ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะครับ เพราะข้อมูลที่อัพเดทอยู่ตอนนี้เป็นข้อมูลที่ยังไม่ค่อยจะเป็นทางการเท่าไหร่ (แต่ถ้าเป็นก็ดี 55) ปกที่เห็นด้านบน เป็นหน้าปกของบ็อกซ์ชุดนี้ ที่มีการกำหนดราคาขายลงบนหน้าเวบของ amazon มาตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีข้อสงสัยให้มีการตั้งข้อสังเกตุอยู่ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงรึเปล่า เพราะไม่เคยมีข่าวแพลมออกมาเลยก่อนหน้านี้ และวันเวลาที่วางจำหน่ายก็ดูจะรวดเร็วผิดวิสัยของผลงานของทางวง ยกตัวอย่างชัดๆ ตอนนี้ก็คือดีวีดีของ Let It Be ซึ่ง amazon เปิดให้สั่งมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว จนปัจจุบันก็ยังไม่มีแววออก เท่าที่เห็นบีทเทิลส์มักวางจำหน่ายผลงานใหม่ ๆในช่วงคริสมาสต์เป็นประจำครับ อีกอย่างคือถ้าเราลองค้นหาข้อมูลอัลบั้มชุดนี้ผ่านทางหน้าแรกของเวบ amazon กลับไม่มีอัลบั้มชุดนี้ปรากฏอยู่นะสิ คล้ายๆ ว่าจะเป็นการแฮกซะมากกว่า  เพราะลิงค์ที่จะผ่านไปสู่หน้านี้ก็มากจากเวบบอร์ดสนทนาของแฟนๆของวงในต่างประเทศ ที่กำลังขุดคุ้ยประเด็นร้อนกันอย่างเมามัน แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 49 22:53:30 จากคุณ : fab4 - [ 21 มี.ค. 49 22:51:26 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เพราะฉะนั้นถึงมันจะจริง หรือไม่จริง เราก็มาเตรียมพร้อมอุ่นเครื่องเกี่ยวกับบ็อกซ์ชุดนี้ก่อนก็ได้ครับ ก่อนอื่นก็ต้องท้าวความไปถึงรายละเอียดของโครงการอัลบั้มชุดนี้กันพอหอมปากหอมคอกันก่อนครับ ความเป็นมาดั้งเดิมของโครงการนี้ก็คือ การนำอัลบั้มของบีทเทิลส์ที่วางจำหน่ายในอเมริกาที่ออกกับบริษัทแคปปิตอล (เป็นบริษัทลูกของอีเอ็มไอในอังกฤษ ส่วนในอังกฤษออกกับพาร์โลโฟน) เนื่องจากตลาดแตกต่างกัน อัลบั้มที่วางขายในขณะนั้นจึงมีความแตกต่างกัน โดยแผ่นที่ออกในอเมริกาจะมีทีมงานคอยกำหนดทิศทางของอัลบั้มให้เข้ากับรสนิยมการฟังเพลงของอเมริกันชน ผลงานเพลงที่ทางวงผลิตและวางขายในอเมริกาในช่วงแรก จึมีความแตกต่างกันกับในอังกฤษอย่างสิ้นเชิง เช่น ปก ในอเมริกาจะมีข้อความ โฆษณา คำโปรยเยอะแยะไปหมด แม้แต่ปกหลังก็ยังมีโฆษณาแทรกเลอะเทอะ ซองใส่แผ่นเสียงในยุคแรกๆ ก็เต็มไปด้วยโฆษณา จำนวนเพลงในอเมริกามีจำนวนน้อยกว่าแผ่นอังกฤษ (เข้าใจว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับค่าลิขสิทธ์ ประมาณว่าเพลงเยอะก็ต้องจ่ายรอยัลตี้มาก แผ่นแคปปิตอลจึงมักมีเพลงไม่เกิน 11 ครับ) เพลงที่ออกมักมีการมิกซ์เสียงเพิ่มเติมให้เข้ากับรสนิยมการฟังเพลงของคนอเมริกัน และที่สำคัญสัญญากับบริษัทแผ่นเสียงที่ค่ายเพลงยังกุมความได้เปรียบสูงกว่า กว่าที่จะบีทเทิลส์จะควบคุมทิศทางของอัลบั้มให้เป็นไปในทางเดียวกันกับต้นฉบับก็ต้องผ่านไปอีกหลายปี แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 49 23:49:34 จากคุณ : fab4 - [ 21 มี.