่ๆ(8-10คนขึ้นไป)หรือไปในนามของสมาคมหรือ ชมรมให้ทำหนังสือถึง นางสาวสมพร เชียงทอง หัวหน้าสวน สำนักงานของสวนวชิรเบญจทัศ ตั้งอยู่ภายในสวนวชิรเบญจทัศ หรือ โทร. 02- 537-9221 เพื่อสอบถามรายละเอียด จากคุณ : adisonx (adisonx) - [ 1 พ.ย. 48 20:46:41 ]

ความคิดเห็นที่ 2 กฏระเบียบของทางราชการเราเองก็ตัองเคารพ แต่ทั้งนี้ผมก็อยากทราบระเบียบการปฏิบัติของกฏ และให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติอย่างเสมอภาค ไม่ใช่เลือกปฏิบัติ เราเองก็รักสวนรถไฟและอยากจะดูแลสวนรถไฟให้อยู่กับเราเพื่อใช้พักผ่อนและถ่ายภาพจนถึงชั่วลูกชั่วหลานเหมือนกัน จากคุณ : adisonx (adisonx) - [ 1 พ.ย. 48 20:52:59 ]

ความคิดเห็นที่ 3 จ๊าบครับๆๆ เหงฮิตกันเหลือเกิน....จะได้ระวังๆตัวกัน ไม่ต้องรบกวนพี่ยาม หรือว่าทำให้ครายไม่พอจาย แต่พูดตามตรงนะ.....ก้อแค่ถ่ายรูปอ่ะ....หุหุ จากคุณ : มันจะซ้ำอีกมะ - [ 1 พ.ย. 48 20:59:12 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อ้อ เกือบลืม ขอบคุณคุณตาแห่งเวปตากล้องที่ให้รายละเอียดเบอร์โทรสำนักงานสวนรถไฟไว้นะครับ จากคุณ : adisonx (adisonx) - [ 1 พ.ย. 48 21:10:55 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอลงความเห็นไว้ที่นี่ด้วยครับ ผมมองเรื่องนี้ที่ 50-50 เมื่อเขามีกฏมาเราก็ต้องเคารพกฏ และผมมีแง่คิดนึงสะท้อนถึงคนถ่ายภาพด้วย   ซึ่งต้องบอกกันก่อนว่าผมไม่ได้โจมตี จขกท แต่อย่างไร แต่ผมฝากถึงคนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ที่ผ่านสายตาผมทั้ง จากรูปในเวบต่างๆหรือเห็นกับตา เราอาจจะงอแงว่าเขาไม่ให้ถ่าย มีสิทธิ์อะไร แต่เราลืมมองย้อนกลับไปว่าเมื่อเราได้ถ่ายภาพแล้ว เราไปทำลายอะไรที่เขาต้องดูแลรักษาบ้างรึเปล่า ตัวอย่างที่ผมเห็นชัดๆในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา ทั้งเห็นกับ ตาทั้งเห็นจากมีคนไปถ่ายแล้วเอามาลงเวบ 2-3 ครั้งแล้วที่เห็น ถ้าเห็นกับตาผมไม่รีรอที่จะจอดรถจักรยานเดินเข้าไปตักเตือน ว่าที่ทำอยู่มันไม่ควร อย่าบอกว่าพวกนั้นไม่ใช่กลุ่มถ่ายภาพนะ ครับ ผมอยู่ตรงนั้นมองปร๊าดเดียวก็รู้ ครั้งที่ผมเข้าไปตัก เตือนกล้องในมือท่านนั้นน่าจะเรียกว่าสุดยอดโปรเลยมั้ง เลน ใหญ่หยั่งกะตอหม้อ เพราะมักมีภาพนางแบบลุยเข้าไปกลางดงดอกไม้แล้วถ่ายภาพ ภาพสวยครับ ได้ทั้งฉากหน้าและฉากหลังที่สวยหวาน เวลาละลายฉากหลังแล้วมันช่างนุ่มนวลเสียจริง แต่นั่นคือคุณกำลังทำลายสิ่งสวยงามของสาธารณะนั้น ดอกไม้ไม่ใช่จะงอกเงยโตเองเฉยๆ ก็ต้องมีคนดูแลรักษา เงินภาษีของคนส่วนใหญ่ กลับต้องมาพังทรุดโทรมกับ แค่ความต้องการของคนกลุ่มเล็กๆ คงไม่ต้องให้ผมไปหาลิงก์ที่มีรูปเหล่านี้มาประจาน ให้อับอายกันนะครับว่ามีใครบ้างที่ทำแบบนี้ โตๆกันแล้ว คุยเหตุผลกันรุ้เรื่อง ผมมองว่า 50-50 เมื่อเขายอมให้เราได้ถ่ายรูปนักถ่ายภาพทั้ง หลายก็ควรแสดงความเคารพต่อสถานที่ด้วยเช่นกัน ดอกไม้ของเขาเราก็ไม่ไปย่ำไปดึง ไปถ่ายภาพมีเอาขวดน้ำไปเอาขนมไปกินเป็นเสบียง เมื่อเปลี่ยนทำเลก็ควรเอากลับไปด้วยทิ้งลงถังให้เป็นที่เป็นทาง ไม่ใช่ปล่อยทิ้งไว้งั้นแหละ ช่างมัน อันนี้ก็เคยเห็น ซึ่งเมื่อเขาให้แล้วเราไม่ทำตามกฏไม่เคารพสถานที่ ต่อไปเขา ห้ามไม่ให้ถ่ายภาพก็อย่ามางอแงกันอีกครับ เพราะพวกเราทำตัวเอง แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 48 23:13:42 จากคุณ : นายผจญภัก - [ 1 พ.ย. 48 23:10:42 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เว้นสวนรถไฟ...ไว้สักที่ โลกนี้...มีที่ให้ถ่ายรูปได้เยอะแยะ ก็มิเห็นเป็นไร รถไฟเอ๋ย............ น่าที่จะคนรถไฟใช้วิถีนี้ทำงาน รถไฟจึงหลีกลงข้างทางแถวใต้บ่อย จากคุณ : anan - [ 2 พ.ย. 48 01:02:59 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เห้นด้วยกับคุณนายผจญภัก จากคุณ : ... - [ 2 พ.ย. 48 03:03:00 A:58.10.88.169 X: TicketID:087386 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นด้วยกะคุณผจญภักเป็นอย่างมากเลย  สวนสาธาระณะหลายแห่งที่ต้องเสียพื้นที่พักผ่อนบางส่วนของคนทั่ว ๆ ไปที่จะได้ใช้พื้นที่นั้น ๆ ได้สดวกเพียงเพื่อให้นัก่ถ่ายภาพที่ไปเป็นกลุ่มเป็นคณะถ่ายภาพอย่างไม่เป็นทางการ ถ่ายภาพเป็นนานหลาย ๆ นาที  ทั้งเกะกะกับคนทั่วไปแล้ว ยังทำความเสียหายให้กับต้นไม้ ดอกไม้ เหล่านั้นให้ต้องเสียหายไปด้วย  ทั้งยังทิ้งสิ่งของ  เปลือกห่อเสบียงอาหารทีเตรียมกันไปไว้ไม่ลงถังขยะที่ได้จัดเตรียมไว้ให้  เพิ่มภาระให้กับคนดูแลโดยใช่เหตุเลย   เพราะถ้าเป็นแค่คนไปพักผ่อนเที่ยวเตร่ธรรมดา  ก็มักจะถ่ายภาพไปเพียงเพื่อเป็นที่ระลึกกันแค่นั่น  ไม่ได้ใช้เวลาในการถ่ายภาพในแต่ละที่นานมากจนจะเกิดการรบกวนคนอื่น ๆ ที่ต้องการพักผ่อนนั่นเอง จากคุณ : naytee - [ 2 พ.ย. 48 03:40:39 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ความจริงผมเองก็เห็นด้วยครับ จากคุณ : adisonx (adisonx) - [ 2 พ.ย. 48 05:21:34 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แหม เราถ่ายภาพ ก็ไม่เคยเหลียวกลับไปดูข้างหลังเล๊ย ว่ามีขยะอยู่ ไว้จะจำไว้ครับ จากคุณ : ลุงหยก - [ 2 พ.ย. 48 07:55:08 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อ่านความเห็นที่หกแล้วรู้สึกสังเวชใจ ถึงการไม่แยกแยะประเด็น และความแล้งน้ำใจ ส่วนความเห็นของคุณนายผจญภักนั้น ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 48 08:56:38 จากคุณ : Folio - [ 2 พ.ย. 48 08:53:24 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้ามีคนหัวใส คิดจะจัดสวนไม้ดอก ไม้ประดับ เพื่อสถานที่ถ่ายภาพโดยเฉพาะ แบบว่าเก็บตัง มีคน สวนใจ ไปมั๊ย ค่ะ อิอิอิ เผื่อจะทำมัง 55555 จากคุณ : โทโมกะ - [ 2 พ.ย. 48 09:04:02 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ทางสาธารณะ,ถนนสาธรณะ,อะไรที่เป็นสาธารณะอีกหน่อยจะโดนห้ามไม่ให้ถ่ายด้วยไหมเนี่ย? จากคุณ : น้าวิทย์005 - [ 2 พ.ย. 48 10:33:49 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เห็นด้วยกับนายผจญภัค และเห็นใจผู้ที่มีหน้าที่ดูแลสวนสาธารณะนะครับ ก็เขาทำตามหน้าที่นี่นา ก็เท่าที่ผมดูกระทู้ที่จะจัดทริปไปถ่ายรูปที่สวนรถไฟแล้ว ผมขอเสนอแนะครับ ว่าควรจะรวมกลุ่มวางแผนและก็กำหนดวัน และเวลาไว้ล่วงหน้าไปเลยอย่างน้อย 2 อาทิตย์ เพื่อทำเรื่องขออนุญาตใช้สถานที่ จะไม่ใช่เมื่อก่อนหน้านี้ที่นึกจะไปถ่ายรูปก็ไปกัน อย่างน้อยเราทำตามกฏก็มีข้อดีตรงที่ทางเจ้าหน้าที่เขาก็จะอำนวยความสะดวกให้เราเป็นอย่างดี ไม่ต้องคอยหลบ ๆ ซ่อน ๆ ด้วย จากคุณ : chankij - [ 2 พ.ย. 48 10:54:49 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ก็เป็นเรื่องธรรมดาเค้าคงอยากรู้ถึงจุดประสงค์ของการถ่ายรูปเท่านั้นเองมั้งคิดมาก เห็นมาถ่ายกันเยอะๆ จากคุณ : ตั้มท่าพระจันทร์ - [ 2 พ.ย. 48 11:16:21 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ถ้ามีการทำลายต้นไม้เสียหายจริง ก็สมควรห้ามครับ จากคุณ : d-k - [ 2 พ.ย. 48 14:28:11 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เว้นไว้สักที่ก็ไม่เป็นไรครับมีเหตุผลดี เเม้เเต่ในห้องนอนก็ถ่ายรูปสวยๆในมุมเเปลกได้เเล้ว จากคุณ : ตั๋งคุง - [ 2 พ.ย. 48 16:58:12 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ผมเห็นด้วยกับน้า"นายผจญภัก" ครับ ถ้าพวกเราช่วยกันตักเตือนพวกเราเช่นนี้ ใครๆก็จะยินดีต้อนรับพวกเราเองครับ จากคุณ : ตะเกียงลาน - [ 2 พ.ย. 48 17:06:11 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สวนรถไฟ ไม่น่าจะเกี่ยวกับรถไฟจริง ๆ เพราะเดิมเคยเป็นที่ของการรถไฟเท่านั้น ไม่น่าไปแนะแหน รถไฟสายใต้เลย จากคุณ : หมอดาริน - [ 2 พ.ย. 48 18:34:13 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ถามหน่อยทำไมเมื่อก่อนเค้าไม่ห้ามถ่ายรุป???? แต่ทำไมตอนนี้หลายที่ถึงห้ามถ่ายรูป???? มีนักถ่ายรูปบางคนไปทำอะไรไม่ดีเอาไว้หรือป่าว ??? ไม่มีเหตุ อยู่ดีๆ ทำไมถึงมาห้ามถ่ายรูปหลายๆที่เลยนะลองสังเกตดูไม่ใช่ที่เดียว และอีกหน่อยอาจจะเป็นทุกที่เลยก็ได้ ถ้าหากเรายังไม่สาเหตุแล้วรีบแก้ไขกัน อย่างที่คุณนักผจญภัก แสดงความเห็นไว้ก็อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งก็ได้ ในสังคมของคนกลุ่มหนึ่งมักจะมีคนที่ไม่ดีทำให้เสียหายไปถึงคนทั้งกลุ่ม เหมือนปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งเข่ง คงไม่มีหรอกที่อยู่ดีๆคนจะมาเกลียดช่างภาพโดยไม่มีสาเหตุ มันย่อมมีสาเหตุมาก่อนแน่ๆต้องมีใครไปทำอะไรไว้ ยกตัวอย่าง เท็กซี่มหาภัย ที่จี้ชิงทรัพย์ และข่มขืนผู้หญิง ความจริงมีอยู่จำนวนน้อยนิด แต่คนเค้าก็มองรวมๆไม่รู้ใครเป็นใครเค้าก็ระแวงไปก่อนทั้งนั้นแหละ เหมือนปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งเข่ง เพราะฉะนั้นเวลาใครไปทำอะไรไว้ขอให้คิดถึงผลที่ตามมาด้วยไม่ใช่แค่ตัวคุณคนเดียวที่จะเสียหายแต่มันส่งผลถึงภาพรวมทั้งหมด ปล. พวกแอบถ่ายอีกพวกหนึ่งที่น่ารังเกลียดสักวันต้องทำให้พวกเราเดือดร้อนแน่ จากคุณ : .... - [ 2 พ.ย. 48 18:41:09 A:61.91.126.30 X: TicketID:087386 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เป็นธรรมดาครับ ... จากคุณ : (ก้อนหิน) ละเมอ -_- ..z..z..z - [ 2 พ.ย. 48 19:43:17 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ถูกต้องอย่างคุณนิรนามว่าแล้วครับ ช่างภาพมีเป็นหลายสิบคน ที่ไปถ่ายที่นั่น ถ้ามีเพียงคนเดียว หรือไม่กี่คนที่ทำแบบที่ว่านั้น มันก็ เสียชื่อไปทั้งหมดเลยครับ ก็รู้อยู่ปากคนเราสามารถ สร้างและทำลายอะไรได้ทุกสิ่งในโลก พูดให้ดี ก็ดีไป พูดให้เสียมันก็เสียแน่ ๆ  มีเพียงคนเดียวหรือสองคน ทิ้งขยะมันเรื่อยเปื่อย  คนที่มองเห็นก็ต้องพูดและ บอกกันต่อ ๆ ไปแล้ว ว่า ก็ไอ้กลุ่มที่มาถ่ายรูปนั่น แหละเป็นคนทำ  ทั้ง ๆ ที่ อีกหลายสิบคนที่ผมไป ด้วยแล้ว ก็พยายามที่จะไม่ทำอะไรให้เสียหาย ผมก็เป็นคนหนึ่ง วันนั้นถังทิ้งขยะเต็มทั้งสองใบ ผมก็ต้องเดินไปลากถังขยะจากอีกที่ซึ่งตรงนั้น มีอยู่สามใบ ว่าง ๆ อยู่ ลากมาตั้งให้ทุกคนได้ ทิ้งขยะ เพราะผมก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่อยากเห็นและ ไม่อยากได้ยินว่า พวกมาถ่ายรูปนี้แหละ ทิ้งขยะ เกลื่อนกลาด มันเป็นความจริงเลยครับสำหรับ คำพูดของคน จากคุณ : ผมแดงครับ - [ 2 พ.ย. 48 20:08:34 ]

