PANTIP.COM : C4186526 สังเกตบ้างไหมครับวงการเพลงไทยช่วงปี48

ความคิดเห็นที่ 15

สภาพวงการเพลงไทยในยุค 48-49

1. วงการวิทยุกระจายเสียง ทำให้เกิดรายการวิทยุที่เน้นการเปิดเพลงมากมายหลายคลื่น และเพลงที่นำมาเปิดให้ฟัง ส่วนใหญ่มักจะเป็นเพลง "ช้า" "เพราะ" "ฟังสบาย" เพราะเข้าถึงผู้ฟังได้ง่าย
แต่บัดนี้รายการวิทยุที่เปิดเพลงในลักษณะนี้มันมีมากแล้ว ย่อมทำให้เพลงที่เน้นความสนุกสนานรวดเร็วมีให้ฟังกันน้อยลง
โดยเฉพาะแนวเพลงไทยสากลที่เจาะกลุ่มวัยรุ่น ไม่รวมถึงลูกทุ่งที่ไม่จำเป็นต้องช้าต้องเร็ว

2. วงการโทรทัศน์โดยเฉพาะแบบFree TV ทำให้เกิดรายการเพลงหลากหลายรูปแบบ บ้างก็แบ่งรูปแบบแหรือแบ่งกลุ่มเป้าหมายกันออกไป แต่ค่ายเพลงที่เข้ามาเผยแพร่ และ/หรือ เช่าเวลาดำเนินรายการทางโทรทัศน์นั้นกลับมีอยู่ไม่กี่ค่ายเท่านั้น เมื่อเทียบกับช่วงเวลาตั้งแต่สิบปีที่แล้ว มีค่ายเพลงยักษ์ใหญ่เพียงสองค่ายที่เช่าเวลาดำเนินรายการของตนเองจนมากที่สุด ส่วนค่ายเพลงเล็กๆปัจจุบันนี้มีอยู่น้อยมากที่ไม่ได้ผลิตรายการเอง แต่ต้องอาศัยการเผยแพร่ให้กับรายการของบริษัทอื่นๆ
*วงการโทรทัศน์และวิทยุนี่แหละ ที่มีส่วนในการครอบงำสื่อของรัฐบาลชุดปัจจุบัน(รวมถึงในช่วงความปรวนแปรทางการเมืองในขณะนี้)

3. มีสื่อใหม่ๆเข้ามาเสริมระดับให้กับวงการเพลงในบ้านเรา ทั้งทางอินเทอร์เน็ต มือถือ ฯลฯ รวมถึงสื่ออื่นๆที่จะตามมา สื่อเหล่านี้แหละที่เป็นการเปิดโอกาสให้กับค่ายเพลงทุกค่ายทุกระดับ ได้เผยแพร่บทเพลงหรือผลงานทั้งที่ได้ยินได้ฟังอยู่แล้วและที่ยังไม่เคยได้ยินมาก่อน รวมถึงเพลงฟังหายากและเพลงใต้ดินก็อยู่ในสื่อลักษณะเหล่านี้

4. การเกิดของรายการรูปแบบเรียลลิตี้เพื่อเผยแพร่ทางสื่อโทรทัศน์ ทำให้มีผลต่อวงการเพลงไทย กล่าวคือทำให้เกิดดาวดวงใหม่ที่มีส่วนร่วมและแสดงความสามารถจนเป็นที่ยอมรับของประชาชนได้เข้ามาร่วมสร้างปรากฎการณ์ให้กับวงการเพลงเมื่อได้ออกอัลบั้มเป็นของตนเอง บางคนก็ดังตามที่คาดหวัง บางคนก็พอขายได้

5. การเกิดแนวเพลงที่เป็นช่องทางหรือเชื่อมระหว่าง "ลูกทุ่ง" กับ "เพื่อชีวิต" เป็นแนวเพลง "ลูกทุ่งเพื่อชีวิต" แนวเพลงนี้แหละย่อมมีผลต่อความสำเร็จได้มากเท่าๆกับแนวเพลงไทยสากลที่เอาใจวัยรุ่น แม้จะเป็นแนวเพลงรากของไทยก็ตามทีแต่ไม่ทำให้การรับวัฒนธรรมจากสากลที่มีผลต่อวัยรุ่นมีมากขึ้น
ศิลปินคนแรกๆที่ในช่วง 2548-2549 ก็อาทิเช่นศิลปินลูกครึ่ง เดวิด อินธี เป็นต้น และการเกิดของละครโทรทัศน์เรื่อง "แคนลำโขง" ที่มีเพลง "รอรัก" เป็นเพลงเอกของละคร
-แต่ก่อนหน้านั้นเมื่อหลายสิบปีที่แล้วแทบไม่รู้เลยว่า "สามโทน" ถือเป็นศิลปินคนแรกๆที่ทำเพลงในรูปแบบ ลูกทุ่งเพื่อชีวิต แต่ความจริงแล้วในสมัยก่อนยังไม่เรียกชื่อแนวเพลงนี้เลย แต่เรียกแนวเพลงในสมัยนั้นว่า "ลูกทุ่งประยุกต์" เช่นเดียวกับศิลปินคนต่อๆมาในระยะเวลาเดียวกันเช่น สรพงศ์ ชาตรี, สามารถ พยัคฆ์อรุณ, ฯลฯ ช่วงนั้นเองเป็นยุคที่ดารานักแสดงหลายต่อหลายคนแห่เข้ามาเป็นศิลปินนักร้องเพื่อจับผลงานของตนใส่ตลับ
6. ...แต่ในปัจจุบันนี้ จำนวนดารานักแสดงที่เข้ามาเป็นนักร้องในอัลบั้มกลับมีน้อยลงกว่าสมัยก่อนๆ ก็เพราะการเปิดโอกาสให้คนใหม่ๆได้เข้ามาทำผลงานเพลงมากขึ้น แต่ผลงานที่เป็นเสียงร้องของดารานักแสดงในยุคปัจจุบันนี้ส่วนมากจะเป็นเพลงประกอบละครหรือภาพยนตร์ที่มีคนร้องหลายคน
ส่วนที่เป็นอัลบั้มของตนเองในปัจจุบันนี้มีอยู่ไม่มากแล้ว

และอื่นๆ....

แต่ก็ย่อมทำให้สินค้าของแท้(ที่ว่าราคาแพง)ที่ประชาชนซื้อไปเพื่อเก็บไว้เป็นทีระลึก กลับมีจำนวนซื้อและขายได้น้อยลง
นี่แหละที่คนส่วน "มาก" ต้องการรับสื่อต่างๆมากมายที่สะดวกยิ่งขึ้น
แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 49 15:09:21

จากคุณ : คนตะวัีนแดง (คนหยังเขียด) - [ 14 มี.ค. 49 15:06:59 ]