CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    กระทู้นาน ๆ ที (2)

    เพลงกวี

    เพลงเก่า ๆ นั้นมีหลายเพลงจัดได้ว่าเป็นเพลงกวี  (ความจริงยังมีอีกหลายเพลงนะครับ)  และผมอยากจะนำเสนอ  นั่นคือ “หยาดน้ำฝนหยดน้ำตา”  ประพันธ์คำร้องโดยครูเนรัญชรา  ส่วนทำนองนั้นโดยครูสง่า  ทองทัช  ส่วนใครจะบันทึกเสียงร้องเป็นคนแรกนั้นผมไม่ทราบ  เพราะเคยได้ยินเฉพาะนักร้องฉายาเสียงระฆังเงิน  อรวี  สัจจานนท์ร้องไว้เมื่อหลายปีก่อน  เนื้อเพลงมีอยู่ว่า

    หยาดน้ำจากตานางฟ้าที่ตรมอารมณ์  
    หลั่งความขื่นขมที่ถมอยู่ในใจตน
    หยาดย้อยจากปรางสวรรค์เบื้องบน  
    สู่กลางแก้มดินในฐานถิ่นคน   นั้นคือหยาดฝนฉ่ำใจ

    สาดสายพร่างพรายพรมผืนไร่นาแนวเนิน
    ป่าดอนโขดเขินคลองคุ้งทุ่งหนองนองไป
    หล่อเลี้ยงพืชพันธุ์มีผลดอกใบ  
    โลกเคยหลับไหลพลันฟื้นตื่นใจ  สวยงามสดใสจริงเอย

    พอแสงทองอาทิตย์ทาบทา  
    พลันน้ำตานางฟ้าระเหย  
    เป็นละอองไอน้ำอย่างเคย
    ถูกลมรำเพยพัดเลยลอยวน

    หยาดฝนจากตานางฟ้าที่ตรมอารมณ์  
    ฝากมากับลมเป็นฝนพร่างพรมใจคน
    แต่น้ำจากตาตอนช้ำกมล
    ที่เราหลั่งลอยระเหยกี่หน  ถึงกลายเป็นฝนฉ่ำใจ

    ถ้าใครเคยฟังเพลง  “กว้านพะเยา”  ที่ประพันธ์คำร้องและทำนองโดยครูชาลี  อินทรวิจิตร
    และครูสมาน  กาญจนผลิน  ก็คงจะได้ยินคำเปรียบเทียบเกี่ยวกับน้ำว่าเป็นน้ำตาของดวงดาว  เพราะในเพลงกว้านพะเยา  นั้นกล่าวถึงน้ำที่อยู่ในกว้านว่า  “ธาราไหลหลั่ง  ใสราวน้ำวัง  ขังน้ำตาแห่งดาว”  แต่เพลงหยาดน้ำฝนหยดน้ำตากลับบอกว่า  น้ำหรือฝนที่หลั่งไหลมานั้น  คือหยาดน้ำตาของนางฟ้าที่ตรมตรมเพราะช้ำใจ  

    โอ้โฮ  ช่างเป็นจินตนาการอันน่าอัศจรรย์พันลึกและกว้างไกลเกินขอบเขตที่สุด

    และน้ำตาของนางฟ้านั้นยังหล่อเลี้ยงสรรพชีวิตบนผืนโลก  ทำให้ทุกสิ่งได้ตื่นฟื้นจากความห่อเหี่ยว  โดยเฉพาะผู้คนและพืชพันธุ์ธัญญาต่าง ๆ เมื่อแตะต้องน้ำตาของนางฟ้าแล้วก็สวยงามสดใสไปทั้งสิ้น

    ถ้าเราอ่านเนื้อเพลงดูดี ๆ ก็จะพบว่า  บางวรรคบางตอนนั้นจัดเป็นกลอนกลบทที่เล่นเสียงเคียงสัมผัสได้อีกด้วย  เช่นตอนที่ว่า  “สาดสายพร่างพรายพรมผืนไร่นาแนวเนิน  ป่าดอนโขดเขินคลองคุ้งทุ่งหนองนองไป  หล่อเลี้ยงพืชพันธุ์มีผลดอกใบ  โลกเคยหลับไหลพลันฟื้นตื่นใจ  สวยงามสดใสจริงเอย”

    จะเห็นได้ว่าผู้ประพันธ์เพลงได้วางคำที่มีเสียงสัมผัสอักษรไว้ใกล้กันอย่างชาญฉลาด  อันส่อแสดงถึงความเป็นนายของภาษาได้อย่างชัดเจน  เช่น  สาดสาย  พร่างพราย  พรมผืน  โขดเขิน  คลองคุ้ง  หล่อเลี้ยง  พืชพันธุ์  เป็นต้น

    นี่เหละครับผมถึงได้เรียกเพลงเพลงกวี  หรือใครจะว่าไม่จริง

    แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 49 17:00:15

    จากคุณ : ปะหล่อง - [ 5 เม.ย. 49 16:58:11 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป