CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    Review - Pat Metheny Trio Live in Bangkok : 18 March 2006

    วันนี้มาเขียนรีวิวสั้นๆ เกี่ยวกับคอนเสิร์ตนี้ให้อ่านกันครับ เห็นห้องแจ๊สเค้าคุยกันไปเยอะแล้ว ห้องร็อคของเราไม่ควรน้อยหน้า (เกี่ยวกันไม๊เนี่ย?)

    ผมไปถึงเซ็นทรัลลาดพร้าวก่อนเป็นเวลานานพอสมควร หลังจากเดินเล่นฆ่าเวลาและทานข้าวเรียบร้อย ก็ตรงดิ่งไปยัง Bangkok Convention Centre บริเวณชั้น 5 ในเวลาประมาณ 19.30 น. พอดิบพอดี เมื่อขึ้นไปถึงก็เห็นศิลปินและนักดนตรีชื่อดังของเมืองไทยมากมาย ยืนปะปนเข้ากับผู้คนที่มาชมคอนเสิร์ตท่านอื่นๆ ทั้ง อ.ปราชญ์ อ.โปรด และน้า(หรือลุง) โอฬาร พรหมใจ ก็กำลังยืนให้สัมภาษณ์อยู่บริเวณหน้างาน ฝรั่งเยอะแยะเต็มไปหมด ตาผมก็พยายามสอดส่องเผื่อจะเจอคนรู้จัก บริเวณหน้างานก็มีโต๊ะมาขายซีดีของแพทหลายๆ ชุดที่อยู่ในสังกัดของ Warner Music และยังมีแผ่น LP อัลบั้มในยุคคลาสสิคของแพทอีกหลายชุด ที่ขายในราคาพันกว่าบาทขึ้นไป งานนี้ผมก็แอบมองอย่างเดียวครับ โดยเฉพาะอัลบั้มโปรดของผม White Album ที่ออกในปี 1978 เนี่ย อยากได้แผ่นมาครอบครองเหลือเกิน ที่บ้านก็ไม่มีเครื่องเล่นแผ่นเสียง ไม่รู้จะเอาไปทำไม ว่าแล้วก็เดินมาต่อแถวเข้าในฮอลล์ เนื่องจากผู้คนเริ่มเยอะมากขึ้นแล้ว

    ผมเข้ามาที่ประตูทางด้านหลังของฮอลล์ เพราะผมเป็นพวกเบี้ยน้อยหอยน้อย ก็เลยต้องนั่งบริเวณที่นั่ง 1250 บาท ซึ่งมีอยู่แค่สามแถวเท่านั้นเอง แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นอุปสรรคในการรับชมคอนเสิร์ตมาก เพราะฮอลล์มีขนาดค่อนข้างเล็ก ด้านข้างเวทีมีจอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ ไว้ฉายภาพบนเวทีเพื่อให้ผู้ที่นั่งไกลๆ (อย่างผม) ได้เห็นอะไรที่ชัดเจนขึ้นบ้าง ลำโพงถูกแขวนไว้บนเพดานสี่จุดด้วยกัน ที่ด้านหลังสุดของฮอลล์ก็เป็นที่ตั้งของพวกแผงมิกซ์ เลทจากเวทีจริงไปประมาณ 15 นาที แพทก็ก้าวขึ้นมาบนเวที ด้วยเสื้อยืดแขนยาว (แต่พับแขน) สีทางม้าลายและกางเกงยีนส์

