CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    แฟน ๆ Fort Minor เข้ามาเลยครับ

    Fort Minor

    ไมค์ ชิโนดะ (Mike Shinoda)  สมาชิกคนสำคัญจากวง ลินคินพาร์ค (Linkin Park) ได้ออกอัลบั้มฮิพฮอพที่เป็นไซด์โปรเจ็กต์ของเขาเองภายใต้ชื่อว่า ฟอร์ท ไมเนอร์ (Fort Minor) เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2005 กับค่าย แมชชีน ช็อป เรคคอร์ดดิงส์ (Machine Shop Recordings) / วอนเนอร์ บราเทอร์ เรค คอร์ด (Warner Bros. Records) ที่ ลินคิน พาร์ค เป็นเจ้าของ อัลบั้มนี้ชื่อว่า เดอะ ไรซิง ไทด์ (The Rising Tied) อำนวยการผลิตโดย เจ ซี (Jay-Z)  และมีนักร้องรับเชิญจากศิลปินชื่อดังอีกหลายคน เช่น แบล็ค ตอทท์  (Black Thought)  ดีเจ โจ ฮาน (Joe Hahn) จาก ลินคิน พาร์ค และศิลปินในค่ายแมชชีน ช็อป  อย่าง สไตล์ บิยอน (Styles of Beyond) และ โฮลี่ บรุ๊ค (Holly Brook) โดย ไมค์ เป็นโปรดิวเซอร์เองซึ่งไม่เพียงแต่เขียนเพลงเองทุกเพลงเท่านั้น แต่ยังเล่นเครื่องดนตรีเองเกือบทุกชิ้นอีกด้วย

    ในวง  ลินคินพาร์ค    ไมค์ เป็นนักร้องนำร่วมกับ เชสเตอร์ เบนนิงตัน (Chester Bennington) ซึ่งได้รับรางวัลทั้งแผ่นเสียงทองคำขาวและรางวัลแกรมมี่    การร้องเพลงของเขาทั้ง 2 ทำให้เกิดการผสมผสานแนวดนตรีแบบ อัลเทอร์เนทีฟ และแบบฮิพฮอพ ได้อย่างลงตัว ทุกอัลบั้มของพวกเขาได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลามจากแฟนเพลงเนื่องจากแนวดนตรีที่แปลกแหวกแนว    

    เมื่อออกมาทำงานในอัลบั้มเดี่ยว  ไมค์  ได้แสดงให้ทุกคนเห็นถึงความสามารถเฉพาะตัวของเขา ทั้งวิธีการร้องแบบ ฮิพฮอพ   ความหลากหลายของอารมณ์ เนื้อร้องและแนวเพลง  ซึ่งสร้างความพึงพอใจให้กับกลุ่มแฟนเพลงของ ลินคินพาร์ค  เช่นกัน  

    การเลือกชื่อวงว่า ฟอร์ท ไมเนอร์ (Fort Minor) ก็เพื่อสะท้อนความแตกต่างระหว่างสิ่งที่ยิ่งใหญ่และมั่นคงกับสิ่งที่เล็กๆ และบอบบาง     ไมค์ คิดว่างานเพลงในอัลบั้มเดี่ยวของเขานั้น ควรคงความเป็นฮิพฮอพ แบบต้นฉบับไว้และใช้ดนตรีสดในการคุมจังหวะแทนที่คีย์บอร์ด อัลบั้ม  เดอะ ไรซิง ไทด์ (The Rising Tied) ได้เผยถึงความเป็นนักร้อง ฮิพฮอพ ที่มีเอกลักษณ์ของเขาได้เป็นอย่างดี    เปิดตัวอย่างสวยงามด้วยซิงเกิ้ลแรก เพลง บิลีฟ มี (Believe Me)  ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในประเทศไทยสามารถก้าวขึ้นสู่อันดับ 1 ของชาร์ทหลายต่อหลายคลื่นเพลงสากล

    อีกเพลงที่น่าสนใจในอัลบั้มนี้คือ เพลงKenji ที่มีความเป็นเอกลักษณ์มากที่สุดในอัลบั้มนี้   เพลงนี้เป็นการแร๊พร่วมกันของชาวญี่ปุ่นที่ได้เข้ามาอยู่อเมริกาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2   โดยมีป้าและพ่อของ ไมค์ ซึ่งเคยถูกกักตัวในอเมริกาในช่วงคริสต์ศักราชที่ 40 รวมอยู่ด้วย   เพลงนี้ได้เล่าเรื่องราวของความทรงจำอันเจ็บปวดของผู้ที่ต้องสูญเสียทุกอย่างเมื่อต้องอยู่ในค่ายกักกัน   ไมค์  เล่าว่า “ผมไปที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ เจแปนนีส อเมริกัน เนชั่นแนล มิวเซียม(Japanese-American National Museum ]) ที่ L.A. เมื่อปีที่แล้ว และมันก็ทำให้ผมนึกถึงเรื่องราวเก่าๆที่ครอบครัวของผมได้เล่าให้ฟังว่าพวกเขาถูกขังไว้ที่ค่ายกักกันที่ อเมริกาได้อย่างไร  สาเหตุที่พวกเขาถูกกักกันไม่ใช่เพราะพวกเขาทำผิดแต่เป็นเพราะว่าแค่พวกเขาเป็นชาวญี่ปุ่นเท่านั้น และผมคิดว่าผมน่าจะแต่งเพลงเกี่ยวกับเรื่องราวนี้”  การแยกตัวออกมาทำเพลงเดี่ยวนี้ทำให้ ไมค์ มีโอกาสลองทำเพลงแนวที่แตกต่างไปจาก ลินคินพาร์ค    

    ไมค์  มีความมุ่งมั่นในสิ่งที่เขาทำเสมอ เขาเลือกที่จะเป็นนักดนตรีไปพร้อมๆกับการเรียนระดับปริญญาตรีในสาขา Illustration ที่ Art Center College of Design (อาร์ท เซ็นเตอร์ คอลเลจ ออฟ ดีไซนด์) ที่เมือง Pasadena (พาซาดีน่า)   จากการที่เขาได้ร่ำเรียนเปียโนมาถึง 10 ปี เขาจึงเริ่มเข้าสู่วงการดนตรีด้วยการเป็นโปรดิวเซอร์เพลงฮิพฮอพ ในช่วงกลางคริสต์ศักราช 90 ไมค์ ได้เข้าร่วมก่อตั้งวง ลินคินพาร์ค  กับ  แบรด เดลสัน (Brad Delson) โจเซฟ ฮาห์น (Joseph Hahn), ร๊อบ บอร์ดอน (Rob Bourdon), ฟีนิกซ์(Phoenix) และ เชสเตอร์ เบบนิงตัน(Chester Bennington)

    จากคุณ : Gyunwoo74 - [ 21 ม.ค. 49 21:12:16 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป