ความคิดเห็นที่ 1 ทั้งสองท่านเป็นเพื่อนกัน สตราวินสกี้เป็นชาวรัสเซีย ส่วนปิกาสโซ่เป็นชาวสเปน แต่สิ่งที่เหมือนกันอย่างหนึ่งคือ ทั้งสองท่านผลิตผลงานในสาขาของตนหลากหลายมากตามกาลเวลา คือช่วงหนึ่งในชีวิตแต่ละท่านจะพัฒนาผลงานในแนวทางหนึ่ง แต่พอถึงจุดหนึ่งในชีวิต ก็จะเปลี่ยนแนวทางไปอย่างสิ้นเชิง ทำให้มีผลงานมากมายที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในแต่ละยุค จากคุณ : Cherokee1 - [ 8 ม.ค. 49 02:54:17 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ทั้งสองท่านมีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน (ปิกาสโซ่ 1881 – 1973, สตราวินสกี้ 1882-1971) และเป็นเพื่อนกัน ทั้งสองพบกันในปารีส เนื่องจากปิกาสโซ่มีส่วนช่วยในการออกแบบเครื่องแต่งกายของนักเต้นบัลเล่ต์ในคณะ the Ballets Russes ของ Diaghilev ซึ่งมีสตราวินสกี้เป็นผู้ประพันธ์ดนตรี แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 49 13:35:24 แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 49 03:03:03 จากคุณ : Cherokee1 - [ 8 ม.ค. 49 03:00:38 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ... จากคุณ : Cherokee1 - [ 8 ม.ค. 49 03:03:32 ]

ความคิดเห็นที่ 4 // จากคุณ : Cherokee1 - [ 8 ม.ค. 49 03:05:43 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผลงานของสตราวินสกี้แบ่งออกได้เป็น 3 ช่วง คือ 1. Russian period เป็นช่วงแรกของชีวิต แต่ผลงานในช่วงนี้ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน ได้แก่บัลเล่ต์ 3 เรื่อง คือ ปักษีเพลิง L'Oiseau de feu (Firebird), หุ่นกระบอก Petrushka และ Le Sacre du Printemps (The Rite of Spring) 2. Neoclassic period ยุคนี้สตราวินสกี้หันไปหาแรงบันดาลใจจากดนตรีในยุคบาโรค และยุคคลาสสิก แต่ฟังอย่างไรก็เป็นดนตรีแบบศตวรรษที่ 20 อยู่ดี เพราะมีการใช้ dissonant chords  วงดนตรีมีขนาดเล็กลง ใช้เครื่องดนตรีน้อยชิ้น ผลงานยุคนี้หลักๆ ได้แก่ Pulcinella (1920), Octet (1923), Symphonies of Wind Instruments (1920), Symphony of Psalms (1930), Symphony in 3 Movements (1945) 3. Serialism or 12-Tone period หลังจากที่คู่แข่งทางดนตรีคนสำคัญของท่าน คือ Schoenberg เสียชีวิตลง สตราวินสกี้หันมาจับแนวทางการประพันธ์ในระบบ 12 โทนตามแบบของ Schoenberg เอง ผลงานยุคนี้ผมไม่ค่อยรู้จัก เลยขอผ่านนะครับ แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 49 12:15:44 จากคุณ : Cherokee1 - [ 8 ม.ค. 49 03:28:48 ]