    แพทเปิดด้วยการบรรเลงอคูสติกกีตาร์เดี่ยวจากเพลงในอัลบั้ม One Quiet Night เสียงกีตาร์คมชัดมาก ระบบเสียงยอดเยี่ยมเหลือหลาย เรียกว่าได้ยินทุกตัวโน๊ตเลยก็ว่าได้ ฟังอคูสติกกีตาร์แบบนี้แล้วนึกอยากหลับขึ้นมาทันทีเลย แต่จะหลับไม่ได้!! เรามาดูคอนเสิร์ตนี่น่า แพทเล่นทั้งอคูสติกกีตาร์และคลาสสิคคัลกีตาร์ไปสองสามเพลง หลังจากนั้นก็ถึงคิวของเพลง Into the Dream จากอัลบั้ม Imaginary Day ที่แพทบรรเลงด้วย Pikasso Guitar 42 สาย เล่นเอาคนดูฮือฮาไปตามๆ กัน (แต่ถ้าใครเคยดูในดีวีดีแล้วก็ไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าที่ควร) หลังจากนั้นทีมทรีโอก็ขึ้นมาครบทั้งชุด มือเบส Christian McBride และมือกลอง Antonio Sanchez เริ่มต้นในเซ็ททรีโอนี้ด้วย So May It Secretly Begin ระบบเสียงก็ยังคมชัดมากๆ เช่นเคย โดยเฉพาะกลองของนายแอนโทนิโอ ที่ฟังแล้วได้บรรยากาศมากๆ ขนาดไม้กลองเคาะฉาบ Hi-Hat เบาๆ ก็ยังได้ยินชัดเจน เบสของนายคริสเตียนออกจะเสียงเบาไปนิดนึง แต่ก็ใช้ได้ทีเดียว ตามด้วย Bright Size Life เพลงเด่น ที่คนดูเฮทันทีเมื่อได้ยินเสียงอินโทรเพลงนี้ และเพลงใหม่อีกหนึ่งเพลง #13 หลังจากนั้นแพทก็เดินมากล่าว "ขอบคุณครับ" เป็นภาษาไทย พร้อมด้วยการทักทายและแนะนำว่าเค้าเล่นเพลงอะไรไปแล้วบ้าง พร้อมทั้งบอกกับผู้ชมว่าดีใจมากที่ได้มาเล่นที่นี่ (ออกจะตามบทไปหน่อย) พร้อมทั้งพูดถึงเพลงที่จะเล่นต่อไป ว่าเป็นเพลงที่เค้าแต่งให้กับ ด.ร. กะทิ ซึ่งคืนนี้เธอไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย เพลงนั้นคือ Sirabhorn ซึ่งต้องบอกว่าเล่นได้ดีและไพเราะมาก ฟังแล้วคิดถึง Jaco Pastorius จัง จะหาใครที่ไหนมาเล่นเบส ก็ไม่มีใครเทียบจาโก้ได้หรอก

    คอนเสิร์ตดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ไฮไลท์อยู่ที่ Question and Answer ที่แพทบรรเลงได้อย่างสุดมหัศจรรย์โดยเฉพาะกีตาร์ซินธ์อันสุดเร้าอารมณ์เหลือหลาย Rhythm Section ก็มีสีสันดีมากๆ ฝีมือกลองของแอนโทนิโอไม่ธรรมดาเลย ผมเห็นแอนโทนิโอครั้งแรกในดีวีดี Speaking of Now Live ที่เค้าเล่นดูเอตกับแพทในเพลง (Go) Get It ก็รู้ทันทีว่าหมอนี่ไม่ธรรมดาแน่ๆ

    หลังจากบรรเลงไปอีกเพลงสองเพลง คอนเสิร์ตก็จบลงแพทก็มือยืนกอดคอกับทีมของเค้าหน้าเวที คนดูก็ส่งเสียงเฮดังสนั่น แพทเดินลงไปจากเวที และแล้วเสียงเฮก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ แพทขึ้นมา Encore ด้วยเพลงร็อคสุดมันส์ (ไม่รู้ชื่ออะไร) ที่แพทเล่นกีตาร์ Distortion และมือเบสก็หยิบ Electric Fretless Bass ขึ้นมาเล่นแทน Upright Bass ที่ใช้เล่นอยู่ทั้งคอนเสิร์ต คนดูหลายๆ คนเริ่มวิ่งจากด้านหลังฮอลล์ไปยังด้านหน้าฮอลล์ เอาล่ะ! นี่เป็นโอกาสของเราแล้ว ที่จะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่นั่งราคาสามพันสี่พัน ว่าแล้วผมจึงวิ่งตามเค้าไป (555) เมื่อวิ่งไปถึงด้านหน้าพบว่าที่นั่งราคาสามพันสี่พันที่อยู่ด้านข้างเวที แทบจะไม่มีคนนั่งอยู่เลย เข้าใจว่าบัตรขายได้ไม่หมด เหลืออื้อเลย โดยเฉพาะที่นั่งที่ราคาสูงๆ และอยู่ด้านข้างเวที ผมก็เลยไปนั่งแถวนั้นเพื่อชมเพลง Encore เพลงสุดท้าย (มีคนวิ่งไปนั่งแบบผมเพียบเลย) เข้าไปดูใกล้ๆ เวทีเล็กนิดเดียวเอง มือเบสก็ตัวใหญ่มาก หลังจากบรรเลงจบ คอนเสิร์ตก็สิ้นสุดโดยสมบูรณ์

    โดยรวมแล้วคอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นคอนเสิร์ตที่ดีมาก ฝีไม้ลายมือของนักดนตรีแต่ละคนสุดยอด และก็โชว์กันเต็มที่จริงๆ ระบบเสียงก็คมชัดเหมือนนั่งฟังอยู่ที่บ้าน คนดูก็มีวัฒนธรรมการดูคอนเสิร์ตที่ดี ไม่มีปาแก้วน้ำขึ้นไปบนเวทีเหมือน Dream Theater (ก็แน่ล่ะ นี่มันคอนเสิร์ตแจ๊ส แถมยังไม่มีขายเบียร์หน้างานซะหน่อย) การปรบมือเป็นจังหวะดีมาก จะปรบมือเมื่อนักดนตรีอิมโพรไวส์จบและเพลงจบเท่านั้น นอกนั้นก็เงียบกริบกันหมด มีช่วงจบเพลง Q&A ที่ดนตรีค่อยๆ เบาลง คนดูก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าเพลงจบแล้วแน่หรือยัง บางคนก็ปรบมือ บางคนไม่แน่ใจก็เลยรอดูสถานการณ์ก่อนว่าจบเพลงจริงๆ รึเปล่า การปรบมือเลยไม่ค่อยสมบูรณ์แบบนัก ทั้งๆ ที่เพลงนี้สมควรจะได้รับเสียงปรบมือดังที่สุดจากบรรดาเพลงทั้งหมดในคอนเสิร์ต

    ข้อดีอีกข้อหนึ่งจากคอนเสิร์ตครั้งนี้คืออยู่ในฮอลล์ขนาดเล็ก ทำให้บรรยากาศดี ผู้ฟังจะรู้สึกใกล้ชิดกับนักดนตรีและมีอารมณ์ร่วมได้มากขึ้น คอนเสิร์ตครั้งนี้ไม่ได้มีอะไรเซอร์ไพรส์เลย แต่สิ่งที่มัน "ควรจะเป็นและคาดหวังได้" ก็มีให้อย่างเต็มอิ่ม โดยเฉพาะฝีมือการอิมโพรไวส์ของนักดนตรีทุกคน ทีมเวิร์คอันสุดจะยอดเยี่ยม แถมยังเป็นคอนเสิร์ตแจ๊สแบบแท้ๆ ที่มีให้ชมค่อนข้างน้อยครั้งในบ้านเราอีกด้วย บทเรียนที่สำคัญบทหนึ่งที่ผู้จัดคอนเสิร์ตควรนำไปทบทวนคือ การตั้งราคาบัตรที่สูงเกินไป และที่นั่งที่เป็นบัตรราคาสูงๆ ก็มีมากเกินไปเช่นกัน ทำให้เกินอาการขายบัตรได้ไม่หมด โดยเฉพาะด้านข้างเวทีแถวหน้าๆ อย่างที่เห็นกันนี้แหละ

    Setlist จากพี่ k_ktp ห้องแจ๊สครับ ขออนุญาติพี่เค้าด้วยนะครับ พี่เค้าบอกว่าอาจจะยังไม่ค่อยสมบูรณ์และถูกต้องเท่าไหร่นัก ถ้ามีการแก้ไข ผมก็จะอัพเดตให้ได้ทราบกันครับ

    Last Train Home
    Song for the Boys
    Minuano (Six Eight) + This is not America
    Into the Dream
    So May It Secretly Begin
    Bright Size Life
    #13
    Sirabhorn
    Q&A
    Antonia
    Lone Jack
    อังกอร์ บลูร็อค สุดมัน

    ใครพลาดคอนเสิร์ตครั้งนี้หรือยังไม่อิ่มหนำสำราญมากพอ ลองหาอัลบั้ม Trio Live ชุดนี้มาฟังสิครับ โดยเฉพาะเพลง Question and Answer มันสุดยอดจริงๆ เลยครับ บรรยากาศโดยรวมของอัลบั้มก็ใกล้เคียงกันตัวคอนเสิร์ต แต่ Rhythm Section คนละชุดกันนะครับ

    แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 49 00:52:17

    แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 49 00:49:44

     
     

    จากคุณ : Agent Fox Mulder - [ 19 มี.ค. 49 10:37:32 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป