ความคิดเห็นที่ 2
ผมเห็นด้วยกับสิ่งที่คาร์ลตันพูดครับ barrier ที่สำคัญที่สุดที่นักกีตาร์ที่ไม่ได้โตมากับสวิง (ไม่จำเป็นต้องเกิดในยุคสวิง) คือ การเข้าถึง feel ของการเล่นสวิงแบบเป็นธรรมชาติ เราสามารถฝึกสิ่งที่ฟังดูเหมือนยากอย่างพวก scale , mode , inside , outside และอื่นๆที่พึงจะใช้ในแจ๊สได้ไม่ถึงกับยากจนเกินไป ถ้าได้รับการศึกษาหรือคำแนะนำที่ถูกต้อง แต่การเล่น feel แบบสวิงนี่สิ เป็นสิ่งที่ฟังดูเหมือนง่าย (ก็แค่อัตราส่วนโน๊ตประเภทหนึ่ง) แต่จริงๆแล้ว มันคือการสร้างลมหายใจ , นิสัย หรือ สันดานใหม่ให้กับเราเลยทีเดียว ลองนึกถึงความยากในการสร้าง หรือ เปลี่ยนอุปนิสัย หรือ วัฒนธรรมองค์กร ดูสิครับ ว่ามันง่ายหรือยาก เพราะมันเป็นการขืนความเคยชินที่ติดตัวมาตั้งแต่เด็ก (หรือตั้งแต่วันแรกที่หัดเล่นเครื่องดนตรี) ตัวอย่างหนึ่งที่ผมอยากจะยกประกอบคือ ถ้าเราดูเพลง minor swing ของ django ในแง่ของตัวโน๊ต แล้ว ก็คือๆกับการโซโลของพ่อมด neo classical rock อย่างอิงวี่ โน๊ตและสเกลเดียวกัน เล่น arpeggio บน minor scale เป็นหลักแบบเดียวกันเป๊ะ แต่ลองให้คนที่เล่น neo classical rock เก่งๆมาเล่น เพลง minor swing นี่ ถ้าไม่มีพื้นฐานสวิงละก้อ ตกจังหวะตายเลยครับ (บางคนเปรียบว่า django คือ อิงวี่ในภาคแจ๊ส ซึ่งผมก็เห็นด้วย) ผมเป็นคนหนึ่งที่โตมากับเพลง metal พวก scorpions, deep purple ทำนองนั้น ครั้งแรกที่หัดเล่นเพลง minor swing ก็อ้วกเหมือนกัน ไม่คิดว่าทางโน๊ตคล้ายๆกับเพลงของอิงวี่แท้ๆ ทำไมมันเล่นยากแสนเข็ญขนาดนั้น ตารางฝึกกีตาร์แจ๊สของหลายๆสำนัก จะบังคับให้อย่างน้อยมี 1 session ต่อสัปดาห์ ฝึกเล่นสวิงอย่างเดียวเป็นหลายๆชั่วโมงนอกเหนือจากฝึกไล่สเกล แกะโน๊ต อิมโพรไวส์ ........ สรุปอีกที เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่พยายามจะสวิงให้เป็นสันดานที่สองให้ได้ แต่ก็ยังไม่สามารถทำลาย barrier แห่งสันดานเดิมได้ 100 % ซักที ยังมีนักกีตาร์ฟิวชั่นแจ๊สที่จัดว่าเก่งอีกมาก ที่อยากเล่นแจ๊สแบบสมัยเก่าใจจะขาดอยู่อีกมาก ที่ติดเพียงแค่ยังไม่อาจข้ามผ่านกำแพงอันสุดท้ายนี้ไปได้เท่านั้น (ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัว จากประสบการณ์การเล่นกีตาร์ของตนเอง อาจไม่ถูกต้องสำหรับทุกคนครับ)
จากคุณ :
Piet (Piet)
- [
2 ก.พ. 49 17:35:07
]
|
|
|