ค. 49 23:06:51 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ลองมองย้อนไปในยุคนั้น ถ้าเราเป็นคนอังกฤษ เราก็จะฟังเพลงจากอัลบั้ม Please Please Me,With The Beatles หรือ Beatles For Sale ส่วนคนอเมริกันก็ฟังเพลงจากแผ่น Meet The Beatles หรือ Second Album เหตุการณ์ดำเนินมาถึงปี 1987 เมื่อโลกเข้าสู่ยุคใหม่ แผ่นเสียงกลายเป็นของล้าสมัย ซีดีเข้ามาแทนที่ อีเอ็มไอตัดสินใจที่เลือกผลิตงานเพลงของเดอะบีทเทิลส์ออกวางจำหน่ายทั่วโลกด้วยมาตราฐานเดียวกันทั่วโลก โดยใช้อัลบั้มทางฝั่งอังกฤษเป็นหลัก (คงเป็นอื่นมิได้ เพราะทางวงเป็นคนกำหนดทิศทางตั้งแต่ ปก จนถึงเพลงมาตั้งแต่แรกเริ่ม)แผ่นเสียงแคปปิติอลในยุคสุดท้ายกลายเป็นอดีตเมื่อสิ้นสุดการผลิตไปในปลายยุค 80  คนอเมริกันที่ต้องการฟังเพลงบีทเทิลส์จากซีดีต้องเริ่มต้นใหม่กับอัลบั้มที่ตัวเองไม่คุ้นเคย (เราอาจคิดว่าไม่ยากเพราะเราไม่ได้เกิดในยุคนั้น) แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 49 23:51:20 จากคุณ : fab4 - [ 21 มี.ค. 49 23:14:54 ]

ความคิดเห็นที่ 4 กว่าทศวรรตที่อัลบั้มแคปปิตอลถูกลืมเลือนจนเกือบกลายเป็นอดีต ทีมงานของแคปปิตอล และแอ้ปเปิ้ลก็เริ่มต้นโครงการนำอัลบั้มของเดอะบีทเทิลส์ที่ออกวางจำหน่ายในอเมริกากับแคปปิตอล กลับมาออกวางจำหน่ายอีกครั้งในรูปแบบซีดีเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการในปลายปี 2004 ที่ผ่านมา (เกือบ 17 ปีหลังจากที่อีเอ็มไอออกซีดีครั้งแรก) ในกล่องแรก เราจะได้พบกับผลงานเพลงของทางวงที่วางจำหน่ายในอเมริกากับแคปิตอลรวม 4 ชุด คือ MEET THE BEATLES THE BEATLES' SECOND ALBUM SOMETHING NEW BEATLES '65 อัลบั้มที่ถูกตัดออกไปในแคปปิตอลบ็อกซ์ชุดแรก คือ A HARD DAY’S NIGHT ซึ่งเป็นอัลบั้มที่ออกกับ บ.United Artists (เป็นอีกหนึ่งแผ่นที่แฟนๆ ทั่วโลกเรียกร้องให้มีการนำมาออกเป็นซีดีเสมอๆ ) และ THE BEATLES STORY ซึ่งเป็นอัลบั้มคู่ออกฉลองความสำเร็จในอเมริกา (เป็นแผ่นบรรยายประวัติ และบทสัมภาษณ์ โดยตัดเพลงฮิตบางส่วนมาใส่ไว้ในอัลบั้มด้วย) จากคุณ : fab4 - [ 21 มี.ค. 49 23:24:13 ]