ความคิดเห็นที่ 23 1.สวนรถไฟไม่ได้มีแปลงดอกไม้ ยกเว้นแปลงดาวกระจายอยู่สองสามหย่อม 2.การไปถ่ายรูปเท่าที่เคยเห็น ไม่ได้เข้าข้างใคร ไม่เคยเห็นมีการไปเกะกะกีดขวางที่พักผ่อนของประชาชนทั่วไปอย่างแน่นอน เพราะคนถ่ายรูปถึงจะ-แช่-ก็ไม่ได้แช่นาน จะย้ายมุมไปเรื่อยๆ ต่างกับคนไปพักผ่อนซึ่งจะนั่งสังสรรค์กันนานจนมืดค่ำในที่ๆเดียวเสียด้วยซ้ำ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องรังคัดรังแคอะไรกัน-- เพราะตรงไหนมีคนนั่งพักผ่อนก็จะไปหาที่อื่นๆนั่งกัน ข้อหาเรื่องการที่นักถ่ายภาพไป--แช่--จึงควรไม่เอามากล่าวอ้าง ส่วนเรื่องทำสกปรกยิ่งแล้วใหญ่-- คนถ่ายภาพส่วนใหญ่ระวังเรื่องสิ่งแวดล้อมมาก ถ้าจะถามว่านักถ่ายภาพเข้าไปเหยียบย่ำอะไรในสวนรถไฟ ตอบเลยว่า--ไม่มีแปลงดอกไม้อะไรให้เหยียบย่ำ เพราะไม่มีแปลงดอกไม้--(มีแค่ดาวกระจายสองสามหย่อม) นอกจากสนามหญ้าซึ่งใครๆก็เดินไปเดินมากันปกติ เรื่องของเรื่องคือ --หาคำตอบและเหตุผลไม่ได้ว่า----ทำไมถึงอยากห้าม-- มันเข้าตำราเดียวกับผู้ดุแลวัดพระแก้วที่(ขอโทษ) --งี่เง่า--มากๆ--ในการห้ามเอากล้องมีเดียมฟอร์แมตเข้าไปถ่ายภาพ เพราะอ้างว่ากล้องขนาดนี้เป็นกล้องถ่ายภาพโฆษณา---- มาตรฐานและกฎเกณฑ์ของคนพวกนี้ คือความพอใจส่วนตัว--โดยไม่มีเหตุผล -ขอโทษ-- ผมเป็นคนใช้ท่าทีในการประนีประนอม แต่กับคนพวกนี้--ไม่มีประนีประนอม เพราะอย่าให้ตอบว่า เพราะสวนอื่นๆมีการเรียกค่าคิวบางคนที่เข้าไปถ่ายเวดดิ้ง ก็เลยเหมาเอาว่าพวกที่พานางแบบไปถ่ายซ้อมมือ หรือคนสะพายกล้องแพงๆคงหากินเช่นกัน ---------ผมไม่ได้กล่าวหา--แต่ยืนยัน--- นี่คือการทำทาง--ปูทางเพื่อหากินของคนเฝ้าสวน จากคุณ : มังกรดำ - [ 2 พ.ย. 48 23:08:52 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ตอบน้ามังกรดำครับ ใช่ครับตรงแปลงดอกดาวกระจายนั่นแหละที่ผมเคยต้องจอดรถไปปรามสองสามทีแล้ว และมีคนไปถ่ายนางแบบล้วให้ไปยืนกลางดงดอกนั่น  เท่าที่นับนิ้วดูก็สามเวบแล้วที่เห็นรูป มีสองครั้งที่เป็นคนที่ผมรู้จัก  ผมก็ติงไปอย่างจริงใจกลับโดนมองกลับมาว่าเครียดไปป่าวซะอีก ซึ่งเราเป็นคนถ่ายภาพเข้าใจว่าอยากให้ไปยืนเพราะอะไร  แต่นั่นก็คือสิ่งที่ไม่เหมาะ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าภาพเหล่านี้มีคนเห็นและคิดว่าทำได้ไม่ผิด และทำตามกันใหญ่ก็ คงไม่ดีจริงไหมครับ  และยิ่งไม่ดีใหญ่ถ้าภาพเหล่านี้ถูกพบเห็นจากสายตาคนนอกที่ ไปวิ่งเดินเล่นออกกำลังกายที่นั่น ตรงเรื่องไปรบกวนใครผมไม่ได้ติดปรเด็นตรงนั้น ดังนั้นเลยไม่มีปัญหาครับ ผมเน้นแค่เรื่องการเคารพสถานที่ไม่ไปทำลายของเค้าแค่เรื่องเดียว แต่เรื่องสกปรกผมกล้ายืนยันครับ ว่ามี กลุ่มของน้าอาจจะไม่ได้ทำ แต่ก็ใช่ ว่าจะไม่มีกลุ่มอื่นที่ทำ  ที่ผมเปิดประเด็นก็เพื่อให้พวกเราช่วยกันสอดส่อง และเตือนเพื่อนในวงการเดียวกันให้ได้รับรู้ และไม่ทำให้คนอื่นมองภาพคน ถ่ายภาพทั้งหลายในมุมไม่ดี คนไทยหลายคนแปลกอยู่อย่าง  มักไม่เข้าใจคำว่าสิทธิและหน้าที่ความรับผิดชอบมากพอ เราต้องการได้สิทธิ์บางอย่าง แต่ก็มักจะลืมมองข้ามไปว่าทุกอย่างที่ได้มา ก็ต้องมีสิ่งที่เสียไป สิทธิ์ที่ได้มาก็ต้องมาควบคู่กับสำนึกและความรับผิดชอบในสิทธิ์เหล่านั้น ผมไม่อยากให้ประเด็นนี้จบอยู่แค่สวนรถไฟ อยากให้มันครอบคลุมกับทุกสถานที่ ที่พวกเราไปถ่ายภาพกัน  การเคารพในสถานที่ไม่ก่อความเดือดร้อน หรือเสียหายให้สถานที่นั้นถือเป็นวิสัยของผู้เจริญทั้งหลายครับ จากคุณ : นายผจญภัก - [ 3 พ.ย. 48 00:59:29 ]

ความคิดเห็นที่ 25 พูดกันตามตรงเลยนะครับ ถ้าเห็นใครไปถ่ายรูปออกแนวทำลายสถานที่ หรือไปก่อกวนก็จัดการเป็นรายๆ ไปสิครับ ส่วนใครที่ไปใช้สถานที่ด้วยความเคารพ ก็ไม่ควรไปห้ามเขา ในเมื่อมันยังใช้คำว่า สวน"สาธารณะ" อยู่...จริงมั๊ยครับ ผมก็เคยเห็นคนทั่วไป (ที่ไม่ใช่พวกมาถ่ายภาพ) ถือกล้องตัวเล็กๆ ถ่ายไปทิ้งขยะไป ลุยดงดอกไม้เข้าไปถ่าย จะว่าไปผมก็เคยเห็นเช่นกัน แบบนี้คุณจะห้ามประชาชนทุกคนเข้าไปในสวนเลยอย่างนั้นหรือครับ ในเมื่อมีแค่ไม่กี่คนที่ทำเช่นนี้ จากคุณ : Mr.Potter - [ 3 พ.ย. 48 10:49:53 ]

ความคิดเห็นที่ 26 งง แปลงดอกไม้ หรือ หย่อม แค่ไปยืนข้างๆ ไม่เคยไปเหยียบ กลัวงูฉกตาย อาหาร ขยะ  เชื่อเหอะ น้อยกว่าพวกที่ไปพักผ่อนที่ยกปิ่นโต ไปนั่งกินกันจิงๆจังๆ หรือช่างกล้องท่านใดพกข้าวปลาอาหารไปกินกันหรือไงอย่างมากก็น้ำ 1 ขวด ถ้าคนมันทิ้งเรี่ยราด ไม่ลงถัง ถือเป็นสันดานของคนๆนั้นครับ(ไม่แรงไปนะ) อัตราส่วนของคนไปถ่ายรูปกะไปพักผ่อน ห่างไกลครับ ช่างกล้องไปกันส่วนมาก็เสาร์อาทิตย์ ไปกันกลุ่มละ 8-10 คนขี้น (กลุ่มใหญ่ นานๆที) ผมไม่เชื่อว่าคนกลุ่มๆนี้(น้อยนิดจะทำให้สวนสกปรกได้มากมาย กว่าคนที่มาพักผ่อนได้หรอก) ผมเล็งเห็นมันคือโอกาส(หาเงิน)ของคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น แต่ผมยังเห็นด้วยที่ว่าหากมีการไปถ่ายรูปกันเป็นกลุ่มควรมีการขออนุญาติก่อน แต่ถ้าไปถ่ายนก ชมวิว ไปกันสองสามคน ไม่ควรจะมีข้อห้ามอะไร เฉกเช่นเดียวกับ ไปพักผ่อน เพียงแต่พักผ่อนด้วยการถ่ายรูปอ่ะ เป็นความเห็นส่วนตัวเท่านั้นนะครับ จากคุณ : ตั้มท่าพระจันทร์ - [ 3 พ.ย. 48 10:54:02 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เห็นด้วยกับลุงมังกรดำและพี่ตั้มนะคับ แต่การจะแยกแยะว่ากลุ่มไหนทำลายหรือไม่ทำลาย กลุ่มไหนเชิงพานิชย์หรือเป็นแค่งานอดิเรก อาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับ รปภ ซึ่งเค้าคงไม่ได้มีความรู้อะไรมากนัก ถ้ามองในแง่ดี การห้ามถ่ายทั้งหมดอาจเป็นการแก้ปัญหาโดยการตัดไฟแต่ต้นลม (ที่ดูง่ายไปนิด ) ยังไงก้อขอไว้อาลัยแก่สถานที่สวย ๆ อีกแห่งนึงที่เราไม่สามารถเข้าไปถ่ายภาพได้อีกต่อไปคับ จากคุณ : สิบสี่มิล - [ 3 พ.ย. 48 12:18:12 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ตกลงนี่เค้าห้ามเข้าไปถ่ายรูปเลยหรอครับ แบบไปถ่ายรูปเป็นกลุ่มแบบประมาณ 3 คน หรือ 4 คน กรณีนี้ก็ไม่ได้เลยหรอครับถ้าเป็นแบบนี้แย่นะครับเนี่ย ไม่เห็นด้วยในเรื่องห้ามถ่ายรูป ผมว่ากรณีที่เข้าไปทำลายดอกไม้ ต้นไม้ของสวนคงไม่ใช่พวกตากล้องอย่างเดียว คนที่ไปพักผ่อนก็ไปเป็นคนไปทำลายก็มี หรือ พวกเด็กๆ ก็เห็นมีไปเที่ยวเล่นที่นี่เยอะ ก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ไปทำลาย ถ้าจะห้ามทำมัยไม่ปิดสวนไปเลยล่ะครับ จากคุณ : ไม่เห็นด้วย (Bluehat) - [ 3 พ.ย. 48 13:52:32 ]

ความคิดเห็นที่ 29 กฎ สะกด ด้วย (ดอ) ฎ ชฎา นะครับ ไม่รู้อะไรกันนักหนา จะหาเรื่องให้มันยุ่งยากทำไม พอขออนุญาตแล้ว อะไรจะประกันได้ว่า ต้นไม้ไร่ ไม่เจอเหยียบ คนไปเที่ยว (ปราศจากกล้อง) ไม่เหยียบ วัดพระแก้ว ท่านห้ามรองเท้าแตะ อย่างนี้ มีเหตุมีผล --------- หลายปีก่อน ผมสุดเซ็งกับห้างอิมพีเรียล ห้างใหญ่โตโอ่โถง ที่มีวิธีการซื้ออาหารกินที่แปลกประหลาด food center กล่าวคือ สั่งอาหารแล้ว เด็กจะให้คูปอง 1 ใบ แล้ว เรา เอาคูปองไปชำระเงิน แล้วจึง เดินกลับมาที่ร้าน เพื่อรับอาหารเอาไป ... ไม่รู้คิดได้ไง ทว่า ปัจจุบัน ห้างเป็นไง ก็เห็นๆ อยู่ ----- สวนรถไฟ ระเบียบติ๊งต๊อง บ้าบ๊องส์ เลิกเหอะ เห็นกล้องเป็นหมูหมาไปด้าย จากคุณ : tik - [ 3 พ.ย. 48 14:55:46 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อย่าเถียงกันเลยครับ ใครกลุ่มไหนทำก็ช่างเถอะ มันผ่านไปแล้ว อย่าไปโทษว่าคนโน้นก็ทำ คนนี้ก็ทำ ไม่มีประโยชน์อะไร ผมขอเสนอว่า ต่อไปนี้เรามาสร้างภาพลักษณ์ที่ดีๆของผู้ที่รักการถ่ายภาพดีกว่า ไม่ว่าในที่สาธารณะหรือที่ไหนก็ตาม อย่าให้ใครมารังเกียจเรา คงไม่มีใครอยากได้ยินคนอื่นพูดว่า "ไอ้พวกนี้มาถ่ายรูปกันอีกล่ะ", "เมื่อไหร่มันจะไปกันซะที" คงจะไม่ดีแน่ถ้าเขามองเราแบบนั้น เรามาสร้างวัฒนธรรมดีๆของคนที่รักการถ่ายภาพกันดีกว่าครับ ยกตัวอย่างเช่นเหตุการณ์ข้างบน เมื่อเห็นคนอื่นลุยเข้าไปในแปลงดอกไม้ก็ช่วยกันตักเตือน ว่าสิ่งที่เขาทำอยู่นั้นมันไม่ถูกต้อง คนที่ถูกตักเตือนก็อย่าเพิ่งไปโกรธเค้านะครับ ดูสิว่าเราทำอะไรให้ต้นไม้เค้าเสียหายจริงหรือเปล่า หรือเจอขยะทิ้งอยู่ตามข้างทาง หรือกลางสนามก็ช่วยกันเก็บไปทิ้งถังขยะ อย่าไปคิดว่ามันไม่ใช่หน้าที่เราที่จะต้องเก็บ ช่วยๆกันครับเก็บไปทิ้งเถอะ เผื่อว่าคนที่ทิ้งเอาไว้มันเห็นจะได้มีความละอายบ้าง แค่เดินถือขยะไปทิ้ง มันไม่ได้ทำให้เราเสียพลังงานมากหรอกครับ ใครเห็นเค้าก็ชื่นชมว่าพวกที่มาถ่ายภาพเนี่ยนิสัยดีทั้งนั้น อยากให้มองโลกในแง่ดีกันบ้างครับ สิ่งที่ผ่านไปแล้วก็ผ่านไป มาสร้างภาพลักษณ์ดีๆของคนที่อยู่หลังกล้องกันเถอะ ก่อนที่สถานที่สาธารณะต่างๆจะเอาป้ายห้ามถ่ายรูปมาติดกันหมด แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 48 17:00:08 จากคุณ : รองเท้าเปื้อนฝุ่น (dirty shoe) - [ 3 พ.ย. 48 16:57:56 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อีกเรื่องนึงครับ เกี่ยวกับพวกเรากันเองเนี่ยล่ะ ในการใช้พื้นที่สาธารณะต่างๆในการถ่ายภาพ ช่วยชำเลืองดูหน่อยว่ามีใครต้องการจะใช้พื้นที่ตรงนี้ต่อจากเราหรือเปล่า มีน้ำใจให้กับคนอื่นบ้างนะครับ (เหตุการณ์นี้ผมเจอกับตัวเอง ที่สวนรถไฟเนี่ยล่ะ อาจจะเป็นเรื่องส่วนตัวสักนิด อย่าว่ากันนะ) location ที่เราถ่าย ไม่ได้มีเราคนเดียวที่เห็นว่ามันสวย เมื่อถ่ายเสร็จแล้วควรให้คนอื่นได้ใช้บ้าง อย่าคิดว่าเรามาก่อนจะใช้นานแค่ไหนก็ได้(จริงๆวันนั้นผมมาถึงก่อน แต่รอนางแบบแต่งหน้าอยู่) จากคุณ : รองเท้าเปื้อนฝุ่น (dirty shoe) - [ 3 พ.ย. 48 17:13:38 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ผมกลับมาอ่านอีกที ตอนที่ผมได้คุยกับห.นผู้ดูแลสวนสิ่งที่ท่านหว่งคือ 1. การที่ช่างภาพถ่ายภาพในเชิงพาณิชย์ คือมีก่นำภาพไปขายหรือลงในนิตยสาร 2. การที่คนกลุ่มใหญ่มาใช้สถานที่ถ่ายรูปซึ่งอาจจะไปรบกวนผู้อื่น ถ้าในกรณีท่านไปถ่ายไม่ใช่เชิงพาณิชย์ และไปกัน3-4คน ผมว่าคุยกันได้ครับ เพราะผมเองก็โดนเหมือนกันแต่ก็อธิบายและเจรจากับเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าท่านก็ดูเป็นมิตรดีและต้องเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่มีหน้าที่ต้องทำตามกฏที่ผู้บังคับบัญชาวางไว้ ส่วนเรื่องที่มีนักถ่ายภาพไปทำลายสภาพแวดล้อมหรือทำความรำคาญกับผู้มาใช้สวน อันนี้ผมเองก็พอจะเคยเห็นมาบ้างแต่ส่วนน้อยมากครับน้อยมากจริงๆ แต่คนกลุ่มนี้แหละครับที่ทำให้เราต่อไปจะไม่มีสถานที่ถ่ายภาพ จากคุณ : จขกท (adisonx) - [ 3 พ.ย. 48 20:25:31 ]

ความคิดเห็นที่ 33 .+++++ 1. การที่ช่างภาพถ่ายภาพในเชิงพาณิชย์ คือมีการนำภาพไปขายหรือลงในนิตยสาร .+++++ ------ภาพจากสวนรถไฟนี่น่ะหรือสวยขนาดเอาไปขาย-? ------ภาพเอาไปลงนิตยสาร-- อันนี้แย่เข้าไปใหญ่/เขาทำปชส.ให้- ไม่ดีหรือ-?-------- ข้ออ้างหน่อมแน้มเกินไป ผมยังยืนยัน--เรื่องผลประโโยชน์-- จากการที่เห็นสวนอื่นๆเก็บเงินมีรายได้ (เข้ากระเป๋า) การทำความรำคาญให้ผู้มาใช้สวน-? กิจกรรมในนั้นไม่พลุกพล่านจอแจอยู่แล้วหรือ จักรยานให้ควั่ก-- ช่างเถอะ--ยุ่งยากนักก็ไม่เข้าไปใช้ จากคุณ : มังกรดำ - [ 3 พ.ย. 48 21:16:51 ]

ความคิดเห็นที่ 34 สวนสาธารณะทุกแห่งในฮ่องกง เค้าเดินถือกล้องถ่ายรูปกันให้ควั่ก.... แถมที่ฮ่องกงปาร์คมีที่จดทะเบียนแต่งงานอยู่ข้างในเลย จดทะเบียนเสร็จ ถ่ายรูปในสวนพร้อม.... ใครจะเอานางแบบเข้าไปถ่ายก็ไม่ว่ากัน คนพักผ่อนกับคนถ่ายรูปก็ดูจะไม่ได้เคืองหรือเขม่นกันเลย เห็นมีป้ายห้ามใช้ขาตั้งกล้องอยู่แห่งเดียวในกรงนกแบบคนเดินผ่านเข้าไปได้ เพราะมันเป็นสะพานไม้ไม่กว้างนัก เดี๋ยวเกะกะคนอื่นเขา อ้อ... ในสวนพฤษศาสตร์ด้วย เพราะทางเดินมันแคบเหมือนกันครับ.... รูปที่ไปถ่ายมาครับ มีตากล้องฮ่องกงมาถามด้วยว่าทำไมต้องใช้ฟิลเตอร์แดง... (ไม่รู้เรื่องหรอกครับ แต่ดูที่เขาชี้ๆ เอา) เห็นกทม.มาดูงานที่ฮ่องกงบ่อยๆ น่าจะเอาตรงนี้ไปปรับใช้นะครับ พื้นที่ก็กว้างกว่ากันตั้งเยอะ จากคุณ : w@@n - [ 3 พ.ย. 48 22:53:35 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 3 พ.ย. 48 22:56:36 ]

ความคิดเห็นที่ 36 สาธารณะคือของเราทุกคนครับ "ไม่ใช่ของเราคนเดียว" คนดูแลสวนก็คือคนที่รับจ้าง(ด้วยเงินภาษีของเรา) ให้มาดูแลของของเราทุกคน "เมื่อยังไม่มีวิธีที่ดีที่สุดเฉพาะเจาะจงในการแก้ไขปัญหา" ก็เลยต้องป้องกันปัญหาไว้ก่อนครับ คนอื่นๆที่เห็นสวนเละเทะ คนดูแลสวนแหละโดนอัดไม่ใช่คนทำลายสวนที่ไปไหนแล้วก็ไม่รู้.... ถ้าทุกคน(หรือส่วนใหญ่มาก)มีจิตสาธารณะ และกระทำเห็นแก่สาธารณะจริงแล้ว ก็จะไม่มีการห้ามแน่นอนครับ คนสวนถึงหัวหน้าสวนก็ไม่ต้องโดนอัดด้วย จะมานั่งชมนางแบบน่ารักด้วย อีกต่างหาก จากคุณ : ยามเฝ้าสวนครับ - [ 3 พ.ย. 48 23:04:52 A:203.113.67.36 X: TicketID:110743 ]

ความคิดเห็นที่ 37 แหะๆๆๆ จะบอกว่าคนอื่นๆ ที่ไม่ได้มา่่ถ่ายรูปในสวนฯ ไม่มีโอกาสทำสวนเละเทะเหรอครับ.... ผมว่าตากล้องทั้งหลายเป็นคนส่วนน้อยในสวนฯ เสียด้วยซ้ำไป ถ้าอย่างนั้นติดประกาศว่า "ห้ามทุกคนเข้าสวนสาธารณะ เว้นแต่ได้รับอนุญาต" ไปเลยดีกว่า อิอิอิ.... เหตุผลอีกอย่างคงเพราะ เมืองไทยยังไม่นับว่าการถ่ายรูปเป็นการหย่อนใจมั้งครับ จากคุณ : w@@n - [ 4 พ.ย. 48 00:17:45 ]

ความคิดเห็นที่ 38 จากคุณ : BabyOiL - [ 4 พ.ย. 48 01:11:01 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เมื่อยังไม่มีวิธีที่ดีที่สุดเฉพาะเจาะจงในการแก้ไขปัญหา ----------------------------- ขอคำยืนยันชัดๆจากคนห้ามว่า เพราะตากล้อง---ไปทำไม่ดี-ทำให้สวนเสียหาย จึงต้องหาทางป้องกันก่อนเกิดเหตุ วันนั้นคนอุ้มหมาเข้าไป ผมก็ชี้ให้คนอุ้มหมาดูป้าย-ห้ามนำสัตว์เข้าไปในสวน แล้วก็หันไปให้สัญญาณให้ยาม-สี่ห้าคน-ดู ไม่เห็นยามคนไหนจะสนใจ หมาตัวน้อยกับเจ้าของก็เข้าไปในสวนตามสบาย ตัวอย่างที่ยกมานี้ขอบบอกว่า ที่อ้างๆกันมาไม่ใช่หรอก หากจะเคร่งครัดระเบียบบ--อย่างกรณีนั้นก็ต้องมียามสักคนเข้าไปเตือนเจ้าของหมาแล้ว คนสวนและหัวหน้าสวน ยากจนขนาดต้องคอยเก็บเงินคนเข้าไปถ่ายรูปเลยหรือ สวนอื่นๆเขาได้ค่าคิวไง-สวนนี้ก็ต้องได้บ้าง แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 48 01:31:08 จากคุณ : มังกรดำ - [ 4 พ.ย. 48 01:29:55 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ผมเห็นอะไรอยู่อย่างนึงจากความคิดเห็นต่างๆในกระทู้นี้ พวกเรามาพูดๆแล้วก็ไป เหมือนให้สะใจในอารมณ์เท่านั้น เห็นได้ชัดว่าใครคนนึงคิดยังไงก็ปักใจแบบนั้นและ ไม่เปิดกว้างรับความคิดอื่นที่อาจจะไม่สอดคล้องกับตัวเอง เข้ามาเพื่อคิดและพิจารณาบ้าง  ผมว่าส่วนใหญ่โตๆกันแล้วนะครับ ผมก็เห็นด้วยครับ ที่คนทำลายสวนไม่ได้มีแต่ช่างภาพ คนทั่วไปก็มี แต่เราจะมาอ้างแบบนั้นเพื่อบอกว่าคนอื่นทำได้ เราก็ต้องทำได้มันไม่ต่างกับ 50 ก้าวเยาะเย้ย 100 ก้าวเลย ถ้าเราเห็นตรงนั้นก็เข้าไปตักเตือนได้ ผมเองก็ทำบ่อยๆ เพราะสวนรถไฟสำหรับผมมันเป็นอะไรมากกว่าที่ๆเข้าไป แค่เพื่อการถ่ายภาพบ่อยครั้งมากที่ผมเข้าไปเพื่อนอนเล่นอ่านหนังสือเฉยๆ ทำไมเราไม่ช่วยกันหยุดต้นเหตุของปัญหาทีละอย่างล่ะครับ จากนั้นก็ร่วมกันหาทางสร้างข้อตกลงร่วมกัน เอาให้แบบชัดๆ ไปเลย และไม่ใช่แค่ที่สวนรถไฟ  เอาให้ครอบคลุมสถานที่ส่วนใหญ่ ในกทมไปเลยว่าคนถ่ายภาพมีสิทธิ์อะไรยังไงบ้าง   ในการไปถ่าย สวนสาธารณะต่างๆในกทมแบบไหนที่อนุญาตได้เลย แบบไหนที่ควรขอเขาให้เป็นเรื่องเป็นราวก่อน   ผมชอบการกระทำของ จขกท นะครับที่ไม่ได้เอาแต่โวยวายใช้แต่อารมณ์ แต่มีการยอมเสียเงินค่าโทรเสียเวลาโทรไปคุยกับผู้ดูแลสวนเพื่อรับทราบ กฏเกณฑ์แบบชัดๆ  จริงๆคนถ่ายภาพก็มีสมาคมเเป็้นเรื่องเป็นราว ถ้าข้องใจกันจริงๆทำไมไม่รวมกลุ่มกันยื่นขอสมาคมให้ช่วยสรุปในเรื่องนี้ กับทางกทมให้ชัดเจนล่ะครับ  ซึ่งถ้าจะทำผมก็ยินดีให้ความร่วมมือเป็น ส่วนหนึ่งในรายชื่อหรือเข้าไปนั่งรับฟังด้วยก็ได้ เพราะอย่างตอนผมไปถ่ายนางแบบในสวนรถไฟเพื่อซ้อมฝีมือ ก็เพิ่งไปถ่ายมา วันที่ 22 ตุลานี้เองตอนถ่ายยามก็เห็นนะแต่เขาก็หยุดดูแป๊บนึงและไม่ได้ว่าไร ขี่จักรยานต่อผ่านไปเฉยๆ อาจจะเพราะไปกันน้อยก็ได้มีผม นางแบบ และ เพื่อนตากล้องอีกคนเท่านั้น  และไม่ได้ทำตัวเกะกะชาวบ้านเขา ยามก็เลยไม่ว่าอะไร ผมเชื่อว่าปัญหาทุกอย่างมันมีหลายมิติครับ  ในหลายๆครั้งการแก้ปัญหาไม่สามารถทำได้ด้วยวิธีการเพียงวิธีเดียว จำเป็นต้องใช้หลายวิธีเข้าช่วยทั้งวิธีที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในระยะสั้นชั่วคราวก่อน และวิธีถาวรเพื่อลดต้นเหตุของปัญหาลงไปอีกข้อให้ได้   การจะมาบอกว่าก่อนจะมาห้ามชั้น นายไปห้ามพวกนั้นให้ได้ก่อนสิ มั่นใจได้ว่าปัญหาไม่จบหรอกครับ เพราะเกี่ยงกันไปเกี่ยงกันมา ลองช่วยลดกันสาเหตุลงปัญหาก็ทุเลาลงได้  ถึงปัญหาจะไม่หมดไป (ยังไงก็ไม่มีทางหมดได้หรอก) แต่เมื่อควบคุมระดับของปัญหาได้แล้ว   การสร้างข้อตกลงเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติก็คือทางออกสุดท้าย ที่ดีที่สุด ขอแค่ให้มั่นใจได้ว่าแต่ละฝ่ายจะไม่มีใครแหกกฏข้อตกลงนั้นลงเท่านั้นก็พอ จากคุณ : นายผจญภัก - [ 4 พ.ย. 48 04:21:02 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เห็นได้ชัดว่าใครคนนึงคิดยังไงก็ปักใจแบบนั้นและ ไม่เปิดกว้างรับความคิดอื่นที่อาจจะไม่สอดคล้องกับตัวเอง *** ครับ ด้วยความเคารพ ผมก็เห็นเช่นนั้นกับความคิดของคุณเหมือนกันครับ ผมชอบการกระทำของ จขกท นะครับที่ไม่ได้เอาแต่โวยวายใช้แต่อารมณ์ *** คุณคิดว่าประโยคนี้สร้างสรรค์แล้วเหรอครับ เสียดสีมากครับ "แต่เราจะมาอ้างแบบนั้นเพื่อบอกว่าคนอื่นทำได้ เราก็ต้องทำได้มันไม่ต่างกับ 50 ก้าวเยาะเย้ย 100 ก้าวเลย" *** คงเข้าใจอะไรคลาดเคลื่อนมากกว่า ไม่ใช่คนอื่นทำได้ เราก็ต้องทำได้ แต่... ช่างภาพทำอะไรผิดหรือ ถึงต้องโดนห้ามไม่เหมือนกับคนอื่นๆ ที่เข้าไปใช้บริการในสวนต่างหาก การเหยียบเข้าในแปลงดอกไม้ผมก็ไม่เห็นด้วยครับและก็ไม่เคยทำด้วย แต่ต้องเป็นกลุ่มช่างภาพเท่านั้นเหรอครับ ที่ชอบเหยียบเข้าไป ผมเห็นคนธรรมดาๆ ที่พกกล้องคอมแพคไปเพื่อเก็บรูปครอบครัว ก็บุกเข้าไปเหมือนกัน หรือว่าพอเข้าไปแล้วเขากลายเป็นช่างภาพครับ ถ้าเรื่องนี้เป็นปัญหาจริงๆ แล้วผมคิดว่าทางสวนฯน่าจะมีทางแก้ที่ดีกว่านี้ เช่นจัดเจ้าหน้าที่ดูแลให้ครอบคลุมพื้นที่เพียงพอ เพื่อดูแลความเรียบร้อยอย่างเท่าเทียมกัน อย่างผมถ้าเข้าไปผมก็คงไปถ่ายดอกไม้ใบหญ้า เพราะผมไม่ค่อยชอบ portrait เคยอ่านเจอว่าบางคนเข้าไปถ่ายรูปดอกไม้เล่นๆ ไม่มีขาตั้ง ยังโดนห้าม! มาตราฐานนี้ใครกำหนดครับ เออ ถ้าโชคดีเจอยามที"่คิดเป็น"อย่างที่คุณบอก ก็คงโชคดีไปครับ จริงๆ แล้วผมเห็นด้วย 100% กับความเห็นที่ 5 ของคุณครับ แต่ผมสงสัยไม่ได้หรือว่า.... กฎนั้นมันเกิดขึ้นได้อย่างไร ใครเป็นคนกำหนด มันมีเหตุผลเพียงพอไหมที่กำหนดอย่างนั้น ผมคงไม่จำเป็นต้องเชื่อกฎทุกอย่างที่มีการบัญญัติขึ้นโดยไม่มีสิทธิ์โต้แย้งครับ ขนาดกฎหมายไม่เหมาะสมยังต้องมีการแก้ไขเลยนะครับ ถ้าผมอยู่เมืองไทย แล้วได้โทรไปถามเหมือนเจ้าของกระทู้ ได้คำตอบอย่างนั้นผมก็คงไ่ม่พอใจอยู่ดี ด้วยความเคารพครับ... จากคุณ : w@@n - [ 4 พ.ย. 48 08:42:02 ]

ความคิดเห็นที่ 42 สงสัยต้องจ่ายตัง เพราะผมไปสวนฯในวันธรรมดาจะเจอพวกถ่ายละคร ถ่ายโฆษณา บ่อยมากๆๆ จากคุณ : naat_mes - [ 4 พ.ย. 48 10:49:40 ]

ความคิดเห็นที่ 43 จากคุณ : kobv5 - [ 4 พ.ย. 48 11:05:39 ]

ความคิดเห็นที่ 44 กฎห้ามถ่ายภาพในสวนสาธารณผมเห็นว่าโคตร ปัญญาอ่อนอย่างยิ่ง ไม่รู้จะมีอะไรแอบแฝงกันนักหนา ไ้อ้พวก เว้ดดิ้ง ก็okอ่ะนะที่ห้าม เพราะเห็นจะจะ ว่ามันเป็นธุรกิจ ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆบางที ก็ ok บ้าง งี่เง่า บ้าง ต่างกันไป แต่ในสวนสาธารณะ ผมว่ายังมีเรื่องที่ต้องให้ควบคุม ต้องห้ามอีกมากกกกกกกกก มากว่าเรื่องถ่ายรูป หวังว่าคนดูแลคงคิดกันออกนะว่าเรื่องอะไร จากคุณ : golf apo g - [ 4 พ.ย. 48 11:13:46 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ยอมรับว่าเคยไปถ่ายภาพ ทั้งธรรมชาติ ทั้ง IR ทั้ง Portrait  ที่สวนนี้ จนเรียกกันติดตลกในกลุ่มที่สนิทกันว่า สวนสิ้นคิด ทั้งนี้หมายถึง พวกเราเองนะที่สิ้นคิด นึกที่ถ่ายภาพไม่ออก เราก็แวะไปสวนรถไฟกัน ยอมรับว่า ครั้งหนึ่งที่ไปถ่ายภาพทริปใหญ่ เคยจัดวางตำแหน่งนางแบบกลางถนนเลย และเมื่อจักรยานมา ก็บอกให้หลบกัน มีคนไม่พอใจด้วยครับ แต่มันก็ผ่านไปพักใหญ่แล้ว ยอมรับว่า จากทริปหลายครั้ง ผมต้องเก็บขวดน้ำ ถุงขนมจากเพื่อนสมาชิก ไปทิ้งถังขยะ เพราะทนดูไม่ได้ที่เขาไม่รับผิดชอบเอาซะเลย ยอมรับว่า สวนสาธารณะแห่งนี้ เป็นที่ที่ดี ในการฝึกหัดถ่ายภาพ เพราะมีให้ถ่ายกันทุกแบบ ทุกแนว นกก็มีให้ดู แพนกล้องก็ได้แบบเพียบ มุมสวยๆ ของสวนนี้มีครับ เยอะด้วย มองด้วยตาแล้วอาจไม่เจอครับ แต่เมื่อเอาตาแบบ VF แล้วจัดองค์ประกอบแล้วสวยครับ ตราบเท่าที่กฎ ระเบียบต่างๆ ของหน่วยงานที่ดูแล ไม่ได้ออกโดยคนที่สัมผัสจริง มันก็นำมาปฏิบัติได้ไม่สอดคล้องกับสภาพที่เป็นจริง และแก้ปัญหาไม่ถูกจุดหรอกครับ มันง่ายที่จะห้าม เพราะไม่ต้องคิด ต้องแก้ปัญหาอะไร นอกจากตัดปัญหาออกไปซะเลย เข้าใจง่าย ยิ่งคนที่จะต้องเป็นผู้รับนโยบายมาปฏิบัติมีวุฒิการศึกษาไม่สูงนัก เขามีระบบความคิดแบบดิจิตอลครับ มี "เปิด" กับ "ปิด" เท่านั้น ในที่นี้ก็คือ ห้าม หรือ ไม่ห้าม เขาพิจารณาและตัดสินใจไม่ได้หรอกครับ ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร ก็หัวหน้างานเขาสั่งมา เขาไม่ทำ เขาก็บกพร่องต่อหน้าที่ ผมเชื่ออย่างสนิทใจครับ ว่ายิ่งเราสามารถถ่ายภาพได้ง่ายเท่าไหร่ เรายิ่งมักง่ายมากขึ้น เพราะเราไม่ต้องไปเปิดเผยให้ใครเห็น เราจะถ่ายภาพอะไรก็ได้ เราเลยมักเผลอไปเสมอ จิตสำนึก ไม่มีสอนที่ไหน ไม่ว่าสมาคม ชมรมอะไรก็ไม่มีครับ เขาสอนให้ถ่ายภาพได้ ตาม "ศาสตร์" ครับ "ศิลป์" มันเป็นเรื่องที่ต้องเกิดเองกับแต่ละคน จิตสำนึกก็เหมือนกัน สอนไม่ได้หรอกครับ แต่มันต้องกล่อมเกลามาจากพื้นเพของคน มันเป็นสิ่งที่หล่อหลอมมากับสันดานของแต่ละคนอยู่แล้ว หากสันดานดี output ก็ย่อมออกมาดี หากสันดานไม่ดี output ก็ออกมาแย่ เป็นของธรรมดาครับ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้หน่วยงานราชการทุกที่ ต้องปฏิบัติตาม พรบ.ข้อมูลข่าวสารฯ นั่นหมายความว่า เราสามารถขอข้อมูลการห้ามถ่ายภาพนี้ได้ในแบบ Hard Copy ดังนั้น ผมถือว่า เรื่องที่คุยๆ กันมานั้น มีโอกาสบานปลายได้ง่ายๆ หากจะมีใครสักคน ทำหนังสือไปขอกฎ หรือระเบียบข้อห้ามดังกล่าวมาให้เป็นลายลักษณ์อักษร ไม่ใช่เพียงวาจาจากเจ้าหน้าที่ ผมว่าคงดีไม่น้อย... และจะขอบคุณ และถือเป็น Hero ของชาวกล้องด้วยครับ ใครเอ่ย จะช่วยเป็นธุระให้ได้ แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 48 11:45:59 จากคุณ : บางคนที่ยังอยากถ่ายรูปอยู่ (nond@mcot) - [ 4 พ.ย. 48 11:42:42 ]

ความคิดเห็นที่ 46 กฎที่เลือกปฎิบัติมันยอมรับได้ลำบากจิงจิ๊ง ไม่ชัดเจน ไม่มีคำอธิบายที่มีน้ำหนักเพียงพอ คำว่า "สาธารณะ" ก็น่าจะอธิบายในตัวมันเองอยู่แล้ว คือสถานที่ที่ทุกคนใช้ร่วมกัน ฉะนั้นบรรทัดฐานของสังคมก็นำมาใช้ที่นี่ได้เช่นกัน เหมือนกับทุกๆที่ แต่อาจจะมีกฏพิเศษมานิดหน่อย ตัวอย่างเช่น ห้ามนำสัตว์เลี้ยง ห้ามนำอาหารมากิน หรือ ห้ามถ่ายรูปไปเลย(ในกรณีที่เป็นที่พระราชฐาน หรือสถานที่ราชการสำคัญ) แต่ที่นี่เลือกที่จะปฎิบัติ การตักเตือนเป็นสิ่งสมควรเมื่อเห็นสิ่งไม่ถูกต้อง หรือทำให้คนอื่นเดือนร้อน ที่ผมจะพูดก็คือ คนถ่ายรูป อาจทำไม่ดีบ้าง ขวางทางถนนบ้าง ก็ต้องตักเตือนไป ไม่ใช่ห้ามถ่ายรูปซะงั้น แล้ว ถ้าเกิดคนไปกินข้าว แล้วทิ้งขยะ แล้วไม่ต้องห้ามนำอาหารเข้ามาหรือไง หรือ ถ้าปั่นจักรยานไปบนหญ้าทำให้หญ้าตาย ไม่ต้องสั่งห้ามขี่จักรยานกันหรือไง แล้วต่อไปเกิดมีคนฆ่ากันตาย มิต้องสั่งห้ามคนเข้าสวนดูข้างนอกได้อย่างเดียวหรืออย่างไร ลองคิดดู   ก็เช่นเคยความเห็นป๋มเป็นอย่างนี้แหละ แต่ก็ยังเห็นด้วยกับน้านนท์และทุกๆท่าน พยายามหาทางออกที่ดีที่สุดนะครับ เรามาถก เพื่อหาทางออก ไม่ใช่มาเถียงกันนะ จากคุณ : ตั้มท่าพระจันทร์ - [ 4 พ.ย. 48 12:40:03 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ผมขอเสริมสักนิดนะครับ ผมว่าการถ่ายภาพในสายตาของคนทั่วไปอาจดูไม่ชินตานัก กับการที่มีช่างภาพเป็นกลุ่มเลย รุมถ่ายเห็ดดอกเล็กๆ เพียง 1 ดอก แต่ความสุขที่ได้นั่น สวยงามและดีกว่ากันมาก (มันเป็นนามธรรมครับ จับต้อง หาซื้อไม่ได้) ซึ่ง คนถ่ายภาพด้วยกันเท่านั้นหล่ะครับ ที่จะเข้าใจ สำหรับคนทั่วไป เสียงลั่นชัตเตอร์ หรือไฟแว่บของแฟลช มันก็คือการสิ้นสุด แต่คนถ่ายภาพมันไม่ใช่ เคยถ่ายภาพหมู่ในลักษณะ slow sync ไหมครับ สปีดชัตเตอร์สัก 1 วินาที ก็ได้ ทันทีที่ไฟแฟลชทำงาน ปฏิกิริยาของคนไม่รู้คือ ขยับตัว ทันที ซึ่งต่างจากคนถ่ายภาพเป็น เขาจะนิ่งจนม่านชัตเตอร์ดีด นี่น่าจะเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนถึงช่องว่างที่คนภายนอกเขาไม่เข้าใจในการถ่ายภาพได้ ปล. สิ่งที่ผมเป็นห่วงมากกว่าความเสียหายที่เกิดจากการถ่ายภาพ ก็คือ ความกว้างใหญ่ของสวนรถไฟ มุมลับ มุมห่างไกล (จากสายตา รปภ.) มีมากเหลือเกิน ผมเคยไปปั่นจักรยานออกกำลังกายตอนเลิกงาน จนกระทั่งเกือบ 1 ทุ่ม (มืดแล้ว) บางส่วนของสวนรถไฟนั้น มืดมากเสียจนมองทางไม่เห็น ตรงส่วนนี้น่าอันตรายกว่าหรือไม่??? บางครั้ง บ่ายๆ วันอาทิตย์ ผมเคยผ่านไปเห็นเด็กนักเรียนประมาณมัธยม ชาย-หญิง นั่งจู๋จี๋กัน ไม่มีใครเข้าไปห้าม หรือตักเตือน (ผมเองก็ได้แต่มองผ่านไปเหมือนกัน ได้แต่ถอนใจ) ปัญหาสังคม การชิงสุกก่อนห่าม มันเยอะมาก รอดจากสายตากันไปซะหมด ปัญหาไหนมันสำคัญและต้องการการแก้ไขก่อนกัน??? คนถ่ายภาพไม่ใช่อาชญากร ไม่ใช่คนเลว (ผมมองในแง่ดีนะครับ ผมว่าแบบดีๆเยอะกว่าแบบแย่ๆ) ทำไมไม่ไปสอดส่องปัญหาเรื่องเกี่ยวกับสวัสดิภาพ และศีลธรรมอันดีงามก่อน??? จะมาเอาเรื่องอะไรกับคนรักการถ่ายภาพกันนักหนานะ ผมว่า บางทีสัปดาห์หน้า ผมอาจจะไปสวนรถไฟ และจะนำกล้องถ่ายภาพพร้อมขาตั้งกล้องไปด้วย ผมอยากรู้ว่า ใครจะเข้ามาเตือน หรือมาห้ามผมถ่ายภาพ และหรือ หากโดนห้าม เขาจะอธิบายผมอย่างไร ใครจะไปกับผมบ้างไหมครับ อิอิ ไม่ได้ปลุกม๊อบนะครับ ปล.แก้ไขสองครั้ง เนื่องจากคีย์บอร์ดไม่ค่อยดี พิมพ์ติดบ้าง ไม่ติดบ้าง แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 48 13:44:17 แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 48 13:42:27 จากคุณ : nond@mcot - [ 4 พ.ย. 48 13:37:23 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ก็อย่างที่ผมบอกแหละ ปญอ หรือไม่งั้นก็มีประเด็นแอบ มันมีเรื่องที่ควรห้ามอีกเยอะ แต่ดันไม่ห้ามไม่สนใจ แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 48 13:57:53 จากคุณ : golf apo g - [ 4 พ.ย. 48 13:57:04 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ไปถ่ายที่อื่นก็ได้ จากคุณ : toneymaru - [ 4 พ.ย. 48 14:54:27 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เพิ่งนึกออกครับ คนสวนนั่น ทำตัวเป็น ข้าราชการ ที่ว่าการอำเภอ สมัย 3-40 ปีก่อน กร่าง กับประชาชน serviced mind สิ้นสมประดี สวนนี้สังกัดหน่วยงานไหน กร๊วก จริงๆ เลย สหัสวรรษ ร่วม 5 ปีแล้ว  ไหงสิ้นคิดคงเดิม เอ้า สรยุทธ  จัดเวทีเร้ว จากคุณ : tik - [ 4 พ.ย. 48 17:37:41 ]

ความคิดเห็นที่ 51 นะ... No comment จากคุณ : Marit E. Larsen - [ 4 พ.ย. 48 19:09:29 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ขอยืนยันว่าไปคนเดียวก็ไม่ให้ถ่ายครับ วันที่ 29 ต.ค. ที่ผ่านว่า ตอนยามมาไล่ยืนถ่ายเล่นๆริมถนน ใช้ 350D+70-300 +กระเป๋า ไม่มีขา ไม่มีแฟรช ยามเดินมาบอกว่าต้องไปขออนุญาตที่อีกด้านนึงของสวน เราบอกว่ามาถ่านเล่นๆคนเดียวก็ไม่ได้หรือ? เขาบอกต้องไปขอ เราขี้เกียจตอแยด้วย เลยเก็บกล้องกลับ.เซ็ง... จากคุณ : เพิ่งโดนมาด้วยคน (ปิงปอง001) - [ 4 พ.ย. 48 19:57:19 ]

ความคิดเห็นที่ 53 การใช้คำสั่งทางปกครอง เป็นสิ่งที่ต้องระวังครับ หากใช้ผิดหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็ไปร้องเรียนศาลปกครองได้ จากคุณ : nond@mcot - [ 4 พ.ย. 48 20:59:10 ]

