ขอบคุณ
นิตยสารแจ๊สซีน สปอนเซอร์ นักดนตรีและผู้เกี่ยวข้องในงานทุกท่าน
*********************************************
เดิมทีว่าจะมาดูแต่วันนี้ผมเนือยเหนื่อยมากด้วยช่วงนี้มีแต่ภาระกิจบ้านและการงานเต็มไปหมด จนไม่มีเวลาดูแลหัวใจน้อยน้อยเอาเสียเลย
กะว่าจะไม่ดูครับ แต่พอดีว่าผมมาดูงานเฟอร์นิเจอร์เพื่อเอาไปแต่งห้องตัวเองที่ศูนย์สิริกิต์ ก็เลยเหมือนว่าขอมาดูงานหน่อยแล้วกัน(แต่อยากอยู่คนเดียวให้มากทีสุด)
บัตรสามร้อย หนึ่งดริงก์ที่เลือกได้แค่น้ำผลไม้ น้ำอัดลมและเบียร์(แผล่บ) กับการลุ้นโชคใหญ่คือนาฬิกาโอริสรุ่นไมลล์ เดวิส.....ซึ่งยินดีแก่ผมด้วยนะ ที่ผมไม่ได้นาฬิกาแต่ได้ซีดีแทน(แถมมีเลือกกะเขาอีก เรื่องมากจริงจริง) นึกอีกทีเอานาฬิกาดีกว่าไหม ไม่ต้องเลือก เพราะอยากได้พอดี อิอิ
เข้าเรื่องก่อนจะลืม.....
วงแรกชื่ออะไรหว่า จำไม่ได้ ผมจำได้แต่มือทรัมเปตที่สีเสื้อเหมือนคิลบิลอย่างยิ่ง เหมือนจะมาทะลวงหัวใจคนฟังเลยหรือ อิอิ
วงแรกเล่นดีทีเดียว เอนเตอร์เทนผู้ฟังอย่างยิ่งยวด ฟังเอาเพลินเพลินได้เลย
วงที่สอง วงอะไรหว่า ขอนึกก่อน จำได้มีแต่คุณซันเล่นคียบอร์ด อาจารย์ฮงตีกลอง ที่เหลือนึกชื่อไม่ออก
เล่นดี ฟังได้เพลินดี อาจจะไม่ค่อยชอบตรงเสียงกลองครับ เพราะผมว่ามันหนักไปหน่อย(เรื่องมาก จิงตู)
วงที่สาม ปรินซ์แอนด์อิเลกทริคสลาฟ(ใช่ไหมก๊าบ อิอิ)
เล่นมาในแนวไหนเนี่ย เหวอเหมือนกันนะเนี่ย
จากการให้การของน้ากอลฟ์ทีโบน แกบอกว่าเลือกเพลงไมลล์ในยุคหลังก่อนเสียชีวิต ส่วนตัวผมก็ไม่เคยฟังไมลล์ยุคนี้ด้วยสิ แต่ถ้าเอาจากที่ผมฟังจากการเล่นของวงในวันนี้ ถ้าผมเดาเล่นเล่นว่าเล่นได้ความรู้สึกเทียบจากต้นฉบับเปี๊ย ผมคงรู้สึกเองว่าน้าไมลล์ในยุคนี้เหมือนอัจฉริยะหมดสภาพ ด้วยภาวะของเพลงที่เอื้ออำนวยให้เครื่องดนตรีอื่นเป็นพระเอกแต่ขาดเอกภาพเหมือนคนฟุ้งซ่าน มันเลยมีมิติความอัจฉริยะที่ดูเพี้ยนและตกขอบในบางส่วนอย่างน่าเสียดายที่สุด(แต่มันก็มีช่วงที่น่าประทับใจและชื่นชมเหมือนกันนะ)
......หลายอย่างที่เอามาใช้เล่น เช่น คอมพิวเตอร์ คงจะเป็นทิศทางในการเปิดแจ๊สให้มีรูระบายออกไปทางอื่นบ้าง(ทำให้นึกถึงดีเจที่เปิดแผ่นแซมปลิงทิ้งไว้ แล้วก็หาแผ่นอื่นมาสแครชหรือผสมเสียงต่อไป) เพียงแต่ว่าใช้คอมเหมือนแซมปลิ้งและเป็นเอฟเฟกต์ ส่วนที่เหลือก็เหมือนซอฟแวร์ที่มีโอกาสสรรสร้างเสียงเล่นอิมโพรไวสกันมากขึ้น(หรือเปล่าหว่า)
ปล.สิ่งที่เขียนเกี่ยวกับผลงานของไมลล์เดวิส เหมือนเป็นการนั่งเทียนเขียนจากการฟังวงนี้ แต่หากว่ามันมีส่วนอย่างนั้นจริง ก็กรุณาแสดงความเห็นเพิ่มเติมได้นะ