ความคิดเห็นที่ 5 จะเห็นว่าหมัดเด็ดที่ทางแคปปิตอลเตรียมไว้มัดใจบรรดาแฟนเพลง (ที่มีเพลงครบ หรือมีอัลบั้มเยอะแยะแล้ว) ก็คือ การรวมเอาสเตริโอ และโมโนเวอร์ชั่น ของแผ่นเสียงต้นฉบับ (รวบรวมจากมาสเตอร์เทปต้นฉบับ) มาจริงๆ เหมือนซื้อหนึ่งได้สอง (แผ่นเสียงแคปปิตอลที่เป็นโมโนจะมีออกเฉพาะในรุ่นแรก มีราคาสูงมากๆ ) การจัดทำแพ็คเกจแบบต้นฉบับ ซึ่งออกแบบมาเป็นซองกระดาษเลียนแบบปกแผ่นเสียง (อันนี้กลับได้รับคำด่ามากกว่าคำชมเพราะการเก็บรักษายาก) และลายสกรีนบนแผ่นซีดีก็ได้แรงบันดาลใจมาจากฉลากแผ่นเสียงของแคปปิตอลในยุคแรกเริ่ม จากคุณ : fab4 - [ 21 มี.ค. 49 23:33:09 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ส่วนกล่องที่ 2 ที่จะวางจำหน่ายในวันที่ 11 เมษายนนี้ (ถ้าเป็นความจริงนะครับ) จะเป็นอัลบั้มที่ออกวางจำหน่ายกับแคปปิตอลในปี 1965 ทั้งหมด และมีเพลงในแบบโมโน และสเตริโอ ในแผ่นเดียวเหมือนกับกล่องที่หนึ่ง THE EARLY BEATLES   อัลบั้มชุดนี้ เป็นแผ่นเก็บตกงานเพลงในยุคแรก(เพลงจากอัลบั้มชุดแรก Please Please Me ที่ออกที่อังกฤษในปี 1963 ในอเมริกาเพลงเหล่านี้ออกครั้งแรกกับสังกัดเล็ก ๆชื่อ Vee Jay และไม่ประสบความสำเร็จในอเมริกา ภายหลังจากที่แคปปิตอลได้ลิขสิทธ์ออกงานทั้งหมดของวงในอเมริกาจึงปล่อยอัลบั้มชุดนี้ย้อนหลังมาในปี 1964 *เป็นครั้งแรกที่พวกเราจะได้ฟังเพลงจากชุด Please Please Me แบบสเตริโอบน”ซีดี”เป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ขอบอกว่าเพราะไปอีกแบบจริง ๆครับ *เพลง Please Please Me ในแบบสเตริโอที่จอห์นร้องดำน้ำในท่อนที่ 3 จากคุณ : fab4 - [ 21 มี.ค. 49 23:35:03 ]

ความคิดเห็นที่ 7 BEATLES VI อัลบั้มอย่างเป็นทางการชุดที่ 6 ในอเมริกา เพลงในอัลบั้มส่วนนึงเป็นเพลงจากอัลบั้ม Beatles For Sale (บางส่วนถูกบรรจุในแผ่น Beatles’65 ไปแล้ว ) ผสมเพลงบางส่วนจากอัลบั้ม Help ของฝั่งอังกฤษเข้าไป กลายเป็นอัลบั้มแนวคันทรีที่ผมชอบมากแผ่นนึงครับ * เพลงสเตริโอเวอร์ชั่นของ Beatles For Sale * โมโนเวอร์ชั่นของเพลงจากอัลบั้ม Help! HELP! ซาวน์แทร็คจากภาพยนตร์จอเงินเรื่องที่สอง เพลงของแคปปิตอลต่างจากแผ่นที่ออกในอังกฤษแบบสิ้นเชิง (แผ่นอังกฤษจะมีเพลงที่ไม่ปรากฏในหนังมาด้วยในหน้าสอง) *เพลงไตเติ้ลแทร็ค Help!มีอินโทรเริ่มต้นแตกต่างจากแผ่นทั่วไป (James Bond Theme) *เพลงบรรเลงที่มีเฉพาะอัลบั้มชุดนี้อีก 5 เพลง *โมโนเวอร์ชั่นบนซีดี จากคุณ : fab4 - [ 21 มี.ค. 49 23:37:12 ]

ความคิดเห็นที่ 8 RUBBER SOUL   ถึงแม้จะมีภาพปกเดียวกับแผ่นที่ออกในอังกฤษ (ต่างกันที่สีของชื่อชุด) แต่เพลงที่คัดเลือกมาก็ไม่เหมือนซะหมด นอกจากจะสลับบางเพลงไปมาแล้ว ยังมีเพลงจากเหลือแผ่น Help!  ใส่มาให้อีกด้วย * โมโนเวอร์ชั่น *false starts ของเพลง I’m looking through you ที่ไม่มีในแผ่น UK เอารายละเอียดพอประมาณนะครับ จริงๆ มันน่าจะมากกว่านี้ จากคุณ : fab4 - [ 21 มี.