ความคิดเห็นที่ 1 ยังมีครับ โดยเฉพาะที่อเมริกาแผ่นเสียง (ไวนิล)ไม่มีทางสูญพันธ์ได้ นอกจากจะมีของพวกแนวฮิปฮอปและป๊อปแล้ว แนวร็อคและเมทัลก็มีเหมือนกัน แถมเยอะด้วย เช่น Slipknot ,Linkin Park ,Korn ,System of a down ,Limp Bizkt ,Soulfly ฯลฯ แผ่นเสียงพวกนี้ในอเมริกามีขายทั่วไปเหมือนซีดีนั่นแหละครับ จากคุณ : hijack02 - [ วันครูแห่งชาติ 11:40:03 A:203.113.70.75 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 ยังมีแน่นอนครับ แต่ที่เขาเล่นกันจริง ๆ จัง ๆ มักจะเป็นพวกแผ่น vintage เก่าเก็บและลายครามซะมากกว่า ลองดูราคาแผ่นนี้ใน eBay ซิ โหดร้ายมากกกก...... http://cgi.ebay.com/ws/eBayISAPI.dll?ViewItem&item=4816702642&ssPageName=ADME:B:EF:US:1 จากคุณ : ปีศาจลายคราม - [ 16 ม.ค. 49 11:55:08 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ^ ^ ^ เอื้อก! แผ่นนั้นหมื่นนึงโหดโคตร อย่างผมคงก้มหน้าเล่นซีดีต่อไปดีกว่า เดี๋ยวนี้ญี่ปุ่นทำ CD แบบ LP Sleeve ซึ่งก็จำลองแผ่นเสียงออกมาได้เหมือนนะครับ อย่าง PFM ชุดที่ 3 ที่มีการฉลุให้เห็นภาพที่ซ้อนอยู่ข้างในครับ แผ่นเสียงไม่ไหวแพงเหลือเกินครับ จากคุณ : ไม่ประสงค์ออกนาม - [ วันครูแห่งชาติ 12:40:00 A:203.209.28.247 X: TicketID:038672 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ^ ^ ^ แผ่นนี้ราคาตลาดขณะนี้น่าจะอยู่ราว ๆ 80 เหรียญ บวกลบได้นิดหน่อยครับ คุณไม่ประสงค์ออกนาม ผมเคยโชคดีได้แผ่นนี้มาที่ราคา 40 กว่าเหรียญ (ซึ่งโชคดีแค่หนเดียวจริง ๆ) แต่ที่ราคามันไปไกลตั้ง 200 กว่าเหรียญยูเอสนี่ ผมว่ามันผิดปกติมากไปหน่อยครับ บางที สองร้อยกว่าเหรียญของคนอเมริกันอาจจะเท่ากับแค่สองร้อยกว่าบาทของบ้านเราก็ได้ มันก็เลยกล้าใส่กันถึงขนาดนี้ จากคุณ : ปีศาจลายคราม - [ 16 ม.ค. 49 13:05:13 ]

ความคิดเห็นที่ 5 จ๊าก!! US $227.50  !! จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน - [ 16 ม.ค. 49 15:59:38 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เข้ามาแจมคุณปีศาจฯอีกทีครับ แผ่นเสียงพวกศิลปิน Prog นี่ยอมรับเลยครับแพงจริงๆ อย่าว่าแต่แผ่นเสียงเลยครับ แผ่นซีดีแบบ LP Sleeve ที่ทำเลียนแบบแผ่นเสียงนี่ยังแพงเลยครับ แถมทำออกมาจำกัดอีกแน่ะ เห็นเค้าว่า Museo Rosenbach วงโปรดคุณปีศาจนี่แพงมากๆ แถมปกก็ทำเลียนแบบเหมือนนะ ลักษณะคล้ายกำมะยี