ความคิดเห็นที่ 54 การมีกฏห้ามชัดเจน มีเหตุผลดีพอ ก็พอจะรับฟังและทำตามได้ครับ การถ่ายรูปวิว รูปที่สาธารณะ เอามาลงนิตยาสาร (ถือเป็นเชิงพาณิชย์) ห้ามถ่าย...อันนี้ไม่แน่ใจใครรู้ช่วยบอกครับ ที่เห็นว่าไม่ชัดเจนมากๆคือ "อยู่ในดุลย์พินิจของเจ้าหน้าที่ที่ดูแลสวน" คนทั่วไปที่ชอบเที่ยวแล้วชอบถ่ายรูปด้วยอย่างผม แถมทะลึ่งใช้กล้องตัวใหญ่ (ทั้งๆที่เป็นดิจิตอลคอมแพ็ค) มีขาตั้ง มีแฟลช แถมคอนเวอร์ชั่นเลนส์ ฟิลเตอร์อีกเพียบ...จะถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มใด เป็นนักถ่ายภาพ ช่างภาพ ถ่ายภาพเพื่อเชิงพาณิชย์ หรือเป็นแค่คนมาเที่ยวสวนสาธารณะคนหนึ่ง!? (หรืออาจจะหลายคน หากมีเพื่อนไปถ่ายหรือไปเป็นแบบด้วย) สรุปคือ...สวนสาธารณะ - "ห้ามถ่ายรูป" (ตามคห.1 3 ข้อ แต่เลยเถิดมาตามคห.52)...มันขัดกันน่ะครับ หากมีใครทำอย่าง คห.45 แล้วเอามาลงให้ดูโดยทั่วถึงก็จะดีเยี่ยมเลยครับ จากคุณ : GoE Online - [ 5 พ.ย. 48 10:53:27 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เมื่อกี้ผมโทรไปถามมาครับ เขาก็บอกว่าถ่ายได้ตามปกติ ตามสบาย ยกเว้นการถ่ายภาพเชิงพาณิชย์ ผมว่าปัญหามันอยู่ตรงนี้แหละครับ ความชัดเจนในคำว่าเชิงพาณิชย์ของเขาน่ะครับ เขาคิดว่าการที่คนแบกกล้องมาเยอะๆ เลนส์ตัวยาวๆ มีคนมาหลายๆ คน มีการจัดแสง จัดไฟ การมาถ่ายภาพแบบนี้ อาจจะ เป็นการถ่ายภาพเชิงพาณิชย์ ซึ่งถ้าเกิดเราต้องการทำอย่างนั้นโดยที่ไม่ใช่การถ่ายภาพเชิงพาณิชย์ก็ต้องแจ้งที่เขาก่อนเพื่อให้เขาแจ้งต่อคนดูแลสวนหรือยามให้ช่วยอำนวยความสะดวกครับ ทีนี้ถ้ามันไม่ใช่ในลักษณะสมาคม หรือชมรม ก็จะไม่มีเอกสารอย่างเป็นทางการจากทางชมรมว่ามาขออนุณาตถ่ายภาพ ไม่รู้ว่าเขาจะว่ายังไงอะครับ อย่างกรณีของ คห.52 เนี่ย เขาก็บอกว่าจะไม่มี ไม่เกิดขึ้นนะครับ แต่มันก็มีไปแล้ว ผมว่าอาจจะเกิดขึ้นได้เพราะว่าความไม่เข้าใจในคำว่าการถ่ายภาพเชิงพาณิชย์ของคนดูแลสวน หรือบางคนอาจจะเข้าใจแค่คำว่าการถ่ายภาพ ซึ่งถ้าเกิดเจอสถานการณ์อย่างนั้นแล้วไม่หมดอารมณ์เสียก่อนก็เดินไปนิดหนึ่งครับที่สำนักงานเขา ตรงใกล้ๆสระว่ายน้ำอ่ะ แล้วก็ไปแจ้งเสียหน่อย ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรครับ เขาก็บอกมาด้วยครับว่าถ้าเกิดมีภาพที่เป็นเชิงพาณิชย์ออกไปแล้วไม่ได้มีการขออนุณาตทางคนดูแลเขาจะเดือดร้อนน่ะครับ ข้อนี้ก็น่าเห็นใจ ผมไม่ทราบหรอกนะครับว่ามันจะมีภาพอย่างงั้นได้บ้างหรือเปล่าหรอกนะครับ เรื่องระเบียบการทั้งหมดเขามีให้นะครับ หากท่านใดสะดวกจะไปเอาก้สามารถไปเอามาได้ในวันและเวลาราชการนะครับ ที่สำนักงานของสวน ตรงใกล้ๆสระว่ายน้ำครับ เรื่องที่คุณนักผจญภัยว่าผมว่ามันก็เป็นประเด็นอย่างหนึ่งนะคัรบ ถึงแม้ว่าทางสวนเขาจะไม่ได้ห้ามเพราะว่าพวกเราทำสวนเขาสกปรก หรือว่าไปรบกวนสร้างความเดือดร้อนให้ใคร แต่ผมก็อยากให้นักถ่ายภาพทุกท่านพึงระลึกเสมอนะครับ เวลาที่ไปใช้สถานที่สาธารณะหรือสถานที่ไหนก็ตาม โปรดช่วยกรุณารักษาความสะอาดในสถานที่นั้นด้วย รวมทั้งหากสิ่งที่คุณจะกระทำจะเป็นการรบกวนต่อผู้อื่นก็ควรจะพึงระวังไว้บ้างครับ ตรงนี้ผมไม่อยากจะพูดในฐานะที่คุณเป็นช่างภาพ แต่อยากจะพูดในฐานะพลเมืองของสังคมซึ่งมีหน้าที่ในการรักษาทรัพย์สินของสาธารณะนะครับ ไม่ต้องไปพูดถึงว่าคนอื่นที่จะใช้สวนจะใช้ยังไง แต่เราใช้ที่นั่นอย่างดีที่สุด ดีกว่าครับ เพราะเวลาเราจะว่าคนอื่นว่าทำไม่ดี เราจะได้ว่าเขาได้เต็มปาก ไม่ใช่ว่าเราก็ทำไม่ดีแล้วจะไปว่าคนอื่น อย่างงี้มันก็ไม่ได้ครับ แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 48 13:04:37 แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 48 13:04:04 จากคุณ : LordJIn - [ 5 พ.ย. 48 13:00:33 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ***ถ้าไปคนเดียวก็ไม่ให้ถ่ายเนี่ย เกินไปจริงๆครับ แต่เรื่องมีความรับผิดชอบเรื่องความสะอาดเนี่ย ขึ้นกับตัวบุคคลแล้วหละครับ ที่เห็นชัดๆเลยนะครับ เวลาไปถ่ายภาพงานรับปริญญาเห็นทิ้งกล่องกันต่อหน้าต่อตา กล่องใส่ film ก็ไม่เก็บแกะแล้วทิ้งเลย ล่าสุด อ.ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งแถวปทุมวัน ออกมาต่อว่าช่างภาพที่ไม่มีความรับผิดชอบให้ผมฟัง เพราะว่าผมเดินเก็บกล่อง film ที่เขาทิ้งอยู่ ผมฟังแล้วก็เรียนท่านไปว่า "ไม่ทุกคนหรอกครับ" แนะนำครับ กล่อง film เอาไปใส่เหรียญบาทได้ครับ หรือว่าอุปกรณ์เล็กๆเช่น เข็มกลัด กระดุม หรือว่าถ่านกระดุม ก็ได้ครับ ***ถ่ายรูปไปใช้เชิงพานิช ผมก็ไม่เก่งขนาดนั้น จากคุณ : fotomania - [ 5 พ.ย. 48 17:27:16 ]

ความคิดเห็นที่ 57 concept ของสวน คือ i'm ok. you're not ok. (ข้าเจ๋ง เอ็งแย่) ผมคนนึง ไม่ยอมก้มหัว ให้กับ พื้นนิสัย แนวจิตวิทยานี้เด็ดขาด ทว่า หากเป็นกระเป๋ารถเมล์ ตะคอก ผมทนได้นะ ขี้เยี่ยวต้องกลั้น ไหนจะร้อนตับแล่บ ตด/เต่า สารพัด เผลอๆ เจ็บตาปลาด้วย ยิ่งถ่ายภาพออกไป สวนยิ่งดัง ขจรขจาย หรือมันอยากให้ สวนนี้เงียบๆ มันกลัวอะไรนักหนากับกล้อง มีลับลมคมในอะไรกันหว่า ที่ว่า เจ้าหน้าที่เดือดร้อน  ตลก แล ฟังไม่ขึ้น จากคุณ : tik - [ 5 พ.ย. 48 17:40:23 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ขอตอบบ้างนะครับ ในฐานะที่เคยจัดทริปถ่ายพอร์ตเทรตที่สวนรถไฟมา 3-4ครั้ง แต่ละครั้งมากัน 70-80 คน นางแบบ 8-9คน กระทู้นี้ดูจะบานปลายไป 2 ประเด็น 1. สวนรถไฟถ่ายรูปได้หรือไม่ได้ 2. การเข้าไปถ่ายแล้วทำให้เกิดสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไป ประเด็นที่ 2 ไม่ขอพูดถึงนะครับ เพราะเป็นจิตสำนึกของผู้ใช้สวนรถไฟทุกคน ประเด็นแรกถ่ายได้หรือไม่ได้ ตอบฟันธงตรงนี้เลยนะครับ ถ่ายได้ ถ่ายได้แน่นอน 100% ไม่ต้องไปร้องถึงคุณสมัครหรือคุณสรยุทธ ให้มาลำบากใจล่ะครับ ไม่ว่าคุณจะเอากล้องอะไรมา ไม่ว่าคุณจะขนอุปกรณ์หนักขนาดไหนมา ไม่ว่าคุณจะมากันเป็นร้อยคน  คุณมีสิทธิ์ถ่ายรูปได้แน่นอน จากคุณ : alfajet - [ 5 พ.ย. 48 19:24:53 ]

ความคิดเห็นที่ 59 แต่ว่าๆ บ้านเมืองก็มีกฏ สถานที่ก็มีระเบียบปฏิบัติ สวนรถไฟก็มีผู้ดูแล มีระเบียบการใช้สวนที่ออกบังคับอย่างชัดเจน รปภ.คือผู้ถูกจ้างให้มารักษากฏ รักษาระเบียบ อย่าไปต่อว่าเขาเลย ทีนี้หันมาดูว่าเราจะทำงัยให้ถ่ายรูปได้ 1. หากมากลุ่มเล็กๆ หรือนัดกันฉุกละหุก แบบว่าอยากถ่ายรูปเดี๋ยวนี้เลยจะทำงัยดี ง่ายๆ ขี่จักรยานเข้าไปบอกหัวหน้าสวน คุณสมพร เชียงทอง หรือเจ้าหน้าที่ประจำที่ทำการสวนรถไฟ แจ้งเขา      -  ว่าคุณคือใคร หมายถึงคุณชื่อ....      -  จะมาทำอะไร      -  จะไปถ่ายภาพตรงไหน      -  ไปถ่ายกันกี่คน      -  จะถ่ายไปทำอะไร ถ่ายเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ หรือมาเพื่อฝึกหัดถ่าย      เท่านี้คุยก็จะได้ถ่ายสมใจปรารถนา โดยเจ้าหน้าที่จะ ว.ไปบอก รปภ.ตามจุดต่างๆ ว่าคุณจะไปถ่ายภาพ แค่นี้ รปภ.ก็ไม่มากวนแล้ว 2. หากคุณจัดทริปใหญ่ๆแบบผม 70-80 คน แน่นอนต้องเป็นจุดเด่นแน่ๆ ผู้คนจะแตกตื่นว่ามีงานเทศกาลอะไรกัน การจัดทริปใหญ่ๆแบบนี้ต้องมีเวลาเตรียมการหลายวัน ดังนั้นใช้วิธีเขียนเป็นหนังสือดีที่สุด            - รายละเอียดก็ตามข้อ 1 แจ้งเขาไปว่าคุณชื่อ....จะพาเพื่อนๆเป็นหมู่คณะจำนวน 80 คน มาถ่ายรูปบริเวณสวนรถไฟ           - และตอนท้ายให้รับรองเสียหน่อยว่ากิจกรรมที่คุณจัดนี้ไม่ได้จัดขึ้นเป็นเชิงพาณิชย์           - และยินดีปฏิบัติตามระเบียบการใช้สวนรถไฟ           - และคุณอยากใช้บริเวณไหนในสวนรถไฟ เป็นพิเศษ ให้คุณระบุสถานที่และเวลาที่จะใช้ ให้ชัดเจน เช่น สระน้ำ เมืองจราจรจำลอง สนามเด็กเล่น หรือกรณีฝนตกจะใช้อาคารที่ติดสนามบาสก์หน้าที่ทำการสวน ยกเว้นภายในสวนผีเสื้อไม่อยู่ในความรับผิดชอบของสวนรถไฟ ให้ไปขออนุญาตเองต่างหาก           - เมื่อถึงวันทริปจริง ก็ถือสำเนาหนังสือมาบอก รปภ.ที่หน้าประตูทางเข้า รปภ.ก็จะบอกว่า ครับผม ทางที่ทำการแจ้งมาแล้วเชิญครับ ส่วนความสะอาดและการทำลายสภาพแวดล้อม ขอให้ระลึกในจิตสำนึกของทุกคนนะครับ จากคุณ : alfajet - [ 5 พ.ย. 48 20:00:09 ]