ความคิดเห็นที่ 6 บัลเล่ต์เรื่องแรกที่ทำให้สตราวินสกี้โด่งดังคือเรื่อง Firebird เป็นนกวิเศษมีสีแดงเพลิง เนื้อเรื่องมีอยู่ว่า เจ้าชายไอแวน (Ivan) เห็นนกไฟ (firebird) เลยคอยแอบซุ่มและจับ ไว้ได้  นกไฟอ้อนวอนให้ปล่อยไปโดยให้ขนวิเศษแก่เจ้าชาย โดยสัญญาว่าเมื่อใดที่ เจ้าชายเดือดร้อน ให้เอาขนนกมาโบกแล้วนางจะมาช่วย   วันหนึ่งเจ้าชายหลงเข้าไปในสวนของยักษ์ชื่อ Kostchei และเห็นเจ้าหญิง 12 องค์ที่ถูก   ยักษ์จับมา  เจ้าชายตกหลุมรักหนึ่งในนั้น จึงติดตามกลับมายังปราสาท เมื่อเปิดประตู   เข้าไปก็โดนลูกสมุนจับตัวไว้ ยักษ์ Kostchei จะสาบเจ้าชายให้กลายเป็นหิน เจ้าชายจึง เอาขนนกขึ้นมาโบก นกไฟปรากฏตัว และหลอกล่อให้บรรดายักษ์ทั้งหลายเต้นรำตาม   จนเหนื่อยอ่อน จากนั้นนกไฟจึงบอกความลับว่าหัวใจของยักษ์ Kostchei ซ่อนอยู่ในไข่       ใบหนึ่ง เมื่อเจ้าชายทำลายไข่ใบนั้นเพื่อฆ่ายักษ์ คำสาบจึงหายไป  เจ้าชายไอแวนจึง   พาเจ้าหญิง Tsarevna กลับเมือง แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 49 14:06:11 จากคุณ : Cherokee1 - [ 8 ม.ค. 49 03:37:57 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ภาพ สวยเก๋มากครับ จากคุณ : Mr.Tea - [ 8 ม.ค. 49 13:15:53 A:210.86.142.73 X: TicketID:025103 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ส่วนเรื่อง Petrushka เป็นเรื่องรักสามเส้าของหุ่นกระบอก 3 ตัว ที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมา จากรูป หุ่นซ้ายสุดเป็นแขกมัวร์ ตรงกลางคือ Ballerina ส่วนขวาสุดคือหุ่นตัวตลก Petrushka ทั้งหุ่นแขกมัวร์และเพทรูชก้า ต่างก็หลงรักบัลเลริน่า แต่นางมีใจให้แขกมัวร์ โดยมิได้สนใจในตัวเพทรูชก้าแม้แต่น้อย สุดท้ายเพทรูชก้าถูกแขกมัวร์แทงตายก่อนกลายร่างกลับไปเป็นหุ่นอีกครั้ง จากคุณ : Cherokee1 - [ 8 ม.ค. 49 13:24:31 ]

ความคิดเห็นที่ 9 รูปของ Nijinsky ผู้โด่งดัง ในบทบาทของ Petrushka คนแรก จากคุณ : Cherokee1 - [ 8 ม.ค. 49 13:28:04 ]

ความคิดเห็นที่ 10 Stravinsky ถ่ายรูปคู่กับ Nijinsky จากคุณ : Cherokee1 - [ 8 ม.ค. 49 13:29:13 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เอามาลงอีกนะคะ ภาพสวยดีค่ะ จากคุณ : ... (macu) - [ 8 ม.ค. 49 14:17:41 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ดูภาพ 9 แล้วขลังจังเลยอ่ะ เห็นภาพการแสดงเลย จากคุณ : HTK (HTK) - [ 8 ม.ค. 49 23:12:48 ]

ความคิดเห็นที่ 13 โอ้..อ่านเพลินเลยพี่ ภาพ # 6 ของเรื่อง  Firebird นี่แพร่หลายใช่เป่าคะ เคยเห็นๆๆ แล้วเรื่อง Le Sacre du Printemps (The Rite of Spring) นี่เป็นเรื่องอะไร ทำนองไหนอ่ะพี่ จากคุณ : พลอยสีสวย - [ 9 ม.ค. 49 08:18:35 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แจ่มเลยครับ ^___^ ได้ยินมาว่าตอนแสดงหรือว่าหลังแสดงนึงจบ (ไม่แน่ใจว่าเป็น The Rite of  Spring หรือเปล่า) หลังจากฟังแล้ว มีคนกลุ่มนึงรับไม่ได้กะลักษณะดนตรีทางแนวนี้ ทำให้เกิดมีการทะเลาะหรือจราจลขึ้นใน Concert จริงหรือเปล่าครับ ขอบพระคุณมาก ๆ ครับผม ปล.ผมไม่ค่อยที่จะกล้าฟังเพลงหลังยุค Impressionistic เท่าไหร่ เพราะว่าส่วนใหญ่จะใช้ dissonant chords หรือแต่งตามระบบ atonality กลัวฟังแล้วว่า Sound มันกระด้างหู -*- แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 49 11:01:37 จากคุณ : Wish You Were Here - [ 9 ม.ค. 49 11:00:49 ]

ความคิดเห็นที่ 15 มาอ่านครับ จากคุณ : ลุดวิก - [ 9 ม.ค. 49 11:37:57 ]

ความคิดเห็นที่ 16 บรื๋อส์... นักบัลเล่ห์เก่ง ๆ นี่ แค่ยืนเฉย ๆ ก็ดูมีพลังเนาะ .. ขนลุก จากคุณ : Mr.Tea - [ 9 ม.ค. 49 14:04:37 A:61.91.35.28 X: TicketID:025103 ]

ความคิดเห็นที่ 17 แวะมาชมค่ะ... จากคุณ : Vitamin_C - [ 9 ม.ค. 49 21:15:35 ]

ความคิดเห็นที่ 18 พอดีไปเจออีกรูปหนึ่ง เป็นภาพวาดจากการแสดงบัลเล่ต์เรื่อง Firebird โดยจิตรกร Jacques Emile Blanche จากคุณ : Cherokee1 - [ 10 ม.ค. 49 01:08:00 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ส่วนบัลเล่ต์เรื่อง Le Sacre du Printemps หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า The Rite of Spring จริงๆ ไม่มีเนื้อเรื่อง เป็นการเต้นรำสังเวยเทพแห่งฤดูใบไม้ผลิของชนเผ่าหนึ่ง สตราวินสกี้เล่าว่า หลังจากเขียนหน้าท้ายของเรื่อง Firebird จบ เขาเกิดเห็นภาพขึ้นในใจของระบำสังเวย โดยมีผู้เฒ่าประจำเผ่านั่งล้อมวง ดูหญิงสาวที่ถูกเลือกเป็นเครื่องสังเวยเต้นไปเรื่อยๆ จนขาดใจตาย แต่สตราวินสกี้ไม่ได้ประพันธ์ต่อในทันที จนหลังจากความสำเร็จของเรื่อง Petrushka จึงทำให้ท่านหันกลับมาจับงานชิ้นนี้อีกครั้ง จากคุณ : Cherokee1 - [ 10 ม.ค. 49 01:32:11 ]

ความคิดเห็นที่ 20 สตราวินสกี้ประพันธ์ดนตรีสำหรับบัลเล่ต์เรื่องนี้ขึ้น โดยฉีกแบบแผนต่างๆ ที่มีมาก่อนหน้านี้ มีการเปลี่ยนจังหวะแทบจะตลอดเวลา มีการใช้ dissonant chords เพื่อให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกคล้อยตามการแสดง  สตราวินสกี้ทุ่มเททั้งกายและใจให้กับงานนี้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน Jean Cocteau's 1913 cartoon of Stravinsky playing The Rite with Nijinsky's dancers multiplying movement in geometrical progression. จากคุณ : Cherokee1 - [ 10 ม.ค. 49 01:40:03 ]

ความคิดเห็นที่ 21 การแสดงบัลเล่ต์เรื่อง  Le Sacre du Printemps โดยคณะ The Ballets Russes มีขึ้นในกรุงปารีส เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 1913 ที่โรงละคร Theatre des Champs-Elysees โดยมี Nijinsky เป็นผู้ออกเบบท่าเต้น การแสดงครั้งนั้นได้สร้างความโกลาหลอย่างใหญ่หลวง เนื่องจากผู้ชมไม่คาดคิดว่าจะได้รับชมการแสดงบัลเล่ต์ที่มีเนื้อหาป่าเถื่อนและดนตรีที่ให้เสียงแปลกๆ จากที่เคยชิน อย่าลืมว่าในขณะนั้นปารีสเป็นศูนย์กลางของการแสดงบัลเล่ต์  ผู้ชมชาวปารีสต่างเคยชินและคาดหวังเรื่องราวที่สวยงาม ดนตรีไพเราะ เมื่อเข้าไปชมจึงเกิดความตื่นตระหนก ไม่พอใจในการแสดง มีการร้องตะโกน ขว้างปาข้าวของกันไปมา ส่วนหลังโรง ไดอากิเลฟ (Diaghilev) พยายามเปิดปิดไฟเพื่อควบคุมสถานการณ์ แต่ไม่เป็นผล นิจินสกี้ (Nijinsky) ต้องยืนบนเก้าอี้พร้อมทั้งตะโกนเรียกนักแสดงซึ่งไม่ได้ยินเสียงดนตรีที่ถูกกลบด้วยเสียงอื้ออึง ให้ออกไปแสดงตามคิว พร้อมทั้งตะโกนบอกจังหวะ จากคุณ : Cherokee1 - [ 10 ม.ค. 49 01:53:06 ]

ความคิดเห็นที่ 22 การแสดงในคืนนั้น นับเป็นจุดเริ่มต้นของดนตรีแบบศตวรรษที่ 20 อย่างเต็มตัว  สตราวินสกี้ทั้งตื่นเต้น ดีใจ โกรธ เสียใจ กับผลตอบรับของผู้ชมในคืนแรก หลังจากนั้น ท่านไม่เคยประพันธ์ผลงานใดที่จะฉีกแนวทางการประพันธ์ที่มีมาก่อนเช่นนี้อีกเลย The Chosen One - Shaking with fear and embracing her fate จากคุณ : Cherokee1 - [ 10 ม.ค. 49 01:58:57 ]