ประมูลกันแพงมาก(ซีดีนะครับ) เมื่อปลายปีที่แล้วทางญีปุ่นเค้าเอามาออกใหม่ 10 ชุด(จริงๆผมว่าคงดองไว้แล้วเพิ่งเอามาปล่อย) ซีรีย์ Italian Rock 1 (ปัจจุบันออกมา 3 ซีรีย์ล่ะ) ผมมีครบทั้ง 30 ชุดเลยครับ แต่ซีรีย์ที่ดีที่สุดต้องยกให้ซีรี่ย์ 1 ครับ เมื่อตอนออกใหม่ๆผมเฉยๆนะพวก LP Sleeve เนี่ยเพราะความรู้สึกผมคิดว่า เก็บก็ยาก จะฟังทีก็ลำบาก(เพราะเป็นซอง) หลังๆกลับคิดอีกทีว่า เออ เค้าทำสวยแฮะเหมือนแผ่นเสียงเลย ถึงไม่มีปัญญาเล่นแผ่นเสียง เอาแค่ซีดีจำลองก็พอวะ เลยเริ่มๆสะสมมาเรื่อยๆน่ะครับ อย่าง Banco ชุดที่ 3 เคยมีซีดีกล่องพลาสติกธรรมดาแล้ว พอมาเห็น CD LP Sleeve นี่คนล่ะเรื่องเลยครับ เค้าฉลุเป็นประตูเปิดได้เลยครับ เข้าใจว่าแผ่นเสียงจริงๆคงอลังการณ์มาก ล่าสุดผมได้ Formula Tre ชุด 3-4 มาครับ(รวมกับของเดิมทำให้ผมมีครบ 4 ชุดแล้ว) ตอนนี้กำลังฟังเจาะอย่างล่ะเอียดปรากฏว่ายิ่งฟังยิ่งชอบครับ ออกไปทาง Italian Pop Rock มันส์ๆเพราะติดโพรเกรสซีพพอสมควรครับ นี่ล่าสุดเข้าเว็ปขายซีดีจะไปดูว่ามีอะไรออกใหม่ เจออีกล่ะ I Pooh เอามาประมูลกันล่ะครับ http://www.musicfield.jp/dap/sv/nor1?id=95392&categ_id=80&p=y%23body (ไม่เป็นลิงค์ ก็อปไปแปะเอาล่ะกันครับ) เริ่มต้นที่ 19500Y ราว 7000บ.ผมว่าไม่แพงนะ แต่ไปจบที่เท่าไหร่ไม่รู้เพราะเห็นเป็นของประมูลผมก็ถอยแล้วล่ะครับ เซ็ตนี่ผมซื้อมาแค่ 3 ชุดแรกพอครับ เพราะโครงสร้างดนตรีของวงนี้คล้ายกัน แถมออกไปทาง Italian Love Song ด้วย ทว่าผมกลับชอบงานที่สมาชิกในวงแยกออกไปทำวงอย่าง Il Giardino Dei Semplici มากอีกแน่ะครับ ไม่ทราบคุณปีศาจฯไม่สนวงใหม่ๆอย่าง Anekdoten บ้างเหรอครับ? ชุดที่เค้าบันทึกการแสดงสดที่ญี่ปุ่น Waking The Dead, Live in Japan 2005 เค้าทำแผ่นเสียงด้วยนะครับ 2LP น่ะครับ วงนี้เล่น Mellotron ได้มันไม่แพ้รุ่นพี่เลยนะครับ แถมงาน Live นี้เค้าเอา Mellotron ขึ้นไปเล่นบนเวที 3 ตัวเลยนะครับ(บ้า Mellotron จริงๆเลยวงนี้) ผมว่าจะซื้อเป็นลำดับต่อไปน่ะครับ ปล.ขอโทษที่นอกเรื่องออกไปเยอะนะครับ จากคุณ : ไม่ประสงค์ออกนาม - [ วันครูแห่งชาติ 18:24:44 A:61.91.211.188 X: TicketID:038672 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมว่าแผ่นเสียงกำลังกลับมาได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นนะครับ หลังจากเซไปพักใหญ่ช่วงที่ซีดีออกมาใหม่ๆ เพราะเมื่อวันเวลาผ่านไปคนเริ่มค้นพบว่าคุณภาพเสียงของซีดีสู้แผ่นเสียงไม่ได้ พวกคอไฮเอนด์จึงกลับไปซบ LP อีกครั้ง สังเกตุได้ว่า CD Warehouse เอาแผ่นเสียงมาโชว์หราอยู่หน้าร้านเลย ซึ่งไม่เคยเป็นมาก่อน (อย่างน้อยก็ไม่เข้ากับชื่อร้าน) จากคุณ : SOS (SamOfSound) - [ 16 ม.ค. 49 23:35:38 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แผ่นเสียงคงไม่มีวันตายไปจากโลกแห่งการฟังเพลงหรอกครับ ตราบใดที่คนเรายังแสวงหาความเป็นเลิศและความเป็นธรรมชาติแห่งเสียงดนตรีอยู่ เพียงแต่ว่าทุกวันนี้เราต้องยอมรับความจริงว่าเราได้ก้าวเข้ามาสู่ยุคดิจิตอลเต็มตัวแล้ว แผ่นเสียงจึงลดบทบาทลงไปอยู่ในกลุ่มคนเล่นคนฟังในวงแคบ ๆ นักฟังที่พิถีพิถันกับคุณภาพเสียงส่วนใหญ่มักจะมีเครื่องเล่นแผ่นเสียงอยู่ในระบบเครื่องเสียงของตัวเองทั้งนั้น และทุกวันนี้ยังมีบริษัทห้างร้านที่ต่างประเทศยังคงผลิตแผ่นเสียงใหม่ ๆ ป้อนให้แก่คนฟังเพลงและผู้ที่รักแผ่นเสียงอยู่ โดยทั่วไปคนเรามักคิดว่าแผ่นเสียงมีเสียงกรอบแกรบ ไม่สะอาดเท่าเสียงจากซีดี นั่นเป็นเพราะเขาไม่มีเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่มีประสิทธิภาพสูงและแผ่นเสียงที่ได้รับการบำรุงรักษามาอย่างดีต่างหากล่ะ แต่ถ้ายอมทุ่มเทงบประมาณให้มากที่สุดเท่าที่มีเพื่อซื้อหาเครื่องเล่นแผ่นเสียงดี ๆ สักเครื่องมาเล่น, มีแผ่นดี ๆ สภาพเนี้ยบเก็บไว้ในคอลเล็คชั่น และรู้จักวิธีในการเล่นที่ถูกต้อง ผมเชื่อแน่ว่าซีดีกินแผ่นเสียงไม่ลงหรอกครับ (แต่แน่นอน คุณจะต้องจ่ายแพงกว่า) โดยเฉพาะใครที่ชอบดนตรีร็อคระหว่างยุค 60 ถึง 80 (เหมือนอย่างผม) แล้วล่ะก็ หากจะฟังให้ได้บรรยากาศและอรรถรสเต็มที่ ต้องเล่นด้วยแผ่นเสียงเท่านั้นครับ จากคุณ : ปีศาจลายคราม - [ 17 ม.ค. 49 01:44:45 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นด้วยครับ แผ่นเสียงไม่กรอบแกรบอย่างที่ใครๆคิด เท่าที่ผมมีโอกาสได้ฟัง(ของคนอื่น) ผมว่าแผ่นเสียงให้รายล่ะเอียดได้ดีกว่าซีดี(ดูขนาดฟอร์แม็ตซ์ก็รู้ ถ้าเอาCDไปเทียบ) ฟังปุ๊บสัมผัสได้ถึงเวทีเสียงและการบันทึกที่ดีเยี่ยมเลย ที่ผมชอบที่สุดและรู้สึกได้เลยคือ แผ่นเสียง เสียงจะมลๆไม่บาดหูน่าฟัง ผิดกับ CD เสียงจะเหลี่ยมๆ เสียดายถ้าได้ฟังแนว Progressive Rock คงบรรยายได้มากกว่านี้ เผอิญคนที่ผมไปขอฟังเข้าชอบพวก Rock ยุค 70s ครับ แต่ยังไงก็สู้ค่าตัวแผ่นเสียงไม่ไหว แถมมีตังค์ใช่ว่าจะซื้อได้อีก ต้องประมูลหรือพยายามหาอย่าวมาก สำหรับผมซีดีก็พอแล้วครับ จากคุณ : ไม่ประสงค์ออกนาม - [ 17 ม.ค. 49 05:06:05 A:61.91.211.159 X: TicketID:038672 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ^ ^ ^ ขออนุญาตนอกเรื่องหน่อยครับ คือ จะถามคุณไม่ประสงค์ออกนามว่า ได้ฟังอัลบั้ม 1998: La Storia di Sabazio ของ Triade แล้วหรือยัง? ช่วยมาคอมเมนต์หน่อยครับ จากคุณ : ปีศาจลายคราม - [ 17 ม.ค. 49 11:48:02 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ^ ^ ^ ได้ฟังแล้วครับ หน้าแรกผมว่ามันเนื้อยๆนะครับ ดูไม่ค่อยต่อเนื่องยังไงไม่รู้ ขาดๆเกินๆฟังแล้วเหนี่อยแทนจริงๆ แต่ชอบ 3 เพลงหน้า B มากครับ เพราะดีครับ แต่แผ่นซีดีที่ผมได้มาทำในญีปุ่นก็จริง แต่ออกโดยบริษัทที่ผมว่าเค้าผลิตไม่ค่อยดีเลย เสียงดูบางๆไร้มิติยังไงไม่รู้ ค่ายนี้เค้าทำ I Pooh ออกมาด้วย เสียงก็ไม่ดีครับ ถ้าต่อไปมีบริษัทอื่นออกมั่ง คงต้องซื้ออัพเดทอีกรอบซะแล้วน่ะครับ แต่รวมๆแล้วใช้ได้นะครับวงนี้ ไม่น่าอายุสั้นออกมาชุดเดียวเลย จากคุณ : ไม่ประสงค์ออกนาม - [ 17 ม.ค. 49 12:45:03 A:61.91.197.62 X: TicketID:038672 ]

ความคิดเห็นที่ 12 นอกจากที่แตกต่างในคุณภาพเสียงแล้ว ยังแตกต่างในบรรยากาศการฟังด้วย ใครที่เคยฟังแผ่นเสียงแล้วคงทราบดีว่าคุณจะต้องอยู่ในอารมณ์ที่ต้องการฟังเพลงจริง คุณไม่มีรีโมทควบคุม จะเปลี่ยนแท็รกก็ต้องใช้มือยกแขนอ่านขึ้น หมดหน้าA ก็ต้องกลับหน้าแผ่นเสียง ใครที่จะฟังเพลงระหว่างทำงานหรือทำอย่างอื่นไปด้วยก็อาจไม่ชอบใจนักกับความไม่สะดวกในการเล่นแผ่นเสียง ที่ผมกำลังบอกคือการฟังแผ่นเสียงคุณต้องรักและดูดดื่มกับอรรถรสของเสียงและล่องลอยอยู่ในอารมณ์นั้น การฟังจากแผ่นเสียงอาจทำให้คุณมีสมาธิและเข้าถึงสุนทรียภาพของเพลงนั้นๆได้มากขึ้น จากคุณ : bb. - [ 17 ม.ค. 49 13:22:33 A:58.10.107.202 X: TicketID:098953 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ^ ^ ^ เห็นด้วยกับความเห็นข้างต้นครับผม การเล่นแผ่นเสียงมันมีกิจกรรมให้ต้องทำมากกว่าอย่างที่คุณว่ามานั่นแหละครับ เอาแค่ขั้นตอนการเอาแผ่นไปวางบนแป้นหมุนและประคองอาร์มเพื่อเอาหัวเข็มไปจรดเพื่อเล่นแทร็คแรกของแผ่นเสียงเนี่ย มันเป็นความรู้สึกที่ซีดีไม่อาจให้ได้เลยครับ จากคุณ : ปีศาจลายคราม - [ 17 ม.ค. 49 15:02:59 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขโมยแผ่นของพ่อไปขายที่เมกาดีกว่าวุ้ย จากคุณ : น้ำใส - [ 17 ม.ค. 49 15:09:11 ]

ความคิดเห็นที่ 15 O_o มาเก็บความรู้ค่ะ..ไม่ได้เล่นแผ่นเสียง( รู้ว่าต้องแพงแน่ๆ ) แต่เวลาผ่านร้านที่ขาย..ชอบไปยืนเกาะๆดู จากที่อ่านหลายความเห็นข้างบน ถ้าเรารู้การรักษาแผ่นที่ดีกับมีเครื่องเล่นที่มีประสิทธิภาพ...ก็จะเกิดปัญหาเรื่องเสียงกรอบแกรบน้อยลงใช่มั๊ยคะ แล้วแผ่นละ150 บาท...อย่างนี้ถือว่าเสี่ยงต่อการซื้อหรือเปล่าคะ มีร้านนึงเอามาขายเยอะมากในงานสัปดาห์หนังสือ จากคุณ : d:r:e:a:m:e:r - [ 17 ม.ค. 49 23:17:24 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ^ ^ ^ สาเหตุของเสียงรบกวนหรือเสียงกรอบแกรบของแผ่นเสียงมีอยู่หลายประการ เช่น ฝุ่นหรือไฟฟ้าสถิตย์ที่จับอยู่บนผิวแผ่น รอย scratch หรือรอยขีดข่วนที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผิวไวนิล หรือแม้กระทั่งเสียงรบกวนหรือเสียงฮัมจากมอเตอร์ที่ส่งผ่านมาตามแป้นหมุนกรณีที่เครื่องเล่นแผ่นเสียงนั้นเป็นระบบขับตรงหรือ direct drive ปัญหาเรื่องฝุ่นหรือไฟฟ้าสถิตย์บนแผ่นเสียงพอแก้ไขได้ แต่ปัญหาเรื่องรอยขีดข่วนบนเนื้อแผ่นไวนิลนั้นแก้ไม่ได้ ดังนั้นเมื่อซื้อแผ่นใหม่สภาพดี ๆ มา จึงควรรักษามันไว้อย่างสุดชีวิต จริง ๆ แล้ว ถึงแม้เครื่องเล่นแผ่นเสียงของคุณจะวิเศษและแผ่นเสียงของคุณจะสะอาดขนาดไหน แต่โอกาสที่จะได้ยินเสียงรบกวนกรอบแกรบบ้างเป็นระยะก็ยังมีอยู่ อันนี้เป็นธรรมชาติของแผ่นเสียงซึ่งใช้ปลายเข็มเล่นแผ่นเสียงเคลื่อนที่เพื่ออ่านสัญญาณไปตามร่องแผ่นเสียง ซึ่งต่างจากซีดีซึ่งอ่านสัญญาณจากแผ่นด้วยลำแสง optical มันเป็นการทำงานคนละระบบ ดังนั้น เสียงที่ได้ระหว่างอะนาล็อก (แผ่นเสียง) กับดิจิตอล (ซีดี) จึงย่อมแตกต่าง [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : ปีศาจลายคราม - [ 18 ม.ค. 49 08:00:49 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมว่าราคาแผ่นเสียงใน #2 นั้นโหดสุด ๆ แล้ว พอมาเจอแผ่นนี้ อภิมหาโหดเสียยิ่งกว่า แถมคนที่ได้ไปยังเป็นคนคนเดียวกับที่ได้แผ่นแรกไปก่อนหน้านี้ด้วย ไม่มากไม่มายอะไรหรอก The Wall แผ่นนี้ราคาสี่ร้อยกว่าเหรียญยูเอสเอง http://cgi.ebay.com/ws/eBayISAPI.dll?ViewItem&item=4821761035&rd=1&sspagename=STRK%3AMEDW%3AIT&rd=1 จากคุณ : ปีศาจลายคราม - [ 19 ม.ค. 49 21:29:09 ]

ความคิดเห็นที่ 18 #16 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : d:r:e:a:m:e:r - [ 19 ม.ค. 49 23:52:48 ]