CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    วันที่เหลือ 46 "เรื่องมันยาว...(ไม่เล่าก็ลืม)"

    วันที่เหลือ 46



    ...เรื่องมันยาว....
    (ไม่เล่าก็ลืม)

    11 มีนาคม 2549
    นายยางสน..คนบางขวาง



    12 กุมภาพันธ์ 2549

    กระทู้หนึ่งในเวปไซด์ ไทยคิดส์
    จดเจียรไว้ซึ่งวันที่โลกลับดับสูญครูซอสามสาย ครูอุดม อรุณรัตน์

    รัตนะร้าวลับดับสูญ อรุณโอ้อาดูร
    อุดมจมจ่อมน้ำตา สามสายสายใจจำลา
    สุดสายชีวา สู่สรวงสวรรค์ชั้นใด
    ร่ายรุ้งมณีดนตรีไทย จรดนิ้วเจียระไน
    เสกปั้นเปล่งถ้อยท่วงที ทอดท่าคันชักศักดิ์ศรี
    เทิดภูมิภูมี มโนน้อมโน้มนำธรรมผจง
    เจริญรามจิตติดำรง จุติยืนยง
    เป็นหลักอารามเรืองรอง ช้าช้าพระยาหงส์ทอง
    บินลอยละล่อง สู่ห้องทิพย์นิทราฝัน
    เห่เอยลับเลยคืนวัน เสียงซอเงียบงัน
    สงบสงัดศานติ์สุขเทอญ ฯ

    คิดถึงครูอุดม, 12 กุมภ์ 2549, หน่อง

    ครูเจอพ่อผมรึยังครับ,เอ้



    13 กุมภาพันธ์ 2549

    วันมาฆะบูชา

    ในวันที่สิ่งอำนวยความสะดวกสารพันสามารถยัดไว้ในโทรศัพท์มือถือเครื่องจิ๋ว เสียงหวีดหวิวผิวปากจากภาพยนตร์Kill Bill ดังขึ้นเป็นสัญญาณให้ตื่นขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่อีกครั้งหนึ่ง

    ทะเลเรียบ ลมโรย โชยไอทะเลต้องเนื้อ...

    ในหอประชุมธำรง บัวศรี พิธีการ พิธีกรรม นำเข้าสู่กิจกรรมประกวดดนตรีไทยระดับนักเรียนภาคตะวันออก ชิงถ้วยพระราชทานครั้งที่ 26 จัดโดย สถาบันศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยบูรพา ร่วมกับ บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)

    เด็กร่วมพัน อาจารย์ร่วมร้อย ทยอยเข้าสู่งาน ก่อนจะสานเสียงสนั่นเสนาะกะเทาะแก้วหูอู้อื้อตลอดช่วงเวลาที่เหลือของวัน ทั้งเครื่องสาย อังกะลุง ขิม ปี่พาทย์ไม้นวม เครื่องสายประสม ระนาดเอก

    สถานการณ์ขิมสายเริ่มคลี่คลาย ความฟูมฟายลวดลายลด กลับสู่พื้นฐานที่มั่งคงและเรียบง่าย สิ่งที่หวังไว้เริ่มเห็นรอย

    ปริมาณอาจเป็นสิ่งที่น่าพอใจ คงเหลือไว้แต่ในคุณภาพที่ต้องคิดหาพัฒนา หวังว่าผู้จัดจะงัดพลังมารังสรรค์ให้เห็นจริง....

    ตะวันชิงพลบเสียตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบ แต่ก็กราบลาชิงหลบมาเสียก่อนประกาศผล ขนปลาเค็ม ผงซักฟอกของที่ระลึกติดมือถือกลับดังเช่นที่เคยเป็น


     14 กุมภาพันธ์ 2549

    วาเลนไทน์เดย์

    ผลาญเวลาส่วนใหญ่ในวันแห่งความรักอยู่บนสำนักพระนครฟิล์ม จินตานาการฉากรัก ฉากแค้น แล่นผ่านสมองกรองออกมาเป็นเสียงดนตรี ที่ตกปากรับคำทำเพลงประกอบในหนังไทยเรื่องใหม่...

    นายเขตต์ ฐานทัพ เผยหน้าละอ่อนร่อนมือกระแทกหน้ากลองเปิงมางให้เห็นเป็นครั้งแรก คงต้องแจกการบ้านกันอีกหลายบทกว่าจะหมดจดเช่น “โหมโรง”

    ขอบพระคุณ อ.เดช คงอิ่ม ที่กรุณามานั่งยิ้มอยู่หลังฆ้อง อีกเพื่อนผองศิษย์บ้านสมเด็จฯที่ระดมสมองจนเสร็จกิจไปหลายส่วน แล้วจะเชิญชวนมาสร้างวีรกรรมกันต่อไปครับ...