ค. 49 23:38:29 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อีกเรื่องที่น่าสนใจ และเป็นเรื่องคล้ายๆ กับตอนที่แคปปิตอลปล่อยบ็อกซ์กล่องแรกออกมา ว่าอัลบั้มชุดไหนจะถูกวางไว้ในกล่องที่สอง อัลบั้มชุดไหนจะถูกตัดออก (ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าตัดออกทุกชุด แต่ถ้ามองในด้านการตลาดจึงหลีกเลี่ยงเหตุผลในข้อนี้ไปได้ยากยกตัวอย่างในกล่องแรกอัลบั้มที่ไม่ได้ถูกบรรจุอยู่ก็คือซาวน์แทร็ค A Hard Day’s Night แผ่นนี้ออกกับ United Artists แต่แผ่นเสียงรีอิชชู่ในยุค 70 ก็กลับมาออกกับแคปปิตอล น่าเสียดายว่าตัดออกไปทำไม อีกแผ่นที่หายไปก็คือ แผ่น The Beatles Story แผ่นนี้ไม่ได้เป็นสตูดิโออัลบั้ม แต่ถ้ามีขาดเกินๆ มันก็ดูยังไงๆ นะ) เรื่องที่ว่าก็คืออัลบั้มชุดไหน จะมี หรือไม่มีในบ็อกซ์ที่ 3 (หรือ 4 ถ้ายังมี) ก็เป็นอีกเรื่องที่เวบบอร์ดในต่างประเทศคุยกันสนั่นในเวลานี้ (เข้าใจว่าหลายเดือนแล้ว)  ผมจะลองยกตัวอย่างอัลบั้มที่บรรดาแฟนๆในต่างประเทศเสนอมาให้ดูเล่นๆ ก้แล้วกันครับ จากคุณ : fab4 - [ 21 มี.ค. 49 23:40:20 ]

ความคิดเห็นที่ 10 YESTERDAY AND TODAY ชุดนี้แรงเชียร์ล้นหลาม แม้เพลงจะมั่วๆ (มีเพลงจากชุด Help,Rubber Soul และ Revolver ผสมผเสกันเละ โดยมีเพลงดังคือเพลง Yesterday) พระเอกของแผ่นนี้ก็คือปกครับ เพราะนี่คือปกแผ่นเสียงที่มีราคาแพงมาก คงต้องดูต่อกันว่าแคปปิตอลจะเอาปกเวอร์ชั่นไหนระหว่าง Butcher Cover กับ Trunk Cover มาเป็นปกซีดี REVOLVER  ใช้ไตเติ้ลและปกเดียวกับฝั่งอังกฤษ แต่เพลงต่างสลับกันกับอังกฤษ น่าจะออกนะ SGT. PEPPER’S LONELY HEARTS CLUB BAND ไม่ค่อยมีเสียงสนับสนุน เพราะเพลงเป็นชุดเดียวกับซีดีที่เราฟังอยู่ จะต่างก็ตรงแผ่นอเมริกาไม่มี innergroove ในตอนท้าย ส่วนฝั่งสนับสนุนก็คือต้องการโมโนเวอร์ชั่นของชุดนี้ (เด็ดมาก) แต่ก็ติดตรงซีดีแผ่นเดียวอาจบรรจุไม่พอ MAGICAL MYSTERY TOUR เป็นอัลบั้มแคปปิตอลที่เปลี่ยนสัญชาติไปออกเป็นซีดีมานานแล้ว จึงมีสิทธ์หลุดโผได้ แต่แฟนเดนตายกลับบอกว่าเพลงสเตริโอที่เราได้ฟังในซีดีชุดนี้เป็นการเอามาจากแผ่นเสียงที่ออกในเยอรมัน ส่วนต้นฉบับที่แท้จริงของอเมริกานั้น คือเพลง All You Need Is Love,Penny Lane และ Baby You’re a Rich Man ที่ออกในยุคนั้นไม่ได้เป็นสเตริโอจริงๆ  อย่างนี้น่าสนๆ THE BEATLES (WHITE ALBUM) YELLOW SUBMARINE ABBEY ROAD  3 ชุดนี้ไม่ค่อยมีเสียงสนันสนุนเพราะเพลงเป็นชุดเดียวกับฝั่งอังกฤษจึงมีซีดีวางขายอยู่แล้ว และเหตุผลที่น่าจะถูกคัดออกอีกเรื่องก็คือ อัลบั้มเหล่านี้ไม่ได้ออกขายในแบบโมโนในประเทศอเมริกา จากคุณ : fab4 - [ 21 มี.ค. 49 23:42:44 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ข่าวลืออย่างนี้แหละชอบ เสียเงินอีกแล้ว ขอบคุณมากครับ จากคุณ : FingerPie - [ 21 มี.ค. 49 23:43:59 ]

ความคิดเห็นที่ 12 HEY JUDE  มีความเป็นไปได้สูงมาก เพราะเป็นอัลบั้มลูกหม้อที่ออกในอเมริกาโดยแคปปิตอลแท้ ๆ LET IT BE  ไม่ออกเพราะซ้ำกับซีดีชุดปัจจุบันอยู่แล้ว BEATLES 62-66 BEATLES 67-70 เรดบลูไม่ออก เพราะมีซีดีวางขายแล้ว ROCK 'N' ROLL MUSIC แผ่นรวมเพลงร็อคแผ่นคู๋ ชุดนี้แรงเชียร์ล้นหลามสุดๆ ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นสตูดิโออัลบั้ม (ได้คืบเอาศอก) เหตุผลก็น่าจะเป็นเพราะชุดนี้เป็นอัลบั้มที่ออกเฉพาะแผ่นเสียง ส่วนแผ่นที่ออกในอเมริกานั้นได้จอร์จ มาร์ตินมามิกซ์เสียงให้   THE BEATLES AT THE HOLLYWOOD BOWL  แผ่นแสดงสดไม่เคยออกเป็นซีดี LOVE SONGS รวมเพลงรัก หวานซึ้ง RARITIES รวมเพลงหายาก แผ่นนี้ก็เป็นที่พูดถึงหนาหู เพราะเป็นแผ่นที่แคปปิตอลออกในอเมริกา และมีเพลงพิเศษ ๆที่ไม่ซ้ำกับแผ่นที่วางจำหน่ายในอังกฤษ REEL MUSIC รวมเพลงจากภาพยนตร์ 20 GREATEST HITS รวมเพลงฮิตอันดับที่หนึ่งในอเมริกา จากคุณ : fab4 - [ 21 มี.ค. 49 23:45:03 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สรุปเสียงส่วนใหญ่สำหรับบ็อกซ์ที่ 3 (ถ้ามีนะครับ คงจะออกราว ๆปีหน้า) เท่าที่พูดถึงกันมากๆ ก็จะมีหน้าตาแบบนี้ครับ YESTERDAY AND TODAY REVOLVER HEY JUDE THE BEATLES AT THE HOLLYWOOD BOWL หรือ RARITIES จากคุณ : fab4 - [ 21 มี.ค. 49 23:46:45 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณสำหรับข่าวครับ จากคุณ : rtype - [ 22 มี.ค. 49 03:40:23 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สนนราคาเท่าไหร่ครับ... ถามเป็นความรู้อ่ะครับ..... ไม่มีงบ..... จากคุณ : notmai (notmai) - [ 22 มี.ค. 49 08:30:27 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อืมมม ได้ความรู้ดีมากครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : oneal - [ 22 มี.ค. 49 09:28:36 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อยากทราบราคาครับ จากคุณ : เตียเป๋งลิ้ม - [ 22 มี.ค. 49 10:10:33 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เยี่ยมๆ จากคุณ : debby the gunner - [ 22 มี.ค. 49 10:21:21 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ไปตามนี้ครับ http://www.amazon.com/gp/product/B000EQHXQY/sr=8-/102-0176586-4844956 เป็นราคาเปิดที่อเมริกาประมาณ 2600-2700 บาท แต่ถ้าเทียบกับบ็อกซ์แรก บ้านเรา(ซีดีผลิตในยุโรบ) ราคาพันกลาง ๆครับ จากคุณ : fab4 - [ 22 มี.ค. 49 10:46:30 ]

ความคิดเห็นที่ 20 น่าจะแก้ปัญหาเรื่องกล่องด้วยเพราะชอบเผลอทำแผ่นหล่นประจำ จากคุณ : SOS (SamOfSound) - [ 22 มี.ค. 49 16:25:15 ]