วงที่สี่ almost there หลังจากที่ผมฟังวงนี้เมื่อประมาณสองอาทิตย์ที่แล้ว และโดนมาก เพราะทางแกเเป็นโปรเกรสซีพ แต่การเล่นเป็นแจ๊ส ร็อคและมีอายของสเปซร็อคอยู่อวลไปหมด ทำให้ผมนึกถึงวงอย่าง gongs ขึ้นมาทันใด(อาจจะเทียบกับ soft machine ได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจ เพราะฟังวงนี้นานมากแล้ว จำไม่ได้) ด้วยกลิ่นอายดนตรีที่เล่นเหมือนเป็นแจ๊ส แต่มีจังหวะร็อคเข้ามายืนพื้นเป็นระยะ ดนตรีที่ได้เลยเหมือนดูโฉ่งฉ่างแต่ไหลไหลแบบเมาเมามันมัน ฟังแรกแรกอาจปวดหัว แต่เสพติดได้เมื่อไหร่ จะสนุกมากถึงสนุกสุดขีด(เพราะเมามันกับดนตรีได้ที่แล้วซิ)
วงสุดท้าย อพาร์ตเมนต์คุณป้า เริ่มก็ปาไปเกือบห้าทุ่มแล้ว คนก็เริ่มทยอยกลับตั้งแต่วงที่สามแล้ว เจอวงที่สี่ ก็เหมือนไล่แขกเข้าไปอีก(แต่จริงจริงแล้ว มันดึกมากแล้วสำหรับบางคนด้วย)
วงนี้เป็นวงร็อคนอกคอกในสายตาผม หากจะดัดจริตเรียกแกว่าอินดี้ก็พอไหว(แต่แกคงไม่สนใจกับคำเหล่านี้หรอก)
ด้วยแนวทางดนตรีเป็นร็อคที่มีกลิ่นอายของบลูล์ บูกี้ ฟังค์และฮิบฮอบ แต่มีอิมโพรไวสแบบแจ๊สบ้างประปราย เลยไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรดี ผมเคยวางแกไว้ประมาณแอซิดแจ๊ส และคิดเล่นเล่นว่าแกเป็น rage against machine ภาคแจ๊สกลับชาติมาเกิด(ด้วยเนื้อหาหนักหน่วงและมีประเด็นทางสังคมอยู่บ้าง) แต่ช่างแม่มมันเหอะครับ.... ผมว่าหลังหลังจะไม่อยากนิยามอะไรแล้ว เพราะดูขีดกรอบเกินไป และมันไม่มีประโยชน์อะไรเลยกับการฟังดนตรีให้สนุก
วันนี้แกก็เล่นอย่างที่แกเคยเป็น เล่นแบบแกสนุก โครมครามเหมือนเคย ไม่มีอาการดัดจริตเล่น เล่นสนุกจนคนดูไม่กล้าสนุก(ทั้งที่แกเล่นสนุกมาก) แต่ก็มีพวกฮาร์ดคอร์สองสามคนที่ไปเย้วหน้าเวที ส่วนผมขอขยับที่เก้าอี้ผมแล้วกัน(ถ้าคึกมาก คงได้เจอกันหน้าเวทีแน่)
วันนี้แกเอาเพลง so what มาเรียบเรียงใหม่เป็นแบบบลูล์แถมมีเนื้อร้องอีกต่างหาก(แกมอบเพลงนี้ให้คนหน้าเหลี่ยม) อยากบอกว่าฮามาก(ถ้าท่านแปลความในเพลงออกแล้วลิงค์ความหมายให้กับการมอบเพลงนี้ให้คนหน้าเหลี่ยม).....แหม น่าจะทำเพลงแบบฟังก์แจ๊สหรือแจ๊สเพื่อสังคมก็ไม่เลว
อีกเพลงที่ชอบมาก ผมยังไม่ได้ยินที่ไหนเลย เข้าใจว่าเพลงใหม่ของแก....ฮามากเลยเพ่
ติดยาเสพติดทำไม มันแพง มาติดโทรศัพท์มือถือนาทีละสามบาทดีกว่า....อิอิ
หลังจากเพลงนี้เป็นไฮไลท์ที่ผมชอบเช่นเคย จนจบคอนเสิร์ต
********************************************
ว่าจะเขียนสั้นสั้น แต่สุดท้ายยาวทุกที
เรื่องรูป ผมมีถ่ายไว้เหมือนกัน แต่ไม่มีการ์ดรีดเดอร์ ให้ช่างกล้องสาวสวยมาโพสแทนแล้วกัน
สุดท้าย เหนื่อยกายยังพักได้ แต่เหนื่อยใจเนี่ย.....อึมมม..ม ยังไงดีเนี่ย.....
เฮ้อ....อ.
แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 49 09:13:34
แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 49 00:46:02
จากคุณ :
นายกลางคืน
- [
26 ก.พ. 49 00:38:42
]