    20 กุมภาพันธ์ 2549

    ไม่เช้าไม่สาย หมายใจไปเล่นบทมือระเบิดเหมือง ที่บริษัท  Work Point ในซอยแถวๆสะพานใหม่

    เรียลลิตี้ดนตรีไทย ฉบับต่อยอดคุณพระประชัน ที่จะนำเด็กไทยทั่วประเทศ (เขาว่างั้น...!!!) จำนวน  12 คนมาอยู่ร่วมกัน แข่งขันในเชิงดนตรี ก่อนที่จะค้นหาผู้ชนะเชิดชูหรูหรากันต่อไป...

    หลายประเด็นที่แนะนำ น่าจะทำให้ใครได้คิดมากกว่าที่เป็นอยู่ แม้ว่าจะตรงเป้าเข้าเรื่องชนิดที่ต้องอึ้งกิมกี่กันก็เถอะ....

    หวังว่าเขาและเธอเหล่านั้น จะใช้โอกาสที่มีอยู่อย่างมีคุณค่า พาผู้คนมากมายมุ่งสู่จุดหมายปลายทางที่ถูกต้อง อย่าให้เราที่มีเพียงสองมือต้องมาเหนื่อยยากคัดถือหางเสือกลับให้ไปในทิศทางที่ควรเป็นที่ร่วมสร้างมายาวนานกระนั้นเลย....


    21 กุมภาพันธ์ 2549

    เต็นท์ใหญ่กางคลุมพื้นคอนกรีตระอุแดดบนลานจอดรถวัดอาวุธ ที่ปลายสุดตั้งแท่นวางเครื่องไทยฝรั่งคละเคล้า ชาวเรา(หมายถึงพวกเรา) กอไผ่ไขว่ห้างครางลูกคอล้อรับสนุกสนานสมเป็นงานบุญ

    นายบ๊อบ มือเครื่องเป่าเข้าสู่ร่มกาสาวพักตร์ ที่สำนักสงฆ์วัดนักปฏิบัติ ซอยจรัญสนิทวงศ์ 71 เสร็จกิจสงฆ์วันใดก็ขอให้มีสติมั่นแม่นเสียงแม่นคิวมาปลิวลมประสมเสียงกันต่อไป

    แขกขาว ไส้พระจันทร์ ยันเชิดจีน 6 ตัว นัวเนียตามที่ซ้อมส่งพระเข้ากุฏิ ก่อนยุติเพียงเท่านั้น...

    อามะพันเต...


    25 กุมภาพันธ์ 2549

    ....สูงสุดคืนสู่สามัญ....

    ไม่รู้ว่าเราจะถึงตรงนั้นหรือไม่ หากแต่การกลับสู่สิ่งที่เคยเป็นกลับทำให้รู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด...

    นิทรรศการหมุนเวียน “ของเก่าเลาเรื่องพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว” I ณ อาคารพิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ประกาศว่าจะเริ่มต้นในวันนี้จนถึงวันที่ 7 เสร็จสิ้นเดือนพฤษภาคม

    ประเดิมด้วยเครื่องสายประสมออร์แกนหวานกรอบดังเช่นเคยเล่นร้องแต่ก่อนเก่า
    เล่าเรื่องความรักอมตะพระราชนิพนธ์ราตรีประดับดาว เท้าความตามนัยประวัติโดย “ป้าอี๊ด อ.มาลินี” ก่อนที่บรรเลงต่อทั้งเขมรลออองค์ คลื่นกระทบฝั่ง กระทั่งเข้าช่วงสัมมนา ว่าด้วยพระราชพิธีบรมราชาภิเษกและเฉลิมพระราชมณเฑียรในรัชกาลที่ 7 โดยพระครูวามเทพมุนี เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ คุณเกรียงไกร วิศวามิตร อดีตข้าราชการสำนักพระราชวัง ยังไม่ทันจบงานเราก็คลานออกมาจับแท็กซี่ไปร้านดนตรีธีระ มิวสิค ย่านเวิ้งนครเกษม ก่อนจะเบากายจ่ายสตางค์หนีบกลองไฟฟ้ามาร่วมเล่นเป็นทางเลือกอื่นอีกต่อไป

    .................................................

    “....ผมจะเอาเก้าอี้เสริมมาบริการให้นะฮะ ขออภัยจริงๆ แล้วเราจะคืนเงินให้นะฮะ...”

    การแก้ปัญหาง่ายๆของพนักงานเดินตั๋วในโรงภาพยนตร์สุดหรูของห้างสยามพารากอน ที่รับหน้าเสื่อจัดงานระดับโลกเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ 2549 ที่นำเอาโลโก้เห่ยๆมาแปะหราชูธงนิยมไทย

    “..คุณทำอย่างนี้ได้ไง ผมจองตั๋วตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว มาดูเลยดีกว่าว่าใครจองก่อน เอาที่ผมมาขายต่อได้ไง...”

    คำบริภาษของใครบางคนก่นแสดงความรู้สึกอิดหนา...

    The Burnt Theatre ผลงานผู้กำกับชาวกัมพูชา ริทธิ ปาห์ ถ่ายทอดเรื่องราวศิลปินที่มีความผูกพันกับโรงละคร ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่บนความเสื่อมถอยของสังคม ในวันที่เวทีของนักแสดงถูกเผา ในวันที่เสาเข็มคาสิโนกำลังตอกตำลงบนแผ่นดิน....

    สุดท้ายหนังก็ถูกฉาย รอดวอดวายด้วยเพลิงพิโรธโอษฐภัยไปหวุดหวิด....


    26 กุมภาพันธ์ 2549

    บนดาดฟ้าชั้นหก อาคารอมตะ เสื้อยืด เทา ขาว ดำ นำมาห่อห่มชายหญิงหลากวัย ไล่จาก ป้าอี๊ด อาช่าง (ชลประคัลภ์) อ.ศิริกุล วัย(เคย)รุ่นกอไผ่ เก๋ เหมย ไหม น้ำอุ่น ลูกฆ้องครึกครื้น ที่กึ่งกลางผืนผ้าตราสัญลักษณ์สีแสดสะดุดตาปรากฏ จรดเท้าวางท่าให้ชักภาพ

    เสื้อช้าง เพื่อสมทบทุน กิจกรรมงานช้างครูชิ้น 200 บาท ไม่ขาดเกินใส่สวยสวมเพลินเดินสง่าว่ามีครู...


    1 มีนาคม 2549

    บ่ายอ่อนหย่อนก้นลงบนแท่งแถวคอนกรีตขอบสระบัวชุ่มน้ำพุพรำ พรางกายในเสื้อดำตราช้างต่างแตกเหลืองแปร๋นที่แค่นแค้นแขนคล้องย่องเหยียบยืดเยื้อ จะเพื่อใครอื่นคนใด หรือพระผู้ให้แห่งแผ่นดินกันแน่หนอ ก็เพียงแต่ขอให้ลงเอยกันด้วยดีนะพ่อบิ๊กบราเธอร์เธอทั้งสอง...

    พิธีมอบรางวัลศิลปกรรม อมตะอาร์ตอวอร์ด ครั้งที่ 2 และการแสดงประติมากรรมกลางแจ้ง อมตศิลปสุวรรณภูมิ ณ ลานกว้างหน้าเซ็นทรัลเวิร์ด....

    ...โปงลางออเตรสตรา “ฟ้อน เต้น เล่นเพลงสุวรรณภูมิ” เปิดปูมเล่าตำนานตำรา “พี่จิตต์” ต่อติดตามประโคมโหมโรงโหมรักพลพรรคกอไผ่ พริ้วไหวใส่อารมณ์จนกระทั่งแสงสุดท้ายของงานสนิทดับ ก่อนที่นายกบคนเครื่องเป่าสมาชิกใหม่จะล้มพับนับไม่ลุกจุกท้องอยู่ตรงนั้น...


    2-3 มีนาคม 25499

    บรรยากาศการใช้ชีวิตในห้องบันทึกเสียงเพื่อทำเพลงประกอบภาพยนตร์วนกลับมาทักทายอีกครั้ง แม้จะยั้งไว้อยู่บ้างด้วยไม่เป็นประเด็นหลักเช่น “โหมโรง” หากแต่กับ “เปิงมาง กลองผีหนังมนุษย์” ก็ใช่ว่าจะมีโอกาสให้หยุดคิดหยุดบรรเลงเสียสักเท่าไหร่

    รูปหล่อขี้ผึ้งพระพิฆเนศวร์องค์น้อยถูกเชิญว่างขึ้นบนพาน ธูปเทียนมอดเผาเถ้าร่วงก่อนจะปลิวโปรยโชยลม

    อย่างน้อยก็ศิษย์มีครู ใช่ว่าอาจลบหลู่อย่างใดไม่ ส่วนใครจะว่าด่าบ่นก็คงต้องทน บนเส้นทางชีวิต กาลเวลาย่อมพิสูจน์คน เป็นเช่นนั้นเอง


    4 มีนาคม 2549

    เอนหลังพิงกายได้ไม่นานนัก ก็ต้องควักตัวมาเตรียมการ “งานช้างครูชิ้น” ตอน “เพลงวิทยุโรงเรียน” กันที่อาคารหอสมุดดนตรีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ภายในรอบรั้วหอสมุดแห่งชาติ