ความคิดเห็นที่ 23 สิ่งที่น่าตลกคือ หลังจากนั้นดนตรีประกอบบัลเล่ต์เรื่องนี้ได้แพร่หลายออกไป แม้กระทั่งการ์ตูนของวอลต์ ดิสนีย์ได้นำไปใช้ประกอบในเรื่อง Fantasia คนทั่วไปยกโทษให้สตราวินสกี้สำหรับการประพันธ์เพลงที่แหวกแนวออกไปจากเดิม แต่กลับไม่ยกโทษที่ท่านไม่ผลิตผลงานในลักษณะเช่นนี้ออกมาอีก  สตราวินสกี้หันไปประพันธ์ในแนวทางแบบนีโอคลาสสิกหลังจากนี้ จากที่ท่านเดินทางกลับไปเยือนรัสเซียในปี 1968 หลังจากลี้ภัยไปอยู่ประเทศอื่นอย่างยาวนาน ท่านได้เห็นต้นฉบับบทประพันธ์เรื่องนี้อีกครั้ง ท่านเขียนข้อความไว้บนสกอร์ว่า    "May whoever listens to this music never experience the mockery to which it was subjected and of which I was the witness in the Theatre des Champs-Elysees, Paris, Spring 1913." ภาพของคณะบัลเล่ต์ The Kirov แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 49 09:44:08 จากคุณ : Cherokee1 - [ 10 ม.ค. 49 02:09:19 ]

ความคิดเห็นที่ 24 สุดท้าย ภาพในความเห็นที่ 19 และ 22 วาดโดย Millicent Hodson, Pendragon Press 1996 จบแล้วครับ  ขอบคุณครับที่ติดตาม     จากคุณ : Cherokee1 - [ 10 ม.ค. 49 02:12:24 ]

ความคิดเห็นที่ 25 รู้จักเธอจากการ์ตูนวอลท์ ดิสนี่ย์ครับ ชอบรูปทุกรูปเลยครับ สวยและมีพลังความหมายมากๆ ขอบคุณครับอาจารย์ จากคุณ : jtr - [ 10 ม.ค. 49 15:36:15 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ภาพสวยมาก ๆ ครับพี่เชอร์ ๆ เด๋ซต้องตั้งใจอ่านซะหน่อยแย้ว สุดยอดครับ ๆ ขอบคุณครับ หุหุ งุงิ ๆ จากคุณ : UnDeRMiLeS dAvIs (UnDeRMinE) - [ 10 ม.ค. 49 16:31:39 ]

ความคิดเห็นที่ 27 กระจ่างแล้วครับ ^__^ ขอบคุณอีกครั้งครับผม -/\- จากคุณ : Wish You Were Here - [ 10 ม.ค. 49 23:36:14 ]

ความคิดเห็นที่ 28 บังเอิญพอดีที่เมื่อสักครู่ ช่อง 11 นำคอนเสิร์ต The Rite of Spring  มาฉายให้ดู เห็นวงเต็มๆ เล่นแล้วมันดีแท้ ไม่น่าเชื่อว่าสตราวินสกี้จะเปลี่ยนวงเครื่องสายให้กลายเป็นเครื่อง percussion ได้  นักดนตรีใช้คันชักกระแทกกับสาย ทำให้กลายเป็นเครื่องประกอบจังหวะไปในตัว เครื่องดนตรีแต่ละชิ้นก็ให้เสียงที่แปลกออกไปจากเสียงธรรมชาติของตัวมัน น่าทึ่งครับ จากคุณ : Cherokee1 - [ 12 ม.ค. 49 01:09:30 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ^ ^ หนูพลาดหง่ะ หนูหลับไปแล้ว  ฮือๆๆๆ อยากดู อ.เชอร์โชดดีจัง โหยยย จากคุณ : พลอยสีสวย - [ 12 ม.ค. 49 09:23:00 ]

ความคิดเห็นที่ 30 แถมครับ Diaghilev, Nijinsky, Stravinsky 1912 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : <โหน่ง> - [ 12 ม.ค. 49 10:21:35 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อีกอัน Ernest Ansermet, Diaghilev, Stravinsky, Prokofiev 1921 จากคุณ : <โหน่ง> - [ 12 ม.ค. 49 10:23:15 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ภาพสวยจริง ๆ ด้วยค่ะ ขอบคุณนะคะ จากคุณ : เอ๋ (pka) - [ 12 ม.ค. 49 21:19:36 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ตกลงเข้ามาดูกันแต่รูปเหรอเนี่ย T_T จากคุณ : Cherokee1 - [ 12 ม.ค. 49 23:25:24 ]

ความคิดเห็นที่ 34 แหม อ่านเนื้อหาด้วยสิจ๊ะ แต่ไม่รู้จะเม้นท์ยังไงนี่นา จากคุณ : เอ๋ (pka) - [ 12 ม.ค. 49 23:44:34 ]