ความคิดเห็นที่ 60 3. หากคุณอยากจะถ่ายเป็นเชิงพาณิชย์ ก็ไม่ยากอย่างที่คิด ให้ทำหนังสือถึง กทม.หน่วยงานใหญ่ที่ดูแลสวนรถไฟแห่งนี้ หนังสือจะนำเรียนผู้มีอำนาจสูงสุดอนุมัติ หรือผู้รับมอบอำนาจแทนผู้ว่า กทม. คุณก็จะสามารถขนอุปกรณ์มาเป็นคันรถได้เลย แต่ส่วนใหญ่แล้วจะอนุมัติให้ในวันธรรมดา และห้ามประกอบเลี้ยงหรือจัดเลี้ยงในสวนรถไฟ ตามระเบียบข้อบังคับของการใช้สวนรถไฟ อันนี้คุยเล่นๆ นะครับ ผมและเพื่อนๆชมรมรักสุนัข อยากจัดงานกิจกรรม Dog day ในสวนรถไฟ เหมือนแบบเมืองนอกเขาจัดกัน ให้สุนัขมาวิ่งเล่นและเจ้าของพบปะกัน แต่ติดขัดที่ระเบียบไม่ยอมให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าไปในสวนรถไฟ เลยจำเป็นต้องถ่ายแต่สาวๆแทนครับ จากคุณ : alfajet - [ 6 พ.ย. 48 00:15:08 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ว่าจะไม่ลงชื่อกระทู้นี้แล้วนะ เพราะไม่เคยไปสวนรถไฟ แต่เห็นความเห็นที่ 60 ของน้า alfajet แล้วมันทนไม่ได้คร๊าบ... อืม ฮืม กึ๋ย ๆ ๆ จากคุณ : สันโต๊ะ (สันโต๊ะ) - [ 6 พ.ย. 48 12:03:30 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ดีจั ง..ทำอย่างที่คุ ณ a lfajet ว่านะครัป อยากให้มีคนมาคุย ตกลงใจกันกับทางสวน ท่านช่วยพวกผม ผมจะบริการท่านอย่างเต็มใจและสะบายใจครับ หัวหน้าไม่ด่าเวลาเห็นต้นไม้พัง ส่วนคน ที่ ทิ้งสกปก หรือ ทำต้นไม้หัก หรือลุยแปลงต้นไม้หัวหน้าเขา ว่าจะให้มีการจับ แล้วปรับตามกฏหมายความสะอาด อยู่เหมือนกัน .. จากคุณ : ยามเฝ้าสวนครับ - [ 6 พ.ย. 48 23:45:17 A:203.188.2.83 X: TicketID:110743 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ผมว่าเรามาช่วยกันรักษาดีกว่านะครับ ในเมื่อตอนพูดกันไปก็แก้ไขเรื่องที่เจ้าหน้าที่ดูแลเค้าไม่ได้ เผื่อในเวลาข้างหน้าเค้าอาจมีการปรับเปลี่ยนกฏระเบียบที่ เอื้อต่อพวกเราในห้องกล้องนี้นะครับ การที่ว่าเราไปทำกิจกรรมอย่างนี้แล้ว ทำให้เกิดความเสีย หายเกิดขึ้น ผมว่าว่ามันอาจเกิดจากหลายๆประเด็นนะครับ อาจจะเป็น เรื่องที่คนทั่วไปที่อาจจะไม่รักษาความสะอาด ทำให้เจ้าหน้าที่เข้าใจว่าเกิดจากพวกที่มาถ่ายรูป หรือการที่ ดอกไม้เสียหายถูกทำลายก็อาจเกิดจากคนที่ไปที่มาใช้ บริการแล้วก็เดินนเข้าไปถ่ายเพราะว่าอยากได้มุมที่สวยๆ บ้างอย่างที่โปร.. เค้าถ่ายกัน ++ซึ่ง ผมคิดว่าคงไม่น่าจะใช่พวกเราที่ถ่ายรูปเป็นนะ+++ จากคุณ : จัยเย็นๆ (joe_micro) - [ 7 พ.ย. 48 11:04:04 ]

ความคิดเห็นที่ 64 หง่ะ.... ถ้าเป็นอย่างที่คุณ alfajet ตอบไว้ใน คคห.ที่ 59 หากเราจะไปแค่เที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ แล้วต้องการถ่ายภาพเก็บไว้ ก็ต้องไปแจ้งทาง จนท.ก่อนใช่ไหมคะ ถ้าเป็นเช่นนั้น... โอ้วววว...กรรมเวร สวน"สาธารณะ" หรือนี่ ยอมเสียเงินแล้วไปกลิ้งเกลือกถ่ายรูปตามสวนสนุกจะคุ้มกว่ามั้ยอ่ะ จากคุณ : โอวัลติน^_^ - [ 8 พ.ย. 48 08:17:14 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ผมว่าการถ่ายรูปนี่ เป็นกิจกรรมที่ทำให้เสียหายน้อยที่สุดแล้วนะผมว่า จิงๆอยากให้คนออกกฏมาชี้แจงหน่อย ไม่ใช่อยู่ดีๆก็มาห้ามถ่าย ก็เพิ่งเคยได้ยินเหมือนกันว่า สวนสาธารณะห้ามถ่ายรูป แต่เตะบอล ปั่นจักรยานได้ สงสัยอาจเป็นเพราะแฟลชของเรามันแรงทำให้ดอกไม้สีซีดหว่า... คนที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงที จากคุณ : Bigbozo - [ 8 พ.ย. 48 15:29:03 ]

ความคิดเห็นที่ 66 แล้วถ้าไปถ่ายรูปโดยสวมชุดรับปริญญา แบบว่ามีช่างไป 2 - 3 คนนี่ต้องขอมั้ยอ่ะค่ะ...เฮ้อ หรือว่าจะเปลี่ยนไปถ่ายที่อื่นดี ใครมีที่ไหนวิวสวยๆ แนะนำหน่อยจ้า จากคุณ : จะเอาไงดีน๊า (.::BiLLoW::.) - [ 8 พ.ย. 48 15:56:52 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เจ้าหน้าที่สวน--โดยเฉพาะสวนรถไฟ-- ถ้าคุณมีโอกาสเข้ามาอ่าน--- ผมว่าอย่าอ้างสาเหตุคนถ่ายภาพทำให้เกะกะ หรือช่างภาพเข้าไปทำให้แปลงดอกไม้เสียหาย-เลยครับ อ้างอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น--เพราะ บอกแล้วว่าที่สวนนี้--มีแปลงดาวกระจายอยู่สองสามหย่อม และที่จริงดาวกระจายนี่มันทนทานมากๆ (ไม่ใช่ว่าจะให้นางแบบเข้าไปอยู่ในกอดาวกระจาย เพราะที่เห็นๆจะมีอยู่บ้างก็เป็นคนถือกล้องที่เป็นครอบครัวหรือคู่รักเข้าไป ---แต่ในวงของกอดาวกระจายมันทั้งรกทั้งแฉะนะครับ) และที่ว่าน่าจะเกะกะวุ่นวาย ก็อย่างที่ข้างบน--บอกๆกัน รถจักรยาน-เตะบอลกันชุลมุนวุ่นวาย--ทั้งสวนรถไฟ ตากล้องเสียอีกที่เดินหลบๆหลีกๆหามุมที่ไม่เกะกะใคร พวกคุณก็แค่ออกมาสมอ้างเฉไฉ--ป้ายไปโน่นนี่ ที่จริงมันเกี่ยวกับเรื่องเงิน--เงิน--ที่คนสวนที่อื่นๆเขาได้ แต่ทีี่นี่--พวกคุณไม่เคยนึกว่าน่าจะมีรายได้อย่างนี้ เพราะที่นี่ไม่ได้มีอะไรสวยแบบสวนอื่น--เทียบกับที่อื่นๆไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้-ทิวทัศน์ ดังนั้น---หลายปีที่ผ่านมา---จึงไม่มีใครเข้ามาถ่ายภาพที่นี่ จนเมื่อเร็วๆนี้ตากล้องหลายกลุ่มเริ่มหาที่ถ่ายนางแบบ ก็มาเจอ-สวนสาธารณะ--ที่นี่--ซึ่งเหมาะกับสภาพแสงในที่โล่งๆ --แค่นั้น-- ปากต่อปาก- ตากล้องก็มากันมากขึ้น คุณ-คนเฝ้าสวน-จึงมองเห็นทางหาเงิน เหมือนๆกับ-ค่าจอดรถ--ที่เมื่อก่อนไม่มี(สวนลุมฯก็ไม่มี) มันก็คล้ายๆกับ--ค่าแป๊ะเจี๊ยะ---เก๋าเจี๊ยะ--แม่ค้าในสวนนั่นแหละ-- ใครจะว่าผมเรื่องมาก--ดันทุรัง--ก็ไม่เป็นไร แต่ผมยืนยันตามนี้ และ ผมไม่เคยพานางแบบมาถ่ายที่สวนนี้ครับ จากคุณ : มังกรดำ - [ 8 พ.ย. 48 16:52:36 ]