    อังกะลุงหมู่ ศิษย์ อ.สวิต ทับทิมศรี มาทำหน้าที่ขับกล่อมชื่นหูสบายตา ก่อนเข้าสู่การสนทนาที่ว่าด้วยเรื่องศิลปะสร้างคน บนบทเพลงวิทยุโรงเรียน อ.วัฒนะ อ.อานันท์ ขานขับจับความย้อนรอย เริ่มจาก อ.ปัญญา รุ่งเรือง,ม.ร.ว.สายสิงห์ ศิริบุตร,อ.มาลินี สาคริก,อ.ศิริกุล วรบุตร ขุดเกร็ดร้อยเรื่องความดีที่สังคมลืมเลือนมาย้ำเตือนกัน

    หนุ่มน้อยเซนต์คาเบรียล สาวน้อยพหฤทัยคอนแวนต์ สลับสับเปลี่ยนตีท่าน่ารักประกอบเพลง ช้าง พม่าเขว มิตรดี เป็นครึกครื้นชื่นใจสมวัยสมไทย โดยไม่จำเป็นต้องโพกผ้าประกาศว่าจะกู้ชาติแต่ประการใด....


    5 มีนาคม 2549

    ชั้นเรียนวิชาสุนทรียศาสตร์  ภายในวิทยาลัยพยาบาลเกื้อการุณย์  วิวาทะการเมืองยังคุกรุ่นฝุ่นตลบ....

    คุณค่าและความงามที่แตกต่าง ช่างเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับความเข้าใจในบทเรียนเสียนี่กระไร......


    9 มีนาคม 2549

    ปี่สังข์ ระฆัง บัณเฑาะว์ เคาะจังหวะ ชายผมยาวรวบมัดเป็นระเบียบในชุดขาวรุ่มร่ามท่องคาถาย้ำแล้วย้ำเล่าเหมือนจะปลุกขวัญเตือนใจให้ทีมงานตั้งมั่นฟันฝ่าโปรเจคมหาโหดภาพยนตร์แหวกตลาดของค่ายพระนครฟิมล์แห่งนี้...เปิงมาง กลองผีหนังมนุษย์....

    .....ภายในห้องแถลงข่าว ชาวนกน้อยในไร่ส้มระดมกดชัตเตอร์สาดแฟลชไม่นับ พร้อมกับยิงคำถามสลุตรัว...

    “....งานนี้จะมีลมพัดหวนมั๊ยครับ...”

    “.....ถ้ามีหนุ่มมารอรับน้องนุ่นถึงกองถ่าย เขตต์จะว่าไงคะ..”

    “.....มีบทเข้าพระเข้านางแล้วจะทำไงฮ้า...”

    .......................zzzzzzz

    คุณเชน อ.การ์ตูน คู่หูผู้กำกับการแสดง ลีบตัวเหี่ยวห่ออยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง ปล่อยให้เรื่องราวของเปิงมางเงียบหายติดปีกบินอกไปตามสายลม....


    10 มีนาคม 2549

    บนบันทึกเสียงแฮนด์แอคมีย์ ชาวกอไผ่รวมตัวกันอีกครั้งนั่งสีซอตีขิม บันทึกเสียงเรียงเพลงผลงาน อ.ชนก สาคริก เป็นกตัญญุตาในวาระ 60 ปีชีวิตที่เวียนมาครบ คงจะได้พบกันบนแผงเทปในราวกลางเดือนเมษาเดือนหน้านี้....

    ได้ข่าวเศร้าเรื่องราวโรคร้ายมาท้าทายชีวิตเพื่อน เหมือนเตือนว่าวันที่เหลือนั้นมิอาจคาดการได้ว่าจะอีกกี่มากน้อย....

    ชีวิตก็เป็นเช่นนี้ เกิดมาก็ดีอยู่ ที่ได้ทำคือกำไร สู้ต่อไป “นายอ๊อบ”
    .....................................

    ค่ำคืนเชิงสะพานซังฮี้......

    วลีง่ายที่ผ่านหูเมื่อครู่ทางวิทยุยังวนเวียนอยู่ในหัวแม้จะไม่ชัดเจนแม่นยำ แต่ก็คงย้ำอยู่ในความหมาย.....

    “.....หากผู้ชนะนั้นยืนอยู่บนซากปรักหักพัง จะมีประโยชน์อันใด....”

    .............................................

    “.......รักพ่อ.......ขอจงทรงพระเจริญ.....”

    จากคุณ : นายยางสน - [ 13 มี.ค. 49 02:13:41 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป